“ไม่ใช่ ฉันแค่ร้อน คนเราจะจับกันแบบนี้ไปทุกที่ได้ไง” หญิงสาวงอแง
“แต่ฉันจับได้ เธอเชื่อมั้ย” สิงหราชหันมา เพียงได้สบตากับเขาก็ทำใจนาราใจสั่นอย่างรวดเร็ว เธอพยายามไม่สนใจ เมินเฉยประโยคชวนให้อึกอักแบบนั้น เขาคงอยากล้อกัน เพราะอยากแกล้งเธอทีหลัง
“ไม่เชื่อ ปล่อยมือฉันได้แล้ว” เชื่อไม่ได้เด็ดขาด
โห
คำพูดของนาราหยุดไป เมื่อขึ้นมาถึงบนเขา มองลงไปด้านล่าง พระอาทิตย์ดวงใหญ่กำลังจะตกดิน แสงสีส้มสาดไปทั่วบริเวณ รวมถึงท้องฟ้าที่เคยเป็นสีครามบัดนี้ผสมสีเข้าด้วยกันอย่างน่าสะดุดตา
วินาทีนั้นนารามองไปยังคนข้างๆที่ยืนอยู่ข้างเธอ เขาจับมือเธอแน่น ไม่รู้ว่าเป็นความตั้งใจหรือบังเอิญที่พามาดูวิวสวยแบบนี้ แต่การมากับเขานี่มัน....
ชายหนุ่มกุมมือเธออยู่แบบนั้น ไม่มีใครพูดอะไร กระทั่งพระอาทิตย์ตกดิน
นาราตื่นเช้ามาด้วยใจที่สดใส เมื่อคืนดีหน่อยที่นายหัวของไร่ไม่รังแกเธออย่างที่แล้วๆมา แรงคงไม่มีถ้าเขาจะทำแบบนั้น พอนึกถึงเจ้าของใบหน้าคมคาย ใบหน้าเธอก็ต้องร้อนวูบวาบขึ้นมา ภาพตอนที่เขาจับมือเธอมองพระอาทิตย์ หญิงสาวยิ่งรู้สึก...ช่างเถอะ จะคิดแบบนั้นทำไม ในเมื่อมันเป็นไปไม่ได้
หญิงสาวส่ายหัว วันนี้เธอต้องเก็บส้มพร้อมกับคนงานให้เสร็จ พรุ่งนี้จะมีคนมารับไปขายต่อ
พอลงสวนส้มนาราก็ต้องพบกับสายตาหลายคู่มองมา เรื่องที่เธอปรากฏตัวกับนายหัวเมื่อวานคงถึงหูทุกคนแล้ว
“แหม ทำหน้าบาน ตรงอื่นคงบานด้วยล่ะสิ” ชะอมแขวะ พลางหันไปพูดกับผิน
“หน้าเชิดคอตั้ง แต่เป็นได้แค่เมียเก็บเขา รอวันที่เขาเบื่อก็เฉดหัวทิ้ง”
“จริงด้วยอีผิน คนแบบนี้กูล่ะอยากรู้จริงๆ ว่าจะไปได้สักกี่น้ำ พอเมียตัวจริงเขามา ตัวเองจะทำยังไง อยู่มาตั้งหลายปี เขาไม่เชิดหน้าชูตา เก็บไว้แค่บนเตียง ตัวเองก็ตั้งสาวตั้งสวยไม่มีปัญญาหาของตัวเองได้” มะลิหันไปหัวเราะกับผิน เธอเป็นอีกคนที่ตกหลุมรักสิงหราช ทว่าพยายามยั่วยวนแล้ว แต่ชายหนุ่มไม่สนใจเธอเลย หญิงสาวเลยเกลียดที่นารามาทีหลังกลับได้รับความสนใจมากกว่า ทั้งๆที่ก็มีดีแค่หน้าตา ส่วนนิสัยหยิ่งผยองพองขน!
ไม่รู้ไปทำเวรทำกรรมอะไรมา
นาราคิดว่าเธอเป็นคนอดทนได้ดี และไม่ค่อยสนใจกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง ทว่าตอนนี้เธอได้เรียนรู้แล้ว เรียนรู้ว่าถ้าปล่อยให้คนรังแก คนพวกนั้นก็จะรังแกเราอยู่วันยังค่ำ ถึงเราจะไม่ทำอะไรเลย คนมันจะเกลียดมันก็เกลียด แล้วเธอก็ได้เรียนรู้ว่าถ้าเขาเหล่านั้นยังเกลียดอยู่ และระรานโดยที่เธอไม่ทำอะไรสักอย่าง คนเหล่านี้จะทำอยู่แบบนั้น ทำเรื่อยๆอย่างไม่เขินอายในสันดานเสียๆของตน เพราะอย่างนั้นครั้งนี้นาราไม่ขอยอมอยู่เฉยๆ
เธอเดินตรงเข้าไปหากลุ่มของผินที่กำลังนินทาด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง ทั้งสามหยุดการสนทนาไปโดยปริยาย ก่อนมองเธอด้วยความเอาเรื่อง
“มีปัญหาอะไรหรือเปล่า” นาราถามไปตามตรง เธออยากเคลียร์เรื่องราวพวกนี้ให้จบๆไปเหมือนกัน เพราะมันสร้างความรำคาญให้
“อะไร!” ผินมองนาราตั้งแต่หัวจรดเท้า ไม่คิดว่าวันนี้หญิงสาวตัวเล็กจะใจกล้าเดินมาถามซึ่งๆหน้าแบบนี้
“พวกเราไปทำอะไรให้เหรอ” ชะอมถามบ้าง แปลกใจกับความใจกล้าของนารา
“ที่พูดอยู่หมายถึงใคร” นารามองด้วยจิตแน่วแน่ เธอพร้อมบวกถ้าพวกนี้ต้องการ เพราะจะได้จบๆไปสักที
“ไม่ได้หมายถึงใครถ้าใครอยากรับก็รับไปสิ” มะลิปากดี อยากรู้เหมือนกันว่าอีเด็กคนนี้จะเก่งได้สักกี่น้ำ เธอก็ไม่ยอมเหมือนกัน
“ถ้าไม่ได้หมายถึงฉัน แล้วหมายถึงใคร” นาราไม่ยอมแพ้ เธอพยายามอย่างสุดความสามารถ แม้รู้ว่าตนเองต้องเจ็บตัว
“มึงหมายความว่าไง! คิดว่าพวกกูหาเรื่องมึงใช่มั้ย” มะลิยืนขึ้น เธอก็ชักคันไม้คันมือแล้วเหมือนกัน
“แล้วจริงมั้ย ถ้าไม่ได้พูดจะโมโหแบบนี้ทำไม ก็เคยพูดมาตั้งหลายครั้งแล้วนี่”
“อีนารา! มึงจะลองดีใช่มั้ย” มะลิชี้หน้าเธอ นาราสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ถึงจะไม่พอใจมากก็เถอะ แต่ถ้าปล่อยไว้แบบนี้มันก็ไม่ไหวแล้วเหมือนกัน
“ไม่ได้อยากลองดี แค่อยากรู้”
“อีนารา!”
เพี้ยะ! มะลิตบเข้าที่ใบหน้านารา หญิงสาวหน้าหันไป และนั่นเป็นการปลุกเอาความโมโหทั้งหมดที่มีขึ้นมา นาราตบมะลิกลับไปจนหญิงสาวหน้าหันไปเช่นกัน
“อีนารามึงกล้าตบกูเหรอ!” มะลิตะโกนลั่น เธอกระชากหัวนารามา ส่วนนาราก็ไม่ยอม เธอจิกหัวมะลิ พร้อมกับถีบเข้าไปที่ขา
ผินและชะอมหันมองหน้ากัน ทั้งสองไม่คิดว่าสาวรุ่นพี่กับนาราจะตบตีกันได้ขนาดนี้ ทั้งสองก็อยากจะทำเฉย แต่ด้วยความที่หมั่นไส้นาราเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงร่วมเข้าการตะลุมบอนด้วย
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น!” ยุผินพนักงานในไร่เข้ามาเห็นเหตุการณ์พอดี มองดีๆก็พบว่าทั้งสามคน มะลิ ชะเอม และผิน กำลังรุมตบกับนาราเพื่อนของเธออีกคนที่สนิท เพราะแบบนั้นยุผินเลยไม่รอช้าวิ่งเข้าไปช่วยนาราทันที
ทั้งหมดอิรุงตุงนังกันไปหมด ทั้งจิกผม ฟาดกำปั้นใส่กันไม่ยั้ง ผมหลุดออกมาเป็นกระจุก กระทั่ง
“เกิดอะไรขึ้น” เกิดเสียงดังลั่น เป็นพะนงเจ้าหน้าที่พนักงานบัญชีของไร่ที่เข้ามาเห็น พะนงพยายามตะโกน แต่ก็ไม่สามารถห้ามคนที่กำลังโกรธเคืองกันอยู่ได้ เห็นแบบนั้นหญิงสาวจึงวิ่งขึ้นไปบนบ้านที่มีนายใหญ่ของไร่นั่งทำงานอยู่ พอมาถึงเธอก็รีบบอกรายละเอียดด้วยใบหน้าร้อนรนใจ
หลังจากลงมาจากเรือนใหญ่ หญิงสาวก็ตรงดิ่งเข้ามาในบ้านพักของตัวเอง ความปวดหนึบตรงข้างขมับทำให้ต้องเปลี่ยนจากสถานที่ในไร่มาเป็นนอนบนเตียงแทน นาราหลับตาลง เธอขอพักผ่อนนิดหน่อยแล้วค่อยไป อย่างน้อยก็ขอหลีกหนีจากเรื่องราวทั้งหมดเพียงชั่วครู่ก็ยังดี ภายในห้องที่เงียบเชียบไม่มีสิ่งใดเคลื่อนไหวนั้น มือหนาไขประตูเข้ามา พอเปิดเข้าไปในห้องขนาดเล็กได้ ก็จัดการลงกลอนด้วยความรวดเร็ว ฝีเท้าหนักๆย่างเข้าไปหาคนตัวเล็กที่อยู่บนเตียง ก่อนจะทิ้งตัวลงไปกอดหญิงสาว ตามด้วยประทับจูบลงบนหน้าผากมน ความรู้สึกถูกรัดปลุกนาราขึ้นมา แล้วเธอก็ต้องตกใจเพราะคนที่กำลังกอดเธออยู่นั้นคือสิงหราช นายหัวใหญ่ของไร่แห่งนี้ “ตกใจอะไร นึกว่าฉันเป็นคนในฝันของเธอรึไง” มือหนาบีบปลายคางเล็ก นาราเจ็บแปลบไปทั่วสันกราม เขายังเป็นแบบนี้เสมอ ใช้กำลังบังคับเธอ “แล้วทำไม ทำไมฉันจะตกใจไม่ได้ คุณไม่ได้เป็นคนที่ฉันอยากเจอนี่จะผิดหวังก็คงไม่แปลก” ตอกคืนอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน เตรียมพร้อมกวาดมองรอบๆห้องเพื่อหาอาวุธมาทำร้ายเขา ไม่รู้ทำไมว่าต้องโกรธขนาดนี้เหมือนกัน แต่เมื่อนึกถึงภาพของเขาอยู่กับผู้หญิง
หลังจากลงมาจากเรือนใหญ่ หญิงสาวก็ตรงดิ่งเข้ามาในบ้านพักของตัวเอง ความปวดหนึบตรงข้างขมับทำให้ต้องเปลี่ยนจากสถานที่ในไร่มาเป็นนอนบนเตียงแทน นาราหลับตาลง เธอขอพักผ่อนนิดหน่อยแล้วค่อยไป อย่างน้อยก็ขอหลีกหนีจากเรื่องราวทั้งหมดเพียงชั่วครู่ก็ยังดี ภายในห้องที่เงียบเชียบไม่มีสิ่งใดเคลื่อนไหวนั้น มือหนาไขประตูเข้ามา พอเปิดเข้าไปในห้องขนาดเล็กได้ ก็จัดการลงกลอนด้วยความรวดเร็ว ฝีเท้าหนักๆย่างเข้าไปหาคนตัวเล็กที่อยู่บนเตียง ก่อนจะทิ้งตัวลงไปกอดหญิงสาว ตามด้วยประทับจูบลงบนหน้าผากมน ความรู้สึกถูกรัดปลุกนาราขึ้นมา แล้วเธอก็ต้องตกใจเพราะคนที่กำลังกอดเธออยู่นั้นคือสิงหราช นายหัวใหญ่ของไร่แห่งนี้ “ตกใจอะไร นึกว่าฉันเป็นคนในฝันของเธอรึไง” มือหนาบีบปลายคางเล็ก นาราเจ็บแปลบไปทั่วสันกราม เขายังเป็นแบบนี้เสมอ ใช้กำลังบังคับเธอ “แล้วทำไม ทำไมฉันจะตกใจไม่ได้ คุณไม่ได้เป็นคนที่ฉันอยากเจอนี่จะผิดหวังก็คงไม่แปลก” ตอกคืนอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน เตรียมพร้อมกวาดมองรอบๆห้องเพื่อหาอาวุธมาทำร้ายเขา ไม่รู้ทำไมว่าต้องโกรธขนาดนี้เหมือนกัน แต่เมื่อนึกถึงภาพของเขาอยู่กับผู้หญิง
“เป็นอะไรมั้ยนาค” นงรักตบบ่าเด็กสาว เธอเห็นว่านาราน้ำตาซึมออกมา หญิงวัยกลางคนเข้าใจว่าท่าทางเย็นชาของนายหัวของไร่คงทำร้ายจิตใจหญิงรุ่นลูกของเธอไม่น้อย แล้วนาราก็ตัวนิดเดียวกลับต้องแบกรับความรู้สึกทั้งหมดไว้เพียงลำพัง โดนกลั่นแกล้งในไร่ก็เกินพอแล้ว “นาคไม่เป็นไรค่ะ” นาราพยายามส่ายหัวบอกตัวเองว่าไม่เป็นอะไร เรื่องแค่นี้เล็กน้อยสำหรับเธอ แต่จะทำได้มั้ยนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง “แล้วนี่เราไปโดนอะไรมา” มือเหี่ยวย่นจับรอยแดงช้ำที่มีเลือดซึมน้อยๆบนปากนารา หญิงวัยกลางคนรู้สึกเจ็บแทน อยากถามตั้งนานแล้ว แต่ต่อหน้าเจ้านายคงไม่สะดวก “มีเรื่องมาค่ะ หนูเป็นคนหาเรื่องพวกเขาเอง” “กับใคร! กับพวกอีผินเหรอ” นงรักเบิกตาโต เธอไม่เชื่อว่านาราจะเป็นคนหาเรื่องพวกนั้นก่อน เธออยู่ที่นี่มานานทำไมจะไม่รู้ว่าเด็กพวกนั้นนิสัยเป็นยังไง ทำตัวเบ่งไปเรื่อย มักกดคนที่อ่อนแอกว่า ถ้าจะบอกว่าเด็กสาวคนนี้ไปหาเรื่องก่อน ไม่เป็นความจริงอย่างแน่นอน “มันมาหาเรื่องหนูก่อนใช่มั้ย อีพวกนี้มันนิสัยไม่ดี ชอบด่าคนอื่นไปทั่ว เดี๋ยวป้าไปบอกนายหัวให้ ว่าพวกนี้เป็นยังไ
หลังจากลงมาจากเรือนใหญ่ หญิงสาวก็ตรงดิ่งเข้ามาในบ้านพักของตัวเอง ความปวดหนึบตรงข้างขมับทำให้ต้องเปลี่ยนจากสถานที่ในไร่มาเป็นนอนบนเตียงแทน นาราหลับตาลง เธอขอพักผ่อนนิดหน่อยแล้วค่อยไป อย่างน้อยก็ขอหลีกหนีจากเรื่องราวทั้งหมดเพียงชั่วครู่ก็ยังดี ภายในห้องที่เงียบเชียบไม่มีสิ่งใดเคลื่อนไหวนั้น มือหนาไขประตูเข้ามา พอเปิดเข้าไปในห้องขนาดเล็กได้ ก็จัดการลงกลอนด้วยความรวดเร็ว ฝีเท้าหนักๆย่างเข้าไปหาคนตัวเล็กที่อยู่บนเตียง ก่อนจะทิ้งตัวลงไปกอดหญิงสาว ตามด้วยประทับจูบลงบนหน้าผากมน ความรู้สึกถูกรัดปลุกนาราขึ้นมา แล้วเธอก็ต้องตกใจเพราะคนที่กำลังกอดเธออยู่นั้นคือสิงหราช นายหัวใหญ่ของไร่แห่งนี้ “ตกใจอะไร นึกว่าฉันเป็นคนในฝันของเธอรึไง” มือหนาบีบปลายคางเล็ก นาราเจ็บแปลบไปทั่วสันกราม เขายังเป็นแบบนี้เสมอ ใช้กำลังบังคับเธอ “แล้วทำไม ทำไมฉันจะตกใจไม่ได้ คุณไม่ได้เป็นคนที่ฉันอยากเจอนี่จะผิดหวังก็คงไม่แปลก” ตอกคืนอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน เตรียมพร้อมกวาดมองรอบๆห้องเพื่อหาอาวุธมาทำร้ายเขา ไม่รู้ทำไมว่าต้องโกรธขนาดนี้เหมือนกัน แต่เมื่อนึกถึงภาพของเขาอยู่กับผู้หญิง
“เป็นอะไรมั้ยนาค” นงรักตบบ่าเด็กสาว เธอเห็นว่านาราน้ำตาซึมออกมา หญิงวัยกลางคนเข้าใจว่าท่าทางเย็นชาของนายหัวของไร่คงทำร้ายจิตใจหญิงรุ่นลูกของเธอไม่น้อย แล้วนาราก็ตัวนิดเดียวกลับต้องแบกรับความรู้สึกทั้งหมดไว้เพียงลำพัง โดนกลั่นแกล้งในไร่ก็เกินพอแล้ว “นาคไม่เป็นไรค่ะ” นาราพยายามส่ายหัวบอกตัวเองว่าไม่เป็นอะไร เรื่องแค่นี้เล็กน้อยสำหรับเธอ แต่จะทำได้มั้ยนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง “แล้วนี่เราไปโดนอะไรมา” มือเหี่ยวย่นจับรอยแดงช้ำที่มีเลือดซึมน้อยๆบนปากนารา หญิงวัยกลางคนรู้สึกเจ็บแทน อยากถามตั้งนานแล้ว แต่ต่อหน้าเจ้านายคงไม่สะดวก “มีเรื่องมาค่ะ หนูเป็นคนหาเรื่องพวกเขาเอง” “กับใคร! กับพวกอีผินเหรอ” นงรักเบิกตาโต เธอไม่เชื่อว่านาราจะเป็นคนหาเรื่องพวกนั้นก่อน เธออยู่ที่นี่มานานทำไมจะไม่รู้ว่าเด็กพวกนั้นนิสัยเป็นยังไง ทำตัวเบ่งไปเรื่อย มักกดคนที่อ่อนแอกว่า ถ้าจะบอกว่าเด็กสาวคนนี้ไปหาเรื่องก่อน ไม่เป็นความจริงอย่างแน่นอน “มันมาหาเรื่องหนูก่อนใช่มั้ย อีพวกนี้มันนิสัยไม่ดี ชอบด่าคนอื่นไปทั่ว เดี๋ยวป้าไปบอกนายหัวให้ ว่าพวกนี้เป็นยังไง” นงรักจะเด
ปัง! เสียงปืนดังทั่วบริเวณ ทั้งห้าคนที่กำลังนัวเนียกันด้วยฝ่ามือหยุดชะงัก ทั้งหมดแยกออกจากกันราวกับผึ้งแตกรัง ก่อนมายืนหอบหายใจเหนื่อย ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง “ฉันไม่เคยสอนให้คนงานทะเลาะกัน อยากโดนไล่ออกใช่มั้ย” สิงหราชกราดมองหญิงสาวทุกคน เขาไม่ไว้หน้าใครไม่ว่าคนนั้นจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เมื่อคนคนนั้นทำผิดสมควรได้รับการลงโทษ “แต่นายคะ นารามาหาเรื่องพวกเราก่อน เราแค่คุยกันเฉยๆ พวกเรายังไม่ได้ทำอะไรเลย” ผินรีบฟ้อง ก็จริงนาราเดินเข้ามาถามพวกเธอก่อนจริงๆ ถึงมะลิจะเป็นคนลงไม้ลงมือก่อน แต่ถ้านารายอมคงไม่มีเรื่องตั้งแต่แรก “ไม่ต้องพูด ฉันไม่ได้ขอความคิดเห็น” สิงหราชไม่สนใจ ไม่ว่าใครก่อเรื่องในไร่นี้ เขาจะไม่มีการละเว้นทั้งนั้น ตาคมมองไปที่นารานึกโกรธที่หญิงสาวถึงขั้นลงไม้ลงมือกับคนอื่นก่อน เขารู้ดีว่าเธอเป็นคนใจเย็นเสมอ นายหัวหันมองผู้หญิงทั้งสี่คนที่นอกเหนือจากนารา สั่งเสียงทรงอำนาจ “ไปทำงานท้ายไร่ ถ้าไม่ค่ำไม่ต้องกลับมา แล้วฉันจะหักเงินเดือนสิบห้าเปอร์เซ็นต์ ไม่มีข้อแม้” ชะอม ผิน และมะลิต่างหันหน้ามองกันด้วยความหน้าเสี
“ไม่ใช่ ฉันแค่ร้อน คนเราจะจับกันแบบนี้ไปทุกที่ได้ไง” หญิงสาวงอแง “แต่ฉันจับได้ เธอเชื่อมั้ย” สิงหราชหันมา เพียงได้สบตากับเขาก็ทำใจนาราใจสั่นอย่างรวดเร็ว เธอพยายามไม่สนใจ เมินเฉยประโยคชวนให้อึกอักแบบนั้น เขาคงอยากล้อกัน เพราะอยากแกล้งเธอทีหลัง “ไม่เชื่อ ปล่อยมือฉันได้แล้ว” เชื่อไม่ได้เด็ดขาด โห คำพูดของนาราหยุดไป เมื่อขึ้นมาถึงบนเขา มองลงไปด้านล่าง พระอาทิตย์ดวงใหญ่กำลังจะตกดิน แสงสีส้มสาดไปทั่วบริเวณ รวมถึงท้องฟ้าที่เคยเป็นสีครามบัดนี้ผสมสีเข้าด้วยกันอย่างน่าสะดุดตา วินาทีนั้นนารามองไปยังคนข้างๆที่ยืนอยู่ข้างเธอ เขาจับมือเธอแน่น ไม่รู้ว่าเป็นความตั้งใจหรือบังเอิญที่พามาดูวิวสวยแบบนี้ แต่การมากับเขานี่มัน.... ชายหนุ่มกุมมือเธออยู่แบบนั้น ไม่มีใครพูดอะไร กระทั่งพระอาทิตย์ตกดิน นาราตื่นเช้ามาด้วยใจที่สดใส เมื่อคืนดีหน่อยที่นายหัวของไร่ไม่รังแกเธออย่างที่แล้วๆมา แรงคงไม่มีถ้าเขาจะทำแบบนั้น พอนึกถึงเจ้าของใบหน้าคมคาย ใบหน้าเธอก็ต้องร้อนวูบวาบขึ้นมา ภาพตอนที่เขาจับมือเธอมองพระอาทิตย์ หญิงสาวยิ่งรู้สึก...ช่า
สิงหราชพาเธอมายังรถกระบะเก่าแก่ที่จะพังแลมิพังแลของไร่ เขาขึ้นไปด้านบน ก่อนเป็นเธอขึ้นไปตาม เพียงนาราหย่อนก้นลงบนเบาะ ร่างสูงก็โยนแฟ้มแข็งๆมาทางเธอ นาราก้มลงมองพบว่ามันเป็นแผนที่ไร่คร่าวๆ เป็นสิ่งที่น่าประหลาดใจที่สุดที่ภายนอกสิงหราชดูนักเลงและใช้แต่อารมณ์ แต่ในความเป็นจริงแล้วเขาเป็นคนละเอียด รอบคอบ แถมยังขยันอย่างไม่น่าเชื่อ นายสิงของทุกคนมักลงหน้างานเองทุกวัน คอยตรวจตราดูความเป็นไปของไร่อยู่เสมอ เธอมาอยู่ที่นี่เข้าปีที่สองแล้ว ธรภูมิไม่หยุดเติบโตเลย มันยังเป็นพื้นที่ช่วยเหลือให้ชาวบ้านมีงานทำทุกปี “เราจะไปไหนกันเหรอคะ” นาราเอ่ยถามตอนที่คนข้างกายสตาร์ทรถ เธอมองซ้ายมองขวาพบว่าสิงหราชไม่เอาใครไปด้วยเลย เอาแค่เธอไปด้วยเนี่ยนะ แล้วนาราจะช่วยอะไรได้ “ที่ขุดใหม่” เขาตอบพลางมองกระจกหลังหักพวงมาลัย รถเคลื่อนไปยังเส้นทางพื้นดินขรุขระ เนื่องจากไร่แห่งนี้อยู่ติดกับภูเขา เป็นเนินลงไป ธรรมชาติโดยรอบจึงเป็นอะไรที่สวยงามมาก นารามองลงไปยังใต้ถนนที่เป็นที่ลุ่ม มองเห็นหลังคาหมู่บ้านเล็กๆบนดอย หญิงสาวระบายยิ้มออกมา สูดเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าปอด
แม้แต่ในความฝันคำพูดเหล่านั้นยังตามมาหลอกหลอนเธอ นาราตื่นมาน้ำตานอง หลังมือน้อยเช็ดน้ำตาตัวเอง เธอสัญญากับตนว่าจะไม่ร้องไห้กับเรื่องพรรคนี้อีกแล้ว ก็แค่ปากคน ใครจะพูดอะไรก็ได้ ไม่ควรที่เธอจะเก็บนำมาใส่ใจ หญิงสาวเดินออกมาจากห้อง ตัดสินใจแล้วว่าจะเข้าไปทำกับข้าวช่วยแม่สักหน่อย ทว่าพอเดินเข้ามาในครัว กลับได้ยินเสียงรถเคลื่อนเข้ามาในบ้าน บ้านของเธอยังไม่ปิดประตู ร่างบางเดินออกไปดู แล้วเธอก็ต้องตกใจเมื่อเห็นนายหัวของธรภูมิเดินย่างสามขุมเข้ามาอย่างไม่เกรงกลัวตรงมาหานาราที่กำลังยืนค้างอยู่ “ใครบอกให้เธอกลับบ้าน” เขาคว้าแขนเธอ บีบมันจนแน่น นาราเจ็บไปทั้งแขน เธอได้แต่จับมือใหญ่ไว้ “นาคเจ็บ! นี่คุณจะทำอะไร” “ใครสั่งให้เธอมา” เขาเอ่ยเสียงไม่พอใจใส่ ซึ่งนาราก็โกรธเช่นเดียวกัน “ฉันจะกลับบ้านมันจะทำไม พรุ่งนี้ก็จะกลับไปทำงานเหมือนเดิมแล้ว ทำไมคุณต้องว่าด้วย” “แต่ฉันไม่อนุญาต กลับไร่เดี๋ยวนี้!” “ไม่ ปล่อย!” นารายื้อแขนตัวเองไว้ ไม่ยอมไปกับเขา ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องลากเธอกลับไปด้วย กลับไปแล้