Share

บทที่ 6

last update Last Updated: 2025-06-21 09:33:05

ความจริงแล้วที่กัทลีไม่อยากจะพูดถึงรายละเอียดของเรื่องพวกนี้มาก เพราะไม่ต้องการให้บานปลายไปจนถึงหน้าหนังสือพิมพ์บันเทิง ซึ่งจะไม่ปลอดภัยต่อชื่อเสียงและอาชีพพิเศษที่เธอทำอยู่

แต่พอลองคิดดูอีกที หากว่าเธอตกเป็นข่าวฉาวกับโฮร์มุซเข้าจริงๆ ล่ะ...

คนระดับมหาเศรษฐีที่ทั้งหล่อ ทั้งรวย แถมยังเป็นถึงเจ้าชายผู้สูงศักดิ์อย่างนั้น ต้องพยายามที่จะรักษาภาพพจน์ของตัวเองไม่ให้ถูกใครๆ มองว่าเป็นเพลย์บอยมั่วไม่เลือกอย่างแน่นอน เท่ากับว่าเขาก็จำเป็นต้องกลับมาอาศัยเธอเป็นคู่ควงออกหน้าในระหว่างที่ยังอยู่ในประเทศไทย...

ลองคิดดูสิ ถึงจะเป็นแค่คู่ควงบังหน้าหรือว่านางบำเรอชั่วคราวก็ตาม... แต่อย่างน้อยๆ หญิงสาวก็มีโอกาสกอบโกยเงินทองจากเขาอีก และกระแสข่าวจากสื่อต่างๆ ยังจะดึงงานมาให้เธออีกมากมายมหาศาล แทนที่จะเป็นคู่นอนลับๆ แค่คืนเดียวอย่างในตอนนี้

“โอเคๆ เล่าให้ฟังก็ได้ย่ะ!! เดี๋ยวจะหาว่าคนอย่างฉันตอแหล!!” กัทลีจงใจบอกดังๆ เผื่อว่าคนที่แอบฟังอยู่นอกประตูห้องแต่งตัวจะได้ยินถนัดขึ้น “ตอนแรกฉันก็กะว่าจะขอตัวกลับคอนโดฯ... แต่เจ้าชายท่านขอร้องไม่ให้กลับ ท่านบอกว่าอยากจะใช้เวลาอยู่กับฉันให้นานกว่านี้... เราก็เลยกลับไปนั่งคุยกันที่เพนต์เฮาส์ของท่านแทน...”

“อุ๊ยตายว้ายกรี๊ด!!”

“เล่าต่อสิยะ... แล้วเป็นยังไงอีก... สรุปว่า XL อย่างที่เจ๊กบว่าหรือเปล่า...” หลายเสียงพากันรบเร้าด้วยความรู้สึกตื่นเต้นราวกับเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเอง

“หล่อนรู้จักเพลง Like a Virgin กันไหมล่ะ”

“แหก!!” อมยิ้มช็อกโกแลตพุ่งกระเด็นออกจากปากพร้อมกับเสียงอุทานอย่างลืมตัวของเจ๊กบ หล่อนเป็นคนแรกที่ตีความปริศนาในชื่อเพลงออก

“หมายความว่ายังไงยะ...” หนึ่งในนั้นถามต่อ

“ก็หมายความว่า... ต่อให้พวกหล่อนผ่านผู้ชายมาแล้วร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ ต่อให้เครื่องพังเครื่องทรุดยังไง... ถ้าลองได้มาเจอกับเจ้าชายโฮร์มุซเข้าล่ะก็... หล่อนจะต้องรู้สึกเหมือนกับเพิ่งเคยเสียตัวครั้งแรกยังไงล่ะ เข้าใจหรือยังยะ...”

“ว้าย!!” นางแบบน้องใหม่สองสามคนยกมือปิดหน้า กรีดร้องออกมาพร้อมกัน

ไม่รอให้เสียงฮือฮาขาดช่วงไป กัทลียกข้อมือตัวเองขึ้นมากำอวด เชิดหน้าทำกระหยิ่มยิ้มย่องด้วยความรู้สึกภาคภูมิใจ... เจ๊กบต้องยกมือขึ้นกุมหน้าอก ร่างอ้วนตันไม่ต่างจากถังน้ำมันขนาดห้าร้อยลิตรทำท่าจะเป็นลมล้มตึง แต่ได้ช่างทำผมเพศเดียวกันที่ยืนอยู่ด้านหลังช่วยยันเอาไว้ได้ทัน

“อกอีแป้นแล่นลึกเข้าตึกแขก... แล้ว... แล้วคุณน้อง มะ...ไม่แหะ เอ๊ย สึกหรอหมดเหรอคะ” ช่างแต่งหน้าสาวรีบถามต่อทันทีที่ได้สติ ดวงตาหยิบหยีๆ ตอนนี้แทบจะถลนออกมานอกเบ้า สมองก็พยายามกลั่นกรองคำบอกเล่าของนางแบบสาวแล้วจินตนาการออกมาเป็นภาพ

“ช่างปะไร... ถึงเวลาก็เอาไปซ่อมสิคะ” หญิงสาวเบ้ปาก ปรายตามองอีกฝ่ายเหมือนไม่ใส่ใจกับสิ่งที่หล่อนถามนัก

“แล้วลีลาล่ะ เริดไหม” โกญามีทีท่าสนใจมากเป็นพิเศษ

กัทลีมองเห็นเพื่อนสาวลูกครึ่งสเปนขยำฝ่ามือตัวเองซ้ำแล้วซ้ำอีกเหมือนคนครั่นเนื้อครั่นตัว เธอก็ต้องกัดฟันดังกรอด รู้สึกเกลียดขี้หน้าอีกฝ่ายขึ้นมาเป็นจริงเป็นจัง เพราะมั่นใจว่าแม่นั่นจะต้องหาวิธีทำทุกอย่างเพื่อกินเดนเธอเป็นแม่นมั่น

นี่ถ้าไม่ติดว่า ‘ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่’ ต่างคนต่างก็รับงานพิเศษคล้ายๆ กันอยู่ล่ะก็... ทั้งคู่คงแสดงความเป็นศัตรูอย่างออกหน้าออกตาไปนานแล้ว

“เริดไม่เริดไม่รู้หรอกนะ เอาเป็นว่าตั้งแต่ห้าทุ่มยันตีสาม หลังฉันไม่ได้ติดพื้นเลยก็แล้วกัน”

“โอ้มายก็อด!!...” เจ๊กบยกมือปาดเหงื่อกาฬที่แตกพลั่กๆ ออกมาบนหน้าผากตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ ใบหน้าอวบอูมซีดเผือดเพราะกำลังคิดภาพตามอย่างต่อเนื่อง

“นัวเนียกันตั้งแต่อยู่ในลิฟต์จนขึ้นไปถึงห้อง คิดดูว่าฉันต้องโหนคอเขาอยู่ตั้งครึ่งชั่วโมงกว่าเขาจะยอมปล่อยลงบนเตียง... คนอะไรก็ไม่รู้ เครื่องแรงอย่างกับหัวสูบรถแข่งฟอร์มูลาวัน ทั้งอึดทั้งถี่ โถมลงมาแต่ละที เสียวสะท้านไปจนถึงสมอง...”

“เฮือก!!” และก่อนที่ใครจะคาดคิด เสียงลมหายใจขาดช่วงอยู่ภายในลำคอหนาเป็นชั้นๆ ก็ดังแทรกขึ้นมากะทันหัน พร้อมๆ กับมวลขนาดเก้าสิบกิโลกรัมที่ทรุดฮวบลงไปอีกครั้ง หากคราวนี้ไม่มีใครรับร่างของหล่อนเอาไว้ได้ทัน

“ว้าย เจ๊กบ!!”

“เจ๊กบตายแล้ว!!”

“ใครโทรตามรถพยาบาลที!!”

ทันใดนั้น ภายในห้องแต่งตัวก็เกิดความโกลาหลขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วน ทุกคนต่างกุลีกุจอช่วยกันปฐมพยาบาลช่างแต่งหน้าสาวเทียมคนละไม้คนละมือ บ้างก็ช่วยพัดวี บ้างก็ถือยาดมไปจ่อจมูกให้ แล้วก็ต้องตกใจ เมื่อเห็นเลือดกำเดาไหลย้อนออกมาจากรูจมูกทั้งสองข้างของเจ๊กบจนเปรอะเปื้อนไปทั้งใบหน้า

เสียงลมหายใจรวยรินของหล่อนทำให้หลายคนเริ่มใจเสีย พยายามถามไถ่อาการ แต่เจ๊กบก็เอาแต่นอนตาค้าง พลางยื่นมืออวบอูมไปทางกัทลีคล้ายต้องการจะพูดอะไรบางอย่างกับเธอเป็นครั้งสุดท้าย

“เจ๊! เจ๊อย่าเพิ่งตายนะ! อดทนเอาไว้ก่อนนะยะ!” ช่างทำผมคู่ใจทิ้งตัวลงข้างๆ ดึงมือหล่อนมาวางแนบอกตัวเองทั้งน้ำตานองหน้า

“อีปั๊ม... กู... กูยังไม่เป็นอะไร... แค่ความดันขึ้น...” เจ๊กบบอกเสียงแผ่ว เหลือบตามองพลางบีบมือช่างทำผมรุ่นน้องหนักๆ ก่อนจะหันไปพูดกับกัทลีอย่างยากลำบาก “ยะ..อย่าเพิ่งหยุดเล่าค่ะ คุณน้อง... เล่าให้เจ๊ฟังต่อ...”

ได้ยินเพียงเท่านั้น เจ้าของชื่อ ’อีปั๊ม’ ก็สลัดมืออวบอูมทิ้งลงกับพื้นพร้อมกับสบถออกมาดังลั่น

“โธ่เอ๊ย... อีแก่!!”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทาสบำเรอสุลต่าน   บทที่ 91

    หลังจากงานเลี้ยงดำเนินไปจนถึงก่อนเวลาเลิก องค์สุลต่านฮาเร็บ อาลี บิน ฮามัด อัล อลาวี ก็ถือโอกาสขึ้นไปเป็นประธานบนเวที เรียกเจ้าบ่าวเจ้าสาวให้ไปปรากฏตัวพร้อมกันต่อหน้าแขกในงาน“เราในฐานะของคนเป็นพ่อต้องขอขอบใจสหายและผู้มีเกียรติทุกท่านที่มาร่วมแสดงความยินดีกับลูกชายเรา วันนี้นับว่าโฮร์มุซได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่อย่างเต็มตัวแล้ว นั่นก็หมายความว่าเขาตระหนักถึงความสำคัญและหน้าที่ของตัวเองในฐานะหัวหน้าครอบครัว พร้อมที่จะดูแลรับผิดชอบคนในครอบครัวต่อไปภายหน้า...” องค์สุลต่านหันไปมองบุตรชาย“ประเทศชาติก็เปรียบเสมือนครอบครัวใหญ่ การดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนชาวจาเบลุซนั้น ต้องอาศัยความรับผิดชอบเป็นอย่างยิ่ง... ซึ่งในเวลานี้เรามั่นใจแล้วว่าโฮร์มุซพร้อมที่จะทำหน้าที่แทนเรา ดังนั้นเราจึงถือโอกาสอันดีในคืนนี้ประกาศคืนตำแหน่งรัชทายาทผู้สืบทอดบัลลังก์ให้แก่ เจ้าชายโฮร์มุซ อัล อลาวี และมอบหมายให้ เจ้าชายมาตราห์ อาลี เป็นผู้ช่วยเหลือลูกของเราดูแลประเทศชาติต่อไปในอนาคต...”สิ้นคำประกาศขององค์สุลต่าน ทุกคนในห้องจัดเลี้ยงต่างก็พากันโห่ร้องด้วยความยินดี ไม่เว้นแม้ชาวไทยที่ร่วมอยู่ในงานเลี้ยงในฐานะแขกและส

  • ทาสบำเรอสุลต่าน   บทที่ 90

    พิธีมงคลสมรสตามประเพณีของจาเบลุซไม่แตกต่างอะไรจากประเทศอื่นๆ ในดินแดนอาหรับมากนัก... นั่นคือ... ประกอบไปด้วยพิธีการทั้งสิ้นจำนวนเจ็ดวัน เริ่มตั้งแต่พิธีสู่ขอในวันแรกตามหลักศาสนาแล้ว ก่อนแต่งงานเจ้าบ่าวและเจ้าสาวจะมีความสัมพันธ์กันไม่ได้เด็ดขาด หากไม่ได้รับการยินยอมจากครอบครัวของทั้งสองฝ่าย ฝ่ายชายจะต้องนำครอบครัวไปพูดคุยสู่ขอกับครอบครัวของฝ่ายหญิงที่บ้าน แต่เนื่องจากอรนลินและมารดาไม่ใช่ชาวจาเบลุซ งานสู่ขอจึงถูกจัดขึ้นอย่างไม่เป็นทางการภายในพระราชวัง จานาห์ อัล มาลัก นั่นเอง โดยมี องค์สุลต่านฮาเร็บ อาลี และองค์สุลตาน่าโซเฟีย เป็นผู้ดำเนินพิธีสู่ขอกับอินทิราท่ามกลางเชื้อพระวงศ์จำนวนหนึ่งวันที่สองเป็นพิธีดูตัว ซึ่งตามปกติจะเป็นโอกาสที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวจะได้พบหน้ากันเป็นครั้งแรก จึงทำเพียงพอเป็นพิธี ส่วนวันที่สามซึ่งเป็นวันหมั้น เจ้าบ่าวเจ้าสาวจะทำการแลกแหวนหมั้นของแต่ละฝ่าย โดยสวมใส่มิชลาห์และอบายาสีที่เข้าคู่กัน เพื่อเป็นนิมิตมงคลบอกถึงความเหมาะสมกันวันที่สี่ พิธีให้สัตย์ปฏิญาณ หรือพิธีแต่งงานอย่างเป็นทางการ โดยทั่วไปจะจัดในมัสยิด หากเจ้าบ่าวเป็นเชื้อพระวงศ์ผู้สูงศักดิ์ ผู้แทนศาสนาจึงถ

  • ทาสบำเรอสุลต่าน   บทที่ 89

    กำหนดการพิธีแต่งงานระหว่างซินเดอเรลลาสาวจากประเทศไทยกับเจ้าชายนักธุรกิจใหญ่แห่งอาหรับกลายเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วทั้งโลก และก่อนที่บรรดาสื่อมวลชนจากทุกแขนงจะพากันตามมารบกวนชีวิตอันสงบสุขของคนรัก โฮร์มุซก็ตัดสินใจพาเธอกับผู้เป็นแม่บินกลับไปเตรียมการที่ประเทศของเขาล่วงหน้าเกือบสองสัปดาห์แม้ว่าอินทิราจะค่อนข้างประหม่าและอึดอัดใจกับชีวิตในพระราชวัง จานาห์ อัล มาลัก พอสมควร แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอต้องตื่นตาตื่นใจไปกับทุกๆ สิ่งที่ได้สัมผัส รวมถึงอดที่จะกังวลไม่ได้กับขนบธรรมเนียมและวิถีชีวิตแบบใหม่ที่เธอเองมีส่วนผลักดันให้ลูกสาวเป็นคนเลือกในช่วงแรกๆ ที่ได้กลับมาพำนักในปราสาทหินทรายสีชมพู อรนลินรู้สึกกดดันเป็นอย่างมาก เมื่อต้องถูกคนครึ่งประเทศจับจ้องด้วยสายตาคับข้องใจและไม่เห็นด้วย ว่าเหตุใดเจ้าชายรัชทายาทแห่งรัฐสุลต่าน บาห์ลา จาเบลุซ จึงเลือกผู้หญิงต่างชาตินอกศาสนามาเป็นคู่ชีวิต แต่ด้วยกำลังใจจากผู้ชายที่เธอรักรวมถึงท่าทีของสุลต่านและสุลตาน่าที่วางตนเป็นผู้สนับสนุนอยู่ห่างๆ แล้ว ไม่นานหญิงสาวก็ทำใจได้อรนลินต้องเข้าพิธีกับยัลซูผู้เผยแผ่ เปลี่ยนมาถือศาสนาอิสลาม เปลี่ยนลำดับความรักและความเคารพบ

  • ทาสบำเรอสุลต่าน   บทที่ 88

    “ต๊าย... ทีอย่างนี้ล่ะทำหวง คนอะไร้...”“ที่จริงลินเองก็ไม่สะดวกหรอกค่ะ พี่ปุ๊กกี้ก็รู้ว่าตอนนี้ลิน...” ก้มลงมองหน้าท้องที่แทบจะยังไม่ขยายตัวให้เห็น มือของเธอก็ลูบคลำเบาๆ ไปด้วยอย่างรักใคร่ “ลินคงไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้คุณชายพิษณุไม่ได้หรอกค่ะ อายเขาตายเลย...”“เออ จริงสิ... ตั้งแต่มีข่าวเรื่องน้องสาวฆ่าตัวตาย คุณชายพิษณุก็หายเงียบไปเลยนะ... เดี๋ยวนี้ไม่เห็นออกงานสังคมที่ไหนบ้างเลย...”“จริงด้วย แล้วคุณหญิงรัตน์ล่ะ ออกจากโรงพยาบาลแล้วก็ไม่ได้ข่าวอีกเลยเหมือนกัน...” ใครคนหนึ่งถามขึ้น“เห็นพี่ชัยรัตน์บอกอยู่เหมือนกันว่าหนีไปรักษาสภาพจิตใจที่เมืองนอกนะ อยู่เมืองไทยก็คงอายคนนั่นแหละ...” หัวหน้าฝ่ายคอสตูมเป็นคนตอบ “แต่ครั้งนี้เป็นงานแต่งของเพื่อนสนิท คุณชายพิษณุต้องไปด้วยแน่ๆ อาจจะได้เจอคุณหญิงรัตน์ในงานด้วย ใครจะไปรู้...”“จะว่าไปที่ผ่านมาคุณชายพิษณุก็ไม่เคยมีข่าวคาวกับผู้หญิงซักคนนะ ดีไม่ดีจะเป็นเก้งเอาหรือเปล่ายะ” ปกรณ์ยกมือทาบอกกระดกปลายนิ้วก้อย รำพึงรำพันกับตัวเองในลำคอ “ผู้ชายอะไรหน้าว้านหวาน ถูกสเปกอีปุ๊กกี้สุดฤทธิ์... สาธุ... ไม่ใช่เก้งก็เป็นกวางทีเถอะ งานนี้แม่จะได้ลุ้นลับตับแตกกับเ

  • ทาสบำเรอสุลต่าน   บทที่ 87

    สามเดือนต่อมา... หลังจากบรรดาผู้คนในวงการนางแบบต่างพากันช็อกกับข่าวอุบัติเหตุรถคว่ำของกัทลี... ชื่อของ เกรซ กัทลี อดีตนางแบบชื่อดังระดับประเทศก็ค่อยๆ เลือนหายไปอย่างรวดเร็วจนไม่มีใครจดจำได้อีก...นับว่าโชคดีที่ครั้งนั้นหญิงสาวไม่ถึงกับเสียชีวิต เนื่องจากคนของโฮร์มุซช่วยนำเธอส่งโรงพยาบาลได้ทันท่วงที ทว่าใบหน้าของอดีตนางแบบสาวก็ถูกแรงกระแทกทำให้เป็นบาดแผลฉกรรจ์จนถึงกับเสียโฉม ที่หนักที่สุดก็คือขาซึ่งหักทั้งสองข้าง แม้จะรักษาจนหายขาดแล้ว ก็ยังต้องเดินกะโผลกกะเผลกอย่างคนพิการไปตลอดชีวิตสภาพที่ต้องนอนมีผ้าพันแผลและเข้าเฝือกแทบทั้งตัวเป็นเวลานานนับเดือน ทำให้อรนลินและมารดารู้สึกเสียใจกับเธอ และตกลงใจที่จะอโหสิกรรมให้ ไม่ดำเนินคดีความหรือเอาเรื่องใดๆ อีกกลาร์มัวร์ ไดมอนด์ จำเป็นต้องเปลี่ยนตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์คนไหม่ ถึงจะยังไม่ได้มีการทำสัญญาว่าจ้างกับกัทลีตั้งแต่ตอนที่วางตัวเธอเอาไว้ แต่หม่อมราชวงศ์พิษณุนเรศวร์ โขมพัสตร์ ก็ได้มอบเงินชดเชยจำนวนหนึ่งให้กับเธอเพื่อเป็นกีแสดงความเห็นใจ หากเงินหลักล้านและเงินเก็บอีกหลายแสนที่มีในบัญชีของหญิงสาว หลังจากการรักษาตัวแล้ว ก็มีอันต้องอันตรธานไปอย่างร

  • ทาสบำเรอสุลต่าน   บทที่ 86

    ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะได้พูดอะไรต่อ ประตูห้องพักผู้ป่วยพิเศษก็เปิดออก เนื่องจากปกรณ์และอินทิราที่ได้ยินเสียงโต้เถียงกันแว่วออกไปถึงด้านนอก รู้ว่าผู้ป่วยได้สติแล้วก็รีบเข้ามาขัดตาทัพเสียก่อน“ไอ้ลิน... ฟื้นแล้วหรือลูก...”“ยัยลิน... เจ๊กำลังเป็นห่วงเลยเชียว...”มองเห็นสีหน้าและน้ำตาของลูกสาว คนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมานานกว่าก็พอจะคาดเดาเรื่องระหว่างหนุ่มสาวสองคนนี้ได้หลายส่วน เธอจึงกระซิบให้ปกรณ์ทำหน้าที่ล่าม เชิญเจ้าชายหนุ่มออกไปสงบสติอารมณ์หน้าห้องก่อน ส่วนเธอเองก็เห็นทีจะต้องทำตัวเป็นท้าวมาลีวราชว่าความให้ทั้งคู่เสียแล้วมองลูกเขยโดยพฤตินัยเดินหงุดหงิดออกไปพร้อมกับรุ่นพี่ใจแหววของลูกสาวก็นึกเวทนา ความจริงอินทิราไม่อยากให้อรนลินไปพัวพันกับคนระดับนั้นหรอก แต่สายตาของเธอยังไม่ถึงกับฝ้าฟาง... ถ้าหากจะมีใครสักคนที่ดวงตามืดบอด ก็คงไม่แคล้วเป็นลูกสาวของเธอนั่นแหละ...“มีเรื่องอะไรกัน แกเล่าให้แม่ฟังซิ ไอ้ลิน...”“ไม่มีอะไรหรอกจ้ะแม่...” หญิงสาวไม่กล้าสู้สายตา“แกทำให้แม่เสียใจมากนะลิน... จนป่านนี้แล้วยังคิดจะปิดแม่อีกหรือไง... แกได้เสียกับเขาแล้ว แล้วตอนนี้แกก็ท้องลูกของเขาอยู่ใช่ไหม...” เสียง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status