بيت / รักโบราณ / นางกลับมาเพื่อร่ำรวย / บทที่ 3 สตรีมเก็บของป่ายุคโบราณ

مشاركة

บทที่ 3 สตรีมเก็บของป่ายุคโบราณ

last update آخر تحديث: 2025-08-20 21:13:08

เป็นเวลาหลายชั่วโมงที่หลี่โต๋วเปาอยู่กับฉินอี้หนิงอย่างใกล้ชิด บ้านไม้หลังนี้ถูกสร้างไว้อย่างดี แม้ไม่หรูหราหรือตระการตาเทียบเท่ากับยุคสมัยที่ชายหนุ่มจากมา ทว่าในสายตาของหลี่โต๋วเปา ความเรียบง่ายเช่นนี้มันกลับดูสวยงามไม่น้อยเลย

หน้าบ้านเป็นห้องเก็บสมุนไพรที่ถูกจัดเรียงไว้อย่างสะอาดสะอ้าน ถัดมาคือห้องทานอาหารของทั้งสาม ในห้องนี้มีพื้นที่เล็กๆ ที่แยกย้อยเป็นบันไดไม้เงางาม เพื่อใช้ขึ้นไปยังห้องนอนซึ่งอยู่ขนาบข้างห้องเก็บบรรดาหนังสือตำราแพทย์ ด้วยเพราะใช้ร่างแมวเดินสำรวจ ชายหนุ่มจึงรู้ว่าห้องนอนใหญ่ติดบันไดเป็นห้องของท่านตาท่านยาย ส่วนห้องเล็กๆ ที่อยู่ท้ายสุดคือห้องของฉินอี้หนิง

ในส่วนท้ายของบ้านคือห้องครัว บอกตามตรงว่าหลี่โต๋วเปาชื่นชอบห้องนี้เป็นพิเศษ เพราะมันสื่อถึงวัฒนธรรมของคนยุคนี้ได้ดีที่สุด ทั้งการถนอมอาหารไว้ในรูปแบบแฮม ถนอมผักไว้กินหน้าหนาวในรูปแบบของหมักดองหรือของแห้ง เก็บเมล็ดพันธุ์ รวมถึงบรรดาเครื่องเทศต่างๆ ไว้ด้วยกรรมวิธีที่ชายหนุ่มไม่รู้จัก

ในส่วนของห้องสำหรับขับถ่ายของเสียนั้น ไม่ค่อยน่าอภิรมย์ใจเท่าใดนัก ยิ่งเมื่อเป็นสายตาของชายหนุ่มผู้เป็นถึงคุณชายยิ่งแล้วใหญ่ เพราะมันเป็นเพียงส้วมแห้ง [1] ตั้งอยู่บริเวณใกล้ครัว เป็นห้องเล็กๆ ที่ถูกแยกไว้ด้วยฝาผนังไม้ไผ่สานอย่างดี ทว่าประตูเข้าออกเป็นเพียงผ้าผืนหนาแขวนไว้พอให้คนเข้าออกเท่านั้น สิ่งที่แย่ที่สุดคือการที่ภายในห้องนั้นมีเพียงแท่นไม้ยกสูงขนาดพอคนนั่งได้ บนแท่นไม้นั้นมีรูวงรีขนาดพอดีตัว ด้านล่างของรูมีถังดินเผาวางอยู่ คะเนว่าคงใช้สำหรับรองรับของเสีย บ้านอื่นไม่รู้เป็นอย่างไร แต่บ้านสกุลฉินใส่เถ้าไม้และฟางข้าวลงในถังเพื่อดูดกลิ่นเหม็นของอุจจาระ

คงไม่ต้องบอกว่าใครนำไปทิ้ง แน่นอนว่าคนคนนั้นก็คือฉินอี้หนิงนั่นเอง

แต่ก็ถือว่านางเป็นคนสะอาดสะอ้านคนหนึ่ง ออกจะละเมียดละไมที่สุดในบ้านหลังนี้แล้วกระมัง นางแตกต่างจากชาวบ้านคนอื่นอย่างชัดเจน แต่ก็แข็งแกร่งเกินกว่าจะเป็นคนที่ทำอะไรไม่ได้

ตุบ…

ร่างเจ้าแมวสีขาวอดไม่ได้ที่จะเข้าไปนั่งใกล้ๆ คนที่กำลังหายใจเข้าออกอย่างเป็นจังหวะ สตรีงามในยุคอดีตคือแบบนี้นี่เอง ทุกองค์ประกอบบนใบหน้าของฉินอี้หนิงสามารถสะกดหลี่โต๋วเปาให้ติดอยู่ในภวังค์บางอย่างได้อย่างง่ายดาย โดดเด่นโดยธรรมชาติของแท้

กระทั้งคอมเมนต์ของใครบางคนเด้งขึ้นมาบริเวณระยะสายตา

[ซินซินผีน้อยนักรัก : เป็นตัวละครที่สวยจนเหมือนไม่มีอยู่จริง]

…..

[Sunfan : หลงเลยครับ]

พรึบ!!!

จบคอมเมนต์นั้น สตรีมของแมวอ้วนสีขาวที่มีดวงตาสีอความารีนแสนโดดเด่นก็จบลงราวกับที่บ้านของผู้สตรีมแก่นพลังงานหมดแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ไม่มีการเอ่ยคำบอกลา ไม่มีการเชิญชวนทุกคนให้มาดูต่อ ไม่มีอะไรทั้งนั้น…

เครื่องย้อนอดีตถูกเปิดในเวลาต่อ ก่อนที่ร่างสูงจะกลับไปยังห้องของตน และทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างเงียบงัน

วันนี้มันแทบจะดีที่สุด แต่มีข้อเสียเล็กๆ คือเขากินข้าวยังไม่ค่อยอิ่มนัก วันหน้าคงต้องคิดวิธีที่จะสามารถทำให้ผู้หญิงคนนั้น เอาอาหารมาให้กินเยอะๆ เสียแล้วสิ หรือควรใช้พลังจิตกับเธอดี?

เพียงไม่นานระบบอาบน้ำอัตโนมัติก็ทำงานเสร็จสิ้น ไม่นานอดีตจอมพลแห่งจักรวรรดิอวกาศก็เข้าสู่ห้วงนิทรา โดยมีเสียงหวานใสของสตรีเมื่อหลายหมื่นปีก่อนคอยกล่อมในความฝัน

ในเช้าวันใหม่ที่ไม่มีเจ้าแมวสีขาวตัวนั้นอยู่…

ยามนี้ฉินอี้หนิงกำลังเตรียมตัวเพื่อขึ้นเขาไปกับท่านยายของนาง การแต่งกายของเด็กหญิงดูทะมัดทะแมงมากกว่าปกติ ซ้ำยังใช้ผ้าพันไปหน้าเสียจนเกือบมด หลงเหลือเพียงส่วนดวงตาเท่านั้นที่ยังพอทำให้รู้ว่าเป็นคน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านางต้องใช้ความพยายามอย่างหนักในการสร้างความองค์อาจเยี่ยงบุรุษเพศ

“เจ้าโต๋วเปามันหายไปไหนของมันกันหนอ” เป็นท่านตาที่เอ่ยขึ้นก่อน

“ถ้ามันชอบที่นี่ เดี๋ยวมันก็คงกลับมาบ้านเราด้วยตัวเองนั่นล่ะ” เป็นท่านยายที่ปลอบประโลมผู้เป็นสามี “เจ้าก็รออยู่บ้าน ทำหน้าที่หมอยาต่อไป ข้ากับเสี่ยวหนิงจะรีบกลับมาโดยเร็ว”

“ระวังตัวกันด้วยนะ เห็นว่าช่วงนี้พวกสัตว์ป่ามันเริ่มมาหากินแถวนี้ ถ้าเจอหมูป่าก็อย่าเพิ่งไปสู้กับมันล่ะ”

“เจ้าค่ะท่านตา หนิงเอ๋อร์จะจดจำไว้ แต่ท่านตาไม่ต้องห่วงนะเจ้าคะ หนิงเอ๋อร์เชี่ยวชาญเรื่องขึ้นเขาจะตาย ไม่นานเราก็จะกลับมาเจ้าค่ะ”

“โถ่ เจ้าเด็กนี่ เจ้าอย่ามาคุยโวไปหน่อยเลย” คนชราทำทีจิปาก พร้อมทั้งยื่นมือไปยีผมเด็กหญิงด้วยความหมั่นเขี้ยว

หลังบอกลากันเสร็จสรรพ สองร่างของยายกับหลานก็เดินหายลับขึ้นไปบนภูเขา ทิ้งให้ชายชราซึ่งมีอายุมากที่สุดในบ้านได้แต่มองตามพวกเขาด้วยความห่วงใย

เดินขึ้นไปได้ไม่กี่ก้าวฉินอี้หนิงก็พบเข้ากับเห็ดโคนแสนอร่อยที่นางชื่นชอบนักหนา หลายดอกยังไม่บาน ส่วนบางดอกก็ยังแนบติดกับส่วนโคนอยู่ ซึ่งระยะการเติบโตเท่านี้นี่แหละที่อร่อยที่สุด

กิ่งไม้เล็กๆ ที่วางอยู่บนบริเวณนั้นถูกใช้เป็นอุปกรณ์งัดโคนเห็ดขึ้นมาจากดินร่วนซุย ก่อนที่มือเรียวสวยจะหยิบมันขึ้นมาเพื่อให้หญิงชราที่เพิ่งเดินตามมาได้เห็นอย่างถนัดตา

“ท่านยายดูสิ ปีนี้เห็ดโคนน่าอร่อยไม่น้อยเลยเจ้าค่ะ”

“เอากลับไปผัดเย็นนี้คงจะดี ประเดี๋ยวยายจะรับหน้าที่เป็นคนปรุงเอง” กล่าวจบสายตาของหญิงชราก็หันไปเห็นสมุนไพรที่นางต้องการ จึงได้เอ่ยปากพูดกับฉินอี้หนิงที่กำลังนั่งยองๆ เก็บเห็ดอย่างสนุกสนาน “เดี๋ยวยายจะไปเก็บซานจี้ [2] ก่อน เสี่ยวหนิงอย่าเดินไปไกลนักนะลูก”

“เจ้าค่ะ” เสียงหวานรับคำอย่างสดใส นางมองตามคนชราอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหันกลับมาสนใจวัตถุดิบของป่าหมวดอาหารของตนเองดังเดิม

 

 

[1] ห้องส้วมแห้ง” (ฮั่นเช่อ) ไม่มีระบบน้ำ เหมาะสำหรับใช้ในฤดูหนาว เพราะไม่ต้องเดินออกไปกลางลานหิมะ แม้จะมีกลิ่น แต่ด้วยการใช้วัสดุธรรมชาติเช่นเถ้าไม้ ฟาง และลมถ่ายเท ชาวบ้านก็ใช้กันได้โดยไม่รังเกียจ

[2] สรรพคุณห้ามเลือด บำรุงโลหิต ลดอักเสบ แก้ฟกช้ำ ขึ้นเฉพาะในพื้นที่ภูเขาสูง เช่น ยูนนาน ใช้รักษาไข้ที่มาพร้อมการอักเสบหรือฟกช้ำภายใน

استمر في قراءة هذا الكتاب مجانا
امسح الكود لتنزيل التطبيق

أحدث فصل

  • นางกลับมาเพื่อร่ำรวย   บทที่ 21 ทวงคืนภรรยาที่ถูกพรากไป (จบบริบูรณ์)

    กลับมาที่สถานการณ์ในปัจจุบัน…สิ้นเสียงเหี้ยมกับประโยคไร้มารยาทนั้น เมื่อหลี่หยางหนิงอันหันไปสบสายตากับอีกฝ่าย สิ่งที่เห็นตรงหน้านั้นไม่ใช่เพียงใบหน้าที่ดูคล้ายเขาราวกับแกะ แต่เป็นโทสะและความเหี้ยมเกรียมในแบบที่เขารู้จักดี“เจ้ากล้ามาก ที่มาแตะต้องภรรยา และแตะต้องลูกของข้า” เสียงของหลี่โต๋วเปานิ่งงัน แต่ทุ้มต่ำจนเหมือนจะสามารถสะเทือนผนังหินของตำหนักได้อย่างง่ายดายหลี่หยางหนิงอันเลิกคิ้วเล็กน้อย “ข้ากำลังจะสั่งให้หมอหลวงเอาเด็กในท้องนางออกพอดี แต่เพราะต้องพักฟื้นร่างกายนาน เลยคิดว่าจะพาขึ้นเตียงทั้งที่ยังท้อง คงให้อารมณ์แปลกใหม่ไม่น้อย” ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันจงใจยั่วโมโหฝ่ายนั้น “เช่นนั้นเจ้าคงคิดจะฆ่าข้าสินะ?”ชายหนุ่มในชุดซอมซ่อสีเทาไม่ตอบ มือข้างหนึ่งยกขึ้นช้าๆ ดวงตาของเขาเรืองแสงวาบสีฟ้าอความารีนแผ่วเบา คล้ายกระจกจักรวาลที่สามารถสะท้อนแรงโน้มถ่วงให้ย้อนคืนได้ฉับพลันที่อากาศรอบตัวเริ่มสั่นสะเทือน แรงกดดันไร้รูปประหนึ่งกำปั้นพลังจิตกระแทกเข้าที่กลางอกของจักรพรรดิหนุ่มหลี่หยางหนิงอัน จนเจ้าตัวต้องยกมือขึ้นป้องกันอันตรายที่มองไม่เห็น“อย่าคิดว่าต่อจากนี้เจ้ายังจะสามารถอยู่หายใจได้อีก…”

  • นางกลับมาเพื่อร่ำรวย   บทที่ 20 ไม่ให้อดีตซ้ำรอยเดิม

    หนึ่งเดือนกับอีกสามสัปดาห์ที่หลี่โต๋วเปายังไม่กลับมา ฉินอี้หนิงนั่งจิบชากุหลาบอยู่ที่ชายเรือนสกุลฉิน ลมยามบ่ายพัดกรูจากทิศตะวันออก พาเอาใบไผ่ที่ลู่ลมอยู่บนเนินเตี้ยหล่นเกลื่อนทั่วลานทว่าเสียงกีบม้านับสิบและฝีเท้าเกราะเหล็กที่ดังกึกก้องยิ่งกว่าเสียงพายุ กลับทำให้หมู่บ้านฮุ่ยฟางที่เคยเงียบงัน เกิดความสนันหวั่นไหวราวกับมีเงามรณะเคลื่อนเข้ามาปกคลุมทั่วผืนดินรถม้าขนาดใหญ่สลักลายมังกรดำขอบทอง เคลื่อนมาหยุดลงบริเวณหน้าบ้านสกุลฉิน ก่อนที่บรรดาทหารสวมเกราะดำประทับตราจักรพรรดิหลี่จะวิ่งเข้ามารายล้อมรอบบ้านเอาไว้ ตามมาด้วยเสียงแม่ทัพหนุ่มผู้หนึ่งตวาดดังแทรกเสียงใบไม้ปลิว“เรามารับตัวหรันฝูหรง สตรีอายุสิบเก้าหนาวที่ซ่อนตัวในหมู่บ้านแห่งนี้!”ท่านตาฉินที่กำลังสานกระด้งไม้ไผ่รีบก้าวออกมาจากเรือน ร่างชราภาพฝืนฝ่าแนวทหารเข้ามาขวาง“ขออภัยด้วย ที่นี่ไม่มีใครชื่อเช่นนั้นหรอกขอรับ ข้าไม่รู้จัก! ส่วนสตรีที่อายุสิบเก้า ที่นี่ก็มีเพียงบ้านสกุลหลาน สกุลซ่ง สกุลกั๋ว และหลานสาวของข้า…นางชื่อฉินอี้หนิง”แม่ทัพผู้นั้นกระตุกยิ้มมุมปาก พร้อมทั้งจ้องมองฉินอี้หนิงอย่างเย้ยหยัน“เช่นนั้นข้าก็มาถูกแล้วล่ะ เพราะนามเ

  • นางกลับมาเพื่อร่ำรวย   บทที่ 19 ความวุ่นวายในยุคจักรวรรดิอวกาศ

    ยุคจักรวรรดิอวกาศ ภายในสถานีวิจัยหลักของตระกูลหลี่ ชั้นบัญชาการพลังงานควอนตัม ความวุ่นวายกำลังเกิดขึ้นเมื่อคนที่หายตัวไปกลับเข้ามาสั่งงานจนกองพะเนิน“โธ่เอ๋ย…ครั้งแรกผมก็นึกว่าท่านประธานหลี่ของเราหลุดเข้าไปอยู่ในปฏิกรณ์ชีวภาพจนแยกโมเลกุลไม่ออกเสียแล้ว ที่แท้…ก็แค่ติดภรรยาเท่านั้น”ร่างสูงของหลี่โต๋วเปายืนพิงกรอบประตู มือซุกกระเป๋าเสื้อโค้ตสีเทาเรียบทว่าหรูหรา ไม่มีคำเถียงใด มีเพียงรอยยิ้มมุมปากที่เจือแววอ่อนโยนบางอย่าง…คล้ายไม่คิดปฏิเสธความจริงข้อนั้น“ก็แค่ใช้เวลาให้คุ้มกับชีวิตบ้าง คุณต้องลองไปปลูกฟักทองดูสักครั้งสิ แล้วจะเข้าใจว่าทุกเช้าในทุ่งหมอกนั้นมีค่ามากกว่างานวิจัยที่เขียนมาพันปีเสียอีก”หลี่เฮ้าถงกลอกตาเล็กน้อยขณะมองหลายชายเพียงคนเดียว ก่อนจะหัวเราะในลำคอเบาๆ“อา…ฟักทองยังไม่เท่าไร แต่ถ้าประธานหลี่ของเราหายหน้าไปอีกสามเดือน ผมอาจจะกลับเข้าไปลักพาตัวภรรยาของท่านมาขังไว้ที่นี่แทน แล้วให้ท่านประธานเข้าออกห้องทดลองตลอดยี่สิบชั่วโมงเสียเลย”“แบบนั้นก็เป็นความคิดที่ดีนะ” หลี่โต๋วเปาพึมพำ พร้อมกับหยิบซาลาเปาไส้เห็ดหอมออกมาจากถุงเล็กๆ ในมือ ก่อนจะยื่นให้ฝ่ายตรงข้ามอย่างไม่รีบร้อน “ข

  • นางกลับมาเพื่อร่ำรวย   บทที่ 18 ข้อเสนอปลอมๆ จากขุนนางสวี่

    หลังเกี่ยวและตากข้าวจนเสร็จสรรพ ครอบครัวสกุลฉินก็เว้นช่วงเวลาสำหรับหยุดพักผ่อน ด้วยเพราะร่างกายที่ชราภาพของท่านตาท่านยาย พอทำงานไร่นานานเข้าจึงปวดเมื่อยมากกว่าปกติส่วนหลี่โต๋วเปาและฉินอี้หนิงก็ใช้เวลาส่วนมากอยู่กับการดูแลสวนผัก ขึ้นเขาไปล่าสัตว์มาขาย และใช้เวลาร่วมกันในฐานะสามีภรรยาทว่าวันนี้ แขกผู้มาเยือนกลับเป็นอดีตขุนนางผู้ต้องสูญเสียบ้านให้หลี่โต๋วเปาอย่างสวี่อี้เจิน“คารวะผู้อาวุโส”เสียงทุ้มของหลี่โต๋วเปาเอ่ยช้าๆ ดวงตาเรียวคมสังเกตท่วงท่าการเดินของฝ่ายตรงข้าม รู้สึกคุ้นเคยนัก ทว่านี่ไม่ใช่ท่าทีของผู้อาวุโสสวี่อี้เจินที่เขาเคยประลองหมากล้อมด้วยอย่างแน่นอน“เจ้าน่ะใช้ชีวิตได้ดี กลายเป็นผู้เยาว์ที่สร้างครอบครัวอบอุ่นจริงเชียว” ชายชรามองสำรวจทั่วทุกมุมบ้านราวกับไม่เคยเห็น ก่อนที่สายตาจะพลันมาหยุดลงที่ร่างบอบบางของฉินอี้หนิงซึ่งบัดนี้ได้กลายเป็นสาวงามเต็มตัวไปเสียแล้ว “โอ้~ นี่คือฉินอี้หนิงคนนั้นรึ…” ชายชรายิ้มอย่างสดใสพลางมองสำรวจใบหน้างามอย่างชื่นชม“เชิญผู้อาวุโสสวี่นั่งพักก่อนเจ้าค่ะ ข้าจะไปเอาชาอวิ๋นอู้ [1] ที่ได้จากภูเขาหลูซานมาให้” เสียงหวานกล่าวอย่างอ่อนโยน ขณะเดินหายเข้าไป

  • นางกลับมาเพื่อร่ำรวย   บทที่ 17 ฤดูเกี่ยวข้าว

    วันเวลาผ่านเลยไปจากวันกลายเป็นหนึ่งเดือน ยามนี้สายลมปลายเดือนเปลี่ยนผิวทุ่งนาหน้าบ้านให้กลายเป็นสีทองอร่าม ลำต้นข้าวโน้มลงตามแรงน้ำหนักของรวงเมล็ดที่สุกงอม ท่ามกลางแสงอาทิตย์อุ่นอ่อนในยามเช้า เสียงเคียวเกี่ยวข้าวเสียดสีเบาๆ สะท้อนชัดอยู่กลางนาหลี่โต๋วเปาค้อมตัวใช้เคียวไม้ด้ามสั้นในมือเกี่ยวรวงข้าวอย่างระมัดระวัง ท่วงท่าของเขาแม้ยังไม่คล่องแคล้วนัก แต่ก็เปี่ยมไปด้วยความตั้งใจ มือทั้งสองที่แกร่งอยู่แล้วบัดนี้ยิ่งแกร่งขึ้นซึ่งเป็นผลจากการจับจอบ ขุดหลุม และหาบน้ำทุกวัน จนรอยด้านปรากฏชัดที่ฝ่ามือ“เจ้าหนุ่มจากเมืองหลวง เจ้าน่ะก้าวหน้ากว่าที่ข้าเคยคิดไว้มากจริงๆ”เสียงของท่านตาดังมาจากอีกฟากของแปลงข้าว ใต้หมวกฟางเก่าคร่ำ ดวงตาของชายชรายังสะท้อนความชื่นชมไม่เสื่อมคลายหลี่โต๋วเปาเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก แล้วหัวเราะเบาๆ ชายหนุ่มย้อนนึกถึงตอนที่เขาอยู่ในตำแหน่งจอมพล ถ้าตอนนี้อยู่ในยุคจักรวรรดิ เขาคงสามารถสั่งคนให้ขุดหลุมปลูกข้าวได้เป็นพันหลุม แต่เพิ่งรู้ว่าสิ่งที่ยากที่สุด คือการเกี่ยวข้าวแค่เพียงมัดเดียว“ฮ่าๆๆ เจ้ารู้วิธีปลูกและเก็บเกี่ยวข้าวแล้ว เช่นนั้นก็ถือว่าสำเร็จไปครึ่งหนึ่งของชีวิต” ท่านต

  • นางกลับมาเพื่อร่ำรวย   บทที่ 16 หนึ่งยามในคืนวสันต์ มีค่าดั่งพันทอง

    หลังผ่านพ้นค่ำคืนของการร่วมหอ ร่างงามก็ซุกตัวอยู่ในอ้อมอกแกร่งไม่ไปไหน หลี่โต๋วเปาไม่ได้นอนทั้งคืน เพราะกว่าเขาจะเสร็จกิจแต่ละรอบก็ใช้เวลานานเสียจนตัวเขาเริ่มนอนไม่หลับ ได้แต่กอดฉินอี้หนิงไว้ ขณะมองใบหน้าขาวนวลในยามนิทราบนโต๊ะข้างเตียงมีกะละมังไม้ใส่น้ำอุ่นที่เริ่มจะเย็นชืด พร้อมด้วยผ้าขาวที่ถูกใช้แล้ววางพาดอยู่ แน่นอนว่าเป็นหลี่โต๋วเปาที่นำมันมาเพื่อเช็ดผิวกายให้ภรรยาตัวน้อย อาจเพราะเขาไม่ได้ปลดปล่อยตนเองมานานหลายปี เจ้าของเหลวสีขาวขุ่นเหล่านั้น จึงมีมากเสียจนอาจทำให้ฉินอี้หนิงนอนหลับแบบไม่สบายตัวนัก ซึ่งในฐานะผู้กระทำ เขาจึงต้องทำความสะอาดให้นางทุกครั้งแพขนตาหนาที่เริ่มขยับน้อยๆ ทำให้หลี่โต๋วเปาอดไม่ได้ที่จะก้มลงไปจุมพิตบนเปลือกตาของนาง ไล่เรื่อยลงไปจนถึงหน้าอกนุ่มที่เต็มไปด้วยร่องรอยสีกุหลาบฉินอี้หนิงที่เพิ่งลืมตาตื่นขึ้นมา เผลอทำหน้าอิดออดน้อยๆ เมื่อส่วนล่างของนางมันทั้งบวมและเจ็บระบมอย่างที่ไม่เคยเป็น ค่ำคืนเข้าหอนี้ผ่านไปอย่างยากลำบากจริงๆ ยิ่งเมื่อผู้เป็นสามีไม่ยอมจบดังที่ควรเป็นใต้ผ้าห่มมีบางอย่างขยับอยู่ เคลื่อนจากหน้าอกสู่ส่วนล่างอย่างเชื่องช้า ทว่าทุกการสัมผัสล้วนเต็มไป

فصول أخرى
استكشاف وقراءة روايات جيدة مجانية
الوصول المجاني إلى عدد كبير من الروايات الجيدة على تطبيق GoodNovel. تنزيل الكتب التي تحبها وقراءتها كلما وأينما أردت
اقرأ الكتب مجانا في التطبيق
امسح الكود للقراءة على التطبيق
DMCA.com Protection Status