Share

ตอนที่ 88 เสียงพร่าในเงามืด

last update Terakhir Diperbarui: 2025-12-03 12:32:07

ถนนสายยาวของเมืองหลวงสว่างไสวไปด้วยโคมไฟนับร้อย แสงสีแดงส้มระยิบระยับคล้ายหมู่ดาวที่ตกลงมาประดับพื้นดิน กลิ่นหอมของเกี๊ยวร้อน ขนมถั่วหวาน และขนมเปี๊ยะอบใหม่ ๆ ลอยคลุ้งไปทั่ว ขับกล่อมให้ผู้คนเบียดเสียดกันด้วยรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และเสียงกลองที่บรรเลงเป็นจังหวะของการเชิดสิงโตที่เคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่ว

ท่ามกลางความคึกคักนั้น ภาพของสองแม่ลูกดึงดูดสายตาไม่น้อย หลานเยว่ในชุดเรียบง่ายสีอ่อน เดินจูงมือบุตรชายไปตามทาง แสงโคมที่สะท้อนบนใบหน้างามสงบของนางทำให้ผู้คนแถวนั้นอดไม่ได้ที่จะมองด้วยสายตาชื่นชม ยามที่นางก้มลงยิ้มให้ลูก รอยยิ้มอ่อนโยนงดงามจนหลายคนอดไม่ได้ที่จะเอ่ยชมในใจว่านางคือ ท่านแม่ที่เปี่ยมด้วยความอบอุ่น

บุตรชายของนาง หลานจิ่วอวิ๋น วิ่งกระโดดโลดเต้นไปตามร้านรวง ตาโตเป็นประกายเมื่อเห็นขนมสายไหมสีสดและลูกกวาดน้ำตาลรูปสัตว์ เขาหัวเราะร่า ดึงมือแม่พาไปดูโคมลอยที่ปล่อยขึ้นสู่ฟ้า แสงสว่างของโคมนับพันดวงแต่งแต้มท้องฟ้ายามค่ำราวกับหมู่ดาวเคลื่อนตัวช้า ๆ ท่ามกลางเสียงอื้ออึงของผู้คน

ทุกย่างก้าวของเด็กน้อยเต็มไปด้วยความสุขสดใส แต่ในขณะที่ใบหน้าของหลานเยว่ประดับด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน แท้จริงแล้วภายในกลับว่างเปล่า รอยยิ้มนั้นเป็นเพียงหน้ากากที่นางสวมใส่ชำนาญขึ้นทุกวัน เพื่อไม่ให้ลูกมองเห็นความเย็นชาในใจ ในอดีต นางคือมือสังหารไร้หัวใจที่สัมผัสเพียงเลือดและความตาย แต่บัดนี้นางแสดงบทบาทของมารดาผู้เปี่ยมรักได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ใช่เพราะหัวใจนางเปลี่ยน หากเพราะนางไม่อยากให้บุตรชายต้องเผชิญโลกอันโหดร้ายอย่างที่ตนเคยผ่านมา

เสียงหัวเราะของเด็กชายคือทุกสิ่งที่นางปรารถนาจะปกป้อง แม้ภายในจะยังว่างเปล่า แต่รอยยิ้มที่นางมอบให้บุตรชายกลับสมจริงยิ่งกว่าครั้งใด และยิ่งวันเวลาผ่านไป การแสดงนี้ก็ค่อย ๆ สมบูรณ์แบบ จนแม้กระทั่งนางเองก็ไม่แน่ใจ…ว่าแท้จริงมันเป็นเพียงการเสแสร้ง หรือหัวใจที่ตายด้านของนางกำลังเริ่มสั่นไหวโดยไม่รู้ตัวท่ามกลางแสงโคมที่ส่องสว่างไปทั่วถนนงานเทศกาล หลานจิ่วอวิ๋นวิ่งเล่นซุกซนไปตามประสาเด็กน้อย เขาหัวเราะเสียงใส ขาเล็กก้าวฉับอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย จนเผลอชนเข้ากับชายผู้หนึ่งอย่างแรง

“ขะ…ขอโทษขอรับ!”เด็กชายรีบยกมือไหว้ ดวงตากลมโตฉายแววตื่นตกใจยังไม่ทันชายผู้นั้นจะตอบ หลานเยว่ก็ก้าวเข้ามาอย่างรวดเร็ว นางโน้มตัวเล็กน้อย กุมมือบุตรชายแล้วเอ่ยเสียงอ่อนโยนเต็มไปด้วยความจริงใจ“ข้าต้องขอโทษแทนลูกชายของข้าด้วย เขามิได้ตั้งใจ เพียงซุกซนเกินไปเท่านั้น”

น้ำเสียงอ่อนละมุนดังสายลมอบอุ่นพัดผ่านยามหนาวเหน็บ ทำให้ผู้คนรอบข้างที่บังเอิญได้ยินยังพลอยหันมามองบุรุษตรงหน้านาง ร่างกายค่อมงอ ขาและแขนเบี้ยวบิดจนผิดรูป ปากบิดเบี้ยวจนเอ่ยถ้อยคำได้ไม่ถนัด น้ำเสียงที่หลุดออกมาขาดห้วนและไม่ชัดเจน“มะ…ไม่ เป็น… ไร…เด็…ก ก็… เด็ก”

แต่ถึงกระนั้น เสื้อผ้าชั้นดีที่เขาสวมล้วนบ่งบอกชัดว่า มิใช่ชาวบ้านธรรมดา หากแต่เป็นลูกหลานของขุนนางใหญ่ที่แม้ร่างกายไม่สมบูรณ์ แต่ยังได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี

แววตาของเขาที่ทอดมองหลานเยว่ เต็มไปด้วยความสั่นสะท้านที่ยากปิดบัง ราวกับถ้อยคำอ่อนโยนของนางได้แหวกทะลุกำแพงความอับเฉาและการถูกดูหมิ่นที่เขาแบกรับมาตลอดทั้งชีวิต…

จ้าวหย่งหยู… ชายผู้เกิดมาพร้อมร่างกายพิกลพิการ หลังค่อม แขนขาบิดเบี้ยว ปากคดเบี้ยวจนเปล่งเสียงได้ไม่ถนัด ตลอดชีวิตเขาเคยชินกับสายตาดูถูกเย้ยหยัน หากไม่ใช่ความสมเพชก็เป็นการหลบเลี่ยงเหมือนไม่อยากให้เขาอยู่ในสายตาโลก แต่ในค่ำคืนนี้…สตรีที่ก้าวเข้ามาหยุดตรงหน้า กลับเอ่ยถ้อยคำอ่อนโยนแทนลูกชายด้วยท่าทีจริงใจ รอยยิ้มสงบและสายตาอบอุ่นของนาง เหมือนแสงแรกที่ส่องทะลุความมืดหม่นในหัวใจที่ด้านชาของเขาอย่างรุนแรง จนชายผู้นี้รู้สึกราวกับโลกทั้งใบหยุดเคลื่อนไหวเขารีบยืดกายค่อมงอขึ้นเล็กน้อย ริมฝีปากเบี้ยวพยายามขยับ เสียงที่หลุดออกมาติดขัดทว่าเต็มไปด้วยความจริงใจ“ขะ… ข้าชื่อ… จ้าวหย่งหยู… ขะ… ขอข้าทราบชื่อ… ของเจ้าได้หรือไม่”

นั่นคือถ้อยคำที่เปล่งออกจากส่วนลึกที่สุดของหัวใจ ประหนึ่งชายที่เพิ่งได้พบรักแรกในชีวิต แม้รู้ตัวว่าตนไม่คู่ควร แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเอื้อมคว้า

หลานเยว่เพียงหันไปมองเขาเล็กน้อย ก่อนตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบง่ายและสั้นกะทัดรัด “ข้า… หลานเยว่” นางกุมมือบุตรชายไว้แน่น พลางเอ่ยเสริมต่อ “ส่วนลูกข้า… หลานจิ่วอวิ๋น”

สำหรับนางแล้ว การบอกชื่อก็เป็นเพียงมารยาท มิได้มีน้ำหนักใด ๆ ในใจ แต่สำหรับจ้าวหย่งหยู… ทุกถ้อยคำของนางกลับถูกจารึกไว้ในหัวใจดั่งคำสาบาน ราวกับเป็นของขวัญล้ำค่าที่เขาไม่เคยได้รับจากผู้ใดมาก่อนในชีวิต

จ้าวหย่งหยูสูดลมหายใจลึก พยายามเก็บความตื่นเต้นในอกแล้วเปล่งเสียงที่ขาดห้วงออกมาอย่างยากลำบาก“คะ… ค่ำนี้… ขอ ข้า… เดินเยี่ยม… งานเทศกาล… กับเจ้า ได้หรือไม่”

แววตาของเขาเปล่งประกายดั่งคนไขว่คว้าความฝัน เป็นครั้งแรกในชีวิตที่กล้าขอในสิ่งที่ใจปรารถนา แม้จะตระหนักดีว่าตนมิอาจคู่ควร แต่เพียงได้เดินเคียงนางก็ถือว่าฟ้าประทาน

หลานเยว่เงียบไปชั่วครู่ สายตาอันสงบงามวูบไหวด้วยความเย็นชาเพียงแผ่วเบา ก่อนนางจะคลี่ยิ้มบาง ๆ และเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลสุภาพ“ข้าต้องขอโทษท่านด้วยจริง ๆ… ข้ากับลูกตั้งใจจะกลับแล้ว”

คำตอบนั้นอ่อนโยนไร้ร่องรอยเยาะหยัน แต่ก็เป็นดั่งมีดที่ตัดความหวังของชายผู้นั้นให้ขาดสะบั้น หลานเยว่ไม่รอให้เขาพูดสิ่งใดต่อ นางเพียงกุมมือบุตรชายไว้แน่น แล้วก้าวเดินจากไปอย่างสงบ

“แล้ว… พบกันใหม่…”จ้าวหย่งหยูเปล่งเสียงแหบพร่าออกมาพร้อมความยากลำบาก ริมฝีปากบิดเบี้ยวสั่นไหว แต่แววตาของเขากลับฉายชัดด้วยความหลงใหลและศรัทธา ประหนึ่งว่าเพียงการหันหลังจากไปของนาง ก็กลายเป็นภาพงดงามที่สุดที่เขาอยากจารึกไว้ในใจตลอดกาล

ยามเมื่อเงาหลังของหลานเยว่และลูกชายเลือนหายไปท่ามกลางแสงโคมนับร้อย จ้าวหย่งหยูยังคงยืนอยู่ตรงนั้น ร่างค่อมงอแทบจะบดบังดวงตาที่วาววับด้วยความหลงใหลและความอยากครอบครองริมฝีปากเบี้ยวขยับอย่างยากลำบาก คำพูดที่เปล่งออกมาแตกหักเป็นช่วง ๆ ทว่าแฝงด้วยแรงปรารถนาอันรุนแรง“จง… ไป… สืบ… เรื่องของนางมา… ข้า… ต้องการรู้… ว่านาง… เป็นใคร”

ทันทีที่คำสั่งสิ้นสุด เงามืดที่แฝงตัวอยู่ท่ามกลางผู้คนก็พลันเคลื่อนไหว คนของเขาที่เฝ้าคุ้มกันอยู่ห่าง ๆ ก้าวออกจากมุมมืดอย่างเงียบงัน ราวกับไม่เคยมีตัวตนมาก่อน พวกเขาเพียงโค้งศีรษะเล็กน้อยแล้วแยกย้ายกันไป ส่วนหนึ่งลอบติดตามร่างของสองแม่ลูกที่เพิ่งจากไปอีกส่วนหนึ่งคอยคุ้มกันเขาอย่างลับๆ

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 117 สิบสี่ปีต่อมา (จบ)

    กาลเวลาล่วงเลยผ่านไปสิบสี่ปี… ชื่อเสียงของ นักฆ่าไร้นาม ค่อย ๆ กลายเป็นเพียงตำนานเล่าขานในหมู่ผู้คน ถึงแม้ในโลกมืดจะยังมีใบสั่งตายมากมาย แต่ไม่มีใครเคยเห็นพวกเขาออกมาเคลื่อนไหวอีก ราวกับได้หายลับไปจากยุทธภพ เหลือเพียงความเงียบงันที่แฝงไว้ด้วยปริศนาในเวลานี้ ภายในจวนตระกูลซู กลิ่นหอมอ่อนของชาอบอวลอยู่ในห้องโถง หลานเยว่ วัยสี่สิบปี นั่งอยู่ตรงหน้าต่าง แสงแดดอ่อนยามเช้าส่องกระทบเรือนผมดำขลับที่ยังคงเงางาม ความงดงามของนางหาได้ลดทอนลงตามกาลเวลา หากแต่เพิ่มพูนด้วยเสน่ห์อันสงบเย็นและน่าเกรงขาม นางหันไปถามสามีด้วยเสียงอ่อนโยน แฝงด้วยความเย็นชาที่ไม่เคยเลือนหายไป“ท่านพี่… หลานจิ่วอวิ๋น ลูกของเราไปที่ใด?”คำถามของนางเหมือนหยดน้ำเย็นไหลผ่านกลางอก ซูจิ่งหลง ชายวัยหกสิบกว่า ที่แม้ร่างกายจะผ่านศึกและกาลเวลามานับไม่ถ้วน แต่ความสง่างามและอำนาจในแววตายังคงไม่เสื่อมคลาย เขายกยิ้มบาง ๆ ตอบเสียงนุ่ม แต่แฝงความเกรงใจ“เจ้าจะไปห่วงทำไมกัน… บัดนี้หลานจิ่วอวิ๋นเติบใหญ่แล้ว ไม่ใช่เด็กตัวน้อยอีกต่อไป”สายตาของ หลานเยว่ หันมาสบเขา ดวงตาคู่นั้นนิ่งสนิทและเย็นชา ราวกับคมดาบที่ซ่อนอยู่ใต้ฝัก คำตอบนั้นไม่ใช่สิ่งท

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 116 วันมงคล

    แสงแดดยามสายส่องลอดผ่านซุ้มศาลาริมน้ำ เงาไม้ไหวระริกตามแรงลมเย็น เสียงน้ำกระทบฝั่งดังแผ่วเบา บรรยากาศรอบกายดูสงบสุขราวกับไม่มีคลื่นลมใด ๆ เคยเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ซูจิ่งหลงนั่งนิ่ง สายตาเหม่อมองสตรีตรงหน้าอย่างไม่รู้จักเบื่อ หลานเยว่ ยังคงสงบนิ่งเช่นเคย มือเรียวยกถ้วยชาขึ้นจิบอย่างอ่อนช้อย แววตาเย็นชาไร้อารมณ์ ทำให้เขารู้สึกว่าผู้หญิงผู้นี้…ไม่เพียงแต่เป็นมือสังหาร แต่ราวกับเป็นผู้ชี้ขาดโชคชะตาของผู้คนเพียงแค่ปรายตามอง นางไม่จำเป็นต้องลงมือเองเสมอไป เพียงกำหนดเส้นทางให้ เรื่องราวก็จะดำเนินไปอย่างที่นางปรารถนาชายหนุ่มพยายามสลัดภาพชะตากรรมอันน่าสมเพชของจ้าวหย่งหยูออกจากใจ แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกสะท้านทั้งจากความโหดเหี้ยมของฟ้า และจากสตรีผู้ลึกลับตรงหน้า“เจ้ามองอะไร” เสียงของนางดังขึ้นเรียบเย็น แต่กลับกระทบเข้ากลางใจเขาราวกับใบมีดบางเฉียบซูจิ่งหลงสะดุ้งเล็กน้อย เขารีบยกยิ้มประดับใบหน้า พยายามกลบเกลื่อนความรู้สึกที่กำลังพลุ่งพล่าน “เปล่า… ข้าเพียงแค่รู้สึกดีที่มีเจ้าอยู่เคียงข้างเท่านั้น”รอยยิ้มของเขาดูจริงใจ แต่ดวงตากลับซ่อนความเขินอายไว้ไม่มิดหลานเยว่ไม่กล่าวสิ่งใด นางเพียงวางถ้วยชาลงบนโ

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 115 จุดจบของกากเดนในร่างมนุษย์

    แรกเริ่ม จ้าวหย่งหยู ยังยกยิ้มเยาะบนใบหน้า มันแสดงสีหน้าถือดีนักที่ได้เห็นอดีตบ่าวรับใช้ทำตัวราวกับสุนัขเชื่อง ๆ ยอมหมอบคลานต่อหน้า ทว่ากาลเวลาไม่เคยเข้าข้างใคร การรอคอยที่เนิ่นนานเกินไปกลับค่อย ๆ เผาอารมณ์อันบิดเบี้ยวของมันให้พลุ่งพล่านมันมาถึงตั้งแต่ฟ้ายังไม่เปลี่ยนสี จนบัดนี้ดวงอาทิตย์ค่อย ๆ คล้อยต่ำใกล้ตกดินแล้ว แต่เงาของเจ้าขี้ข้าก็ยังไม่กลับออกมาเสียที ใบหน้าที่เหยียดหยามในคราแรกจึงค่อย ๆ กลายเป็นความบิดเบี้ยวทั้งโกรธเกรี้ยวและน่าสมเพชเจ้าง่อยตะเบ็งเสียงพร่าหอบ ริมฝีปากสั่นกระตุก น้ำลายเหนียวไหลเลอะเป็นทาง“แค่กกก… อ่อกกก… เจ้า…เจ้าขี้-ชะ-ชั้นต่ำ! กล้าาา…ปล่อยให้ข้า…รอออ…นานถึงเพียงนี้เรอะะะ! ขะ-ข้ามาตั้งแต่ฟ้าา…ยังไม่ทันเปลี่ยนสี…จนตะวัน…จวนจะตกแล้ววว!”เสียงโวยวายแตกพร่า แผดก้องไปทั่วหน้าประตู ราวกับเด็กร่างพิการเอาแต่ใจในสลัมผู้ไม่รู้จักคำว่าอดทนหรือศักดิ์ศรีไม่นานนัก ประตูไม้เก่าโทรมค่อย ๆ ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดแล้วเปิดออกอย่างเชื่องช้า คล้ายเจตนาแอบทดสอบความอดกลั้นของนายเก่า อดีตบ่าวโค้งตัวลง น้ำเสียงราบเรียบคล้ายไร้เดียงสา“ขออภัยด้วยขอรับ… มันเป็นเพราะเรือนข้ารกและสกปรกมากเก

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 114 อดีตบ่าวรับใช้

    สำหรับบางคน…ความตายอาจเป็นเพียงการปลดปล่อย แต่สำหรับจ้าวหย่งหยู เศษเดนในร่างพิการผู้นี้ มันไม่ควรมีจุดจบที่เรียบง่ายถึงเพียงนั้นชีวิตของมันเต็มไปด้วยมลทินที่แม้ตัวมันเองยังจำไม่ได้ว่าก่อกรรมชั่วกับใครไปมากเท่าไรแล้วเคยสั่งลูกน้องรุมซ้อมบัณฑิตผู้ใฝ่ดีจนพิการ เพียงเพราะริษยาที่อีกฝ่ายมีสติปัญญาดีมากกว่าตนเคยฉุดคร่าสตรีงามที่สะดุดตา ไม่สนใจว่านางมีครอบครัวหรือฐานะเช่นไรเคยเหยียบย่ำชีวิตผู้คนจนพังพินาศนับครั้งไม่ถ้วนเพราะบารมีและอำนาจของบิดาอย่าง อัครเสนาบดีจ้าวเจี้ยนกั๋ว ที่คอยปกปิด เก็บกวาด และอุ้มชู ทำให้มันยังลอยหน้าลอยตาอยู่ได้จนถึงวันนี้แต่เมื่อเสาหลักล้มลงแล้ว โลกทั้งใบของมันก็ดิ่งลงเหวอย่างไร้ทางหนีค่ำคืนหนึ่ง ร่างพิการที่นั่งค่อมบนรถเข็นเก่า ๆ จมอยู่ในความมืด ดวงตาขุ่นหมองฉายแววโหยหวน น้ำเสียงแหบพร่าเล็ดลอดออกมาพร้อมหยาดน้ำตา“ท่ะ…ท่านพ่อ… ข้า…คึ-คิดถึงท่าน… เหลือเกิน…”เสียงนั้นไม่ใช่เสียงของนายน้อยผู้เคยอหังการ แต่คือเสียงสะอื้นของเศษมนุษย์ที่ไร้ที่พึ่งตลอดทั้งวันทั้งคืน ไม่มีแม้แต่อาหารสักคำตกถึงปาก ความหิวกัดกินจนท้องไส้บิดเกร็ง แต่ถึงกระนั้น จ้าวหย่งหยู ก็ยังยึดมั่นในศักดิ์

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 113 ของขวัญแต่งงาน

    ภายในจวนร้างที่เงียบงัน เสียงล้อรถเข็นยังคงเสียดสีพื้นหินดังเอี๊ยดอ๊าดไม่ขาดสาย จ้าวหย่งหยู เข็นตัวเองไปอย่างทุลักทุเล ใบหน้าบิดเบี้ยวชุ่มไปด้วยน้ำตาและน้ำลายที่ไหลยืดเลอะเปรอะคาง ร่างพิการสั่นเทาคล้ายจะล้มพังได้ทุกเมื่อทุกห้องที่มันเปิดเข้าไป ภาพที่ปรากฏตรงหน้าไม่ต่างอะไรกับฝันร้ายตู้หีบสมบัติถูกเปิดอ้า หยกงาม ทองคำ และเงินก้อนโตที่เคยเป็นภูเขาทรัพย์หายวับไปราวกับไม่เคยมีอยู่ ร่องรอยการกวาดล้างปรากฏทุกซอกมุม เหลือเพียงความว่างเปล่ากับความเย้ยหยันที่บีบคั้นหัวใจอันบิดเบี้ยวมันสั่นระริกทั้งร่าง ก่อนจะเงยหน้าขึ้น หัวเราะปนสะอื้นเสียงแหบพร่า“ฮึ่กก… ฮือออ… มะ-ไม่… ไม่นะะะ… ทรัพย์… ซะ-สินของข้าาาาา… ทองคำของข้าาา! ฮ่ะ…ฮึ่กก!”หยาดน้ำตาที่ไหลพรั่งพรูออกมานั้น มิใช่เพราะมันเสียใจที่ถูกเหล่าคนรับใช้ทอดทิ้ง แต่เป็นเพราะ เกราะกำบังเพียงหนึ่งเดียวในชีวิตของมันทรัพย์สมบัติที่พ่อทิ้งไว้ถูกพรากไปจนสิ้นมันรู้ดีแก่ใจ ว่าที่ผ่านมาอำนาจและรัศมีที่มันอวดอ้างล้วนแล้วแต่เป็นเพียงเงาของบิดาผู้ล่วงลับ กับกำแพงทองคำที่ห้อมล้อมคุ้มครองมัน หากปราศจากสิ่งเหล่านี้ มันก็เป็นเพียง ซากพิการอัปลักษณ์ที่ไร้ค่า เดิ

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 112 นักฆ่าไร้นามเคลื่อนไหว

    ภายในห้องโถงที่เงียบสงัด แสงตะเกียงเพียงไม่กี่ดวงส่องให้เห็นเงาเรียงรายของผู้คนที่ยืนรอคำสั่งอย่างพร้อมเพรียง มือสังหารนับร้อยในชุดดำสนิท ปิดบังใบหน้าแน่นหนา ราวกับเป็นเงามืดที่ไร้ตัวตน แต่ละคนแผ่รังสีอันตรายคล้ายคมดาบที่ซ่อนอยู่ในฝัก ทุกสายตาหันมาจับจ้องยังสตรีเพียงผู้เดียวที่นั่งอยู่เบื้องหน้าหลานเยว่ เอนกายเล็กน้อยบนเก้าอี้ไม้ แววตาคมเรียบเฉยดั่งผืนน้ำแข็งที่ไร้คลื่นกระเพื่อม ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มเพียงเสี้ยว ราวกับกำลังพูดเรื่องเล็กน้อยที่ไม่ต้องใส่ใจนัก ก่อนเสียงเย็นยะเยือกจะเอื้อนเอ่ยออกมา“สังหารสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำในร่างคนพวกนั้นให้สิ้นซาก… และชิงเอาทรัพย์สินของมันมาให้หมด”น้ำเสียงนั้นสงบนิ่งเสียจนชวนขนลุก คล้ายกับนางไม่ได้สั่งการล้างชีวิตผู้คนนับร้อย แต่เป็นเพียงการบอกให้คนของนางไปดูแลสวนหรือจัดการเรื่องบ้านเรือน ความเย็นชานี้เองทำให้ทุกคำยิ่งดังก้องและหนักหน่วงนางหยุดเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยสายตาที่เฉียบคม “เหลือชีวิตไว้แต่เพียง…เจ้าง่อย และคนที่ไม่เกี่ยวข้อง”ถึงแม้นางจะสั่งฆ่าอย่างไร้ความปรานี แต่ก็ไม่มีวันเอ่ยคำให้พรากชีวิตผู้บริสุทธิ์ คำสั่งของหลานเยว่เด็ดขาด นางต้องการเพ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status