14 ซ้อนแผน แล้วซ้อนอีก
“ว่าอย่างไรนะท่านแม่ทัพ” มู่เฉินร้องตะโกนเสียงหลง
“ข้าบอกว่าคืนนี้ เยี่ยนฟางจะมาให้ความสำราญแก่ข้า เพียงแต่คนที่จะให้ความสำราญมิใช่ข้า แต่เป็นเจ้ามู่เฉิน” มือหลี่เหว่ยพลิกหน้าตำราพิชัยยุทธิ์ขณะเอ่ยเสียงราบเรียบ
“แต่..ผู้น้อย มู่เฉิน”
“เป็นกระไร อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ มีสาวงามมาให้เชยชมถึงที่ไยถึงอึกอัก”
“แต่นาง นางคิดว่าข้าเป็นท่านแม่ทัพ”
“นั่นล่ะที่ข้าต้องการ”
พรึบ...เสียงพลิกหน้ากระดาษไม่เบาไม่ดังกำลังดี
หลี่เหว่ยหยิบพู่กันจุ่มหมึกเขียนส่วนสำคัญที่ได้อ่านเพื่อจดบันทึกกันลืม มู่เฉินยังอึ้งงันไม่แม้แต่ขยับกาย จ้องท่านแม่ทัพตาแทบถลนจนหลี่เหว่ยต้องถอนหายใจ
“เจ้าเป็นอะไรมู่เฉิน เจ้าเป็นทหารหาญ บ้านเมืองต้องการชายผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบ จวนตระกูลหลี่ก็เปรียบดั่งสนามรบแห่งหนึ่งเช่นกัน ต้องการทั้งฝ่ายปกครอง ทั้งฝ่ายทหารเพื่อฝากความหวัง เจ้าจงทำตัวให้มีความสามารถพอเพียง มีขันติธรรมแบกหาบหนักได้ มิใช่ได้รับภารกิจเล็กน้อยกลับอ้ำอึ้ง แล้วเช่นนี้จะเป็นมือเป็นเท้าข้าได้เยี่ยงไร” หลี่เหว่ยปิดตำราสอดใส่ตู้ด้านข้างแล้วลุกขึ้นยืน
หางตายังเห็นดวงตามู่เฉินเบิกกว้างยิ่งกว่าเดิมจึงส่งมือขวาตบบนบ่ากำยำสองครั้ง
ปึก ปึก..
“ต่อแต่นี้ไป เราสองคนจะสลับห้องนอนกัน ข้ายกห้องให้เจ้าได้สำเริงสำราญเต็มอุรา ส่วนข้าไปนอนห้องของเจ้า” พูดพลางเดินไปด้วย เสียงทุ้มกลั้วหัวเราะพอใจในลำคอค่อยห่างไกลออกไปทุกครา คงเหลือไว้เพียงเสียงหัวใจโหมกระหน่ำและเสียงกลืนน้ำลายของมู่เฉิน
“ท่านแม่ทัพ ท่านพูดมาได้ไม่กระดากปาก ขันติธรรมแบกหาบหนักอันใดกัน ท่านอยากได้แม่นางยี่หวามิไยถึงไม่พูดตรง ๆ เฮ้อ...”
ท่านแม่ทัพใหญ่แห่งเมืองฉางอานเดินยิ้มมุมปากตรงไปยังห้องของมู่เฉิน หางตาเหลือบเห็นแม่นางน้อยเยี่ยนฟางจึงหยุดเท้ายืนกอดอกเอนกายพิงเสากลมชายหลังคา กวาดตาสำรวจร่างอ้อนแอ้นสวมใส่อาภรณ์งดงามสีแดงเพลิงเนื้อบางแต้มฮวาเตี้ยนดอกกุ้ยฮวา ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ใช้พัดกลมปิดดวงหน้าลัดเลาะต้นไม้กระทั่งถึงบันไดขึ้นเรือน หยุดพูดคุยทหารเวรยามช่วงกลางคืนที่หลี่เหว่ยได้กำชับไว้แล้วว่าให้ส่งตัวเข้าไปในห้องของเขาได้เลย
รอยยิ้มมุมปากคราแรกกลายเป็นยิ้มกว้าง แววตาพราวระยับเบือนหน้ากลับไปมองเรือนหลังเล็กท้ายจวนลิบ ๆ - - นี่ไม่ได้ตื่นเต้นเลยนะ แต่ทำไมเลือดลมถึงได้พลุ่งพล่าน
¨ ¨ ¨ ¨ ¨ ¨ ¨ ¨
กึก กึก กึก...
ฮุ่ยซิ่งสะบัดพัดพับสีนวลตาโบกใบหน้ามองนิ้วเรียวของยี่หวาเคาะลงพื้นเรือนไม้เป็นจังหวะครุ่นคิด แล้วเลื่อนสายตามองเพื่อนสาวหมาดๆ แค่สองวันกำลังยกจอกเหล้าขึ้นจิบแต่ไปไม่ถึง ถือค้างมาเป็นครู่แล้ว
“ยี่หวา” เงียบ ไร้เสียงตอบ ฮุ่ยซิ่งสะบัดพัดพับฟาดลงฝ่ามือ
พั่บ..
“อุ๊ย ฮุ่ยซิ่ง เจ้าเล่นอะไร ข้าขวัญหายหมด”
“ขวัญหาย! ข้าเรียกเจ้ามาสักเค่อได้แล้วกระมั้ง”
ยี่หวายกสุราดื่มรวดหมดจอกแล้ววางรินเพิ่ม ผินหน้าไปยังเรือนหลงหลังใหญ่ที่บัดนี้ปิดไฟเงียบแต่หัววัน มีเพียงแสงไฟริบรี่เล็ดลอดมาจากห้องท่านแม่ทัพเท่านั้น
“ข้าเพียงกำลังคิด”
“เรื่องใด” ฮุ่ยซิ่งรินสุราลงจอกเอนกายพิงราวกันตกชานเรือนค่อยยกจอกมาใกล้ปาก “นี่มันสุราดอกกุ้ยฮวาจากหอเจ้า”
“ใช่แล้วฮุ่ยซิ่ง”
“เจ้าหนีบมาด้วยงั้นหรือ หอมยิ่งทั้งหวาน”
“สูตรข้าหมักเอง อย่าเพิ่งนอกเรื่องดีกว่า เจ้าว่า..หญิงเราขึ้นเตียงกับบุรุษกี่ครั้งจึงติดลูก”
พรวด!!! แค่ก ๆ ๆ
“เจ้า เจ้าว่าอะไรนะ” ฮุ่ยซิ่งถึงกับสำลักสุราพ่นทิ้ง
“ข้าเพียงกังวล อันที่ข้าพอรู้อยู่บ้างว่าหากสตรีสมบูรณ์ บุรุษสมบูรณ์ อสุจิแข็งแรง เพียงไม่กี่ครั้งก็ติดลูก”
ฮุ่ยซิ่งมองอย่างสงสัย มือหยิบท้อเชื่อมขึ้นกัดแล้วตัวสั่นด้วยความหวานอมเปรี้ยว
“เจ้าพูดอะไรข้าไม่เห็นรู้เรื่อง อสุจิ..”
ยี่หวายกนิ้วชี้ขึ้นมากำลังเอ่ยอธิบายพลันหยุดนิ่งโบกมือแทน
“เอาล่ะ ๆ ช่างมารดามันเถิดฮุ่ยซิ่ง เอาเป็นว่าเราต้องรออีกสองเดือนจึงจะรู้แน่ใช่หรือไม่ว่าเยี่ยนฟางตั้งครรภ์หรือไม่”
“ถ้าให้แน่คงราวนั้น สองเดือน ทำไม เจ้ากังวลเรื่องมู่เฉิน” ฮุ่ยซิ่งเริ่มจับความกังวลได้เอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะจนยี่หวาค้อนให้หนึ่งครั้ง
“ไม่ตลกเลยนะ เจ้าก็รู้ข้าเป็นคณิกาขายศิลปะไม่ได้ขายเรือนร่าง เรื่องพรรค์นั้นข้ายังมิเคย แม้ว่าจะพอรู้บ้างก็ตาม” ประโยคหลังคล้ายรำพันกับตัวเอง นึกภาพชาติที่แล้วยังไม่ทันได้ถูกเจาะไข่แดงก็ตายลงมาเกิดใหม่ ดันเป็นหญิงคณิกาไม่เคยมือชายเช่นกัน แล้วอย่างนี้ไม่ให้นางกังวลได้เช่นไร
“ไม่เห็นยากอะไรเลย”
“เจ้าเคยนอนกับบุรุษแล้วหรือฮุ่ยซิ่ง” ยี่หวาตาเบิกกว้างวางจอกสุราหันไปหาฮุ่ยซิ่งตรง ๆ
“ก็พวกบุรุษร่ำรวยมักมีรสนิยมแปลกประหลาด แต่ไม่กล้าทำกับฮูหยินตัวเอง เลยต้องหาบุรุษหรือหญิงคณิกาคอยช่วยอย่างไรเล่า”
“แปลกประหลาด คือสิ่งใดกัน หรือว่าจำพวกชอบใช้ความรุนแรง”
“นั่นก็ด้วย ฮึ ตลกดี บางคนเป็นถึงขุนนางใหญ่โตมีหน้ามีตา แต่ชื่นชอบถูกเฆี่ยนตีก่อนร่วมสังวาส”
ยี่หวาขนลุก เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าตนเองตัดสินใจถูกหรือไม่ที่ยินยอมให้มู่เฉินร่วมเตียง ไม่ทันได้เอ่ยถามฮุ่ยซิ่งวางมือลงต้นแขนคล้ายปลอบใจ
“เอาอย่างนี้ ข้าอยากจะรู้ว่าเจ้าพอรู้เรื่องพวกนี้มากไหน รู้หรือไม่ว่าชายหญิงร่วมสังวาสเช่นไร”
“รู้ เรื่องนี้ข้ารู้” ฮะ แฮ่ม ก็เคยดูหนังโป๊มาบ้าง “ข้ารู้ว่าชายหญิงทำกันอย่างไรถึงให้กำเนิดบุตรธิดา”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า เจ้านี่ ท่าทางก๋ากั๋นแต่แท้จริงกลับไร้เดียงสา มิใช่แค่ให้กำเนิดบุตรธิดา หากแต่การร่วมสังวาส ถูกเนื้อตัว รวมร่างหลอมเป็นหนึ่งเดียว จะทำให้เจ้านั้นมีความสุขยิ่งอย่างที่เจ้านึกไม่ถึงเชียว”
“ความสุข เจ้าหมายถึงบุรุษหลั่งน้ำ”
“เก่งมากยี่หวา บุรุษเมื่อถึงจุดหนึ่งย่อมหลั่งน้ำพิสุทธิ์เพื่อให้กำเนิดทายาท ทว่าสตรีเช่นเจ้าก็หลั่งน้ำเช่นกันเมื่อถึงจุดสุดยอด”
“โอ้....” ยี่หวายกมือปิดปาก “ข้า ข้าคิดว่าพอเข้าใจ” ภาพหนังเอวีแวบเข้ามาในหัวทันที
“เอาเถิด นั่นมันแล้วแต่ชาย บุรุษเก่งกาจบนเตียงย่อมทำให้เจ้ามองเห็นดวงดาว” ฮุ่ยซิ่งรินสุราพลันพบว่าหมดกาเสียแล้ว
“แล้ว ข้าอยากรู้อีกเรื่อง สมัยนี้เขาเรียกว่าอะไรนะ คุมกำเนิด เจ้ารู้หรือไม่ว่าทำยังไง”
“คุมกำเนิด หมายถึงอะไร”
“หมายถึงทำยังไงไม่ให้ตั้งครรภ์ ข้ายังไม่อยากมีลูก โดยเฉพาะกับมู่เฉิน”
“เจ้าก็ให้มู่เฉินปล่อยน้ำด้านนอก”
“แต่ว่า ถ้ามู่เฉินไม่ยอม หรือมันไม่ได้ผลล่ะ”
“ทุกอย่างมีราคาที่ต้องจ่าย” ฮุ่ยซิ่งแบมือออกมาตรงหน้ากระดิกนิ้วรอจ้องหน้าด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
30 บทส่งท้ายใบกระจับล้อคลื่นในบัวลู่ลมเรือน้อยชมจงกลกลางนทีพบชายนางก้มยิ้มกลั้นวจีนารีทำปิ่นหยกตกลงน้ำ[1]หลี่เหว่ยยกมือป้องแดดยามบ่ายคล้อยกลางฤดูร้อนที่ยังแผดเผา อีกมือค้ำถ่อเรือลำน้อยลอยละล่องเหนือบึงบัวดอกหลากสี คลี่ยิ้มยามเห็นฮูหยิน ภรรยายอดดวงใจเอนกายพิงกาบเรือแกว่งมือกวักน้ำ บ้างแตะหยอกดอกบัวเอียงดวงหน้างดงามส่งรอยยิ้มอ่อนหวาน“เจ้าร้อนหรือไม่”ยี่หวาส่ายหน้าแทนคำตอบ แล้วค่อยคลานเข่าไปยังแม่ทัพใหญ่หยิบเซาปิ่งแบ่งชิ้นส่งเข้าปากหนาก่อนปัดเศษขนมปังข้างแก้มให้“ปีนี้ร้อนยิ่ง ทว่าข้ามาบึงบัวแห่งนี้คราไร กลับรู้สึกเย็น”ยี่หวาขยับร่างกลับไปที่เดิม ลูบปอยผมออกจากดวงหน้ายามลมโชยพัดจนปลิวไสว เท้าข้อศอกบนกาบเรือเกยคางบนหลังมือ“ข้ามีเรื่องยังไม่ได้บอกเจ้ายี่หวา”น้ำเสียงจริงจังทั้งหลบสายตาทำให้ยี่หวาคิ้วขมวดนิ่ง“อีกไม่กี่วันข้าอาจต้องไปลั่วหยาง”ร่างอ้อนแอ้นที่เอนกายอยู่พลันเหยียดตึงนั่ง
29 NC “ทะ ท่าแม่ทัพ นั่น อะ อะไรน่ะ”ยี่หวากอบผ้าขึ้นปิดทรวงอกกระเถิบถอยหนีเมื่อเห็นท่านแม่ทัพใหญ่จู่ ๆ ก็ลุกขึ้นจากเตียงขณะโรมรันกอดรัดฟัดเหวี่ยงกำลังได้ที่ใกล้สอดใส่ เดินกลับมาอีกครั้งพร้อมผ้าสีแดงเส้นเล็กพันมือทั้งสองข้างแล้วกระตุกขึงจนตึงมือพรึบ ๆ ..“เชือกผ้าไหม”“ทะ ท่านเอาสิ่งนี้มาทำอะไร” น้ำเสียงกระท่อนกระแท่นเหลือบมองเชือกแล้วตวัดสายตาขึ้นมองสีหน้าท่านแม่ทัพดูคล้ายพึงพอใจสุดขีดด้วยรอยยิ้มมารร้าย“ตำราปกขาวเขียนไว้ว่า หากต้องการมัดใจภรรยาให้อยู่หมัด ไม่ให้ปั่นใจหนีหายไปที่อื่น จงมัด...” พึมพำในลำคอไม่เต็มเสียง กลัวภรรยารักถอยหนี แต่ยี่หวายังได้ยินอยู่ดี“มัด!!!”ตึก ... คุกเข่าลงเตียง“ตามตำราบอกว่าสตรีทุกนางล้วนชื่นชอบยิ่งนัก ซ้ำร้องครางลั่นราวขึ้นสวรรค์ชั้นฟ้า”“...”ยี่หวาอ้าปากเหวอ ‘ตำรา’ นี่ท่านแม่ทัพของนางถึงขั้นอ่านตำรากามสูตรเพื่อมาทำสิ่งนี้กับนาง“ข้า ข้า ไร้ซึ่งคำพูด ท่านแม่ทัพ”“เจ้าไม่ต้อง
28 ดื่มเหล้ามงคล“เจ้าคิดสิ่งใดยี่หวา ต้องไม่ใช่เรื่องดี” หลี่เหว่ยใช้นิ้วดีดเบากลางหน้าผากเอ่ยเสียงนุ่มอ่อนโยนก่อนนั่งลงบนเตียงด้านหลัง ชะโงกหน้าผ่านซอกไหล่ก้มมองบุตรชายนอนนิ่งไม่ส่งเสียงร้องดั่งเด็กทั่วไป“ท่านขยับออกห่างหน่อยไม่ได้หรือไร ข้าร้อน แล้วไยไม่ไปทำงาน”“ข้าลางานแล้ว”“ลางาน?”“ข้าต้องอยู่เดือน”“...”ยี่หวาคิ้วกระตุก อยู่เดือนมิใช่หน้าที่ของสามี แต่นี่มันคือข้ออ้างชัด ๆ“ท่านแม่ทัพเพียงต้องการเป่าประกาศว่าเป็นชายมีน้ำยาใช่หรือไม่” แค่นลมเมื่อพูดจบจนอกแกร่งด้านหลังกระเพื่อม“รู้ดีเยี่ยงนี้ต้องรีบยกน้ำชา”“ข้าไม่ได้รับปาก ท่านอย่าซี้ซั้วพูดเองฝ่ายเดียว ข้ายอมมาอยู่จวนท่านเพราะเห็นแต่เจ้าก้อนแป้งต่างหาก”หลี่เหว่ยไม่นำพาปล่อยให้ยี่หวาพูดไปเรื่อยส่วนมือเริ่มเลื้อยอ้อมมาด้านหน้ารัดเอวนางไว้ผ่าง...ไม่ทันได้ลวนลามมากไปกว่านั้นประตูเปิดกว้างออกอย่างแรงพร้อมใบหน้าของหญิงวัยกลางคนพรวดพราดเดินเข้ามา“หลานข้า หลี่จง” น้ำเสียงโหยหวนสักเล็กน้อย
28 คลอดแล้วจ้า“อุแว้ แง ........ แง......”ยี่หวาทิ้งตัวอ่อนแรงทันใดยามลูกน้อยคลอดออกมาอย่างปลอดภัย มือห้อยลงขอบเตียงหอบหายใจ ได้ยินเสียงยินดี เสียงท่านหมอ เสียงหมอตำแยวุ่นวายผสมปนเปจนมั่วเละเทะ“ยินดีด้วย ยินดีด้วยท่านแม่ทัพ บุตรชายเจ้าค่ะ”แว่วเสียงหมอตำแยร้องบอกยินดี ยี่หวาหลับตาถอนหายใจ ในที่สุดบุรุษหน้าหนาก็มาเสียทีหลังจากที่ปล่อยให้ทหารมาเฝ้านางเสียหลายเดือนบัดนี้นางผู้คลอดลูกนอนหมดแรงไม่ทันได้เห็นหน้าบุตรชาย กลายเป็นชายหน้าด้านได้โอบอุ้มเห็นหน้าก่อนข้าเสียอีก - - ข้าต้องโกรธให้นานเสียหน่อยยี่หวาพลิกตัวตะแคงหันหนีทันที ไม่ต้องการเห็นหน้าคนหลอกลวง“ฮูหยินเจ้าคะ บุตรชายเจ้าค่ะ”ในที่สุดคงถึงคราวข้าได้ยลโฉมบุตรชายตนเองเสียที เอียงหน้ากลับไปพลันพบสบสายตาที่ยืนนิ่งข้างเตียง ในอ้อมแขนใหญ่โอบอุ้มบุตรชายตัวน้อยที่ยังร้องจ้า“หลี่จงต้องการดื่มนม”คิ้วเรียวสวยกระตุกยามได้ยินชื่อบุตรชาย ‘หลี่จง’ เจ้าหน้าตายบังอาจตั้งชื่อลูกข้า“เออ..เจ้าลุกไหวห
27 ตามหมอ หมอหลวงงงงงง“นางใกล้คลอดหรือยัง”มู่เฉินยืนนิ่งด้านข้างเก้าอี้ในห้องทำงาน เบื้องหน้าคือหมอหลวงที่ท่านแม่ทัพให้แฝงตัวเข้าไปดูแลครรภ์แม่นางยี่หวาในหอซีหยางโหลว ทั้งส่งคนเฝ้าห่าง ๆ ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา“ใกล้แล้วท่านแม่ทัพ คงอีกไม่กี่วัน”“ถึงวันให้ส่งคนมาแจ้ง ข้าจะไปดูด้วยตนเอง”กล่าวจบหลี่เหว่ยยกมือโบกไล่แล้วกลับไปอ่านเอกสารราชการตรงหน้าต่อ มือยังถือพู่กัน ดวงหน้านิ่งเฉย มู่เฉินรินน้ำชาเพิ่มช่วยลดความตึงเครียด“น้ำชาท่านแม่ทัพ”“กำชับคนให้ดูแลหอซีหยางโหลวอย่างดี อย่าแสดงตัวให้นางเห็น แล้วเมียเจ้า เยี่ยนฟางเป็นเยี่ยงไรบ้าง”“ใกล้คลอดเช่นกันท่านแม่ทัพ คงไล่เลี่ยห่างกันไม่กี่วัน”“ดี”มู่เฉินนิ่งเงียบเมื่อท่านแม่ทัพหมดคำถาม“อากาศเริ่มร้อนแล้ว เจ้าส่งน้ำแข็ง ไม่สิ ไม่ได้ ไม่ดีต่อสุขภาพ เจ้าให้คนนำพัดอันใหม่ไปให้นางหรือยัง”“ขอรับท่านแม่ทัพ ฝากฮุ่ยซิ่งไปเช่นเดิม แม่นางยี่หวาไม่มีทางรู้ว่าส่งมาจากท่านขอรับ”“อืม...กว่าจะเคี
26 ลำแสงแรกพระอาทิตย์ตึก ตึก ตึกเสียงวิ่งบนพื้นหิมะทำให้ทั้งสองหันตัวกลับไปมองต้นเสียง เห็นจินเยว่วิ่งหน้าตั้งสีหน้าเบิกบานยิ้มกว้างจนถึงใบหู หน้าแดงฝ่าลมหนาวเหน็บแล้วหยุดหอบหายใจตรงบันไดขึ้นเรือนเล็ก“อันใดกันจินเยว่ วิ่งราวกับวิ่งหนีใครมา”“แฮก ๆ ข้า เดี๋ยวก่อน ขอพัก”จินเยว่ยังหอบหายใจมือกุมท้องขณะก้าวขึ้นเรือนแล้วนั่งลงข้างยี่หวา“สงสัยเรื่องดี ดูจินเยว่สิ ยิ้มกว้างขนาดนี้” ยี่หวาเอ่ยเย้าขณะส่งมือดึงแก้มแม่นางน้อย“อุ๊ย..เจ็บพี่ยี่หวา มีม้าเร็วมา แจ้งว่าท่านแม่ทัพกำลังเข้าเขตเมืองฉางอานแล้ว อีกไม่กี่วันจะถึงจวน”สิ้นเสียงจินเยว่ ดวงหน้าของยี่หวาพลันสดชื่นขึ้นทันตา นางเผยรอยยิ้มสดใสเป็นครั้งแรกไม่แสแสร้งในรอบหลายเดือน รวมไปถึงแววตาพราวเปล่งประกาย“เพิ่งพูดถึงก็มาเสียแล้วกองทัพเสือดำ” ฮุ่ยซิ่งพูดเย้ายี่หวาที่บัดนี้พวงแก้มแดงระเรื่อยิ้มน้อยยิ้มใหญ่“เจ้าจะรอก่อนไหมฮุ่ยซิ่ง”“ไม่ ข้าตั้งใจแล้วไม่เคยเปลี่ยนใจ”“รออะไร พี่ฮุ่ยซิ่งจะไปไหน”“ข้าต้องจากจวนห