Share

บุตรสาวที่เปลี่ยนไป

Aвтор: l3oonm@
last update Последнее обновление: 2025-01-06 01:04:07

ลี่อินประคองจือหลินให้นอนลงก่อนที่นางจะช่วยห่มผ้าให้อย่างใส่ใจ แม้รู้ดีว่าบุตรสาวมีท่าทางที่ต่อต้านนางอย่างประหลาดแต่ก็คิดว่านางยังคงหวาดกลัวกับเรื่องที่เกิดขึ้น

วันต่อมาจือหลินนางก็ไม่ได้พักผ่อนอย่างที่ควรจะทำ เพราะนางรู้สึกว่าไม่ได้เป็นอันใดมาก และอีกอย่างร่างกายของมารดาก็ไม่อาจจะทำงานหนักได้เมื่อรู้มาจากความทรงจำเดิม

เมื่อคืนนี้ตอนที่จือหลินนางหลับไปยังฝันถึงจือหลินเจ้าของร่างเดิมอีกด้วย จือหลินร้องไห้อย่างน่าสงสารแล้วบอกให้นางช่วยดูแลมารดาแทนด้วย

จือหลินไม่รู้จะทำเช่นไรจะให้นางกลับเข้าร่างก็ไม่อาจจะทำได้ จึงได้รับปากจือหลินคนเดิมไปเพื่อให้นางวางใจ

อย่างน้อยชาตินี้ก็มีมารดากับเขาบ้างแล้ว เพียงแค่สตรีอ่อนแอคนหนึ่งนางคงไม่ลำบากมากนักที่ต้องคอยดูแล

แต่ร่างนี้ก็เป็นเพียงแค่เด็กน้อยวัยสิบหนาวนางจะไปทำอันใดได้มากก็ยังไม่รู้

จือหลินเดินไปที่ห้องครัวตามความทรงจำเดิม ก่อนที่จะเห็นลี่อินนางจุดไปอยู่

“ข้าทำเองเจ้าค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปแย่งตะบันไฟและฟืนในมือของลี่อินมาก่อนที่จะทำทุกอย่างอย่างคล่องแคร่ว

ไม่ใช่ว่านางเก่งแต่อย่างใด ถ้าไม่มีความทรงจำเดิมของจือหลินคนก่อน การจุดไฟเช่นนี้นางก็คงทำไม่ได้เช่นกัน

เมื่อสำรวจดูว่ามีของใดที่จะนำมาทำอาหารได้บ้างก็พบเพียงหัวมันเล็กๆ ไม่กี่หัวเท่านั้น ข้าวสารก็แทบจะหมดลงแล้วด้วย

จือหลินได้แต่ถอนหายใจอย่างปลงตกก่อนจะลงมือล้างข้าวแล้วทำเป็นข้าวต้ม หัวมันนางก็ใช้เพียงสองลูกแล้วโยนเข้าไปในกองไฟเพื่อเผา

“หลินเออร์ เจ้าจะลุกขึ้นมาทำไม กลับไปนอนเสีย แม่ทำเองได้” ลี่อินจะเข้ามาช่วยจือหลินทำอาหาร

“ท่านออกไปนั่งพักก่อนเถิดเจ้าค่ะ ข้าทำได้” จือหลินไม่ได้หันไปพูดกับลี่อิน ปากนางพูดแต่มือก็ยังทำงานไม่หยุด

“แต่ว่า” ลี่อินยังไม่ยอม

“เชื่อข้าเถิด หากท่านล้มป่วยอีกคนจะทำเช่นใด” จือหลินหันไปมองลี่อินอย่างเรียบเฉย

นางเห็นแววตาของบุตรสาวก็อดจ้องมองอย่างตกตะลึงไม่ได้ แววตาของจือหลินในยามนี้ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว

นางเหมือนคนที่ผ่านการใช้ชีวิตมาอย่างโชกโชน เรียบเฉย สงบนิ่ง จนลี่อินที่เผลอจ้องนางยังนึกหวาดกลัว

จือหลินก็เหมือนจะรู้ว่าลี่อินคิดเช่นไร แววตาของนางจึงอ่อนลงเล็กน้อย ก่อนจะช่วยประคองลี่อินออกไปรอที่ห้องโถง

จือหลินมองห้องครัวที่สกปรกยุ่งเหยิง ก่อนจะเริ่มเก็บล้างและปัดกวาดทั้งหมดระหว่างที่รออาหารเสร็จ แต่ร่างกายนี้อ่อนแอเกินไปนางทำเสร็จก็แทบจะสิ้นเรี่ยวแรงแล้ว

นั่งพักจนหายเหนื่อยก็ยกอาหารออกไปกินกับลี่อินที่ด้านนอก

“ท่านกินก่อนเถิดเจ้าค่ะ สงสัยเรื่องใดค่อยพูดคุยกัน” จือหลินเงยหน้าขึ้นมาพูดกับลี่อินเมื่อเห็นว่ามือนางยังไม่ยอมขยับตะเกียบ

เมื่อกินอาหารเสร็จเรียบร้อย จือหลินก็เก็บไปล้างให้เรียบร้อยเสียก่อน เพราะนางติดนิสัยมาจากโลกก่อนที่ทำอะไรต้องเป็นระเบียบไปเสียหมด

เพราะถูกฝึกมาเช่นนี้ด้วยกระมัง จึงทำให้เด็กในองค์กรแทบทุกคนมีวินัย ทุกสิ่งอย่างล้วนต้องทำด้วยตนเองไม่สามารถพึ่งพาผู้อื่นได้

“ท่านสงสัยสิ่งใด ก็ถามเถิดเจ้าค่ะ” จือหลินยกน้ำขึ้นดื่มอย่างช้าๆ

ลี่อินมองท่าทางของนางที่เหมือนกับคนถูกฝึกมารยาทมาอย่างประหลาดใจ

“เช่นนั้นท่านฟังข้าแล้วอย่าตกใจจนเสียสติเล่า” จือหลินเอ่ยเตือนนางเสียก่อน เพราะนอกจากนั่งมองนางแล้วก็ไม่กล้าถามเรื่องใด

จือหลินเล่าเรื่องที่นางตกจากเขาแล้วหมดสติไปจนวิญญาณไปโผล่อีกภพหนึ่งที่มีความเป็นอยู่ต่างจากที่แห่งนี้มาก

นางถูกฝึกให้ใช้ชีวิตด้วยตนเองและเรียนรู้สิ่งต่างๆ มามากมาย จือหลินไม่ใจร้ายถึงกับบอกเรื่องที่บุตรสาวที่แท้จริงของนางตายไปแล้ว แต่นางคือวิญญาณที่มาจากโลกอื่น

เพราะลี่อินที่ไม่เหลือผู้ใดในชีวิต และเป็นหญิงสาวที่บอบบางเช่นนี้ คงไม่อาจทำใจได้อย่างแน่นอน

ส่วนเรื่องของจินฮวาและอี้เฉินนางจะคืนสนองให้อย่างแน่นอนที่กล้าทำร้ายชีวิตของหญิงสาวดีๆ เช่นนี้

ลี่อินเมื่อฟังจบก็ปล่อยโฮออกมาเสียงดัง เมื่อรู้ว่านางเกือบจะเสียบุตรสาวที่เหลือเพียงคนเดียวไปแล้ว

นางดึงตัวของจือหลินมากอดไว้แน่นอย่างหวงแหน จือหลินที่ไม่ได้ตั้งตัวก็ตกตะลึงจนพูดไม่ออก

นางปล่อยให้ลี่อินกอดนางไว้เช่นนั้น เมื่อรับรู้ถึงความรู้สึกของอ้อมกอดของมารดา ภายในอกของนางก็สะท้านอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

“นับจากนี้ท่านมีข้าอยู่ไม่ว่าเรื่องอันใดข้าจะจัดการให้ท่านเอง” จือลูบหลังปลอบนางเบาๆ

“แม่ แม่ ไม่ดีเอง เป็นแม่ที่ผิดต่อเจ้า” ลี่อินสะอื้นไห้จนพูดไม่เป็นคำ

“หากเรื่องนี้จะมีผู้ใดผิด ก็เป็นสองแม่ลูกนั้นมากกว่า” จือหลินเผยแววตาสังหารออกมาอย่างมีโทสะ

นางไม่รู้ว่าเป็นความรู้สึกของนางที่สงสาร จือหลินกับลี่อินหรือความโกรธแค้นของเจ้าของร่างเดิมกันแน่

กว่าลี่อินจะสงบสติได้จือหลินก็ต้องปลอบเสียนาน ก่อนที่นางจะพาลี่อินที่เหนื่อยจากการร้องไห้เข้าไปพักผ่อนในห้อง

จือหลินจึงได้มีเวลามาสำรวจเรือนที่นางต้องอาศัยอยู่อย่างละเอียด อาจจะเป็นเพราะลี่อินนางไม่อาจทำงานหนักได้และจือหลินคนเดิมยังเป็นเพียงเด็กน้อย

เรือนทั้งหลังจึงทำความสะอาดได้ไม่ดีนัก แม้ตัวเรือนจะได้รับการซ่อมแซมแล้วแต่ก็ยังมีบางส่วนที่ทรุดโทรมรอการพังทลายลงมาหากต้องเจอเข้ากับพายุ

เครื่องเรือนก็มีไม่มาก จึงจัดการได้ไม่ยากนัก ด้านนอกเรือนก็มีหญ้าขึ้นสูงในบางแห่งหากถูกถากออกก็นับว่ายังไม่พื้นที่เหลืออีกมาก คงเพียงพอให้ปลูกผักไว้กินกันสองคนแม่ลูกได้

ห้องน้ำเป็นสิ่งที่นางรับไม่ได้ที่สุด นอกจากจะต้องไปหาบน้ำที่ลำธารด้านหลังมาไว้เพื่ออาบแล้ว ส้วมที่ใช้ก็เป็นแบบขุดหลุม หากเต็มก็ต้องตักขึ้นมาทิ้ง จือหลินกัดฟันแน่นแล้วสบถออกมาอย่างหัวเสีย

นางเคยลำบากถึงขั้นนี้เสียเมื่อไหร่ แต่ให้ฝึกหนักจนต้องลากสังขารกลับที่พัก ที่อยู่ที่กินก็ล้วนแต่ดีที่สุด ข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างก็อำนวยความสะดวกดีกว่าด้านนอกเสียด้วยซ้ำ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   คู่บำเพ็ญเพียร(จบ)

    จือหลินนางพาชิงชางเข้าไปภายในมิติ ชิงชางเมื่อรู้ตอนนี้ตนอยู่ที่ใดเขาก็อุ้มจือหลินเข้าไปในห้องของนางนางรู้ว่าเขาต้องการทำสิ่งใดกับนางก็อดที่จะเอ่ยถามอย่างสงสัยไม่ได้“ท่านอยู่ในขั้นใด”“ข้าเร่งเดินลมปราณ เพื่อวันนี้หลินหลิน”ชิงชางไม่ยอมบอกนางแต่เขากับจุมพิตนางอย่างดูดดื่มแทน จือหลินราวกับต้องมนต์เมื่อได้รับสัมผัสที่อ่อนโยนของเขาชิงชางไล้นิ้วไปตามเรือนร่างของนาง พร้อมทั้งปลดชุดของนางอย่างรวดเร็ว“เจ้างามยิ่งนักหลินหลิน” เมื่อได้เห็นเรือนร่างที่เปลือยเปล่าไร้เสื้อผ้าของนาง เขาก็อดที่จะจ้องมองอย่างตกตะลึงมิได้จือหลินนางก็ไม่ได้มีท่าทีที่เขินอายเช่นหญิงสาวทั่วไป กลับใจกล้ากว่าที่เขาคิด เพียงนางช้อนสายตายั่วยวนเขา ชิงชางก็รีบปลดชุดออกด้วยมือที่สั่นเทาก่อนจะขึ้นคร่อมตัวนางพร้อมกับมอบจุมพิตที่ร้อนแรงเต็มไปด้วยไฟปรารถนา จือหลินโอบรอบคอของเขาไว้ พร้อมทั้งใช้มือที่ซุกซนของนางสัมผัสไปที่เครื่องเพศของเขาโดยตรง“หลินหลิน เจ้าช่าง ซุก ซนนัก” ชิงชางเอ่ยแสงสั่นเทาออกมาอย่างไม่อาจควบคุมอารมณ์ได้จือหลินนางเงยหน้าขึ้นหัวเราะอย่างชอบใจเมื่อเห็นสีหน้าที่อดกลั้นของเขา แต่ต่อมานางก็รู้ตัวว่านางนั้นคิดผ

  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   ออกเดินทาง

    ภายในมิติผ่านมาได้สองปี แต่ด้านนอกเพียงผ่านไปแล้วสี่เดือนเท่านั้น ชิงชางก็คิดจะออกไปจัดการเรื่องของตนในวังหลวง แม้แต่ขั้นระดับเขาก็ไม่ให้จือหลินตรวจสอบนางก็ไม่ว่าอันใด พาเขาออกไปส่งด้านนอกอย่างที่เขาต้องการ ชิงชางมองจือหลินอย่างลึกซึ้งก่อนจะเดินจากไปโดยที่เขาไม่เอ่ยอันใดสักคำจือหลินยืนมองแผ่นหลังของเขาอย่างสะท้านในอก นางคิดว่าตัวนางไม่อยากยึดติดหรือหวังในตัวของชิงชางแล้วแต่ก็ยังอดเศร้าใจไม่ได้“ชางเออร์เจ้ากลับมาเสียที” หลีจิ้งมองบุตรชายที่รูปร่างและกลิ่นอายที่เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างแปลกใจ“เสด็จพ่อ เสด็จแม่ ลูกมีเรื่องจะพูดกับพวกท่าน”“หากเป็นเรื่องของหลินเออร์ พ่อเข้าใจ แต่เจ้าก็ต้องรู้ว่าต่อไปเจ้ามิอาจมีนางเพียงผู้เดียวได้”หลีจิ้งมองบุตรชายอย่างจริงจัง เพราะตัวเขาที่คิดจะมีเพียงอี้หนิงในวังหลังเพียงหนึ่งเดียวยังไม่อาจทำได้เขาจำต้องรับบุตรสาวของตระกูลใหญ่ในเมืองหลวง ทั้งผู้ที่เคยช่วยเหลือจนเขาได้นั่งในบัลลังก์ครั้งนี้ไว้อย่างเสียไม่ได้เพียงปีเดียวก็มีพระสนมมากถึงนับสิบคนแล้วชิงชางฟังคำพูดของบิดาหน้าก็ไม่ได้เปลี่ยนไปแต่อย่างใด“ลูกไม่คิดจะเป็นฮ่องเต้เช่นเสด็จพ่อ ลูกต้องการออกเดิ

  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   ความมุ่งมั่นของชิงชาง

    ชิงชางอับอายจนใบหูของเขาแดงก่ำ ตัวเขาจะเคยทำเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร ที่ทำกับนางก็เป็นครั้งแรกของเขาเช่นกันแล้วสตรีเช่นนางกับพูดเรื่องเช่นนี้ออกมาได้อย่างไม่อายบอก หรือว่านางเคยถูกผู้ใดจุมพิตมาแล้วชิงชางยิ่งคิดก็ยิ่งเกิดอาการหึงหวง เขาเดินเข้าไปจับใบหน้าของนางไว้แล้วจุมพิตนางอีกครั้งอย่างรุนแรงแต่ครั้งนี้จือหลินนางตกตะลึงอย่างแท้จริง เพราะไม่คิดว่าชิงชางจะจุมพิตนางอีกครั้ง นางคิดว่าคำพูดของนางจะทำให้เขาเกิดอยากเปลี่ยนใจจือหลินกลับเป็นฝ่ายดึงรั้งคอของชิงชางไว้ แล้วเริ่มใช้เรียวลิ้นของนางหยอกล้อกับเรียวลิ้นของชิงชางแทนในตอนแรกชิงชางก็นิ่งชะงักอย่างตกตะลึง เขาไม่คิดว่านางจะจุมพิตได้ช่ำชองเช่นนี้ แต่ไม่นานก็เปลี่ยนเป็นความรัญจวนที่นางมอบให้ทั้งสองไม่รู้ว่าตนจุมพิตกันนานเพียงใด แต่เมื่อจือหลินนางถอนริมฝีปากออก ชิงชางกลับอาลัยอาวรณ์อย่างไม่สิ้นสุด“หลินเออร์ เหตุใดเจ้า”“ท่านอยากจะรู้ว่าเหตุใดข้าถึงจุมพิตเป็นใช่หรือไม่”จือหลินนางจ้องมองเด็กน้อยตรงหน้าอย่างหยอกล้อ ก่อนจะเล่าเรื่องที่นางไม่ใช่คนในภพนี้ให้ชิงชางได้ฟังทั้งคู่เข้ามานั่งในห้องนั่งเล่นที่โซฟาแทนห้องทดลองของจือหลินนางบอกเล่า

  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   เจ้ากลับมาแล้ว

    บ่าวไพร่ในจวนตระกูลถานรวมทั้งองครักษ์ของชิงชางต่างแตกตื่นกันให้วุ่น เพราะเรื่องที่จือหลินและชิงชางหายตัวไปจากห้องนอนในเรือนของป๋อฉิวอย่างไร้ร่องรอยลี่อินที่ยังไม่หายดีก็ให้ตงฟางประคองตนมาที่ห้องของจือหลินอย่างร้อนใจจือหลินนางออกทันเห็นคนกำลังเข้าช่วยมารดาที่หมดสติอยู่ในห้องของนางพอดี“เกิดเรื่องใดขึ้นหรือเจ้าคะ” เสียงของนางทำให้ทุกคนหยุดนิ่งอยู่กับที่ คนที่มีสติที่สุดเห็นจะเป็นตงฟางที่วิ่งเข้ามากอดเอวพี่สาวไว้แน่น แล้วปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อายใครจือหลินต้องลูบหลังปลอบประโลมเขาอยู่พักใหญ่กว่าจะเงียบเสียงลง คงมีแต่สวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าตงฟางต้องแสร้งเข้มแข็งมากเพียงใด เมื่อเกิดเรื่องขึ้นกับพี่สาวของตน เพราะเขาต้องดูแลมารดาที่ล้มป่วยทั้งยังน้องชายคนเล็กที่เสียขวัญอีกด้วย“หลินเออร์ เจ้ากลับมาหาแม่แล้ว” ลี่อินเมื่อได้สติก็ลุกขึ้นดึงตัวบุตรสาวเข้ามาสวมกอดอย่างหวงแหนท่านผู้เฒ่ากับฮูหยินผู้เฒ่าเมื่อบ่าวไปแจ้งว่าพบตัวจือหลินแล้วก็รีบร้อนเดินมาทันที“หลินเออร์” ผู้เฒ่าถานมองหลานสาวด้วยดวงตาที่เออคลอไปด้วยน้ำตาส่วนฮูหยินผู้เฒ่าถานเดินเข้ามาสวมดอกนางไม่ต่างจากที่ลี่อินทำเลย“พวกท่านใจเย็นก่

  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   ท่านเข้ามาได้อย่างไร

    ภายนอกมิติต่างวิ่งวุ่นตามหมอกันไปทั่ว เพราะหลายวันแล้วที่จือหลินนางนอนอย่างไม่ได้สติ พวกเขาที่รอเวลาให้นางตื่นก็ไม่อาจทนรอได้อีกหมอที่มาตรวจก็ไม่อาจหาสาเหตุที่ทำให้จือหลินนางหมดสติเช่นนี้ได้ เพราะร่างกายของนางเหมือนกับคนที่หลับสนิทเท่านั้นหลีจิ้งเมื่อจัดการเรื่องภายในวังหลวงเสร็จสิ้นก็มารับอี้หนิงกับอวี่ซีกลับเข้าวังหลวง เพื่อสถาปนาตนเองขึ้นเป็นฮ่องเต้และฮองเฮาพระองค์ใหม่ป๋อฉิวถูกราชโองการแต่งตั้งเป็นเสนาบดีกรมกลาโหมทันทีที่หลีจิ้งขึ้นนั่งบัลลังก์ เขาไม่ได้รู้สึกยินดีกับตำแหน่งที่ได้จวนตระกูลถานยังไม่เปิดรับผู้คนที่เดินทางมาร่วมแสดงความยินดี เพราะบุตรสาวที่ยังนอนไม่ได้สติอยู่ในเรือนของเขาชิงชางเมื่อช่วยบิดาจัดการเรื่องในวังหลวงเสร็จสิ้น ตัวเขาก็แทบจะอยู่ที่จวนตระกูลถานไม่ยอมขยับไปที่ใด ได้แต่นั่งเฝ้าจือหลินที่นอนหลับอยู่บนเตียงเขามักจะนำตำรา หรือเรื่องที่พบเจอมาตลอดที่ไม่ได้อยู่กับนางมาเล่าให้นางฟัง จนคนที่เข้ามาพบเห็นอกเห็นใจเขาไม่ได้ป๋อฉิวก็ไม่ทำใจไล่เข้ากลับวังไม่ลง จึงปล่อยให้เขานั่งพูดอยู่เช่นนั้น เรื่องร้านค้าของจือหลินก็ไม่มีปัญหา เพราะของที่นางทำไว้ยังมีอีกมาก ลี่อินที่

  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   ห้วงมิติเปลี่ยนแปลง

    ป๋อฉิวไม่เคยเห็นด้านที่อ่อนแอเช่นนี้ของนาง เขาอดที่จะจุกในอกไม่ได้ สุดท้ายแล้วอย่างไรนางก็เป็นเด็กสาวที่ต้องการคนปลอบประโลมชิงชางกับหลีจิ้งทรุดตัวลงอย่างสิ้นแรง ทุกคนล้วนได้รับผลกระทบจากการระเบิดพลังครั้งนี้ของจือหลินแต่เพียงไม่นาน ร่างกายที่ทุกคนได้รับบาดเจ็บ แม้แต่โรคที่รักษาไม่หายเมื่อถูกแสงสีขาวของจือหลินต่างก็หายราวปาฏิหาริย์ เรื่องนี้ชาวเมืองที่หนีไม่ทันจากแสงก็รับรู้ได้เช่นกันชาวชราที่เดินกลับเรือนเขาไม่อาจวิ่งหนีได้เช่นคนหนุ่มสาว เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้งร่างกายที่ทรุดโทรมก็กลับแข็งแรงขึ้นอย่างน่าประหลาดใจคนขอทานที่ขาหัก ล้มอยู่ที่พื้น เพราะโดนชนจนหนีไม่ทันก็กลับมาลุกขึ้นเดินได้เมื่อแสงสีขาวหายไปกลายเป็นที่ร่ำลือไปทั่ว ชาวเมืองทั้งหมดต่างออกจากเรือนเพื่อมารอแสงสีขาวอีกครั้ง แต่ก็ไม่เคยปรากฏขึ้นอีกเลยป๋อฉิวประคองบุตรสาวขึ้น ก่อนที่ทั้งคู่จะร่ำลาสองพ่อลูกกับจวนของตนไป“หลินเออร์” ชิงชางร้องเรียกนาง“ท่านจัดการเรื่องของท่านเถิด ข้าจะกลับจวนเพื่อไปดูมารดาและน้องชาย” จือหลินนางไม่ได้หันไปมองชิงชางเลยสักนิดจือหลินพูดจบนางก็หมดสติไปทันที เพราะการระเบิดพลังและการเลื่อนขั้นที่เกิดข

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status