แชร์

บทที่ 102 กงเยียนซูหึง (สาม)

ผู้เขียน: ฮาจิฮาจิ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-27 10:10:27

บทที่ 102

กงเยียนซูหึง (สาม)

            เช้าวันถัดมา กงเยียนซูกับโจวหวังเยว่มายังร้านซินหลินเพื่อดูสินค้าอย่างอื่น 

            ด้านอิ้งเหยียนนั้น เพราะมีสอนหนังสือให้กับเด็กๆ จึงไม่ได้มาด้วย

            ทันทีที่เข้ามาในร้าน การตอบสนองของโจวหวังเยว่ไม่ต่างจากคนอื่นๆ ที่มาร้านซินหลินครั้งแรก ชายหนุ่มมองสินค้าภายในร้านด้วยความตื่นตาตื่นใจ 

            “สินค้าส่วนใหญ่นอกจากจะแปลกตาแล้ว ของทุกชิ้นยังมีคุณภาพดีๆ ทั้งนั้น ร้านของตาเฒ่าซุนในเมืองหลวงยังเทียบไม่ติดเลยนะเนี่ย” โจวหวังเยว่พูดพลางหยิบชามกระเบื้องเคลือบที่แต้มสีสันเป็นลายต่างๆ ขึ้นมาดู

            “มีดพวกนี้ก็น่าสนใจขอรับ มีหลายขนาด ทั้งบางทั้งคมกริบ ว่าแต่…ร้านค้าทั่วไปอนุญาตให้ขายของอันตรายด้วยหรือขอรับ” มู่เฉินบอกอย่างตื่นเต้น 

            “นั่นเป็นมีดทำครัว” กงเยียนซูอธิบาย “แล้วก็ พี่ห้าอยู่ทางเหนือมานานคงยังไม่รู้ ร้านไฉฟู่ของเฒ่าแก่ซุนก็รับสินค้าจากร้านซินหลินไปวางขาย”

            “จริงหรือ ตาเฒ่าซุนคิดจะกอบโกยเงินเข้ากระเป๋าคนเดียวหรือยังไง”

            “สัญญาซื้อขายระหว่างร้านค้าของเรากับร้านไฉฟู่ไม่ได้เป็นแบบผูกสิทธิ์ขาดขอรับ ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าได้จากทั้งสองร้าน ตามความพอใจของลูกค้าขอรับ”

            คนพูดประโยคนั้นเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งสวมชุดสีขาวสะอาดสะอ้าน 

            โจวหวังเยว่มองชายชุดขาวด้วยสายตาแปลกใจ “ท่านนี้คือ…”

            “ทางนี้คือผู้แลร้านซินหลินสาขาใหญ่ นามว่าหลางไป๋…ผู้ดูแลหลาง คนทางนี้คือพี่ชายของข้า เรียกว่าหวังเยว่ก็พอ” กงเยียนซูแนะนำทั้งสองฝ่ายให้รู้จักกัน

            “นายหญิบอกเรื่องของท่านหวังเยว่แล้ว ยินดีที่ได้รู้จักขอรับ” หลางไป๋ก้มศีรษะกล่าวทักทายโจวหวังเยวอย่างมีมารยาท

            “ยินดีที่ได้รู้จัก ผู้ดูแลหลาง” 

            เมื่อทั้งสองทำความรู้จักกันแล้ว หลางไป๋ก็แนะนำสินค้าอย่างอื่นกับโจวหวังเยว่

ในตอนนั้น ลู่ซินฟางเดินเข้ามาในร้าน ทั้งสองฝ่ายทำความรู้จักกันพอเป็นพิธีอีกครั้ง ก่อนที่โจวหวังเยว่จะพูดถึงข้าวโพดปิ้งด้วยสีหน้าตื่นเต้น

“ลู่ซินฟาง ข้าวโพดปิ้งทาเนยสูตรของเจ้าอร่อยมาก วันนี้ข้าอยากซื้อกลับไปลองทำ ช่วยสอนข้าได้หรือไม่” 

            ลู่ซินฟางขยับริมฝีปากเตรียมกล่าว แต่แล้ว กงเยียนซูก็ชิงพูดตัดหน้า

“ข้าก็อยากลองชิม ไม่สิ อยากซื้อสูตรนั่น และให้เจ้าสอน”

ลู่ซินฟางยิ้มอย่างจนใจ ข้าวโพดปิ้งทาเนยไม่ใช่ของที่ทำยากเย็นเลย อีกอย่าง นางไม่ใช่คนคิดค้นสูตร แค่มีขาวโพดกับเนยก็ทำได้แล้ว

“ข้าวโพดปิ้งนั่นเป็นของที่พวกเด็กๆ ทำกินเล่น แล้วได้สูตรมาแบบบังเอิญ พวกท่านแค่ซื้อเนยกับข้าวโพดก็ทำเองได้”

“ถึงอย่างนั้นข้าก็อยากให้เจ้าสอน” กงเยียนซูยืนยันคำเดิม ทั้งยังทำหน้านิ่งขรึม

            ตอนนั้นเอง โจวหวังเยว่กระซิบบอกว่า “เข้ากำลังหึงข้าที่ได้กินข้าวบ้านเจ้า”

ทันทีที่โจวหวังเยว่พูดจบ ลู่ซินฟางก็เห็นว่านัยน์ตาสีดำของกงเยียนซูกำลังวูบไหว  

“…..”

            อย่างนี้เอง เขากำลังหึงสินะ

            ความจริงเรื่องนี้ทำเอาลู่ซินฟางใจเต้นตึกตักไม่ต่างกัน

            หลางไป๋ผายมือเชิญโจวหวังเยว่ไปดูสินค้าอย่างอื่นราวกับรู้งาน ปล่อยให้ทั้งสองอยู่ตามลำพัง

            “เอ่อ…ถ้ามีโอกาส ข้าจะชวนท่านมาทานมื้อค่ำที่สวน”

            กงเยียนซูเปลี่ยนสีหน้าเป็นอ่อนโยน ก่อนยอมรับอย่างตรงไปตรงมา “ข้ารู้ว่าคำพูดของข้าเอาแต่ใจ แต่พอคิดว่าพี่ห้าได้ใช้เวลาอยู่กับเจ้าก็อดหึงไม่ได้”

            ลู่ซินฟางยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ สั่นศีรษะแล้วบอกว่าไม่เป็นไร

            เหตุนี้เอง กงเยียนซูจึงเปลี่ยนเรื่องคุย

            “ยังไงก็ต้องขอโทษที่พี่ห้าไปรบกวนเจ้า แล้วก็ เรื่องเสบียงของพี่ห้าในปีหน้า ข้าอยากคุยกับเจ้ตั้แต่เนิ่นๆ”

            “เสบียงหรือ”

            “อืม”

            หลังจากนั้น กงเยียนซูก็พูดถึงเหตุผลหลักๆ ที่โจวหวังเยว่มาเมืองเล่ออัน นอกจากมาดูสวนและเจอลู่ซินฟาง ทางนั้นยังต้องการซื้อสินค้าจากสวนของนาง เรื่องตรงนี้ กงเยียนซูจะเขียนรายละเอียดส่งมาให้นางอีกทีหนึ่ง

ลู่ซินฟางทำความเข้าใจ ก่อนจะบอกว่าไม่มีปัญหา ผลผลิตจากสวนของนางมีมากมายและเพียงพอที่จะส่งออก นอกจากนี้ นางยังนับถือที่กงเยียนซูไม่ทอดทิ้งชาวบ้าน ที่เขายังรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรของโหยวเปยต่อไป

            “ทางเจ้าไม่มีปัญหาจริงๆ แน่หรือ หากผลผลิตไม่เพียงพอ…” 

            กงเยียนซูยังพูดไม่ทันจบ ลู่ซินฟางก็กล่าวแทรกเสียก่อน

            “อย่าดูถูกผลผลิตของสวนของบ้านลู่เด็ดขาด อีกอย่าง ทางขข้าต้องการจะขยายเส้นทางการค้าเพิ่มอยู่แล้ว ฉะนั้นการขายสินค้าให้กับท่านหวังเยว่ไม่ได้สร้างปัญหาอะไรให้กับข้าเลยสักนิด”

            “เช่นนั้นเจ้าก็วางแผนขยายสาขาไปยังเมืองอื่นอยู่แล้วหรือ”

            “ใช่เจ้าค่ะ”

            “เป็นความคิดที่ดี หากมีเรื่องเดือดร้อนก็ขอให้บอกข้าทันที อย่าได้เกรงใจเด็ดขาด”

            “ถึงตอนนั้นข้าต้องขอรบกวนท่านแล้ว”

กงเยียนซูคลี่ยิ้ม ขณะมองหญิงสาวด้วยแววตาลุ่มหลง นางในตอนี้เปิดใจให้เขามากกว่าแต่ก่อน

            “คือว่า…”

            กงเยียนซูทำท่าลังเล 

            “ยังมีเรื่องอื่นอีกหรือเจ้าคะ” 

            “งานเทศกาลไหว้พระจันทร์ ข้าอยากชวนเจ้ามาด้วยกัน”

เทศกาลไหว้พระจันทร์จัดขึ้นในช่วงกลางฤดูใบไม้ร่วงของทุกปี หากนับจากวันที่เพิ่งเก็บเกี่ยว น่าจะประมาณหนึ่งเดือน

กงเยียนซูชวนนางล่วงหน้าตั้งหนึ่งเดือน เร็วไปหน่อยหรือไม่

            “…..”

เพราะว่านางเงียบ กงเยียนซูจึงคิดว่านางกำลังระแวง เขาจึงเอ่ยขึ้นอีกครั้ง

            “จริงสิ เจ้าควรพาเฉิงเอ๋อร์กับเป่าเอ๋อร์มาด้วย พวกเขาจะได้เที่ยวเล่นในงานเทศกาล”

            เอ๋…

            แบบนั้นก็เหมือนครอบครัวพ่อแม่ลูกเลยไม่ใช่หรือ!

            คิดแล้ว ลู่ซินฟางก็หน้าแดง 

            กงเยียนซูเห็นสีหน้าของหญิงสาวก็ตระหนักได้ว่าตนพูดอะไรออกไป ถึงอย่างนั้น เขากลับแก้คำใหม่ เจรจาของนางคือต้องการเกรี้ยวพานางนั่นเอง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 120 หนาวแต่อบอุ่น

    บทที่ 120หนาวแต่อบอุ่น ชายหนุ่มย่อตัวลงนั่งยองๆ ตรงหน้าเด็กแฝดทั้งสอง ใบหน้าหล่อเหลายิ้มแย้มขณะถาม “ว่าไง เจ้าตัวเล็ก ถามถึงข้าหรือ” “ก็ท่านลุงมาทุกวันเลยนี่น่า” เป่าเอ๋อร์เอ่ยขึ้นคนแรก “ใช่ ถ้าวันนี้ไม่มาก็แปลก” เฉิงเอ๋อร์เอ่ยต่อ กงเยียนซูก็หัวเราะฮ่าๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืน มองไปทางลู่ซินฟาง ในมือก็ยกไหสุราขึ้นแล้วว่า “วันนี้อากาศหนาวกว่าทุกวัน ข้าเลยเอาสุราดอกหมื่นลี้มาฝาก หวังว่าเจ้าจะดื่มได้นะ” “ท่านมาถูกจังหวะพอดีเจ้าค่ะ ทางนี้กำลังเตรียมของทำหม้อไฟกันพอดีเลย” หม้อไฟร้อนๆ กับสุราหอมรสเลิศเข้ากันไม่น้อย คิดแล้ว ใบหน้าสวยก็ผุดรอยยิ้มบางๆ กงเยียนซูเลิกคิ้วสูงราวกับตั้งคำถาม ลู่ซินฟางไม่ได้ตอบทันที เพียงแค่ยิ้ม แล้วบอกว่า “ข้างนอกหนาว เชิญท่านเข้ามาในเรือนก่อนเจ้าค่ะ” จากนั้น นางก็ผายมือเชื้อเชิญชายหนุ่ม เจ้าแฝดให้ความร่วมมืออย่างยิ่ง เกาะแขนชายหนุ่มทั้งซ้ายขวา จูงเขาเดินเข้าเรือน “ท่านลุง วันนี้จะมีหม้อไฟละ” “ท่านแม่

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 119 ฤดูหนาวมาเยือนแล้ว

    บทที่ 119ฤดูหนาวมาเยือนแล้ว ร้านฟู่จินกุ้ยได้รับความนิยมสูงสุดตั้งแต่วันแรกที่เปิดร้าน ทันทีที่ร้านเปิด คนที่ต่อแถวอยู่นอกร้านต่างหลั่งไหลเข้ามา ทุกคนให้ความสนใจพลอยประดับกันอย่างมาก พวกเขาต่างซื้อสินค้ากลับไปแม้ว่าของนั้นจะมีราคาแพงก็ตาม แค่สัปดาห์แรก ลู่ซินฟางก็ทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำ เมื่อร้านเครื่องประดับฟู่จินกุ้ยเริ่มลงตัว ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางแล้ว ลู่ซินฟางมอบหมายงานต่อให้กับผู้ดูแล ก่อนจะพาลูกๆ เดินทางกลับเมืองเล่ออัน หนึ่งเดือนต่อมา... เข้าสู่กลางฤดูหนาวเต็มตัว ยามกลางคืนละอองหิมะโปรยปรายลงมาเป็นสาย ตอนเช้าบนพื้นดินจึงดูเหมือนถูกปูด้วยพรมกำมะยีสีขาว แม้ยามเที่ยงวันหิมะเหล่านั้นจะละลายกลายเป็นแอ่งน้ำ แต่กระแสความหนาวเย็นของฤดูหนาวนับวันยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในขณะนั่งกินข้าวเช้า เหนียงซิ่นก็เปรยขึ้นมา “ฤดูหนาวปีนี้คงหนักเอาการ” หลางไป๋ผงกศีรษะทีหนึ่ง “อืม อาจถึงขั้นเกิดภัยหนาวได้เลยนะเนี่ย” จากนั้นทุกคนต่างลงความเห็นว่า “นั่นสินะ” ลู่ซินฟางมื

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 118 กระแสตอบรับ (ครึ่งหลัง)

    บทที่ 118กระแสตอบรับ (ครึ่งหลัง) 5 วันหลังจากนั้น ลู่ซินฟางกับเจ้าแฝด กลุ่มผู้ติดตาม องครักษ์ รวมถึงกลุ่มของกงเยียนซูก็เดินทางออกจากเมืองเล่ออัน การเดินทางครั้งนี้ยังคงใช้เวลา 7 วันเหมือนเดิม แม้ว่าจะมีเด็กเล็กๆ มาด้วยก็ตาม ทันทีที่มาถึงเมืองหลวง กงเยียนซูแยกกับลู่ซินฟางเพื่อเข้าเฝ้ากงเสียนเฟย ผู้เป็นมารดา ในเวลานี้ กงเสียนเฟยกำลังชื่นชมดอกไม้ฤดูหนาวกับเหล่าสนมนางในอยู่ที่สวนหย่อม ผ่านไปเพียงครู่หนึ่ง ขันทีก็เข้ามารายงานกงเสียนเฟยว่า องค์ชายแปดต้องการเข้าเฝ้า เมื่อกงเสียนเฟยอนุญาตให้กงเยียนซูเข้ามา ชายหนุ่มไม่รอช้า มอบกล่องของฝากให้กับมารดาอย่างแนบเนียน ทีแรก กงเสียนเฟยแสร้งทำทีเป็นแปลกใจ แต่เมื่อเปิดกล่องดู พลันพบปิ่นประดับผม สร้อยคอ และข้อมือ เครื่องประดับทุกชิ้นทำจากเงิน ทว่าสิ่งที่ดึงดูดความสนใจกลับเป็นพลอยสีแดงเม็ดงาม ครานี้ กงเสียนเฟยผุดสีหน้าตะลึงออกมาอย่างแท้จริง “สวยงามมาก” ไม่เพียงแค่กงเสียนเฟยที่ตะลึงกับเครื่องประดับในกล่อง เหล่าสนมนางในต่างก็ชะโงกหน้าเ

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 117 กระแสตอบรับ (ครึ่งแรก)

    บทที่ 117กระแสตอบรับ (ครึ่งแรก) เช้าวันต่อมา กงเยียนซูมาหาลู่ซินฟางที่คฤหาสน์ และยังหิ้วของฝากจากเมืองหลวงมาให้เจ้าแฝดทั้งสองด้วย “ท่านลุงมาละ” “เอ๋ ท่านลุงถืออะไรมาด้วย” เด็กทั้งสองวิ่งเข้ามาหาชายหนุ่ม สีหน้ายิ้มแย้ม “ของฝากของพวกเจ้า” กงเยียนซูยื่นกล่องขนมกับกล่องของฝากให้กับเด็กๆ “ขอบคุณเจ้าค่ะ/ขอรับ” กงเยียนซูลูบศีรษะเฉิงเอ๋อร์ จากนั้นก็อุ้มเป่าเอ๋อร์ขึ้นมา “เจ้าตัวเล็ก ตัวหนักขึ้นรึป่าวเนี่ย” ชายหนุ่มพูดเจือขบขำ เป่าเอ๋อร์ทำแก้มป่อง เหมือนกับกระรอกตอนตุนของกินไว้ในปาก น่ารักจริงๆ “ท่านแม่บอกว่า พูดเรื่องน้ำหนักกับผู้หญิงเป็นการเสียมารยาท” “ข้าก็คิดว่าเป่าเอ๋อร์บวมขึ้นนะ ช่วงนี้เจ้ากินเก่งจริงๆ ไม่ใช่หรือ” เฉิงเอ๋อร์พูดตาใส “พี่ใหญ่เสียมารยาทจัง” “ก็จริงนี่น่า” “ข้ากำลังโต กินมากหน่อยไม่เห็นเป็นอะไรเลย” “เข้าใจแล้ว เพราะเจ้ากำลังโตสินะ” ฟังเจ้าแฝดโต้เถียงกันไปมา กงเยียนซูก็หลุด

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 116 กลับเมืองเล่ออัน

    บทที่ 116กลับเมืองเล่ออัน ณ เมืองหลวง วันรุ่งขึ้น ลู่ซินฟางกับคณะผู้ติดตาม พร้อมด้วยกงโม่หยวนออกมาดูทำเลสร้างร้าน ทำเลที่กงโม่หยวนเลือกไว้ให้ล่วงหน้ามีอยู่ 4-5 แห่ง เป็นอาคารสองชั้นกับสามชั้นที่อยู่กลางเมืองหลวง ถนนสายนี้ผู้คนพลุกพล่าน เป็นทำเลที่ดีทั้งหมด ลู่ซินฟางเลือกอาคาร 2 แห่ง กลางเมืองหลวง 1 แห่ง และบนถนนในเขตตะวันออกอีก 1 แห่ง อาคารทั้ง 2 แห่งมีสัญญาซื้อขายครบถ้วน นอกจากนี้นางยังซื้อบ้านไว้อีกหนึ่งหลัง เมื่อลงนามซื้ออาคารเรียบร้อย กงโม่หยวนก็พาหัวหน้าคนงานก่อสร้างมาหา ทำสัญญาตกลงจ้างงานเสร็จ จ่ายเงินมัดจำเรียบร้อย ลู่ซินฟางก็มอบหน้าที่คุมงานให้กับผู้ติดตามทั้งสี่คน ด้านของกงเยียนซูนั้น ทำงานอย่างขะมักเขม้น จึงไม่ได้ช่วยลู่ซินฟางเลือกทำเลร้าน แต่เมื่อถึงมื้อค่ำ สองหนุ่มสาวร่วมโต๊ะกินข้าวด้วยกัน พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น สิ่งที่เจอมาในวันนั้น และยังคุยเรื่องสัพเหระ เรื่องทั่วๆ ไป หนึ่งวันแรกของลู่ซินฟางที่อยู่เมืองหลวงค่อนข้างยุ่งกับงาน กงเยียนซูก็ไม่ต่างกัน วันต่อมา

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 116 มิตรภาพของเด็กๆ (ครึ่งหลัง)

    บทที่ 116มิตรภาพของเด็กๆ (ครึ่งหลัง) ในตอนบ่ายจางต้วนทำธุระเสร็จก็มารับลูกทั้งสองกลับบ้าน หลังจากส่งตงตงกับเม่ยเม่ยที่หน้าประตู เป่าเอ๋อร์ก็เกาะขาของชุน ร้องถามด้วยเสียงอ้อนๆ “ท่านแม่…เมื่อไรท่านแม่จะกลับมาหรือ” ชุนอุ้มเด็กหญิงขึ้นมาแล้วพาเข้าบ้าน เฉิงเอ๋อร์เดินตามอยู่ข้างๆ หน้าตาซึมๆ ไม่ต่างกับน้องสาว ชุนยื่นมือไปลูบศีรษะของเด็กชาย “อีกไม่นานนายหญิงก็กลับมาแล้วเจ้าค่ะ” “อยากเจอท่านแม่จัง” เป่าเอ๋อร์พูดพร้อมกับทำปากยู่ “ท่านแม่ไปทำงานนะ พวกเราต้องอดทนสิ” เฉิงเอ๋อร์บอกน้องสาว “พี่ใหญ่ก็คิดถึงท่านแม่เหมือนกันนั่นแหละ” “ก็แหม...” ในขณะเดินเข้าบ้านพร้อมฟังเจ้าแฝดโต้เถียงกันเล็กๆ ชุนยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู ก่อนเสนอวิธีแก้เบื่อ “พวกเราไปที่มิติกันดีไหม” “ได้หรือ!” เฉิงเอ๋อร์ถามด้วยท่าทีกระตือรือร้น “ได้สิเจ้าคะ” ชุนตอบ ส่วนเป่าเอ๋อร์กระโดดเหยงๆ พร้อมพูดว่า ไปๆ อยากไป เมื่อพวกเขาเข้าในเรือน ชุนกับเด็กๆ ก็ช่วยกันเตรียมข้าวข

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status