Share

บทที่ 3

"ตุ้บ"

ซูเนี่ยนถูกโยนลงบนเตียงที่อยู่ในเรือนลั่วสุ่ย บาดแผลบนร่างกายฉีกขาด ที่หน้าผากของซูเนี่ยนมีเหงื่อไหลออกมา

เรือนลั่วสุ่ยถูกปล่อยทิ้งให้ร้าง ไม่มีผู้ใดปัดกวาดเช็ดถูจึงเต็มไปด้วยฝุ่น อีกทั้งยังมีกลิ่นอับด้วย สาวใช้ทั้งสาวและแก่ต่างก็รังเกียจกัน สายตาที่มองดูซูเนี่ยนก็ดูเหยียดหยามมากยิ่งขึ้น

"ถุ้ย ถึงอย่างไรก็เป็นสตรีสูงศักดิ์ สิ่งที่ทำลงไปกลับเทียบคนในเรือนโกวหลานไม่ติดเลยสักนิด สมควรแล้วจริงๆ"

ใบหน้าของหลิวหมัวมัวบวมแดง แต่พอเห็นสภาพที่จนตรอกของซูเนี่ยนแล้ว ก็ถ่มน้ำลายอย่างภาคภูมิใจ

"หุบปาก เจ้าเป็นใครกันถึงได้มาสั่งสอนข้าที่เป็นพระชายา ต่อให้ข้าไม่ดีอีกสักเพียงใด ข้าก็เป็นคนของราชวงศ์อวี้เตี๋ย ทั้งยังเป็นพระชายาด้วย"

ซูเนี่ยนจ้องมองหลิวหมัวมัวด้วยสายตาที่เย็นชา ไอสังหารผุดขึ้นที่นัยน์ตาของนาง

"อุ้ย บ่าวลืมไปเลยว่าท่านยังเป็นพระชายาอยู่ เช่นนั้นบ่าวไม่รบกวนพระชายาแล้วเพคะ ท่านก็อยู่ที่เรือนลั่วสุ่ยนี่ไปตามยถากรรมเถิด ท่านอ๋องสั่งการมาแล้ว ไม่ว่าท่านต้องการอะไร ก็ไม่ต้องเอาให้ท่านทั้งนั้น"

หลิวหมัวมัวรับรู้ได้ถึงสายตาอันเย็นชาของซูเนี่ยนจนรู้สึกสั่นสะท้าน แต่ไม่นานก็ได้ตอบโต้กลับด้วยการถ่มน้ำลายใส่ นางจะกลัวพระชายาที่ไร้ค่านี่ได้อย่างไร ซูเนี่ยนบุตรภรรยาเอกผู้นี้ เป็นสตรีสูงศักดิ์ที่ไร้ประโยชน์ที่สุดเท่าที่นางเคยพบเจอมา

หลิวหมัวมัวพูดจบก็พาสาวใช้คนอื่นๆ ออกไป โดยไม่เหลือไว้คอยรับใช้ซูเนี่ยนสักคน

ในยามนี้ทั่วทั้งร่างกายของซูเนี่ยนราวกับจะแตกสลาย นางรู้สึกปวดแสบปวดร้อนที่บั้นท้าย คอแห้งผาก อวัยวะภายในร่างกายเจ็บปวดแสนสาหัส คาดว่าน่าจะได้รับบาดเจ็บภายใน บริเวณท้องก็เจ็บเป็นช่วงๆ องครักษ์กลุ่มนั้นลงมือได้เหี้ยมโหดมาก ต้องการให้นางตายชัดๆ!

ซูเนี่ยนยิ้มอย่างขมขื่น นึกถึงตัวนางที่เป็นหมออัจฉริยะ ทะลุมิติเวลามาก็แล้ว ยังมีสภาพน่าสังเวชได้ถึงเพียงนี้ ช่างน่าขายหน้าจริงๆ

เมื่อใช้มือตรวจดูชีพจร ซูเนี่ยนก็ต้องตะลึงงันไป ความรู้สึกนี้ไม่ได้มีเพียงบาดแผลและการตั้งครรภ์เท่านั้น แต่นางยังถูกวางยาพิษอีก ซ้ำยังเป็นยาพิษสองชนิด ชนิดหนึ่งเป็นยาพิษที่กำเริบช้า ดูแล้วน่าจะถูกพิษมาสี่ถึงห้าปีแล้ว ส่วนอีกชนิดหนึ่งเป็นยาพิษแบบเฉียบพลัน ต้องกินยาแก้พิษเป็นระยะๆ

เจ้าของร่างเดิมช่างเป็นคนที่น่าสงสารจริงๆ

ไทเฮาเป็นคนวางยาพิษแบบที่กำเริบเฉียบพลัน

ส่วนยาพิษแบบที่กำเริบช้าน่าจะเป็นอนุที่รักของพ่อนางเป็นคนวาง นึกถึงซูกั๋วกงพ่อแท้ๆ ของเจ้าของร่างเดิมแล้ว ดวงตาของซูเนี่ยนก็ดูเยือกเย็นทันใด แม่ของเจ้าของร่างเดิมจากโลกนี้ไปตั้งแต่ยังสาว หลายปีมานี้ความเป็นอยู่ของนางในจวนกั๋วกงยังเทียบกับคนรับใช้ไม่ได้เลย ซูเยียนหรันกับเจียงซื่อผู้เป็นป้าของนางทารุณเจ้าของร่างเดิมด้วยวิธีการต่างๆ และน้องชายแท้ๆ ผู้อ่อนแอที่อยู่ในเงื้อมมือพวกนางก็ไม่กล้าต่อต้าน

ที่น่าขยะแขยงกว่านั้นก็คือ พวกนางฮุบสินเดิมของท่านแม่นางไปด้วย ซูเนี่ยนเม้มริมฝีปาก คนเหล่านี้นางจะไม่ปล่อยเอาไว้แม้แต่คนเดียว ต้องให้พวกนางได้ลิ้มลองรสชาติของหนี้เลือดนี้

ซูเนี่ยนขมวดคิ้ว พิษนี่ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับนาง สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือ ทำให้ทารกในครรภ์ปลอดภัยกับการรักษาบาดแผล เด็กคนนี้กับนางมีวาสนาต่อกัน ถูกตีมาอย่างหนักแต่ยังมีชีวิตรอดได้ นางจะต้องปกป้องเขา

แต่ที่นี่ก็ไม่มีใครอื่นอีกแล้ว นางเองก็ขยับตัวไม่ได้ ควรทำอย่างไรดี

"จี๊ด จี๊ด"

หนูอ้วนสองตัวนี้ปีนขึ้นไปบนโต๊ะอย่างโจ่งแจ้ง

เรือนลั่วสุ่ยคือเรือนร้างในจวนอ๋อง ซึ่งอยู่ไกลจากลานหลักที่สุด ปกติขนาดสาวใช้ยังไม่มาด้วยซ้ำ คนรับใช้ที่แอบอู้งานก็ย่อมจะไม่มาทำความสะอาดอะไรมากอยู่แล้ว

มีฝุ่นหนาเตอะทั้งบนโต๊ะและพื้น แน่นอนว่า ที่นี่เป็นสถานที่ที่หนูแวะเวียนมาบ่อยๆ

"จี๊ด จี๊ด เหตุใดวันนี้ถึงได้มีคนอยู่ที่นี่ ทั้งยังเป็นสตรีอัปลักษณ์อีกด้วย"

'จี้ด จี้ด ไม่รู้สิ ดูสภาพแล้วคงจะอยู่ได้อีกไม่นาน ไม่ต้องสนใจนางหรอก"

"จี้ดจี้ด แต่ว่า เหตุใดนางถึงมองมาที่พวกเราตลอดล่ะ"

ริมฝีปากของซูเนี่ยนกระตุก สตรีที่อัปลักษณ์?

เจ้าของร่างเดิมอัปลักษณ์มากนักหรือ นางยังไม่รู้เลยว่าตนเองมีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร แต่ตอนนี้ตนอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากขนาดนี้ ไม่รู้จะหน้าตาดีไปทำไม

"จี๊ดจี๊ด เหตุใดข้าถึงได้รู้สึกว่านางฟังที่พวกเราพูดออกล่ะ"

"จี๊ด~เป็นไปไม่ได้ มนุษย์จะฟังเสียงสัตว์รู้เรื่องได้อย่างไร รีบไปกันเถอะ"

"หยุดนะ" ซูเนี่ยนตะโกนออกมา

"เอ๋? กำลังพูดกับพวกเราอยู่หรือ?"

"ถูกต้อง กำลังพูดกับพวกเจ้าอยู่นั่นแหละ" ซูเนี่ยนตอบอย่างเกียจคร้าน

นางลืมเรื่องที่นางมีพลังพิเศษนี้ไปได้อย่างไร พลังพิเศษนี้นางมีติดตัวมาตั้งแต่เกิด พลังพิเศษที่สามารถฟังคำพูดของสัตว์ออก ทั้งยังสามารถเรียกฝูงสัตว์ร้ายออกมาได้ด้วย

ไม่มีใครช่วยนาง นางก็สามารถใช้พลังพิเศษนี้ช่วยเหลือตัวเองได้

"สตรีอัปลักษณ์ เจ้าฟังพวกเราออกจริงๆ หรือ"

หนูอ้วนสองตัวปีนขึ้นไปข้างหัวเตียง ดวงตาเท่าเมล็ดถั่วจ้องมองไปยังซูเนี่ยนอย่างประหลาดใจ

"ยังไม่รู้อีกหรือว่าข้าฟังพวกเจ้าออกหรือไม่ อีกอย่างไม่อนุญาตให้พวกเจ้าเรียกข้าว่าสตรีอัปลักษณ์ ไม่งั้นข้าจะถอนขนหนูของพวกเจ้าออกให้หมด" ซูเนี่ยนพูดขู่

"นี่ เจ้าผู้หญิงใจร้าย เจ้าตะโกนเรียกพวกเราสองพี่น้องทำไมกัน" หนูอีกตัวกล่าว

"ข้าขยับตัวไม่ได้ พวกเจ้าช่วยไปเอายาป้องกันการแท้งบุตรกับยารักษาบาดแผลที่ห้องยาของจวนอ๋องมาให้ข้าที"

"ทำไมพวกเราต้องช่วยเจ้าด้วย" หนูตัวหนึ่งกล่าวอย่างเหยียดหยาม ก็เห็นๆ กันอยู่ว่าสตรีผู้นี้ขยับตัวไม่ได้ แล้วจะตีพวกมันได้ที่ไหนกันเล่า

"เช่นนั้นพวกเจ้าก็ลองดูว่า หากข้าไม่อนุญาต พวกเจ้ายังจะไปได้อยู่หรือไม่" ซูเนี่ยนมองหนูทั้งสองอย่างมั่นใจ

"ขู่ใครกัน ไปกันเถอะ"

หนูทั้งสองตัวพูดจบกำลังจะเดินจากไป แต่กลับพบว่าขยับตัวไม่ได้ จึงตะโกนร้องจี๊ดจี๊ดออกมา

"ตอนนี้ ไปเอายามาซะ" ซูเนี่ยนออกคำสั่ง

พอพูดจบ หนูสองตัวนั้นก็เดินออกไปอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้

ในจวนอ๋องที่กว้างใหญ่ หนูทั้งสองตัวได้เดินผ่านทางที่คดเคี้ยวไปถึงห้องยาอย่างไร้ซุ่มเสียงใดๆ จากนั้นก็อมยาไว้ในปากแล้วกลับมายังเรือนลั่วสุ่ยเงียบๆ

ซูเนี่ยนกลืนยาป้องกันการแท้งบุตรลงไป แล้วทายารักษาบาดแผล ร่างกายถึงจะรู้สึกดีขึ้นมาเล็กน้อย นางผ่อนลมหายใจอย่างหนักแล้วหลับลึกทันใด

ไม่กี่วันต่อมา จวนอ๋องหลีเงียบสงบดีมาก หากสังเกตให้ดีจะพบว่าสัตว์ทั่วทุกมุมมีความกระตือรือร้นและเคลื่อนไหวไปมาในทิศทางเดียวกัน อีกทั้งในปากยังคาบอาหาร ของใช้ สมุนไพรปรุงยาต่างๆ ทุกสิ่งที่ต้องการไว้อีกด้วย

Comments (1)
goodnovel comment avatar
ชรัญญา นาทองเกิ้น
มีแต่นางเอกที่โดนทารุณกรรมขนานท้องโย้ยังโดนตีน่าจะแท้งอะตามจริงโหดมากสมัยโบราณน่ากลัวจิงๆ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status