Share

7

last update Terakhir Diperbarui: 2024-10-22 22:23:12

“เจ้าไปแจ้งสกุลเยี่ยด้วยว่าไม่ต้องนำผ้ามาให้ข้าอีก ข้าไม่ใช่หญิงงามที่จะต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าทุกวัน วันละหลาย ๆ ชุด ให้ทันยุคสมัยตามใครเขาสวมใส่อะไร หากข้าอยากได้ผ้าเมื่อไร ข้าจะไปซื้อที่หน้าร้านด้วยตัวข้าเอง”

“ข้าจะรีบกลับไปบอกผู้อาวุโสเจ้าค่ะ”

“ไม่ต้องรีบไป เจ้ากินให้อิ่มก่อน” หวังเฟยกำชับนาง ด้วยเห็นว่านางเป็นสตรีกินข้าวเชื่องช้า นั่นก็เป็นเรื่องดีของเขาอีกอย่างหนึ่ง เมื่อเขาจะได้พบนางวันละหนึ่งมื้อเป็นเวลานาน เฝ้ามองนางคีบอาหารเข้าปากทีละคำ

“วันนี้ข้าไม่ได้กลิ่นขี้วัว?”

“ข้าเดินเลี่ยงไปทางอื่น ไม่เจอพวกเด็ก ๆ แกล้งข้า...”

“เด็กพวกนั้นถูกตามใจจนเคยตัว ควรได้รับโทษทัณฑ์ ฐานกลั่นแกล้งผู้อื่นเสียบ้าง ได้ยินว่าเป็นลูกหลานคหบดี ทำตัวเป็นนักเลงโตมานาน”

หวังเฟยพอรู้มาบ้างว่านางถูกกลั่นแกล้งเป็นประจำตั้งแต่เล็ก เพราะเรื่องขาของนางเป็นจุดสนใจ มารดาของนางไม่ได้มีหน้ามีตาในสังคม อยู่ ๆ ก็ร่ำรวยขึ้นมาหลังสกุลเยี่ยเปิดกิจการขายผ้า เด็กชายกลุ่มหนึ่งละแวกบ้านของนางเติบโตเป็นวัยรุ่น ตั้งใจมาเฝ้ารอนาง หากวันไหนนางเดินเท้ากลับบ้าน

“ข้าไม่เป็นไร ข้าชินแล้ว ท่านอย่าได้ไปสนใจพวกเขาเลย คุยเรื่องอื่นดีกว่า”

เจียลี่ไม่อยากให้ใครเดือดร้อนเพราะนาง จึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนา นางเกรงว่าท่านอาจะไปเอาเรื่องพวกเขาแล้วเกิดปัญหาในภายหลัง นางเองก็ระวังตัว นางเลือกที่จะกลับบ้านโดยรถม้า กับบ่าวรับใช้ชายตัวโต ๆ ถึงแม้ว่าพวกเขาไม่อาจช่วยเหลือนางได้ คงอุ่นใจกว่าเดินเท้ากลับบ้านคนเดียว

ข้าวสวยที่มีควันลอยฉุยจากโถข้าวทำให้นางลืมบาดแผลภายในจิตใจ ท่านอาเขยตักข้าวให้นาง บ่นว่ากินไม่ไหวแล้ว นางตักข้าวกลับคืนให้เขา ใช้ตะเกียบคีบอาหารโดยไม่นึกรังเกียจ หวังเฟยนึกเรื่องสำคัญขึ้นมาได้

“ท่านอาหญิงของเจ้าเพิ่งมาแคว้นหลู่ได้สักพัก นางมาพบข้าครั้งหนึ่ง...”

“ท่านอา... ไม่เป็นไรใช่ไหม?”

“ข้าสบายดี เพียงแต่” ปลายเสียงเงียบงัน ลังเลใจว่าจะพูดกับนางดีหรือไม่ กว่าจะพูดมันออกมา “ลี่จิ่นบอกข้าว่า... เจ้าชอบข้าหรือ? เจียลี่”

“ชอบสิเจ้าคะ ท่านอาดีกับข้า ท่านเป็นผู้มีพระคุณของข้า คอยช่วยเหลือครอบครัวข้าเสมอ”

“ข้าไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น”

ท่านอาไม่คิดทำลายบรรยากาศบนโต๊ะอาหาร ทว่าเขาไม่ชอบรอยยิ้มเสแสร้ง พูดจาฉะฉานไม่สะท้านสะเทือน ในเมื่อลี่จิ่นเป็นผู้เอ่ยความจริงกับเขาว่าทำไมหลานสาวจึงยอมห่ออาหารให้เป็นอย่างดี เรื่องที่นางมาดูแลเขาก็ไม่ใช่เพียงผลประโยชน์ คนทางบ้านนางวานขอให้นางมา

“อาหญิงเจ้าบอกกับข้าว่า... เจ้าคิดคดทรยศนาง เจ้ามีใจให้ข้านับตั้งแต่ที่ข้าเริ่มคบหากับนาง ล่วงรู้ความในใจเจ้ามาโดยตลอด เจ้าเฝ้ามองข้าอย่างหญิงมองชาย ไม่เคยคิดว่าข้าเป็นท่านอาเขย นางจึงสบโอกาสใช้ประโยชน์จากเจ้า เรื่องทำอาหาร...”

เจียลี่รู้สึกถึงความร้อนทั่วใบหน้าและลำคอ นางกลืนข้าวไม่ลง รีบยกแก้วขึ้นดื่มน้ำอึกใหญ่ นางเช็ดปากลวก ๆ ก้มศีรษะว่องไว

“ข้าขอตัวลาเจ้าค่ะ พอดีว่า... ข้ามีธุระด่วน”

“ตอบข้ามา ก่อนที่ข้าจะหักขาเจ้าเสีย จะได้ไม่ต้องลุกหนีไปไหน...” ถ้อยคำเด็ดขาดของท่านอารั้งนางไม่ให้ลุกจากที่นั่ง นัยน์ตาลุ่มลึกปรากฏอารมณ์เคียดแค้นระลอกหนึ่ง เขากดดันนาง เพื่อให้นางตอบคำถามอย่างตรงไปตรงมา

--------------------------

‘ความลับภายในใจข้า เป็นเรื่องของข้า ต่อให้ท่านจะหักขาหักคอข้า มันก็จะตายไปกับข้า’

เจียลี่ทำให้ท่านอาหัวเสียไม่น้อย เมื่อนางไม่ยอมตอบคำถามของเขา ซึ่งเขาอาจรู้แก่ใจดีเพียงอยากได้ยินจากปากนาง เพื่อให้แน่ใจเท่านั้น หากว่านางยอมรับมันออกมา

นางเป็นผู้เดียวที่เรียกเขาท่านอา นับตั้งแต่เลิกรากับลี่จิ่น ท่านอาหญิงของนาง แม้แต่คนที่บ้านนางยังคงเรียกเขาลูกเขย มารดาของนางก็เรียกเขาน้องเขย

หวังเฟยไม่กล้าต่อว่านาง เพียงส่ายหน้าถอนหายใจด้วยกิริยาไม่พอใจ

แต่เล็กจนโตนางเคยหยิ่งทระนงตนเสียที่ไหน ใครสั่งให้นางทำอะไรนางก็ทำ นางยอมเป็นเบี้ยล่างให้อาหญิงและลูกหลานคนอื่น ๆ ในสกุลเยี่ย เคยเป็นผู้ถูกรังแกมาโดยตลอด ไยอยู่มาวันหนึ่งนางกลับไม่ยอมโอนอ่อน

“ขอบใจสำหรับน้ำใจของเจ้า อาหารทุกมื้อของเจ้าทำให้ร่างกายข้าดีขึ้นมาก”

ท่านอาเดินมาถึงรถม้า เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้ามืดมิด เห็นว่ามืดค่ำแล้ว แต่ไม่ยอมให้นางกลับเสียที นางเองก็ใช่ว่าอยากกลับเรือนเสียที่ไหน แววตาเทิดทูนของนางบอกว่าอยากอยู่รับประทานอาหารต่อกับท่านอา นอนบนฟูกในเรือนรับรองแขก ตาเฝ้ามองประตูไม้ที่มีเสียงเอะอะโวยวายของคนเมาจนกว่ามันจะเปิดออก

“ข้าเต็มใจรับใช้ท่านอาเจ้าค่ะ”

“ข้ารู้ว่าเจ้าเต็มใจ... มากทีเดียว ต่อให้เจ้าจะไม่ได้รับคำสั่งจากใคร เจ้าก็จะมา” พูดจบ เขาลอบมองบ่าวรับใช้ชายด้วยท่าทางไม่ไว้วางใจ แม้พวกเขาจะทำงานสกุลเยี่ยมานาน พวกเขาล้วนเห็นเจียลี่ตั้งแต่ยังเป็นเด็กห้าขวบด้วยซ้ำไป

หวังเฟยมีความคิดว่าบ่าวทั้งสามอยู่ในวัยฉกรรจ์ เป็นท่านอาของนางได้ บัดนี้นางเติบใหญ่ นับวันยิ่งสวยสะพรั่ง ใบหน้าอ่อนหวานของนางต้องตาหนุ่ม ๆ ในตลาด เขาได้ยินจากมิตรสหายมาว่าในเมืองแทบไม่มีใครไม่รู้จักนาง ทั้งยิ้มหวาน พูดจาฉะฉาน ขายของเก่ง รู้จักกล่าวชมลูกค้า ไม่ว่าใครเข้าไปเหยียบร้านสกุลเยี่ย เป็นต้องถือห่อผ้าออกมาทุกราย

“วันนี้ข้าจะไปส่งเจ้า”

“ข้ากลับเองได้ท่านอา ท่านไม่ต้องเป็นกังวล ข้านั่งรถม้าผ่านทางนี้ทุกวัน”

“เจ้าเพียงไม่รู้ ที่ใดก็อันตราย” 

บ้านเมืองขาดความมั่นคงและสงบสุข ประชาชนมองชีวิตตนเป็นตายเท่ากัน ตื่นนอนมาทำงานหามรุ่งหามค่ำ หาได้มีทางเลือกมากนัก ในยามวิกาลพวกเขารีบกลับบ้านของตน ปิดประตูลงกลอนแน่นหนา เป็นไปได้ว่าอาจมีคนหนึ่งคอยเฝ้าเวรยาม สำหรับครอบครัวที่มีฐานะทางการเงินอย่างสกุลเยี่ยเป็นพ่อค้ามั่งมี มีบ่าวบริวารคอยรับใช้ คอยเป็นหูเป็นตาลูกหลานในบ้าน

 

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ท่านอา อย่าร่ำสุรา   18

    “ท่านว่าบ้านเมืองแตกแยกวุ่นวาย มีเรื่องอะไรหรือเจ้าคะ? ท่านอาพอจะบอกสตรีอย่างข้าได้หรือไม่ เผื่อว่าข้าอาจหาทางเอาตัวรอดได้ในยามคับขัน”“บ้านเมืองร้อนเป็นไฟ แตกแยกเป็นแคว้นเล็กแคว้นน้อย ราชวงศ์ไม่สามารถปกครองบ้านเมือง ราชสำนักก็อ่อนแอ ผู้ครองแคว้นไร้ซึ่งคุณธรรม ข้าควรได้อยู่กับเจ้า เป็นตายร้ายดี ขอให้ได้ฝังศพข้างเคียงกัน”“ข้าก็อยากอยู่กับท่านอาเจ้าค่ะ แม้ข้าจะเป็นหญิงต่ำต้อย ขาพิการ...”“เจ้ามีความคิดเช่นนั้นก็คงไม่แปลก พวกชั่วช้าคอยกรอกหูเจ้า รังแกเจ้าแต่เล็กจนโต ข้าเองก็ไม่ได้ให้ความช่วยเหลือเจ้ามากนัก หากว่าข้าไม่ผ่านมาพบเจ้า”ต่อจากไปนี้จะไม่มี...หวังเฟยไม่ได้กล่าวคำนั้นกับนาง เพียงตั้งใจเป็นมั่นเหมาะว่าจะเฝ้าติดตามหญิงสาวข้อเท้าไม่ดีผู้นี้ไปเรื่อย ๆ ที่ใดมีเขา ก็มีนาง จนกว่าชีวิตจะหาไม่--------------------------หญิงร่างผอมบางเนื้อตัวมอมแมม นั่งโงนเงนบนหลังอานม้า นางบ่นพึมพำว่านางรอดตายแล้ว นางรู้สึกเหมือนกำลังนอนเล่นในเปลแกว่งไกวไปมาใต้ลมเยียบเย็นที่ลูบแก้มนางอย่างอ่อนโยน ไม่นานนักก็ผล็อยหลับไป หวังเฟยเฝ้ามองนางงีบหลับในอ้อมแขน น่าเอ็นดูนัก เขาลักลอบจูบแก้มนาง ขมับนาง บังคับม

  • ท่านอา อย่าร่ำสุรา   17

    “อยู่เล่นกับพวกข้าก่อน วันนี้ข้าไม่ได้เอาขี้วัวมาทาเจ้า ข้ารับปากว่าจะไม่ฝังหญิงพิการขาเสียไว้ในกับดักสัตว์ ให้เจ้าเน่าตายในหลุม ข้ามีของเล่นที่น่าสนใจกว่า...”“เป็นผู้ดีมีสกุลแท้ ๆ ไยพวกเจ้าไม่ได้รับการอบรมบ่มนิสัยให้เป็นคนดีได้” นางต่อว่าด้วยท่าทีก้าวร้าว พวกเขากลับหัวเราะเป็นเรื่องสนุก เด็กชายวัยสิบสามนับว่าตัวโตมากพอมีความคิดสรรหาวิธีรังแกนาง แถมมากันถึงแปดคน ล้อมรอบนางไม่ให้นางหนี เหลียงฟางซินได้เหล็กปลายแหลมมาหนึ่งอัน หยิบออกมาจากชายเสื้อที่ซุกซ่อนไว้ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม“เจียลี่... วันนี้ข้าได้ลักลอบดูตำราเพศสตรี เพียงไม่เคยพบเห็นของจริง หอนางโลมข้าก็ยังเข้าไม่ได้ ท่านพ่อไม่ให้ข้าไปแน่ เจ้าคงไม่ใช่สตรีเหนียมอายใช่ไหม? ข้าล่ะนึกอยากรู้ว่าหญิงพิการจะมีรูเล็ก ๆ นั่นหรือไม่”สิ้นเสียงหัวเราะร่าเริง เด็กชายสองคนพลันล้มไปต่อหน้าต่อตา ชายเสื้อสีขาวสะอาดของผู้ดีร่างอวบถูกลากไปกับพื้นดิน แท่งเหล็กแหลมกระเด็นจากมือของเหลียงฟางซินไปอยู่ใต้เกือกอาชาสีน้ำตาล ตัวเขาก็ถูกลากไปกับเกือกม้านั้นด้วยชายร่างกำยำควบม้าถีบหน้าพวกเขาไม่สนว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร เด็กชายอันธพาลร้องโอดครวญอย่างเจ็บปวด เม

  • ท่านอา อย่าร่ำสุรา   16

    เจียลี่นั่งหมอบอยู่บนพื้นหญ้า คารวะท่านปู่ท่านย่าเป็นใหญ่โตราวคำนับฮ่องเต้ นางก้มหน้าผากแนบพื้น สองมีแปะผืนหญ้าจนผู้ใหญ่ขอให้นางลุก โดยเฉพาะท่านย่า ได้ใจอ่อนกับหลานสาวไปเสียทุกที ถึงเจียลี่อาจไม่เป็นที่รักที่สุด พวกเขารู้แก่ใจดีว่าหากนางจะไม่ต้องออกเรือน ให้นางทำงานหามรุ่งหามค่ำก็ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด นางไม่ยินดีตบแต่งกับหนุ่มผู้ดีคนไหนในเมือง ขอแค่นางได้ทำงานเก็บเงินเที่ยวเตร็ดเตร่ไปวัน ๆบ่าวรับใช้บ้านท่านอาหวังเรียกขานนางว่า ‘นายหญิง’ หากเมื่อพบลี่จิ่นกลับเรียกแม่นางสกุลเยี่ยอย่างให้ความเคารพ เฉกเช่นผู้สูงศักดิ์ทั่วไปถึงพวกเขาจะเคารพนอบน้อมเท่าไร ก็ยังไม่เท่ากับที่พวกเขาเคารพนายหญิงเจียลี่น่าประหลาดใจนัก น้องสาวของนางได้พบบ่าวรับใช้บ้าน ก็ว่าแปลกกระนั้นเจียลี่ยังไม่เข้าใจบ่าวรับใช้ หลายครั้งหลายคราพวกเขาไม่ยอมบอกว่าตนคิดสิ่งใด นางเคยได้ยินว่าหากเป็นในวังหลวง อาจถึงขั้นต้องจับพวกเขาไปทรมานทีเดียว บ่าวถึงจะยอมแพร่งพรายความลับของเจ้านาย แต่จะว่าไปแล้ว บ่าวผู้รักศักดิ์ศรีไม่ยอมพูดก็มี พวกเขายินยอมการถูกทรมานจนตายไปกับความลับของเจ้านาย กระโดดบ่อน้ำฆ่าตัวตาย กัดลิ้นตายเองก็มี“ข้าจะไป

  • ท่านอา อย่าร่ำสุรา   15

    หัวใจของนางเต้นระส่ำระสาย เมื่อท่านอามอบสัจวาจาว่าจะมาสู่ขอนางให้เร็วที่สุด เขายังต่อว่านางไม่ให้พูดถึงท่านอาหญิงด้วยจุมพิตแสนหวาน กระชับกอดเอวนางอย่างหวงแหน ไม่ยอมให้นางออกจากเรือนง่ายดายนักมารดาและคนทางบ้านตำหนินางเรื่องเวลา ทำไมนางจึงมาทำงานช้า ถึงแม้ว่าจะมีบ่าวล่วงหน้าไปที่ร้านผ้าก่อน ก็นางเคยทำตัวเหลวไหลเสียเมื่อไร‘ท่านอานะท่านอา ข้าเกือบโดนทำโทษ แถมโดนหักหวนเฉียน[1]ไปตั้งเยอะ’ นางบ่นในใจ หากด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ความร้อนวูบวาบยังคงฝังติดบนเรือนกาย การถูไถประสาชายหญิงทำให้นางเพิ่งรู้ว่าท่อนแข็งขึงหน้าตาประหลาดนั่นทำอะไรได้ เขามอบความสุขสมให้นางเท่าไรมันยังแปลกที่เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ มาเป็นที่หนึ่งสำหรับนางเสมอ วันนี้นางโดนหักเงินกลับอารมณ์ดี ยิ้มแก้มปริ คนในบ้านทักนางอย่างสงสัยว่ามีเรื่องดีอะไรหรือเปล่า ขณะบ่าวรับใช้มารอรับนางพร้อมรถม้า บ่าวชายสองคนยังคงเป็นคนเดิม นางเข้าไปเจรจากับพวกเขาอย่างสุภาพ ขอให้อดทนอยู่กับเจ้านายเถิด ท่านหวังเฟยอารมณ์ดีบ้างร้ายบ้าง เดี๋ยวก็หาย เขาจะดีขึ้นอย่างแน่นอน ตราบใดที่ผู้คนรอบกายไม่ทอดทิ้งเขาให้โดดเดี่ยวเดียวดายกลับมาถึงเรือนไม้กว้างขวางในยามเซิน

  • ท่านอา อย่าร่ำสุรา   14

    เมื่อท่านอาหนุ่มแทรกมือเข้าบีบเคล้นเต้าเต่งตึง ไม่ยอมให้นางห้ามปรามเขาได้อีก ฝ่ามืออีกข้างจับมือของนางสอดประสานทุกปลายนิ้ว เขาก้มหน้าจูบนางซ้ำ ๆ ให้นางหลงใหลในวังวนเสน่หา นางไม่แม้จะเอ่ยห้ามปรามเขาด้วยความหวาดกลัว หากให้การต้อนรับท่านอาไม่ต่างจากนางบำเรอร่างสูงใหญ่กำยำ มิใช่ชายขี้เมา ไร้สตรีเหลียวแล ไร้เรี่ยวแรงเหมือนคนป่วยอย่างเมื่อหลายเดือนก่อน วัน ๆ เขาเฝ้ากอดแต่ไหเหล้า คนในบ้านสกุลเยี่ยหัวเราะเยาะเย้ยลับหลังว่าเขาจะยังใช้การได้หรือเปล่า ถึงส่งเจียลี่ไปดูแล นางงามเท่าไรก็คงไม่สามารถทำให้ความเป็นชายของเขาแข็งขึงขึ้นมาได้หวังเฟยลบคำสบประมาทเหล่านั้นโดยสิ้นเชิง เขาก้มหน้าลงดื่มด่ำยอดปทุมถัน ทั้งซ้ายขวาอย่างเท่าเทียม มือบีบเคล้นเนินอกเต่งตึง ด้วยความระมัดระวังเอาใจนาง ไม่ให้รู้สึกเจ็บแม้แต่น้อย กระทั่งสตรีร่างเล็กรับรู้ได้ถึงบางสิ่ง ผงาดรอนางอยู่เหนือหน้าท้อง น้ำเปียกฉ่ำไม่รู้ว่าเป็นน้ำในอ่างหรืออย่างไรแน่“ท่านอา... ร่างกายข้าฝืนทนไม่ไหวอีกแล้วเจ้าค่ะ ท่านไม่ควรรังแกข้า...” ริมฝีปากสีชาดที่เม้มสนิทคลายออก เพื่อเอ่ยคำขอร้องเขาอย่าได้กลั่นแกล้งนาง ให้นางต่อสู้กับความรู้สึกประหลาดมากมา

  • ท่านอา อย่าร่ำสุรา   13

    ที่ผ่านมาท่านอาไม่เคยแตะต้องนางแม้ปลายผม กระทั่งถ้อยคำรื่นหูของเขา หาใช่เสียงตะคอกโวยวายเพราะความเมา นางไม่เคยคิดว่าจะได้ยิน“เจ้าอย่าทิ้งข้าไปเลยนะเจียลี่ รอข้าสักหน่อย ข้าจะไปสู่ขอเจ้ามาอยู่กับท่านอาขี้เมาทุกวัน...”หวังเฟยรู้ว่าโรคทางใจได้รับการเยียวยารักษาเป็นอย่างดี เขาจึงมิใช่ท่านอาคนเดิมเห็นใบหน้าตกใจของนาง เรียวปากอิ่มสีชาดเม้มปิดสนิทแน่น พาให้เป็นสุขโดยไร้สาเหตุ นางลุกขึ้นไปเรียกบ่าวให้ต้มน้ำ เตรียมน้ำอุ่นให้เขาอาบ ถังไม้ลอยด้วยดอกไม้หอม เขาแสร้งทำโวยวายเรียกคนดูแลให้เข้ามา“มีอะไรเจ้าคะ ท่านอา... น้ำร้อนไปหรือ?”เจียลี่ไม่ทันได้ระวังตัว ร่างกำยำลุกขึ้นมาคว้าเอวนางกอดเข้าหมับ นางร้องวี้ดว้ายตกใจ ยันแผงอกกว้างไว้ด้วยแรงน้อยนิด หน้าตาตื่นตระหนกเงยขึ้นมองฝ่ายรุกเร้า เขาไม่ได้ถอดเสื้อผ้าแต่ยังอยู่ชุดที่เกือบจะหลุดก็ไม่ยอมหลุด“ข้าไม่มีเสื้อผ้าเปลี่ยนแล้ว ท่านอาทำอะไรน่ะ” นางก็กลัวว่าจะเปียกไปด้วยกับเขาที่ลงไปแช่น้ำทั้งเสื้อผ้าไม่ยอมถอด ตาหลุบมองรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ร้ายกาจ“เจ้ามี ข้าเห็นว่าเจ้านำเสื้อผ้ามาเผื่อทุกครั้ง ข้าชอบทำเสื้อผ้าของเจ้าเลอะเทอะ”“วันนี้ข้าไม่ได้นำติดมือมา ตั้ง

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status