Share

ตอนที่ 13 ปลอบโยน

last update Last Updated: 2025-04-30 19:17:28

หยางฉิงยิ้มเย็นในใจ ‘สิ่งที่ข้าทำไว้คงออกฤทธิ์แล้วสินะ’ นางกล่าวเสียงเรียบ “ท่านแม่กล่าวหาอะไรข้ากัน? คนที่ควรจ่ายเงินควรเป็นท่านแม่มากกว่า เพราะลูกสาวสุดที่รักของท่านแม่มาทำร้ายข้าถึงหน้าบ้าน จนปากข้ามีเลือดออก หน้าข้าก็มีรอยแดงจากนิ้วมือของลูกท่าน ชาวบ้านทุกคนเห็นกันทั่ว ว่าใครเป็นฝ่ายถูกกระทำ”

จางเฟิงโต้กลับด้วยความโมโห “เจ้าเป็นลูกสะใภ้ ไม่ว่าลูกหรือครอบครัวแม่สามีจะทำอะไรกับเจ้าก็ได้ทั้งนั้น! ตั้งแต่วันที่ลูกข้าตบตีกับเจ้า นางก็เจ็บท้องอย่างหนัก! ถ้าไม่ใช่เจ้าทำ แล้วใครจะทำ!”

หลี่เซิงที่ฟังสองคนทะเลาะกัน รู้สึกปวดหัวหนักขึ้น เขาคิดในใจว่าทำไมแม่ของเขาถึงได้เป็นแบบนี้ ทั้งที่เขายอมแยกบ้าน ยอมยกเงินทั้งหมดที่เขามีให้แม่ เพื่อแลกกับที่ดินผืนนี้เพียงอย่างเดียว และเขาก็ไม่เคยไปรบกวนบ้านหลักเลยแม้แต่ครั้งเดียว

“ท่านแม่มาที่นี่ ท่านพ่อรู้หรือไม่? ถ้าเรื่องนี้รู้ถึงหูชาวบ้าน ท่านแม่คิดว่าจะหาใครมาแต่งงานให้พี่หลี่เจิงได้อีกหรือ? ท่านแม่ลองคิดดูให้ดี ถ้าไม่อยากโดนท่านพ่อว่า” เขาเอาท่านพ่อมาอ้าง เพราะรู้ว่าท่านแม่กลัวท่านพ่อที่สุด

จางเฟิงได้ฟังที่หลี่เซิงพูด นางก็รู้สึกกลัวขึ้นมา ถ้าชาวบ้านรู้ คนที่นางหาให้แต่งกับลูกสาวต้องไม่แต่งแน่ ถ้าหลี่เจิงไม่ได้แต่งกับคนนี้ พ่อของนางจะจับนางแต่งงานกับพ่อม่าย

จางเฟิงยืนกำมือแน่น ตาของนางเบิกโพลงด้วยความโกรธ “หึย!” นางโมโหมากที่ทำอะไรไม่ได้ในตอนนี้

“จำไว้ ต่อไปนี้ถ้าพวกเจ้าจะเป็นจะตายก็ไม่ต้องมาเรียกข้า!” จางเฟิงพูดจบกำลังจะเดินออกไป ยังไม่ทันพ้นประตูดี นางก็ได้ยินเสียงดังไล่หลังมา

“ข้าจะเป็นจะตาย ท่านแม่เคยสนใจข้าด้วยหรือ? ต่อจากนี้ท่านแม่ก็อย่ามาที่นี่อีกเลย ถือว่าลูกชายคนนี้ของท่านตายไปเสียเถอะ!”

จางเฟิงได้ยินเสียงของหลี่เซิง นางหยุดเท้าที่กำลังเดินด้วยใจที่รู้สึกสับสน แต่เพียงครู่เดียว นางก็เดินออกไปโดยไม่หันกลับมามองทั้งสองคนอีก

หยางฉิงเห็นบรรยากาศเศร้าหมองของครอบครัวหลี่เซิง นางรู้สึกสงสารเขา แต่ทันทีที่นางหันไปเห็นบาดแผลของหลี่เซิงที่มีเลือดไหลออกมา นางรีบพูดขึ้น

“ท่านทำไมถึงเป็นแบบนี้? ทำไมไม่ระวังตัวเองเสียบ้าง! ข้าจะไปเอายามาทำแผลให้ท่าน ส่วนเรื่องที่ท่านแม่พูดก็อย่าได้เก็บมาใส่ใจเลย” นางพูดจบก็เดินออกจากห้องไป

หลังจากหยางฉิงเดินออกไป หลี่เซิงก็นั่งนิ่ง จมอยู่กับความคิดของตัวเอง ‘อย่างที่นางบอก เขาควรปล่อยวางได้แล้ว ทุกคนมีชีวิตเป็นของตัวเอง’

หยางฉิงกลับไปที่คอนโด หยิบสิ่งของที่ใช้ทำแผลออกมา แม้รูปลักษณ์ของมันจะดูแปลกตาไปบ้าง แต่ก็ดีกว่าให้แผลของเขาติดเชื้อ นางได้เตรียมอุปกรณ์มาครบแล้ว จากนั้นจึงเดินกลับไปยังห้องของหลี่เซิง

“ข้ามาแล้ว ท่านเจ็บแผลหรือไม่?” หยางฉิงนั่งลงข้างเตียง แกะผ้าพันแผลออกจนหมด เมื่อเห็นว่าเลือดไหลออกมาไม่มาก นางก็โล่งใจ

“ยังดีที่แผลของท่านไม่เป็นอะไรมาก เลือดก็ออกไม่เยอะ แถมรอบ ๆ บาดแผลก็ยุบลงแล้ว แสดงว่ายาที่ท่านหมอให้มานั้นเห็นผลดี” นางก้มหน้าทำแผล พร้อมอธิบายให้เขาฟัง

หลี่เซิงนั่งอยู่บนเตียงอย่างสงบนิ่ง เขามองดูท่าทางเอาใจใส่ของนางแล้วรู้สึกดีกับนางมากขึ้นไปอีก เขาคิดว่า หากขาเขาเดินได้ เขาคงปกป้องนางได้มากกว่านี้

“ข้าจะล้างแผล อาจจะแสบนิดหน่อยนะ” หยางฉิงใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์เช็ดรอบ ๆ บาดแผล จากนั้นใช้สำลีชุบน้ำเกลือเช็ดซ้ำอีกครั้ง นางไม่ได้ใส่ยา เพราะต้องรอให้บาดแผลติดกันดีก่อน จากนั้นจึงพันแผลที่ขาเขาจนเสร็จ

“ข้าทำแผลเสร็จแล้วนะ ระวังแค่อย่าให้โดนน้ำก็พอ” นางพูดพร้อมเงยหน้ามองหลี่เซิง และสบตาเขาพอดี นางรู้สึกเหมือนเขาสังเกตนางอยู่ตลอด นางทำตัวไม่ถูก หน้านางร้อนขึ้นโดยไม่รู้ตัว

“ข้าไปทำอาหารให้ท่านกินดีกว่า” นางรีบเสมองไปทางอื่นเพื่อหลบสายตาเขา ไม่รอให้เขาตอบ นางรีบเดินออกจากห้องทันที

เมื่อมาถึงคอนโด นางเอามือจับที่หัวใจตัวเอง ‘ทำไมถึงได้เต้นเร็วขนาดนี้กันเนี่ย’ นางคิดในใจ อาจจะเพราะตกใจจึงเป็นเช่นนั้น หยางฉิงยกมือเรียวตบหน้าตัวเองเบา ๆ เพื่อเรียกสติ ก่อนจะจัดอุปกรณ์ทำแผลให้เรียบร้อย

วันนี้นางตั้งใจทำอาหารปลอบใจหลี่เซิง นางเปิดตู้เย็น พบเส้นก๋วยเตี๋ยวสองถุงที่ยังไม่ได้กิน นางเทน้ำซุปลงหม้อ ตั้งไฟให้เดือด แล้วใส่เส้นบะหมี่ขาวลงในถ้วย

พอน้ำซุปเดือด นางเทมันลงบนเส้นที่เตรียมไว้ จากนั้นต้มไข่สี่ฟอง โดยให้ไข่ข้างในยังไม่สุกดี นางผ่าไข่เป็นสองซีก จัดใส่จานอย่างสวยงาม เติมหมูชิ้นเพิ่มเข้าไป เพราะนางเชื่อว่าการกินของอร่อยจะช่วยให้คนสบายใจขึ้น ‘ฝีมือของเราก็ดูน่ากินเหมือนกันนะเนี่ย’ หลี่เซิงกินคงทำให้อารมณ์ดีขึ้น

เตรียมของทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว หยางฉิงก็นำถ้วยก๋วยเตี๋ยวของหลี่เซิงไปให้ถึงในห้องนอน

หลี่เซิงตอนนี้ดูดีขึ้นมาก หลังจากได้ฟังคำพูดปลอบใจของหยางฉิง กลิ่นหอมจากอาหารลอยเข้ามาถึงหน้าประตูห้อง เขาสงสัยว่าวันนี้นางทำอะไรมาให้กิน เพราะกลิ่นหอมน่าลิ้มลองยิ่งนัก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าอาหารฝีมือของนางอร่อยทุกอย่าง

หยางฉิงเคาะประตูเบา ๆ ก่อนจะเดินเข้ามา ในมือของนางถือถ้วยก๋วยเตี๋ยวขนาดใหญ่ที่หามาได้จากในครัว

“ข้ามาแล้ว ท่านหิวมากหรือไม่ วันนี้ข้าทำอาหารสุดฝีมือเลยนะ เขาว่าการกินอาหารอร่อยจะช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น ท่านลองกินดูสิว่าอร่อยหรือยังขาดอะไรอีกหรือเปล่า” นางวางถ้วยอาหารไว้บนโต๊ะเล็กข้างตัวเขา

หลี่เซิงมองถ้วยอาหารในมือของนาง มันเป็นหมี่น้ำ แต่หน้าตาดูแตกต่างจากที่เขาเคยกิน ด้านบนมีทั้งเนื้อและไข่ ดูน่ากินจนอดไม่ได้ที่จะลองชิม

เขาตักก๋วยเตี๋ยวขึ้นมากิน พร้อมกับสายตาที่เหลือบมองหยางฉิงซึ่งจ้องเขาอยู่ไม่ห่าง

“ของเจ้าไม่มีหรือ?” เขาไม่ชอบให้ใครมานั่งจ้องตอนเขากินแบบนี้

“ของข้าก็มีเหมือนกัน” นางตอบพร้อมรอยยิ้ม “แต่ข้าก็แค่อยากรู้ว่าท่านกินแล้วถูกใจหรือไม่”

“ถ้าเจ้าคอยมองข้ากินเช่นนี้ ข้าก็คงไม่กล้ากิน ถ้าอย่างไร เจ้าก็เอาอาหารของเจ้ามากินพร้อมข้าดีกว่า” เขาพูดพลางรู้สึกเกือบหลุดปากว่าเหงา

“ข้ามากินพร้อมท่านได้หรือ? ท่านกินคนเดียวคงจะไม่อร่อยสินะ ถ้าอย่างนั้นข้าจะไปเอาของข้ามากินด้วย” หยางฉิงเดินกลับไปในครัว หยิบถ้วยก๋วยเตี๋ยวของนาง และนำจานใส่พริกกับน้ำตาลติดมือมาด้วย

“ข้ามาแล้ว ท่านชอบกินรสเผ็ดไหม?” นางถามด้วยความตื่นเต้น เพราะนางเป็นคนชอบกินเผ็ด

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติทั้งทีดันมีสามีเป็นผู้พิการ   ตอนที่ 74 ตบแต่งร้าน

    “เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่หรือ?”หยางฉิงได้สติกลับมา “ไม่มีอะไรหรอก” นางไม่อยากบอกความในใจให้เขาไม่สบายใจในเมื่อนางไม่พูด เขาก็ไม่เซ้าซี้ถามอะไรต่อ ยิ่งคุยเรื่องนี้ในโรงเตี๊ยม ยิ่งเสี่ยงอันตราย“ถ้าเจ้าไม่กินแล้ว เรากลับบ้านกันดีกว่า”หยางฉิงพยักหน้า นางเองก็ไม่อยากอยู่ที่นี่อีกแล้ว นางกินอาหารที่นี่ไม่ลงจริง ๆหลี่เซิงจ่ายเงินค่าอาหาร แล้วสั่งให้ทางโรงเตี๊ยมห่ออาหารทุกอย่างบนโต๊ะกลับไป แม้เขาจะกินไม่ได้ แต่ที่บ้านยังมีสัตว์ที่กินได้ก่อนออกจากเมือง หยางฉิงบอกให้หลี่เซิงหยุดรถแวะซื้อบ๊วยสดกับเกลือ นางซื้อมาค่อนข้างมาก แต่ไม่ได้บอกว่าเอาไปทำอะไร เมื่อซื้อเสร็จ ทั้งสองก็เดินทางกลับบ้าน...“หยางฉิง เจ้าหิวมากหรือไม่? เจ้ายังไม่ได้กินอะไรเลยไม่ใช่หรือ?” หลี่เซิงเอ่ยถามด้วยความกังวล กลัวว่านางจะหิวก่อนถึงบ้าน“ถ้าอย่างนั้น ท่านหยุดรถแอบไว้สักครู่เถอะ ข้าจะเข้าไปในมิติเพื่อทำก๋วยเตี๋ยวให้ท่านกิน ใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่”หลี่เซิงพยักหน้า หาที่ปลอดภัยแล้วหยุดรถ รอให้นางเข้าไปในมิติ ไม่นานนัก นางก็ออกมาพร้อมก๋วยเตี๋ยวกลิ่นหอมกรุ่น แค่ได้กลิ่นก็ทำให้เขาน้ำลายสอ“ดีที่ในตู้เย็นมีก๋วยเตี๋ยวอยู่พอดี จึง

  • ทะลุมิติทั้งทีดันมีสามีเป็นผู้พิการ   ตอนที่ 73 บังเอิญ

    แต่หากเลือกได้ นางยังคงชอบบ้านที่อยู่ในสวนมากกว่า นางไม่ค่อยถูกใจกับการใช้ชีวิตในเมือง แม้ว่ามันจะสะดวกสบายกว่าก็ตามนางจึงหันไปถามความเห็นของหลี่เซิง หากเขาชอบอยู่ในเมือง นางก็จะอยู่กับเขา“หลี่เซิง ท่านคิดว่าที่นี่ดีหรือไม่?” นางถามพลางลอบสังเกตสีหน้าเขาหลี่เซิงนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตอบ “ข้าชอบบ้านสวนของเรามากกว่า ถึงที่นี่จะเจริญก็จริง แต่ข้ารู้สึกว่ามันวุ่นวาย ไม่สงบร่มเย็นเหมือนบ้านของเรา”‘เขาคิดเหมือนข้า’ นางพึมพำในใจโลกก่อนที่นางจากมา นางเคยใช้ชีวิตอยู่ในเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย บางที การมีชีวิตอยู่ถึงสองชาติอาจทำให้นางโหยหาความสงบก็เป็นได้...นางหันไปยิ้มให้เขา “ข้าก็ชอบบ้านสวนของเราเช่นกัน เอาไว้ถ้าพวกเราเก็บเงินได้ ค่อยสร้างบ้านหลังใหม่ดีหรือไม่? สร้างเผื่อลูกน้อยของเราด้วยเลย”แล้วนางก็เอียงคอถามเขา “ท่านอยากมีลูกกี่คน?”หลี่เซิงเดินไปจับมือนาง มองด้วยสายตาลึกซึ้ง “เจ้าอยากมีกี่คนก็ได้ทั้งนั้น ข้าไม่เหนื่อยอยู่แล้ว ถ้าเจ้าอยากมีสักห้าคน ข้าก็ยินดี”เขายิ้มเจ้าเล่ห์ หยอกล้อนางหยางฉิงฟังแล้วก็อดหมั่นไส้ไม่ได้ นางตีแขนเขาเบา ๆ “ท่านเห็นข้าเป็นแม่วัวหรืออย่างไร

  • ทะลุมิติทั้งทีดันมีสามีเป็นผู้พิการ   ตอนที่ 72 วางแผน

    หลี่เซิงจึงพูดขึ้นมา “ทำสัญญาวันนี้เลยก็ดี เราจะได้เริ่มปรับปรุงร้านได้เร็วขึ้น ร้านนี้เจ้าเป็นคนซื้อ เป็นชื่อเจ้าถูกต้องแล้ว ภรรยา” เขาพูดพร้อมกับลูบอกตัวเองเบา ๆหยางฉิงยิ้มมุมปาก ‘เขานี่ช่างเอาตัวรอดเก่งซะจริง’“เรื่องย้ายโฉนดที่ดิน ข้าต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง?” นางเลิกสนใจหลี่เซิง แล้วหันไปพูดกับนายหน้าขายที่ดินแทน“ท่านเพียงแค่จ่ายเงินเพิ่มอีกห้าตำลึงทองเพื่อดำเนินการออกโฉนดที่ดิน เดี๋ยวข้าจะจัดการย้ายชื่อให้ พวกท่านสามารถไปจ่ายเงินที่สำนักทะเบียนที่ดินได้เลย” เขาอธิบายอย่างละเอียด วันนี้เขาช่างโชคดีที่ได้พบเจอคนซื้อง่ายหลี่เซิงยิ้ม ก่อนจะเดินไปหานายหน้าพร้อมยื่นถุงเงินให้ “ข้าขอฝากเรื่องนี้กับท่านด้วย”เงินห้าตำลึงเงินถูกส่งไป นายหน้ารับถุงเงินมา เขย่าดูเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มอย่างพอใจ ‘เงินไม่น้อยเลย’ เขานึกในใจ แล้วตอบกลับไปด้วยอารมณ์ดี “ข้าจะรีบไปดำเนินการออกโฉนดให้พวกท่านเดี๋ยวนี้”จากนั้น ทั้งสามคนก็นั่งรถเกวียนวัวกลับไปยังสำนักทะเบียนที่ดินอีกครั้ง หยางฉิงเข้าไปดำเนินการจ่ายเงิน ไม่นานก็ได้รับโฉนดที่ดินของร้านค้า ซึ่งเป็นชื่อของนางเรียบร้อยแล้วโฉนดนี้มีสองฉบับ ฉบับจริงอยู่กั

  • ทะลุมิติทั้งทีดันมีสามีเป็นผู้พิการ   ตอนที่ 71 ซื้อร้านค้า

    หยางฉิงพยักหน้าเบา ๆ รู้สึกใจชื้นขึ้นเมื่อได้ยินเสียงปลอบโยนจากหลี่เซิงไม่นานก็ถึงคิวของพวกเขา ทั้งสองเดินเข้าไปด้านใน พบว่ามีเจ้าหน้าที่นั่งอยู่สองคน คนหนึ่งเป็นผู้ช่วย ส่วนอีกคนเป็นหัวหน้า สังเกตได้จากการแต่งตัวที่แตกต่างกันเจ้าหน้าที่เหลือบมองทั้งสอง ก่อนเอ่ยถามโดยไม่รีรอ“พวกเจ้าต้องการเช่าหรือซื้อ?”หลี่เซิงเป็นคนตอบ “ข้ามาซื้อร้านค้าขอรับ”เจ้าหน้าที่มองพวกเขาเต็มตาขึ้น ก่อนพยักหน้าให้ผู้ช่วยอีกคน“ในเมืองยังมีร้านค้าว่างอยู่หลายแห่ง พวกเจ้าต้องการให้นายหน้าพาไปดู หรือจะดูแค่โฉนดที่ดิน? แต่หากต้องการให้พาไปดู เจ้าต้องจ่ายสามตำลึงทอง”หยางฉิงคิดว่าการได้เห็นหน้าร้านจริง ๆ น่าจะดีกว่า นางจึงบอกให้หลี่เซิงจ่ายเงินห้าตำลึงทองหลี่เซิงที่เตรียมเงินไว้แล้ว จึงทำตามที่นางต้องการ“ข้าน้อยอยากไปดูหน้าร้านขอรับ” เขายื่นถุงเงินสองถุงออกไป “เป็นค่านายหน้าและค่ารบกวนเวลาของนายท่านขอรับ”เจ้าหน้าที่รับถุงเงินมา ก่อนแบ่งอีกหนึ่งถุงให้ผู้ช่วยนำไปจ่ายค่านายหน้า จากนั้นจึงหันมาพูดกับทั้งสองด้วยท่าทีเป็นมิตรขึ้นเล็กน้อย“พวกเจ้าออกไปรอหน้าห้อง จะมีเจ้าหน้าที่พาไปดูร้านค้า” พูดจบก็โบกมือไล่พวกเขา

  • ทะลุมิติทั้งทีดันมีสามีเป็นผู้พิการ   ตอนที่ 70 ประกาศจากผู้ใหญ่บ้าน

    นางเดินนำทุกคนไปด้านหลังบ้านดีที่ก่อนหน้านี้นางเก็บเจ้าตัวแสบทั้งหลายเข้าไปในมิติแล้ว ตอนนี้จึงไม่มีอะไรให้ต้องกังวลหลี่จงเดินตามแนวลำธารมายังสวนหลังบ้านของหลี่เซิง เมื่อเห็นภาพตรงหน้าก็ตาโตด้วยความตกตะลึงเขาไม่คิดเลยว่าด้านหลังบ้านของหลี่เซิงจะเขียวชอุ่มขนาดนี้!“ดินที่บ้านเจ้าคงดีมากจริง ๆ ถึงได้ปลูกผักผลไม้ได้งอกงามขนาดนี้” เขาอดไม่ได้ที่จะถามออกไปหลี่อี้เหลือบมองต้นมะพร้าวที่ขึ้นเป็นแถวสูงเพียงไม่มากนัก‘ต้นมะพร้าวที่ข้าให้นาง สูงแค่นี้เองหรือ?’ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นพวกมันขึ้นจริง ๆหลี่เซิงมองเพื่อนของเขาพลางยิ้มขำ คงจะตกใจไม่น้อย“นี่คือต้นมะพร้าวที่ข้าได้มาจากเจ้า ข้าได้นำมันมาขยายพันธุ์จนเติบโตหมดแล้ว” เขาอธิบายให้ทั้งสองคนฟังหยางฉิงจึงเสริมขึ้น “ที่พวกท่านเห็นอยู่ตรงนี้เป็นผักและผลไม้ที่เจริญเติบโตได้เร็วเมื่ออยู่ในดินที่ดี ข้าปลูกข้าวไม่เป็น จึงเลือกปลูกแต่พืชผักผลไม้ที่ให้ผลตลอดปี อีกทั้งที่บ้านของข้า ดินก็ดีและมีแม่น้ำไหลผ่าน ทำให้สามารถปลูกพวกมันให้มีรสชาติอร่อยได้ แต่ก็ใช่ว่าใครจะปลูกขึ้นง่าย ๆ ทุกอย่างต้องอาศัยการดูแลหลายอย่าง”นางหันไปมองหลี่อี้กับลุงผู้ใหญ

  • ทะลุมิติทั้งทีดันมีสามีเป็นผู้พิการ   ตอนที่ 69 หาทางออกร่วมกัน

    หยางฉิงเหลือบมองหลี่เซิง ก่อนจะหันกลับมาสบตาผู้ใหญ่บ้าน นางพอจะเดาได้อยู่แล้วว่าต้องเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น เพียงแต่ไม่คิดว่าชาวบ้านจะให้ผู้ใหญ่บ้านเป็นคนออกหน้ามาเจรจาแทน“แล้วพวกเขาต้องการสิ่งใดหรือ?” นางเอ่ยถามพลางเอียงคอเล็กน้อย “ผลไม้ที่ข้าปลูกมีมากมายนัก พวกเขาสนใจอยากปลูกชนิดไหน? หรือว่าอยากปลูกทั้งหมด?”หลี่จงกลืนน้ำลายลงคอโดยไม่รู้ตัว ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าหยางฉิงในตอนนี้ช่างน่าเกรงขามนัก...“เอ่อ...พวกชาวบ้านอยากได้วิธีปลูกต้นมะพร้าวของเจ้า และอยากขอพันธุ์ต้นมะพร้าวคนละหนึ่งลูก" เขากล่าวเสียงเบา "แต่ถ้าเจ้าลำบากใจก็ไม่เป็นไร...”หลี่เซิงฟังแล้วถึงกับอดทนไม่ไหว เขากล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ“เหตุใดชาวบ้านพวกนั้นถึงได้เห็นแก่ตัวเช่นนี้? พวกข้าต้องใช้ความพยายามและความอดทนมากกว่าจะสร้างทุกอย่างขึ้นมาได้ แล้วพวกเขายังอยากให้ข้าช่วยถึงเพียงนี้อีก? ข้าคงให้ไม่ได้!” คำพูดของผู้ใหญ่บ้านในวันนี้ทำให้เขารู้สึกขัดหูนักหยางฉิงเอื้อมมือไปแตะแขนหลี่เซิงเบา ๆ เมื่อหลี่เซิงหันมามอง นางก็ส่ายหน้าให้เป็นเชิงบอกว่าไม่เป็นไร“ข้ารู้ว่าท่านลุงผู้ใหญ่บ้านเองก็ไม่ได้เต็มใจมาหาข้าเท่าไรนัก หากไม่ใช่เ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status