หน้าหลัก / โรแมนติก / ทาสสวาท คนเลี้ยงม้า / บทส่งท้าย ทาสสวาท ปีศาจราคะ (Part 2/2)

แชร์

บทส่งท้าย ทาสสวาท ปีศาจราคะ (Part 2/2)

ผู้เขียน: 0I0VIII
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-08-22 17:26:53

“รอให้ข้าหมดสนุก หรือว่ารูสวรรค์ของเจ้ามิอาจสร้างความสุขให้ข้าได้ ถึงเมื่อนั้นข้าจึงจะรับดวงวิญญาณของเจ้า”

“เจ้าจะได้ไปอยู่ที่เดียวกับสตรีที่เจ้าอยากให้ตายอย่างไรเล่า”

ซูซือซือมองเข้าไปในคันฉ่องอีกครั้ง ขาของนางสั่นเทาจวนจะยืนหยัดไม่ไหว ฉันฉ่องสะท้อนภาพของนางกำลังถูกบางสิ่งที่มองไม่เห็นสมสู่ ราวกับภาพที่สะท้อนผลจากการกระทำของนางในอดีต

เป็นนาง ที่นำความลับระหว่างพี่สาวต่างมารดาและคนเลี้ยงม้าไปแจ้งแก่บิดาที่ไม่เห็นนางอยู่ในสายตา

‘งั้นก็จงไปดูให้เห็นกับตาเสียเถิด ว่าบุตรสาวในสายตาเป็นเช่นไร’ ชั่วขณะนั้นซูซือซือยอมรับว่านางคิดเช่นนั้นจริง

อดีตคนเลี้ยงม้าสถานะที่แท้จริงคือปีศาจราคะ มันหยัดสะโพกสอบกายใส่ร่างบอบบางของคุณหนูรองอีกสองสามครั้งก็ช้อนขาของนางขึ้นตั้งฉาก กลายเป็นว่าซูซือซือต้องจับขอบคันฉ่องแน่นเมื่อขาของนางไม่ติดพื้น กระนั้นภาพที่สะท้อนในกระจกยังคงเป็นนางที่อยู่ในท่าแปลกประหลาดแลน่าหวาดเสียว

“อ๊า!!” เสียงกรีดร้องดังกลางดึกในราตรีอันเงียบสงัด ทว่าแปลกนักที่มิมีผู้ใดได้ยิน แท่งทวนปีศาจถอนถอยจนปลายหัวหยักค้างอยู่ปากทางเข้า ก่อนท
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • ทาสสวาท คนเลี้ยงม้า   บทพิเศษ หลอมรวมเป็นหนึ่ง ชั่วนิจนิรันดร์ (Part 6/6)

    คล้อยหลังร่างสูงใหญ่ไปไม่นาน นางรับรู้ได้ว่ามีบางสิ่งสัมผัสกับผิวกาย ซูไป๋หลานตื่นตระหนกเมื่อเจ้าสิ่งนั้นค่อยๆ เลื้อยพันร่างของนาง กระทั่งมันรัดรอบหน้าอก ผิวสากแลเย็นยะเยือกครูดไปกับยอดถันชูชัน เมื่อนั้นร่างของนางก็สั่นระริกระคนสั่นกระเส่า “งะ…งูรึ” ซูไป๋หลานกลัวงู นางอยากจินตนาการว่าเป็นอย่างอื่น ทว่าสัมผัสแนบเนื้อชัดเจนจนคิดเป็นอย่างอื่นมิได้ ร่างบอบบางพลันสิ้นเรี่ยวแรง กระทั่งเสียงจะกรีดร้องยังดังอยู่ในลำคอ ร่างยาวเหยียดและอวบหนาพันรอบร่างกายซูไป๋หลาน มันใช้บริเวณโคนหางแยกขาเรียวออกจากกัน ส่งปลายหางเรียวแหลมแหย่เข้าไปในโพรงนุ่มทีละน้อย “เฮือก!!” “อะ…อา” นางตกใจในคราแรก ต่อมาจึงเปลี่ยนเป็นครางแผ่วเมื่อเดรัจฉานเลือดเย็นทะลวงหางของมันเข้าออกในรูร่องที่ยังคงเปียกชื้นจากน้ำหวานของนาง และน้ำคาวของคนเลี้ยงม้า มันขยับสอดใส่ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น สุดท้ายกลายเป็นลื่นไหลไม่ติดขัด สัมผัสแปลกใหม่ที่ไม่เคยได้รับส่งดรุณีน้อยมากราคะถึงสวรรค์ ร่างกายของนางสั่นกระตุก โพรงนุ่มรัดหางงูแน่น กระทั่งมันถอนส่วนนั้นออกนางจึงรู้สึกโล่ง ทว่าเพียงไม่นานกลับมีบางอย่

  • ทาสสวาท คนเลี้ยงม้า   บทพิเศษ หลอมรวมเป็นหนึ่ง ชั่วนิจนิรันดร์ (Part 5/6)

    “ข้ากลัว ไม่ไปได้หรือไม่” ซูไป๋หลานหยุดยืนนิ่ง ทอดสายตามองเข้าไปในความมืดที่ถูกแสงจากคบไฟสาดส่องให้เห็นเพียงเลือนราง ทว่าเสียงน้ำไหลทำให้นางตัวสั่น ก้าวเท้าถอยหลังโดยไม่รู้ตัว “ไม่เป็นไรนะขอรับคุณหนู ไม่ต้องกลัว ข้าอยู่นี่แล้ว” คนเลี้ยงม้าพยายามปลอบคุณหนู มือใหญ่กอบกุมมือเล็กไว้แน่น ดวงตาดำมืดมองใบหน้าซีดเผือด ออกแรงดึงมือเล็กให้เดินตาม “อึก” ซูไป๋หลานกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ นางจดจำเหตุการณ์ร่วมสังวาสที่น้ำตกกับเขาได้ ภาพร่างแน่นิ่งยังคงติดตา สัมผัสเย็นยะเยือกยังคงติดตรึงในใจ นางกลัวว่าจะเป็นเช่นคืนนั้นอีก หากให้เห็นคนรักเย็นชืดเป็นศพอีกครั้ง นางคงรับไม่ไหวอีกแล้ว “คุณหนู คิดเสียว่าคืนนั้นเป็นเพียงฝันร้ายนะขอรับ ข้าสัญญาว่าจะไม่มีเหตุการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้นอีก” “ข้า…เชื่อเจ้า” ซูไป๋หลานยังคงไม่คลายความกังวล ร่างกายเองก็ยังคงสั่นระริก ทว่าหากคนเลี้ยงม้ารับปาก นางก็เชื่อใจเขา คนเลี้ยงม้าไม่โกหก ครั้งหอโคมเขียวเขาบอกจะมารับในอีกหนึ่งเดือนเขาก็มาตามที่พูด ครั้งนี้ก็เช่นกัน ซูไป๋หลานก้าวเท้าสัมผัสผิวน้ำทีละข้าง น่าแปลกที่อากาศเย็นทว่าน

  • ทาสสวาท คนเลี้ยงม้า   บทพิเศษ หลอมรวมเป็นหนึ่ง ชั่วนิจนิรันดร์ (Part 4/6)

    “อ๊ะ…อ๊า…” เสียงครางหวานแว่วออกมาจากในกระท่อมหลังเล็ก เงาร่างสองร่างโยกไหวเกิดเป็นระลอกคลื่นวาบหวาม เสียงการสอดประสานของสองกายดังเป็นจังหวะหนัก ท่ามกลางความมืดแลหนาวเหน็บของราตรีกาลอันเป็นนิจนิรันดร์ ภายในกระท่อมกลับร้อนระอุ ซูไป๋หลานเป็นม้าให้คนเลี้ยงม้าควบขี่ บุรุษร่างใหญ่คร่อมทับร่างเล็กของนาง สอบกลางกายเข้าใส่ สาดซัดความเสียวให้ร่างแน่งน้อยแดดิ้นอยู่บนพื้น นางคลานเข่าแอ่นบั้นท้ายราวกับสัตว์ที่กำลังถูกผสมพันธุ์ เพื่อรองรับแท่งทวนอวบใหญ่ที่ทะลวงเข้าออก “อ่า…คุณหนู เด้งสะโพกสวนรับด้วยสิขอรับ” คนเลี้ยงม้าออกคำสั่งอย่างไร ซูไป๋หลานก็ทำตามนั้น แม้ว่าแท่งทวนจะทะลวงลึกจนนางจุกในท้อง ทว่าหากคนเลี้ยงม้าต้องการ แม้จะจุกเพียงใด อึดอัดจนรู้สึกไม่สบายตัว นางก็ยินดีทำให้ เพียงเพื่อปรนเปรอให้เขาพึงใจ “อ๊ะ…ลึก…ลึกมาก” นางเชิดหน้าครวญคราง สวนสะโพกรับกับจังหวะตอกอัดของคนเลี้ยงม้า แท่งทวนยาวเหยียดเข้าสุดออกสุดทุกครั้ง เมื่อนางเสียวจนทนไม่ไหว แขนสั่นระริกมิอาจทรงตัวได้ จึงแนบใบหน้าลงกับพื้นเย็นเฉียบของกระท่อม แอ่นเพียงบั้นท้ายให้เขาตอกตรึง ซ้ำยังสวนสะโพกกลับไปอย่างไม่ขา

  • ทาสสวาท คนเลี้ยงม้า   บทพิเศษ หลอมรวมเป็นหนึ่ง ชั่วนิจนิรันดร์ (Part 3/6)

    “คุณหนูใหญ่ ฮูหยินกำลังให้นมคุณชายน้อยอยู่เจ้าค่ะ หลังรับประทานอาหารเย็น ค่อยมาใหม่นะเจ้าคะ” ซูไป๋หลานแวะมาหามารดาก่อนที่จะเข้าเรียนในช่วงบ่าย ทว่าคำตอบที่ได้รับทำให้นางเดินคอตกกลับไปโดยไม่มีคำพูดใด “ฮูหยินเข้านอนไปพร้อมคุณชายน้อยแล้วเจ้าค่ะ พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่นะเจ้าคะ” ซูไป๋หลานมาหามารดาช่วงหัวค่ำ นางตั้งใจปักผ้าเช็ดหน้ามาให้จึงใช้เวลาทำนานพอสมควร รูปดอกกุหลาบสีแดงทำให้นึกถึงผู้ให้กำเนิด ทว่าคำตอบจากสาวใช้เป็นเหตุให้นางต้องเก็บผ้าผืนนั้นกลับไป ไว้รอมาให้ในวันพรุ่งนี้แทน “ฮูหยินพาคุณชายน้อยไปรับแสงแดดอ่อนยามเช้า คุณหนูใหญ่มาพบฮูหยินในช่วงรับประทานอาหารกลางวันแทนนะเจ้าคะ” แล้วคำตอบที่ได้รับก็ไม่ต่างไปจากเดิม คราวนี้ซูไป๋หลานโยนผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นทิ้งลงไปในสระบัว นางยืนนิ่งจ้องมองมันค่อยๆ จมหายลงไปใต้ผืนน้ำ เฉกเช่นใจดวงน้อยที่ค่อยดำดิ่งลงสู่เบื้องล่าง ลึกลงไปในก้นสระ ไม่ต่างจากก้นบึ้งหัวใจอันหนาวเหน็บของนาง ซูไป๋หลานจำไม่ได้ว่ามาหามารดาสิบครั้งได้เข้าพบถึงสองครั้งหรือไม่ เพราะมารดายุ่งเหลือเกิน จึงเดินคอตกกลับไปยังห้องที่ใช้เรียนคัดอักษรในวันนี้ ทว่านางไม่ม

  • ทาสสวาท คนเลี้ยงม้า   บทพิเศษ หลอมรวมเป็นหนึ่ง ชั่วนิจนิรันดร์ (Part 2/6)

    ซูไป๋หลานในวัยสิบหนาวกระโดดโลดเต้น นางตั้งใจจะนำภาพวาดครอบครัวที่มีนาง บิดาและมารดามามอบให้ท่านพ่อและท่านแม่ตามคำแนะนำของสาวรับใช้คนสนิท เด็กน้อยพบว่าประตูห้องนอนใหญ่มิได้ปิดไว้เช่นทุกทีจึงยิ่งอารมณ์ดี ขาเล็กก้าวเร็วๆ กระทั่งเห็นว่าด้านในไม่ได้มีเพียงบิดาและมารดา ทว่ามีแผ่นหลังชราและสาวรับใช้คนสนิทของฮูหยินซูอยู่ด้วย นางหยุดยืนนิ่งอยู่หน้าประตู มองคนทั้งหมดด้วยความสงสัยว่าเหตุใดจึงมารวมตัวกันที่นี่ในเวลาเช่นนี้ “ยินดีด้วยขอรับนายท่าน ฮูหยินซูตั้งครรภ์แล้วขอรับ” “จริงหรือ เจ้าตรวจดูอีกทีให้แน่ใจ” “จริงขอรับ ข้าจับชีพจรของฮูหยินเพื่อให้มั่นใจถึงสามรอบ ผลที่ออกมาไม่ผิดพลาดแน่ขอรับ” “ท่านพี่ ข้าดีใจเหลือเกิน ในที่สุดก็ตั้งครรภ์ที่สองให้ท่านได้แล้ว” น้ำเสียงของฮูหยินซูสั่นเครือ ทว่าไม่ใช่เพราะความเสียใจ นางกำลังดีใจจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เดิมทีซูซือเย่ก็มีสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงเท่าใดนัก นางมีบุตรยาก กระทั่งอนุลี่มีบุตรชายอายุได้สามหนาวนางจึงให้กำเนิดซูไป๋หลาน ทว่าน่าเสียดายที่ฮูหยินซูได้บุตรสาว แทนที่จะเป็นบุตรชายไว้สืบสกุล หลัง

  • ทาสสวาท คนเลี้ยงม้า   บทพิเศษ หลอมรวมเป็นหนึ่ง ชั่วนิจนิรันดร์ (Part 1/6)

    เพี้ยะ!! ขวับ!! เสียงแส้ฟาดลงบนผิวเนื้อดังบาดหู เสียงหวีดหวิวเมื่อแส้ถูกเงื้อขึ้นและหวดกลับลงมาด้วยความเร็วเองก็น่าหวาดเสียวไม่น้อย ทว่ายังไม่ดังเท่าเสียงอ้อนวอนของสตรีที่กำลังได้รับความเจ็บปวดแสนสาหัส “ได้โปรดยกโทษให้…อ๊า…ข้าด้วยเจ้าคะ…เพี้ยะ!!...อ๊า…ฮูหยิน” “แรงกว่านี้อีก หรือว่าเจ้าอยากโดนเสียเอง” ฮูหยินซู หรือก็คือ ซูซือเย่ปรายตามองบุรุษร่างสูงใหญ่ที่กำลังเฆี่ยนสตรีผู้โชคร้าย กระแสความไม่พอใจพาดผ่านดวงตาหงส์ นางรู้สึกว่าทัณฑ์ทรมานที่บ่าวรับใช้มอบให้อนุลี่นั้นยังไม่มากพอ มิเช่นนั้นคงไม่พูดอะไรให้ระคายหู สิ่งที่นางอยากได้ยินมีเพียงเสียงร้องโหยหวนเท่านั้น นับจากนั้นจึงมีเพียงเสียงกรีดร้องของสตรีที่ถูกขึงไว้กับตั่งไม้ยกสูง ในลานโบยที่มิมีผู้ใดอยากเฉียดใกล้ ซูไป๋หลานวัยแปดหนาวกอดเอวมารดาแน่น ใบหน้าเล็กซุกอยู่ด้านหลัง ทว่าบางคราจะโผล่เพียงเสี้ยวหน้าออกมาดูด้วยความอยากรู้อยากเห็นตามประสาเด็ก และภาพที่เห็นก็ทำให้เจ้าตัวหลบกลับเข้าไปที่เดิมอีกครั้ง จวบจนเสียงของอนุลี่เริ่มแผ่วลง ทว่าแรงหวดของแส้กลับยังคงหนักแน่นเช่นเดิม นางจึง

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status