LOGINเช้าวันต่อมานาเดียอ่านข้อความตอบกลับจากซูจิน แล้วก็พิมพ์ตอบอีกครู่ใหญ่ก่อนจะเข้าไปอาบน้ำ
ซูจินบอกว่าสำนักข่าวให้ความสนใจในการตีแผ่ข่าวบริษัทของพวกเธอ และช่วยเหลือในการหาสำนักกฎหมายให้ด้วย บรรดาแฟนคลับต่างก็รวมตัวกันแท็กข้อความให้กำลังใจพวกเธอและบอกว่าจะอยู่เคียงข้างเสมอ ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ได้รับรู้ว่าเธอบาดเจ็บจากการพยายามช่วยเพื่อนร่วมวง จึงยังไม่สามารถเดินทางกลับเกาหลีได้ในตอนนี้ และต่างก็แท็กขอให้เธอหายเร็วๆ ด้วยเช่นกัน แม้ยังมีแฟนคลับไม่มากนักแต่สิ่งที่เห็นก็ทำให้รู้สึกดีและอุ่นใจไม่น้อยจนถึงกับน้ำตาซึมหลังจากนาเดียเข้าไปอ่านแท็กนั้น
มีค่ายติดต่อเข้ามาสองสามค่ายเกี่ยวกับการเซ็นสัญญาแต่ซูจินกับพี่ๆ ในวงอยากคุยกันในตอนที่เธออยู่ด้วย จึงขอเวลาจัดการเรื่องการฟ้องร้องให้เรียบร้อยเสียก่อน
สาวร่างเล็กลงไปข้างล่างก็พบกับคนที่เพิ่งวิ่งออกกำลังกายจนเหงื่อท่วมกำลังจะกลับเข้าห้องของเขา
“วันนี้เราจะไปที่ทำงานของผม”
ชายหนุ่มบอกทันทีที่เห็นเธอ แต่แม้นาเดียจะทำหน้าแปลกใจเขาก็ไม่ได้อธิบายอะไรนอกจากเอ่ยสั่ง
“กินอาหารเช้าให้เรียบร้อยเสีย”
พูดจบเจ้าของร่างสูงใหญ่ที่อยู่ในชุดเสื้อยืดแขนตัดสีดำเปียกจนมองเห็นมัดกล้ามกับกางเกงผ้าร่มก็ผละจากไป
และเป็นอีกครั้งที่นาเดียได้แต่มองตามร่างกำยำกล้ามแน่นไปด้วยอาการปากค้างจนต้องงับปากตัวเองเมื่อรู้สึกตัว แล้วก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างอ่อนใจที่เธอชักจะเป็นเอามากขึ้นทุกวัน เพียงแค่เห็นเจ้าของร่างสูงใหญ่เมื่อไรใจก็สะดุดทุกที
ที่ทำงานของชายหนุ่มคือศูนย์ขนาดใหญ่ดูแลรถอย่างครบวงจร เธอเห็นว่ามีรถที่เหมือนเป็นรถแข่งอยู่ในศูนย์ตอนที่ชายหนุ่มเอารถของเขาเข้ามาจอดด้วย นั่นทำให้รู้สึกได้ว่าที่นี่น่าจะมีชื่อเสียงไม่เบา ที่สำคัญติดกับโรงจอดรถมีสนามขับรถอยู่ด้วย
อีกอย่าง นี่คือข้อพิสูจน์ว่า นามบัตรที่ชายหนุ่มให้มาคือของจริง
“ผมถอดให้ไหม”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
เธอส่ายหน้าเมื่อชายหนุ่มหันมาถามหลังเธอก้าวลงจากสองล้อคันโต นาเดียใส่หมวกกันน็อกเองได้อย่างถูกต้องแล้ว และตอนนี้เธอก็ไม่อยากเป็นภาระให้เขาต้องมาถอดให้ด้วย
ก่อนออกนาเดียนึกขึ้นมาได้ว่าเขามาเซฟเฮาส์ด้วยแท็กซี่กับเธอแล้วทำไมถึงมีรถมอเตอร์ไซค์คันโตขับได้ อีกฝ่ายก็ตอบง่ายๆ อย่างขำๆ พร้อมยักไหล่
‘ผมขี่มาจอดไว้ก่อนไปรับคุณ ถ้าพาออกจากโรงพยาบาลด้วยรถคันนี้คงดูอันตรายไปหน่อย’
เขาพูดถูก เพราะหากต้องขี่มอเตอร์ไซค์ทันทีที่ออกจากโรงพยาบาลเธอคงกลัว
กระทั่งตอนนี้นาเดียมั่นใจแล้วว่าคลินตันค่อนข้างเดาความคิดของเธอได้ถูกต้องอย่างที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน แม้แต่ซูจิน หญิงสาวอดแปลกใจไม่ได้ทั้งที่เพิ่งรู้จักกันด้วยซ้ำทว่าชายหนุ่มกลับอ่านเธอออกอย่างง่ายดาย
คลินตันพาเธอเข้าไปจากทางด้านที่เป็นโรงจอดรถ โดยผ่านส่วนที่เป็นอู่และเห็นบรรดาช่างกำลังจัดการกับรถแต่ละคันอย่างแข็งขัน เมื่อมีคนหันมาเห็นชายหนุ่มต่างก็เอ่ยขึ้นตามๆ กันหลังจากคนแรกพูด
“ไฮ หัวหน้า”
ทุกคนต่างก็เรียกคลินตันแบบนั้นแล้วเขาก็พยักหน้ารับ เดินนำเธอโดยไม่พูดอะไร นาเดียเองก็ได้แต่เดินตามร่างสูงใหญ่ไปเงียบๆ เพราะรู้สึกได้ถึงสายตาหลายคู่ที่มองตามเธออย่างสนใจหลังจากทักชายหนุ่มแล้ว เธอชินกับการถูกมองตามเพราะงานที่ทำจึงไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ก็ไม่กล้าหันไปมองรอบๆ เพราะไม่ใช่ที่คุ้นเคยและพวกเขาก็ไม่ใช่แฟนคลับของเธอ
ชายหนุ่มพาเธอเข้ามาในส่วนของออฟฟิศ ซึ่งมีชายหนุ่มที่ดูมีอายุมากกว่าคลินตันนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงาน อีกฝ่ายละสายตาจากคอมพิวเตอร์มาทางพวกเธอ แล้วเขาก็ตาโต
“มาได้สักทีนะ”
คนพูดเดินออกมาหาคลินตัน ทว่าแทนที่จะจับมือทักทาย เขากลับพุ่งหมัดเข้ามาตรงหน้าของชายหนุ่ม ทว่าก็ราวกับจะรู้อยู่แล้วเพราะคนถูกจู่โจมเพียงเอียงหน้าเล็กน้อย แล้วส่งหมัดล่างเข้าตรงช่องท้องของฝ่ายตรงข้ามแทน
“แหม เร็วเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยแฮะ ไอ้เสือร้าย”
คนที่ปัดมือคลินตันออกไม่ทันถูกหมัดเข้าให้ แม้จะไม่แรงนักเพราะเขางอตัวรับ ทว่าก็ทำเอานิ่วหน้าไปเหมือนกัน
“อย่ามาโทษฉัน นายมันอ่อนเอง”
คลินตันยักไหล่ ขณะที่ชายคนนั้นก็ดูจะไม่ใส่ใจนัก เพราะเขาหันมาสนใจเธอแทน
“ไปหลอกเด็กที่ไหนมาล่ะเนี่ย”
นาเดียถึงกับขมวดคิ้วเมื่อถูกเรียกอย่างนั้น คลินตันเองก็เหลือบมามองเธอเล็กน้อยก่อนจะโคลงศีรษะ
“ญาติผู้น้องของพี่ชายน่ะ มาดูที่เรียน”
“เหรอ?”
ผู้ชายคนนั้นทำเสียงแปลกใจ ไม่ใช่แค่เขาหรอก นาเดียเองก็ยังอดเคืองไม่ได้ เธอไม่ได้เด็กขนาดนั้นเสียหน่อย
“มาดูที่เรียน? แล้วเกี่ยวอะไรกับนาย”
“ตอนนี้ไม่มีใครว่างก็เลยฝากฉันไว้”
เมื่อคลินตันตอบอย่างเป็นเรื่องเป็นราว เธอก็หันมองเขาอย่างไม่อยากเชื่อ ทว่าชายหนุ่มพยักพเยิดบอกเธอให้ทักทายเพื่อนเขาอย่างไม่สนใจท่าทางของเธอ
“นี่แอรอน เพื่อนรุ่นพี่ฉันแล้วก็หุ้นส่วน”
ชายหนุ่มแนะนำแล้วหันไปหาเพื่อนของตน
“เธอชื่อนาเดีย”
ผู้ชายชื่อแอรอนยื่นมือมาให้เธอก่อนนาเดียจึงจำต้องยื่นมือไปจับพร้อมส่งยิ้มบางให้
“ยินดีที่ได้รู้จักนาเดีย”
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”
พอทักทายกันเสร็จเสียงประตูก็เปิดขึ้น นาเดียหันมองก็เห็นสาวสวยหน้าอกหน้าใจแทบจะล้นเสื้อกล้ามที่ใส่อยู่ เพราะอีกฝ่ายอยู่ในชุดที่เหมือนใส่แข่งรถแต่ส่วนแขนถูกผูกเอาไว้ตรงเอวแทน เธอเปิดยิ้มกว้างตรงเข้ามาหาคลินตัน แล้วโผเข้าหาชายหนุ่มทั้งตัว
“คลิน...คุณหายไปนาน ฉันคิดถึงจะแย่”
คลินตันกอดตอบหญิงสาวครั้งหนึ่งแล้วปล่อย อีกฝ่ายจึงถอยออกแล้วส่งยิ้มหวานให้เขา
นาเดียมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกเบาหวิวแปลกๆ ตากลมโตสั่นไหวนิดๆ เพราะประหลาดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตนเอง
และก็เป็นเวลาเดียวกับที่คลินตันสบตาเธอ ชายหนุ่มหรี่ตาคมลงเล็กน้อยแล้วคลายออก ทว่าไม่พูดอะไร
เหมือนหญิงสาวที่เข้ามาใหม่จะเพิ่งเห็นเธออยู่ในห้องด้วยก็ตอนนี้เอง อีกฝ่ายมองเธออย่างสนใจแต่เป็นสายตาที่เคลือบแฝงความสงสัย
“นี่ใครเหรอ”
“เด็กของคลินมัน”
แอรอนเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้ม ทว่าคนได้ยินขมวดคิ้วจ้องเธอนิ่งในทันที
“พูดเป็นเล่น”
คลินตันเอ่ยพร้อมส่ายหน้าเหมือนเป็นเรื่องไร้สาระที่ไม่จำเป็นต้องใส่ใจ ก่อนจะตรงไปนั่งที่หลังโต๊ะทำงาน
“สกอตต์จะเข้ามาลองรถวันนี้ใช่ไหม”
เขาถามพร้อมพิมพ์บางรัวลงไปอย่างในคอมพิวเตอร์ แอรอนจึงตอบพร้อมพยักหน้ารับ สองหนุ่มหันไปสนใจงานแล้ว เหลือเพียงสองสาวที่ได้แต่มองกันเองเงียบๆ
=====
“ฉันเป็นส่วนเกินค่ะ”คำพูดของหญิงสาวทำเอาเขาถอนหายใจยาว“คุณมีคุณค่านาเดีย”“แต่จะดีกว่า ถ้าไม่กลับไป”เสียงหวานไม่ได้เครือทว่าก็เบาอย่างเหลือเกินจนเขาต้องกระชับร่างเล็กเข้าหาตัวเองมากขึ้น“แม่ต้องพยายามประคับประคองครอบครัวของแม่ ต้องทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฉันรู้ว่าแม่อาจจะสงสัยพ่อเลี้ยง แต่ก็ต้องทำเหมือนไม่ระแคะระคายอะไร แม่คงเหนื่อยมาก ต้องเก็บทุกอย่างเอาไว้คนเดียว เพราะแม่ใช้ชีวิตคู่กับเขาแล้ว มีลูกด้วย ฉันรู้ว่าแม่อยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์พร้อม และฉันเป็นรอยด่างในชีวิตของแม่”“ลูกสาวทุกคนคือนางฟ้าตัวน้อยของแม่”คลินตันไม่อยากให้หญิงสาวลดทอนคุณค่าในตัวเองลง“ก็จริงนะคะ แต่ฉันไม่คิดว่าตัวเองเป็นนางฟ้าของแม่หรอก แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็รู้ว่าแม่รักฉัน เพราะตอนที่มีกันแค่สองคนท่านพยายามเลี้ยงดูฉันอย่างดี ฉันชอบเรียนเต้นท่านก็ยังให้เรียน ทั้งที่ค่าเรียนไม่ธรรมดาเลย แม่ทำเพื่อฉันมามากค่ะ”“คุณก็เลยทำเพื่อท่านด้วยการจากมา”นาเดียพยักหน้าเบาๆ“ผมอยากให้คุณมีความสุขในทุกๆ อย่าง รวมทั้งเรื่องแม่”ชายหนุ่มบอกสิ่งที่เขาคิด แต่เขาจะไม่บังคับให้เธอทำ ทุกอย่างต้องเป็นการตัดสินใจของนาเดียเอง“ฉันม
เสียงเพลงบรรเลงขึ้น ทุกคนภายในงานยืนขึ้น ขณะที่ร่างเล็กในชุดสีขาวยาวก้าวเดินตามทางที่เด็กตัวเล็กสองคนโปรยดอกไม้ มือคล้องแขนชายมีอายุใบหน้าบ่งบอกว่าเป็นชาวเอเชีย ดวงหน้างดงามมีผ้าลูกไม้สีขาวปิดบัง ปลายทางมีร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มในชุดสูทดูดีรออยู่พร้อมกับบาทหลวงเมื่อหญิงสาวก้าวไปถึงชายหนุ่มก็เป็นคนมารับเธอแทน ใบหน้าคมเข้มไร้หนวดเคราดูหล่อเหลาสะดุดตา ยิ่งเมื่อแย้มยิ้มบางก็ยิ่งน่ามองดวงหน้าสวยน่ารักภายใต้ผ้าลูกไม้ถูกเปิดโดยชายหนุ่ม ทั้งคู่กล่าวคำสาบานและสวมแหวน จุมพิตบางเบา บรรดาแขกลุกขึ้นปรบมือแสดงความยินดีแม้จะมีญาติใกล้ชิดและเพื่อนสนิทไม่กี่คนหากบรรยากาศก็อบอุ่น นาเดียกวาดมองทุกคนที่เธอรู้จักพร้อมกับน้ำตาไหลอาบแก้ม แม้ตรงนี้จะไม่มีแม่ของเธอ แต่ทุกคนที่นี่ก็รักและจริงใจกับเธอ ซูจินกับพี่ๆ ในวงอลิซเซียและครอบครัวของคลินตัน รวมถึงแอรอน ไมลี่ แม้แต่เจมมี่ด้วยเพราะอีกฝ่ายหมั้นกับไมลี่แล้ว จึงถือเป็นคนสนิทของคลินตันเช่นกัน แม้ทั้งคู่จะยังดูไม่ค่อยลงรอยกันนักก็ตามนาเดียไม่เคยคิดว่าเธอจะมีงานแต่ง สำหรับเธอแค่ได้ใช้ชีวิตกับคลินตันก็เพียงพอแล้ว ทว่านาตาชามารดาของชายหนุ่มจัดการให้ และผู้ที
“รู้ว่าคุณไม่ไหวแล้ว”คลินตันบอกพร้อมลูบผมชื้นเหงื่อ เท่านี้ก็ดีที่สุดแล้ว เซ็กส์ระหว่างเธอกับเขาให้ความรู้สึกเร้าใจทุกครั้ง ได้สัมผัสเท่าไรยิ่งต้องการกันและกันมากขึ้น สิ่งที่นาเดียทำกับเขานั้นไม่ใช่ความเก่งกาจเด็ดดวง ทว่าเป็นความกล้า กล้าที่จะทำตามความต้องการของตน นั่นทำให้เขาตื่นตัวตามไปด้วย“เซ็กส์ของเรามันสุดยอดทุกครั้งเพราะคุณ”นาเดียอดตาโตไม่ได้ ในขณะเดียวกันก็หน้าร้อนผ่าวยิ่งขึ้น เพราะอารมณ์ยังไม่คงที่ ทำไมอยู่ๆ เขามาพูดเรื่องนี้ล่ะ“ฉันเนี่ยนะ”“คุณกระตือรือร้น กล้าเรียนรู้ กล้าทำตามใจตัวเองทั้งที่ไม่รู้อะไรเลย เหมือนเดินไปข้างหน้าในความมืด แต่มันก็ชวนให้ตื่นเต้นเร้าใจ ท้าทายดี”“คุณนี่มันคนเถื่อนจริงๆ”คนฟังตีสีหน้าไม่ถูก ทั้งขัดเขินทั้งอับอายจึงต่อว่าชายหนุ่มแทน หากเขาก็เพียงยกยิ้มมุมปากก่อนจะจูบหน้าผากเธอ“คนเถื่อนก็เหมาะกับเด็กใจแตก จริงไหม”“จริงค่ะ”นาเดียไม่ปฏิเสธในข้อนี้ เธอรู้ดีว่าสำหรับเธอแล้ว มีเพียงคลินตันเท่านั้นที่เธออยากมีเซ็กส์ด้วย“คุณมาที่นี่เพื่อรับฉันไปอยู่ด้วย หรือว่าจะมาอยู่กับฉัน”เมื่ออาการวาบหวิวคลายลง หญิงสาวก็ถามในสิ่งที่เธออยากรู้หลังจากคุยกับซูจินแ
ไม่มีเวลาพักหายใจด้วยซ้ำชายหนุ่มก็พาให้เธอนอนหงาย ปลดสายเสื้อชั้นในออกจากแขน ก่อนจะฝังใบหน้าคมเข้มลงแนบบนทรวงขาวสล้าง คลอเคลียฟอนเฟ้นด้วยปากได้รูป พอใจกับความชูชันล่อตาจากปลายยอดสีหวานจนต้องครอบครองเข้ามาภายในปากอุ่นแผ่นหลังบางแอ่นขึ้นตามการดูดดื่มจากปากชายหนุ่ม คลินตันดื่มกินหนักหน่วง แถมความกร้าวร้อนยังเบียดไล้กลางร่างเธอจนหญิงสาวต้องขยับตามเขา ต่างฝ่ายต่างบดเบียดทำให้ความเร่าร้อนทะยานสูงขึ้น คลินตันจับขาเรียวสองข้างเกาะสะโพกตนเอง แล้วขยับขึ้นจับเอวเล็กไว้ด้วยสองมือ เลื่อนไล้ตนเองอย่างพึงพอใจกับสัมผัสหวามเสียงทุ้มในลำคอหนาบ่งบอกอารมณ์ของชายหนุ่มได้เป็นอย่างดี นาเดียมองร่างสูงใหญ่ด้วยตาปรือปรอยหากก็ปลื้มใจที่เขากำลังแสดงออกถึงความถูกใจ ทว่าครู่หนึ่งชายหนุ่มก็หยุดขบกรามแน่น ตาคมกล้ามองเธอก่อนจะโน้มตัวลงมากอดรัดแน่น“ที่รัก ช่วยผม”เขาบอกก่อนจะย้ายตัวเองไปนอนด้านล่างแล้วจับเอวเธอให้ขยับบนตัวเขาแทน ทำให้เรือนร่างงามไล้บนตัวเขาตามไปด้วย ดวงหน้าเล็กเหนือดวงหน้าเขาซุกลงแนบข้างแก้มที่เต็มไปด้วยไรเครา อกอวบขาวบดเบียดเกยบนอกเขาจนแทบขยับมาอยู่บนหน้า หากคลินตันมองด้วยสายตาล้ำลึกวาบหวิว กระทั
“ขอไว้เรื่องหนึ่งแล้วกัน”“นี่คุณกำลังขอฉันแต่งงานใช่ไหม”นาเดียสนใจประโยคแรกที่ชายหนุ่มพูดมากกว่า ตาคู่กลมโตวาวระยับจนคนเห็นอดยิ้มออกมาไม่ได้“แล้วคุณพร้อมหรือยังสาวน้อย”แขนเรียวเล็กสอดขึ้นมากอดคอเขา ก่อนที่หญิงสาวจะขยับดวงหน้าเล็กขึ้นมาหาแล้วแนบปากอิ่มเล็กกับปากเขา“จุ๊บ”เธอจูบเขาเร็วๆ แล้วผละออกมายิ้มกว้าง“แต่งหรือไม่แต่ง ฉันก็พร้อมจะอยู่กับคุณค่ะ”“เด็กใจแตก”คลินตันหรี่ตาลงพร้อมตำหนิ หากก็มองอีกฝ่ายด้วยสายตาพึงพอใจ จากนั้นก็จูบหน้าผากเล็กหนักๆ แล้วเปลี่ยนมายังปลายจมูกเล็ก แก้มนวลเนียนมีสีเลือดฝาด ก่อนจะประทับแนบแน่นลงบนปากน่ารักสีชมพูระเรื่อ เคล้าคลึงแผ่วผิวแล้วค่อยเพิ่มแรงบดเบียดลงไป หญิงสาวเริ่มขยับตอบกลับเขา ชายหนุ่มจึงเม้มกลีบปากอิ่มดึงเบาๆ อย่างยั่วเย้านาเดียเผยอปากส่งลิ้นไปแตะไล้อีกฝ่ายก่อน ชายหนุ่มก็สอดรับทันที ทั้งคู่ต่างแลกเปลี่ยนลมหายใจกันและกันอย่างเร่าร้อนตามแรงคิดถึง เมื่อเขาผละออกร่างเล็กก็ถึงกับหอบรัวแรง ขณะที่อีกฝ่ายจูบแก้มนุ่มซุกไซ้ลงหาคอขาวผ่อง รู้สึกถึงความอุ่นชื้นไล้เลียบนคอตนเองแล้วก็ต้องปล่อยเสียงครวญบางเบาเพราะอาการซ่านสยิวเล่นงาน“คลินตัน ฉันคิดถึงคุ
“ฉันต้องโทรหาซูจินก่อน”นาเดียพูดขึ้นหลังจากทั้งคู่กินอาหารเย็นที่เธอซื้อมาพร้อมกับสั่งรูมเซอร์วิสมาเพิ่ม“เธอรู้อยู่แล้วล่ะ”“ว่าไงนะ”คลินตันยื่นชาแก้วใหม่มาตรงหน้าให้เธอจิบอีกครั้ง“คุณคิดว่าผมมาหาคุณถูกได้ยังไงล่ะ”“ซูจิน? เป็นไปได้ยังไง คุณไม่รู้จักเธอนี่”หญิงสาวถามอย่างแปลกใจ“คุณเป็นคนกดติดตามแอ็กเคานต์ของผมกับคุณไม่ใช่เหรอ”ชายหนุ่มพูดพร้อมยิ้มมุมปาก แต่ทำเอานาเดียหน้างอปากยื่น“นี่หมายความว่าคุณเข้ามาส่องไอจีฉันแต่ไม่เคยคอมเมนต์ กดถูกใจหรือส่งข้อความหาฉันเลยเนี่ยนะ”“อย่าเพิ่งงอนน่า”เขายื่นมือมาโยกหัวเธอเบาๆ“ผมเพิ่งเข้ามาดูหลังจากคิดได้ว่าควรตามคุณมานี่เอง แล้วก็เห็นคุณแท็กเธอบ่อยๆ ดูชื่อก็เลยรู้ว่าเป็นเพื่อนสนิทคุณ”เขาตั้งใจไม่บอกเรื่องที่ตัวเองเจ็บหนักกับนาเดีย“คุณก็เลยแอบติดต่อเธอ”ชายหนุ่มพยักหน้ารับเบาๆ ทว่านาเดียขมวดคิ้ว“ซูจินเชื่อคุณได้ยังไงเนี่ย”เพื่อนสาวของเธอน่าจะระวังการคุยกับคนอื่นผ่านโซเชียล“ก็ต้องตอบคำถามเยอะอยู่เหมือนกันกว่าเธอจะเชื่อว่าผมเป็นคนที่ดูแลคุณช่วงที่คุณต้องพักฟื้นที่ลอนดอน”เขาบอกพร้อมกับปล่อยมือจากอีกฝ่ายแล้วยักไหล่“ดื่มชาให้หมด ร่างกายจะไ







