Share

บทที่ 10 ไม่ปิดบัง

last update Last Updated: 2024-12-13 09:43:08

บทที่ 10 ไม่ปิดบัง

ยามเหม่า (05.30)

เรือนของฟางเหนียง

“ฮูหยินผู้เฒ่าเจ้าคะ ข้ามาตามที่ท่านสั่งมาเจ้าค่ะ” สาวใช้ยืนอยู่ในมุมมืดตอนนี้แสงสว่างจากดวงอาทิตย์กำลังสาดส่องลงมาเพียงเล็กน้อย

“ได้ความว่าเช่นไร” ฟางเหนียงเอ่ยถามอีกฝ่าย

“เมื่อวานนี้ฮูหยินได้รับบาดเจ็บเนื่องมาจากช่วยคุณชายอ้ายเยว่เอาไว้ แต่ข้ายังไม่รู้นิสัยของฮูหยินเท่าไหร่นัก ทั้งวันนางเอาแต่เก็บตัวนอนอยู่บนเตียงเพราะว่าเจ็บบาดแผล นางให้ข้าออกมาอยู่ด้านนอกจนกระทั่งฟ้ามืดนางตื่นขึ้นมา ข้าจึงเข้าไปดูแลปรนนิบัตินาง ไม่นานท่านแม่ทัพได้เข้าไปหาฮูหยินเจ้าคะ ฮูหยินออดอ้อนเก่งจนทำให้ท่านแม่ทัพรีบไล่ข้าออกมาเพื่อพาฮูหยินไปหลับนอน ทั้งสองดูเหมือนจะมีความสัมพันธ์ที่ดีมากเลยนะเจ้าคะ” สาวใช้รีบเอ่ยบอกอีกฝ่ายอย่างที่นางเห็นมา

“แล้วท่านแม่ทัพมีท่าทีเช่นไรเมื่อนางออดอ้อน”

“ท่านแม่ทัพดูเป็นห่วงฮูหยินมาก ๆ นะเจ้าคะสายตาที่จ้องมองฮูหยินเป็นสายตาที่ข้าไม่เคยเห็นเลยสักครา”

“อืมเช่นนั้นหรือ เจ้ากลับไปเถิดแล้วจับตาดูนางให้ดี มีอะไรก็รีบมารายงานวันนี้ข้าจะเข้าไปดูอาการนางสักหน่อย”

“เจ้าค่ะ” ไป๋ลู่มารายงานตามงานที่นางถูกสั่งให้ไปทำ เมื่อนางได้รายงานเสร็จจึงกลับไปที่ห้องของเยิ่นเม่ยเม่ยเพื่อปรนนิบัตินางต่อ

ส่วนฟางเหนียงนางเดินเล่นชมดอกไม้ยามเช้าครุ่นคิดเรื่องที่สาวใช้มาแจ้ง ยิ่งคิดยิ่งแปลกใจ เทียนหลันเซ่อนะหรือที่มีใจรักเยิ่นเม่ยเม่ยรวดเร็วปานนี้ ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนนางพยายามหาสตรีที่เพรียบพร้อมมากมายเพื่อมาให้เขาเลือกแต่เขาเองหาได้สนใจ เพราะเพิ่งสูญเสียฮูหยินท่านแม่ของอ้ายเยว่ไป แต่ไม่คิดเลยว่าเขาจะสนใจเยิ่นเม่ยเม่ยสตรีต่อยต่ำเช่นนั้น

“ไม่ได้การ ข้าจะให้เทียนหลันเซ่อรักนางไม่ได้ อีกอย่างตอนนี้นางได้ช่วยอ้ายเยว่ป่านนี้อ้านเยว่คงชอบนางแล้วสินะ ข้าอยู่นิ่งไม่ได้แล้วต้องรีบไปจัดการเรื่องนี้” ฟางเหนียงคิดหาทางที่จะแยกทั้งสองก่อนจะเดินไปหาเยิ่นเม่ยเม่ยเพื่อดูอาการ

ฝั่งด้านเทียนหลันเซ่อตื่นก่อนหลี่มี่นอนจ้องมองใบหน้าของนางที่หลับไม่รู้เรื่องรู้ราวอยู่ในอ้อมแขนของเขาแสงแดดสาดส่องเข้ามากระทบใบหน้าของนางช่างชวนน่ามอง จนเทียนหลันเซ่อเผลอตัวใช้นิ้วมือของตนแตะลงที่ใบหน้าของหลี่มี่อย่างนุ่มนวล

“ทำไมครั้งนั้นข้าถึงไม่สนใจเจ้ากันนะ ข้าใจร้ายกับเจ้ามากเลยสินะ ทุกอย่างล้วนเป็นความผิดของข้าเอง ต่อจากนี้ข้าจะไม่ทำเช่นนั้นกับเจ้าอีก”

“อื้อ ..อย่ามากวนได้มั้ยคนจะนอน” หลี่มี่รู้สึกรำคาญที่ถูกรบกวนเวลานอน แต่เมื่อนึกได้ว่าตอนนี้นางนอนร่วมเตียงกับท่านแม่ทัพอยู่นางรีบลืมตาขึ้นมองอย่างตกใจ

“เจ้านี่ ขี้เซาจริง ๆ”

“ท่านแม่ทัพยังไม่ไปที่ใดหรือเจ้าคะ แล้วทำไมข้าถึงมานอนท่านี้ได้หรือว่าท่านคิดจะทำอันใดข้าอีก” หลี่มี่สำรวจมองตอนนี้นางนอนหนุนแขนแกร่งของเทียนหลันเซ่ออยู่ แถมใบหน้าของนางตอนนี้แนบชิดใกล้ใบหน้าของเขาอย่างมาก จนรู้สึกถึงลมหายใจ

“เจ้านี่นะ.. ลืมตาขึ้นมาก็คิดว่าข้าจะทำอะไรเช่นนั้นกับเจ้าอีกแล้วหรือ หากข้าจะทำข้าคงไม่ปล่อยให้เจ้าได้นอนสบายอยู่เช่นนี้หรอกนะ เมื่อคืนเจ้าเอาแต่ละเมอจนข้าต้องโอบกอดเจ้าไว้เจ้าถึงสงบได้ เจ้าน่าจะขอบใจข้ามากกว่านะ” หลี่มี่ยันตัวขึ้นเทียนหลันเซ่อลุกขึ้นบิดแขนข้างไปมาเพราะเหน็บชาจากที่หลี่มี่นอนหนุนมาทั้งคืน

“เป็นเช่นนั้นหรอกหรือเจ้าคะ แฮะ ๆ ” หลี่มี่ยิ้มอย่างเขินอายที่คิดไปไกล

“ก็ต้องเป็นเช่นนั้นนะสิ เจ้าต้องตอบแทนข้าแล้วล่ะ” เขายิ้มออกมาอย่างมีเลศนัยขยับกายเข้ามาใกล้หลี่มี่กำลังจะหอมแก้มของนางเพื่อเป็นการตอบแทนแต่แล้วประตูห้องกลับถูกเปิดมาจากด้านนอก

ปัง! .” ทั้งสองหันไปมองตามเสียงหลี่มี่หัวใจเต้นแรงคิดว่าจะถูกเทียนหลันเซ่อหอมแก้มเสียแล้ว เมื่อมีคนเข้ามานางรีบเดินลงจากเตียงอย่างรวดเร็ว

“ท่านแม่ มาที่นี่แต่เช้ามีเรื่องอันใดหรือเจ้าคะ?” หลี่มี่มองผู้มาเยือนเห็นฟางเหนียงที่ยืนจ้องนางอย่างไม่สบอารมณ์เมื่อเห็นสภาพอาภรณ์ที่ไม่เรียบร้อย

“เจ้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเถิดข้าจะรอเจ้าอยู่ที่ห้องโถง ข้าคิดว่าเจ้าบาดเจ็บหนักเสียอีกถึงได้มาดู ไม่คิดเลยว่าการบาดเจ็บของเจ้าเพราะอยากอ้อนท่านแม่ทัพให้อยู่ข้าง ๆ เจ้าเท่านั้น” สายตาเพ่งจ้องมองราวกับต่อว่าหลี่มี่กำมือแน่นจะตอบโต้ฟางเหนียงแต่ทว่าเสียงของท่านแม่ทัพได้ดังขึ้นมาเสียก่อน

“ท่านแม่กล่าวเกินไปแล้วขอรับ นางได้รับบาดเจ็บจริง ๆ อีกอย่างนางมิได้เสแสร้งการที่ข้ามานอนที่ห้องนี้กับฮูหยินของข้าก็สมควรแล้วมิใช่หรือขอรับ” เทียนหลันเซ่อเปิดผ้าม่านออกมาบอกกล่าวท่านแม่ของตน ฟางเหนียงคิดว่าเทียนหลันเซ่อออกจากห้องไปแล้ว เมื่อรู้ว่าบุตรชายยังอยู่ที่นี่ใบหน้าของนางเริ่มซีดเซียว

"เจ้ายังอยู่ที่นี่หรือ ข้าได้ยินมาว่าทางด้านเหนือของเมืองที่เกิดเรื่อง ไม่คิดเลยว่าเยิ่นเม่ยเม่ยจะกักตัวเจ้าไว้ไม่ให้ไปปฏิบัติหน้าที่ ช่างทำหน้าที่ได้บกพร่องนัก"

"ท่านแม่! ข้าบอกแล้วอย่างไรว่านางมิได้ทำเช่นนั้น ฮูหยินเจ้าไปเปลี่ยนอาภรณ์เถิด ข้ากับท่านแม่จะไปรอที่ห้องโถง " เทียนหลันเซ่อตอบกลับฟางเหนียงเสียงดังทำเอานางหน้าชา ไม่คิดเลยว่าบุตรชายจะออกรับให้สตรีเช่นนางกล้าขึ้นเสียงกับตนที่เป็นมารดา

"เจ้าค่ะ ท่านแม่ทัพ" หลี่มี่รีบไปที่ห้องแต่งกายเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าตัวใหม่

'มาทำไมแต่เช้านะ สงสัยเรื่องที่ฉันออดอ้อนท่านแม่ทัพมื้อคืนนี้ถูกไป๋ลู่ไปแจ้งต่อฟางเหนียง ช่างทำงานดีเสียนี่ไหนบอกว่าจะจงรักภักดีกับฉันยังไง เหอะเหมือนนิยายไม่ผิดเพี้ยน ' นางคิดในใจพลางเปลี่ยนเสื้อผ้าไปด้วย

"ว่าแต่ท่านแม่มานี่ที่แต่เช้าตรู่เช่นนี้มีเรื่องอันใดหรือขอรับ" เทียนหลันเซ่อพาท่านแม่มานั่งที่ห้องโถงเพื่อรอหลี่มี่ได้เอ่ยถามขึ้นมา

"ข้าได้ยินว่านางได้รับบาดเจ็บจึงมาดูอาการเท่านั้น หากนางได้รับบาดเจ็บมากข้าจะได้ให้สาวใช้ไปซื้อยาสมุนไพรมาต้มให้นางกิน เจ้าคงไม่คิดว่าข้ามาหาเรื่องนางหรอกใช่มั้ย? "

"หากท่านแม่คิดเช่นนั้นข้าเองก็ดีใจที่ท่านแม่เมตตานาง ข้าต้องกลับไปที่ห้อง ท่านแม่รอพบนางอีกไม่นานเยิ่นเม่ยเม่ยคงออกมา"

"ไปเถิด เจ้ามีเรื่องที่จะต้องจัดการมากมายเรื่องในเรือนให้เป็นหน้าที่ข้าเอง " ฟางเหนียงยิ้มให้บุตรชายก่อนที่เขาจะเดินออกไป ไม่นานอย่างที่เทียนหลันเซ่อกล่าว หลี่มี่เดินตรงมาหาฟางเหนียงที่ห้องโถง

"ขออภัยท่านแม่ที่ข้าทำให้ท่านต้องรอนาน ท่านแม่มาหาข้าแต่เช้าคงยังไม่ได้กินอาหารเช้าใช่มั้ยเจ้าคะ? เช่นนั้นข้าจะให้สาวใช้ไปยกสำรับมาที่นี่ดีไม่เจ้าคะ เอ๊ะว่าแต่ท่านแม่ทัพไปทางใดแล้วเจ้าคะ" หลี่มี่กวาดตามองทั่วห้องไม่พบเทียนหลันเซ่อจึงเอ่ยถามอย่างสงสัย

"เทียนหลันเซ่อเป็นท่านแม่ทัพใหญ่หน้าที่ของเขามีล้นมือ ไม่ใช่มีหน้าที่คอยอยู่ดูแลเจ้าตลอดหรอกนะ ทำไมกลัวหรือไงที่ไม่มีบุตรชายของข้าคอยหนุนหลัง" น้ำเสียงของฟางเหนียงเปลี่ยนไปเมื่ออยู่กับนางสองต่อสอง

“ข้าจะกลัวทำไมกันเจ้าคะ ท่านแม่เป็นท่านแม่ที่ดีของท่านแม่ทัพไม่ต่างจากท่านแม่ของข้า เหตุใดข้าต้องกลัวกันเช่นนั้นข้าจะไปตามสาวใช้ให้ไปยกสำรับมาสำหรับสองคนนะเจ้าคะ”

“ไม่ต้องข้ายังไม่หิว แล้วบาดแผลของเจ้าเป็นเช่นไรบ้าง”

“ดีขึ้นแล้วเจ้าค่ะ ขอบคุณท่านแม่ที่เป็นห่วงข้า”

“ข้าไม่ได้เป็นห่วงเจ้าแต่เป็นห่วงเทียนหลันเซ่อต่างหากที่ต้องคอยมาดูแลเจ้าเช่นนี้ ข้ามีเรื่องที่จะแจ้งให้เจ้ารับรู้ในตอนนี้มีเพียงแค่สองเราข้าเองไม่อยากใส่ปิดบังความรู้สึกที่มีต่อเจ้า” หลี่มี่มองใบหน้าของสตรีที่มีอายุพร้อมคิดในใจนี่คงจะเริ่มแล้วสินะ

“ท่านแม่มีเรื่องอันใดหรือเจ้าคะ”

"ข้าจะให้เจ้าอยู่ที่นี่อีกแค่หนึ่งฤดู เจ้าจงออกจากเรือนนี้ไปด้วยดีซะหากไม่อยากเจ็บตัว"

"เหตุใดท่านแม่ถึงเอ่ยออกมาเช่นนั้น ข้าทำเรื่องใดผิดหรือเจ้าคะท่านแม่โปรดแจ้งข้อผิดพลาดให้ข้าได้รู้ด้วยเถิด" แม้หลี่มี่จะรู้อยู่แก่ใจแต่ก็แสร้งเอ่ยถาม

"ข้อผิดพลาดของเจ้าคือเจ้าเป็นสตรีที่ไม่มีฐานะเพรียบพร้อมคู่ควรกับท่านแม่ทัพอย่างไรล่ะ " ฟางเหนียงเอ่ยพลางชำเรืองหางตามองหลี่มี่อย่างดูถูก

"ท่านแม่... ข้าจะไปอยู่ที่ใดได้ในใต้หล้านี้ข้าไม่รู้จักผู้ใดเลย ทั้งชีวิตของข้ามีเพียงท่านพ่อเท่านั้น แต่ทว่าตอนนี้ท่านพ่อของข้าไม่อยู่บนโลกใบนี้ท่านแม่โปรดเมตตาข้าด้วย" หลี่มี่เอ่ยน้ำเสียงสั่นเครือ

"นี่เจ้าจะทวงบุญคุณอย่างนั้นหรือ เจ้าจะบอกว่าที่เจ้าต้องมาอยู่เช่นนี้เพราะพ่อของเจ้าตายแทนท่านแม่ทัพเช่นนั้นใช่หรือไม่ เหอะ! เจ้าไม่ต่างจากสตรีแพศยาเลยจริง ๆ หากไม่มีที่อยู่เจ้าก็ไปอยู่ที่หอคณิกาสิข้าจะฝากฟังให้" ถ้อยคำดูถูกเหยียดหยามสายตาไม่แยแสความเป็นคนของฟางเหนียงทำให้หลี่มี่แทบทนไม่ไหว กำหมัดแน่นแววตาเต็มไปด้วยความโกรธหากนางจะเอาเช่นนี้หลี่มี่จะจัดให้นางเอง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นฮูหยินท่านแม่ทัพลูกติด   ตอนพิเศษ บทที่ 4 เขาคือคนที่ฉันคิดถึงมาตลอด

    บทที่ 4 เขาคือคนที่ฉันคิดถึงมาตลอดไม่นานนักเซ่อเหลียนได้กลับมาพร้อมยาที่เขาตั้งใจไปซื้อมาให้เธอเขาเดินเข้ามาในห้องของหลี่มี่ได้ยินเสียงน้ำที่หยดลงพื้น เขาจึงเดินไปที่ห้องครัวของเธอเปิดตู้เย็นเพื่อดูของจะทำอาหารให้เธอได้กินเช้านี่แต่กลับไม่เห็นอาหารที่มีประโยชน์เลยมีเพียงอาหารสำเร็จรูปเท่านั้น"เธอใช้ชีวิตอย่างไรเนี้ยะ! ทำไมไม่มีอะไรกินเลย” เขาบ่นพึมพำอยู่หน้าตู้ก่อนจะคว้าอาหารสำเร็จรูปมาต้มให้เธอได้กินก่อนจะกินยาหลี่มี่อาบน้ำเสร็จเธอเดินออกมาจากห้องน้ำผมยังไม่แห้งดีกลิ่นสบู่อ่อน ๆ ออกมาจากเธอทำให้เขาหันไปมองเพราะตอนนี้เธอมายืนดูเขาอยู่“ทำอะไรเหรอ”“หาอะไรทำให้คุณกินนะสิ ทำไมไม่มีอะไรเลยนอกจากอาหารสำเร็จรูปแบบนี้”“เฮ้อ! นายไม่ต้องสนใจการอยู่การกินของฉันหรอกนะ มานี่ฉันมีเรื่องจะพูดกับนายมากมายเรื่องกินเอาไว้ก่อน” เธอดึงมือของเขาออกจากห้องครัวไปนั่งที่โซฟาเพื่อตกลงเรื่องที่เกิดขึ้น“เรื่องที่จะพูดคงไม่คิดผลักไสไล่ส่งผมหรอกนะ รู้มั้ยว่าคุณคือคนที่พรากความบริสุทธิ์ของผมไป” เซ่อเหลียนกลัวว่าเธอจะไม่ให้เขาได้เจอเธออีกเลยเอ่ยออกมาแบบนี้“เฮ้อ! ฉันไม่เข้าใจนายเลย เอาอย่างนี้หากเรื่องที่เก

  • ทะลุมิติมาเป็นฮูหยินท่านแม่ทัพลูกติด   ตอนพิเศษ บทที่ 3 ฉันจะรับผิดชอบเอง

    บทที่ 3 ฉันจะรับผิดชอบเองเมื่อพาเธอเข้านอนเขาได้จัดแจงนำกระเป๋าของเธอวางไว้บนโต๊ะหัวเตียง สายตาของเขาจ้องมองรอบ ๆ ห้องของหลี่มี่เห็นรูปที่เธอสั่งวาดช่างเหมือนเขาเหลือเกิน ยิ่งทำให้เขาดีใจที่เธอไม่เคยลืมเขาแม้แต่น้อย“ดีใจจังเลยที่เธอไม่เคยลืมฉัน ...คงเสียใจมากสินะที่กลับมาทั้งอย่างนี้ เธอเป็นคนเปลี่ยนแปลงทุกอย่างในชีวิตของฉัน ขอบคุณนะหลี่มี่” เขาหันมามองเธอที่หลับอยู่บนเตียงอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว ก่อนที่เขาจะกลับบ้านของตัวเองได้เข้าไปนั่งข้างเธอยื่นมือไปลูบหน้าของเธอย่างอ่อนโยน“ดูสิไม่ว่าตอนนั้นหรือตอนนี้เธอยังคงงดงามเช่นเดิม” เขาลูบหน้าของเธอก่อนจะลุกเพื่อกลับบ้านแต่แล้วหลี่มี่กลับจับมือของเขาเอาไว้แน่นละเมอออกมาเสียงแผ่วเบา“อย่าไปนะ อย่าจากฉันไป อึก อึก ฉันเหงาเหงามากเหลือเกิน” แม้ว่าเธอจะไม่ลืมตาแต่น้ำตาของเธอไหลรินออกมาอย่างช้า ๆ“เธอใช้ชีวิตโดยที่ไม่มีใครมาตลอดอย่างนั้นเหรอ แล้วอย่างนี้ฉันจะหักห้ามใจตัวเองไม่ให้อยากโอบกอดเธอได้อย่างไร” เซ่อเหลียนใช้มืออีกข้างเช็ดหยาดน้ำตาให้หลี่มี่ส่วนมืออีกข้างของเขาตอนนี้ถูกเธอกอดเอาไว้แน่น เขาพยายามแกะมือของเธอออกอย่างแผ่วเบากลัวว่าเธอจะตื

  • ทะลุมิติมาเป็นฮูหยินท่านแม่ทัพลูกติด   ตอนพิเศษ บทที่ 2 เจอกันอีกครั้ง

    บทที่ 2 เจอกันอีกครั้งหลังจากที่เขาได้ขึ้นชื่อว่าเป็นนักเขียนจึงได้รู้ว่าอีกไม่กี่วันจะมีการรับรางวัลมีรายชื่อของนักเขียนหลี่มี่ที่เขาต้องการพบ เซ่อเหลียนจึงตั้งใจจะไปพบเธอให้ได้ เขาเฝ้ารอการพบเจอจนกระทั่งได้เห็นเธอขึ้นไปบนเวทีรับรางวัล ใบหน้าของเธอช่างเหมือนเยิ่นเม่ยเม่ยอย่างไรอย่างนั้น ตอนที่เธอพูดถึงหนังสือเรื่องนี้ที่ทำให้เธอได้รับรางวัลในครั้งนี้ เขายิ่งมั่นใจว่าเธอคือคนที่เขาตามหา"นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ฉันรักมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวละครทุกเหตุการณ์ที่ฉันบรรจงแต่งออกมาแต่ละบทความฉันใช้ความรู้สึกของฉันเขียนไปด้วย เมื่อตัวละครมีความสุขฉันก็มีความสุขหากเมื่อไหร่ที่ตัวละครฉันเสียใจฉันเองก็เสียใจไม่น้อยร้องไห้จนไม่เป็นอันทำอะไร ฉันไม่คิดเลยว่านิยายของฉันเรื่องนี้จะเป็นที่ยอมรับของทุกคน ขอบคุณนะคะสำหรับรางวัลนี้และขอบคุณที่ให้โอกาสนักเขียนตัวน้อยได้มาโลดแล่นในวงการนี้ฉันขอสัญญาจะตั้งใจเขียนนิยายออกมาให้ดีที่สุด ขอบคุณค่ะ" รอยยิ้มแววตาที่เขาคุ้นเคยแม้กระทั่งน้ำเสียงของเธอเขาจดจำได้ทุกอย่าง น้ำตาแห่งความดีใจได้หลั่งไหลออกมา เขาที่นั่งอยู่ด้านหลังสุดรีบเช็ดน้ำตาหัวใจของเขาเต้นแรงตึกตั

  • ทะลุมิติมาเป็นฮูหยินท่านแม่ทัพลูกติด   ตอนพิเศษ บทที่ 1 ทะลุมิติ

    บทที่ 1 ทะลุมิติ"เฮือก!!! " ชายนอนอยู่บนเตียงลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างงงวย มองซ้ายมองขวาต้องตกใจเข้าไปใหญ่ สถานที่ที่ไม่คุ้นเคยช่างแปลกตายิ่งนัก แม้แต่เตียงที่นอนอยู่ก็มิใช่เตียงที่เขานอนในทุกวัน"ที่นี่ที่ใดกัน!! หรือว่าข้าถูกศัตรูลักพาตัวมา ไม่ได้การแล้วข้าต้องรีบหาทางออกไปจากที่นี่ต้องหาผู้บงการในครั้งนี้เพื่อจัดการให้สิ้นซาก" เทียนหลันเซ่อลุกขึ้นจากเตียงมองพนังสีขาวเป็นห้องสี่เหลี่ยมเดินสำรวจก่อนจะเปิดประตูค่อย ๆ ย่องเพื่อหลบหนีเขาเดินออกมาต้องตกใจมากกว่าเดิม ด้านนอกมีสิ่งแปลกประหลาดมากกมาย เขามองซ้ายมองขวาไม่พบเจอผู้คนเขามองเห็นโต๊ะที่ไม่เคยเห็นจึงนั่งลงเพื่อครุ่นคิดแต่แล้วเขากลับนั่งทับรีโมททำให้ทวีต่อหน้าได้เปิดขึ้นเสียงดัง ทีวีได้ฉายข่าวเทียนหลันเซ่อไม่เคยเห็นเขาตะโกนออกมาเสียงดังด้วยความตกใจ"นั่นใครกัน!! ออกมามาเดี๋ยวนี้นะ เจ้าเป็นใคร" เขาชี้นิวไปด้านหน้าทีวีพลางกระโดดขึ้นโซฟา จู่ ๆ มีหญิงชราเดินเข้ามาในมือถือทัพทีใบหน้าคิ้วขมวด"อะไรของแกกันห่ะ!!! ตื่นมาโวยวายเช่นนี้ได้อย่างไร เวรกกรรมอะไรของฉันมีลูกโตขนาดนี้แล้วแต่ยังต้องคอยหาเลี้ยงอีก " เทียนหลันเซ่อคิ้วขมวดอย่างสงสัยสตรีด้าน

  • ทะลุมิติมาเป็นฮูหยินท่านแม่ทัพลูกติด   บทที่ 55 นักเขียนหน้าใหม่

    บทที่ 55 นักเขียนหน้าใหม่หลี่มี่ได้ถูกรับเชิญให้ไปรับรางวัลนักเขียนหน้าใหม่ที่ประสบความสำเร็จในงานเลี้ยงฉลองนักเขียนดัง ๆ ระดับแถวหน้าของประเทศ เธอแต่งหน้าอยู่ที่กระจกแม้เวลาผ่านไปหนึ่งปีแต่เธอยังคงคิดถึงเทียนหลันเซ่อพระเอกนิยายตัวเองไม่จางหายเขาไม่เคยหายไปจากใจของเธอเลย แม้กระทั่งน้ำเสียงหรือใบหน้าเธอยังคงจำได้ดีแต่ทว่าตอนนี้เธอไม่ได้ร้องไห้เหมือนที่ผ่านมาเธอกลับยิ้มออกมาอย่างสุขใจ "เทียนหลันเซ่อปานนี้ท่านจะเป็นอย่างไรนะ รู้หรือไม่ว่าฉันคิดถึง วันนี้เป็นวันที่ฉันประสบความสำเร็จถ้ามีท่านอยู่เคียงข้างคงจะดี เอ๊ะ! แต่เดี๋ยวสิยังไงทุกวันนี้ฉันก็มีเทียนหลันเซ่ออยู่ข้างกายอยู่แล้ว วันนี้เราไปรับรางวัลด้วยกันนะ" หลี่มี่หยิบหนังสือของตัวเองพร้อมถือออกจากห้องไปพร้อม ๆ กัน ฝั่งด้านเทียนหลันเซ่อหลังจากที่เขากลับมาจากทะเลวันนั้น เยิ่นเม่ยเม่ยดูอ่อนโยนมากกว่าเดิมวาจานิสัยไม่เหมือนเดิมแถมยังเหมือนสตรีที่สูงส่งแต่ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีแต่เหตุใดความรู้สึกของเขาเสมือนว่ามีบางสิ่งบางอย่างขาดหายไป วันนี้เขามายืนจ้องมองดวงจันทร์ที่ลอยอยู่บนฟากฟ้าลมเย็นกระทบกาย จู่ ๆ รอยยิ้มใบหน้าที่เขาคิดถึงก็ปรากฎข

  • ทะลุมิติมาเป็นฮูหยินท่านแม่ทัพลูกติด   บทที่ 54  ลาจากด้วยความรัก

    บทที่ 54 ลาจากด้วยความรักเทียนหลันเซ่อจ้องมองสตรีตรงหน้าอย่างสุขใจ ขอบคุณสวรรค์ที่ส่งเขาย้อนเวลามาอีกครั้ง หากเป็นเช่นดั่งอดีตเขาก็คงไม่มีทางรู้ว่ามีสตรีที่เขารักและรักเขามาเพียงใด นางเข้ามาเติมเต็มทุกอย่างในชีวิตของเขาจริง ๆ หลี่มี่วางมือของเทียนหลันเซ่อพร้อมหันหลังไปมองพลุที่ยังคงถูกจุดอีกหลายดอกบนท้องฟ้า น้ำทะเลไหลมาสัมผัสที่เท้าจนหลี่มี่ต้องก้มมองดูแต่แล้วหัวใจของนางต้องหล่นวูบเมื่อบัดนี้ไม่ใช่แค่เท้าหรือขาของนางที่เลือนรางตอนนี้บนตัวของนางก็เริ่มเลือนรางขึ้นมาเรื่อย ๆ นางไม่เข้าใจทำไมคนอื่นไม่เห็นเหมือนนางหรือมีเพียงแค่นางผู้เดียวที่เห็นความเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ นางไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นแค่คิดนางก็ใจหายรีบหันไปมองหน้าของเทียนหลันเซ่ออย่างลึกซึ้งอีกครั้ง "ท่านพี่เจ้าคะ วันนี้ข้าอยากให้ท่านสัมผัสตัวข้าช่วยมอบจูบที่ลึกซึ้งให้ข้าได้หรือไม่เจ้าคะ""ได้สิทำไมข้าจะให้เจ้าไม่ได้แค่เพียงจูบ" พูดจบเทียนหลันเซ่อโอบกอดหลี่มี่ก้มลงประทับจูบที่นุ่มนวลหอมหวานแต่ทว่านางกลับรู้สึกเสียใจ เพราะหากเป็นอย่างที่นางคิดนี่จะเป็นจูบสุดท้ายที่นางจะได้รับจากเขา ทั้งสองจูบกันท่ามกลางแสงพลุที่ส่องประ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status