แชร์

บทที่ 36 กลายเป็นครอบครัวใหญ่

ผู้เขียน: ฮาจิฮาจิ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-21 17:29:30

บทที่ 36

กลายเป็นครอบครัวใหญ่

            ตอนที่พวกสยงจวินออกไปตรวจสอบคฤหาสน์เป็นช่วงสาย ราวๆ ยามซื่อ(09.00-11.00น.) และตอนที่พวกเขากลับมา เวลาก็ล่วงเลยมาถึงบ่ายแก่ๆ

            หลางไป๋รายงานว่า คฤหาสน์ที่กงเยียนซูให้มากว้างขวางมาก มีทั้งเรือนเล็กเรือนหลักมากมาย แถมยังมีสวนสวยๆ กับน้ำตกจำลอง บ่อน้ำก็กว้างมากด้วย

            หากจะเข้าอยู่ก็อยู่ได้เลย เพราะไม่ต้องปรับปรุงหรือซ่อมแซมอะไรแล้ว ในส่วนของเรือนหลักมีเครื่องเรือนตกแต่งไว้เรียบร้อย ยกเว้นเรือนรองกับเรือนเล็ก  

            หลังจากฟังคำรายงานจบ ลู่ซินฟางเข้าใจคำว่า ‘ซื้อไว้เกร็งกำไร’ ของกงเยียนซู ทั้งยังอดคิดไม่ได้ว่าผู้ชายมีหัวการค้าเสียจริง นอกจากจะทำธุรกิจภัตตาคาร กงเยียนซูคงทำธุรกิจอหังสาริมทรัพย์ด้วย

            ด้วยฐานะองค์ชาย ถึงจะนั่งๆ นอนๆ ก็มีเงินใช้ไม่ขาดมือ ไม่เข้าใจว่าเขาขยันหาเงินเช่นนี้ไปทำไม

            แต่ช่างเถอะ นั่นไม่ใช่เรื่องของนางเสียหน่อย 

            หลางไป๋ย้ำอีกว่า “คฤหาสน์หลังนั้นเหมือนซื้อไว้ขายต่อ ไม่มีอะไรให้น่าสงสัยขอรับ”

            ลู่ซินฟางเงียบคิด สักพักหนึ่งค่อยบอกว่า “ในเมื่อไม่มีอะไรให้ต้องสงสัย เช่นนั้นข้าจะย้ายเข้าอยู่วันนี้เลย”

            “ขอรับ ข้าจะช่วยท่านขนย้ายของเอง”

            “นายหญิง...”

            ในตอนนั้นร่างสูงใหญ่ของพ่อหมีสยงจวินเดินเข้ามายืนตรงหน้าของลู่ซินฟาง นางเงยหน้ามองสยงจวินแล้วถาม “เจ้าก็จะช่วยย้ายของด้วยหรือ”

            “นั่นก็ใช่ แต่ข้ามีบางเรื่องอยากขอร้องนายหญิง”

            “หือ?”

            “คือว่า...พอภรรยาของข้ารู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับนายหญิง นางบอกข้าว่าอยากย้ายมาอยู่ใกล้ๆ ท่านเพราะอยากช่วยปกป้องท่านอีกแรง ข้าเองก็เห็นด้วย นายหญิง หากไม่เป็นการรบกวนเกินไป ให้ครอบครัวข้าย้ายมาอยู่กับท่านได้หรือไม่ขอรับ”

            แม่หมีเหนียงซิ่นเก่งเรื่องทำครัว ในขณะเดียวกันก็ใช้เวทที่เป็นประโยชน์ต่อลู่ซินฟางได้เป็นอย่างมาก ถ้าย้ายมาอยู่ด้วยกันก็สะดวกไม่น้อย แต่...

            “แบบนั้นจะดีหรือ แล้วถ้ำหมี...ข้าหมายถึงบ้านเจ้าที่อยู่ทางนั้นล่ะ ไหนจะสยงเหยา ลูกชายคนเล็กเจ้าอีก เขาสะดวกใจที่จะมาอยู่ที่นี่หรือ”

            “สะดวกอย่างยิ่งเลยขอรับ!” สยงจวินตอบอย่างกระตือรือร้น “อีกอย่าง พวกเราเดินทางไปกลับได้ไม่ใช่หรือ เรื่องบ้านทางนั้น ข้าฝากพี่น้องช่วยดูแลได้” 

            นั่นสินะ สยงจวินไม่ได้ย้ายบ้านถาวร ถ้าอยากกลับโลกเดิม ก็แค่ก้าวผ่านประตูมิติเอง อีกอย่างครอบครัวหมีน้ำตาลก็ไม่ได้มีแค่ตระกูลสยงตระกูลเดียว สยงจวินยังมีพี่น้องตั้งมากมาย แค่ย้ายบ้าน ไม่ทำให้สูญพันธุ์สักหน่อย 

            “อืม ตามใจเจ้าแล้วกัน” ลู่ซินฟางอนุญาต

            เมื่อเห็นว่าสยงจวินได้รับอนุญาตให้ย้ายมาอยู่ด้วย สัตว์อสูรตนอื่นก็มาล้อมมุงรอบๆ ตัวลู่ซินฟาง ส่งสายตากระตือรือร้น

            พวกเขาก็คงอยากอยู่ที่นี่ด้วยสินะ...

            นางยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนจะบอกทุกคนว่า หากมีเรือนว่างก็ลองเลือกดู

            ทั้งนี้ทั้งนั้น ลู่ซินฟางขอคนที่สมัครใจอยู่และไม่ทำให้ครอบครัวของตนต้องลำบาก

            เมื่อเหล่าสัตว์อสูรปรึกษาและแบ่งเรือนกันเรียบร้อย ทุกคนก็ช่วยกันขนย้ายข้าวของเข้าคฤหาสน์หลังใหม่

            แน่นอน ลู่ซินฟางกับลูกๆ อยู่เรือนหลัก ชุนทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงเด็กก็อยู่เรือนหลักด้วยกัน แต่เป็นห้องแยก

            ซินหลินกับหลางไป๋ขอเดินทางไปกลับ แต่ก็มีเรือนพักสำรองที่นี่เช่นกัน

            สยงจวินกับครอบครัวย้ายมาอยู่เรือนเล็ก ซึ่งเป็นเรือนของคนงาน

            สองพี่น้องหู่จืออวิ๋นกับหู่จือเหมย เผ่ากระต่ายที่จำแลงเป็นมนุษย์ขอพักอยู่ในเรือนคนงาน พวกเขาสองพี่น้องเป็นลูกจ้างในร้าน ทำงานคล่องแคล่วและมีกันแค่สองพี่น้อง ลู่ซินฟางไม่ขัดข้องใดๆ จึงอนุญาตให้อยู่ที่นี่ด้วยกัน

            พูดถึงพี่น้องหู่จือ ตอนที่ลู่ซินฟางรู้จักทั้งสองคนครั้งแรก เป็นเรื่องเมื่อสิบปีก่อน ตอนนั้นนางกำลังเดินสำรวจที่ดินเพื่อขยายสวนในโลกต่างมิติ แต่แล้วจู่ๆ ฝนก็ตกลงมา ระหว่างหลบฝนใต้ต้นไม้ นางได้ยินเสียงเด็กน้อยสองคนคุยกัน

            ‘พี่ชาย ข้าหิวจัง’

            ‘ฝนหยุดแล้วพี่จะออกไปหาอะไรมาให้กินนะ’

            ‘แต่แถวนี้ไม่มีอาหารให้พวกเรากิน พี่ชายจะไปหาที่ไหน’

            นอกจากในป่าลึก กับสวนของมนุษย์ ละแวกนี้มีเพียงหญ้ากับผักที่ขึ้นเอง แต่ก็ไม่ทำให้ท้องอิ่ม

            ‘ก็ที่สวนผลไม้ของมนุษย์นั่นยังไงล่ะ’

            ได้ยินแบบนั้น ลู่ซินฟางเดาว่าหลังฝนหยุดตก เด็กๆ ทั้งสองคงจะไปขโมยผลไม้ที่สวนของนาง

            ‘ไม่เอา พี่ชายอย่าไปเลย ที่นั่นมีหมีกับฝูงหมาป่า ถ้าพี่ชายไปจะโดนจับกินเอาได้นะ’

            เอ๊ะ!?

            ลู่ซินฟางงุนงง พวกสยงจวินกับหลางไป๋จับเด็กกินด้วยเหรอ ระหว่างคิดอย่างสงสัย นางเดินมาถึงโพลงไม้ใหญ่พอดี 

            นางย่อเข่า ก้มตัวลงมอง ทันทีที่เห็นเด็กชายกับเด็กหญิงอายุหกขวบกับเจ็ดขวบ บนขมับทั้งสองข้างมีหูกระต่ายก็ถึงกับตะลึง

            ถึงลู่ซินฟางจะคุยกับสัตว์อสูรรู้เรื่องเพราะเวทมนตร์ของหลิน แต่เผ่าสัตว์อสูรที่แปลงร่างเป็นมนุษย์ได้มีน้อยมาก

            จ๊อก...

            โครก...

            เสียงท้องร้องสุดยอดไปเลยนะ ลู่ซินฟางยิ้มเอ็นดู ขณะเดียวกันก็รู้สึกสงสารจับใจ เพราะเด็กทั้งสองร่างกาผอมมาก

            ‘นี่พอจะเป็นอาหารได้ไหม’ ลู่ซินฟางเอ่ยพร้อมยื่นขนมปังไส้ถั่วหวานให้กับกระต่ายเด็กทั้งสอง 

            ‘เหวอ!’

            เด็กทั้งสองตกใจจนตัวแข็งทื่อ

            ลู่ซินฟางยิ้มอ่อนโยน มือก็ยื่นขนมปังให้กับเด็กทั้งสองอย่างอดทน

            พวกเขามองนางด้วยสีหน้าหวาดกลัวและตัวสั่น แต่ท้ายที่สุด ก็ยอมจำนนให้กับขนมปัง

            หลังจากรับขนมปังไปกิน พี่น้องกระต่ายถึงกับร้องไห้เพราะความอร่อย

            ‘พวกเจ้าไม่จำเป็นขโมยผลไม้ในสวนข้าหรอกนะ แล้วก็ไม่ต้องกลัวพวกสยงจวินกับหลางไป๋ด้วย’

            แม้พวกเขาเป็นเผ่ากินเนื้อ แต่ถ้าอยู่ในร่างมนุษย์และคุยกันรู้เรื่อง พวกนั้นไม่มีทางจับใครกินซี้ซั้วแน่นอน

            พอลู่ซินฟางเอ่ยอย่างนั้น พวกเขาก็ก้มหน้าอย่างรู้สึกผิด นางจึงกล่าวเสริมว่า ‘มาอยู่กับข้า ช่วยงานในไร่ดีไหม มีที่พักและของกินเป็นค่าตอบแทนด้วยนะ’

            ‘ดะ...ได้เหรอ’

            ‘ได้แน่นอน’

            กระต่ายเด็กทั้งสองมองหน้ากัน สักพักก็ยิ้มออกมาด้วยความยินดี

            น่ารักจัง...

            พอย้อนคิดถึงอดีตของสองพี่น้องกระต่าย ลู่ซินฟางอดมองไปทางเฉิงเอ๋อร์กับเป่าเอ๋อร์ไม่ได้

            หากว่าลู่ซินฟางไม่บังเอิญเจอพวกเด็กๆ ไม่ว่าจะพี่น้องกระต่าย หรือแฝดคู่นี้ ป่านนี้พวกเขาจะมีชีวิตอย่างไรกันนะ

            ในระหว่างที่กำลังคิด หลางไป๋เดินเข้ามาถาม

            “นายหญิง ยังเหลือคนที่ชอบทำปากยื่นปากยาวรอดตัวไปอีกหนึ่งคน ท่านคิดจะจัดการนางคนนั้นอย่างไรขอรับ”

            ลู่ซินฟางดึงความคิดกลับมาปัจจุบัน หรี่ตาพลางตอบว่า...

            “ต้องสั่งสอนให้เข็ดหลาบอยู่แล้วสิ” 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 94 ตอบรับคำเชิญของกงเยียนซู

    บทที่ 94ตอบรับคำเชิญของกงเยียนซู พอถึงเวลาที่ต้องกลับ เป่าเอ๋อร์ร้องไห้งอแง เฉิงเอ๋อร์น้ำตาคลอเบ้า เด็กทั้งสองกอดเอวลู่ซินฟาง บอกว่าอยากอยู่ที่แดนสวรรค์ต่อ ลู่ซินฟางต้องสัญญาว่าจะพามาเที่ยวอีก พวกเขาถึงยอมฟังแต่โดยดี ได้เที่ยวเล่นกันทั้งวัน พอกลับมาถึงคฤหาสน์ อาบน้ำและกินมื้อค่ำจนอิ่ม เด็กทั้งสองก็หลับปุ๋ยในทันที วันถัดมา หลางไป๋เดินทางมาที่โรงเตี๊ยมตระกูลกง แจ้งเรื่องที่ลู่ซินฟางตอบรับคำเชิญกินมื้อเย็น ทั้งยังบอกจำนวนคนที่จะมา หลักๆ คือลู่ซินฟางกับเจ้าแฝด หลางไป๋และซินหลิน ส่วนชุนกับคนอื่นๆ ไม่ได้มาด้วย พวกเขาให้เหตุผลว่าวางตัวไม่ถูกหากต้องร่วมโต๊ะกับคนสูงศักดิ์ ยามพลบค่ำ ทุกคนเตรียมตัวเสร็จแล้วก็นั่งรถม้ามายังคฤหาสน์ตระกูลกงตามเวลานัดหมาย กงเยียนซูออกมายืนรอหน้าคฤหาสน์ด้วยตัวเอง หลางไป๋ประสานมือโค้งศีรษะให้กับกงเยียนซู จากนั้นหลุบตามองพวกเด็กๆ เจ้าแฝดทั้งสอง รวมถึงซินหลินที่เห็นอย่างนั้น ก็ประสานมือบนหน้าอกแล้วโค้งศีรษะลง ทำแบบเดียวกันกับหลางไป๋ กงเยียนซูมองเด็กทั้งสามด้วยสา

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 93 เที่ยวชมฟาร์ม

    บทที่ 93เที่ยวชมฟาร์ม กินขนมอิ่มกันแล้ว หลินก็ถามเด็กน้อยทั้งสองว่า “พวกเจ้าอยากไปชมฟาร์มกันไหม?” “ไปขอรับ/เจ้าค่ะ” เฉิงเอ๋อร์กับเป่าเอ๋อร์ตอบแบบไม่ต้องคิด เด็กน้อยคิดเหมือนว่า ฟาร์มในแดนสวรรค์กว้างขวางขนาดนี้ ต้องมีพืชผักที่ไม่เคยเห็นอีกเยอะแยะแน่ๆ ยิ่งคิดแล้วก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้น พอช่วยกันเก็บโต๊ะเสร็จเรียบร้อย ทั้งสี่คนก็เดินมาที่ฟาร์มฟาร์มในมิติมีขนาดกว้างใหญ่กว่าฟาร์มตระกูลลู่ที่อยู่ในหมู่บ้านกว่างซูหลายเท่า เด็กทั้งสองยืนมองสวนผักผลไม้ด้วยความตื่นตาตื่นใจ “ท่านแม่ ผักผลไม้พวกนี้ใช่ที่ท่านเอาออกไปวางขายในร้านหรือไม่” เฉิงเอ๋อร์เป็นเด็กฉลาด เห็นผักผลไม้ปุบก็เข้าใจทันที ว่าเป็นสินค้าที่มารดาเอาออกไปวางขายในร้าน “เจ้าเข้าใจถูกแล้ว ผักผลไม้ในแดนสวรรค์ แม่แบ่งออกไปขายข้างนอก เพราะพืชในที่แห่งนี้เติบโตเร็วกว่าข้างนอกหลายเท่า” “เป็นแบบนี้เอง” ตอนนั้นเอง สัตว์อสูรในร่างจำแลงมนุษย์ที่กำลังทำสวนหันมาเห็นลู่ซินฟางกับภูตประจำมิติพอดี พวกเขาต่างโบกมือทักทาย “ท่

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 92 พรสวรรค์ของเจ้าแฝด (ครึ่งหลัง)

    บทที่ 92พรสวรรค์ของเจ้าแฝด (ครึ่งหลัง) ใต้ร่มไม้ใหญ่ใกล้กับสวนดอกไม้ข้างบ้านทรงตะวันตกจะมีโต๊ะกลมสีขาวหนึ่งชุด ไม่ไกลจากสวนดอกไม้ มองไปก็จะเห็นฟาร์มอันกว้างขวาง หลังจากตัดสินใจว่าจะนั่งเล่นกันที่ใต้ร่มไม้ เด็กน้อยทั้งสองก็ปีนขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้สีขาว เตะขาเล่นในขณะที่รอคอยขนมอร่อยๆ สักครู่หนึ่ง ชุนก็ยกเค้กสตอเบอรี่กับนมอุ่นๆ มาวางบนโต๊ะ ส่วนถาดที่อยู่ในมือของลู่ซินฟางคือชากุหลาบกลิ่นหอมกลมกล่อมกับคุกกี้เนยสด “ท่านแม่ ข้าไม่เคยเห็นของพวกนี้มาก่อนเลย” เฉิงเอ๋อร์บอกด้วยสีหน้าตื่นเต้น ดวงตากลมโตเปล่งประกายขณะกวาดตามองขนมบนโต๊ะ “น่ากินทุกอย่างเลย ขะ…ข้ากินได้หรือไม่” เป่าเอ๋อร์พูดจบก็กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ “กินกันตามสบายเลยนะจ๊ะ” ลู่ซินฟางบอกพลางลูบศีรษะเล็กๆ ของลูกน้อยทั้งสอง เจ้าแฝดตัวน้อย รวมถึงภูตน้อยหลิน หยิบส้อมขึ้นมาตักเค้กสตอเบอรี่ส่งเข้าปาก ทันทีที่ได้กินของหวานแสนอร่อย รอยยิ้มสดใสปรากฏบนใบหน้าของทั้งสามคน แก้มขาวแดงระเรื่ออย่างน่าเอ็นดู ทำเอาลู่ซินฟางกับชุนถึงกับยิ้มตาม “อร

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 91 พรสวรรค์ของเจ้าแฝด (ครึ่งแรก)

    บทที่ 91พรสวรรค์ของเจ้าแฝด (ครึ่งแรก) พอก้าวข้ามประตูมิติ โลกอันงดงามก็ปรากฏต่อหน้าทุกคน ทุ่งข้าวสีทอง สวนผักผลไม้ ป่าไพรอันสีเขียวขจี และไหนจะธารน้ำอันสดชื่น ดวงตาใสแป๋วของเด็กน้อยทั้งสองเบิกโตด้วยความตื่นเต้น ขณะที่มองไปรอบๆ “แดนสวรรค์สวยจังเลย!” “อื้อ สวยมากๆ” “ยังมีสถานที่ที่สวยกว่านี้อีกนะ” ลู่ซินฟางบอกลูกๆ “อยากเห็นจังเลย ท่านแม่” เฉิงเอ๋อร์ตื่นเต้นมาก รีบร้องบอกท่านแม่ “ข้าก็ด้วย!” เป่าเอ๋อร์พยักหน้ารัวๆ ระหว่างที่เด็กน้อยทั้งสองกำลังตื่นตาตื่นใจกับสภาพแวดล้อมอันงดงามที่อยู่ตรงหน้า เสียงเล็กน่ารักพลันดังขึ้น “งั้นข้าจะเป็นคนนำเที่ยวให้เอง ฮิๆๆ” สิ้นเสียงนั้น ภูตน้อยหลินก็ปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน ปีกน้อยขยับไปมาพร้อมกับละอองที่มีเปล่งประกายสีทองวิบวับ เจ้าแฝดเบิกตาโตพร้อมกับร้อง “ว้าว” “พวกเขาคือเฉิงเอ๋อร์กับเป่าเอ๋อร์สินะ”หลังบินวนรอบๆ เด็กน้อยทั้งสอง หลินก็กลับมานั่งบนไหล่ของลู่ซินฟาง หญิงสาวยิ้มแล้วพยักหน้าให้ก

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 90 พาเจ้าแฝดไปต่างมิติ

    บทที่ 90พาเจ้าแฝดไปต่างมิติ “ท่านจะตอบรับคำเชิญของเขาหรือไม่ขอรับ” ทันทีที่ลู่ซินฟางเปิดประตูเดินออกจากห้องทำงาน เสียงทุ้มของหลางไป๋ก็ดังขึ้น หญิงสาวหันมอง เห็นหมาป่าหนุ่มยืนกอดอกอยู่ข้างประตู เฮ้อ… ลู่ซินฟางถอนหายใจด้วยรู้สึกคิดไม่ตก ก่อนจะตอบกลับไป “ข้าในชาติก่อนไม่เคยสับสนกับเรื่องแบบนี้ ไม่รู้ว่าควรจะตอบรับคำเชิญของเขาหรือไม่” คำพูดของหญิงสาวทำเอาหมาป่าหนุ่มกระดกยิ้มตรงมุมปากอย่างขบขัน “ใครจะคิดว่านายหญิงที่คอยชี้นำเหล่าสัตว์อสูรจะเผชิญกับความสับสนเสียเอง” “ก็ข้าไม่เคยคิดนี่น่า คนที่มีศักดิ์ฐานะสูงส่งแบบกงเยียนซูจะมาสนใจหญิงหม้ายลูกติด” “นายหญิงขอรับ อย่างที่ท่านกงบอกนั่นละ การจะชอบใครสักคนทำไมต้องมีเหตุผล สำคัญกว่าฐานะ นายหญิงคิดเช่นไรกับเขาต่างหาก” ลู่ซินฟางคิดตาม ก็รู้สึกว่าหลางไป๋พูดถูก ปัญหาไม่ใช่เรื่องฐานะ สำคัญที่สุดคือลู่ซินฟางคิดกับกงเยียนซูอย่างไร? อย่างไรก็ตาม ลู่ซินฟางหรี่ดวงตาด้วยความสงสัยขณะจ้องมองหมาป่าหนุ่ม “เมื่อก่

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 89 ถูกสารภาพรักครั้งแรก

    บทที่ 89ถูกสารภาพรักครั้งแรก หมายความว่ายังไง เขาไม่ได้โกหก เขาที่ประกาศต่อหน้าทุกคนว่า ‘ชอบ’ นาง บอกว่าไม่ได้โกหก ลู่ซินฟางนั่งตัวแข็งทื่อ อึ้งจนทำอะไรไม่ถูกอยู่ชั่วขณะ ต่อมา หัวใจของนางก็เต้นอย่างรุนแรง ใบหน้าร้อนผ่าวและแดงระเรื่อ ในโลกก่อนและโลกนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ลู่ซินฟางถูกชายหนุ่มสารภาพว่าชอบ นางจึงสับสนและรับมือกับอารมณ์ในตอนนี้ไม่ถูก ผ่านไปครู่หนึ่ง ดวงตาคู่สวยกะพริบมองชายหนุ่มอยู่หลายครั้ง กงเยียนซูเลิกคิ้วมองตอบลู่ซินฟาง ดวงตาของเขาแฝงด้วยความสงสัย ว่ากันตามจริง ลู่ซินฟางไม่ใช่สาวน้อยวัยแรกแย้ม ทำไมท่าทางเขินอายนั้นถึงทำให้รู้สึกราวกับว่านางเพิ่งถูกสารภาพรักครั้งแรก “ท่านไม่ได้เข้าใจอะไรผิดใช่หรือไม่” หลังจากเงียบอยู่สักพัก ในที่สุดลู่ซินฟางก็เอ่ยออกมา “ข้าไม่ได้เข้าใจผิด คิดมาดีแล้วถึงได้มาหาเจ้าวันนี้” “ถึงท่านจะพูดแบบนั้น แต่ข้ากลับนึกไม่อออก เหตุใดท่านถึงชอบข้า ทั้งฐานะของข้ากับท่านก็แตกต่างกันมาก” “จ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status