13 ตกลง
“ข้อเสนออะไร” สะบัดกระบี่เก็บเข้าฝักแล้ววางไว้ด้านข้าง
“ข้าได้รับจ้างเป็นเงินจำนวนมาก .. หีบใหญ่ทีเดียว ใช้ทั้งชาติก็ไม่หมด ให้ช่วยเหลือท่านแม่ทัพหายจากอาการหลงใหลบุรุษ กลับมาชื่นชอบสตรี และต้องทำให้หญิงผู้นั้นตั้งครรภ์” ยี่หวาพลิกหน้าเอียงไปยังทิศทางของห้องแม่ทัพจึงมิทันได้เห็นสีหน้าตกใจของหลี่เหว่ย
“ใครกันจ้างพวกเจ้า”
“จะใครเสียอีก ผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียของเรื่องนี้มากที่สุด” ยี่หวาหยุดพูดแล้วหันหน้ากลับมาส่งรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ให้
“หลี่ฮูหยินเช่นนั้นหรือ”
“เจ้าฉลาดยิ่ง ใช่แล้ว” นางขยับขาลงแล้ววางเรียบบนพื้นข้างเตาอุ่นจนหลี่เหว่ยต้องมองตาม เท้าเรียวโผล่ออกมาจากชายเสื้อคลุมรวมไปถึงท่อนขาขาวนวลโดยที่นางไม่รู้ตัวเพราะมัวแต่เกลี้ยกล่อม
“ข้ามีทรัพย์สมบัติมากพอแล้วไม่ต้องการอีก”
“นั้นเพราะท่านไม่เห็นว่ามันมากมายขนาดไหน”
“เจ้าจะอยากได้เงินทองไปทำไมกันยี่หวา”
“ก็เพราะข้าไม่ต้องการติดอยู่ที่นี่ตลอดชีวิตนะสิ หากข้ามีเงินทอง ข้าจะท่องเที่ยวไปให้ทั่ว”
“เจ้าหาได้จากทางอื่น” หลี่เหว่ยผลักกระบี่ออกห่างแล้วขยับร่างเข้าใกล้เตาอุ่น นั่นหมายถึงเข้าใกล้ร่างอรชรขึ้นอีกนิด - - ไม่ใช่เพราะอยากดมกลิ่นหรอกนะ อากาศมันหนาว คงเป็นเหตุผลนั้น
“หากท่านช่วยข้าให้สมหวัง มู่เฉิน ข้าจะแบ่งเงินหีบนั้นให้เจ้า ตกลงไหม” ยี่หวามองด้วยสีหน้าวาดหวังส่งรอยยิ้มกระจ่างจนหลี่เหว่ยจำต้องหลุบตาแสร้งมองกระถางเตาอุ่น
“ข้าไม่ได้อยากได้เงินทอง”
“งั้นเจ้าต้องการสิ่งใด ข้ายินยอมทั้งสิ้น” เสียงหวานนุ่มเอ่ยขึ้นกระตือรือร้นพลางขยับตัวลงนั่งพื้นด้านล่าง คุกเข่าขยับไปใกล้อีกจนมือสัมผัสหัวเข่าใหญ่หนา ยี่หวาวางมือลงบนหัวเข่าอย่างไร้ความเกรงกลัว
“ข้อแลกเปลี่ยนของข้าไม่ได้หนักหนาอะไรสำหรับเจ้ายี่หวา เพียงแต่...” หลี่เหว่ยเบือนหน้ากลับมา จ้องนางด้วยสายตาสีนิลคมกริบอย่างที่ใช้ในการรบ มุ่งมั่น เอาจริงเอาจัง จนเป็นยี่หวาเองที่ต้องขยับตัวออกห่างแต่มือแกร่งรั้งข้อมือเธอไว้เสียก่อน
“เพียงแต่อะไร” น้ำเสียงขาดหายไปในลำคอเมื่อกระแสธารปรารถนาผ่านแวบขึ้นในดวงตาคมด้านบน
“หากต้องการให้ท่านแม่ทัพเปลี่ยนใจจากชื่นชอบบุรุษเป็นสตรี เจ้าคงหวังให้ท่านแม่ทัพร่วมหลับนอนกับหญิงใช่หรือไม่”
“ใช่ แต่เป็นหญิงใดไม่ได้นอกจากน้องสาวของข้า เยี่ยนฟาง”
“เหตุใดจึงเป็นเยี่ยนฟาง” หลี่เหว่ยขยับข้อมือดึงจนยี่หวาจำต้องลุกจากท่าคุกเข่าแล้วลงนั่งด้านข้าง
“เพราะนางดีต่อข้า และนางต้องการบุตร ต้องการที่พึ่งพิงในยามแก่ชรา”
“แล้วเจ้าไม่ต้องการหรอกหรือ” เสียงทุ้มต่ำเหมือนแหบลงอีกอย่างน่าประหลาด เขามองดวงหน้า รอยยิ้ม และไฝเหนือริมฝีปากจนเผลอยกมือขึ้นลูบ ร่างอรชรตรงหน้าสะดุ้งเล็กน้อยแต่ไม่ได้ถอยหนี ยินยอมปล่อยให้นิ้วหยาบกระทำตามใจ ลูบไล้ไฝเม็ดเล็กเล่น
“ฮึ ไม่หรอก ข้ามิต้องการผู้ใดนอกจากตัวข้าเอง นี่ท่าน ข้าให้ท่านแตะตัวข้า ลูบไฝข้ามานานพอแล้วมู่เฉิน ท่านจะตอบได้หรือยังว่าต้องการสิ่งใด” ยี่หวายกมือจับข้อมือสีเข้มไว้ดึงลงแต่หลี่เหว่ยยังขืนแรงพลิกข้อมือจนเป็นนางเองที่โดนจับตรึงแน่น
“ข้าต้องการเจ้า ยี่หวา เจ้ายินยอมหรือไม่” หลี่เหว่ยมิอาจห้ามใจได้ยกข้อนิ้วลูบกรอบหน้าที่ตอนนี้เหวอไปแล้วด้วยความประหลาดใจ “เป็นอันใดกัน มีอะไรผิดแผก”
“ท่าน...ต้องการข้า ท่าน ท่าน มิได้ชอบบุรุษดอกหรือ มิใช่ มิใช่..”
“นี่เจ้าคิดอะไรอยู่ยี่หวา คิดว่าข้าเป็นคนสนิทของท่านแม่ทัพ รับใช้ทั้งนอกเตียงในเตียงงั้นสิ” น้ำเสียงเริ่มห้วนเล็กน้อย
ยี่หวาไม่อาจพูดเอ่ยวาจาใดได้ ความแปลกประหลาดใจทำให้นางได้แต่พยักหน้ารับ แล้วสะดุ้งสุดตัวเมื่อมือแกร่งตรงหน้าเลื่อนลงลูบผ่านลำคอเขี่ยสาบเสื้อกระทั่งถึงสายคาดผูกเอว
ผึ่ง!!
ชายตรงหน้าดึงสายคาดนางออกเลื่อนมือเข้าหาหน้าท้องอ่อนนุ่มแบนราบกางทาบไว้ส่งกระไอร้อนแล้วลงแรงกำแน่นดึงกระชากร่างเล็กเข้าหาจนนางเสียหลัก
“ท่าน มู่เฉิน ข้า ข้ายังมิได้ตกลง” ยี่หวายันฝ่ามือบนบ่ากำยำทั้งสองข้าง ดูไปแล้วบุรุษผู้นี้ช่างหน้าหนาเพราะหาได้ใส่ใจเสียงประท้วงราวกับว่าเคยชินกับการสั่งการแล้วได้ในสิ่งที่ต้องการมาตลอด
มือสีเข้มยังรุกรานเลื่อนผ้าเสื้อคลุมตัวใหญ่ออกจากหัวไหล่จนมองเห็นความขาวนวลเนียนทีละน้อย
“ข้ามิได้ชอบบุรุษยี่หวา หากเจ้าตอบตกลงข้าจะช่วยให้เจ้าสมหวัง” สายตาหลี่เหว่ยกวาดไล้ผิวพรรณนวลเนียน จากลาดไหล่เลื่อนลงสู่เนินทรวงนูนเด่นกลมกลึงใหญ่ล้นมือ พลางกลืนน้ำลาย “แต่..วันนี้ข้าเพียงขอมัดจำสักเล็กน้อย”
“มัดจำ อื้อออ มู่เฉิน ท่าน หยุดก่อน นั่นหัวนมข้า อย่ากัด อึก”
ใจบุรุษแกร่งดั่งหินผาหากแต่เพียงได้ยลสิ่งสวยงามล่อตาด้วยปลายป้านยอดเล็กชมพูสดดั่งผลเชอรี่ กลับหวั่นไหวใจเต้นโหมแรง ต้องการจับต้อง ดูดกลืน ปาดเลีย ทำทุกทางให้หัวเล็กเต่งตึงนั้นชอกช้ำคาปาก
มือกระชากดึงบั้นเอวเล็กกระชับแนบแน่นลำกายแกร่ง อีกมือจับต้นขาให้นั่งคร่อมเพื่อให้เนินนมสล้างกระเพื่อมไหวด้านหน้าตรงพอดีสำหรับกระทำอย่างที่ใจต้องการ
ลิ้นสากปาดขึ้นจากฐานทรวงขบเม้มตลอดทางจนถึงยอดปลายหัว ออกแรงขบกัดสัมผัสสนิทชิดเชื้อร้อนแรงจนยี่หวาสะท้านเฮือก ยึดบ่าเกาะเกี่ยวเป็นหลัก
“ตกลงสิยี่หวา อืม”
“ข้า ข้า คิดไม่ออก ท่านหยุดก่อน อื้ออ” ยี่หวาพยายามอย่างยิ่งแล้วในการบิดกายหนี แต่ใจกลับทำตรงข้ามแอ่นร่างส่งยอดหัวเล็กสีชมพูเข้าปากหนาของชายด้านล่าง ให้เขาได้ขบกัดไล้เลียตามใจชอบ
“คืนวันส่งตัวเยี่ยนฟางได้สุขสม คืนวันต่อมาข้าต้องได้ตัวเจ้า และเป็นเช่นนั้นทุกคืนจนกว่าเยี่ยนฟางจะตั้งครรภ์ดีหรือไม่” หลี่เหว่ยทอดถอนใจรดทรวงอกงาม ขยับใบหน้าแกร่งซุกไซ้ซอกคอขบเม้มลากลิ้นขึ้นหาซอกหูชอนไช ก่อนเลื่อนดวงหน้ามาตรงหน้านาง จดจ้องสบตากันและกัน รอคอยด้วยใจระทึก
“แค่ตั้งครรภ์ใช่หรือไม่” ยี่หวาเอ่ยเสียงเบากว่าปกติผิดวิสัยจนเรียกยิ้มมุมปากของชายร่างแกร่ง
“ใช่ แค่นั้น” หลี่เหว่ยหรี่ตาลง หลุบมองริมฝีปากตรงหน้า รอให้นางขยับปากตอบตกลง - - ลมปรารณภายในปั่นป่วนอีกแล้ว
“ตกลง”
สิ้นคำยี่หวาพลันถูกครอบครองด้วยริมฝีปากหนาอุ่นร้อนจัด เขาฉกแย้มปากนางด้วยลิ้น กวาดไล้ ชอนไช เสาะหาความหวานล้ำ แล้วถอนออก จากนั้นกดอีกครั้งหนักหน่วงกว่าเดิม พลิกร่างจนนางนอนหงายโดยมีเขาสวมใส่อาภรณ์เต็มยศชะโงกง้ำเหนือกาย บดเบียดแนบแน่นจนเป็นเนื้อเดียวกันพร้อมลากฝ่ามือทั่วร่างกาย เปิดปากด้วยลิ้นชำนาญ
“คืนนี้เลย ให้เยี่ยนฟางมาคืนนี้เลย” หลี่เหว่ยหอบหายใจแล้วลดปากลงเข้าหาอีกครั้งก่อนปล่อย
“ระ เร็ว มาก”
“ข้าแค่ใจร้อน คืนนี้เมื่อเยี่ยนฟางได้สุขสม พรุ่งนี้บ่ายเจ้าต้องมาหาข้า” หลี่เหว่ยอดใจไม่ไหวดึงสาบเสื้อด้านหน้าออกแล้วก้มลงมองกวาดสายตาจดจำเนื้อนวลใต้ร่างทุกตารางนิ้ว
“ทำไมบ่าย ไม่มากลางคืน อือ...ท่าน”
มือสากเลื่อนลงถึงหน้าท้องทาบไว้ก่อนชะโงกกายขึ้นสบตาด้วยดวงตาของนักรบที่ได้รับชัยชนะ
“ข้าแรงเยอะ ครั้งเดียวไม่เคยพอ” พูดเสียงราบเรียบเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาผิดไปจากคนใต้ร่างที่เพียงฟังกลับสะดุ้ง
“แต่...”
“เลือกเอายี่หวา”
และนั่นเป็นคำสุดท้ายที่ยี่หวาได้ยินเพราะเพียงแค่นางเอ่ยตอบตกลง ชายผู้นั้นพลันลุกขึ้นดึงนางให้ยืนแล้วผูกสาบเสื้อเข้าหากันก่อนดันแผ่นหลังหลุนออกจากห้องทันทีไม่รอช้า - - ไม่ทันได้สวมรองเท้าด้วยซ้ำ
ยี่หวายังยืนมึนสงสัยงวยงันหน้าเรือนหลง ยามนี้ฝนหยุดตกแล้วมองเห็นรุ้งทอแสงเจ็ดสีทำสะพานโค้งบนขอบฟ้างดงามยิ่ง เลื่อนดวงหน้าลงมองทหารยาม ยังคงยืนนิ่งไม่รับรู้เมื่อยี่หวาพาร่างอรชรเดินผ่านในชุดเสื้อคลุมสีเข้มเนื้อดีปักลายนกกระเรียน - - ยกมือทาบอกที่ยังไม่หยุดเต้นรัว
เอาล่ะ ในเมื่อสวรรค์ลิขิตให้นางต้องมาเกิดใหม่ในชาตินี้ ในเรือนร่างงดงามของหญิงคณิกาซูฮวา ฉะนั้นนางคงต้องยอมปล่อยให้มันเป็นไปตามโชคชะตากำหนดคงดีที่สุด
ดวงหน้าหวานค่อยคลี่ยิ้มมุมปากแล้วออกเดินอย่างมั่นใจด้วยเท้าเปล่า ย่ำลงพื้นหญ้านุ่มพลิ้วกาย ลืมเลือนเรื่องพัดที่เขาผู้นั้นต้องชดใช้ ในหัวสมองมีเพียงเรื่องพรุ่งนี้
รอคอยด้วยใจระทึก
30 บทส่งท้ายใบกระจับล้อคลื่นในบัวลู่ลมเรือน้อยชมจงกลกลางนทีพบชายนางก้มยิ้มกลั้นวจีนารีทำปิ่นหยกตกลงน้ำ[1]หลี่เหว่ยยกมือป้องแดดยามบ่ายคล้อยกลางฤดูร้อนที่ยังแผดเผา อีกมือค้ำถ่อเรือลำน้อยลอยละล่องเหนือบึงบัวดอกหลากสี คลี่ยิ้มยามเห็นฮูหยิน ภรรยายอดดวงใจเอนกายพิงกาบเรือแกว่งมือกวักน้ำ บ้างแตะหยอกดอกบัวเอียงดวงหน้างดงามส่งรอยยิ้มอ่อนหวาน“เจ้าร้อนหรือไม่”ยี่หวาส่ายหน้าแทนคำตอบ แล้วค่อยคลานเข่าไปยังแม่ทัพใหญ่หยิบเซาปิ่งแบ่งชิ้นส่งเข้าปากหนาก่อนปัดเศษขนมปังข้างแก้มให้“ปีนี้ร้อนยิ่ง ทว่าข้ามาบึงบัวแห่งนี้คราไร กลับรู้สึกเย็น”ยี่หวาขยับร่างกลับไปที่เดิม ลูบปอยผมออกจากดวงหน้ายามลมโชยพัดจนปลิวไสว เท้าข้อศอกบนกาบเรือเกยคางบนหลังมือ“ข้ามีเรื่องยังไม่ได้บอกเจ้ายี่หวา”น้ำเสียงจริงจังทั้งหลบสายตาทำให้ยี่หวาคิ้วขมวดนิ่ง“อีกไม่กี่วันข้าอาจต้องไปลั่วหยาง”ร่างอ้อนแอ้นที่เอนกายอยู่พลันเหยียดตึงนั่ง
29 NC “ทะ ท่าแม่ทัพ นั่น อะ อะไรน่ะ”ยี่หวากอบผ้าขึ้นปิดทรวงอกกระเถิบถอยหนีเมื่อเห็นท่านแม่ทัพใหญ่จู่ ๆ ก็ลุกขึ้นจากเตียงขณะโรมรันกอดรัดฟัดเหวี่ยงกำลังได้ที่ใกล้สอดใส่ เดินกลับมาอีกครั้งพร้อมผ้าสีแดงเส้นเล็กพันมือทั้งสองข้างแล้วกระตุกขึงจนตึงมือพรึบ ๆ ..“เชือกผ้าไหม”“ทะ ท่านเอาสิ่งนี้มาทำอะไร” น้ำเสียงกระท่อนกระแท่นเหลือบมองเชือกแล้วตวัดสายตาขึ้นมองสีหน้าท่านแม่ทัพดูคล้ายพึงพอใจสุดขีดด้วยรอยยิ้มมารร้าย“ตำราปกขาวเขียนไว้ว่า หากต้องการมัดใจภรรยาให้อยู่หมัด ไม่ให้ปั่นใจหนีหายไปที่อื่น จงมัด...” พึมพำในลำคอไม่เต็มเสียง กลัวภรรยารักถอยหนี แต่ยี่หวายังได้ยินอยู่ดี“มัด!!!”ตึก ... คุกเข่าลงเตียง“ตามตำราบอกว่าสตรีทุกนางล้วนชื่นชอบยิ่งนัก ซ้ำร้องครางลั่นราวขึ้นสวรรค์ชั้นฟ้า”“...”ยี่หวาอ้าปากเหวอ ‘ตำรา’ นี่ท่านแม่ทัพของนางถึงขั้นอ่านตำรากามสูตรเพื่อมาทำสิ่งนี้กับนาง“ข้า ข้า ไร้ซึ่งคำพูด ท่านแม่ทัพ”“เจ้าไม่ต้อง
28 ดื่มเหล้ามงคล“เจ้าคิดสิ่งใดยี่หวา ต้องไม่ใช่เรื่องดี” หลี่เหว่ยใช้นิ้วดีดเบากลางหน้าผากเอ่ยเสียงนุ่มอ่อนโยนก่อนนั่งลงบนเตียงด้านหลัง ชะโงกหน้าผ่านซอกไหล่ก้มมองบุตรชายนอนนิ่งไม่ส่งเสียงร้องดั่งเด็กทั่วไป“ท่านขยับออกห่างหน่อยไม่ได้หรือไร ข้าร้อน แล้วไยไม่ไปทำงาน”“ข้าลางานแล้ว”“ลางาน?”“ข้าต้องอยู่เดือน”“...”ยี่หวาคิ้วกระตุก อยู่เดือนมิใช่หน้าที่ของสามี แต่นี่มันคือข้ออ้างชัด ๆ“ท่านแม่ทัพเพียงต้องการเป่าประกาศว่าเป็นชายมีน้ำยาใช่หรือไม่” แค่นลมเมื่อพูดจบจนอกแกร่งด้านหลังกระเพื่อม“รู้ดีเยี่ยงนี้ต้องรีบยกน้ำชา”“ข้าไม่ได้รับปาก ท่านอย่าซี้ซั้วพูดเองฝ่ายเดียว ข้ายอมมาอยู่จวนท่านเพราะเห็นแต่เจ้าก้อนแป้งต่างหาก”หลี่เหว่ยไม่นำพาปล่อยให้ยี่หวาพูดไปเรื่อยส่วนมือเริ่มเลื้อยอ้อมมาด้านหน้ารัดเอวนางไว้ผ่าง...ไม่ทันได้ลวนลามมากไปกว่านั้นประตูเปิดกว้างออกอย่างแรงพร้อมใบหน้าของหญิงวัยกลางคนพรวดพราดเดินเข้ามา“หลานข้า หลี่จง” น้ำเสียงโหยหวนสักเล็กน้อย
28 คลอดแล้วจ้า“อุแว้ แง ........ แง......”ยี่หวาทิ้งตัวอ่อนแรงทันใดยามลูกน้อยคลอดออกมาอย่างปลอดภัย มือห้อยลงขอบเตียงหอบหายใจ ได้ยินเสียงยินดี เสียงท่านหมอ เสียงหมอตำแยวุ่นวายผสมปนเปจนมั่วเละเทะ“ยินดีด้วย ยินดีด้วยท่านแม่ทัพ บุตรชายเจ้าค่ะ”แว่วเสียงหมอตำแยร้องบอกยินดี ยี่หวาหลับตาถอนหายใจ ในที่สุดบุรุษหน้าหนาก็มาเสียทีหลังจากที่ปล่อยให้ทหารมาเฝ้านางเสียหลายเดือนบัดนี้นางผู้คลอดลูกนอนหมดแรงไม่ทันได้เห็นหน้าบุตรชาย กลายเป็นชายหน้าด้านได้โอบอุ้มเห็นหน้าก่อนข้าเสียอีก - - ข้าต้องโกรธให้นานเสียหน่อยยี่หวาพลิกตัวตะแคงหันหนีทันที ไม่ต้องการเห็นหน้าคนหลอกลวง“ฮูหยินเจ้าคะ บุตรชายเจ้าค่ะ”ในที่สุดคงถึงคราวข้าได้ยลโฉมบุตรชายตนเองเสียที เอียงหน้ากลับไปพลันพบสบสายตาที่ยืนนิ่งข้างเตียง ในอ้อมแขนใหญ่โอบอุ้มบุตรชายตัวน้อยที่ยังร้องจ้า“หลี่จงต้องการดื่มนม”คิ้วเรียวสวยกระตุกยามได้ยินชื่อบุตรชาย ‘หลี่จง’ เจ้าหน้าตายบังอาจตั้งชื่อลูกข้า“เออ..เจ้าลุกไหวห
27 ตามหมอ หมอหลวงงงงงง“นางใกล้คลอดหรือยัง”มู่เฉินยืนนิ่งด้านข้างเก้าอี้ในห้องทำงาน เบื้องหน้าคือหมอหลวงที่ท่านแม่ทัพให้แฝงตัวเข้าไปดูแลครรภ์แม่นางยี่หวาในหอซีหยางโหลว ทั้งส่งคนเฝ้าห่าง ๆ ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา“ใกล้แล้วท่านแม่ทัพ คงอีกไม่กี่วัน”“ถึงวันให้ส่งคนมาแจ้ง ข้าจะไปดูด้วยตนเอง”กล่าวจบหลี่เหว่ยยกมือโบกไล่แล้วกลับไปอ่านเอกสารราชการตรงหน้าต่อ มือยังถือพู่กัน ดวงหน้านิ่งเฉย มู่เฉินรินน้ำชาเพิ่มช่วยลดความตึงเครียด“น้ำชาท่านแม่ทัพ”“กำชับคนให้ดูแลหอซีหยางโหลวอย่างดี อย่าแสดงตัวให้นางเห็น แล้วเมียเจ้า เยี่ยนฟางเป็นเยี่ยงไรบ้าง”“ใกล้คลอดเช่นกันท่านแม่ทัพ คงไล่เลี่ยห่างกันไม่กี่วัน”“ดี”มู่เฉินนิ่งเงียบเมื่อท่านแม่ทัพหมดคำถาม“อากาศเริ่มร้อนแล้ว เจ้าส่งน้ำแข็ง ไม่สิ ไม่ได้ ไม่ดีต่อสุขภาพ เจ้าให้คนนำพัดอันใหม่ไปให้นางหรือยัง”“ขอรับท่านแม่ทัพ ฝากฮุ่ยซิ่งไปเช่นเดิม แม่นางยี่หวาไม่มีทางรู้ว่าส่งมาจากท่านขอรับ”“อืม...กว่าจะเคี
26 ลำแสงแรกพระอาทิตย์ตึก ตึก ตึกเสียงวิ่งบนพื้นหิมะทำให้ทั้งสองหันตัวกลับไปมองต้นเสียง เห็นจินเยว่วิ่งหน้าตั้งสีหน้าเบิกบานยิ้มกว้างจนถึงใบหู หน้าแดงฝ่าลมหนาวเหน็บแล้วหยุดหอบหายใจตรงบันไดขึ้นเรือนเล็ก“อันใดกันจินเยว่ วิ่งราวกับวิ่งหนีใครมา”“แฮก ๆ ข้า เดี๋ยวก่อน ขอพัก”จินเยว่ยังหอบหายใจมือกุมท้องขณะก้าวขึ้นเรือนแล้วนั่งลงข้างยี่หวา“สงสัยเรื่องดี ดูจินเยว่สิ ยิ้มกว้างขนาดนี้” ยี่หวาเอ่ยเย้าขณะส่งมือดึงแก้มแม่นางน้อย“อุ๊ย..เจ็บพี่ยี่หวา มีม้าเร็วมา แจ้งว่าท่านแม่ทัพกำลังเข้าเขตเมืองฉางอานแล้ว อีกไม่กี่วันจะถึงจวน”สิ้นเสียงจินเยว่ ดวงหน้าของยี่หวาพลันสดชื่นขึ้นทันตา นางเผยรอยยิ้มสดใสเป็นครั้งแรกไม่แสแสร้งในรอบหลายเดือน รวมไปถึงแววตาพราวเปล่งประกาย“เพิ่งพูดถึงก็มาเสียแล้วกองทัพเสือดำ” ฮุ่ยซิ่งพูดเย้ายี่หวาที่บัดนี้พวงแก้มแดงระเรื่อยิ้มน้อยยิ้มใหญ่“เจ้าจะรอก่อนไหมฮุ่ยซิ่ง”“ไม่ ข้าตั้งใจแล้วไม่เคยเปลี่ยนใจ”“รออะไร พี่ฮุ่ยซิ่งจะไปไหน”“ข้าต้องจากจวนห