ไกรพบทำตามที่เพื่อนบอกยิงเปิดทางให้สิงหราช แต่ถึงอย่างนั้นคนร้ายก็รู้ตัวยิงกระหน่ำกลับมา สิงหราชรีบหลบหลังต้นไม้ อีกไม่ถึงสิบก้าวจะถึงตัวผู้กำกับหนุ่มแล้ว ทว่าไม่ง่ายเลยที่จะเข้าไปหาตอนนี้ เวลานี้ไกรพบทั้งยิงเปิดทางให้เขาและคุมกันคนที่บาดเจ็บ นายตำรวจสองนายก็กำลังทำหน้าที่กันอย่างต่อเนื่อง เพราะแบบนั้นสิงหราชต้องเข้าไปช่วยเพื่อนตัวเองโดยไว
ตอนนั้นเองตาดุจเหยี่ยวต้องขยายกว้างเพราะไกรพบถูกยิงเข้าที่ไหล่ด้านซ้าย สิงหราชไม่มีรออีกแล้ว เขารีบเข้าไปช่วยเพื่อนทันที ตอนนี้นายหัวหนุ่มยิงปะทะกลับอย่างไม่มีใครยอมใคร ขบกรามแน่นที่ตอนนี้ฝ่ายตนเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ
มือใหญ่ลั่นไกจนกระดูกชาไปทั่วนิ้ว ทว่าก็ยังไม่ยอมแพ้ ในเวลานั้นที่สิงหราชหันหน้าเข้าหาเพื่อนที่กำลังใช้หลังนั่งพิงต้นไม้ใหญ่ ดวงตาเรียวคมไล่มองหยาดเลือดไหลเป็นทางจากต้นแขนมายังข้อมือ ที่บัดนี้แดงซ่านไปด้วยหยาดโลหิต ก่อนเลื่อนขยายไปมองตำรวจอีกสองนายที่กำลังนอนทรมานกับความเจ็บที่ได้รับ และอีกสองคนที่กำลังยิงปะทะด้วยใบหน้าเคร่งเครียด
ไม่ได้แล้ว แบบนี้ได้ตายกันหมดแน่
เดาๆดูแล้วสิงหราชคิดว่าในนั้นมีนักแม่นปืนอยู่คนหนึ่งอย่างที่ไกรพบบอก มันคือคนที่ยิงปืนแม่นมากๆ ถ้าให้เดาคนที่กำลังบาดเจ็บอยู่ฝีมือคงมาจากมันคนนั้น เพราะแบบนั้นเขาจึงต้องกำจัดมันก่อน แต่ตอนนี้สิงหราชต้องรู้ให้ได้ว่ามันเป็นใคร ตำแหน่งอยู่ตรงไหน เขาจะได้จัดการมันได้ทัน
ร่างสูงใหญ่หมอบลง ก่อนเพ่งมองไปข้างหน้า ตามลักษณะของนักแม่นปืนแล้ว คนคนนั้นต้องนิ่งมากที่สุด อยู่ตรงตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งน้อยมากที่จะเคลื่อนไปไหน
เจอแล้ว
ตรงหลังเนินดินเป็นนูนเด่น ตรงนั้นมีชายคนหนึ่งหมอบอยู่ และใช่ มันนี่เองที่เป็นคนถูกส่งมาฆ่าเขาโดยเฉพาะ ชำนาญราวกับถูกฝึกมาอย่างดี เพื่อไว้ทำงานในหน่วยงานยังไงอย่างนั้น...
แต่ตอนนี้จะทำยังไง ทำยังไงให้ไอ้คนนั้นโผล่หัวออกมา ข้างตัวมันมีคนคอยยิงคุ้มกันให้ แล้วถ้าให้เดามันคงไม่เลิกราถ้าเขาไม่ตายตามที่มันปรารถนา ใช่ พวกนี้มันกะเอาเขาให้ตาย หรือให้พูดเอาให้ตายทั้งหมดในนี้ เพราะถ้าเหลือรอดไปคนที่จะตายต้องเป็นพวกมัน
ชายหนุ่มขบกรามจนเป็นสันนูน ความคุกรุ่นที่เต็มอยู่ในช่วงอกปะทุขึ้นอย่างไม่จางหาย แต่คงไม่มีเวลามาโกรธแล้วถึงคราวที่ต้องเอาจริง
โจรมันเหลืออยู่ห้าคน หนึ่งคนเป็นนักแม่นปืน ส่วนอีกสองเป็นคนคุ้มกัน และอีกสองคือคนที่คอยยิงหลอกล่อเขาให้นักแม่นปืนรอสังหารอีกที นับว่าพวกมันฉลาดมาก ฉลาดที่รู้เรื่องราวพวกนี้มาอย่างดี ฉลาดสมกับเป็นลูกน้องนายตำรวจใหญ่ผู้โลภมาก อยากได้ของคนอื่นไปเป็นของตัวเอง
แต่โทษทีเขาเป็นคนหวงของซะด้วย ถ้าเขาไม่ให้อะไรอย่าได้หวังว่าจะได้
ร่างสูงคลานไปหานายตำรวจอีกสองคนที่ตอนนี้ยิงสวนกับคนร้ายไม่หยุด เขาจัดการบอกเรื่องที่เพิ่งรู้มา เพราะต้องการที่จะวางแผนให้ตำรวจสองนายนี้ช่วย โดยคนแรกเขาอยากให้ยิงอีกสองคนที่เป็นตัวล่อของนักแม่นปืน และอีกคนยิงสองคนหลังที่คอยคุ้มกันนักแม่นปืนไว้ เมื่อได้รับคำขอร้องแล้วนายตำรวจทำตามอย่างไม่รีรอ
ปัง!
ตอนนั้นนั่นเองที่หัวใจของสิงหราชลิงโลดขึ้นอีกครั้ง เพราะคนชุดดำที่อยู่ข้างๆนักแม่นปืนถูกยิงล้มลงไป
เหลืออีกคน
เพราะแบบนั้นสิงหราชกระหน่ำยิงอีกคนรัวเร็วจนมันล้มลงไปกับพื้น ด้วยสัญชาตญาณผู้ร้ายอีกสองคนรู้ว่าตนกำลังไม่ปลอดภัยอีกต่อไปถึงได้ย้ายเข้ามาคุ้มกันนักแม่นปืนแทนคนที่ตาย คราวนี้สิงหราชสบถคำหยาบออกมาเพราะมันยิงคนของเขาได้อีกหนึ่ง
ไอ้เหี้ยนี่ กูไม่เอามันไว้แน่
มันทำเพื่อนเขาจนบาดเจ็บ ทำร้ายตำรวจไปหลายนาย และเขาจะไม่ยอมเสียใครไปอีก
มือแกร่งเล็งปืนไปที่ชายชุดดำอันนั่งอยู่ข้างนักแม่นปืน ด้วยการเพ่งสมาธิอย่างแน่วแน่ทำให้กระสุนฝังเข้าไปเจาะกะโหลกศีรษะอีกฝ่ายอย่างจัง ตอนนี้เหลือแค่คนเดียวแล้ว...
ปัง!
ราวกับทุกอย่างหยุดนิ่งไร้ความเคลื่อนไหว สิงหราชก้มมองลูกปืนที่ฝังเข้ากับท้องตัวเอง เลือดสีแดงเข้มไหลซึมออกมาเต็มเสื้อของเขา....
นาราได้แต่ตกตะลึงมองนายหัวหนุ่มโดนยิงต่อหน้าต่อตา ใช่ มันคนนั้นยิงเขา คนที่มันนิ่งกว่าใครและมีสมาธิกว่าทุกคนในนี้ น่าตกใจกว่านั้นเพราะมันเล็งปืนไปที่สิงหราชอีกแล้ว
วินาทีนั้นความกล้ามาจากไหนมากมายมหาศาลทำให้นารายกปืนขึ้นมา ยอมรับว่ามือของเธอสั่น ทว่านั่นไม่สั่นเท่าเมื่อรู้ว่าสิงหราชกำลังจะโดนอะไร
ปัง
มือสั่นไหวลั่นไกออกไป ลูกปืนเฉียดเข้าที่หมวกนิรภัยของคนที่ยิงสิงหราช มันหันมาเพื่อมองว่าใครเป็นคนยิงปืน แล้วในตอนนั้นเองที่นารายิงซ้ำอีกครั้ง
ปัง ปัง ปัง
สามนัดถ้วน กระสุนฝังเข้าในตัวนักแม่นปืนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ร่างใหญ่ชักกระตุก เบิกตาโพลง ก่อนจะล้มลงไป ไม่รอช้าเมื่อได้โอกาสอีกคนโดนสิงหราชยิงกระหน่ำใส่เช่นกัน
นารารีบวิ่งไปหานายหัวหนุ่มด้วยความรวดเร็ว เธอเกือบกรีดร้องออกมาเมื่อเห็นร่างที่นอนจมกองเลือดเต็มไปหมด ใจดวงน้อยหดเหลือไม่กี่นิ้ว ก่อนจะแทบหยุดหายใจเมื่อเห็นว่าไกรพบก็โดนยิงด้วย
“เป็นอะไรมั้ย” รีบเข้าไปหาสิงหราช เวลานั้นที่น้ำตาของเธอไหล ยิ่งมองเลือดที่ซึมผ่านเนื้อผ้าสีดำเป็นวงกว้าง หัวใจของเธอก็ราวกับถูกบดบี้ไปด้วยเหล็กร้อน แตกสลายไม่มีชิ้นดี
“ไม่เป็นไร” เสียงของร่างสูงอยู่ในลำคอ โกรธคนตัวเล็กนักที่มาช่วยเขาในสถานการณ์แบบนี้ เขาอยากกอดและบ่นเธอให้สมใจ ทว่าด้วยเลือดที่เสียไปแรงทรงตัวยังแทบไม่มี
“เป็นอะไรกันมั้ยครับ”
ราวกับมีเสียงสวรรค์ในตอนอับจนไร้หนทาง ร่างหลายเดินเข้ามาใกล้ เกิดเสียวสวบสาบของการเคลื่อนไหว แล้วทันใดนั้นก็ปรากฏว่าเป็นชาวบ้านที่อยู่ละแวกนี้ และน่าจะเป็นชาวดอยที่อาศัยอยู่ใกล้กับไร่ของธรภูมิด้วย
“นายหัว!” เพียงเห็นใบหน้าคนบาดเจ็บนอนหายใจรวยริน ชาวบ้านก็แตกตื่นรีบวิ่งเข้ามา พวกเขารีบเข้ามาพยุงสิงหราช พร้อมกับเรียกคนมาเพิ่ม ก่อนจะส่งคนบาดเจ็บไปโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด และวินาทีนั้นเองที่นาราล้มลงไปด้วยความเหนื่อยล้า
“นาค!” เสียงของสิงหราชดังขึ้น รีบปรี่เข้าไปกอดคนตัวเล็ก ทว่าหญิงสาวไม่รู้สึกตัวเสียแล้ว
“นาค” เสียงที่พร่ำเรียกเป็นครั้งสุดท้ายก็เป็นผลให้หญิงสาวลืมตาขึ้นมา นารามองไปรอบๆก่อนจะพบว่าที่นี่เป็นบ้านของเธอ และคนที่เรียกอยู่นั้นก็คือมารดาผู้ให้กำเนิด
“นี่หนูมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ” ก่อนหน้าเธอยังอยู่ในป่า มีเหตุการณ์ปะทะปืนกันอยู่ไม่ใช่เหรอ มีคนเจ็บมากมายและคาดว่าน่าจะเสียชีวิตด้วย และอีกอย่างก็สิงหราชโดนยิง ตอนนี้เขาเป็นยังไงบ้าง
“นายหัวล่ะคะแม่ เขาปลอดภัยมั้ย” หญิงสาวรีบถามด้วยความเป็นห่วง เขาเสียเลือดมาก หน้าก็ซีดราวกับไก่ต้ม เขาจะเป็นอะไรหรือเปล่า ทว่าเธอต้องโล่งใจเมื่อแม่เอ่ยว่า
“นายหัวปลอดภัยดีจ้ะ แต่หลังจากที่ทุกคนนำตัวนายหัวกับเพื่อนส่งโรงพยาบาล บอกตำรวจว่ามีคนร้ายบาดเจ็บ ตอนนี้คนร้ายหนีไปแล้ว เขาว่ากันว่าน่าจะมีคนพาตัวไป หรือไม่ก็เอาไปกำจัด”
ทำงานพลาด ไม่น่าปล่อยไว้อยู่แล้ว นาราคิดอย่างสลดใจ
ร่างบางไว้อาลัยให้โจรร้ายพวกนั้นที่เลือกเดินทางผิด
“งั้นก็ดีแล้วล่ะค่ะ” ได้ยินว่าคนคนนั้นปลอดภัยเธอก็โล่งใจ เพราะตอนที่เห็นเขาโดนยิงนั้นใจเธอคล้ายว่าถูกควักออกไปและโดนบดสลายไม่มีชิ้นดี
ประพาไม่เอ่ยอะไรอีก ตบหลังมือคนเป็นลูกสาวเบาๆ
“แม่ว่าเราอยู่ที่นี่อีกสักพักเถอะนะแล้วค่อยกลับไร่ ตอนนี้คนที่นั่นกำลังวุ่นวายมาก ทั้งพี่น้องของนายหัว ตำรวจ สืบสาวราวเรื่องกันอยู่ ตอนนี้มีข่าวไม่ดีที่ชาวบ้านพูดว่านายหัวของไร่ธรภูมิถูกตามฆ่า ส่วนคนที่สั่งฆ่าก็เป็นพ่อค้ายาเสพติดที่นายหัวรับมาขายอีกทีนั่นแหละ”
คิ้วเรียวขมวดยุ่ง โกหกชัดๆ ไปเอาข่าวพวกนี้มาจากไหน
“เขาไม่เคยขายยาค่ะ แล้วเรื่องที่คนอื่นพูดกันก็ไม่ใช่ความจริงด้วย” นาราชักไม่ชอบใจขึ้นมา หญิงสาวไม่รู้ตัวเลยว่าตนกระแทกเสียงใส่มารดาขนาดไหน
นาราเดินขึ้นมาตามเนินเขาเรื่อยๆ แสงของพระอาทิตย์สาดส่องไปทั่วและสายลมที่พัดเอื่อยๆต้องผิวกายพลันทำให้เย็นสดชื่นราวกับได้เกิดใหม่ ปลดระวางความเหนื่อยล้าที่มีมาทั้งวัน หญิงสาวยิ้มร่าเมื่อคิดว่าขึ้นไปบนหน้าผาแล้วจะเจอใครคนหนึ่ง คน...ที่วันนี้คิดถึงเป็นร้อยครั้ง และใช่ เมื่อขึ้นมาก็เห็นเขายืนอยู่ก่อนแล้ว คนตัวเล็กคลี่ยิ้ม ด้านข้างของสิงหราชนั้นช่างดูดีเสียจริง หล่อเหลาราวกับรูปปั้น ไม่รวมผิวสีเข้มที่บ่งบอกว่าผ่านการแตกแดดมานมนาน เสริมให้บุคลิกของคนร่างสูงดูองอาจขึ้นไปอีก เธอไม่อยากเชื่อว่าวันหนึ่งคนคนนี้จะเป็นของเธอ ทว่าเวลานี้เขายืนอยู่ตรงหน้าแล้ว พร้อมกับยิ้มให้เธอด้วยความจริงใจ นาราวิ่งเข้าไปหาแขนที่อ้าออก หลับตาสูดเอากลิ่นหอมๆของชายคนรักเข้าปอด ซึ่งอีกคนก็เช่นเดียวกัน เขาประทับริมฝีปากลงบนกระหม่อมบาง ลอบดมกลิ่นหอมหวานจนชื่นใจ “เหนื่อยมั้ย” เสียงทุ้มทรงเสน่ห์เอ่ยอย่างเป็นห่วง ใครจะคิดว่านาราจะอึดขนาดนี้ ทำสวนไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย บ้ากว่าเขาตอนทำไร่ใหม่ๆอีกมั้ง แล้วคำตอบของเธอทำเขายิ้มออกมาอย่างไม่ยาก “ไม่เหนื่อย
“แต่หนูไม่โกรธยายหรอกค่ะ แต่มาวันนี้ก็เพื่อบอกให้ยายรู้ว่าหนูจะไม่ทนอีกแล้ว ยายต้องรับผิดชอบในส่วนที่ยายทำ ถ้ายังหาเงินมาคืนสามีหนูไม่ได้ แน่นอนว่าบ้านหลังนี้กับที่ดินหนูจะยืดไปให้หมด” “นี่แก๊” ธัญญาหมดความอดทนจริงๆ ไม่คิดว่าหลานตัวเองจะเลวร้ายแบบนี้ เธอรู้ว่าตัวเองผิดที่เห็นแก่ตัวไม่ใช้หนี้ แต่เธอก็เอาเงินของเธอมาดูแลแม่ไง แม่มันไม่ดูแลยายก็ให้มันใช้หนี้ไปสิ ผิดตรงไหน คนเป็นป้าอยากพูดแบบนั้นทว่าพอเห็นสายตาเลือดเย็นของหลานสาว ก็ถึงกลับต้องหุบปากไป เพราะกลัวมันจะเพิ่มหนี้ให้เธอ “หนูมาบอกแค่นี้ล่ะค่ะ ขอตัว” หญิงสาวเดินออกมา เธอแทบจะล้มลงไปกับพื้นทว่าได้สิงหราชประคองตัวไว้ เธอพยักหน้าให้เพื่อบอกเขาว่าไม่เป็นไร ทว่าพอได้ขึ้นมาบนรถ ก็อดกลั้นไม่ไหวร้องไห้ออกมาในที่สุด คนตัวใหญ่ดึงเธอเข้าไปกอด ลูบแผ่นหลังเบาๆ ความอ่อนแอยิ่งถูกกระตุ้นไหลเป็นสาย บางทีโลกเราก็โหดร้ายเกินไป พยายามคิดในแง่บวกไว้ ปกปิดมันด้วยเหตุผลทุกอย่าง ทว่าพอเผชิญหน้ากับความจริงกลับเกินทนจนยากที่จะรับไหว “พี่อยู่นี่ ไม่เป็นไร” สิงหราชปลอบโยนคนต
รถกระบะคันเก่าวิ่งเข้ามาจอดกลางบ้าน ทำให้ธัญญาที่กำลังร้องไห้ราวกับจะขาดใจเงยหน้ามอง จากที่ราวถูกเหยียบย่ำหัวใจไปแล้ว หญิงวัยกลางคนยิ่งแหลกสลายเข้าไปกันใหญ่เมื่อเห็นหลานสาวของตนและผู้มีอิทธิพลในแถบนี้เดินเข้ามา และใช่ ลูกสาวเธอโดนจับก็เพราะพวกมัน “อีนารา! มึงยังเสนอหน้ามาอีกเหรอ” ธัญญาตะโกนดังลั่น ความโกรธเกรี้ยวของเธอทำให้ยายของนาราที่นั่งอยู่ข้างๆธัญญาลูบหลังลูกสาวเบาๆ นาราปรายตามองยายของตน หญิงใจร้ายที่ไม่เคยคิดบอกความจริงกับเธอ ที่ผ่านมาเธอใจดีมาก ทำดีกับยายมาโดยตลอดเพราะหวังว่าสักวันหญิงชราจะเห็นความดีแล้วรักเธอบ้าง ทว่าตอนนี้หญิงสาวได้รู้ว่าสิ่งที่ทำไปมันสูญเปล่า ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยรักเธอในฐานะหลานเลย แม้ใจจะปวดหนึบ แต่ก็พยายามเก็บมันไว้ คงเห็นท่าไม่ได้ สิงหราชเลยกุมมือเธอ หญิงสาวส่ายหัวบอกเขาว่าไม่เป็นอะไร ใจเข้มแข็งพอแล้ว และส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้ได้ก็เพราะเขา “ป้าทำเหมือนโกรธหนู แต่หนูมากกว่าที่ต้องโกรธป้า” คนตัวเล็กตอบโต้กลับทันที “โกรธกูเรื่องอะไร!” ตอนนี้ธัญญาไม่วางมาดอะไรอีกแล้ว นังเด็กนี่มัน
“ครับ เมียเอายังไงก็เอา แต่บอกก่อนได้มั้ยว่าจะไม่โกรธกัน” เขากลัวเมียหายไปนะ ถ้าเธอจากเขาไปทั้งไร่ต้องลุกเป็นไฟอย่างแน่นอน พลิกแผ่นดินหาไม่เจอก็จะหาอยู่แบบนั้น นาราหลุบมองคนที่ซุกอยู่บนอก ดวงตาดุๆ พลันทำให้ชายหนุ่มก้มหน้าลง เผลอใช้โอกาสนี้ซุกใบหน้าลงมามากกว่าเดิม นาราอึดอัดจนต้องขยับดิ้น เธอจิ๊ปากทีหนึ่ง “อื้อ!” เสียงอ้อนเอ่ยตามมา “บอกก่อนว่าจะไม่โกรธ” “ไม่” “ทำไมไม่” “ก็โกรธ” “แล้วทำยังไงถึงจะหายโกรธ” “ไม่รู้ ออกไปจากที่นี่มั้ง” วินาทีนั้นอ้อมแขนที่กอดเธออยู่รัดแน่นขึ้น นาราเกือบหายใจไม่ออก ทว่าต้องทำเก๊กเพราะกลัวเขาจะได้ใจ หญิงสาวเลยนิ่งไว้ “ไม่ให้ไป ไปสิ จะขังไว้ที่นี่เลย” ตัวเล็กดวงตาวาวโรจน์ “กล้าเหรอ?” “ไม่กล้า” เสียงหงอยเอ่ย นารานิ่งไป มองคนตัวใหญ่ที่กำลังไซ้หัวลงบนหน้าอกเธอเหมือนเด็ก “งั้นเอาไร่มั้ย เอาไร่ส้มสักร้อยไร่ หรือตรงที่น้องทำ พี่ยกให้หมดเลย” “ยกให้แฟนเก่ากับคุณปราณนารีสิ มาให้ฉันทำไม”
“น้ำ” เสียงแหบแห้งและฝืดเคืองครางออกมา ใช่ ตอนนี้รู้สึกราวกับว่าอยู่ในทะเลทรายอันแสนแห้งแล้งและร้อนผ่าวแผดเผาอยู่ภายใต้พระอาทิตย์ แล้วในตอนนั้นเองที่เปลือกตาสีไข่เปิดขึ้น ฝ้าเพดานที่คุ้นเคยทำหญิงสาวกะพริบตาปริบๆ แรงกอดรัดช่วงตัวทำให้เธอเอี้ยวตัวมองคนที่กอดเธอไว้ สิงหราช นี่เขา พาเธอออกมาจากป่าได้จริงๆ “ตื่นแล้วเหรอ” ร่างสูงตื่นขึ้นมาพอดี เขายิ้มให้เธอ เป็นรอยยิ้มที่ไม่เคยเห็นเลยในชาตินี้ ยิ่งทำให้อึ้งไปกว่านั้นเพราะเขาโน้มหน้าลงมาจูบกระหม่อมกันเอ่ยคำพูดแปลกประหลาด “เมียตื่นแล้วเหรอครับ” ราวกับสติได้หลุดล่องหายไป เมื่อกี้เขาว่ายังไงนะ “คุณว่ายังไงนะ” “เมียตื่นแล้ว อยากได้อะไรมั้ย” แม้จะยังมึนงง ทว่านาราตอบอย่างไม่ลังเล เอาไว้ก่อนเรื่องเขาเรียกเธอว่าเมีย “น้ำ” เพียงเท่านั้นเขาก็ลุกขึ้น พร้อมกับเอามันมาให้เธอ ร่างสูงนั่งลงข้างเตียง ประคองเธอขึ้นนั่ง นาราดื่มน้ำด้วยความกระหาย ก่อนดวงตาจะจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาเหมือนเดิม ไม่รู้ว่าควรรู้สึกยังไง มันผสมปนเปกันไป
“นายหัว!” นงรักตาเบิกกว้างเมื่อเห็นคนสูงใหญ่ผู้น่าเกรงขามในไร่แบกหญิงสาวตัวเล็กไว้บนหลังเดินเข้ามา พอมองสภาพของทั้งสองคนหญิงแม่บ้านก็ต้องตกใจ อะไรกันเนี่ย ทำไมดำไปทั้งตัวแบบนี้ มิหนำซ้ำท่อนขาและเท้าเปลือยเปล่าของสิงหราชยังเต็มไปด้วยบาดแผลราวกับโดนของร้อนจี้มา หรือว่าที่คนงานพูดกันว่าในป่ามีเพลิงไหม้ เกี่ยวข้องกันนายหัวและหญิงสาวตัวเล็กที่ไม่ได้สตินี่เหรอ เกิดอะไรขึ้น ใครบังอาจทำนายหัวเธอ มันเป็นใคร! วินาทีนั้นราวกับนายหัวของไร่เป็นคนบ้าใบ้ สิงหราชไม่พูดอะไร อุ้มนาราขึ้นมาบนบ้าน ดวงตาชายหนุ่มเหม่อลอย และกว่าจะเอ่ยออกมาก็ปาไปหลายนาที “ป้าเรียกหมอให้หน่อยได้มั้ยครับ” เหนื่อยจนเหมือนตายทั้งเป็น แต่ก็ยังอยากเห็นอีกคนไม่เป็นอะไร “โถ่ ได้ค่ะ” นงรักแทบร้องไห้ เธอรีบกุลีกุจอโทรไปเรียกหมอที่เป็นคนสนิทกับครอบครัว แล้วเวลานั้นเองที่ชายอีกคนโผล่มา “พี่สิง” “มึงไม่ใช่น้องกู...” สิงหราชมองไปที่น้องชายของตน ก่อนหน้านั้นเขาพอรู้มาบ้างว่าอะไรเป็นอะไร แต่ไม่คิดว่ามันจะทำแรงขนาดนี้ “มึง