“ซี๊ดดดด โอ้ว! ท่านขา อ่า” เสียงครางหวานแผ่วเบาเซ็กซี่ ขณะที่กลีบสาวอวบนุ่มถูกโลมเลียด้วยลิ้นร้อนอย่างไม่ปราณี แต่ไม่ได้ทำให้เธอเจ็บ ทว่าสร้างความหฤหรรษ์ชนิดที่เธอไม่เคยเจอมาก่อน “ท่านขาหยา อูยยยย อย่าเลียดุนักสิคะ หยาจะตายแล้ว” เธอเอ่ยปากบอกเสียงหวานกระเส่า จังหวะเดียวกันก็ลืมตาผงกศีรษะมองทุกการกระทำของเขาอย่างเร่าร้อน ก่อนจะเอื้อมมือไปกดศีรษะเขาไว้ แล้วแอ่นเด้งอัดกลีบเนื้อส่งเข้าปากร้อนๆ ที่กำลังดูดเลียคำโต เสียงร้องครวญครางดังออกมาเป็นระยะด้วยความเสียวซ่าน สั่นสะท้านแทบจะแตกเสียให้ได้ เธอกำลังจะคว้าจุดหมายเอาไว้ โดยที่เขาก็ไม่หยุดปรนเปรอ ยังคงก้มหน้าดูดเลียร่องรักและน้ำฉ่ำหวานที่ไหลออกมาไม่หยุด เนินนุ่มยังคงแอ่นเด้งขึ้นลงเป็นจังหวะ และร้องครางหนักกว่าครั้งแรก“ท่านขา... ซี๊ดดดด อ่า ตฤณขา หยาไม่ไหวแล้ว เสียว! โอ้ว! เสียวมากเลยค่ะ” เธอร้องครางด้วยความทรมานทั้งเม้มปากทั้งกัดฟันกดกลั้นอารมณ์ อีกทั้งยังหายใจหอบเหมือนจะขาดใจ ครั้นจะบอกให้พอมันก็น่าจะไม่ทันเสียแล้วเพราะปลายทางอยู่ใกล้แค่เอื้อม
“คุณเป็นคู่หมั้นผมแล้วนะ” พอเขากระซิบที่หูเท่านั้นแหละเธอเอียงคอมองเขาอีกครั้งคล้ายจะตั้งคำถาม“จริงสิ คุณใส่แหวนให้หยา คุณบอกว่าจะซื้อเป็นของขวัญให้เพื่อน”“ของขวัญเขาไม่ซื้อแพงขนาดนี้หรอก ผมแค่โกหก นี่แหวนหมั้น ผมหมั้นหยาโดยเฉพาะแต่อยากให้เจ้าตัวเลือกเอง เลือกที่ชอบ”“เจ้าเล่ห์ไม่หยุดเลย ตั้งหลายกะรัตใครจะกล้าใส่คะ”“คุณไงจ๊ะ ห้ามถอดด้วย”“แล้วหยาเลือกอะไรได้ไหม”“หยาเลือกแล้ว เลือกให้มีคืนของเรา” จบเขาคำเขาก็สวมกอดเธอจากทางด้านหลัง “แล้วผมมีความสุขมากรู้ไหม”“หยาก็มีค่ะ แต่... ไม่รู้สิอะไรอะไรมันดูเร็วไปหมด กลัวมาเร็วไปเร็ว” เธอไม่มีอะไรต้องปิดบังหรือปากแข็ง และคำพูดของเธอทำให้เขายิ้มแล้วยิ้มอีก“ก็เรียนรู้กันไป ชีวิตคู่เรียนรู้ไม่สิ้นสุดหรอกจ้ะ” พูดจบเขาจูบที่แก้มเธอหนึ่งฟอด
เขาอาศัยจังหวะเร็วๆ สอดมือไปใต้หมอนแล้วคว้าบางอย่างออกมาฉีกแล้วเอื้อมลงไปสวมใส่แท่งร้อน ที่กำลังดีดดิ้นขึงขังผงาดพร้อมรบ ทำทุกอย่างรวดเร็วจนเธอไม่รู้ว่าเขาใส่ด้วยซ้ำ กระทั่งรู้สึกว่าส่วนปลายจดจ่ออยู่ตรงกลีบสวาท ถูไถกระตุ้นให้เสียวซ่าน น้ำเสียวหนืดเหนียวเปียกแฉะง่ายต่อการเคลื่อนไหวสอดเข้าไปเขาไม่รีรอกดส่วนปลายแท่งร้อนสอดแทรกผ่านกลีบอวบช้าๆ ดุนดันหาทางรักที่แสนคับแน่น ก่อนจะกดและดันเข้าไปแต่ทำไม่ได้ เหมือนขนาดของเขากับทางเข้าไม่สัมพันธ์กัน“อื้อ! ให้ตายสิ” เขาถอนจูบออกมาสบถพลางขมวดคิ้ว ขณะที่เธอครางอื้ออึงเพราะความเจ็บคล้ายกับทางรักกำลังถูกฉีกเฉือน“เจ็บ หยาเจ็บ” เธอกระซิบบอกเบาๆ และขมวดคิ้วเช่นกัน เขาจึงเอื้อมมือประคองใบหน้าเธอเอาไว้“ทูนหัว ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องเกร็งแล้วจะไม่เจ็บ เดี๋ยวผมจะพาคุณขึ้นสวรรค์” ประโยคสุดท้ายเขากระซิบชิดปากนุ่มแล้วจูบปิดปากอีกครั้ง เพื่อไม่ให้มีเสียงร้องดังนัก เพราะห้องก็ไม่น่าจะเก็บเสียงนักจากนั้นเขาจึงเริ่มต้น
“อื้อ” เธอครางอื้ออึงในลำคอพลางกัดริมฝีปากแน่น เขาจึงเงยหน้าจากอกอวบแล้วประจูบที่ปากอิ่มอีกครั้ง ทว่าชั่วอึดใจเขากลับรูดกางเกงเธอลงไปจากสะโพก แต่ติดที่เธอคร่อมอยู่แต่ไม่ใช่ปัญหา เธอยกหัวเข่าขึ้นเล็กน้อย ทีละข้าง เพื่อจะสลัดกางเกงทั้งนอกและในทิ้งลงข้างอ่าง คราวนี้เหลือเพียงเนื้อตัวเปลือยเปล่า เขาจับแท่งร้อนเบียดกับกลีบสาวนุ่มนิ่มอีกครั้ง ให้เธอได้สัมผัสความเป็นชายอันแข็งแกร่ง “ซี๊ด! อืม” เธอครางอีกครั้งอย่างสุดจะกลั้น ก่อนจะบดขยี้จูบที่ปากร้อนเสียเอง ขณะที่สะโพกงามเคลื่อนไหวถูไถบดเบียดกลีบสาวกับแท่งร้อน ยิ่งเสียวซ่านก็ยิ่งหยุดไม่ได้ กระตุ้นกายสาวด้วยความความแข็งแกร่งไม่นานเขาก็เอามือลูบไล้ตรงเนินเนื้อนุ่มนิ่มกลีบส้มผลงามเกลี้ยงเกลานุ่มมือ ปิดสนิทแน่นและฉ่ำด้วยน้ำอุ่นและฟองสบู่ นิ้วแกร่งค่อยๆ แหวกกลีบส้มเข้าไปสัมผัสกับเม็ดน้อยนั้นช้าๆ ปลายนิ้วกดเน้นเคล้นคลึง ทำเอาร่างน้อยสะดุ้งเสียว ทว่าสะโพกกลับขยับเคลื่อนไหว เขาไม่ปล่อยให้เธอหยุดพักแม้แต่วินาที เร่งระรัวนิ้วแกร่งกดเน้นหนักเม็ดเสียวแรงๆ จนสะท้าน
“รู้ว่าอยากไปส่ง อยากมีเวลาส่วนตัวนะแหม ฝันดีครับพี่ตฤณ”“ครับ” สิ้นคำตฤณก็คว้ามือปั้นหยาแล้วเดินลงจากบ้านทันที เธอก็ขัดไม่ได้ แต่เวลาเดียวกันนั้นสองหนุ่มบอดี้การ์ดก็ดันมารอรับอย่างรู้หน้าที่“อ้าว มาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย”“สักสิบนาทีแล้วครับท่านแต่ไม่อยากขึ้นไปกดดัน”“กินอะไรหรือยัง”“เรียบร้อยแล้วครับ”“ดีเลยขากลับจะได้มาส่งคุณหยา” ปากก็พูดไปงั้นแหละ แต่ใจไม่ได้อยากให้เธอกลับมาหรอก อย่าหวัง ไม่มีทางอีกแล้ว ทว่าปั้นหยาเองก็รู้สึกอยากคุยอะไรกับเขาเป็นการส่วนตัว จึงมาส่งถึงห้องพัก พอถึงห้องปุ๊บสองหนุ่มกลับหายวับไปห้องตัวเองโน่น“ขอบคุณที่มาส่งครับ” ตฤณเอ่ยและหยุดอยู่หน้าห้อง ไม่ทันได้เปิดเข้าไป เขาอยากหยั่งใจเธอเหลือเกิน อยากลองเชิงให้รู้“ดูเหมือนหยาอยากพูดอะไรกับผม”“เปล่าค่ะ หยาแค่อยา
“จ้ะ แต่ก็ประหม่านะลูก คนบ้านนอกชาวสวนอย่างเรา มีเศรษฐีระดับเจ้าสัวมาที่บ้านแบบนี้ ทำตัวไม่ถูก เคยต้อนรับอย่างมากก็นายอำเภอ”“หึๆ แม่ก็ทำเป็นพูดตลกไป”“พูดจริง เอานี่ออกไปเสิร์ฟ เสร็จแล้ว” มารดาพูดตัดบทยิ้มๆ แล้วสั่งให้ปั้นหยาและแม่ครัวนำอาหารไปขึ้นโต๊ะ โดยที่หนุ่มๆ ทั้งสาม คุยกันอย่างออกรส ยิ้มแย้มแจ่มใส ผ่อนคลาย ผิดไปจากที่คิดเอาไว้นึกว่าพ่อจะทำท่าเบ่งใส่ท่านประธานของเธอเสียอีกพอปั้นหยาออกมาพร้อมกับอาหาร ทุกคนก็หันมามองเป็นตาเดียว แต่ตาคู่หนึ่งที่มองเธอหวานกว่าทุกคน เรียกว่าทำตาเยิ้มเชียวแหละ“ไปกินข้าวนะท่านนะ จะได้กลับไปอาบน้ำพักผ่อน สนุกมาทั้งวันเชียว” บิดาเอ่ยปากชวนตฤณพร้อมกับผายมือเชิญ“ขอบคุณครับ” ตฤณรับคำก่อนจะลุกไปที่โต๊ะอาหารแล้วนั่งข้างๆ ปั้นหยา“กินเลยค่ะไม่ต้องเขิน คนกันเองทั้งนั้น” มารดาบอก“เขยใหม่ก็งี้แหละแม่ ถ้านั่งพับเพียบได้นั่งไปแล้ว” พี่ชายเอ่ยแซว