“ฉันว่าแทนที่เธอจะเสียเวลากับคนที่เขามีเจ้าของแล้วพักผ่อนให้เยอะๆจะดีกว่านะหัดเป็นห่วงตัวเองซะบ้าง” ดูเหมือนว่าคราวนี้พ่อพระรองจะยิงนกนัดเดียวได้ถึงสองตัว สำหรับพายุเหนือเมฆกำลังคบอยู่กับน้ำค้างต่อให้จะบริสุทธิ์ใจหรือมาในฐานะเพื่อนคนหนึ่งแต่การทำแบบนี้มันก็ยิ่งจะทำให้พราวดาวตัดใจยากกว่าเดิม
แต่ทั้งหมดก็มาจากการที่นีรชาปูบทให้พราวดาวกับพายุเป็นเพื่อนสนิทที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากัน อะไรที่พราวดาวคิดว่าดีพายุมักจะเห็นตรงกันข้าม
“ให้ยาตามนี้นะครับถ้าคนไข้ดื้อก็จับฉีดยาได้เลย ผมอนุญาต” ไม่รอให้อีกฝ่ายได้โวยวายคุณหมอพายุหันไปสั่งพยาบาลน้ำเสียงเรียบ พายุรู้ดีว่าพราวดาวกลัวเข็มฉีดยาจนขึ้นสมองเลยเอาเรื่องนี้ขึ้นมาขู่ทว่าคนที่นอนเจ็บอยู่บนเตียงตอนนี้ไม่ใช่พราวดาวที่เขารู้จักแต่เป็นนีรชาต่างหากที่รู้จักเขาเป็นอย่างดี
“พราวอยากไปเข้าห้องน้ำเหนือช่วยพาพราวไปหน่อยสิ” นีรชามองหนุ่มรูปงามด้วยสายตาอ้อนประหนึ่งลูกแมวน้อย ด้วยรูปลักษณ์ของพราวดาวที่ทั้งสวยและมีเสน่ห์ยั่วยวนเป็นทุนเดิมอยู่แล้วพอมาเจอคนเขียนนิยายอย่างนีรชาที่สวมบทบาทได้อย่างสมจริงจริตจะก้านที่ออกทางสีหน้าและแววตาเลยไม่ต่างอะไรกับคนที่ชอบให้ท่าผู้ชาย
“ผมขอตัวก่อนนะครับถ้ามีอะไรกดเรียกพยาบาลได้ตลอดเวลา” พายุหันไปพูดกับผู้จัดการส่วนตัวของพราวดาวก่อนจะเดินออกไปจากห้องโดยมีพยาบาลที่เข้ามาด้วยตามหลังไปติดๆ
“ตกลงไม่ได้ความจำเสื่อมใช่ไหม” ใครจะแกล้งอะไรไม่รู้แต่สำหรับผู้จัดการดาราเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่เพราะถ้าพราวดาวความจำเสื่อมจริงๆย่อมมีผลกับงานแสดงของเธอ
“เปล่าเมื่อกี้พราวแค่รู้สึกมึนๆน่ะ” พอเริ่มจับต้นชนปลายได้บ้างแล้วนีรชาก็รีบสวมรอยเป็นดาราสาว ตัวละครที่ชื่อเนตรนภานีรชาให้รู้จักกับพราวดาวตอนที่เข้าวงการใหม่ๆตอนนั้นเนตรนภายังเป็นแค่พนักงานในร้านเสื้อผ้าที่พราวดาวมักจะไปเช่าออกงานแต่ด้วยความที่คุยกันถูกคออีกทั้งพราวดาวมองเห็นแววเลยชวนให้มาเป็นผู้จัดการส่วนตัว
นีรชายังสร้างความสัมพันธ์ให้ทั้งสองคนทำงานด้วยกันอย่างพี่น้องมากกว่าจะเป็นผู้จัดการกับดารา เนตรนภาอายุห่างพราวดาวแค่ปีเดียวเลยให้ทั้งคู่สนิทกันง่ายและนีรชายังเพิ่มความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างผู้จัดการส่วนตัวกับดาราในสังกัดด้วยการให้พราวดาวยื่นมือช่วยเหลือทุกครั้งที่เนตรนภาเดือดร้อน
“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วงั้นฉันกลับก่อนนะไว้จะมาใหม่ถ้ามีอาการผิดปกติยังไงให้รีบโทรบอกฉันนะ”
“อือ ไปทำงานเถอะ”
แปลก... ประธานหนุ่มมองพราวดาวเหมือนไม่ค่อยจะเชื่อสายตา ปกติเวลาที่เขาพูดทำนองนี้เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อบวกกับนิสัยเอาแต่ใจอย่างพราวดาวจะต้องรั้งเขาถึงจะถูกสิ แต่นี่อะไรนอกจากจะไม่เซ้าซี้ยังทำเหมือนเข้าใจอีกต่างหาก แปลก...
แต่เหนือเมฆก็บอกกับตัวเองว่าบางทีเขาอาจจะคิดมากเกินไป พราวดาวพึ่งฟื้นขึ้นมาคงแค่อยากจะพักผ่อนล่ะมั้ง
ทันทีที่ประตูห้องปิดเนตรนภาก็จับจ้องไปยังใบหน้าของพราวดาวก่อนจะพูดขึ้น
“พี่ดีใจนะที่พราวตัดใจจากคุณเหนือได้”
“ตัดใจ” คิ้วสวยขมวดเข้าหากันก่อนที่นีรชาจะนึกออกว่าที่เนตรนภาพูดหมายถึงอะไร
จากการปูเนื้อเรื่องนีรชาให้ผู้จัดการของพราวดาวคอยเป็นหูเป็นตาและให้จัดการทุกอย่างยกเว้นแค่เรื่องผู้ชายที่พราวดาวจะเป็นคนตัดสินใจเอง วันนี้พอเห็นว่าตัวเองเข้าใจอะไรมากขึ้นผู้จัดการสาวเลยเห็นดีเห็นงามด้วยสินะ
“ก็ใช่น่ะสิหรือว่ากำลังวางแผนอะไรอยู่” ขนาดพายุยังรู้จักพราวดาวเป็นอย่างดีมีหรือที่คนเป็นถึงผู้จัดการส่วนตัวจะมองไม่ออก จะว่าไปหากพราวดาวยอมตัดใจจากเหนือเมฆได้ง่ายๆเรื่องมันคงไม่บานปลายมาขนาดนี้ นีรชาแอบถอนหายใจเงียบๆไม่น่าแต่งให้มันยุ่งเหยิงเลยจริง…จริ๊ง
“เปล่าค่ะพราวจะมีแผนอะไรพี่ก็คิดมากไปได้” ว่าจบคนอาศัยร่างก็ล้มตัวลงนอนก่อนจะหันหลังให้เป็นการบอกว่าเธอต้องการพักผ่อนทำให้เนตรนภาไม่กล้าเซ้าซี้ต่อ
ร่างกายที่ยังไม่ฟื้นตัวดีพร้อมจะชาร์ตพลังงานโดยที่ไม่ต้องฝืน เจ้าของร่างบางหลับตาลงนอนเงียบๆในหัวกำลังตีกันยุ่งเหยิง ใครจะไปคิดว่าวันหนึ่งจะหลุดเข้ามาอยู่ในนิยายที่ตัวเองเป็นคนแต่ง แล้วดูสิหลุดเข้ามาทั้งทีทำไมถึงไม่ให้เธอไปอยู่ในร่างนางเอกแต่ดันมาอยู่ในร่างนางร้ายแบบนี้
เฮ้อ....หวังว่าหลังจากตื่นขึ้นมาทุกอย่างจะเป็นแค่ความฝันนะ
เย็นวันเดียวกันหลังจากที่ตื่นขึ้นมานีรชายังพบว่าตัวเองอยู่ในร่างของพราวดาว เธอถอนหายใจออกมาพรืดหนึ่งเพราะแน่ใจว่าไม่ใช่ความฝัน เรื่องน่าเหลือเชื่อแบบนี้มีอยู่จริงๆ เหรอ นีรชายกมือกุมขมับด้วยมืดแปดด้าน
“ตื่นแล้วเหรอหิวหรือเปล่า” เนตรนภาเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าพราวดาวตื่นแล้ว
“แม่กับพ่อพราวล่ะ” อยู่ๆ นีรชาก็นึกถึงครอบครัวของพราวดาวขึ้นมา ครอบครัวที่มีส่วนทำให้นางร้ายของเธอเป็นคนโหยหาความรักแต่หากจะพูดให้ถูกก็น่าจะเป็นนีรชาเองนั่นแหละที่กำหนดให้ชีวิตดาราสาวมีปมตั้งแต่เด็ก
แต่การที่เนตรนภาไม่มีคำตอบให้นั่นก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าแม้แต่ความเป็นความตายของลูกตัวเองก็ยังไม่สำคัญ ความสัมพันธ์ภายในครอบครัวเป็นไปตามที่นีรชาวางเอาไว้อย่างไม่มีผิดเพี๊ยน
“เดี๋ยวเอาไว้พรุ่งนี้พี่จะโทรหาใหม่ไม่ต้องคิดมากหรอกคุณลุงกับคุณป้าอาจจะยังไม่ได้ดูโทรศัพท์” เนตรนภาได้แต่พูดปลอบใจ
“พี่เนตรไม่ต้องปลอบใจพราวหรอกค่ะ” นีรชาเป็นคนปูปมชีวิตตัวละครเองกับมือเธอจึงรู้ตื้นลึกหนาบางทุกอย่างข่าวดาราประสบอุบัติเหตุเป็นข่าวใหญ่โตที่ไม่มีใครไม่พูดถึงดังนั้นคำพูดปลอบใจที่ผู้จัดการส่วนตัวพูดมานั้นจึงไม่ได้ทำให้คนฟังรู้สึกดีขึ้นมา
และแปลก...ที่นีรชารับรู้ความรู้สึกนี้ได้ต่อให้จะบอกว่าตัวเองเข้าใจความรู้สึกของพราวดาวเป็นอย่างดีแต่การได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของตัวละครตัวนี้เธอถึงได้รู้ว่าความรู้สึกที่ถูกคนเป็นพ่อเป็นแม่ไม่เหลียวแลมันเป็นยังไง
นีรชาไม่อาจรู้เลยว่าตอนนี้ดวงจิตของพราวดาวอยู่แห่งหนใดแต่สิ่งหนึ่งที่นีรชารับรู้ได้คือจิตใจและความรู้สึกที่ยังหลงเหลือ คนที่มีพ่อไปทาง แม่ไปทางหนำซ้ำยังไม่ไยดีลูกเต้า มันรู้สึกแย่แบบนี้เองสินะ ชีวิตที่ถูกคนอื่นกำหนดชะตาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้มันช่างอนาถใจจริงๆ
“พราวอยากไปเข้าห้องน้ำค่ะ” นีรชาบอกเป็นเชิงให้เนตรนภาช่วยพยุงเธอไปห้องน้ำเพราะอุบัติเหตุทำให้ขาซ้ายได้รับบาดเจ็บเลยเดินเหินไม่สะดวก
“ไม่ต้องเข้ามาก็ได้ค่ะ” นีรชารีบห้ามเมื่อเห็นเนตรนภาทำท่าจะเข้าไปในห้องน้ำด้วย
“ไม่ได้ถ้าเธอเกิดล้มหัวฟาดจะทำยังไง” เนตรนภาบอกอย่างดุๆ
“ไม่ล้มหรอกห้องน้ำเล็กแค่นี้เอง” ว่าแล้วนีรชาก็รีบปิดประตูลงกลอนเสร็จสรรพ เธอใช้มือเกาะผนังห้องน้ำฝั่งหนึ่งแล้วค่อยๆ เดินไปยังอ่างล้างหน้าที่มีกระจกบานใหญ่มองเห็นเกือบทั้งตัว
“ว้าว พราวดาวทำไมเธอถึงเป็นผู้หญิงที่สวยขนาดนี้นะ” นีรชาพึมพำออกมาเบาๆ เพราะกลัวว่าเนตรนภาที่รออยู่ด้านนอกจะได้ยิน แม่นักเขียนหมุนซ้ายหมุนขวามองตัวเองในกระจก
จริงอยู่ว่าในนิยายนั้นเธอได้พรรณาความสวยของพราวดาวละเอียดยิบจนคนอ่านเห็นภาพแต่ใครจะไปคิดล่ะว่าตัวเป็นๆ มีเนื้อมีหนังจะสวยเกินกว่าที่จินตนาการเอาไว้มาก
ตัดมาที่นีรชาแม้หน้าตาจะพอไปวัดไปวาแต่ถ้าเทียบกับพราวดาวก็ถือว่าห่างกันคนละชั้น เธอเป็นคนรูปร่างเล็กสูงร้อยหกสิบส่วนหน้าอกหน้าใจก็ไม่ได้ใหญ่ถึงขนาดจะอวดคนอื่นพอได้มาอยู่ในร่างของดาราสาวที่หาที่ติไม่ได้นีรชาก็เกิดความคิดพิเรนทร์ขึ้นมา
มือเล็กค่อยๆแกะกระดุมชุดผู้ป่วยไล่จากเม็ดบนลงไป นีรชามองเรือนร่างที่ปรากฏในกระจกบานใหญ่ด้วยความตื่นเต้นหลังจากที่พึ่งปลดตะขอบราเซียออกไปหยกๆ จะว่าไปก็เหมือนโรคจิตหน่อยๆสองตาจดจ้องร่างกายเปลือยท่อนบนด้วยความอิจฉาก่อนจะพึมพำออกมาเบาๆ ว่า
สักสามสิบหกได้ไหมนะ ไม่สิใหญ่ๆบึ้มๆแบบนี้น่าจะสามสิบเจ็ดไม่ก็สามสิบแปดล่ะมั้ง
นีรชาพูดพลางเอามือโกยหน้าอกกลมนูนเข้าหากัน
แต่ความคิดพิเรนทร์ไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้นคนอาศัยร่างยังลากสายตาอิจฉาสำรวจเรือนร่างอันงดงามของพราวดาวต่อ
“หือ สะโพกเหรอเนี่ยสุดยอด เฉ้งกะเด๊ะมากแม่จ้าว” ปากว่ามืออยู่ไม่เป็นสุข นีรชาวางมือไว้ที่บั้นท้ายแล้วฟาดไปหนึ่งทีด้วยความมันเขี้ยวก่อนที่มือซุกซนจะย้ายไปกึ่งกลางลำตัวที่มีเนินสามเหลี่ยมนูนเด่นอยู่ด้านหน้า
คงผ่านการดูแลมาอย่างดีสิท่าถึงได้ขนาดนี้แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้วขอแหวกดูสักหน่อยแล้วกัน
นีรชาใช้มือหนึ่งยึดอ่างล้างหน้ากันล้มก่อนจะค่อยๆ ก้มลงไปพร้อมกับแยกขาทั้งสองข้างออกจากกันแต่สิ่งที่จะดูหาใช่ส่วนน่าอายของผู้หญิงแต่เป็นปานสีแดงขนาดเท่าเม็ดถั่ว นีรชาจำได้ว่าเธอเป็นคนให้พราวดาวมีตำหนิอยู่บริเวณลับซึ่งมันก็มีอยู่จริงๆ
"พ่ะ...พายุ" เสียงหวานเอ่ยขึ้นในลำคอเบาๆ กว่าหลายวินาที่นีรชามองไปที่อีกฝ่าย ตั้งแต่วันแถลงข่าวและวันที่ถูกพายุมัดมือชกให้ทำสัญญาเป็นแฟนวันนี้เป็นวันแรกที่ทั้งคู่ได้เจอกันแต่ก็ใช่ว่าแม่นักเขียนสาวในร่างพราวดาวสวยสง่าจะดีอกดีใจเนื้อเต้นเพราะคนที่เธออยากเห็นหน้าจวนใจจะขาดรอนๆ คือบอสหนุ่มสุดหล่ออย่างเหนือเมฆต่างหาก"นี่มันอะไรกันคะคุณเอกอย่าบอกนะว่าคุณหมอที่คุณบอกเมื่อกี้คือคุณหมอพายุ" เนตรนภาได้พูดแทนความสงสัยของนีรชาไปหมดแล้วแม้จะเทียบไม่ได้กับอาการตกใจของเธอ"ใช่ครับ คุณหมอพายุเป็นหมอคนนึงที่ร่วมในการวิจัยผลิตภัณฑ์ยาดังนั้นคุณพราวไม่ต้องกังวลเลยนะครับว่าจะกระทบชื่อเสียงเพราะผมได้ข่าวมาว่าคุณหมอพายุเก่งไม่แพ้คุณหมอไพโรจน์เสียที่อายุน้อยกว่า ทำงานกับแฟนอาจจะเกร็งๆ หน่อยนะครับ" ประโยคหลังเหมือนครีเอทีฟหนุ่มจงใจจะพูดให้พราวดาวได้ยินคนเดียว"ขอโทษที่ทำให้ทุกคนต้องเสียเวลานะครับ" ทันทีที่ก้าวมาหยุดอยู่เบื้องหน้าของทุกคนด้วยความมีมารยาทเป็นทุนเดิมพายุจึงโค้งศีรษะลงเล็กน้อยเพื่อกล่าวขอโทษทีมงานเป็นอันดับแรกคุณหมอผู้สง่าผ่าเผยเดินผ่านครีเอทีฟหนุ่มไปยืนข้างกายดาราสาวคนสนิทซึ่งดูเหมือนว่าแม่ดา
ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาเนตรนภาสั่งให้พราวดาวเก็บตัวอยู่แต่ในคอนโดเพราะกลัวว่าถ้าออกไปข้างนอกอาจจะเจอนักข่าวแล้วจะถูกถามถึงเรื่องที่พึ่งให้สัมภาษณ์ไปการเปิดตัวแฟนแบบสายฟ้าแล๊บทำเอาทั้งคนในและนอกวงการต่างก็พากันพูดถึงส่งผลให้ภาพลักษณ์ของพราวดาวดีขึ้นแต่ก็ยังมีกระแสด้านลบอยู่บ้างโดยเฉพาะกลุ่มแอนตี้ที่ก่อนหน้านี้เคยบุกไปทำร้ายดาราสาวถึงโรงพยาบาลพวกเขาพากันขุดคุ้ยหาหลักฐานมาพิสูจน์ว่าระหว่างพราวดาวกับคุณหมอที่ทำตัวเป็นพระเอกขี่ม้าขาวแท้ที่จริงแล้วก็แค่การเล่นละครฉากหนึ่ง“พรุ่งนี้พี่จะมารับตอนสิบโมงนะ” เนตรนภาเห็นสมควรว่าพราวดาวคงต้องกลับมารับงานได้แล้วหลังจากที่พักรักษาตัวมาเป็นเดือน แม้ว่าดาราดังอย่างเธอจะทำประกันอุบัติเหตุเอาไว้แต่ก็ยังมีส่วนต่างที่ต้องจ่ายเพิ่มเนตรนภาเลยให้พราวดาวหยุดงานนานกว่านี้ไม่ได้เพราะพราวดาวยังต้องผ่อนคอนโดผ่อนรถไหนจะต้องเป็นเสาหลักของครอบครัว“ไปไหน”“ก็ไปทำงานไง” เนตรนภาตวัดสายตาด้วยสีหน้าประหลาดใจ หรือพราวดาวจะยังไม่พร้อมทำงาน ผู้จัดการสาวจึงได้นั่งลงถาม“ไหนว่าขาดีขึ้นเยอะแล้วไงพี่ก็เห็นพราวเดินเองได้แล้วนี่” งานที่ต้องไปถ่ายพรุ่งนี้เป็นโฆษณาตัวหนึ่งซึ่งเ
“อะไรนะ” นีรชาไม่คิดว่าคุณหมอพายุผู้ไร้เล่ห์เหลี่ยมจะใช้วิธีการเจ้าเล่ห์แบบนี้มัดมือชก พ่อพระรองผู้แสนดีไม่มีพิษมีภัยเห็นทีจะเป็นแค่ตัวละครไร้ตัวตนที่อยู่ในนิยายซะล่ะมั้งแต่ในขณะที่นีรชากำลังจะโวยวายต่อประตูห้องก็ถูกเปิดเข้ามาโดยเจ้าของบริษัทโฆษณาอย่างเหนือเมฆ เขาตั้งใจจะมาพูดเรื่องการแถลงข่าววันนี้ นีรชาเห็นเหนือเมฆมาเลยรีบซ่อนสัญญาเข้าไปไว้ใต้หมอนเพราะไม่อยากให้ใครรู้เรื่องนี้โดยเฉพาะพ่อพระเอกในฝันของเธอแม้ว่าการเป็นแฟนกันหลอกๆระหว่างเธอกับพายุอาจจะปกปิดคนใกล้ชิดได้ยากแต่เธอก็ไม่อยากให้เหนือเมฆหรือแม้แต่ผู้จัดการส่วนตัวรู้เรื่องสัญญาอยู่ดี“ฉันพึ่งได้ดูข่าวเธอแล้วก็รีบมาเลย” ประธานหนุ่มหรือพ่อพระเอกของแม่นักเขียนเปิดประตูเข้ามาด้วยท่าทางร้อนใจแต่ก่อนจะพูดธุระสำคัญสายตาก็ไปปะทะเข้ากับสายตาของพายุแม้การอยู่ของอีกฝ่ายไม่ได้ทำให้เขาแปลกใจเท่าไหร่แต่คุณหมอผู้ที่ปกติแล้วจะงานรัดตัวทั้งวันไม่น่าจะมีเวลามานั่งลอยหน้าลอยตาอยู่ห้องคนอื่น แต่เรื่องที่ทำให้เขาทั้งคู่จ้องหน้ากันนิ่งราวกับกำลังส่งกระแสจิตคงจะเป็นสาเหตุมาจากประเด็นร้อนที่พึ่งเกิดขึ้นวันนี้“แกอยู่ด้วยก็ดีแล้ว” เหนือเมฆเป็นฝ่ายเ
“สัญญาการเป็นแฟนหลอกๆ ระหว่างฉันกับเธอไง” ใช่ว่าจะไม่เข้าใจแต่ที่เธอต้องหันไปถามเป็นเพราะข้อความที่พายุอ้างว่าเป็นสัญญามันดูจะริบรอนอิสรภาพเกินไป“สัญญาเนี่ยนะ”“ใช่ สัญญาลองอ่านดูสิ” นีรชาถอนหายใจเฮือกหนึ่งก่อนจะก้มลงอ่านข้อความเหล่านั้นให้ถี่ถ้วน“ข้อหนึ่ง ฝ่ายเอสามารถมานอนค้างห้องของฝ่ายบีได้อย่างน้อยอาทิตย์ละสองครั้งข้อสอง ฝ่ายเอสามารถไปหาเวลาที่ฝ่ายบีไปทำงานได้ทุกที่อย่างไม่มีข้อยกเว้นข้อสาม เวลาอยู่ในที่สาธารณะฝ่ายบีต้องวางตัวหรือปฏิบัติเสมือนฝ่ายเอเป็นคนรัก ข้อนี้หมายรวมถึงความใกล้ชิดอย่างเช่นการจับมือ หอมแก้ม โอบกอด หากมากกว่านี้ต้องขึ้นอยู่ที่ความเหมาะสมและความสมัครใจของทั้งสองฝ่ายหรือขึ้นอยู่กับสถานการณ์บังคับข้อสี่ หากฝ่ายบีจะไปหาฝ่าเอในที่ทำงานสามารถไปได้ทุกเมื่อแต่ฝ่ายบีจะต้องมีสิ่งของติดมือไปด้วย ของสิ่งนั้นจะเป็นอะไรแล้วแต่ฝ่ายบีจะเห็นสมควรข้อห้า หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตกหลุมรักอีกฝ่ายจะถือว่าสัญญาฉบับนี้เป็นโมฆะซึ่งจะมีผลบังคับใช้ภายในยี่สิบสี่ชั่วโมงข้อหก สัญญาฉบับนี้มีอายุหกเดือนนับจากวันที่ทำสัญญาหลังจากครบหกเดือนทั้งสองฝ่ายจะเป็นอิสระโดยลดสถานะกลับไปเป็นเหมือนเดิม
“นายเป็นบ้าเหรอพายุทำไมถึงบอกว่าคบกับพราวดาวอยู่” พอพ้นสายตาของนักข่าวนีรชาก็ต่อว่าให้พระรองของเธอไปทันทีและเป็นคำพูดที่ออกมาจากความรู้สึกตัวเองไม่ใช่ต่อว่าแทนเจ้าของร่าง“ฉันก็ช่วยเธอไง” พายุเข้าใจที่ถูกอีกฝ่ายต่อว่าจึงตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ“ช่วย ช่วยให้เรื่องมันวุ่นวายกว่าเดิมน่ะสิ” นีรชายังคงใช้อารมณ์ ที่แม่นักเขียนเป็นห่วงไม่ใช่เรื่องโกหกนักข่าวแต่เธอเป็นห่วงเนื้อเรื่องในนิยายมากกว่าเพราะพล็อตเรื่องที่วางเอาไว้พระรองผู้อ่อนโยนและแสนดีอย่างพายุจะต้องอยู่อย่างไร้คู่ไปตลอดชีวิตหรือต่อให้เขาคิดอยากมีคู่ขึ้นมาก็ต้องเป็นผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่นางร้ายของเธอแต่หากจะพูดให้ถูกประเด็นเรื่องที่ทำให้แม่นักเขียนร้อนใจจนต้องแสดงอาการโวยวายเป็นเพราะตัวเองดันมาอยู่ในร่างของพราวดาวต่างหากโอกาสทองที่จะได้ใกล้ชิดสนิทสนมชายหนุ่มในฝันอย่างเหนือเมฆ ไม่จบเห่หรอกเหรอ“ฉันเนี่ยนะทำให้เรื่องมันยุ่งกว่าเดิม” พายุชี้หน้าตัวเองเมื่อยัยดาราเอาแต่โทษเขาไม่หยุด“ก็ใช่น่ะสินายไปบอกนักข่าวแบบนั้นทำไม รู้ไหมว่าหลังจากนี้ไปนายจะถูกดึงเข้ามาในชีวิตของพราว….เอ่อ...ของฉัน” นีรชาร้อนใจเกือบจะเผลอพูดชื่อนางร้ายของเธอออ
"ผมกับคุณพราวตอนนี้เราสองคนกำลังคบกันอยู่ครับและคนที่คุณพราวขับรถไปหาคืนนั้นก็คือผม” เสียงฮือฮาดังขึ้นอีกระลอก ในขณะที่สายตาคมภายใต้กรอบแว่นตามองไปยังเบื้องหน้าด้วยความสุขุมแม้ว่าพายุไม่ใช่ดาราหรือคนเด่นคนดังแต่เขาเป็นศัลยแพทย์ที่มีชื่อเสียงระดับหนึ่งผู้ปรากฏตัวคล้ายไม่ได้รับเชิญทำให้บรรดานักข่าวพากันงงเป็นไก่ตาแตกเพราะก่อนหน้านี้พราวดาวมีข่าวกับนักธุรกิจหนุ่มดังนั้นแล้วการที่จู่ๆ พายุออกมาเปิดเผยความสัมพันธ์จึงเป็นประเด็นร้อนที่ทั้งนักข่าวและคนที่รับชมไลฟ์สดอยู่ในขณะนี้ต่างก็พากันให้ความสนใจ“แล้วทำไมคุณหมอพึ่งออกมาพูดครับ” ความจริงนักข่าวชายผู้นี้อยากถามว่า หากที่พูดมาเป็นความจริงควรจะออกมาพูดตั้งแต่ทีแรกนอกเสียจากว่าเรื่องที่พูดมันมีเบื้องลึกเบื้องหลัง“ที่ผ่านมาคุณพราวเป็นข่าวกับคุณเหนือเมฆมาตลอดในขณะที่ทุกคนรับรู้ว่าคุณหมออคือเพื่อนสนิทของคุณพราวการที่วันนี้คุณหมอออกมาบอกกำลังคบอยู่กับคุณพราวแบบนี้สังคมจะยิ่งตั้งข้อสงสัยไหมคะ” นักข่าวหญิงผู้นี้เป็นนักข่าวสายบันเทิงช่องดังช่องหนึ่งที่เล่นข่าวพราวดาวกับเหนือเมฆตั้งแต่แรกเริ่มเธอจึงไม่เชื่อว่าพราวดาวจะคบอยู่กับพายุจริงๆทว่าคำถาม