แชร์

บทที่ 14 ออกจากโลกต่างมิติ (ครึ่งแรก)

ผู้เขียน: ฮาจิฮาจิ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-21 17:19:22

บทที่ 14

ออกจากโลกต่างมิติ (ครึ่งแรก)

            ชุดที่ลู่ซินฟางซื้อให้ลูกๆ นั้นเป็นชุดที่ตัดเย็บสำเร็จ เนื้อผ้าถือว่าใช้ได้ พอลองสวมแล้วพอดีกับตัวเปะๆ

            เจ้าตัวเล็กทั้งสองหมุนซ้ายหมุนขวา ใบหน้าเล็กๆ เปื้อนยิ้มอย่างเบิกบาน

            “ท่านแม่ ชุดสวยจังเลย”

            “ใส่ได้พอดีด้วย”

            ลู่ซินฟางย่อตัวลงตรงหน้าลูกชายกับลูกสาว ช่วยจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่พร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้ม “หลังจากเปิดร้านในเมืองแล้ว แม่จะจ้างช่างมาตัดชุดให้พวกเจ้าดีหรือไม่”

            “พวกเราจะย้ายไปอยู่ในเมืองกันหรือ” เป่าเอ๋อร์เอียงศีรษะถาม

            “ท่านแม่จะเปิดร้านขายขนมจริงๆ ด้วย!” เฉิงเอ๋อร์พูดเหมือนรู้ทัน

            ลู่ซินฟางจิ้มปลายจมูกเล็กๆ ของลูกทั้งสองก่อนพูดว่า “ในอนาคตพวกเจ้าจะต้องเรียนหนังสือ ย้ายเข้าเมืองจะสะดวกกว่า แล้วก็นะเฉิงเอ๋อร์ แม่จะเปิดร้าน แต่ไม่ใช่ร้านขนมหรอกนะ”

            “พวกเราจะได้เรียนหนังสือด้วยหรือ” เฉิงเอ๋อร์ปิดบังสีหน้าตื่นเต้นไม่มิด 

            “เย่ ในเมือง ในเมือง!” เป่าเอ๋อร์ชูสองมือร้องอย่างดีใจ

            “เอาละ ลองชุดเสร็จแล้ว แม่จะทำข้าวเที่ยงให้กินนะ วันนี้แม่ซื้อเนื้อหมูกลับมาด้วย”

            เป่าเอ๋อร์ยิ้มแก้มแทบแตก “เนื้อ!”

            เฉิงเอ๋อร์เองก็ดีใจจนอดยิ้มออกมาไม่ได้ 

            “ให้ข้ากับเป่าเอ๋อร์ช่วยท่านแม่นะ”

            “เฉิงเอ๋อร์เด็กดี เรื่องเตรียมอาหารให้เป็นหน้าที่ของแม่ดีกว่า พวกเจ้าเฝ้าบ้านตลอดทั้งเช้าแล้ว ออกไปเล่นกันก่อนก็ได้”

            พูดถึงตรงนี้ ลู่ซินฟางเพิ่งนึกออกว่านางซื้อกลองป่องแป๋ง ว่าวและตุ๊กตาผ้ากลับมาด้วย นางไม่เคยมีลูก เลยไม่รู้ว่าเด็กๆ วัยนี้ชอบเล่นอะไร เลยซื้อกลับมาเยอะแยะ

            หญิงสาวเดินไปหยิบของเล่นมาให้ลูกๆ 

            เป่าเอ๋อร์หยิบตุ๊กตาผ้าขึ้นมากอด ดูแล้วคงชอบมาก

            เฉิงเอ๋อร์มองของเล่นที่เหลือ ไม่ได้หยิบขึ้นมา

            “ไม่ชอบหรือ”

            “ข้า...คือว่า...” เฉิงเอ๋อร์ลังเลที่จะบอก

            ลู่ซินฟางไม่ได้ไม่พอใจอะไร ของเล่นแค่นี้ราคาไม่กี่เหรียญเท่านั้น สิ่งสำคัญคือความต้องการให้เด็กทั้งสองมีความสุข

            คิดจบ มือเรียวลูบลงบนศีรษะเล็กๆ ของลูกชาย “เฉิงเอ๋อร์ เป่าเอ๋อร์ก็ด้วยนะ เมื่อก่อนแม่ไม่เคยถามว่าพวกเจ้าชอบหรือไม่ชอบอะไร อยากได้อะไร หรือไม่อยากได้อะไร แต่ต่อจากนี้ ถ้ามีของที่พวกเจ้าชอบหรือยากได้ก็บอกแม่ ไม่ต้องเกรงใจนะ”    

            “ท่านแม่...”

            ได้ฟังแบบนั้น ใบหน้าดวงน้อยของเด็กทั้งสองผุดความซาบซึ้ง ดวงตากลมโตคลอด้วยน้ำตา

            “ไหน พวกเจ้าลองบอกแม่สิ ว่าอยากได้อะไรกันบ้าง” ลู่ซินฟางเปลี่ยนเรื่องก่อนที่บรรยากาศดีๆ จะเปลี่ยนเป็นเศร้า

            เป่าเอ๋อร์ชูมือ กระโดดโหยงๆ “ข้า...ข้า…”

            “เป่าเอ๋อร์อากได้อะไรหรือ”

“อยากกินเนื้อเยอะๆ”

            “ได้ ต่อไปพวกเราจะได้กินเนื้อเยอะๆ”

            “ข้า...อยากเรียน อยากได้กระดาษ พู่กันและน้ำหมึก”

            โถ เด็กตัวแค่นี้รู้จักใฝ่หาความรู้

            ลู่ซินฟางคิดพลางมองลูกชายด้วยสายตาอ่อนโยน

            “ได้ แม่จะหาอาจารย์มาสอนหนังสือให้พวกเจ้าหลังจากย้ายเข้าไปอยู่ในเมือง กระดาษกับพู่กันก็จะซื้อให้ด้วย” 

            “แต่ของพวกนั้นต้องใช้เงินเยอะเลยนะ บ้านเราไม่มีเงินขนาดนั้นหรอก” เฉิงเอ๋อร์ทำหน้ากังวล เขาไม่อยากให้ท่านแม่ลำบาก แค่ได้อยู่พร้อมหน้า ได้กินของอร่อยด้วยกันเหมือนทุกวันนี้ก็มากพอแล้ว

            “เฉิงเอ๋อร์ เป่าเอ๋อร์ อีกไม่นาน แม่ก็จะมีเงินเยอะๆ แล้ว พวกเจ้าคอยดูได้เลย”

            ได้ยินแบบนี้ เด็กทั้งสองทำหน้างุนงง

            ตอนอยู่บ้านตระกูลเหอ ท่านพ่อ...ไม่สิ ผู้ชายคนนั้นไม่เคยถามพวกเขาว่าอยากได้อะไรหรือไม่ชอบอะไร บนโต๊ะอาหารของพวกเขานานๆ จะมีเนื้อสักครั้ง หนำซ้ำ ลูกๆ ของท่านอาคนรองได้เรียนหนังสือ และยังได้เสื้อผ้าตัวใหม่ปีละสองหน แต่พวกเขาได้รับแค่เสื้อผ้าเก่าๆ จากคนอื่นมาอีกที เรือนที่พวกอารองอยู่ก็เป็นเรือนใหญ่ แต่เรือนของท่านแม่กลับเป็นเรือนเล็กที่อยู่ด้านหลัง

            หลังจากถูกไล่ออกมาจากบ้านเหอ ชีวิตยากลำบากกว่าเดิมมาก คิดว่าจะต้องตายแล้ว ท่านแม่ที่อ่อนแอยอมอดมื้อกินมื้อเพื่อพวกเขา

            แต่หลังจากท่านแม่ฟื้นจากการล้มป่วยหนักก็เปลี่ยนเป็นคนละคน ท่านแม่เข้มแข็ง หาเงินเก่ง เพราะอย่างนี้ เขาจะเชื่อมั่นท่านแม่!

            “เฉิงเอ๋อร์ เจ้าไม่ต้องกังวลนะ แม่ทำอย่างที่รับปากเพื่อพวกลูกได้อย่างแน่นอน”

            “อื้อ ข้าเชื่อท่านแม่!” 

            ลู่ซินฟางยิ้ม จู่ๆ แววตาของเฉิงเอ๋อร์ก็มุ่งมั่นขึ้นมา คงเพราะคำพูดปลุกใจเมื่อครู่ของนางกระมัง

            อย่างไรก็ตาม ลู่ซินฟางไม่ได้สักแต่พูด ความตั้งใจของนางแน่วแน่เป็นอย่างมาก กลับมามีชีวิตใหม่ครั้งนี้ นางจะต้องร่ำรวยและอยู่อย่างสุขสบายกับทุกคน!

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 94 ตอบรับคำเชิญของกงเยียนซู

    บทที่ 94ตอบรับคำเชิญของกงเยียนซู พอถึงเวลาที่ต้องกลับ เป่าเอ๋อร์ร้องไห้งอแง เฉิงเอ๋อร์น้ำตาคลอเบ้า เด็กทั้งสองกอดเอวลู่ซินฟาง บอกว่าอยากอยู่ที่แดนสวรรค์ต่อ ลู่ซินฟางต้องสัญญาว่าจะพามาเที่ยวอีก พวกเขาถึงยอมฟังแต่โดยดี ได้เที่ยวเล่นกันทั้งวัน พอกลับมาถึงคฤหาสน์ อาบน้ำและกินมื้อค่ำจนอิ่ม เด็กทั้งสองก็หลับปุ๋ยในทันที วันถัดมา หลางไป๋เดินทางมาที่โรงเตี๊ยมตระกูลกง แจ้งเรื่องที่ลู่ซินฟางตอบรับคำเชิญกินมื้อเย็น ทั้งยังบอกจำนวนคนที่จะมา หลักๆ คือลู่ซินฟางกับเจ้าแฝด หลางไป๋และซินหลิน ส่วนชุนกับคนอื่นๆ ไม่ได้มาด้วย พวกเขาให้เหตุผลว่าวางตัวไม่ถูกหากต้องร่วมโต๊ะกับคนสูงศักดิ์ ยามพลบค่ำ ทุกคนเตรียมตัวเสร็จแล้วก็นั่งรถม้ามายังคฤหาสน์ตระกูลกงตามเวลานัดหมาย กงเยียนซูออกมายืนรอหน้าคฤหาสน์ด้วยตัวเอง หลางไป๋ประสานมือโค้งศีรษะให้กับกงเยียนซู จากนั้นหลุบตามองพวกเด็กๆ เจ้าแฝดทั้งสอง รวมถึงซินหลินที่เห็นอย่างนั้น ก็ประสานมือบนหน้าอกแล้วโค้งศีรษะลง ทำแบบเดียวกันกับหลางไป๋ กงเยียนซูมองเด็กทั้งสามด้วยสา

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 93 เที่ยวชมฟาร์ม

    บทที่ 93เที่ยวชมฟาร์ม กินขนมอิ่มกันแล้ว หลินก็ถามเด็กน้อยทั้งสองว่า “พวกเจ้าอยากไปชมฟาร์มกันไหม?” “ไปขอรับ/เจ้าค่ะ” เฉิงเอ๋อร์กับเป่าเอ๋อร์ตอบแบบไม่ต้องคิด เด็กน้อยคิดเหมือนว่า ฟาร์มในแดนสวรรค์กว้างขวางขนาดนี้ ต้องมีพืชผักที่ไม่เคยเห็นอีกเยอะแยะแน่ๆ ยิ่งคิดแล้วก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้น พอช่วยกันเก็บโต๊ะเสร็จเรียบร้อย ทั้งสี่คนก็เดินมาที่ฟาร์มฟาร์มในมิติมีขนาดกว้างใหญ่กว่าฟาร์มตระกูลลู่ที่อยู่ในหมู่บ้านกว่างซูหลายเท่า เด็กทั้งสองยืนมองสวนผักผลไม้ด้วยความตื่นตาตื่นใจ “ท่านแม่ ผักผลไม้พวกนี้ใช่ที่ท่านเอาออกไปวางขายในร้านหรือไม่” เฉิงเอ๋อร์เป็นเด็กฉลาด เห็นผักผลไม้ปุบก็เข้าใจทันที ว่าเป็นสินค้าที่มารดาเอาออกไปวางขายในร้าน “เจ้าเข้าใจถูกแล้ว ผักผลไม้ในแดนสวรรค์ แม่แบ่งออกไปขายข้างนอก เพราะพืชในที่แห่งนี้เติบโตเร็วกว่าข้างนอกหลายเท่า” “เป็นแบบนี้เอง” ตอนนั้นเอง สัตว์อสูรในร่างจำแลงมนุษย์ที่กำลังทำสวนหันมาเห็นลู่ซินฟางกับภูตประจำมิติพอดี พวกเขาต่างโบกมือทักทาย “ท่

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 92 พรสวรรค์ของเจ้าแฝด (ครึ่งหลัง)

    บทที่ 92พรสวรรค์ของเจ้าแฝด (ครึ่งหลัง) ใต้ร่มไม้ใหญ่ใกล้กับสวนดอกไม้ข้างบ้านทรงตะวันตกจะมีโต๊ะกลมสีขาวหนึ่งชุด ไม่ไกลจากสวนดอกไม้ มองไปก็จะเห็นฟาร์มอันกว้างขวาง หลังจากตัดสินใจว่าจะนั่งเล่นกันที่ใต้ร่มไม้ เด็กน้อยทั้งสองก็ปีนขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้สีขาว เตะขาเล่นในขณะที่รอคอยขนมอร่อยๆ สักครู่หนึ่ง ชุนก็ยกเค้กสตอเบอรี่กับนมอุ่นๆ มาวางบนโต๊ะ ส่วนถาดที่อยู่ในมือของลู่ซินฟางคือชากุหลาบกลิ่นหอมกลมกล่อมกับคุกกี้เนยสด “ท่านแม่ ข้าไม่เคยเห็นของพวกนี้มาก่อนเลย” เฉิงเอ๋อร์บอกด้วยสีหน้าตื่นเต้น ดวงตากลมโตเปล่งประกายขณะกวาดตามองขนมบนโต๊ะ “น่ากินทุกอย่างเลย ขะ…ข้ากินได้หรือไม่” เป่าเอ๋อร์พูดจบก็กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ “กินกันตามสบายเลยนะจ๊ะ” ลู่ซินฟางบอกพลางลูบศีรษะเล็กๆ ของลูกน้อยทั้งสอง เจ้าแฝดตัวน้อย รวมถึงภูตน้อยหลิน หยิบส้อมขึ้นมาตักเค้กสตอเบอรี่ส่งเข้าปาก ทันทีที่ได้กินของหวานแสนอร่อย รอยยิ้มสดใสปรากฏบนใบหน้าของทั้งสามคน แก้มขาวแดงระเรื่ออย่างน่าเอ็นดู ทำเอาลู่ซินฟางกับชุนถึงกับยิ้มตาม “อร

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 91 พรสวรรค์ของเจ้าแฝด (ครึ่งแรก)

    บทที่ 91พรสวรรค์ของเจ้าแฝด (ครึ่งแรก) พอก้าวข้ามประตูมิติ โลกอันงดงามก็ปรากฏต่อหน้าทุกคน ทุ่งข้าวสีทอง สวนผักผลไม้ ป่าไพรอันสีเขียวขจี และไหนจะธารน้ำอันสดชื่น ดวงตาใสแป๋วของเด็กน้อยทั้งสองเบิกโตด้วยความตื่นเต้น ขณะที่มองไปรอบๆ “แดนสวรรค์สวยจังเลย!” “อื้อ สวยมากๆ” “ยังมีสถานที่ที่สวยกว่านี้อีกนะ” ลู่ซินฟางบอกลูกๆ “อยากเห็นจังเลย ท่านแม่” เฉิงเอ๋อร์ตื่นเต้นมาก รีบร้องบอกท่านแม่ “ข้าก็ด้วย!” เป่าเอ๋อร์พยักหน้ารัวๆ ระหว่างที่เด็กน้อยทั้งสองกำลังตื่นตาตื่นใจกับสภาพแวดล้อมอันงดงามที่อยู่ตรงหน้า เสียงเล็กน่ารักพลันดังขึ้น “งั้นข้าจะเป็นคนนำเที่ยวให้เอง ฮิๆๆ” สิ้นเสียงนั้น ภูตน้อยหลินก็ปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน ปีกน้อยขยับไปมาพร้อมกับละอองที่มีเปล่งประกายสีทองวิบวับ เจ้าแฝดเบิกตาโตพร้อมกับร้อง “ว้าว” “พวกเขาคือเฉิงเอ๋อร์กับเป่าเอ๋อร์สินะ”หลังบินวนรอบๆ เด็กน้อยทั้งสอง หลินก็กลับมานั่งบนไหล่ของลู่ซินฟาง หญิงสาวยิ้มแล้วพยักหน้าให้ก

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 90 พาเจ้าแฝดไปต่างมิติ

    บทที่ 90พาเจ้าแฝดไปต่างมิติ “ท่านจะตอบรับคำเชิญของเขาหรือไม่ขอรับ” ทันทีที่ลู่ซินฟางเปิดประตูเดินออกจากห้องทำงาน เสียงทุ้มของหลางไป๋ก็ดังขึ้น หญิงสาวหันมอง เห็นหมาป่าหนุ่มยืนกอดอกอยู่ข้างประตู เฮ้อ… ลู่ซินฟางถอนหายใจด้วยรู้สึกคิดไม่ตก ก่อนจะตอบกลับไป “ข้าในชาติก่อนไม่เคยสับสนกับเรื่องแบบนี้ ไม่รู้ว่าควรจะตอบรับคำเชิญของเขาหรือไม่” คำพูดของหญิงสาวทำเอาหมาป่าหนุ่มกระดกยิ้มตรงมุมปากอย่างขบขัน “ใครจะคิดว่านายหญิงที่คอยชี้นำเหล่าสัตว์อสูรจะเผชิญกับความสับสนเสียเอง” “ก็ข้าไม่เคยคิดนี่น่า คนที่มีศักดิ์ฐานะสูงส่งแบบกงเยียนซูจะมาสนใจหญิงหม้ายลูกติด” “นายหญิงขอรับ อย่างที่ท่านกงบอกนั่นละ การจะชอบใครสักคนทำไมต้องมีเหตุผล สำคัญกว่าฐานะ นายหญิงคิดเช่นไรกับเขาต่างหาก” ลู่ซินฟางคิดตาม ก็รู้สึกว่าหลางไป๋พูดถูก ปัญหาไม่ใช่เรื่องฐานะ สำคัญที่สุดคือลู่ซินฟางคิดกับกงเยียนซูอย่างไร? อย่างไรก็ตาม ลู่ซินฟางหรี่ดวงตาด้วยความสงสัยขณะจ้องมองหมาป่าหนุ่ม “เมื่อก่

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 89 ถูกสารภาพรักครั้งแรก

    บทที่ 89ถูกสารภาพรักครั้งแรก หมายความว่ายังไง เขาไม่ได้โกหก เขาที่ประกาศต่อหน้าทุกคนว่า ‘ชอบ’ นาง บอกว่าไม่ได้โกหก ลู่ซินฟางนั่งตัวแข็งทื่อ อึ้งจนทำอะไรไม่ถูกอยู่ชั่วขณะ ต่อมา หัวใจของนางก็เต้นอย่างรุนแรง ใบหน้าร้อนผ่าวและแดงระเรื่อ ในโลกก่อนและโลกนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ลู่ซินฟางถูกชายหนุ่มสารภาพว่าชอบ นางจึงสับสนและรับมือกับอารมณ์ในตอนนี้ไม่ถูก ผ่านไปครู่หนึ่ง ดวงตาคู่สวยกะพริบมองชายหนุ่มอยู่หลายครั้ง กงเยียนซูเลิกคิ้วมองตอบลู่ซินฟาง ดวงตาของเขาแฝงด้วยความสงสัย ว่ากันตามจริง ลู่ซินฟางไม่ใช่สาวน้อยวัยแรกแย้ม ทำไมท่าทางเขินอายนั้นถึงทำให้รู้สึกราวกับว่านางเพิ่งถูกสารภาพรักครั้งแรก “ท่านไม่ได้เข้าใจอะไรผิดใช่หรือไม่” หลังจากเงียบอยู่สักพัก ในที่สุดลู่ซินฟางก็เอ่ยออกมา “ข้าไม่ได้เข้าใจผิด คิดมาดีแล้วถึงได้มาหาเจ้าวันนี้” “ถึงท่านจะพูดแบบนั้น แต่ข้ากลับนึกไม่อออก เหตุใดท่านถึงชอบข้า ทั้งฐานะของข้ากับท่านก็แตกต่างกันมาก” “จ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status