หน้าหลัก / รักโบราณ / ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์ / บทที่ 66 อาจารย์อิ้งเหยียนไหวพริบไม่เลว (ครึ่งแรก)

แชร์

บทที่ 66 อาจารย์อิ้งเหยียนไหวพริบไม่เลว (ครึ่งแรก)

ผู้เขียน: ฮาจิฮาจิ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-22 11:31:11

บทที่ 66

อาจารย์อิ้งเหยียนไหวพริบไม่เลว (ครึ่งแรก)

ณ เวลาปัจจุบัน

หลังจากเห็นว่าเหอถิงกับนางเหอเดินผ่านหน้าร้านซินหลินไปแล้ว ลู่ซินฟางถึงได้สติ หายจากอาการตัวแข็งทื่อ

อาการตกใจเมื่อกี้เป็นปฏิกิริยาตอบสนองแบบอัตโนมัติของร่างเดิม แต่นางไม่ใช่ลู่ซินฟางคนเก่า จึงไม่มีอะไรให้ต้องกลัว

พอคิดแบบนี้ นางก็ปลอบประโลมตัวเองในใจ

            ‘ไม่ต้องกลัวนะลู่ซินฟาง คนบ้านเหอพวกนั้นไม่มีทางรังแกเจ้ากับลูกๆ ได้อีกแล้ว ข้าคนนี้จะปกป้องพวกเจ้าเอง’

            ราวกับร่างเดิมรับรู้ถึงคำพูดของนาง อาการสั่นเทาจากความหวาดกลัวหายไปในทันที

            “ลู่ซินฟาง?”

            “นายหญิง?”

            น้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใยของกงเยียนซูกับหลางไป๋ดังขึ้นพร้อมกัน

            ดวงตาคู่สวยของลู่ซินฟางย้ายมาทางทั้งสองคน ก่อนจะตั้งคำถามอย่างเหม่อลอย “อะไรหรือ?”

            กงเหยียนซูกับหลางไป๋รับรู้ถึงอาการผิดปกติของลู่ซินฟางเมื่อสักครู่นี้ แต่พอเห็นนางกลับมาเป็นปกติ พวกเขาจึงยิ้มแล้วส่ายหน้าให้นางเบาๆ

            เมื่อไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมา บรรยากาศรอบๆ ตัวจึงค่อนข้างกระอักกระอ่วน

            อิ้งเหยียนเป็นคนคิดเร็ว ไหวพริบดี ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงและสีหน้าขี้เล่น

            “ไม่คิดเลยว่าหน้าตาอันหล่อเหลาของข้าจะทำให้เถ้าแก่เนี้ยลู่ถึงกับตะลึง ต้องขออภัยด้วย ขออภัยด้วย”  

            ลู่ซินฟางกะพริบตาถี่ๆ ก่อนจะหัวเราะออกมา 

            “ท่านคงเป็นอาจารย์อิ้งเหยียน ขออภัยเจ้าค่ะ นานๆ จะมีบุรุษหน้าตาหล่อเหลาเหมือนเทพบุตรเข้าร้านสักที ข้าก็เลยอดตะลึงไม่ได้จริงๆ”

            พอเห็นว่าหญิงสาวไม่มีท่าทีหวั่นกลัวแล้ว ทั้งยังรับมุขด้วยอารมณ์ขบขัน บุรุษทั้งสามพลันยิ้มแย้มตาม

            อิ้งเหยียนยิ้มกว้างกว่าใครเมื่อเห็นว่าบรรยากาศกลับมาผ่อนคลายลง

            ทว่า...ทางด้านกงเยียนซู แม้ริมฝีปากจะยกยิ้ม กระนั้น สมองกลับกำลังครุ่นคิด

            ก่อนหน้านี้ กงเยียนซูสังเกตเห็นว่าดวงตาของลู่ซินฟางมองข้ามไหล่เขาไป จากนั้นแววตาของนางก็สั่นไหวด้วยอาการหวาดกลัวและโกรธ เห็นชัดเลยว่าข้างหลังของเขาต้องมีใครสักคนที่นางรู้จักเดินผ่านไป แน่นอน ฝ่ายนั้นคงเป็นคู่อริของนางไม่อย่างนั้นนางจะเผยสีหน้าแบบนั้นออกมาหรือ

            “ทุกท่าน ยืนคุยธุระกันตรงนี้คงไม่สะดวกเท่าไร พวกเราไปคุยกันข้างในดีหรือไม่” กงเยียนซูถาม พลางคิดว่าหากคู่อริของนางย้อนกลับมาคงไม่เป็นผลดี เปลี่ยนที่คุยย่อมดีกว่า

            หลางไป๋มีความคิดตรงกับกงเยียนซู จึงผายมือเชิญทั้งสองเข้ามาในร้าน

            “เช่นนั้นเชิญพวกท่านทางนี้ขอรับ”

            จากนั้น ทั้งสามคนก็เดินตามหลางไป๋ขึ้นไปยังชั้นสอง ภายในห้องรับรองแขกได้ตระเตรียมน้ำชาและของว่างพร้อมแล้ว

            “ท่านเยียนซู อาจารย์อิ้ง เชิญนั่งเจ้าค่ะ”

            ชายหนุ่มทั้งสองกล่าวขอบคุณ แล้วนั่งลงอย่างเรียบร้อย

            หลางไป๋หันไปชงชาดอกไม้ พอรินชาใส่จอกแก้วให้กับทุกคนแล้ว เขาก็กลับมานั่งเก้าอี้ข้างๆ นายหญิง

            อิ้งเหยียนไม่เคยเห็นแก้วชาใสกระจ่างเช่นนี้มาก่อน จึงหยิบขึ้นมาพิจารณา จากนั้นก็ก้มมองดอกบัวสีชมพูในกาน้ำชาใสๆ

            ตอนแรก ดอกบัวนั้นยังเป็นก้อนกลมๆ แต่พอรินน้ำร้อนลงไป ก้อนกลมก็ผลิบานกลายเป็นดอกบัวสีชมพู สวยงามอย่างยิ่ง 

            “งดงามใช่หรือไม่ ชาดอกไม้นี้เป็นสินค้าใหม่ของร้านเราเจ้าค่ะ” หญิงสาวเอ่ยอย่างภูมิใจ

            “บอกตรงๆ ข้าอิ้งเหยียนเกิดมาจนอายุยี่สิบกว่ายังไม่เคยเห็นชาดอกไม้ที่ไหนทั้งงดงามและตื่นตาตื่นใจเช่นนี้มาก่อน อีกอย่าง แก้วและกาชาชุดนี้แวววาวกระจ่างใสยิ่งนัก เถ้าแก่เนี้ยลู่ได้มาจากไหนหรือ” อิ้งเหยียนถามอย่างตื่นเต้น

            ลู่ซินฟางกับหลางไป๋มองหน้ากัน ก่อนจะหันมายิ้มให้กับอิ้งเหยียน

            “ชุดชานี้เป็นสินค้าของร้านเราเช่นกัน วิธีการผลิตเป็นความลับทางการค้าขอรับ” หลางไป๋ตอบอย่างมีชั้นเชิง

            อิ้งเหยียนพยักหน้าอย่างเข้าใจ

            อย่างไรก็ตาม พวกเขาพักเรื่องสินค้าแล้วเข้าประเด็นหลักที่เชิญอิ้งเหยียนมาเมืองเล่ออัน โดยหลังจากนี้หลางไป๋เป็นกล่าวอธิบาย

            หมาป่าหนุ่มยื่นกระดาษสัญญาการว่าจ้างและข้อตกลงให้กับอิ้งเหยียน พร้อมกับเอ่ยไปพร้อมกัน “เด็กๆ ที่จะมาเรียนอายุน้อยสุดคือ 5 ขวบ มากสุดคือ 17 แต่ถ้าท่านมีข้อจำกัดเรื่องอายุของเด็กๆ ก็สามารถชี้แจงได้ขอรับ ข้าจะได้จัดระเบียบใหม่”

            “เรื่องอายุไม่มีปัญหา ท่านหลางอธิบายต่อเถอะ” อิ้งเหยียนบอก 

            “ขอรับ”

            จากนั้นหลางไป๋ก็กล่าวต่อ โดยพูดถึงพื้นฐานความรู้ของพวกเด็กๆ ทุกคน บอกถึงสถานที่เรียน เป้าหมายในการเรียนของแต่ละคน รวมถึงค่าจ้าง 

            อิ้งเหยียนอ่านสัญญาจ้างพร้อมกับฟังคำอธิบายไปด้วย

            เมื่อหลางไป๋พูดจบแล้ว ลู่ซินฟางก็กล่าวเสริมว่า “ได้ยินว่าอาจารย์อิ้งมาจากเมืองไห่เจียง ไม่ทราบว่าท่านมีที่พักหรือยังเจ้าคะ หากท่านไม่ติดขัดอะไร จะพักที่คฤหาสน์ลู่ก็ได้”

            ทันใดนั้น เสียงกระแอมกระไอก็ดังมาจากกงเยียนซู

            ทั้งสามเลื่อนสายตามองชายหนุ่มเป็นตาเดียว

            กงเยียนซูกล่าวว่า “อิ้งเหยียนจะพักที่คฤหาสน์ของข้า”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 108 พลอยประดับ

    บทที่ 108พลอยประดับ หลายวันมานี้ ภูตหลินกำลังสนุกกับการออกแบบเครื่องประดับ ปกติก็ชอบการวาดภาพระบายสีเล่นอยู่แล้ว พอได้ทำสิ่งที่ชอบและยังเป็นประโยชน์ จึงเพลิดเพลินจนเผลอวาดออกมาตั้งเยอะแยะ ลู่ซินฟางเป็นฝ่ายคัดแยก ว่าเครื่องประดับชิ้นไหนวางขายได้ ชิ้นไหนวางขายไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่แล้ว หลินออกแบบได้ดีทุกชิ้น “สวยๆ ทั้งนั้นเลย มีทั้งแบบเรียบง่าย และแบบอลังการงานสร้าง!” “ในมิติตอนนี้เริ่มก่อสร้างโรงเจียระไนพลอยแล้วขอรับ ส่วนนี่เป็นพลอยตัวอย่างที่ท่านหลินใช้เวทเจียระไนขึ้นมาเอง” หลางไป๋พูดพร้อมวางกล่องกำมะยี ด้านในมีพลอยเจียระไนหลายสี ลู่ซินฟางร้องอย่างประหลาดใจ “เร็วถึงเพียงนี้!” ไม่ใช่แค่นั้น หลังจากเปิดกล่องดู สีหน้าของนางยิ่งตกใจมากขึ้นไปอีก พลอยทุกชิ้นเปล่งประกายสดใส ทั้งยังเจียระไนออกมาได้ดีไม่มีที่ติ หลางไป๋ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ “ข้าเตือนท่านหลิน งานเจียระไนจะเป็นหน้าที่ของช่างฝีมือ แต่ดูเหมือนท่านหลินจะตื่นเต้น เลยทำพลอยพวกนี้ออกมาเยอะขอรับ” “ถึงจะสวยมาก แต่น่าเสียดาย พวกเราวางขา

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 107 เพราะข้าเป็นห่วงเจ้า

    บทที่ 107เพราะข้าเป็นห่วงเจ้า ยามบ่ายของวันนั้นเอง กงเยียนซูกับโจวหวังเยว่แวะมาดูสินค้าที่ร้านซินหลิน ทันทีที่มาถึง โจวหวังเยว่แยกกับกงเยียนซูไปเลือกดูสินค้าด้วยท่าทีตื่นตาตื่นใจ เวลานี้กงเยียนซูกับลูซินฟางจึงมีโอกาสอยู่ด้วยกันตามลำพัง “พี่ห้าสนใจสินค้าของร้านซินหลิน ช่วงที่เขาอยู่เมืองเล่ออันต้องรบกวนเจ้าแล้ว” กงเยียนซูเอ่ยทักทายด้วยสีหน้าเก้อเขิน หญิงสาวยิ้มน้อยๆ ให้กับชายหนุ่ม พลางตอบว่า “มีคนกระเป๋าหนักมาอุดหนุน ข้าย่อมดีใจอยู่แล้ว กลับกัน ร้านของเราต้องขอบคุณพวกท่านที่มาอุดหนุนบ่อยๆ เจ้าค่ะ” “ไม่ถึงขนาดหรอก สินค้าร้านซินหลินคุณภาพดีทุกอย่าง บริการก็ดีมาก ลูกค้าที่ซื้อไปแล้วก็อยากกลับมาซื้อใหม่ อ้อ ชาสมุนไพรที่ซื้อไปคราวก่อนใกล้จะหมดแล้ว เจ้าพอจะแนะนำใบชาอย่างอื่นให้ข้าได้หรือไม่” “ได้แน่นอนเจ้าค่ะ” พูดจบ ลู่ซินฟางเดินนำชายหนุ่มไปทางจุดที่วางขายใบชา หญิงสาวแนะนำใบชาแต่ละชนิดให้กับกงเยียนซู ชาดอกไม้ ชาสมุนไพร และชาหายากใหม่ๆ ระหว่างแนะนำสินค้าให้กับกงเยียนซู จู่ๆ ในหัวของลู่

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 106 เรื่องน่ายินดี (ครึ่งหลัง)

    บทที่ 106เรื่องน่ายินดี (ครึ่งหลัง) สามวันถัดมา ผู้นำเผ่ากระต่ายเดินทางมาพบกับภูตจิ๋ว ขอเจรจาและทำข้อตกลง เงื่อนไขของพวกเขาคือ ขอสร้างหมู่บ้านกระต่ายในอาณาเขตของภูต แลกกับอาหารและความปลอดภัย อย่างไรก็ดี ตามที่ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ หากเผ่ากระต่ายจะมาช่วยงานในฟาร์ม ทางนี้ก็จะจ่ายค่าตอบแทน รวมไปถึงให้การศึกษา อำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวัน อาหาร ที่อยู่อาศัยและความปลอดภัยอันเป็นปัจจัยพื้นฐานที่พวกเขาจะได้รับอยู่แล้ว นอกจากนั้น จากการสำรวจป่ารกร้างทางเหนือ หลางไป๋ยังได้เผ่ากวางป่ามาเป็นพันธมิตร หนำซ้ำ ทางทิศตะวันออกของฟาร์มยังพบเหมืองพลอย นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ทั้งนั้น เผ่าจิ้งจอกและเผ่าหมูป่ายังไม่ให้คำตอบที่แน่ชัด พวกเขาเลือกอาศัยอยู่ที่เดิม แต่ให้สัญญาว่าจะไม่ลุกล้ำเข้ามาในฟาร์ม ทั้งยังรับปากว่าจะไม่สร้างความเสียหายใดๆ ให้กับสัตว์จำแลงและฟาร์มอย่างเด็ดขาด ในด้านของลู่ซินฟาง หลังจากเคลียร์งานต่างๆ เรียบร้อย นางก็ข้ามมาที่มิติเพื่อพบกับเผ่ากระต่ายและเผ่ากวางป่า

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 105 เรื่องน่ายินดี (ครึ่งแรก)

    บทที่ 105เรื่องน่ายินดี (ครึ่งแรก) สรุปให้เข้าใจง่ายๆ เมื่อมิติขยายตัวออกไป เวทมนตร์ของภูตที่ดูแลมิติก็เพิ่มขึ้นด้วย พลังเวทนั้นจะสร้างทรัพยากรมากมายให้กับมิติ และเพิ่มวิวัฒนาการเหล่าสัตว์อสูรให้มีสติปัญญาจนถึงขั้นเปลี่ยนแปลงรูปร่างหน้าตา ก่อนที่ลู่ซินฟางจะครอบครองมิติ พื้นที่แถบนี้ยังเป็นแค่ดินแดนที่แทบไม่มีอะไรเลย แต่หลังจากที่ลู่ซินฟางขยายฟาร์มทีละเล็กทีละน้อย สัตว์ในมิติก็ค่อยๆ กลายร่างเป็นมนุษย์ มีสติปัญญาและสื่อสารกันรู้เรื่อง ท้ายที่สุดก็มาอาศัยร่วมกันเหมือนอย่างทุกวันนี้ หลังจากหนุ่มสาวเผ่ากระต่ายได้ฟังคำบอกเล่าก็เข้าใจทันที วิวัฒนาการของพวกตนเกิดจากภูตจิ๋วตรงหน้านี้เอง “แล้วพวกเจ้ามีจำนวนเท่าไรหรือ” หลินถาม “ถ้าเฉพาะเผ่ากระต่าย รวมเด็กๆ ในเผ่าด้วยก็ประมาณ 14-15 ตน” “อืม” “แสดงว่ายังมีเผ่าอื่นๆ อีก ป่าแถบนั้นมีเผ่าอะไรบ้างหรือ” “ละแวกที่เผ่ากระต่ายอาศัย ก็มีเผ่าหมูป่า เผ่ากวางป่า ไกลออกไปอีกได้ยินว่ายังมีเผ่าเสือและเผ่าจิ้งจอก แต่มีจำนวนเท่าไร พวกเราไม่รู้หรอก” “เข้าใ

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 104 เผ่ากระต่าย (ครึ่งหลัง)

    บทที่ 104เผ่ากระต่าย (ครึ่งหลัง) เวลาเดียวกันนั้น ในมิติต่างโลก ภูตตัวน้อยบินวนไปวนมาพร้อมกับพิจารณากลุ่มมนุษย์ที่มีหูกระต่ายสีเทาอันนุ่มนิ่มและนุ่มฟู “พวกเจ้าเป็นเผ่ากระต่ายจริงๆ สินะ” หลินถามเหล่ามนุษย์หูกระต่าย “แค่ดูหูก็รู้แล้วไม่ใช่หรือ” คำพูดขัดแย้งนี้เป็นของซินหลิน “เจ้าเด็กคนนี้นี่ เรื่องนั้นข้าดูแวบเดียวก็รู้อยู่แล้วน่า ก็แค่อยากถามให้แน่ใจเท่านั้นเอง” หลินหันมาทำท่าโวยวายใส่ซินหลิน ซินหลินไม่ได้มีสีหน้าสำนึกผิดแม้แต่น้อย เด็กชายทำหน้านิ่ง กรอกตามองบนทีหนึ่ง ก่อนจะถามหลินว่า “ว่าแต่ จะเอายังไงกับพวกเขาดีล่ะ” “อืม นั่นสิน๊า” หลินทำท่าครุ่นคิด หากกล่าวถึงจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ ต้องย้อนกลับไปก่อนหน้านั้นเล็กน้อย ซินหลินกับสยงอู๋มาที่โกดังต่างมิติ เพื่อตรวจนับผักผลไม้ ก่อนจะเอาออกไปเติมที่ร้านข้างนอกเหมือนอย่างทุกๆ วัน แต่เช้าวันนี้ พอเปิดโกดังปุบก็พบผู้บุกรุกปับ ผู้บุกรุกมีทั้งหมดเจ็ดตน ทุกตนเป็นเผ่ากระต่าย และกำลังแอบกินผักผลไม้ที่อย

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 103 เผ่ากระต่าย (ครึ่งแรก)

    บทที่ 103เผ่ากระต่าย (ครึ่งแรก) ตอนขากลับ โจวหวังเยว่หอบหิ้วสินค้าขึ้นรถม้าเต็มสองมือ ส่วนกงเยียนซูซื้อใบชากลับไปเหมือนอย่างเคย ตลอดเวลาที่อยู่กับลู่ซินฟาง สายตาของกงเยียนซูแสดงออกถึงความรักใคร่อย่างไม่คิดจะปิดบัง ทำเอาคนที่เห็นถึงกับเอียนความหวานกันเป็นแถว รถม้าเคลื่อนตัวออกไปไกลแล้ว แต่ลู่ซินฟางยังยืนอยู่ที่เดิม ใกล้จะถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์แล้วสินะ… หญิงสาวคิดอย่างสับสน ไม่ใช่ว่าไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับเทศกาลไหว้พระจันทร์ จริงอยู่ที่ลู่ซินฟางในอดีตสูญเสียครอบครัวตั้งแต่อายุยังน้อย แต่ในขณะเดียวกัน ตั้งแต่ได้รับมิติมา ลู่ซินฟางมักจะจัดเลี้ยง งานเทศกาล และงานสังสรรค์อื่นๆ กับภูตหลินและเหล่าสัตว์อสูร ปีนี้กงเยียนซูชวนเที่ยวงานเทศกาลด้วยกัน นางที่ไม่เคยปฏิสัมพันธ์หรือเที่ยวเล่นกับคนอื่นมาก่อน อดรู้สึกสับสนไม่ได้จริงๆ “เสียดายที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันให้นานอีกหน่อยหรือขอรับ” หลางไป๋เห็นลู่ซินฟางเอาแต่ยืนเหม่อตั้งแต่รถม้าของกงเยียนซูเคลื่อนออกจากหน้าร้าน เห็นแล้วก็อดจะพูดกระเซ้าเย้าแ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status