บทที่ 12 นายพลคนใหม่
เหม่ยหลิงลอบรำพึงในใจเมื่อได้ไปอวยพรกับสะใภ้ใหม่ของตระกูลเหวิน แต่เธอคงจะไม่โดนอย่างที่เหม่ยหลิงโดนแน่ ๆ เพราะเธอนั้นทั้งรวยแถมยังเป็นลูกสาวคนเดียวของบ้านด้วย เหม่ยหลิงสบายใจเดินซื้อของที่ตลาดเพื่อนำกลับไปทำซาลาเปาของเธอต่อ ใครจะแต่งงานใหม่ใครจะเป็นอย่างไรต่อไปเธอไม่ได้สนใจเพราะตอนนี้หน้าที่ของเธอคือการดูแลน้องชายหาเงินและหนทางที่ร่ำรวยอยู่อย่างมีความสุข
วันเวลาผ่านมาหลายวันร้านของเหม่ยหลิงเลื่องลือไปทั่วทั้งรสชาติของไส้และตัวแป้งที่ไม่เหมือนใครทำให้ผู้คนที่ได้กินต้องติดใจจนต้องรีบมายืนคอยตั้งแต่ร้านยังไม่เปิดด้วยซ้ำ แม้จะเหนื่อยกายแต่ทว่าเหม่ยหลิงกลับมีความสุขมาก ๆ
"พี่เหม่ยหลิงฉันช่วยเก็นนะครับ วันนี้พี่คงเหนื่อยน่าดูผมเห็นพี่ตื่นแต่เช้าตรู่ทำซาลาเปาเพิ่มตั้งมากมาย พี่ทำเพื่อผมขนาดนี้ผมจะช่วยงานพี่เองพี่ไปนั่งพักนะครับ" วันนี้เวยอันกลับมาเร็วเนื่องจากคุณครูที่สอนจะไปร่วมงานต้อนรับนายพลที่ย้ายมาประจำการที่กองทัพในอำเภอแห่งนี้ ที่เหม่ยหลิงหนื่อยและต้องทำซาลาเปาเพิ่มเพราะมีคนมาสั่งซาลาเปาเพื่อไปเป็นของว่างกินต้อนรับนายพล เธอจ้องมองน้องชายอย่างเอ็นดูก่อนจะวางมือจากผ้าถูโต๊ะเดินเข้ามาใกล้ก่อนพร้อมเผยยิ้มกว้าง
"แค่เวยอันตั้งใจเรียนไม่ว่าพี่จะเหนื่อยเท่าไหร่ก็ยอม"
"พี่มั่นใจได้เลยผมเวยอันจะไม่ทำให้พี่ผิดหวังแน่นอนครับผมจะตั้งใจเรียนและไปเป็นทหารมียศ โตขึ้นผมจะตอบแทนพี่ให้สุขสบายเองครับ " เด็กน้อยเอ่ยออกมาเสียงดังฟังชัดแววตามุ่งมั่น
"ได้ยินเท่านี้พี่ก็หายเหนื่อยแล้ว อย่างนั้นช่วยยกหม้อนี้ไปไว้ในครัวให้พี่หน่อยนะ เดี๋ยวเย็นนี้จะทำอาหารอร่อย ๆ ให้กิน " ตั้งแต่ทะลุมิติมาที่นี่เธอได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นการทำอาหารหรือแม้แต่อาหารท้องถิ่น อีกทั่งความเคยชินของร่างกายทำให้เธอทำอาหารได้อย่างไม่ขัดข้องและมีป้าเสี่ยนมาคอยช่วยชี้แนะตลอด ตอนนี้ร่างกายของเธอกับเวยอันเริ่มมีน้ำมีนวลจากเมื่อก่อนมา
ช่วงเย็นบนโต๊ะอาหารระหว่างกินข้าวเวยอันได้พูดถึงเรื่องของนายพลคนใหม่กับพี่สาวของตัวเอง
"พี่เหม่ยหลิงคุณครูที่โรงเรียนบอกว่าวันนี้ไปงานเลี้ยงต้อนรับนายพลคนใหม่ ผมอยากเห็นจังว่านายพลคนใหม่จะเป็นยังไงจะแข็งแกร่งขนาดไหน หากได้พบผมจะถามว่าทำยังไงถึงจะได้เป็นท่านนายพลเหมือนเขา " เวยอันพูดจบคีบผัดผักใส่ชามข้าวก่อนจะนำเข้าปากเคี้ยว เหม่ยหลิงจำได้ว่าทศวรรษนี้ที่เธอเข้ามาอยู่เป็นยุคที่ทหารมีอำนาจมาก ไม่ว่าจะไปทางไหนผู้คนยังคงให้ความเคารพและเกรงกลัว
"คนใหญ่โตอย่างนั้นยากที่เราจะเข้าถึง หากเห็นก็คงไม่ได้เข้าใกล้หรอกนะคงมีลูกน้องคอยเดินประกบหน้าประกบหลัง หากว่าเวยอันอยากเป็นทหารจริง ๆ ต้องกินข้าวเยอะ ๆ ออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรงและตั้งใจเรียนเก่ง ๆ "
"อย่างนั้นวันนี้ผมขอเติมข้าวอีกชามได้มั้ยครับ" เด็กชายคลี่ยิ้มให้เธอพลางยื่นชามมาตรงหน้า เหม่ยหลิงยิ้มกริ่มก่อนจะจับชามของน้องชายมาตักข้าวเพิ่มให้เขา
"ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ไม่ว่าเวยอันจะกินกี่ชามพี่ย่อมทำให้กินได้เสมอ " ทั้งสองพี่น้องนั่งกินข้าวเย็นอย่างชื่นบานก่อนจะพากันแยกย้ายเข้านอน
ฝั่งด้านงานเลี้ยงฉลองที่อำเภอ
เพราะการเดินทางมายังที่หมู่บ้านแห่งนี้ไม่สามารถกะเวลาได้ทำให้นายพลคนใหม่ที่ย้ายมากว่าจะถึงก็เกือบจะบ่ายคล้อย ผู้ใหญ่นายอำเภอต่างพากันต้อนรับเป็นอย่างดีนายพลผู้นี้เป็นนายพลที่อายุยังไม่เยอะเพราะความสามารถของเขาไม่ว่าจะเป็นการเรียนหรือแม้แต่จะเป็นการปกครองผู้คนเขาสามารถจัดการได้เป็นอย่างดี ทำให้เขาไต่เต้ามาถึงจุดนี้ได้โดยง่ายอีกทั้งตระกูลของเขาเป็นนายทหารมาทุกรุ่น นายทหารผู้นี้มีชื่อว่านายพลเฟยอี้หาน บุตรชายคนเดียวของตระกูลเฟย เขาเคยผ่านการแต่งงานมาแล้วหนึ่งครั้งแต่ทว่าเมื่ออยู่กับภรรยาได้เพียงไม่นานภรรยาสุดที่รักของเขาได้มาจากไปจากโรคร้าย ทำให้เขาเสียใจและไม่คิดจะมองหญิงคนใหม่อีกเลยจนกระทั่งตอนนี้ก็สองปีแล้วที่เขาเป็นนายพลพ่อหม้าย แถมเขาเองก็ยังไม่มีลูกกับภรรยาเลยด้วยซ้ำหากไม่พูดก็ไม่มีผู้ใดรู้ว่าเขาเคยมีครอบครัวมาก่อน ด้วยใบหน้าที่คมเข้มหล่อเหลาเหล่าหญิงสาวมากมายต่างอยากเข้ามาใกล้ชิดส่งสายตาเย้ายวนแต่เขายังคงมีเพียงภรรยาของเขาอยู่ในใจไม่สนใจแม้ว่าผู้หญิงเหล่านั้นจะมาแก้ผ้าต่อหน้า
"นายพลเฟยอี้หาน ฉันนายอำเภอที่นี่ขอต้อนรับท่านและดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ท่านนายพลมาประจำการที่นี่ หากวันนี้ฉันต้อนรับไม่ดีต้องขอโทษด้วยนะครับ"
"นายอำเภอฉีไม่ต้องเป็นกังวลฉันไม่ใช่นายพลที่เรื่องมากอะไร ไม่ต้องมากพิธีเพราะฉันเป็นคนง่าย อย่างไรฉันเองต้องฝากเนื้อฝากตัวกับนายอำเภอด้วยนะครับ " อี้หานเอ่ยออกมาอย่างเป็นกันเองทำให้นายอำเภอที่ยืนตัวเกร็งคลายความกังวลลงบ้างเพราะนายพลคนก่อนทั้งบ้าอำนาจและเอาแต่ใจตัวเองหากผู้ใดทำไม่ถูกใจมักจะถูกลงโทษอยู่บ่อย ๆ โชคดีที่ทางการได้ย้ายเขาไปอยู่ที่อื่น
"อย่างนั้นไปดูบ้านที่เราจัดเตรียมไว้ให้กันเถอะครับ แม้จะไม่ใหญ่โตแต่ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างหวังว่าท่านนายพลจะพึงพอใจนะครับ " นายอำเภอฉีผายมือให้อี้หานเดินตามตนเองไปที่บ้านที่พวกเขาจัดเตรียมไว้ให้ บ้านหลังใหญ่พอสมควร เป็นที่พึงพอใจของอี้หานยิ่งนักเขาไม่ต้องการอยู่ที่ค่ายทหารจึงแจ้งทางการให้จัดเตรียมบ้านที่อยู่ปะปนกับชาวบ้านจะดีกว่า
เมื่อเดินดูรอบบ้านทุกคนต่างพากันมานั่งกินอาหารด้วยกัน อี้หานเห็นก้อนแป้งสีขาวคล้ายหมั่นโถวจึงได้หยิบมากิน ทันทีที่กัดเข้าปากเคี้ยวกินทำให้เขาชะงักเล็กน้อยรสชาตินี้นานเท่าไหร่แล้วที่เขาไม่ได้ลิ้มรส คล้ายรสชาติที่ภรรยาของเขาทำให้กินเมื่อครั้งที่เธอยังมีชีวิตอยู่ เธอเป็นคนชอบทำอาหารและชอบทำให้เขากินอยู่บ่อยครั้ง เขาดีใจที่ได้กินรสชาตินี้อีก เมื่อหมดหนึ่งลูกเขาได้หยิบลูกที่สองขึ้นมากิน ทำให้นายอำเภอสังเกตเห็นจึงได้เอ่ยถาม
"ดูท่าแล้วท่านนายพลคงจะชอบกินซาลาเปาสินะครับ คิดไม่ผิดเลยที่นำซาลาเปามาต้อนรับท่านนายพล ร้านนี้เลื่องลือแถมยังอร่อย อีกอย่างแม่ค้าร้านนี้ผมได้ยินมาว่าสง่างามแต่ว่าเคยผ่านการแต่งงานมาก่อน น่าเสียดายจริง ๆ" นายอำเภอถอนหายใจเมื่อพูดถึงเหม่ยหลิง ไม่ใช่แค่รสมือที่อร่อยแต่ทว่าใบหน้าของเธอก็งดงามไม่น้อย อี้หานสนใจซาลาเปาและอยากกินรสชาตินี้อีก หากกินตอนร้อน ๆ คงอร่อยกว่านี้
"นายอำเภอฉีพอบอกฉันได้มั้ยว่าร้านซาลาเปานี้อยู่ที่ไหน หากวันหน้าอยากกินอีกจะใช้ให้ลูกน้องไปซื้อมาให้"
"ร้านซาลาเปาอยู่หมู่บ้านอู่หลงหมู่บ้านถัดจากที่นี่ไปหนึ่งหมู่บ้านนะครับแต่ว่าหากอยากกินต้องรีบไปแต่เช้านะครับไม่งั้นคงไม่ได้กินแน่ ๆ ร้านนี้ขายดีรสชาติอร่อยถึงจะไร้ความร้อนแป้งก็ไม่แข็งทำให้ซาลาเปาร้านนี้ขายดิบขายดีครับ " เมื่ออี้หานได้ยินเขาคิดว่าต้องไปซื้อดูสักครั้ง ซาลาเปาของเธอทำให้เขาหวนคิดถึงรสชาติของภรรยาอยู่ไม่น้อย
ตอนพิเศษฟิ้ว ฟิ้ว ..สายลมพัดเย็นนะเยือกบ่งบอกว่าช่วงนี้เข้าสู่ฤดูหนาวร่างบางยืนทอดสายตาจ้องมองกลางเมืองยามค่ำคืนพลางกอดอกแน่น ชายร่างใหญ่เดินออกมาจากในตัวบ้านโผล่เข้ากอดเธอจากด้านหลังอย่างแนบชิด"ทำไมมาอยู่ตรงนี้ไม่หนาวหรือไง ช่วงนี้อากาศเริ่มเย็นแล้วรีบเข้าบ้านกันเถอะ" อี้หานกระซิบถามพร้อมบอกให้ภรรยาของตน"ฉันอยากมองดูดวงจันทร์อีกสักหน่อยเดี๋ยวอีกไม่กี่วันหิมะคงจะตกเมื่อนั้นดวงจันทร์ที่สวยงามคงไม่มีให้เห็น " ตั้งแต่แต่งงานมานี่ก็สามเดือนแล้ว เหม่ยหลิงมีความสุขเสียจนคิดว่านี่เป็นเพียงความฝัน"ดวงจันทร์ไม่เห็นจะน่ามองตรงไหน สู้ภรรยาของฉันก็ไม่ได้จริงสิวันนี้คุณพ่อกับคุณแม่โทรเลขมาอยากให้ลูกสะใภ้มีหลานให้อุ้มเร็ว ๆ จนท่านทั้งสองบอกให้เธอหยุดขายซาลาเปาและจะจ่ายค่าจ้างเพื่อให้เธออุ้มท้องด้วยล่ะ ภรรยาคนสวยของฉันคงไม่อยากให้ท่านทั้งสองผิดหวังหรอกใช่มั้ย? อย่างนั้นเราไปดูดวงจันทร์ต่อที่ห้องดีมั้ย ป่านนี้เวยอันคงหลับไปแล้วไม่มีใครมารบกวนแล้วนะ! " อี้หานกระซิบข้างหูอย่างแผ่วเบาพลางหอมแก้มของเธออย่างนุ่มนวล เธออายจนใบหน้าแดงระเรื่อรีบผลักเขาออกก่อนจะเดินหนีเข้าบ้าน"ไม่เอาฉันยังไม่พร้อมจะอุ้ม
บทที่ 35 แต่งงาน"ท่านนายพลมันจะเกินไปแล้วนะ แค่ผู้หญิงต้อยต่ำคุณปกป้องเธอถึงเพียงนี้เลยหรือ? เธอคงใช้ลีลาบนเตียงเก่งสินะ ไม่ว่าจะเป็นสามีฉันเหวินเทียนหรือแม้แต่คุณก็ยังติดใจเหม่ยหลิงคนนี้ เป็นผู้หญิงที่น่ารังเกียจจริง ๆ " ซิงเยียนที่ยืนฟังมานานเธอได้เอ่ยขึ้นด้วยความคับแค้นใจเพราะไม่ว่าจะเป็นเหวินเทียนหรือแม้แต่ท่านนายพลลุ่มหลงอะไรเธอนักหนา"นั่นสินะแต่ก็นับว่าเป็นโชคดีที่สามีเก่าของเหม่ยหลิงโง่เง้ายอมปล่อยคนดี ๆ อย่างเหม่ยหลิงหลุดมือ ฉันไม่สนใจว่าเหมยหลิงจะผ่านใครมาหรือว่าอดีตจะเป็นอย่างไรเพราะฉันเองก็มิใช่ชายที่บริสุทธิ์ฉันเคยผ่านการมีภรรยามาก่อนอย่างนี้เท่ากันว่าฉันกับเหม่ยหลิงเราเท่าเทียมกันแล้ว คุณหนูซิงเยียนลูกสาวคนเดียวเจ้าของโรงเย็บผ้าสินะ! จำไม่ผิดเมื่อไม่กี่วันก่อนส่งคนมาทำร้ายเหม่ยหลิงถึงบ้าน วันนั้นฉันใจเย็นเพราะเหม่ยหลิงห้ามเอาไว้ หากไม่มีเธอลูกน้องของคุณหนูคงไม่ได้กลับไปอย่างมีชีวิตอยู่ คงผยองใจที่ฉันไม่เอาเรื่องสินะ ไม่ว่าจะเป็นครั้งก่อนที่เหวินเทียนสามีเก่าบุกเข้ามาหวังข่มขืน หรือจะเป็นเรื่องซาลาเปาเน่า ๆ ที่มาใส่ร้ายและคอยมาตามรังแกเหม่ยหลิงไม่เลิกลา หากวันนี้ฉันจะเอา
บทที่ 34 ผู้หญิงไร้ค่าฝั่งด้านเหม่ยหลิงหลังจากที่เธอหยุดไปหลายวันเมื่อเปิดขายอีกครั้งทำให้ซาลาเปาของเธอขายดีเพราะลูกค้าประจำคิดถึงและอยากกินพากันซื้อไปคนละหลายลูก ตอนนี้เหม่ยหลิงกำลังเก็บกวาดร้าน เพราะขายซาลาเปาหมดแล้วจังหวะนั้นเองเธอสาดน้ำราดที่ถนนหน้าบ้านพอดีเป็นจังหวะเดียวกันที่สามคนแม่ลูกเดินเข้ามาหาเธอ พวกเธอร้องกรี๊ดเสียงดังต่อว่าเหม่ยหลิงขับไล่"กรี๊ด!! อะไรของเธอกันช่างไร้มารยาท" เหม่ยหลิงมองทั้งสามพลางถอนหายใจทำไมคนพวกนี้ยังมาวุ่นวายอีก เธออุตส่าห์ไม่ไปเอาเรื่องซิงเยียนที่ส่งคนมาทำร้ายเธอแต่วันนี้ทั้งสามพากันเดินมาหาเธออย่างพร้อมหน้าดูก็รู้แล้วว่าต้องมาหาเรื่องแน่นอน"อะไรกันเดินมาไม่ดูเองยังหาว่าฉันเป็นคนทำอย่างนั้นหรือ? ถามชาวบ้านที่เดินไปมาแถวนี้สิว่าเมื่อครู่ฉันตั้งใจจะทำอย่างนั้นหรือพวกคุณเดินมาไม่ดูเอง วันนี้ตอนแรกก็อากาศแจ่มใสดีอยู่ทำไมตอนนี้เริ่มมืดครึ้มไปเสียแล้วล่ะ เป็นอย่างนี้ทำให้ฉันอารมณ์ไม่ดีเอาเสียเลย " เหม่ยหลิงทำเป็นไม่สนเดินถือกระถังน้ำเข้าบ้าน ลู่หลินทนไม่ไหวคว้าตัวเธอเอาไว้พร้อมกระชากผมของเธอเต็มแรง"นี่แกกล้าทำกับพวกฉันแบบนี้เหรอ? หลายครั้งมาแล้วที่ฉันไม
บทที่ 33 มีดีอะไรนักหนาทั้งสามมาถึงบ้านของลุงจ่าวทันทีที่ป้าเสี่ยนเห็นหน้าของอี้หานก็จดจำได้ทันทีนี่นายทหารที่เห็นวันนั้นเธอยิ้มกริ่มจ้องมองใบหน้าของเหม่ยหลิง วันนี้เธอคงพาเขามาเปิดตัวสินะ เมื่อเธอจะเอ่ยถามแต่ก็ถูกเหม่ยหลิงกระซิบกระซาบเสียก่อน“ฉันรู้นะว่าป้าคิดอะไรอยู่ แต่ไม่ได้เป็นอย่างที่ป้าคิดหรอกนะ เวยอันชื่นชอบนายพลผู้นี้มาจึงชักชวนเขามาด้วยฉันขัดไม่ได้จึงยอมให้เขามาด้วยเท่านั้น”“ป้ายังไม่ได้ว่าอะไรเลยมีเพียงแค่เวยอันหรอกหรือที่ชื่นชอบท่านนายพลป้าคิดว่าอาเหม่ยก็ชอบเหมือนกันซ่ะอีก ฮ่า ฮ่า ท่านนายพลเชิญเข้ามาด้านในเลยค่ะวันนี้คงเป็นวันเกิดที่ดีที่สุดของสามีฉันแล้วที่มีนายพลผู้ยิ่งใหญ่มาร่วมงาน” ป้าเสี่ยนพูดจบได้เดินจากเหม่ยหลิงไปหาอี้หานเชิญเขาเข้าไปในบ้านปล่อยให้เหม่ยหลิงยืนหน้าแดงอยู่เพียงลำพังทุกคนร่วมกันกินอาหารเย็นกันอย่างสุขสันต์จนถึงเวลาเอ่ยคำอวยพรและมอบของขวัญให้ และพากันแยกย้ายกลับบ้าน อี้หานสั่งให้ลูกน้องชุดเดิมกลับไปพักและสลับเปลี่ยนอีกชุดมาเฝ้าที่หน้าบ้านของเหม่ยหลิง ใจจริงเขาเองอยากจะอยู่เฝ้าเธอแต่จะทำให้เธอลำบากใจจึงทำได้เพียงให้ลูกน้องมาเฝ้าดูแลความปลอดภัยให้2 ว
บทที่ 32 พี่ชอบพี่สาวฉันจริง ๆ ใช่มั้ยเขาค่อย ๆ ทายาให้เหม่ยหลิงอย่างเบามือเธอจ้องมองความอ่อนโยนที่เขามอบให้ เขาเป็นคนเดียวเมื่อไหร่ที่เธอพบเจอกับเรื่องอันตรายจะเข้ามาช่วยไว้ได้เสมอ เมื่อมีเขาอยู่เคียงข้างหัวใจของเธออบอุ่นทุกครั้ง ความหวาดกลัวที่มีทั้งหมดได้หายไป"ขอบคุณนะคะที่เข้ามาช่วยเหลือฉันทุกครั้งที่ฉันตกอยู่ในเหตุการณ์อันตราย หากไม่มีคุณฉันคงไม่รู้จะทำอย่างไรเลย ""ไม่เห็นจะต้องขอบคุณหลายครั้งเลย คงเป็นโชคชะตาที่ลิขิตมาให้เราได้พบเจอกัน ตอนนี้รู้สึกดีแล้วใช่มั้ยฉันขอออกไปคุยกับลูกน้องสักครู่นะ" เหม่ยหลิงพยักหน้าให้อี้หาน เขาเดินออกมาด้านนอกสั่งการให้ลูกน้องไปสืบประวัติสามีเก่าของเหม่ยหลิงรวมถึงซิงเยียนที่เป็นคนสั่งการให้คนมาทำร้ายเหม่ยหลิงอีกด้วย เมื่อสั่งการเสร็จเขาได้เดินเข้ามาหาเหม่ยหลิงด้านในเห็นเธอกำลังเก็บของที่หล่นลงบนพื้นที่ซื้อมาจากตลาดอย่างทุลักทุเลจึงนั่งลงช่วยเธอเก็บของ"มาให้ฉันช่วย ซื้อของมาเยอะขนาดนี้จะขายซาลาเปาพรุ่งนี้ใช่มั้ย? แขนเจ็บแบบนี้คงนวดแป้งไม่ได้แน่ ๆ ว่าแต่ของนี่คืออะไร"เขาเก็บของหันไปเห็นของมีค่าคล้ายซื้อไว้เก็บสะสมนิยมมอบให้ผู้ใหญ่ที่นับถือ"อ้อ...
บทที่ 31 เป็นเขาอีกแล้วที่ช่วยเหลือเมื่อมาถึงหน้าประตูเหม่ยหลิงวางของไว้ที่โต๊ะหน้าบ้านก่อนจะไขกุญแจเปิดโดยมีชายคนนั้นคอยเดินตามหลังติด ๆ ทันทีที่เธอเปิดประตูเหม่ยหลิงคว้าไม้ถูพื้นฟาดใส่หัวของชายคนนั้นทำให้เขาได้รับบาดเจ็บทำให้เขาโมโหผลักกายของเหม่ยหลิงจนล้มกับพื้น"โอ๊ย!!! นี่เธอกล้าลงมือกับฉันอย่างไม่หวาดกลัวเลยอย่างนั้นหรือตอนแรกตั้งใจแค่มาข่มขู่แต่ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ต้องทำให้เธอเจ็บกว่าฉัน""อึก! ฉันไปทำอะไรให้ทำไมต้องมาทำฉันแบบนี้อยากได้อะไรก็เอาไปเลย" เหม่ยหลิงเจ็บแขนเพราะถูกผลักจนล้มถลาลงทับแขนตัวเอง ความหวาดกลัวเริ่มก่อตัวขึ้นแววตาของชายที่อยู่ตรงหน้าเริ่มเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เขาอาฆาตจนเหม่ยหลิงคิดว่าหากเธอสู้ไม่ไหวหรือไม่มีใครช่วยเธอได้วันนี้เธอคงได้ตายอีกครั้งแน่ ๆ คนเดียวที่เธอคิดถึงกลับเป็นอี้หาน เฝ้าภาวนาในใจให้เขามาช่วยเธอ"เธอไม่เคยทำอะไรให้ฉันแต่เป็นคุณหนูของฉันต่างหากที่เธอไปก่อกวนให้รำคาญใจ ไม่พูดมากมานี่ซ่ะดี ๆ ฉันจะจัดการให้เธอเจ็บน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้เอง" เขาขึ้นคร่อมร่างของเหม่ยหลิงก่อนที่จะยกมือที่ถือมีดขึ้นเพื่อแทงเข้าที่หน้าอกของเธอ เหม่ยหลิงหัวใจเต้นร