แชร์

บทที่ 25 เปิดร้าน! (ครึ่งแรก)

ผู้เขียน: ฮาจิฮาจิ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-21 17:22:57

บทที่ 25

เปิดร้าน! (ครึ่งแรก)

            หญิงสาวแหงนมองป้ายหน้าร้านที่มีอักษรสีแดงตัวโตๆ สองพยางค์ ‘ซินหลิน’ ด้วยสีหน้าแสนปลื้มปริ่มใจ

            ก่อนหน้านี้ หลางไป๋แนะนำชื่อร้านมาหลายชื่อ แต่ท้ายที่สุด ลู่ซินฟางใช้ชื่อซินหลินตั้งเป็นชื่อร้าน เหตุผลของนางนั้นเรียบง่าย ร้านค้านี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากฝีมือนางเพียงคนเดียว แต่นางมีวันนี้ได้ก็เพราะการร่วมแรงร่วมใจจากทุกคน โดยเฉพาะหลิน แม้ว่าหลินจะออกมาจากมิติตอนนี้ไม่ได้ แต่กลับมีส่วนช่วยเหลือนางเยอะมาก ดังนั้นร้านนี้จึงเป็นของหลินด้วยเหมือนกัน

            เมื่อมาถึงวันเปิดร้าน บนถนนสายหลักของเมืองเล่ออัน ประทัดถูกจุดพร้อมกับเสียงดนตรีดังครื้นเครง เจ้าของร้านคนงาม รวมถึงคนงานในร้านต่างสวมใส่เสื้อผ้าสีแดงซึ่งเป็นสีมงคล

            ลู่ซินฟางยืนกับหนุ่มน้อยใบหน้าเกลี้ยงเกลา ตะโกนเรียกลูกค้าอยู่หน้าร้าน

            “ทุกท่าน เชิญข้างในก่อน สินค้าของเรามีมากมายให้ทุกท่านเลือกชม”

            ซินหลินมีบุคลิกนิ่งเฉย แต่พอถึงเวลาที่ต้องต้อนรับลูกค้าจริงๆ เขากลับทำได้ดี ไม่มีท่าทีขัดเขิน ลู่ซินฟางยิ้มให้กับเจ้าหนูวัย 10 ขวบ ก่อนจะหันมาเรียกแขกเข้าร้านเช่นกัน

            “ลูกค้าทุกท่าน วันนี้ของในร้านซินหลินของเราลดครึ่งราคาทุกชิ้น เข้ามาดูมาเลือกหาก่อนได้เจ้าค่ะ”

            ตั้งแต่เห็นร้านค้าเปิดใหม่ ชาวบ้านละแวกนั้นต่างก็ให้ความสนใจตั้งแต่แรกแล้ว ไหนจะเสียงประทัดเสียงตีฆ้องป่าวประกาศที่ดังเซ็งแซ่ ผู้ที่เดินผ่านไปผ่านมาไม่มีใครไม่สนใจ 

            ทว่า

            พอเห็นเถ้าแก่เนี้ยเป็นลู่ซินฟาง หญิงหม้ายที่ช่วงนี้มีข่าวลือหนาหู ว่านางสร้างเนื้อสร้างตัวจนได้ดีจากการขายสูตรอาหารให้กับเถ้าแก่กง ซึ่งแท้จริงเพราะสูตรอาหารของนางดีจริงหรือเพราะความเสน่หาส่วนตัวกันแน่ ชาวบ้านที่มายืนออกันหน้าร้านจึงยังลังเล ไม่กล้าเข้าไป

            ใช่ว่าลู่ซินฟางไม่เข้าใจความคิดของผู้คน แต่ถ้ามัวมาสนใจเรื่องหยุมหยิมก็ไม่เป็นอันทำมาหากินกันพอดี นางคิดเช่นนั้น

            ก่อนเปิดร้านสองสามวัน ลู่ซินฟางวางคนของนางตามตำแหน่งที่เหมาะสมอย่างชัดเจน

            ชุนกับเจ้าแฝดทั้งสองนั่งอยู่ชั้นสอง ตรงจุดที่มองเห็นลูกค้า แต่ไม่เกะกะ

            เฉิงเอ๋อร์ตัวน้อยมองผู้คนที่ยืนรวมกันอยู่ที่หน้าร้านด้วยสายตาตื่นเต้น แต่ทั้งที่หน้าร้านมีคนมากมาย ดูก็รู้ว่าสนใจของข้างใน แต่ไม่มีใครก้าวเข้าร้านสักคน

            “คนเยอะแยะเลย แต่ทำไมยังไม่มีใครเข้าร้านสักคนล่ะ”

            เป่าเอ๋อร์เกาะขอบระเบียง ชะโงกมองคนข้างล่าง “ทำไมกันนะ” 

            “พวกเขาอาจจะลังเล เพราะไม่รู้ว่าร้านซินหลินของเราขายอะไร...ละมั้ง” ชุนตอบอย่างไม่ค่อยมั่นใจเท่าไร นางเองก็สงสัย เหตุใดยังไม่มีคนเข้าร้าน

            “ร้านค้าของท่านแม่แปลกมากเลยหรือ” เป่าเอ๋อร์ถามอย่างไร้เดียงสา

            “เรื่องนั้น...” ชุนทำหน้าลำบากใจ ตอนที่กำลังจะตอบว่าไม่ได้แปลกสักนิด นิ้วเล็กๆ ของเฉิงเอ๋อร์ชี้ลงไปข้างล่างพร้อมกับร้องขึ้นอย่างตื่นเต้น

            “มาแล้ว เถ้าแก่หลี่ มีกล่องของขวัญด้วย!”

            ท่ามกลางความวุ่นวายหน้าร้าน ผู้คนเอาแต่ยืนมุงดูร้านค้าใหม่ แต่ไม่มีใครกล้าเข้ามา เถ้าแก่หลี่จูงมือหลานชายแหวกกลางฝูงชนเข้ามาในร้านพร้อมกับกล่องของขวัญสีแดงในมือ

            “เถ้าแก่หลี่”

            เป่าเอ๋อร์โบกมือเรียก

            เถ้าแก่หลี่กับหลานชายวัยหกเจ็ดขวบแหงนหน้าขึ้นมอง โบกมือตอบ “เป่าเอ๋อร์ เฉิงเอ๋อร์ วันนี้แต่งตัวน่ารักจังเลยนะ”

            เด็กทั้งสองยิ้มอย่างเบิกบาน

            จากนั้น เถ้าแก่หลี่ก็หันไปทางลู่ซินฟาง มอบของขวัญให้กับนางผู้เป็นเจ้าของร้านพร้อมกล่าวอวยพร 

            “สำหรับเถ้าแก่หลี่วันนี้ข้าจะลดแลกแจกแถมให้เป็นพิเศษ ท่านกับหลานชายเลือกชมสินค้าได้ตามสบายเลยเจ้าค่ะ”

            “เช่นนั้นข้าไม่เกรงใจเถ้าแก่เนี้ยลู่นะ”

            “เจ้าค่ะ” ลู่ซินฟางยิ้มตอบ ก่อนหันไปเรียกคนของนางให้พาลูกค้าเข้าไปดูสินค้าข้างใน

            หลังจากอาวุโสหลี่จูงมือหลานชายเดินดูของในร้าน ต่อมา หัวหน้าหมู่บ้านก็ถือของขวัญมาให้

            เด็กทั้งสองดีใจมากที่ได้เห็นกล่องของขวัญกล่องที่สอง

            ทว่าหัวหน้าหมู่บ้านนั้นมาเพื่อมอบของขวัญแล้วกลับเพราะต้องไปทำธุระที่อื่นต่อ ลู่ซินฟางไม่กล้ารั้งคน หลังจากรับของขวัญมาแล้ว กล่าวขอบคุณด้วยความจริงใจ ยังบอกอีกว่าจะนำของชำร่วยไปฝาก 

            ภายในร้านตอนนี้นอกจากเถ้าแก่หลี่กับหลานชายก็ไม่มีใครอื่น

            “ทางสะดวกจริงๆ คนแก่กับเด็กอย่างพวกข้าจะได้ไม่ต้องเบียดเสียดกับคนอื่น” เถ้าแก่หลี่เอ่ยแซว

            ชิงเหลียนกับหลางไป๋ที่อยู่หลังโต๊ะคิดเงินได้ยินก็ยิ้มๆ 

            เถี่ยฮ่าวซือกับสยงจวินก็มาช่วยเช่นกัน พวกเขาทำหน้าที่สอดส่อง กลัวว่าช่วงชุลมุน ในร้านเต็มไปด้วยลูกค้าจะมีการแอบขโมยของเกิดขึ้น 

            “ถ้าคนน้อยเช่นนี้คงไม่น่าจะมีปัญหาแล้วละ” สยงจวินกล่าว 

            “พี่จวินอย่าเพิ่งชะล่าใจ ท่านลองดูดีๆ สิ พวกเขายังแค่ลังเล อีกเดี๋ยวก็คงแห่เข้ามาไม่ต่างกับน้ำป่าทะลักเขื่อน” เถี่ยฮ่าวซือบอก

            สยงจวินพยักหน้า “น้ำป่าข้ารู้จัก แต่เขื่อนคืออะไรหรือ”

            “เอ่อ...” พอถูกถามเช่นนั้น สีหน้าของเถี่ยฮ่าวซือก็ผุดความรู้สึกผิด ลืมไปเลย สยงจวินบอกว่ามาจากชนบทที่ห่างไกลมากๆ ขนาดงานแกะสลักไม้ยังให้ความสนใจขนาดนั้น แล้วนี่ยังไม่รู้จักเขื่อน หมู่บ้านของสยงจวินคงอยู่ลึกในป่ากระมัง

            “ขอโทษพี่จวิน เมื่อกี้ข้าพูดไม่ชัดเจน เอาไว้เดี๋ยวข้าจะอธิบายให้ฟัง”

            “เอ๊ะ!? ทำไมต้องขอโทษข้าด้วย เมื่อกี้เจ้าพูดอะไรผิดเหรอ”

            “ฮะๆ เปล่า เปล่า ท่านไม่ได้พูดอะไรผิดหรอก”

            เห็นสยงจวินตัวใหญ่บึกบึน ดูน่ากลัว แต่แท้จริง คนคนนี้กลับมีความคิดเรียบง่าย และตรงไปตรงมา เพราะอย่างนั้น เถี่ยฮ่าวซือที่เป็นคนง่ายๆ สบายๆ เหมือนกัน ทั้งสองจึงสนิทกันอย่างรวดเร็ว

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 94 ตอบรับคำเชิญของกงเยียนซู

    บทที่ 94ตอบรับคำเชิญของกงเยียนซู พอถึงเวลาที่ต้องกลับ เป่าเอ๋อร์ร้องไห้งอแง เฉิงเอ๋อร์น้ำตาคลอเบ้า เด็กทั้งสองกอดเอวลู่ซินฟาง บอกว่าอยากอยู่ที่แดนสวรรค์ต่อ ลู่ซินฟางต้องสัญญาว่าจะพามาเที่ยวอีก พวกเขาถึงยอมฟังแต่โดยดี ได้เที่ยวเล่นกันทั้งวัน พอกลับมาถึงคฤหาสน์ อาบน้ำและกินมื้อค่ำจนอิ่ม เด็กทั้งสองก็หลับปุ๋ยในทันที วันถัดมา หลางไป๋เดินทางมาที่โรงเตี๊ยมตระกูลกง แจ้งเรื่องที่ลู่ซินฟางตอบรับคำเชิญกินมื้อเย็น ทั้งยังบอกจำนวนคนที่จะมา หลักๆ คือลู่ซินฟางกับเจ้าแฝด หลางไป๋และซินหลิน ส่วนชุนกับคนอื่นๆ ไม่ได้มาด้วย พวกเขาให้เหตุผลว่าวางตัวไม่ถูกหากต้องร่วมโต๊ะกับคนสูงศักดิ์ ยามพลบค่ำ ทุกคนเตรียมตัวเสร็จแล้วก็นั่งรถม้ามายังคฤหาสน์ตระกูลกงตามเวลานัดหมาย กงเยียนซูออกมายืนรอหน้าคฤหาสน์ด้วยตัวเอง หลางไป๋ประสานมือโค้งศีรษะให้กับกงเยียนซู จากนั้นหลุบตามองพวกเด็กๆ เจ้าแฝดทั้งสอง รวมถึงซินหลินที่เห็นอย่างนั้น ก็ประสานมือบนหน้าอกแล้วโค้งศีรษะลง ทำแบบเดียวกันกับหลางไป๋ กงเยียนซูมองเด็กทั้งสามด้วยสา

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 93 เที่ยวชมฟาร์ม

    บทที่ 93เที่ยวชมฟาร์ม กินขนมอิ่มกันแล้ว หลินก็ถามเด็กน้อยทั้งสองว่า “พวกเจ้าอยากไปชมฟาร์มกันไหม?” “ไปขอรับ/เจ้าค่ะ” เฉิงเอ๋อร์กับเป่าเอ๋อร์ตอบแบบไม่ต้องคิด เด็กน้อยคิดเหมือนว่า ฟาร์มในแดนสวรรค์กว้างขวางขนาดนี้ ต้องมีพืชผักที่ไม่เคยเห็นอีกเยอะแยะแน่ๆ ยิ่งคิดแล้วก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้น พอช่วยกันเก็บโต๊ะเสร็จเรียบร้อย ทั้งสี่คนก็เดินมาที่ฟาร์มฟาร์มในมิติมีขนาดกว้างใหญ่กว่าฟาร์มตระกูลลู่ที่อยู่ในหมู่บ้านกว่างซูหลายเท่า เด็กทั้งสองยืนมองสวนผักผลไม้ด้วยความตื่นตาตื่นใจ “ท่านแม่ ผักผลไม้พวกนี้ใช่ที่ท่านเอาออกไปวางขายในร้านหรือไม่” เฉิงเอ๋อร์เป็นเด็กฉลาด เห็นผักผลไม้ปุบก็เข้าใจทันที ว่าเป็นสินค้าที่มารดาเอาออกไปวางขายในร้าน “เจ้าเข้าใจถูกแล้ว ผักผลไม้ในแดนสวรรค์ แม่แบ่งออกไปขายข้างนอก เพราะพืชในที่แห่งนี้เติบโตเร็วกว่าข้างนอกหลายเท่า” “เป็นแบบนี้เอง” ตอนนั้นเอง สัตว์อสูรในร่างจำแลงมนุษย์ที่กำลังทำสวนหันมาเห็นลู่ซินฟางกับภูตประจำมิติพอดี พวกเขาต่างโบกมือทักทาย “ท่

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 92 พรสวรรค์ของเจ้าแฝด (ครึ่งหลัง)

    บทที่ 92พรสวรรค์ของเจ้าแฝด (ครึ่งหลัง) ใต้ร่มไม้ใหญ่ใกล้กับสวนดอกไม้ข้างบ้านทรงตะวันตกจะมีโต๊ะกลมสีขาวหนึ่งชุด ไม่ไกลจากสวนดอกไม้ มองไปก็จะเห็นฟาร์มอันกว้างขวาง หลังจากตัดสินใจว่าจะนั่งเล่นกันที่ใต้ร่มไม้ เด็กน้อยทั้งสองก็ปีนขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้สีขาว เตะขาเล่นในขณะที่รอคอยขนมอร่อยๆ สักครู่หนึ่ง ชุนก็ยกเค้กสตอเบอรี่กับนมอุ่นๆ มาวางบนโต๊ะ ส่วนถาดที่อยู่ในมือของลู่ซินฟางคือชากุหลาบกลิ่นหอมกลมกล่อมกับคุกกี้เนยสด “ท่านแม่ ข้าไม่เคยเห็นของพวกนี้มาก่อนเลย” เฉิงเอ๋อร์บอกด้วยสีหน้าตื่นเต้น ดวงตากลมโตเปล่งประกายขณะกวาดตามองขนมบนโต๊ะ “น่ากินทุกอย่างเลย ขะ…ข้ากินได้หรือไม่” เป่าเอ๋อร์พูดจบก็กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ “กินกันตามสบายเลยนะจ๊ะ” ลู่ซินฟางบอกพลางลูบศีรษะเล็กๆ ของลูกน้อยทั้งสอง เจ้าแฝดตัวน้อย รวมถึงภูตน้อยหลิน หยิบส้อมขึ้นมาตักเค้กสตอเบอรี่ส่งเข้าปาก ทันทีที่ได้กินของหวานแสนอร่อย รอยยิ้มสดใสปรากฏบนใบหน้าของทั้งสามคน แก้มขาวแดงระเรื่ออย่างน่าเอ็นดู ทำเอาลู่ซินฟางกับชุนถึงกับยิ้มตาม “อร

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 91 พรสวรรค์ของเจ้าแฝด (ครึ่งแรก)

    บทที่ 91พรสวรรค์ของเจ้าแฝด (ครึ่งแรก) พอก้าวข้ามประตูมิติ โลกอันงดงามก็ปรากฏต่อหน้าทุกคน ทุ่งข้าวสีทอง สวนผักผลไม้ ป่าไพรอันสีเขียวขจี และไหนจะธารน้ำอันสดชื่น ดวงตาใสแป๋วของเด็กน้อยทั้งสองเบิกโตด้วยความตื่นเต้น ขณะที่มองไปรอบๆ “แดนสวรรค์สวยจังเลย!” “อื้อ สวยมากๆ” “ยังมีสถานที่ที่สวยกว่านี้อีกนะ” ลู่ซินฟางบอกลูกๆ “อยากเห็นจังเลย ท่านแม่” เฉิงเอ๋อร์ตื่นเต้นมาก รีบร้องบอกท่านแม่ “ข้าก็ด้วย!” เป่าเอ๋อร์พยักหน้ารัวๆ ระหว่างที่เด็กน้อยทั้งสองกำลังตื่นตาตื่นใจกับสภาพแวดล้อมอันงดงามที่อยู่ตรงหน้า เสียงเล็กน่ารักพลันดังขึ้น “งั้นข้าจะเป็นคนนำเที่ยวให้เอง ฮิๆๆ” สิ้นเสียงนั้น ภูตน้อยหลินก็ปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน ปีกน้อยขยับไปมาพร้อมกับละอองที่มีเปล่งประกายสีทองวิบวับ เจ้าแฝดเบิกตาโตพร้อมกับร้อง “ว้าว” “พวกเขาคือเฉิงเอ๋อร์กับเป่าเอ๋อร์สินะ”หลังบินวนรอบๆ เด็กน้อยทั้งสอง หลินก็กลับมานั่งบนไหล่ของลู่ซินฟาง หญิงสาวยิ้มแล้วพยักหน้าให้ก

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 90 พาเจ้าแฝดไปต่างมิติ

    บทที่ 90พาเจ้าแฝดไปต่างมิติ “ท่านจะตอบรับคำเชิญของเขาหรือไม่ขอรับ” ทันทีที่ลู่ซินฟางเปิดประตูเดินออกจากห้องทำงาน เสียงทุ้มของหลางไป๋ก็ดังขึ้น หญิงสาวหันมอง เห็นหมาป่าหนุ่มยืนกอดอกอยู่ข้างประตู เฮ้อ… ลู่ซินฟางถอนหายใจด้วยรู้สึกคิดไม่ตก ก่อนจะตอบกลับไป “ข้าในชาติก่อนไม่เคยสับสนกับเรื่องแบบนี้ ไม่รู้ว่าควรจะตอบรับคำเชิญของเขาหรือไม่” คำพูดของหญิงสาวทำเอาหมาป่าหนุ่มกระดกยิ้มตรงมุมปากอย่างขบขัน “ใครจะคิดว่านายหญิงที่คอยชี้นำเหล่าสัตว์อสูรจะเผชิญกับความสับสนเสียเอง” “ก็ข้าไม่เคยคิดนี่น่า คนที่มีศักดิ์ฐานะสูงส่งแบบกงเยียนซูจะมาสนใจหญิงหม้ายลูกติด” “นายหญิงขอรับ อย่างที่ท่านกงบอกนั่นละ การจะชอบใครสักคนทำไมต้องมีเหตุผล สำคัญกว่าฐานะ นายหญิงคิดเช่นไรกับเขาต่างหาก” ลู่ซินฟางคิดตาม ก็รู้สึกว่าหลางไป๋พูดถูก ปัญหาไม่ใช่เรื่องฐานะ สำคัญที่สุดคือลู่ซินฟางคิดกับกงเยียนซูอย่างไร? อย่างไรก็ตาม ลู่ซินฟางหรี่ดวงตาด้วยความสงสัยขณะจ้องมองหมาป่าหนุ่ม “เมื่อก่

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 89 ถูกสารภาพรักครั้งแรก

    บทที่ 89ถูกสารภาพรักครั้งแรก หมายความว่ายังไง เขาไม่ได้โกหก เขาที่ประกาศต่อหน้าทุกคนว่า ‘ชอบ’ นาง บอกว่าไม่ได้โกหก ลู่ซินฟางนั่งตัวแข็งทื่อ อึ้งจนทำอะไรไม่ถูกอยู่ชั่วขณะ ต่อมา หัวใจของนางก็เต้นอย่างรุนแรง ใบหน้าร้อนผ่าวและแดงระเรื่อ ในโลกก่อนและโลกนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ลู่ซินฟางถูกชายหนุ่มสารภาพว่าชอบ นางจึงสับสนและรับมือกับอารมณ์ในตอนนี้ไม่ถูก ผ่านไปครู่หนึ่ง ดวงตาคู่สวยกะพริบมองชายหนุ่มอยู่หลายครั้ง กงเยียนซูเลิกคิ้วมองตอบลู่ซินฟาง ดวงตาของเขาแฝงด้วยความสงสัย ว่ากันตามจริง ลู่ซินฟางไม่ใช่สาวน้อยวัยแรกแย้ม ทำไมท่าทางเขินอายนั้นถึงทำให้รู้สึกราวกับว่านางเพิ่งถูกสารภาพรักครั้งแรก “ท่านไม่ได้เข้าใจอะไรผิดใช่หรือไม่” หลังจากเงียบอยู่สักพัก ในที่สุดลู่ซินฟางก็เอ่ยออกมา “ข้าไม่ได้เข้าใจผิด คิดมาดีแล้วถึงได้มาหาเจ้าวันนี้” “ถึงท่านจะพูดแบบนั้น แต่ข้ากลับนึกไม่อออก เหตุใดท่านถึงชอบข้า ทั้งฐานะของข้ากับท่านก็แตกต่างกันมาก” “จ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status