Beranda / รักโบราณ / ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน / ตอนที่ 77 ความไว้ใจคือสิ่งฟุ่มเฟือย

Share

ตอนที่ 77 ความไว้ใจคือสิ่งฟุ่มเฟือย

last update Terakhir Diperbarui: 2025-12-03 12:26:32

ยามค่ำคืน ท้องฟ้าเบื้องบนพร่างพราวด้วยแสงหมู่ดาว ราวกับจะเฉลิมฉลองให้แก่ชัยชนะของกองทัพ แต่บนพื้นดินกลับเป็นภาพตรงกันข้ามค่ายพักที่เคยแข็งแกร่งกลับกลายเป็นซากปรักพัง กระโจมฉีกขาดปลิวไสวกลางควันไฟ กลิ่นคาวเลือดและเนื้อไหม้ลอยอบอวลในอากาศ ร่างของเหล่าทหารผู้เคยเคียงบ่าเคียงไหล่นอนเกลื่อนเต็มพื้น ดวงตาที่เคยเปี่ยมด้วยชีวิตบัดนี้ว่างเปล่า

แม่ทัพหลานซือเหยียนยืนท่ามกลางภาพนั้น ลมหายใจสั่นสะท้านไม่ใช่เพราะบาดแผลฉกรรจ์ แต่เพราะโทสะที่ลุกโชนจนแทบแผดเผาอก “นี่มัน…อัปยศเกินจะทน” เขากัดฟันแน่น เสียงกระดูกขากรรไกรบดกันดังกึก

ที่ปลายเท้า ศีรษะของรองแม่ทัพทั้งสอง ชายที่ครั้งหนึ่งเขาเคยชุบเลี้ยงจากพลทหารตัวเล็กจนได้ยืนเคียงข้าง ยังชุ่มไปด้วยเลือดสด หลานซือเหยียนยกฝ่าเท้าขึ้น ก่อนกระแทกลงเต็มแรง เสียงแตกดัง เป๊าะ ก้องในความเงียบ เศษกระโหลกแหลกกระเด็น เลือดแดงเข้มไหลนองราวแตงโมสุกที่ถูกบดขยี้ ศึกในวันนี้ เขาสูญเสียไพร่พลจำนวนมาก…ไม่ใช่เพราะคมดาบของศัตรู แต่เพราะคมดาบของคนในที่หันมาฆ่าฟันกันเอง

ภายใต้แสงจันทร์ซีดจาง เหล่าทหารหลายร้อยชีวิตคุกเข่าเรียงรายอยู่เบื้องหน้าแม่ทัพหลานซือเหยียน อาวุธถูกวางกองตรงหน้า ราวกับพวกมันยอมสละทุกสิ่งเพื่อแลกกับความเมตตาดวงตาของพวกมันเต็มไปด้วยความหวังริบหรี่ความหวังว่าจะรอดพ้นจากคมดาบของนายเหนือหัว แม่ทัพหลานซือเหยียนกวาดตามองช้า ๆ ใบหน้านิ่งเย็นราวกับหินผา เสียงของเขาเมื่อเอ่ยออกมา ชัดถ้อยชัดคำและหนักหน่วง

“ความภักดี…พวกเจ้าไม่รู้จักมัน แต่พวกเจ้ากลับรู้จักคำว่า ทรยศ เป็นอย่างดี” เขาหยุดเพียงชั่วอึดใจ แววตาคมกริบตวัดมองนายกองที่เคยได้รับความไว้วางใจ “ตั้งแต่วันนี้ไป ข้าปลดพวกเจ้าออกจากตำแหน่ง กลับไปเป็นเพียงพลทหารธรรมดาไม่ต่างจากวันที่พวกเจ้ายังไร้ชื่อเสียง” เสียงพึมพำด้วยความตกใจดังขึ้น แต่ถูกกลบด้วยคำสั่งต่อมา“ส่วนตำแหน่งของพวกเจ้า…จะยกให้กับคนที่ยังรู้จักคำว่าภักดี” แม่ทัพหันไปสั่งนายทหารใกล้ตัว น้ำเสียงเย็นยะเยือก“เฆี่ยนมันทุกคนไม่ให้ตาย แต่ให้จดจำว่าการหันคมดาบใส่นายเหนือหัว ต้องแลกด้วยเลือดและความเจ็บปวด” เสียงหวายกระทบเนื้อดังก้องไปทั่วลานค่าย เสียงร้องโอดโอยผสมกับเสียงครางต่ำของผู้ที่กัดฟันไม่ยอมเปล่งเสียง มันกลายเป็นบทเรียนเลือดที่สลักลงทั้งในร่างกายและจิตใจของทุกคนในคืนนี้

ในกฎแห่งสนามรบ การทรยศต่อผู้บังคับบัญชาเพียงครั้งเดียว มิใช่เพียงตัดหัวผู้กระทำผิด แต่ต้องล้างบางทั้งตระกูล พ่อ แม่ ภรรยา บุตร ไม่ให้เหลือเลือดเนื้อไว้สืบสกุล แต่ค่ำคืนนี้ แม่ทัพหลานซือเหยียนกลับไม่เลือกให้คมดาบทำหน้าที่ เขาเพียงปลดนายกองเหล่านี้ลงสู่ความต่ำต้อยของพลทหารไร้ศักดิ์ศรี และสั่งเฆี่ยนตีให้หลังแตกยับ บทลงโทษที่แม้จะเจ็บปวด แต่ก็ยังห่างไกลจากการชำระด้วยเลือด

บรรยากาศรอบลานกลับไร้ซึ่งกลิ่นอายแห่งความเมตตา เสียงฝีเท้าของแม่ทัพก้องชัดบนพื้นดินชื้นเลือด เขาเดินผ่านแถวคนคุกเข่า สายตาคมกริบเย็นเฉียบมองลึกเข้าไปในดวงตาแต่ละคู่ ราวกับสลักตราแห่งความอัปยศลงไปในส่วนลึกของวิญญาณ

“ข้าควรฆ่าพวกเจ้าพร้อมตัดรากถอนโคนให้สิ้น” เสียงของเขาเรียบ แต่หนักหน่วงราวหินผา “แต่จงจำไว้…พ่อแม่ ลูกเมียของพวกเจ้าที่ยังมีลมหายใจมันเป็นเพราะข้าเลือกให้พวกมันอยู่”

คำพูดนั้นมิได้มาพร้อมรอยยิ้ม หากแต่เย็นชาราวน้ำแข็งปกคลุมหัวใจ ถึงแม้บทลงโทษจะโหดเหี้ยม แต่ในถ้อยคำกลับมีแฝงความหมาย…ราวกับกำลังซื้อใจ หรืออย่างน้อยที่สุด ทำให้สุนัขที่เคยกัดนายจำได้ว่า มันยังมีชีวิตเพราะน้ำมือของใคร

เสียงหวายฟาดดังขึ้นอีกครั้ง แทรกอยู่ในความเงียบที่กดทับลานค่าย เสียงร้องปนเสียงครางต่ำก้องสะท้อนเป็นบทเรียนเลือดที่จะติดตัวพวกมันไปจนตาย

แสงแรกของรุ่งอรุณแต้มขอบฟ้า ขบวนทัพของแม่ทัพหลานซือเหยียนเคลื่อนตัวกลับสู่เมืองหลวงอย่างเงียบเชียบเสียงกีบม้าดังก้องบนพื้นหิน แต่ในรถม้าสีดำสนิทกลางขบวนกลับเงียบงัน แม่ทัพผู้เกรียงไกรนั่งตัวตรง ฝ่ามือกดแน่นลงบนบาดแผลใต้เกราะที่พันด้วยผ้าแถบสีซีดเลือดอุ่นยังซึมไม่หยุด เขาเม้มริมฝีปากแน่น กลืนความเจ็บปวดลงไปในลำคอ เพราะรู้ดีว่าหากผู้ใต้บังคับบัญชาเห็นความอ่อนแอเพียงเสี้ยวเดียว ไฟแห่งการทรยศอาจปะทุขึ้นอีกครั้ง

เมื่อถึงประตูเมืองหลวง ธงชัยสะบัดไหวเหนือหัวขบวน เสียงกลองต้อนรับดังขึ้นแต่ไร้ความรื่นเริงนัก ชัยชนะครั้งนี้มากับรสขมของการเสียเลือดเนื้อในหมู่พวกเดียวกันเอง แม่ทัพหลานซือเหยียนก้าวลงจากรถม้าด้วยจังหวะมั่นคง แม้ทุกย่างก้าวจะฉีกบาดแผลให้ปวดแสบ เขาเดินเข้าสู่ท้องพระโรง คุกเข่ารายงานด้วยเสียงทุ้มหนักแน่น

“กบฏถูกกวาดล้างสิ้นแล้ว เหลือเพียงเศษซากที่หนีเอาตัวรอด ข้านำชัยชนะนี้มาทูลถวายใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท”

เมื่อสิ้นคำ พระบรมราชโองการตรัสรับอย่างสั้น เสียงฝีเท้าของขันทีใหญ่ หลี่เถี่ยนกวง ก็ดังขึ้นจากด้านข้าง แววตาของมันพินิจร่างแม่ทัพอย่างเจาะลึก รอยยิ้มบางผุดขึ้นบนมุมปาก

“ดูท่านยังยืนหยัดได้…น่าชื่นชมจริง ๆ” เสียงของหลี่เถี่ยนกวงแฝงเยาะหยัน แม่ทัพหลานซือเหยียนเหลือบมองเพียงชั่ววูบ ก่อนเอ่ยเสียงต่ำเรียบ “ถ้าท่านหมายจะเห็นข้าล้ม…คงต้องรออีกนาน” หลี่เถี่ยนกวงหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ แต่ไม่เอ่ยต่อแม่ทัพหมุนกายจากไป ไม่เหลียวหลัง ไม่ให้แม้แต่โอกาสต่อปากต่อคำ เพราะรู้ดีว่า…หากความเจ็บถูกเปิดเผยในที่สาธารณะ มันจะไม่ใช่แค่ข่าวลือ แต่จะกลายเป็นดาบที่เล็งตรงมาหาหัวเขา

เมื่อประตูจวนปิดลง เสียงกีบม้าข้างนอกค่อย ๆ จางหาย แม่ทัพหลานซือเหยียนก็หมดแรงฝืนร่างกายอีกต่อไปเขาทรุดตัวลงบนฟูกนุ่ม เสียงหายใจหนักดังแผ่วเป็นจังหวะ ผ้าพันแผลใต้เกราะซึมชุ่มไปด้วยเลือดจนกลิ่นคาวโชยตลบ

“รีบตามหมอหลวงมา” เสียงทหารประจำจวนตะโกนลั่น ก่อนจะพยุงร่างเจ้านายวางลงอย่างระมัดระวังแววตาที่เคยดุดันในสนามรบปิดสนิท ราวกับสลบลึกลงในห้วงมืดสามวันสามคืนผ่านไปเปลวตะเกียงในเรือนคนป่วยไม่เคยมอด คนคุ้มกันผลัดเวรกันเฝ้าไม่ให้ใครล่วงรู้สภาพที่แท้จริงของแม่ทัพเมื่อเขาลืมตาขึ้นอีกครั้ง ดวงตายังหม่นด้วยความเหนื่อยล้า แม้ร่างกายจะพอเคลื่อนไหวได้ แต่ทุกครั้งที่พยายามยกแขนหรือขยับเอว ความเจ็บก็แล่นขึ้นราวกับคมมีดกรีด

หมอหลวงเอ่ยเตือนด้วยน้ำเสียงจริงจัง“แผลนี้ต้องพักรักษาอย่างน้อยเดือนเต็ม ท่านยังไม่อาจจับดาบได้”

แม่ทัพเพียงหัวเราะแผ่ว ๆ “ข้าขยับได้ก็มากพอแล้ว…แค่ให้ตบตาคนพวกนั้นได้ก็พอ”

ช่วงเวลานี้…มีเพียงน้อยคนเท่านั้นที่เขากล้าให้เข้าใกล้ แม้แต่สหายที่เคยร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่ ก็อาจถูกผลประโยชน์จากขันทีเฒ่าซื้อตัวไปได้ง่ายดาย ความไว้วางใจจึงเป็นสิ่งหรูหราที่เขาไม่อาจมอบให้ใครโดยไม่คิดทุกคำพูดที่เข้าหู ทุกสายตาที่มองมา เขาอ่านมันราวกับค้นหามีดที่ซ่อนอยู่หลังแผ่นหลังคนพูดใบหน้าที่แสร้งยิ้มทักทาย ในดวงตากลับซ่อนเงาเย็นยะเยือกของความทะเยอทะยาน และเขารู้ดีว่าหากเผลอเปิดช่องให้ ความทรยศจะพุ่งเข้าฟันเขาอย่างไม่ลังเลแม่ทัพจึงเลือกเก็บตัว เฝ้ามองเหตุการณ์จากเงามืดของจวน ร่างกายแม้ยังบาดเจ็บ แต่สายตาและสติกลับเฉียบคมกว่าเดิม“ตอนนี้…ข้าไว้ใจใครไม่ได้ทั้งนั้น” เขาพึมพำแผ่ว เสียงต่ำทุ้มราวกับกำลังให้คำสาบานกับตนเอง

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 117 สิบสี่ปีต่อมา (จบ)

    กาลเวลาล่วงเลยผ่านไปสิบสี่ปี… ชื่อเสียงของ นักฆ่าไร้นาม ค่อย ๆ กลายเป็นเพียงตำนานเล่าขานในหมู่ผู้คน ถึงแม้ในโลกมืดจะยังมีใบสั่งตายมากมาย แต่ไม่มีใครเคยเห็นพวกเขาออกมาเคลื่อนไหวอีก ราวกับได้หายลับไปจากยุทธภพ เหลือเพียงความเงียบงันที่แฝงไว้ด้วยปริศนาในเวลานี้ ภายในจวนตระกูลซู กลิ่นหอมอ่อนของชาอบอวลอยู่ในห้องโถง หลานเยว่ วัยสี่สิบปี นั่งอยู่ตรงหน้าต่าง แสงแดดอ่อนยามเช้าส่องกระทบเรือนผมดำขลับที่ยังคงเงางาม ความงดงามของนางหาได้ลดทอนลงตามกาลเวลา หากแต่เพิ่มพูนด้วยเสน่ห์อันสงบเย็นและน่าเกรงขาม นางหันไปถามสามีด้วยเสียงอ่อนโยน แฝงด้วยความเย็นชาที่ไม่เคยเลือนหายไป“ท่านพี่… หลานจิ่วอวิ๋น ลูกของเราไปที่ใด?”คำถามของนางเหมือนหยดน้ำเย็นไหลผ่านกลางอก ซูจิ่งหลง ชายวัยหกสิบกว่า ที่แม้ร่างกายจะผ่านศึกและกาลเวลามานับไม่ถ้วน แต่ความสง่างามและอำนาจในแววตายังคงไม่เสื่อมคลาย เขายกยิ้มบาง ๆ ตอบเสียงนุ่ม แต่แฝงความเกรงใจ“เจ้าจะไปห่วงทำไมกัน… บัดนี้หลานจิ่วอวิ๋นเติบใหญ่แล้ว ไม่ใช่เด็กตัวน้อยอีกต่อไป”สายตาของ หลานเยว่ หันมาสบเขา ดวงตาคู่นั้นนิ่งสนิทและเย็นชา ราวกับคมดาบที่ซ่อนอยู่ใต้ฝัก คำตอบนั้นไม่ใช่สิ่งท

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 116 วันมงคล

    แสงแดดยามสายส่องลอดผ่านซุ้มศาลาริมน้ำ เงาไม้ไหวระริกตามแรงลมเย็น เสียงน้ำกระทบฝั่งดังแผ่วเบา บรรยากาศรอบกายดูสงบสุขราวกับไม่มีคลื่นลมใด ๆ เคยเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ซูจิ่งหลงนั่งนิ่ง สายตาเหม่อมองสตรีตรงหน้าอย่างไม่รู้จักเบื่อ หลานเยว่ ยังคงสงบนิ่งเช่นเคย มือเรียวยกถ้วยชาขึ้นจิบอย่างอ่อนช้อย แววตาเย็นชาไร้อารมณ์ ทำให้เขารู้สึกว่าผู้หญิงผู้นี้…ไม่เพียงแต่เป็นมือสังหาร แต่ราวกับเป็นผู้ชี้ขาดโชคชะตาของผู้คนเพียงแค่ปรายตามอง นางไม่จำเป็นต้องลงมือเองเสมอไป เพียงกำหนดเส้นทางให้ เรื่องราวก็จะดำเนินไปอย่างที่นางปรารถนาชายหนุ่มพยายามสลัดภาพชะตากรรมอันน่าสมเพชของจ้าวหย่งหยูออกจากใจ แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกสะท้านทั้งจากความโหดเหี้ยมของฟ้า และจากสตรีผู้ลึกลับตรงหน้า“เจ้ามองอะไร” เสียงของนางดังขึ้นเรียบเย็น แต่กลับกระทบเข้ากลางใจเขาราวกับใบมีดบางเฉียบซูจิ่งหลงสะดุ้งเล็กน้อย เขารีบยกยิ้มประดับใบหน้า พยายามกลบเกลื่อนความรู้สึกที่กำลังพลุ่งพล่าน “เปล่า… ข้าเพียงแค่รู้สึกดีที่มีเจ้าอยู่เคียงข้างเท่านั้น”รอยยิ้มของเขาดูจริงใจ แต่ดวงตากลับซ่อนความเขินอายไว้ไม่มิดหลานเยว่ไม่กล่าวสิ่งใด นางเพียงวางถ้วยชาลงบนโ

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 115 จุดจบของกากเดนในร่างมนุษย์

    แรกเริ่ม จ้าวหย่งหยู ยังยกยิ้มเยาะบนใบหน้า มันแสดงสีหน้าถือดีนักที่ได้เห็นอดีตบ่าวรับใช้ทำตัวราวกับสุนัขเชื่อง ๆ ยอมหมอบคลานต่อหน้า ทว่ากาลเวลาไม่เคยเข้าข้างใคร การรอคอยที่เนิ่นนานเกินไปกลับค่อย ๆ เผาอารมณ์อันบิดเบี้ยวของมันให้พลุ่งพล่านมันมาถึงตั้งแต่ฟ้ายังไม่เปลี่ยนสี จนบัดนี้ดวงอาทิตย์ค่อย ๆ คล้อยต่ำใกล้ตกดินแล้ว แต่เงาของเจ้าขี้ข้าก็ยังไม่กลับออกมาเสียที ใบหน้าที่เหยียดหยามในคราแรกจึงค่อย ๆ กลายเป็นความบิดเบี้ยวทั้งโกรธเกรี้ยวและน่าสมเพชเจ้าง่อยตะเบ็งเสียงพร่าหอบ ริมฝีปากสั่นกระตุก น้ำลายเหนียวไหลเลอะเป็นทาง“แค่กกก… อ่อกกก… เจ้า…เจ้าขี้-ชะ-ชั้นต่ำ! กล้าาา…ปล่อยให้ข้า…รอออ…นานถึงเพียงนี้เรอะะะ! ขะ-ข้ามาตั้งแต่ฟ้าา…ยังไม่ทันเปลี่ยนสี…จนตะวัน…จวนจะตกแล้ววว!”เสียงโวยวายแตกพร่า แผดก้องไปทั่วหน้าประตู ราวกับเด็กร่างพิการเอาแต่ใจในสลัมผู้ไม่รู้จักคำว่าอดทนหรือศักดิ์ศรีไม่นานนัก ประตูไม้เก่าโทรมค่อย ๆ ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดแล้วเปิดออกอย่างเชื่องช้า คล้ายเจตนาแอบทดสอบความอดกลั้นของนายเก่า อดีตบ่าวโค้งตัวลง น้ำเสียงราบเรียบคล้ายไร้เดียงสา“ขออภัยด้วยขอรับ… มันเป็นเพราะเรือนข้ารกและสกปรกมากเก

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 114 อดีตบ่าวรับใช้

    สำหรับบางคน…ความตายอาจเป็นเพียงการปลดปล่อย แต่สำหรับจ้าวหย่งหยู เศษเดนในร่างพิการผู้นี้ มันไม่ควรมีจุดจบที่เรียบง่ายถึงเพียงนั้นชีวิตของมันเต็มไปด้วยมลทินที่แม้ตัวมันเองยังจำไม่ได้ว่าก่อกรรมชั่วกับใครไปมากเท่าไรแล้วเคยสั่งลูกน้องรุมซ้อมบัณฑิตผู้ใฝ่ดีจนพิการ เพียงเพราะริษยาที่อีกฝ่ายมีสติปัญญาดีมากกว่าตนเคยฉุดคร่าสตรีงามที่สะดุดตา ไม่สนใจว่านางมีครอบครัวหรือฐานะเช่นไรเคยเหยียบย่ำชีวิตผู้คนจนพังพินาศนับครั้งไม่ถ้วนเพราะบารมีและอำนาจของบิดาอย่าง อัครเสนาบดีจ้าวเจี้ยนกั๋ว ที่คอยปกปิด เก็บกวาด และอุ้มชู ทำให้มันยังลอยหน้าลอยตาอยู่ได้จนถึงวันนี้แต่เมื่อเสาหลักล้มลงแล้ว โลกทั้งใบของมันก็ดิ่งลงเหวอย่างไร้ทางหนีค่ำคืนหนึ่ง ร่างพิการที่นั่งค่อมบนรถเข็นเก่า ๆ จมอยู่ในความมืด ดวงตาขุ่นหมองฉายแววโหยหวน น้ำเสียงแหบพร่าเล็ดลอดออกมาพร้อมหยาดน้ำตา“ท่ะ…ท่านพ่อ… ข้า…คึ-คิดถึงท่าน… เหลือเกิน…”เสียงนั้นไม่ใช่เสียงของนายน้อยผู้เคยอหังการ แต่คือเสียงสะอื้นของเศษมนุษย์ที่ไร้ที่พึ่งตลอดทั้งวันทั้งคืน ไม่มีแม้แต่อาหารสักคำตกถึงปาก ความหิวกัดกินจนท้องไส้บิดเกร็ง แต่ถึงกระนั้น จ้าวหย่งหยู ก็ยังยึดมั่นในศักดิ์

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 113 ของขวัญแต่งงาน

    ภายในจวนร้างที่เงียบงัน เสียงล้อรถเข็นยังคงเสียดสีพื้นหินดังเอี๊ยดอ๊าดไม่ขาดสาย จ้าวหย่งหยู เข็นตัวเองไปอย่างทุลักทุเล ใบหน้าบิดเบี้ยวชุ่มไปด้วยน้ำตาและน้ำลายที่ไหลยืดเลอะเปรอะคาง ร่างพิการสั่นเทาคล้ายจะล้มพังได้ทุกเมื่อทุกห้องที่มันเปิดเข้าไป ภาพที่ปรากฏตรงหน้าไม่ต่างอะไรกับฝันร้ายตู้หีบสมบัติถูกเปิดอ้า หยกงาม ทองคำ และเงินก้อนโตที่เคยเป็นภูเขาทรัพย์หายวับไปราวกับไม่เคยมีอยู่ ร่องรอยการกวาดล้างปรากฏทุกซอกมุม เหลือเพียงความว่างเปล่ากับความเย้ยหยันที่บีบคั้นหัวใจอันบิดเบี้ยวมันสั่นระริกทั้งร่าง ก่อนจะเงยหน้าขึ้น หัวเราะปนสะอื้นเสียงแหบพร่า“ฮึ่กก… ฮือออ… มะ-ไม่… ไม่นะะะ… ทรัพย์… ซะ-สินของข้าาาาา… ทองคำของข้าาา! ฮ่ะ…ฮึ่กก!”หยาดน้ำตาที่ไหลพรั่งพรูออกมานั้น มิใช่เพราะมันเสียใจที่ถูกเหล่าคนรับใช้ทอดทิ้ง แต่เป็นเพราะ เกราะกำบังเพียงหนึ่งเดียวในชีวิตของมันทรัพย์สมบัติที่พ่อทิ้งไว้ถูกพรากไปจนสิ้นมันรู้ดีแก่ใจ ว่าที่ผ่านมาอำนาจและรัศมีที่มันอวดอ้างล้วนแล้วแต่เป็นเพียงเงาของบิดาผู้ล่วงลับ กับกำแพงทองคำที่ห้อมล้อมคุ้มครองมัน หากปราศจากสิ่งเหล่านี้ มันก็เป็นเพียง ซากพิการอัปลักษณ์ที่ไร้ค่า เดิ

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 112 นักฆ่าไร้นามเคลื่อนไหว

    ภายในห้องโถงที่เงียบสงัด แสงตะเกียงเพียงไม่กี่ดวงส่องให้เห็นเงาเรียงรายของผู้คนที่ยืนรอคำสั่งอย่างพร้อมเพรียง มือสังหารนับร้อยในชุดดำสนิท ปิดบังใบหน้าแน่นหนา ราวกับเป็นเงามืดที่ไร้ตัวตน แต่ละคนแผ่รังสีอันตรายคล้ายคมดาบที่ซ่อนอยู่ในฝัก ทุกสายตาหันมาจับจ้องยังสตรีเพียงผู้เดียวที่นั่งอยู่เบื้องหน้าหลานเยว่ เอนกายเล็กน้อยบนเก้าอี้ไม้ แววตาคมเรียบเฉยดั่งผืนน้ำแข็งที่ไร้คลื่นกระเพื่อม ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มเพียงเสี้ยว ราวกับกำลังพูดเรื่องเล็กน้อยที่ไม่ต้องใส่ใจนัก ก่อนเสียงเย็นยะเยือกจะเอื้อนเอ่ยออกมา“สังหารสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำในร่างคนพวกนั้นให้สิ้นซาก… และชิงเอาทรัพย์สินของมันมาให้หมด”น้ำเสียงนั้นสงบนิ่งเสียจนชวนขนลุก คล้ายกับนางไม่ได้สั่งการล้างชีวิตผู้คนนับร้อย แต่เป็นเพียงการบอกให้คนของนางไปดูแลสวนหรือจัดการเรื่องบ้านเรือน ความเย็นชานี้เองทำให้ทุกคำยิ่งดังก้องและหนักหน่วงนางหยุดเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยสายตาที่เฉียบคม “เหลือชีวิตไว้แต่เพียง…เจ้าง่อย และคนที่ไม่เกี่ยวข้อง”ถึงแม้นางจะสั่งฆ่าอย่างไร้ความปรานี แต่ก็ไม่มีวันเอ่ยคำให้พรากชีวิตผู้บริสุทธิ์ คำสั่งของหลานเยว่เด็ดขาด นางต้องการเพ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status