ログインผ้าเช็ดมือที่เปียกชื้นหลีโย่วไม่น่าจะแยกไม่ออก จนเอาผ้าเช็ดมือของเธอไปใช้เช็ดหน้าให้เธอแล้วทำไมเมื่อเช้าเธอถึงไม่คิดถึงตรงจุดนี้??!!แล้วตกลงเป็นใครกันแน่ คนขับรถหรือ…หลีเชิน?คาดเดาในใจเพียงสองวินาที ซูมั่วเม้มริมฝีปากแน่นหวังว่าจะเป็นคนขับรถนะ อย่างน้อยคนขับรถก็น่าจะสมเหตุสมผลมากกว่า เพราะต้องเป็นคนที่ทำงานบริการถึงจะใส่ใจละเอียดขนาดนี้แต่…การมาเช็ดหน้าให้เธอมัน ‘ละเอียดเกินไป’ หรือเปล่า?ยังไงอีกฝ่ายก็เป็นผู้ชาย ชายหญิงแตกต่างกัน จริง ๆ แล้วแค่มาส่งเธอกลับเข้าบ้านก็น่าจะพอแล้วแต่เขาก็มีความหวังดี ซูมั่วไม่ควรจะไป ‘คาดเดา’ อะไรเพิ่มเติม แต่ในสมองเธอก็ยังนึกถึงเหตุการณ์ในตอนเช้าที่ตัวเองตื่นขึ้นมาเสื้อผ้ายังไม่ได้ถอด ยังอยู่ครบเรียบร้อย สายชุดชั้นในหรืออะไรอื่น ๆ ก็ไม่ได้บิดเบี้ยว ดังนั้นน่าจะไม่ได้มีเรื่องไม่เหมาะสมเกิดขึ้นแค่คิดว่าคนแปลกหน้าคนหนึ่งเอาผ้าเช็ดมือมาเช็ดมือเช็ดหน้าให้เธอ ก็รู้สึก…แปลก ๆ นิดหน่อยขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น มาถึงชั้นร้านอาหารแล้ว ซูมั่วไม่ได้รอข้อความจากหลีโย่ว แต่ปรากฏว่าแจ้งเตือนโทรศัพท์เด้งขึ้นมา…เป็นข้อความจากหลีเชิน[นี่ก็เป็นครั
จนถึงตอนนี้ เรื่องราววนกลับมาเป็นวงกลมในเรื่องธุรกิจถือว่าเขาทำได้ไม่เลว แต่ในเรื่องการอบรมเลี้ยงดูลูกหลานนั้นเขากลับล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงคนเราอายุมากขึ้น ก็ไม่ได้รั้นเหมือนแต่ก่อนแล้ว เขามักจะคิดทบทวนอยู่บ่อย ๆ ว่าเหมือนเขาจะเข้มงวดกับลูกชายและหลานชายมากเกินไป ถึงขั้นบังคับเรื่องการแต่งงานของพวกเขาแต่บางครั้ง เขาก็ยังรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิดเพราะฟู่ปั๋วหมิงไม่มีทั้งความสามารถและพรสวรรค์อะไร เขาจึงหาคนที่มีความสามารถทางธุรกิจมาช่วย เพื่อช่วยให้ลูกชายสามารถยืนหยัดในตำแหน่งได้อย่างมั่นคงเป็นเขาเองที่มีตาไม่มีแวว ไม่รู้จักคุณค่า ถูกผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่มีสามารถสนับสนุนอะไรเขาได้พูดหลอกล่อไม่กี่คำก็ไปแล้วตอนนี้ชีวิตก็ไม่ใช่ใช้ชีวิตไปวัน ๆ หรอกเหรอ? เรียกได้ว่าล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงพอมาถึงฟู่อี้ชวน เย่ซินหย่าก็เป็นผู้หญิงที่ร้ายกาจคนหนึ่ง แต่เขากลับรักเธอจนแทบบ้าซูมั่วเป็นผู้หญิงที่ดีขนาดนั้นเขากลับไม่รู้จักถนอม จนหย่าขาดกันไปแล้ว ถึงค่อยกลับไปตามง้อสุดท้ายฟู่อี้ชวนกลับโทษเขา และพูดถ่อยคำหยาบคาบทิ่มแทงใจเขาถ้าจะพูดถึงการแต่งงานตามข้อตกลงนี้เขาเองก็รู้สึกผิด แต่ก็แค่ก
“ใช่ ผมยังคิดว่าจะโดนประธานฟู่ด่าด้วยซ้ำ หลี่หยวนก็เป็นคนฉลาดนัก ไม่ยอมช่วยพูดเรื่องนี้เลย ยังไงก็ตามยังไม่เห็นข้อดีของงานนี้เลย แต่มีข้อเสียเต็มไปหมด” โจวเฉิงถอนหายใจแล้วพูดอีกทั้งโปรเจกต์เล็ก ๆ ของติ่งเซิ่งที่เดียว กลับต้องให้เขาเป็นคนนำทีมด้วยตัวเองเดิมทีเรื่องแบบนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ระดับผู้จัดการมาเข้าร่วมเลย หาหัวหน้าทีมมาทำก็พอแล้ว ส่วนเขาก็รับผิดชอบเซ็นชื่อแต่บังเอิญว่า นี่เป็นคำสั่งของประธานฟู่ ไม่เพียงแต่ผู้จัดการต้องติดตามตลอดกระบวนการ ประธานฟู่ก็จะติดตามไปด้วยเขาเสียใจภายหลังจริง ๆ ที่ตอนนั้นแย่งงานกับผู้จัดการคนอื่น ใช้ชีวิตอยู่ภายใต้ผู้บังคับบัญชาสูงสุดมันจะง่ายขนาดนั้นได้ยังไง“ผมเอาคำพูดไปบอกแล้ว แล้วก็ห้ามแล้วด้วย แต่ประธานฟู่ไม่ฟังเลยผมก็จนปัญญา เปลี่ยนให้พระเจ้ามาก็คงห้ามไม่อยู่” โจวเฉิงถอนหายใจอีกครั้งพร้อมกล่าวในเวลานั้น ที่โรงพยาบาลเอกชนพ่อบ้านนำเนื้อหาที่ได้รับจากโทรศัพท์ถ่ายทอดให้ชายชราที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้ฟัง ชายชรามีสีหน้าเฉยเมย และแค่นเสียงเย็นชาว่า“เขาจะไปแล้วฉันยังจะจัดการได้อีกเหรอ? โตแล้วปีกกล้าขาแข็ง แม้แต่ฉันที่เป็นปู่ก็ไม่เห็นอยู่ในสายตาแ
เขาไม่ไปโดนด่าด้วยหรอก โจวเฉิงคนนี้ก็ร้ายเงียบเหมือนกันได้ยินคำพูดนี้ โจวเฉิงก็รู้ว่าเป็นแค่ข้ออ้างเท่านั้น“ช่างเถอะ ถ้าคุณยุ่งผมจะไปเอง ไม่ต้องหาผู้ช่วยตัวเล็ก ๆ มาหรอก” โจวเฉิงกล่าวหลี่หยวนส่งเสียง “อืม ๆ” สองครั้ง จากนั้นโทรศัพท์ตั้งโต๊ะก็ถูกวางสาย เขาพึมพำกับตัวเองอย่างพูดไม่ออก“ไปโดนด่าเองเถอะ อย่ามาหาฉันเลย ฉันยังอยากมีชีวิตอยู่ต่ออีกสักสองวัน”แม้เขาจะไม่ได้บอกอีกฝ่ายว่าความจริงประธานฟู่ตัดสินใจไปที่ติ่งเซิ่งตั้งแต่เช้าแล้ว แต่เขาก็ไม่มีความจำเป็นต้องพูด เพราะเขาเป็นคนของประธานฟู่นอกจากนี้ โจวเฉิงคนนี้ยังคิดจะดึงตัวเองไปรับเคราะห์แทนด้วย หึ ไม่มีภาระหน้าที่ทางจิตใจที่ต้องปิดบังอีกต่อไปแล้วไม่นานนัก โจวเฉิงก็ขึ้นไปที่ห้องทำงานประธานชั้นบนสุดตอนเดินผ่านห้องทำงานผู้ช่วย เขาจงใจชำเลืองมองครั้งหนึ่ง พบว่าหลี่หยวนไม่อยู่จริง ๆความจริงแล้ว เขารู้สึกว่าเรื่องนี้ควรให้หลี่หยวนเป็นคนพูด ถึงยังไงอีกฝ่ายก็เป็นผู้ช่วยอันดับหนึ่งของประธานฟู่แต่โปรเจกต์นี้ก็เป็นตนที่ทำ คุณท่านฟู่ยังกำชับตนไว้หนึ่งรอบแล้วด้วยว่า ถ้าช่วงบ่ายประธานฟู่ไปติ่งเซิ่งจริง ๆ สุดท้ายคนที่จะถูกหาเรื่องใ
เย่ซินหย่าวางยาเขา และกู้หวยก็ถือโอกาสตามน้ำ หาคู่นอนชั่วคราวถ้าเป็นแบบนี้ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าเขาจะไม่ส่งคนมา ผู้หญิงน่ะ ตนสามารถหาคนมาแทนให้เขาได้เป็นร้อยคน......ฟู่อี้ชวนมาทำงานที่บริษัทแล้ว แถมยังปรากฏตัวในการประชุมด้วย เหล่าลูกน้องที่แสดงความห่วงใยและให้กำลังใจ ก็เห็นว่าสภาพจิตใจกับสีหน้าของประธานฟู่ไม่ค่อยดีนักจริง ๆเมื่อได้ยินเหล่าผู้บริหารพูดเรื่องนี้ในช่วงพักดื่มชา ฟู่อวี่เหิงที่อยู่ด้านข้าง ก็แค่นเสียงเย็นชาสองครั้งเขาไม่ได้ป่วย แต่ไปติดอยู่ในสถานกักกันต่างหากน่าเสียดายจริง ๆ ที่ไม่สามารถเปิดเผยออกมาทันทีได้ แต่หลักฐานเขาก็เตรียมไว้พร้อมหมดแล้ว ขาดแค่ไฟกองสุดท้าย“คุณชายรอง คุณคิดเห็นยังไงครับ?” หวังฮ่าวเดินเข้ามาพูดอย่างประจบสอพลอตอนนี้ผู้บริหารทั้งเล็กใหญ่ในฝ่ายการตลาดต่างก็รู้ฐานะของเขาแล้ว นี่ล้วนเป็นความดีความชอบของหวังฮ่าว ที่พาคนทั้งแผนกไปพึ่งพิงเจ้านายที่ฉลาดหลักแหลมก่อน“โธ่ คุณชายรองก็แค่กลับมาช้าไปหน่อย ไม่อย่างนั้นโอกาสดีแบบนี้ ต้องเป็นคุณที่ได้รักษาการตำแหน่งแทนแน่นอนครับ!” รองผู้จัดการกล่าว“ใช่ครับ คุณชายรองมีประวัติการศึกษาดีขนาดนั้น แถมยังฉ
ติ่งเซิ่ง นั่นไม่ใช่บริษัทที่ซูมั่วอยู่เหรอสาเหตุที่ติดต่อกับบริษัทนั้น ทั้งหมดเป็นเพราะประธานฟู่ต้องการพบซูมั่วตอนนี้ทั้งสองคนหย่าขาดกันโดยสมบูรณ์แล้ว ประธานฟู่เขายังจะ...ไปอีกเหรอ?“เจรจากับทีมของประธานโจวเรื่องการพัฒนาแพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์” หลี่หยวนชะงักไปเพียงครึ่งวินาที จากนั้นก็พูดต่อจนจบฟู่อี้ชวนที่เดิมทีสีหน้าไม่มีความเปลี่ยนแปลงใด ๆ หลังได้ยินกำหนดการนี้ ก็ชะงักมือที่กำลังดื่มโจ๊กอยู่เขาไม่ได้เอ่ยปาก หลี่หยวนก็รู้ว่าเขาจะไปเมื่อรายงานกำหนดการทั้งหมดเสร็จสิ้น หลี่หยวนจึงพูดเรื่องที่ไม่ได้พูดถึงเมื่อวานนี้“คุณสั่งให้ผมติดตามความเคลื่อนไหวของเย่ซินหย่า ไม่ให้เธอออกนอกเมืองจิง ตอนนี้เธอยังอยู่ในเมืองจิงครับ”ฟู่อี้ชวนเงยหน้าขึ้น สายตายิ่งเย็นชาเฉยเมยมากขึ้นแม้จะหย่ากับซูมั่วแล้ว แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการที่เขาจะไปสะสางบัญชีกับเย่ซินหย่าแรกเริ่มตอนที่ยังไม่รู้ตัวว่าหลงรักซูมั่ว เขายอมรับว่าเขาทำเกินไป แต่ก็มีแค่คำพูดเย็นชาทว่าหลังจากเย่ซินหย่าปรากฏตัว จากคำพูดกลับเพิ่มระดับไปถึงร่างกาย สร้างความเสียหายที่ไม่อาจลบเลือนให้แก่เธอหลังเท้าถูกลวกบาดเจ็บ ได้รับพ







