Home / มาเฟีย / ทวงแค้น แสนรัก / ตอนที่ 6 : เรื่องบนรถ

Share

ตอนที่ 6 : เรื่องบนรถ

Author: SS.WONDER
last update Last Updated: 2025-03-13 23:10:35

เช้าวันจันทร์...

5.00 น.

‘ค่าความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมอยู่ทั่วทุกพื้นที่ของประเทศไทย ในขณะนี้ ทำให้อุณภูมิลดลงกว่าทุกวัน เนื่องมาจากเมฆที่ปกคลุมอยู่ทั่วท้องฟ้าส่งผลทำให้อุณภูมิลดลงจากการสะท้อนของแสงและคลื่นที่ส่งมาจากดวงอาทิตย์นั่นเองในช่วงเวลากลางวัน’ ฉันนอนกลิ้งไปมาก่อนจะคว้าเอาโทรศัพท์มือถือที่อยู่บนโต๊ะหัวเตียงขึ้นมาเปิดอ่านดูข่าวต่างๆ วันนี้วันจันทร์ซึ่งฉันจะได้ไปทำงานที่เชียงรายอากาศคงจะหนาวน่าดูดังนั้นฉันต้องเตรียมเสื้อแขนยาวไปด้วย

เมื่อคืนด้วยความตื่นเต้นจนนอนไม่หลับของฉัน ทำให้เช้านี้ของฉันรู้สึกไม่กระปรี้กระเปร่าเหมือนทุกๆวันที่ผ่านมา บวกกับอากาศที่แสนจะอึมครึมทำให้ฉันขี้เกียจขึ้นมา 300 เปอร์เซ็นต์ ฉันละทิ้งความอิดออดของตัวเองไว้ที่เตียง เดินเข้าห้องน้ำเพื่อไปจัดการกับตัวเองก่อนที่จะออกมาจากห้องพร้อมกับกระเป๋าเป้เพียงหนึ่งใบเท่านั้น ก็ไปแค่ 3 วันเองไม่ต้องเอาอะไรไปเยอะหรอก... ‘จริงซิ...ฉันลืมบอกพี่ปั้น’

Line

KAOTU : พี่ปั้นค่ะ...วันนี้ข้าวตูต้องไปทำงานที่เชียงราย 3 วัน

KAOTU : พีปั้นไม่ต้องเป็นห่วงน้องนะ...ข้าวจะดูแลตัวเองอย่างดี

KAOTU : พี่ปั้นตั้งใจทำงานนะคะ...

พี่ปั้นเขาไม่ค่อยว่างอ่านไลน์หรอกนะ นานๆทีพี่ปั้นถึงจะตอบกลับหรือโทรมาสักที ฉันก็สงสารพี่ฉันนะที่ทำงานหนักขนาดนี้ เพื่อจะให้พวกเราอยู่กันอย่างสุขสบายอย่างทุกวันนี้ เขาทำงานหนักอยู่คนเดียวส่งเงินมาที่บ้านแต่ละครั้งเยอะมากๆ

แต่ฉันกับแม่ก็ไม่ค่อยได้เอาเงินนั้นออกมาใช้หรอก...ก่อนที่ฉันจะเริ่มฝึกงานฉันก็ทำงานพาร์ทไทม์อยู่สองสามที่เพื่อนำเงินนี้มาเป็นค่าขนมของตัวเอง ส่วนแม่ของฉันท่านทำขนมส่งขายที่ร้านค้าหน้าปากซอยบ้านฉันเอง...ฉันจะบอกว่าขนมของแม่ฉันอร่อยมากทำให้ขายหมดทุกวัน ท่านจึงนำเงินส่วนนี้มาใช้จ่ายภายในบ้าน

“อรุณสวัสดิ์ค่ะแม่...” ฉันเอ่ยพร้อมกับเดินเข้าไปสวมกอดแม่จากทางด้านหลัง

“อรุณสวัสดิ์จ่ะ มาทานข้าวลูก แล้วก็อย่าลืมทานยาเมารถด้วยนะลูกแม่เตรียมไว้ให้แล้ว” แม่บอกก่อนที่จะวางยาเม็ดเล็กๆ สีเหลืองไว้ใกล้กระเป๋าเป้ของฉัน

“ค่ะ” ฉันตอบพร้อมเดินไปนั่งลงที่โต๊ะรับประทานอาหาร

“เตรียมของเรียบร้อยแล้วใช่ไหมข้าว...” ท่านเอ่ยถามฉันด้วยความเป็นห่วง ท่านคงกังวลแหละนี่เป็นครั้งแรกที่ฉันต้องออกไปทำงานไกลบ้านขนาดนี้ นอกจากไปค่ายของมหาลัยซึ่งก็ไม่ได้ไกลมากเท่าไหร่

“ค่ะ...แม่ไม่ต้องห่วงนะคะเดียวข้าวจะโทรหาแม่เช้าเย็นเลยค่ะ” ฉันเอ่ยบอกแม่ออกไปพร้อมรอยยิ้ม

"..."

“จ้ะลูก” แม่ตอบกลับฉันมาพร้อมกับรอยยิ้มหวานเช่นเคย

“ข้าวไม่อยู่ แม่ต้องล็อคประตูบ้าน ประตูหน้าต่างให้ดีๆนะ” ฉันเอ่ยบอกกับแม่ทันทีเมื่อฉันล้างจานเสร็จ

"จ้าลูก"

ฟอดดดด!

“หนูไปนะคะ...สวัสดีค่ะ” ฉันเอ่ยบอกก่อนที่จะเดินเข้าไปกอดแม่พร้อมกับหอมแก้มท่านไปหนึ่งที

“เดินทางปลอดภัยนะลูก”

“ค่ะแม่...บัยบายยย” ฉันเอ่ยพร้อมกับโบกมือลาแม่

ตอนนี้ 7 โมงเช้าแล้ว ฉันมาถึงหน้าบริษัทพอดิบพอดี วันนี้ฉันออกจากบ้านมาตั้งแต่เช้าทำให้รถไม่ติดมากถึงได้มาตรงเวลาพอดิบพอดี

"สวัสดีค่ะคุณลุง" ฉันก็ยิ้มทักทายพร้อมเอ่ยทักทายคุณลุงยามอย่างนอบน้อมที่หน้าทางเข้าประตูทางเข้าบริษัท

"วันนี้ทำไมมาแต่เช้าเลยล่ะหนูข้าว เอ่อ ไปกับท่านประธานหรอ"

“คะ ค่ะ” ยังไม่ทันที่ฉันจะเอ่ยอะไรออกมา ลุงยามแกก็เหมือนนึกอะไรออกมาได้

"ท่านประธานรออยู่รีบไปหนูข้าว"

"คะ...สวัสดีค่ะ"

ฉันรีบวิ่งไปที่ลานจอดรถก็เห็นรถของท่านประธานจอดอยู่เพียงคันเดียว ‘ไม่มีคนอื่นไปด้วยหรอ?’ ‘จะให้ฉันไปกับท่านประธานปากร้ายกับนายมือขวาหน้านิ่งของเขา...กัน 3 คนไม่ได้นะ’ ฮือ ข้าวตูจะทำยังไงดี

‘เอาน่ะ...เราต้องสู้สิข้าวตู’ ฉันทำได้แค่บอกกับตัวเองอยู่ภายในใจ

“สวัสดีค่ะท่านประธาน” ฉันเอ่ยทักทายพร้อมกับยกมือไหว้ และยิ้มให้เขาอย่างเป็นมิตร

แต่ว่า...

“ขึ้น...รถ!!”

“คะ...ค่ะ”

ท่านประธานตวาดฉันเสียงดังจนฉันสะดุ้ง และรีบเปิดประตูรถขึ้นไปทันที แต่เช้าเลยอารมณ์ของเขาเสียแต่เช้าเลย

ฉันนั่งนิ่งอยู่ในรถ ก่อนที่ท่านจะเข้ามานั่งลงข้างๆ ฉันที่เบอะหลัง พร้อมกับนายมือขวาหน้านิ่งนั่นก็เข้าไปนั่งที่คนขับ จากนั้นเขาก็ขับรถออกไปทันที

“…”

“ท่านประธานมีอะไรสั่งข้าวก่อนไหมค่ะ?” ฉันเอ่ยถามท่านไปเพื่อทำลายบรรยากาศอันหน้าอึดอัดในรถคันนี้

"..."

"ทะ...ท่าน"

“…” ท่านหันหน้ามามองฉันพร้อมกับ...

“หุบปาก!” ผู้ชายอะไรเนี่ยหน้าตาก็ออกจะหล่อเหลา แต่ปากร้ายจนน่าหงุดหงิดอะ

“ค่ะ” ฉันรับคำผู้ชายปากร้ายที่นั่งอยู่ข้างๆ อย่างว่าง่าย เขาหน้ากลัวจังเลย ‘ฮึ่ย...เมื่อไหร่จะถึงสนามบินเนี่ย’

แต่แล้วสิ่งที่ฉันคิดมันก็ผิด เพราะว่าทางที่เขาขับไปมันไม่ใช่สนามบิน อย่าบอกนะว่า ‘จะขับรถไปถึงเชียงรายเลยหรอเนี่ย...เหนื่อยแย่เลยคุณมือขวาหน้านิ่ง’

‘ท่านประธานออกจะรวยทำไมเขาถึงไม่ขึ้นเครื่องไปนะ...’

‘โอ้ย...แล้วฉันจะเมารถไหมเนี่ย’ ฉันได้แต่ถามตัวเองอยู่ในใจ มีคำถามอยู่มากมายเป็นพันเป็นหมื่นประโยคแต่ฉันไม่กล้าจะเอ่ยถามอะไรเขาออกไปด้วยซ้ำอะ

และเหมือนตอนนี้ร่างการของฉันไม่ค่อยเป็นใจเอาซะเลย...อาการขึ้นรถแล้วต้องนอน เพราะเมารถนี่รักษาไม่หายจริงๆสินะ ‘งีบสักแป๊บคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง กว่าจะถึงเชียงรายอีกตั้งนาน’

-SOLO PART-

“หึ...”

ขณะที่ผมรอไอ้ทิมขึ้นไปเอาเอกสารบนห้องของผม...สายตาผมก็ไปเห็นยัยเด็กข้าวตูกำลังเดินเข้ามาในบริษัท  ‘ผู้หญิงบ้าอะไรยิ้มให้ทุกคนเลยวะ’ เห็นแล้วมันหน้าหงุดหงิดชะมัด

‘ขึ้น...รถ!!’ รอยยิ้มของเธอยิ่งเห็นผมก็ยิ่งโมโห ผมเลยตวาดเธอไปแบบนั้น ผมบอกตรงๆ ผมไม่ชอบรอยยิ้มนี้เลยว่ะ แต่ดูจากท่าทางที่ยัยนี่ปฏิบัติกับผมแล้วเธอคงกลัวผมอยู่ไม่ใช่น้อย...

‘…’

‘ท่านประธานมีอะไรสั่งข้าวก่อนไหมค่ะ?’

‘…’

'ทะ...ท่าน'

‘หุบปาก!’ จะว่าผมเป็นคนขี้รำคาญก็ได้นะ ผมก็ไม่รู้ตัวเองเหมือนกันว่าทำไมเวลาที่เห็นยัยนี่ทีไรผมก็หงุดหงิดทุกที

...

“...หึ” หลับง่ายชะมัด...รถยังไม่ทันจะออกนอกเมืองเลย

ตอนแรกผมก็คิดว่าจะขึ้นเครื่องไป...แต่ผมแค่อยากทรมานยังนี่เล่นเฉยๆ นั่งรถแค่ 10 ชั่วโมงเองยัยตัวแสบนี่คงไม่เป็นไรหรอก

ผมโครตอยากจะรู้จริงๆเลยว่าถ้าไอ้ปั้นมันรู้ว่าตอนนี้น้องของมันอยู่กับผมมันจะทำยังไง...

4 ชั่วโมงต่อมา

“ไอ้ทิมจอดพักรถข้างหน้า” ผมเอ่ยบอกกับไอ้ทิมให้จอดรถเพื่อให้มันได้พักบ้าง

“ครับนาย”

“…”

“…มึงลงไปพักเถอะ” ผมเอ่ยบอกกับมันทันทีที่รถจอดลง

“ครับนาย...แล้ว...” มันถามผมพร้อมกับหันหน้าไปทางยัยเด็กแสบที่นอนไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยอยู่ที่เบอะนั่งข้างๆผม

“เดี๋ยวกูจัดการเอง”

“ครับนาย” เมื่อมันพูดจบมันก็เดินออกจากรถไป

ผมหันไปเพื่อจะเรียกยัยนี่ แต่หน้าเธอดูซีดแปลกๆ ‘เหอะ...อ่อนแอชะมัด’

-KAOTU PART-

“…เธอ...เธอ...”

“…”

“…เธอ!!”

“คะ ค่ะ” ฉันรีบสะดุ้งตื่นทันทีด้วยความตกใจเมื่อได้ยินเสียงของท่านประธานที่ตะโกนเรียกฉัน

ตอนนี้ฉันเวียนหัวแปลกๆ แล้วก็รู้สึกคลื่นไส้หนักมากจริงๆ ฉันคงเมารถน่ะมันเป็นโรคที่ฉันรักษาไม่หายสักที ‘เอ่อจริงสิ!...ฉันลืมกินยาที่แม่เตรียมไว้ให้’ ฉันได้แต่บอกกับตัวเองอยู่ภาพในใจ ปกติฉันจะไม่เป็นหนักขนาดนี้หรอก เพราะฉันไม่ค่อยได้ไปไหนไกลๆสักเท่าไหร่ บวกกับเมื่อคืนนอนไม่พอด้วยแน่เลย

“อึก...อึก” ฉันรู้สึกไม่ดียังไงก็ไม่รู้ ท้องไส้กำลังปั่นป่วนอย่างหนักเหมือนกับอาหารที่กินเข้าไปเมื่อเช้าจะตีกลับขึ้นมา ตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองกำลังจะ...

“เธอ!!” ท่านประธานเห็นหน้าของฉันเขาก็ดูตกใจเช่นกัน

‘อ้วกกก...’ และสิ่งที่ฉันไม่อยากให้มันเกิดขึ้นที่สุดในตอนนี้...มันก็ดันเกิดขึ้นแล้ว 'ฮือออ คอฉัน ขาดแน่เลย'

“โธ่เว้ย! ยัยบ้านี่” ผู้ชายตรงหน้าตวาดฉันเสียงดัง สายตาดุดันที่มองมายังฉัน เขาพร้อมเต็มที่แล้วที่จะบีบคอฉันให้แหลกคามือหนาของเขา

“เธอ...อยาก...ตาย...รึไงวะ” ท่านประธานตวาดใส่ฉันอีกครั้งสีหน้าเขาดูโมโหฉันมาก มากจนฉันจินตนาการถึงเหตุการณ์ต่อจากนี้ได้ไม่ยากเลยอะ  แต่ฉันก็เข้าใจเขานะเป็นใครเจอเหตุการณ์แบบนี้เข้าไปไม่โมโหก็บ้าแล้ว

“ขะ...ขอโทษ...ค่ะ” เขาเงียบไปเลย

“ทะ…ท่านประธาน”

"..."

"เธอ...หุบปากของเธอซะ..." เขาพูดพร้อมกับถอดเสื้อของเขาขว้างลงที่พื้นอย่างเเรง

“…”

"ให้สนิท...ก่อนที่ฉันจะเลาะเอาฟันของเธอออกมา" เขาหันมาพูดกับฉันเสียงเรียบ ความรู้สึกกล้วจนหายใจไม่ออกเป็นยังไงฉันพึ่งเข้าใจก็วันนี้นี่แหละ

"..."

หน้าของเขาดูหน้ากลัวกว่าทุกครั้งที่ฉันทำให้เขาโกรธ...มันทำให้ฉันไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว ฉันจึงได้แต่นั่งก้มหน้าอยู่อย่างนั้น

"ไอ้ทิม...ไอ้ทิม..." หลังจากที่ท่านประธานล้างเนื้อล้างตัวเสร็จ เขาก็ตะโกนเรียกมือขวาของเขาทันที

"ครับนาย"

"มึงรีบพากูไปจากตรงนี้เดี๋ยวนี้..."

"...ก่อนที่กูจะ...ฆ่า...คน" เขาพูดกับพี่ทิมก่อนที่เขาจะหันมามองหน้าฉันด้วยสายตาคาดโทษ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทวงแค้น แสนรัก   ตอนที่ 31 : ครอบครัว (จบ)

    @โรงพยาบาล SE"พี่มาร์คัส พี่นักรบคะ เขาเป็นยังไงบ้าง?" ฉันถามพี่มาร์คัสกับพี่นักรบออกไปทันทีที่ฉันเดินมาถึงหน้าห้องฉุกเฉิน"ทำใจดีๆไว้นะข้าว" พี่นักรับเอ่ยบอกกับฉันพร้อมสีหน้าที่ไม่สู้ดีเอาสะเลย"ฮึก ฮืออออ ไม่จริงเขาต้องไม่เป็นอะไร" ฉันเอ่ยบอกกับพี่นักรบพร้อมกับร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาย"ข้าวตู..." พี่มาร์คัสเอ่ยเรียกฉันเสียงอ่อน ก่อนที่มือหนาจะลูบลงที่บ่าของฉันอย่างปลอบประโลม"ฮึก มะ ไม่จริงใช่ไหมค่ะ" ฉันเอ่ยถามพวกเขาออกไปอีกครั้ง หัวใจสั่นระรัวเหมือนกับว่ามันกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ อยู่แล้ว"ถ้าข้าวเป็นห่วงมันขนาดนี้ทำไมไม่ให้อภัยมันสักที?" พี่มาร์คัสเอ่ยถามฉันขึ้นมาพร้อมกับมองหน้าฉันอย่างรอคำตอบ"คะ ใครบอกว่าหนูไม่ให้โอกาสเขาล่ะคะ" ฉันเอ่ยบอกกับพี่มาร์คัสออกไปพร้อมกับน้ำตาที่ยังคงไหนออกมา"...""หนูให้โอกาสเขาตั้งนานแล..." ฉันยังไม่ทันพูดจบพี่นักรบก็เอ่ยแทรกขึ้นมา"ได้ยินชัดแล้วนะมึง" พี่นักเอ่ยขึ้นพร้อมกับมองเลยไปที่ด้านหลังของฉัน อย่าบอกนะว่าเขายืนอยู่ข้างหลังฉันควับ!!! ฉันรีบหันกลับไปมองเขาทันทีที่พี่นักรบพูดจบ"ฮืออออ พี่โซโล่..." ฉันเอ่ยเรียกเขาก่อนจะพุ่งเข้าไปกอดเขาไว้ทันทีราว

  • ทวงแค้น แสนรัก   ตอนที่ 30 : ดูแล

    3 ปีก่อน...ติ๊งงงงง!!! ติ๊งงงงง!!! ติ๊งงงงง!!! ติ๊งงงงง!!!'ใครอะ?' ข้อความในมือถือของจีน่าดังเขามารัวๆ ข้อความถูกส่งมาโดยคนที่เธอไม่รู้จัดเธอจึงกดเข้าไปดูแล้วกูพบว่ามันเป็นรูปข้าวปั้นแฟนหนุ่มของเธอกับนุ่นเพื่อนสาวคนสนิทกำลังนอนกอดกำลังนอนกอดกันอยู่ในสภาพที่ทั้งคู่ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเลยสักชิ้น รวมถึงสภาพห้องที่ดูแล้วราวกับว่าพึ่งจะผ่านศึกสงครามมา จีน่าเธอยืนดูภาพตรงหน้านิ่งเพราะเธอเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าภาพตรงหน้าจะเป็นเรื่องจริง แต่ต่อให้พยายามหาเหตุผมที่จะมาลบล้างภาพตรงหน้าสักเท่าไรมันก็ไม่หายไปสักทีจนกระทั่งกรี๊ดดดดดดดด ฮือออออออจีน่ากรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดที่ตอนนี้มันไม่สามารถระบายเป็นความเจ็บปวดได้ทั้งแฟนที่เธอรักและเพื่อนที่เธอสนิทด้วยทั้งคู่กำลังสวมเขาให้เธอจริงๆนะหรอ?ฮึกกกก ฮืออออออจีน่าพยายามโทรหาข้าวปั้นแต่โทรเท่าไรก็โทรไม่ติดสักที เธอจึงเลือกส่งข้อความไปแทน'มันเป็นเรื่องจริงหรอปั้น?' จีน่าส่งรูปที่มีบุคคลที่สามส่งมาให้เธอให้กับข้าวปั้นพร้อมกับพิมพ์ถามเขาออกไป'ปั้น''อ่านแล้วก็ตอบเล่าสิอย่าเงียบได้ไหม'ฮืออออออออ'ปั้นทำมันลงไปจริงหรอ' ยิ่งข้าวปั้นอ่านแล้วไม่ตอบมัน

  • ทวงแค้น แสนรัก   ตอนที่ 29 : ขอโอกาส

    -SOLO PART-@บ้านข้าวตูผมขับรถสปอร์ตหรูของตัวเองเข้ามาจอดที่หน้าบ้านของข้าวตู ผมไม่รู้ว่าแม่ของข้าวตูเธอรู้เรื่องของผมมากน้อยแค่ไหนแต่สิ่งที่ตอนนี้ผมควรจะทำมากที่สุดคือเล่าความเลวของตัวเองที่ได้กระทำไว้กับข้าวตู ให้แม่ของเธอได้รับรู้จากปากของผมเอง ผมไม่ได้คาดหวังว่าท่านจะให้อภัยผม เพราะถ้าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับลูกของผม ผมก็คงไม่ให้อภัยใครง่ายๆ เหมือนกัน แต่อย่างน้อยผมก็อยากจะขอโอกาสอีกครั้งเพื่อปรับปรุงตัวเองกริ๊ง!!! กริ๊ง!!!ผมเดินลงจากรถและไปกดกริ๊งหน้าบ้านของข้าวตู รอไม่นานแม่ของข้าวตูเธอก็เดินตรงมาหาผม"คุณมาทำไมคะ" เธอเอ่ยถามทันทีที่เธอเห็นว่าคนที่มาเป็นผม ท่าทีเธอดูนิ่งจนผมเริ่มจะแปลกใจ"สวัสดีคับ ผมขอเข้าไปข้างไนได้ไหม?" ผมกล่าวทักทายแม่ข้าวตูด้วยถ่อยคำที่สุภาพ"เชิญค่ะ""ขอบคุณครับ" พูดจบผมจึงเดินตามแม่ข้าวตูเข้าไปในบ้านของเธอ"นั่งก่อนค่ะเดี๋ยวฉันไปเอาน้ำมาให้""ไม่เป็นไรครับ ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณแม่""ค่ะ!!!" เธอร้องออกมาด้วยความตกใจ ทำให้ผมไปไม่เป็นเลยทีนี้ผมว่าผมเรียกเธอว่าแม่ก็ถูกแล้วก็เธอเป็นแม่ของเมียผมนิ"เอ่อ...ผมขอโทษนะครับเรื่องที่ผมทำร้ายข้าวตู" ผมเอ่ยขอโทษแม่ขอ

  • ทวงแค้น แสนรัก   ตอนที่ 28 : พ่อ

    "ปั้น" เสียงของจีน่าเอ่ยเรียกแฟนหนุ่มของเธอที่กำลังเดินอยู่ข้างๆ"ครับ" ข้าวปั้นหยุดเดิน ก่อนจะขานรับคำจีน่าพร้อมกับส่งยิ้มให้เธอ"ปั้นไม่โกรธโซเลยหรอ?" จีน่าเอ่ยถามข้าวปั้นออกไปด้วยความสงสัย เพราะนอกจากวันนั้นที่พวกเขาทะเลาะกันที่บ้านของข้าวปั้นแล้ว เขาก็ไม่ได้แสดงทีท่าว่าโกรธเคืองโซโล่ออกมาอีก"โกรธสิ! เราอยากจะบีบคอมันให้ตายคามือ" ข้าวปั้นเอ่ยตอบจีน่าออกมาเสียงเรียบ"...""แต่เราไม่ทำหรอ เดี๋ยวเวณกรรมก็ตามมันเองเรารู้จักน้องเราดีถึงภายนอกข้าวตูจะดูเป็นคนอ่อนแอก็เถอะ""หมายความว่า...ปั้นรู้?" จีน่าเอ่ยถามข้าวปั้นออกไปทั้งๆที่เธอก็พอจะรู้คำตอบอยู่บ้างแล้วจากคำพูดของเขาเมื่อกี้"เรารู้มานานแล้วว่าไอ้โซชอบข้าว" ข้าวปั้นตอบจีน่ากลับไป"ปั้นผิดแล้ว..." จีน่าตอบข้าวปั้นออกไปด้วยรอยยิ้ม"หืม แต่เราเห็นว่ามันสั่งให้ลูกน้องของมันเอาตุ๊กตามาให้ข้าวเมื่อหลายปีก่อนนะ" ข้าวปั้นตอบจีน่ากลับไปด้วยความงุนงง มันจะผิดไปได้ไงในเมื่อวันเกินข้าวตูเมื่อ 8 ปีก่อนหลังเลิกเรียนเขาเดินกลับมาบ้านก็เห็นว่ามันยืนหลบอยู่ใต้ต้นไม้วางแผลกับลูกน้องของมันเพื่อที่จะนำตุ๊กตามาให้ข้าวตู ทุกอยากอยู่ในสายตาของเขาหมด รวม

  • ทวงแค้น แสนรัก   ตอนที่  27 : อุบัติเหตุ

    -KAOTU PART-"จอดรถเถอะนุ่นปล่อยข้าวตูไป น้องไม่เกี่ยวอะไรด้วย" เสียงของผู้หญิงที่ชื่อจีเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนคนข้างๆ"เป็นห่วงกันจริงๆเลยน้องผัวเนี่ย อ้อไม่สิหรือต้องเรียกว่าพี่สะใภ้กันนะถึงจะถูก" ฉันอึ้งไปกับคำพูดของผู้หญิงตรงหน้า 'หมายความว่าเธอคนนี้ที่ชื่อจีน่า เธอเป็นน้องสาวของผู้ชายใจร้ายคนนั้น และเธอก็เป็นแฟนเก่าของพี่ปั้นพี่ชายของฉันงั้นหรอ' ฉันพูดกับตัวเองอยู่ภายในใจพร้อมกับมองไปที่คุณจีน่าไปด้วยความงุนงง ทำไมความสัมพันธ์มันซับซ้อนจัง"หยุดเถอะนุ่น" คุณจีน่าพูดเสียงเเข็ง ตอนนี้สีหน้า ท่าทางของเธอดูเหมือนกับพี่ชายของเธอไม่มีผิดทั้งท่าทีที่ดูน่าเกรงขามและน้ำเสียงเรียบนิ่งนั้นฉันว่า 'บรรยากาศบนรถมันเริ่มจะไม่ปลอดภัยแล้วสิ' คิดได้ดังนั้นฉันจึงขยับตัวเองไปนั่งติดกับที่พิงด้านหลัง แล้วมือทั้งสองข้างฉันจับเบาะรถไว้เเน่น ฉันไม่ได้ห่วงตัวเองเลยสักนิดแต่ฉันเป็นห่วงเจ้าตัวเล็กในท้องฉันต่างหาก"กูไม่หยุด มึงจะสนมันทำไมมึงไม่เกลียดพี่มันแล้วหรอ" เธอตวาดคุณจีเสียงดัง"ฉันไม่มีทางเกลียดปั้น" คุณจีก็ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงจริงจังเช่นกัน"..." ฉันนั่งฟังที่เขาคุยกันอย่างเงียบๆ เพราะเรื่อง

  • ทวงแค้น แสนรัก   ตอนที่ 26 : อันตราย

    17.00 น."ข้าวตู ข้าว" ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมาหลังจากได้ยินเสียงพี่ปั้นที่เรียกฉันดังมาจากหน้าห้องนอนของฉัน"ค่า..." ฉันขานรับพี่ปั้นกลับไปก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นนั่งบนเตียงอย่างช้าๆ"ลงไปกินข้าวกัน""โอเครค่ะ เดี๋ยวหนูตามลงไปนะ" ฉันตอบพี่ปั้นกลับไปก่อนจะเดินไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำ แล้วจึงเดินลงไปด้านล่าง"ฮืมมม หอมจังเลยค่ะแม่" ฉันเอ่ยบอกกับออกไป"งั้นหนูต้องกินเยอะๆนะลูก" แม่เอ่ยบอกกับฉันก่อนจะเดินเข้ามาลูบหัวของฉันอย่างทะนุถนอม"กำไลใครหรอข้าว?" เรานั่งกินอาหารกันไปได้สักพักพี่ปั้นก็เอ่ยถามฉันพร้อมกับมองดูกำไลที่ข้อมือของฉันอย่างสงสัย"ข้าวก็ไม่รู้ค่ะ มีคนมาส่งตุ๊กตามาให้ข้าวอีกแล้วค่ะ และในนั้นก็มีกำไลนี้มาด้วยข้าวพยายามแกะออกแล้วนะ แต่ทำยังไงมันก็ไม่ออกสักที" ฉันอธิบายให้แม่กับพี่ปั้นฟัง"งั้นเดี๋ยวเราไปดูที่กล่องว่าเขาซื้อมาจากที่ไหน แล้วถ้าวันไหนว่างพี่จะพาไปเอาออก" พี่ปั้นเอ่ยบอกกับฉัน ก่อนที่ลงมือทานอาหารตรงหน้าต่ออย่างเอร็ดอร่อย นานแล้วที่เราสามคนแม่ลูกไม่ได้กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันแบบนี้ ทำให้อาหารมื้อนี้ยาวนานกว่าที่เคย แถมฉันก็ยังเจริญอาหารมากกว่าทุกครั้งอีกด้วย3 วันต่อมา...

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status