แชร์

บทที่ 103 เผ่ากระต่าย (ครึ่งแรก)

ผู้เขียน: ฮาจิฮาจิ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-27 10:10:48

บทที่ 103

เผ่ากระต่าย (ครึ่งแรก)

            ตอนขากลับ โจวหวังเยว่หอบหิ้วสินค้าขึ้นรถม้าเต็มสองมือ  

            ส่วนกงเยียนซูซื้อใบชากลับไปเหมือนอย่างเคย

            ตลอดเวลาที่อยู่กับลู่ซินฟาง สายตาของกงเยียนซูแสดงออกถึงความรักใคร่อย่างไม่คิดจะปิดบัง ทำเอาคนที่เห็นถึงกับเอียนความหวานกันเป็นแถว 

            รถม้าเคลื่อนตัวออกไปไกลแล้ว แต่ลู่ซินฟางยังยืนอยู่ที่เดิม

            ใกล้จะถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์แล้วสินะ…

            หญิงสาวคิดอย่างสับสน

            ไม่ใช่ว่าไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับเทศกาลไหว้พระจันทร์ จริงอยู่ที่ลู่ซินฟางในอดีตสูญเสียครอบครัวตั้งแต่อายุยังน้อย แต่ในขณะเดียวกัน ตั้งแต่ได้รับมิติมา ลู่ซินฟางมักจะจัดเลี้ยง งานเทศกาล และงานสังสรรค์อื่นๆ กับภูตหลินและเหล่าสัตว์อสูร

            ปีนี้กงเยียนซูชวนเที่ยวงานเทศกาลด้วยกัน นางที่ไม่เคยปฏิสัมพันธ์หรือเที่ยวเล่นกับคนอื่นมาก่อน อดรู้สึกสับสนไม่ได้จริงๆ 

            “เสียดายที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันให้นานอีกหน่อยหรือขอรับ” หลางไป๋เห็นลู่ซินฟางเอาแต่ยืนเหม่อตั้งแต่รถม้าของกงเยียนซูเคลื่อนออกจากหน้าร้าน เห็นแล้วก็อดจะพูดกระเซ้าเย้าแย่ไม่ได้ 

            หญิงสาวมุ่นหัวคิ้วทันทีทันใด  

            “ไม่ใช่สักหน่อย”

            “ทำหน้าเช่นนั้น นายหญิงกำลังกลุ้มใจอะไรอยู่หรือ”

            ลู่ซินฟางหลุบตามองบนพื้น แก้มขึ้นสีแดงเรื่อเหมือนกำลังเขิน “กงเยียนซูชวนข้าเที่ยวงานเทศกาลไหว้พระจันทร์น่ะสิ”

            หลางไป๋กะพริบตาถี่อย่างไม่เข้าใจ “ท่านกงมีใจให้กับนายหญิง ชวนท่านเที่ยวงานเทศกาล ก็เรื่องปกติไม่ใช่หรือขอรับ”

            “ปกติก็ใช่อยู่ แต่…”

            “ถ้านายหญิงไม่อยากไป เหตุใดไม่ปฏิเสธตรงๆ เล่า”

            “….”

            ลู่ซินฟางเงียบ ไม่พูดอะไร

            พอเห็นแบบนี้หมาป่าหนุ่มพลันยิ้มอย่างเข้าใจ “แบบนี้เอง ไม่ใช่ไม่อยากไป ท่านแค่กังวลว่าจะทำตัวไม่ถูก?”

            ลู่ซินฟางพยักหน้ายอมรับความจริง

            “ท่านกงชอบนายหญิงเพราะท่านเป็นท่าน ไม่มีอะไรที่ต้องกังวลเลยสักนิด ท่านเป็นตัวของตัวเองดีที่สุดแล้วขอรับ”

            “ถึงอย่างนั้นก็อดสับสนไม่ได้นะ กงเยียนซูเป็นถึงองค์ชาย เที่ยวเล่นกับผู้หญิงสามัญชนอย่างข้าดีแล้วจริงหรือ”

            “ฐานะก็แค่เปลือกนอก ทำตามอย่างที่ใจท่านปรารถนาไม่ดีกว่าหรือ”

            “นั่นก็จริง แต่บางครั้งข้าเองก็รู้สึกไม่มั่นใจตัวเอง มันก็เลย...” 

            “อย่าเพิ่งคิดเรื่องหนักๆ เลยขอรับ” หลางไป๋บอกพลางยิ้มจางๆ ก่อนสรุปแทนลู่ซินฟาง “ท่านตอบรับท่านกงแล้วออกไปเที่ยวให้สนุก ถือว่าเป็นการสานสายสัมพันธ์กับคนอื่นด้วย”

            “นั่นสินะ”

            ลู่ซินฟางตอบรับ สักครู่ก็หมุนตัวเดินเข้าร้าน

            หลางไป๋เดินตามหลังหญิงสาว รายงานเกี่ยวกับรายได้ของร้านซินหลินและร้านเฉิงเป่า

            กิจการค้าขายของทั้งสองร้านยังคงสร้างกำไรเป็นกอบเป็นกำเหมือนเดิม ผลกำไรก็นำไปฝากเป็นชื่อของเจ้าแฝดเรียบร้อย

            “ในส่วนของร้านขายสมุนไพร ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนนำสินค้าเข้าร้านขอรับ เรื่องพนักงานบัญชีที่จะมาทำแทนชิงเหลียนช่วงที่ลาคลอด ข้าต้องการให้อาอวิ๋นมารับหน้าที่นั้น แล้วก็…ระหว่างนี้จะเปิดรับสมัครพนักงานเพิ่มด้วยขอรับ”

            ก่อนที่ชิงเหลียนจะลาคลอด ชิงเหลียนเลือกหู่จืออวิ๋นมาทำหน้าที่ตรวจสอบบัญชีแทน

            หู่จืออวิ๋นฉลาดและมีไหวพริบ ก่อนมาโลกทางนี้ เจ้าหนูกระต่ายเรียนรู้วิชาพื้นฐานต่างๆ มาจากหลางไป๋ แค่ขัดเกลานิดหน่อยก็เก่งขึ้นแล้ว  

            “ถ้าอย่างนั้นก็ย้ายอาอวิ๋นมาทำงานบัญชีตั้งแต่วันนี้ เตรียมโต๊ะและอุปกรณ์ให้เขาด้วย แล้วก็ติดป้ายประกาศรับคนงานเพิ่มได้เลย กฎเกณฑ์ในการเลือกคนทำตามที่เจ้าเห็นสมควร”

            “ขอรับ” หลางไป๋ตอบรับ หลังจากเงียบไปสักครู่ หมาป่าหนุ่มก็พูดต่อ “นายหญิง ข้าขอแนะนำอีกเรื่องได้หรือไม่”

            “ว่ามาเถอะ”

            “ข้าคิดว่าท่านควรขยายสวนและรับคนงานทำสวนเพิ่มด้วยขอรับ”

            “นั่นสินะ ผลผลิตกับรายการสั่งซื้อตอนนี้ไม่ค่อยสมดุลกันสักเท่าไร ขยายที่ดินเพิ่มอีกก็ดี ข้าอนุมัติ”

            รายการซื้อสินค้ามีมากมายนับไม่ถ้วน แต่สวนของนางตอนนี้มีแค่ 18 หมู่ (4 ไร่) ผลผลิตที่ได้กับรายการสั่งซื้อไม่สมดุลกันจริงๆ วันข้างหน้าอาจมีคนสงสัยก็เป็นได้ เพราะอย่างนั้น ขยายที่ดินเพิ่มถือเป็นความคิดที่ดี

            อย่างไรก็ตาม หญิงสาวไม่วายจ้องหน้าหมาป่าหนุ่ม

            หลางไป๋เลิกคิ้วด้วยความสงสัย

            “มีอะไรหรือขอรับ” 

            “มีสิ เรื่องผู้ช่วยของเจ้าไปถึงไหนแล้ว”

            หลายเดือนก่อน ก่อนที่จะตั้งร้านเฉิงเป่า ลู่ซินฟางเคยบอกให้ชิงเหลียนกับหลางไป๋หาผู้ช่วยสักคนสองคน แต่จนถึงตอนนี้ หลางไป๋ยังไม่มีผู้ช่วยเลยสักคน ในขณะที่ชิงเหลียนมีหู่จืออวิ๋นเป็นมือขวา

            หลางไป๋นิ่งไปพักใหญ่ก่อนตอบกลับมาว่า “ข้าคนเดียวจะไม่สะดวกกว่าหรือขอรับ”

            “ไม่ได้เด็ดขาด เคยบอกแล้วไม่ใช่หรือ ว่าอย่าทำงานหักโหมเกินไป อีกอย่าง ข้าไม่อยากให้เจ้าวิ่งวุ่นทำงานอยู่คนเดียว หาผู้ช่วยเร็วๆ จะดีกว่า” 

            “เช่นนั้นเอาไว้ว่างๆ ข้าจะ…”

            ก่อนที่หลางไป๋จะพูดจบ ลู่ซินฟางชิงตัดบทว่า “ห้ามผลัดวันเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นข้าย้ายเจ้าไปเป็นผู้ดูแลร้านเฉิงเป่าจริงๆ ด้วย”

            ร้านเฉิงเป่าเป็นร้านค้าย่อย หน้าที่และความรับผิดชอบของผู้ดูแลร้านจึงไม่หนักหนาเท่ากับร้านซินหลินที่เป็นร้านขนาดใหญ่ ขู่ไปแบบนั้น หลางไป๋ที่รักการทำงานคงรับไม่ได้

            แม้จะรู้สึกผิด แต่ลู่ซินฟางไม่อยากเห็นหลางไป๋ทำงานหนักอยู่คนเดียว

            “เข้าใจแล้วขอรับ ข้าจะรีบหาผู้ช่วยเร็วๆ นี้”

            “ดีมาก”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 108 พลอยประดับ

    บทที่ 108พลอยประดับ หลายวันมานี้ ภูตหลินกำลังสนุกกับการออกแบบเครื่องประดับ ปกติก็ชอบการวาดภาพระบายสีเล่นอยู่แล้ว พอได้ทำสิ่งที่ชอบและยังเป็นประโยชน์ จึงเพลิดเพลินจนเผลอวาดออกมาตั้งเยอะแยะ ลู่ซินฟางเป็นฝ่ายคัดแยก ว่าเครื่องประดับชิ้นไหนวางขายได้ ชิ้นไหนวางขายไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่แล้ว หลินออกแบบได้ดีทุกชิ้น “สวยๆ ทั้งนั้นเลย มีทั้งแบบเรียบง่าย และแบบอลังการงานสร้าง!” “ในมิติตอนนี้เริ่มก่อสร้างโรงเจียระไนพลอยแล้วขอรับ ส่วนนี่เป็นพลอยตัวอย่างที่ท่านหลินใช้เวทเจียระไนขึ้นมาเอง” หลางไป๋พูดพร้อมวางกล่องกำมะยี ด้านในมีพลอยเจียระไนหลายสี ลู่ซินฟางร้องอย่างประหลาดใจ “เร็วถึงเพียงนี้!” ไม่ใช่แค่นั้น หลังจากเปิดกล่องดู สีหน้าของนางยิ่งตกใจมากขึ้นไปอีก พลอยทุกชิ้นเปล่งประกายสดใส ทั้งยังเจียระไนออกมาได้ดีไม่มีที่ติ หลางไป๋ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ “ข้าเตือนท่านหลิน งานเจียระไนจะเป็นหน้าที่ของช่างฝีมือ แต่ดูเหมือนท่านหลินจะตื่นเต้น เลยทำพลอยพวกนี้ออกมาเยอะขอรับ” “ถึงจะสวยมาก แต่น่าเสียดาย พวกเราวางขา

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 107 เพราะข้าเป็นห่วงเจ้า

    บทที่ 107เพราะข้าเป็นห่วงเจ้า ยามบ่ายของวันนั้นเอง กงเยียนซูกับโจวหวังเยว่แวะมาดูสินค้าที่ร้านซินหลิน ทันทีที่มาถึง โจวหวังเยว่แยกกับกงเยียนซูไปเลือกดูสินค้าด้วยท่าทีตื่นตาตื่นใจ เวลานี้กงเยียนซูกับลูซินฟางจึงมีโอกาสอยู่ด้วยกันตามลำพัง “พี่ห้าสนใจสินค้าของร้านซินหลิน ช่วงที่เขาอยู่เมืองเล่ออันต้องรบกวนเจ้าแล้ว” กงเยียนซูเอ่ยทักทายด้วยสีหน้าเก้อเขิน หญิงสาวยิ้มน้อยๆ ให้กับชายหนุ่ม พลางตอบว่า “มีคนกระเป๋าหนักมาอุดหนุน ข้าย่อมดีใจอยู่แล้ว กลับกัน ร้านของเราต้องขอบคุณพวกท่านที่มาอุดหนุนบ่อยๆ เจ้าค่ะ” “ไม่ถึงขนาดหรอก สินค้าร้านซินหลินคุณภาพดีทุกอย่าง บริการก็ดีมาก ลูกค้าที่ซื้อไปแล้วก็อยากกลับมาซื้อใหม่ อ้อ ชาสมุนไพรที่ซื้อไปคราวก่อนใกล้จะหมดแล้ว เจ้าพอจะแนะนำใบชาอย่างอื่นให้ข้าได้หรือไม่” “ได้แน่นอนเจ้าค่ะ” พูดจบ ลู่ซินฟางเดินนำชายหนุ่มไปทางจุดที่วางขายใบชา หญิงสาวแนะนำใบชาแต่ละชนิดให้กับกงเยียนซู ชาดอกไม้ ชาสมุนไพร และชาหายากใหม่ๆ ระหว่างแนะนำสินค้าให้กับกงเยียนซู จู่ๆ ในหัวของลู่

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 106 เรื่องน่ายินดี (ครึ่งหลัง)

    บทที่ 106เรื่องน่ายินดี (ครึ่งหลัง) สามวันถัดมา ผู้นำเผ่ากระต่ายเดินทางมาพบกับภูตจิ๋ว ขอเจรจาและทำข้อตกลง เงื่อนไขของพวกเขาคือ ขอสร้างหมู่บ้านกระต่ายในอาณาเขตของภูต แลกกับอาหารและความปลอดภัย อย่างไรก็ดี ตามที่ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ หากเผ่ากระต่ายจะมาช่วยงานในฟาร์ม ทางนี้ก็จะจ่ายค่าตอบแทน รวมไปถึงให้การศึกษา อำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวัน อาหาร ที่อยู่อาศัยและความปลอดภัยอันเป็นปัจจัยพื้นฐานที่พวกเขาจะได้รับอยู่แล้ว นอกจากนั้น จากการสำรวจป่ารกร้างทางเหนือ หลางไป๋ยังได้เผ่ากวางป่ามาเป็นพันธมิตร หนำซ้ำ ทางทิศตะวันออกของฟาร์มยังพบเหมืองพลอย นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ทั้งนั้น เผ่าจิ้งจอกและเผ่าหมูป่ายังไม่ให้คำตอบที่แน่ชัด พวกเขาเลือกอาศัยอยู่ที่เดิม แต่ให้สัญญาว่าจะไม่ลุกล้ำเข้ามาในฟาร์ม ทั้งยังรับปากว่าจะไม่สร้างความเสียหายใดๆ ให้กับสัตว์จำแลงและฟาร์มอย่างเด็ดขาด ในด้านของลู่ซินฟาง หลังจากเคลียร์งานต่างๆ เรียบร้อย นางก็ข้ามมาที่มิติเพื่อพบกับเผ่ากระต่ายและเผ่ากวางป่า

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 105 เรื่องน่ายินดี (ครึ่งแรก)

    บทที่ 105เรื่องน่ายินดี (ครึ่งแรก) สรุปให้เข้าใจง่ายๆ เมื่อมิติขยายตัวออกไป เวทมนตร์ของภูตที่ดูแลมิติก็เพิ่มขึ้นด้วย พลังเวทนั้นจะสร้างทรัพยากรมากมายให้กับมิติ และเพิ่มวิวัฒนาการเหล่าสัตว์อสูรให้มีสติปัญญาจนถึงขั้นเปลี่ยนแปลงรูปร่างหน้าตา ก่อนที่ลู่ซินฟางจะครอบครองมิติ พื้นที่แถบนี้ยังเป็นแค่ดินแดนที่แทบไม่มีอะไรเลย แต่หลังจากที่ลู่ซินฟางขยายฟาร์มทีละเล็กทีละน้อย สัตว์ในมิติก็ค่อยๆ กลายร่างเป็นมนุษย์ มีสติปัญญาและสื่อสารกันรู้เรื่อง ท้ายที่สุดก็มาอาศัยร่วมกันเหมือนอย่างทุกวันนี้ หลังจากหนุ่มสาวเผ่ากระต่ายได้ฟังคำบอกเล่าก็เข้าใจทันที วิวัฒนาการของพวกตนเกิดจากภูตจิ๋วตรงหน้านี้เอง “แล้วพวกเจ้ามีจำนวนเท่าไรหรือ” หลินถาม “ถ้าเฉพาะเผ่ากระต่าย รวมเด็กๆ ในเผ่าด้วยก็ประมาณ 14-15 ตน” “อืม” “แสดงว่ายังมีเผ่าอื่นๆ อีก ป่าแถบนั้นมีเผ่าอะไรบ้างหรือ” “ละแวกที่เผ่ากระต่ายอาศัย ก็มีเผ่าหมูป่า เผ่ากวางป่า ไกลออกไปอีกได้ยินว่ายังมีเผ่าเสือและเผ่าจิ้งจอก แต่มีจำนวนเท่าไร พวกเราไม่รู้หรอก” “เข้าใ

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 104 เผ่ากระต่าย (ครึ่งหลัง)

    บทที่ 104เผ่ากระต่าย (ครึ่งหลัง) เวลาเดียวกันนั้น ในมิติต่างโลก ภูตตัวน้อยบินวนไปวนมาพร้อมกับพิจารณากลุ่มมนุษย์ที่มีหูกระต่ายสีเทาอันนุ่มนิ่มและนุ่มฟู “พวกเจ้าเป็นเผ่ากระต่ายจริงๆ สินะ” หลินถามเหล่ามนุษย์หูกระต่าย “แค่ดูหูก็รู้แล้วไม่ใช่หรือ” คำพูดขัดแย้งนี้เป็นของซินหลิน “เจ้าเด็กคนนี้นี่ เรื่องนั้นข้าดูแวบเดียวก็รู้อยู่แล้วน่า ก็แค่อยากถามให้แน่ใจเท่านั้นเอง” หลินหันมาทำท่าโวยวายใส่ซินหลิน ซินหลินไม่ได้มีสีหน้าสำนึกผิดแม้แต่น้อย เด็กชายทำหน้านิ่ง กรอกตามองบนทีหนึ่ง ก่อนจะถามหลินว่า “ว่าแต่ จะเอายังไงกับพวกเขาดีล่ะ” “อืม นั่นสิน๊า” หลินทำท่าครุ่นคิด หากกล่าวถึงจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ ต้องย้อนกลับไปก่อนหน้านั้นเล็กน้อย ซินหลินกับสยงอู๋มาที่โกดังต่างมิติ เพื่อตรวจนับผักผลไม้ ก่อนจะเอาออกไปเติมที่ร้านข้างนอกเหมือนอย่างทุกๆ วัน แต่เช้าวันนี้ พอเปิดโกดังปุบก็พบผู้บุกรุกปับ ผู้บุกรุกมีทั้งหมดเจ็ดตน ทุกตนเป็นเผ่ากระต่าย และกำลังแอบกินผักผลไม้ที่อย

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 103 เผ่ากระต่าย (ครึ่งแรก)

    บทที่ 103เผ่ากระต่าย (ครึ่งแรก) ตอนขากลับ โจวหวังเยว่หอบหิ้วสินค้าขึ้นรถม้าเต็มสองมือ ส่วนกงเยียนซูซื้อใบชากลับไปเหมือนอย่างเคย ตลอดเวลาที่อยู่กับลู่ซินฟาง สายตาของกงเยียนซูแสดงออกถึงความรักใคร่อย่างไม่คิดจะปิดบัง ทำเอาคนที่เห็นถึงกับเอียนความหวานกันเป็นแถว รถม้าเคลื่อนตัวออกไปไกลแล้ว แต่ลู่ซินฟางยังยืนอยู่ที่เดิม ใกล้จะถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์แล้วสินะ… หญิงสาวคิดอย่างสับสน ไม่ใช่ว่าไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับเทศกาลไหว้พระจันทร์ จริงอยู่ที่ลู่ซินฟางในอดีตสูญเสียครอบครัวตั้งแต่อายุยังน้อย แต่ในขณะเดียวกัน ตั้งแต่ได้รับมิติมา ลู่ซินฟางมักจะจัดเลี้ยง งานเทศกาล และงานสังสรรค์อื่นๆ กับภูตหลินและเหล่าสัตว์อสูร ปีนี้กงเยียนซูชวนเที่ยวงานเทศกาลด้วยกัน นางที่ไม่เคยปฏิสัมพันธ์หรือเที่ยวเล่นกับคนอื่นมาก่อน อดรู้สึกสับสนไม่ได้จริงๆ “เสียดายที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันให้นานอีกหน่อยหรือขอรับ” หลางไป๋เห็นลู่ซินฟางเอาแต่ยืนเหม่อตั้งแต่รถม้าของกงเยียนซูเคลื่อนออกจากหน้าร้าน เห็นแล้วก็อดจะพูดกระเซ้าเย้าแ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status