หน้าหลัก / รักโบราณ / ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์ / บทที่ 65 ไม่มีใครอยากยุ่งเรื่องของลู่ซินฟางหรอก (ครึ่งหลัง)

แชร์

บทที่ 65 ไม่มีใครอยากยุ่งเรื่องของลู่ซินฟางหรอก (ครึ่งหลัง)

ผู้เขียน: ฮาจิฮาจิ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-22 11:30:51

บทที่ 65

ไม่มีใครอยากยุ่งเรื่องของลู่ซินฟางหรอก (ครึ่งหลัง)

            “นี่ป้า พูดถึงใคร ข้าไม่รู้จักหรอกคนชื่อนั้นน่ะ”

            เด็กชายตอบเสียงห้วน ทำเอาหน้าเหี่ยวๆ ของนางเหอบึ้งตึงทันที 

            “ตายจริง ดูพูดเข้า! ช่างเป็นเด็กที่อวดดีอะไรแบบนี้ คนบ้านนอกเหมือนกันหมดทุกคนหรือยังไง ต่อให้หน้าตาดีแค่ไหนก็ไร้การศึกษา อาถิง แม่ว่าพวกเรารีบๆ ไปกันดีกว่า แม่ชักจะระคายเคืองสายตากับบ้านนอกแบบนี้แล้ว”

            “พูดมากมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว อะไรของป้าไม่ทราบ คนที่ระคายเคืองสายตาคือทางนี้ต่างหาก แล้วเสียงของป้าก็แหลมบาดหูมากด้วย น่ารำคาญ เจ้าก็อีกคน จ้องหน้าข้าอยู่ได้ ไม่มีที่ให้ไปแล้วกันแล้วหรือ” เด็กชายพูดหน้านิ่งๆ แต่ละคำทั้งตรงทั้งห้วน 

            นางเหอรับไม่ได้ถึงกับยกมือขึ้นกุมอก

            “เกิดมาไม่เคยเจอเด็กนิสัยแย่ๆ แบบเจ้าเลย ถ้าไม่สั่งสอนให้ดี อนาคตคงโตขึ้นมาเป็นอันธพาล”

            “ข้าดีเฉพาะกับคนบางคนเท่านั้นแหละป้า แล้วข้าก็ไม่ได้อยากให้ป้ามาสอน”

            “เถียงคำไม่ตกฟากจริงๆ!” นางเหอแผดเสียงสูงกว่าเดิม พร้อมกับถลึงตาใส่เด็กชายอย่างดุดัน  

            เหอถิงไม่อยากสร้างเรื่องสร้างราว แม้ว่าที่นี่จะเป็นต่างเมือง ชื่อเสียงขุนนางของเขาต้องสะอาดหมดจด จะมาแปดเปื้อนเพราะเรื่องแค่นี้เกรงว่าจะได้ไม่คุ้มเสีย

            ชายหนุ่มรีบห้ามมารดา

            “ไปกันเถอะท่านแม่ ขืนช้าเดี๋ยวฟ้าจะมืดเอา”

            ว่าจบ ก็โอบไหล่อวบอ้วนของมารดาเดินออกมาจากตรงนั้น

            ด้านสยงจวิน ไม่รู้ว่าทำไมซินหลินถึงได้ไม่พอใจหญิงกลางคนร่างท้วมกับชายหนุ่มคนนั้น

            ว่าตามตรง ซินหลินเป็นคนเงียบขรึม ไม่ค่อยยิ้มแย้มเหมือนเด็กคนอื่น แต่ไม่มีสักครั้งที่จะทำตัวไม่เป็นมิตร ด้วยความสงสัยสยงจวินเลยเอ่ยถาม

            “อยู่ดีๆ ทำไมถึงหงุดหงิดขึ้นมา ปกติเจ้าไม่เป็นแบบนี้นี่”

            “ไม่รู้เหมือนกัน แค่เห็นหน้าสองคนนั้นข้าก็รู้สึกไม่ชอบใจแล้ว อีกอย่าง เจ้าไม่ได้ยินหรือ ยัยป้านั่นพูดชื่อลู่ซินฟาง พวกเขาเกี่ยวข้องอะไรกับนาง ข้าชักอยากรู้แล้วสิ”

            พอซินหลินพูดมา สยงจวินถึงนึกขึ้นได้ ผู้หญิงกลางคนร่างท้วมผู้นั้นเอ่ยชื่อนายหญิง แต่ทว่า น้ำเสียงตอนถามถึงนาหญิง ฟังแล้วไม่รู้สึกดีเลยสักนิด

            “นั่นสิ พวกเขาเป็นอะไรกับนายหญิง?” สยงจวินเอ่ยด้วยความสงสัย

            ซินหลินมุ่นหัวคิ้ว แก้คำของสยงจวินใหม่ “เจ้าต้องใช้คำว่า ยัยป้านั่นเกี่ยวข้องอะไรกับร่างเดิมต่างหาก”

            “อ้อ ข้าพูดผิดไป” 

            ไม่นานนัก สองแม่ลูกก็เดินมาจนถึงบ้านของหัวหน้าหมู่บ้าน

            ประจวบเหมาะ หัวหน้าหมู่บ้านอยู่ที่บ้านพอดี เหอถิงกับนางเหอจึงได้เข้ามาในนั่งในบ้าน ทั้งยังมีคนยกชามาต้อนรับ

            “ดีจริงๆ ที่สาวใช้บ้านท่านไม่พูดมาก ท่านรู้อะไรไหม ตั้งแต่เข้ามาในหมู่บ้าน ข้ากับลูกชายเจอแต่คนพูดจาก้าวร้าว ทำตัวอวดดีใส่ คงเห็นว่าพวกเราเป็นคนต่างเมืองกระมังถึงได้ดูถูก ยังไงลูกข้าก็เป็นถึงขุนนางเชียวนะ!” นางเหอพูดฉอดๆ พร้อมกับยกชาดื่มด้วยท่าทีโมโห

            ตั้งแต่ประโยคแรกหลุดจากปากขอนางเหอ คนในบ้านเต๋อต่างทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะสาวใช้ที่นางเหอพูดถึงคือฮูหยินรองของหัวหน้าหมู่บ้าน

            ทางด้านฝางลี่ ได้ยินแบบนั้นก็แทบหลั่งน้ำตา นางไม่ได้สงบเสงี่ยม ตั้งแต่ถูกผึ้งต่อยปากคราวนั้น กลายเป็นว่าพูดไม่ได้อีกเลย แม้ส่งเสียงได้นิดหน่อย เปิดปากกินข้าวได้ แต่กลับพูดไม่ได้!

คนช่างจ้อแบบนาง พอพูดไม่ได้ก็ให้รู้สึกอึดอัดจนอยากร้องไห้ ไม่ว่าหมอคนไหนก็รักษาอาการของนางไม่ได้ เวรกรรมหนอเวรกรรม

            “ว่าแต่ ท่านขุนนางมาที่หมู่บ้านกว่างซูมีธุระอะไรกันหรือ” หัวหน้าหน้าหมู่บ้านถามเหอถิงอย่างมีมารยาท

            “ข้ามาตามหาคน” เหอถิงกล่าวเข้าเรื่อง

            “แล้วท่านขุนนางจะตามหาใครหรือ” ฮูหยินใหญ่ของหัวหน้าหมู่บ้านถามต่อ

            “ลู่ซินฟางกับลูกๆ ของนาง”

            ทันทีที่ประโยคนั้นหลุดจากปากชายหนุ่ม ทุกคนในบ้านเต๋อต่างเงียบกริบอย่างคาดไม่ถึง

            “มีอะไรหรือ ทำไมเงียบแปลกๆ” นางเหอโพลงถาม

            “เปล่าๆ แค่ไม่คิดว่าจะมีคนมาตามหานาง” หัวหน้าหมู่บ้านกล่าว ก่อนจะถามต่อทันที “ถ้าอย่างนั้นขอถามหน่อย พวกท่านเป็นอะไรกับลู่ซินฟาง”

            “คนรู้จักน่ะ พอดีข้าเพิ่งได้ยินข่าวว่านางย้ายกลับมาที่บ้านเดิม และกำลังลำบากจึงเดินทางมาเยี่ยมนางสักหน่อย แต่ไม่คิดว่านางจะย้ายออกไปแล้ว” เหอถิงบอกด้วยแสร้งทำทีเป็นห่วงใย

            หัวหน้าหมู่บ้านกับภรรยามองตากันแวบหนึ่ง คิดตรงกันว่า มองอย่างไรก็ไม่น่าใช่คนรู้จัก แต่จะเปิดโปงก็ไม่ได้ อีกฝ่ายเป็นขุนนาง เดี๋ยวงานจะเข้าเอา

            กระนั้น จะพูดเรื่องของลู่ซินฟางก็ไม่ได้อีก เพราะทางนั้นมีกงเยียนซูหนุนหลัง

            หัวหน้าหมู่บ้านทำหน้าลำบากใจ ไม่ว่าทางไหนก็งานเข้าทั้งนั้น

            “พวกท่านทำหน้าเช่นนี้ อย่าบอกนะว่าเกิดเรื่องกับนาง นางตายแล้วหรือ แล้วลูกของนางเล่า อยู่ที่ไหน คงไม่ได้ตายไปกับนางแล้วหรอกนะ” นางเหอพูดโพลงออกมาอย่างไม่อ้อมค้อม

            หัวหน้าหมู่บ้านรีบโบกมือกล่าวว่า “ไม่ใช่ๆ นางกับลูกยังมีชีวิตอยู่”

            “หัวหน้าหมู่บ้านพูดแบบนี้แสดงว่ารู้ที่อยู่ของนาง” เหอถิงกล่าว

            หัวหน้าหมู่บ้านชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนพยักหน้ายอมรับ “ข้ารู้แค่ว่านางกับลูกย้ายเข้าไปอยู่ในเมือง แต่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน เอาอย่างนี้ ในเมื่อนางไม่ได้เปลี่ยนชื่อแซ่ ท่านขุนนางลองไปถามคนในเมืองดูขอรับ ต้องมีสักคนที่รู้ว่านางอยู่ไหน”

            คำตอบของหัวหน้าหมู่บ้านไม่ได้โกหก แต่ก็ไม่ได้ตอบความจริงทั้งหมด

            เหอถิงจับพิรุธได้ ทั้งยังรู้ว่าถึงถามต่อไปก็ไม่ได้คำตอบมากไปกว่านั้น เขาจึงตัดบทด้วยการกล่าวขอบคุณ

            หลังจากหัวหน้าหมู่บ้านออกไปส่งเหอถิงกับนางเหอที่หน้าบ้านแล้วกลับมา ฮูหยินใหญ่ก็เอ่ยถามว่า “ทำไมท่านพี่ไม่บอกไปตรงๆ ว่าให้ไปตามหานางที่ร้านซินหลิน”

            หัวหน้าหมู่บ้านมองภรรยาเอกด้วยสายตาติตือน “ถ้าไม่อยากเดือดร้อน อย่ายุ่งเรื่องส่วนตัวของลู่ซินฟาง เข้าใจหรือไม่” 

            “อ้อ เจ้าค่ะ”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 108 พลอยประดับ

    บทที่ 108พลอยประดับ หลายวันมานี้ ภูตหลินกำลังสนุกกับการออกแบบเครื่องประดับ ปกติก็ชอบการวาดภาพระบายสีเล่นอยู่แล้ว พอได้ทำสิ่งที่ชอบและยังเป็นประโยชน์ จึงเพลิดเพลินจนเผลอวาดออกมาตั้งเยอะแยะ ลู่ซินฟางเป็นฝ่ายคัดแยก ว่าเครื่องประดับชิ้นไหนวางขายได้ ชิ้นไหนวางขายไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่แล้ว หลินออกแบบได้ดีทุกชิ้น “สวยๆ ทั้งนั้นเลย มีทั้งแบบเรียบง่าย และแบบอลังการงานสร้าง!” “ในมิติตอนนี้เริ่มก่อสร้างโรงเจียระไนพลอยแล้วขอรับ ส่วนนี่เป็นพลอยตัวอย่างที่ท่านหลินใช้เวทเจียระไนขึ้นมาเอง” หลางไป๋พูดพร้อมวางกล่องกำมะยี ด้านในมีพลอยเจียระไนหลายสี ลู่ซินฟางร้องอย่างประหลาดใจ “เร็วถึงเพียงนี้!” ไม่ใช่แค่นั้น หลังจากเปิดกล่องดู สีหน้าของนางยิ่งตกใจมากขึ้นไปอีก พลอยทุกชิ้นเปล่งประกายสดใส ทั้งยังเจียระไนออกมาได้ดีไม่มีที่ติ หลางไป๋ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ “ข้าเตือนท่านหลิน งานเจียระไนจะเป็นหน้าที่ของช่างฝีมือ แต่ดูเหมือนท่านหลินจะตื่นเต้น เลยทำพลอยพวกนี้ออกมาเยอะขอรับ” “ถึงจะสวยมาก แต่น่าเสียดาย พวกเราวางขา

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 107 เพราะข้าเป็นห่วงเจ้า

    บทที่ 107เพราะข้าเป็นห่วงเจ้า ยามบ่ายของวันนั้นเอง กงเยียนซูกับโจวหวังเยว่แวะมาดูสินค้าที่ร้านซินหลิน ทันทีที่มาถึง โจวหวังเยว่แยกกับกงเยียนซูไปเลือกดูสินค้าด้วยท่าทีตื่นตาตื่นใจ เวลานี้กงเยียนซูกับลูซินฟางจึงมีโอกาสอยู่ด้วยกันตามลำพัง “พี่ห้าสนใจสินค้าของร้านซินหลิน ช่วงที่เขาอยู่เมืองเล่ออันต้องรบกวนเจ้าแล้ว” กงเยียนซูเอ่ยทักทายด้วยสีหน้าเก้อเขิน หญิงสาวยิ้มน้อยๆ ให้กับชายหนุ่ม พลางตอบว่า “มีคนกระเป๋าหนักมาอุดหนุน ข้าย่อมดีใจอยู่แล้ว กลับกัน ร้านของเราต้องขอบคุณพวกท่านที่มาอุดหนุนบ่อยๆ เจ้าค่ะ” “ไม่ถึงขนาดหรอก สินค้าร้านซินหลินคุณภาพดีทุกอย่าง บริการก็ดีมาก ลูกค้าที่ซื้อไปแล้วก็อยากกลับมาซื้อใหม่ อ้อ ชาสมุนไพรที่ซื้อไปคราวก่อนใกล้จะหมดแล้ว เจ้าพอจะแนะนำใบชาอย่างอื่นให้ข้าได้หรือไม่” “ได้แน่นอนเจ้าค่ะ” พูดจบ ลู่ซินฟางเดินนำชายหนุ่มไปทางจุดที่วางขายใบชา หญิงสาวแนะนำใบชาแต่ละชนิดให้กับกงเยียนซู ชาดอกไม้ ชาสมุนไพร และชาหายากใหม่ๆ ระหว่างแนะนำสินค้าให้กับกงเยียนซู จู่ๆ ในหัวของลู่

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 106 เรื่องน่ายินดี (ครึ่งหลัง)

    บทที่ 106เรื่องน่ายินดี (ครึ่งหลัง) สามวันถัดมา ผู้นำเผ่ากระต่ายเดินทางมาพบกับภูตจิ๋ว ขอเจรจาและทำข้อตกลง เงื่อนไขของพวกเขาคือ ขอสร้างหมู่บ้านกระต่ายในอาณาเขตของภูต แลกกับอาหารและความปลอดภัย อย่างไรก็ดี ตามที่ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ หากเผ่ากระต่ายจะมาช่วยงานในฟาร์ม ทางนี้ก็จะจ่ายค่าตอบแทน รวมไปถึงให้การศึกษา อำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวัน อาหาร ที่อยู่อาศัยและความปลอดภัยอันเป็นปัจจัยพื้นฐานที่พวกเขาจะได้รับอยู่แล้ว นอกจากนั้น จากการสำรวจป่ารกร้างทางเหนือ หลางไป๋ยังได้เผ่ากวางป่ามาเป็นพันธมิตร หนำซ้ำ ทางทิศตะวันออกของฟาร์มยังพบเหมืองพลอย นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ทั้งนั้น เผ่าจิ้งจอกและเผ่าหมูป่ายังไม่ให้คำตอบที่แน่ชัด พวกเขาเลือกอาศัยอยู่ที่เดิม แต่ให้สัญญาว่าจะไม่ลุกล้ำเข้ามาในฟาร์ม ทั้งยังรับปากว่าจะไม่สร้างความเสียหายใดๆ ให้กับสัตว์จำแลงและฟาร์มอย่างเด็ดขาด ในด้านของลู่ซินฟาง หลังจากเคลียร์งานต่างๆ เรียบร้อย นางก็ข้ามมาที่มิติเพื่อพบกับเผ่ากระต่ายและเผ่ากวางป่า

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 105 เรื่องน่ายินดี (ครึ่งแรก)

    บทที่ 105เรื่องน่ายินดี (ครึ่งแรก) สรุปให้เข้าใจง่ายๆ เมื่อมิติขยายตัวออกไป เวทมนตร์ของภูตที่ดูแลมิติก็เพิ่มขึ้นด้วย พลังเวทนั้นจะสร้างทรัพยากรมากมายให้กับมิติ และเพิ่มวิวัฒนาการเหล่าสัตว์อสูรให้มีสติปัญญาจนถึงขั้นเปลี่ยนแปลงรูปร่างหน้าตา ก่อนที่ลู่ซินฟางจะครอบครองมิติ พื้นที่แถบนี้ยังเป็นแค่ดินแดนที่แทบไม่มีอะไรเลย แต่หลังจากที่ลู่ซินฟางขยายฟาร์มทีละเล็กทีละน้อย สัตว์ในมิติก็ค่อยๆ กลายร่างเป็นมนุษย์ มีสติปัญญาและสื่อสารกันรู้เรื่อง ท้ายที่สุดก็มาอาศัยร่วมกันเหมือนอย่างทุกวันนี้ หลังจากหนุ่มสาวเผ่ากระต่ายได้ฟังคำบอกเล่าก็เข้าใจทันที วิวัฒนาการของพวกตนเกิดจากภูตจิ๋วตรงหน้านี้เอง “แล้วพวกเจ้ามีจำนวนเท่าไรหรือ” หลินถาม “ถ้าเฉพาะเผ่ากระต่าย รวมเด็กๆ ในเผ่าด้วยก็ประมาณ 14-15 ตน” “อืม” “แสดงว่ายังมีเผ่าอื่นๆ อีก ป่าแถบนั้นมีเผ่าอะไรบ้างหรือ” “ละแวกที่เผ่ากระต่ายอาศัย ก็มีเผ่าหมูป่า เผ่ากวางป่า ไกลออกไปอีกได้ยินว่ายังมีเผ่าเสือและเผ่าจิ้งจอก แต่มีจำนวนเท่าไร พวกเราไม่รู้หรอก” “เข้าใ

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 104 เผ่ากระต่าย (ครึ่งหลัง)

    บทที่ 104เผ่ากระต่าย (ครึ่งหลัง) เวลาเดียวกันนั้น ในมิติต่างโลก ภูตตัวน้อยบินวนไปวนมาพร้อมกับพิจารณากลุ่มมนุษย์ที่มีหูกระต่ายสีเทาอันนุ่มนิ่มและนุ่มฟู “พวกเจ้าเป็นเผ่ากระต่ายจริงๆ สินะ” หลินถามเหล่ามนุษย์หูกระต่าย “แค่ดูหูก็รู้แล้วไม่ใช่หรือ” คำพูดขัดแย้งนี้เป็นของซินหลิน “เจ้าเด็กคนนี้นี่ เรื่องนั้นข้าดูแวบเดียวก็รู้อยู่แล้วน่า ก็แค่อยากถามให้แน่ใจเท่านั้นเอง” หลินหันมาทำท่าโวยวายใส่ซินหลิน ซินหลินไม่ได้มีสีหน้าสำนึกผิดแม้แต่น้อย เด็กชายทำหน้านิ่ง กรอกตามองบนทีหนึ่ง ก่อนจะถามหลินว่า “ว่าแต่ จะเอายังไงกับพวกเขาดีล่ะ” “อืม นั่นสิน๊า” หลินทำท่าครุ่นคิด หากกล่าวถึงจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ ต้องย้อนกลับไปก่อนหน้านั้นเล็กน้อย ซินหลินกับสยงอู๋มาที่โกดังต่างมิติ เพื่อตรวจนับผักผลไม้ ก่อนจะเอาออกไปเติมที่ร้านข้างนอกเหมือนอย่างทุกๆ วัน แต่เช้าวันนี้ พอเปิดโกดังปุบก็พบผู้บุกรุกปับ ผู้บุกรุกมีทั้งหมดเจ็ดตน ทุกตนเป็นเผ่ากระต่าย และกำลังแอบกินผักผลไม้ที่อย

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 103 เผ่ากระต่าย (ครึ่งแรก)

    บทที่ 103เผ่ากระต่าย (ครึ่งแรก) ตอนขากลับ โจวหวังเยว่หอบหิ้วสินค้าขึ้นรถม้าเต็มสองมือ ส่วนกงเยียนซูซื้อใบชากลับไปเหมือนอย่างเคย ตลอดเวลาที่อยู่กับลู่ซินฟาง สายตาของกงเยียนซูแสดงออกถึงความรักใคร่อย่างไม่คิดจะปิดบัง ทำเอาคนที่เห็นถึงกับเอียนความหวานกันเป็นแถว รถม้าเคลื่อนตัวออกไปไกลแล้ว แต่ลู่ซินฟางยังยืนอยู่ที่เดิม ใกล้จะถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์แล้วสินะ… หญิงสาวคิดอย่างสับสน ไม่ใช่ว่าไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับเทศกาลไหว้พระจันทร์ จริงอยู่ที่ลู่ซินฟางในอดีตสูญเสียครอบครัวตั้งแต่อายุยังน้อย แต่ในขณะเดียวกัน ตั้งแต่ได้รับมิติมา ลู่ซินฟางมักจะจัดเลี้ยง งานเทศกาล และงานสังสรรค์อื่นๆ กับภูตหลินและเหล่าสัตว์อสูร ปีนี้กงเยียนซูชวนเที่ยวงานเทศกาลด้วยกัน นางที่ไม่เคยปฏิสัมพันธ์หรือเที่ยวเล่นกับคนอื่นมาก่อน อดรู้สึกสับสนไม่ได้จริงๆ “เสียดายที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันให้นานอีกหน่อยหรือขอรับ” หลางไป๋เห็นลู่ซินฟางเอาแต่ยืนเหม่อตั้งแต่รถม้าของกงเยียนซูเคลื่อนออกจากหน้าร้าน เห็นแล้วก็อดจะพูดกระเซ้าเย้าแ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status