มินนี่เกลียดสายตาที่เค้ามองเธอ เกลียดน้ำเสียงของเค้า เธอหมั่นไส้คนตรงหน้าเหลือเกิน เธอนั่งแต่งหน้าตรงมุมพิเศษที่ทางทีมงานจัดให้ กระโจมผ้าถูกกางรอเอาไว้เพื่อความคล่องตัวในการเปลี่ยนชุด
เจ้าของร้านเพชรนั่งรอชมการทำงานอย่างสบายใจ เค้าไม่ทำงานหรอ ถึงได้มาเฝ้าแบบนี้ มินนี่หงุดหงิดทันที ช่างหน้าช่างผมอารมณ์ดีเป็นพิเศษ
คุณชานน รูปหล่อ สั่งกาแฟและขนมมาเลี้ยงทีมงานอย่างมีน้ำใจ เมื่อเช้าเธอกัดขนมเข้าปาก แล้วยกกาฟดื่มรวดเดียวอย่างเสียมารยาท เพราะไม่อยากมองหน้าเค้าสักนิด ผู้ชายคนนี้ อันตราย ชานนยิ้มออกมาอย่างพอใจ
ร่างบอบบางเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมาพร้อมแล้ว กระโปรงตัวสั้นแนบลำตัวกับเสื้อกล้ามตัวเล็กดูเย้ายวนน่ารักน่าถอด ชายหนุ่มเปิดกล่องเครื่องประดับออกมาวาง ทีมงานตรงจะเข้ามารับ แต่เค้าส่ายหน้า
"ผมขออนุญาตสวมเองนะครับ"
เค้าถือกำไลเพชรขึ้นมาสองวง แล้วเดินตรงไปที่เธอยืนอยู่ ทีมงานต่างมองหน้ากัน มินนี่ถอนหายใจออกมา เธอสะกดกลั้นความรู้สึกตัวเองเอาไว้
"ยื่นแขนมาค่ะ"
เค้าบอกกับเธอ มินนี่ยื่นแขนตัวเองออกไปตรงหน้า เล็บยาวเรียวปลายเล็บทาสีชมพูแวววาว แขนขาวผ่องมีขนแขนน้อยๆ เค้าดึงสลักออก แล้วเปิดให้เธอดู
"ตรงนี้เป็นงานดีไซน์ของร้าน จะมีสลักข้างในสอดเข้าไป แล้วปิดลง มันจะไม่เห็นรอยต่อเลย"
เค้าอธิบายออกมา แล้วสวมกำไลลงไป แล้วพลิกหมุนไปรอบๆ
"ไม่เห็นเลยใช่ไหมค่ะ ว่าใส่ยังไง" เค้าสวมลงไปอีกวง แล้วอธิบายซ้ำอีกรอบ ก่อนจะทิ้งความอุ่นร้อนไว้ที่แขนของเธอ
ชานนมองเธอทำงานแล้วนึกชื่นชมเธอสวย เธอเก่ง แถมยังรู้มุมสวยของตัวเอง เซ็ทแรกใช้เวลาไม่นานก็เปลี่ยนชุดใหม่ คราวนี้เค้าเลือกต่างหูเพชรมาสวมให้เธอ มือของเค้าลูบที่ติ่งหูเธอเบาๆ คนใส่ต่างหูกลืนน้ำลายตัวเองอย่างทรมาน เธอสวยเย้ายวนที่สุด ลำคอขาวผ่องน่าหอมมาก
"เจาะหูสองรูหรอค่ะ วันหลังจะหาเม็ดเดี่ยวเล็กๆมาให้ใส่"
เค้ากระซิบบอก มินนี่หน้าแดงก่ำด้วยความอาย ใครจะอยากได้ของเค้ากันละ
งานถ่ายแบบเสร็จแล้วช่วงบ่าย เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมา ก่อนจะมองหาเค้า แต่หาไม่เจอ กำไลเพชรสองวงยังอยู่ที่แขนเธอ
ในตอนแรก เค้าสวมเพิ่มมาอีกสามวง แต่ถอดออกไปเก็บเมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ แต่ในเซ็ทสุดท้าย กำไลยังอยู่ที่แขนเธอ แล้วเจ้าของหายตัวไป เจ้าของงานเดินเข้ามาหาพร้อมด้วยสีหน้ากังวล
" พี่ไม่กล้าถอด "
ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกัน มินนี่อยากจะวีน คนเจ้าเล่ห์ อยากจะลองดีใช่ไหม ได้เลย มินนี่หมุนกำไลรอบวงแล้วหาสลักอย่างที่เค้าเคยทำ แต่หาไม่เจอ ทุกคนลงความเห็นว่า มินนี่ควรจะไปให้ที่ร้านเค้าถอด มินนี่รับคำพร้อมกับยืนยันหนักแน่นว่า เมื่อคืนแล้วจะถ่ายรูปส่งมาให้ดูเป็นหลักฐาน ตาบ้าร้ายกาจที่สุด
หญิงสาวเดินหน้าตึงเข้ามาในโชว์รูมเดอะไดมอนด์วิงค์ เธอตรงไปที่พนักงานขาย แล้วบอกความต้องการในทันที
"มินนี่ถอดไม่ออกค่ะ รบกวนถอดให้ด้วย"
พนักงานสาวยิ้มหน้าเจื่อนออกมาแล้วบอกปฎิเสธออกไป ทุกคนได้รับคำสั่งว่าห้ามถอดกำไลให้คุณมินนี่เด็ดขาด เสียงพนักงานกล่าวออกมาอย่างรู้สึกผิดต่อลูกค้าว่า
"กำไลรุ่นนี้ยังไม่วางขายค่ะ พวกเรายังไม่ได้รับการอบรมมา ต้องเป็นคนที่รู้เรื่องนี้เท่านั้น"
มินนี่รู้อยู่แล้ว เธอคิดไม่ผิดเลยคนเจ้าเล่ห์แบบเค้าทำได้ทุกอย่าง
"แล้วจะเจอคุณชานนได้ยังไงคะ"
เธอถามออกไป "อืม คุณชานนไปญี่ปุ่นเมื่อสักพักค่ะ ยังไม่ทราบว่าจะกลับวันไหน"
พนักงานสาวบอก มินนี่ฟังแล้วอยากจะกรี้ด เธอเดินออกมาจากร้านเพชรแล้วเดินกลับมาที่รถพร้อมกับโทรไปแจ้งเจ้าของงาน กำไลเพชรสองวงนี้ต้องอยู่ที่แขนเธอต่อไป มินนี่อยากจะบ้า
หญิงสาวเลือกเสื้อผ้าแขนยาวมาใส่ไปงานในวันนี้ งานอีเว้นท์ที่จัดกลางห้างดังทำให้เธอเลือกสวมเสื้อแขนยาวได้อย่างสบายใจ เธอร่วมกิจกรรมพูดคุยบนเวทีและถ่ายรูปกับแฟนคลับที่มาในงาน ก่อนจะต้องให้สัมภาษณ์สื่อหลังจบงาน มินนี่ยิ้มออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน
มินนี่มองดูคุณหมอกำลังถอดเฝือกที่แขนออกให้แล้วคิดทบทวนเรื่องบางอย่างก่อนจะขอเวลาส่วนตัวคุยกับคุณหมอตามลำพัง"คุณหมอคะ คือมินนี่รบกวนถามนิดหนึ่งนะคะ "เธอถามออกไปด้วยตวามอายปนเกรงใจ คุณหมอสาววัยใก้ลเคียงกันยิ้มออกมา"เชิญค่ะ ตามสบายเลย""มินนี่ทานยาคุมมานานหลายปีติดต่อกันมา แล้วทีนี้พอหยุดยาคุมไป ก็ไม่มีเมนส์อีกเลย ผิดปกติไหมคะ"เธอคิดเรื่องนี้มาหลายวันแล้ว จึงต้องถามให้รู้เรื่องไป"ถ้าทานยานานๆแล้วหยุด อาจเป็นได้ที่ประจำเดือนจะขาด แต่ก็ไม่นานนะคะ ไม่ทราบว่า คุณมินนี่ประจำเดือนขาดไปนานเท่าไหร่แล้วคะ" คุณหมอถามกลับ เธอนึกอยู่สักพัก แล้วตอบด้วยสีหน้าแดงก่ำทันที"สามเดือนค่ะ" คุณหมอยิ้มกว้าง "งั้นตรวจเลยค่ะ เพื่อความแน่ใจ"ชานนยิ้มกว้างออกมาหลังจากเห็นเธอถอดเฝือกออกแล้ว เค้ามองแขนขาวๆของเธอที่ไม่มีเฝือกคลุมเอาไว้ มินนี่เดินออกมาด้วยสีหน้าเรียบเฉยไม่แสดงอาการใดๆ แต่เค้ารู้ว่า มันผิดปกติแล้ว สำหรับเธอ"เจ็บแผลหรอคะ ทำไมทำหน้าแบบนี้" เค้าถามด้วยความห่วงใย มินนี่ไม่ตอบสะบัดหน้าหนี แล้วเดินห่างเค้าทันที จนเค้าแปลกใจ"มินนี่เป็นอะไรบอกพี่สิคะ"เค้าห่วงเธอมากจริงๆ ชานนคิดไปต่างๆนานา "น้ำหนักขึ้น
"มินนี่แต่งงานกับพี่นะครับ"เสียงชานนยังก้องอยู่ในหูของเธอ นี่มันภาพในละครชัดๆ ดาราสาวนั่งบนเก้าอี้ ชายหนุ่มทรุดตัวลงนั่งคุกเข่าอยู่บนพื้น ก่อนจะยื่นแหวนเพชรน้ำงามที่สุด แน่นอนว่าเจ้าของร้านเพชรจะเลือกเพชรไม่ดีได้อย่างไร ภายในห้องเงียบกริบ มินนี่อ้าปากออกไปเธอไม่มีเสียงพูด ได้แต่พยักหน้าเท่านั้น ชานนยิ้มออกมาอย่างอดขำไม่ได้ เค้าถามย้ำอีกครั้ง"มินนี่แต่งงานกับพี่นะครับ"เธอโผเค้ากอดเค้าแล้วบอกเสียงเบา "แต่งสิคะพี่นน มินนี่จะแต่งกับพี่นน "ชานนประกาศออกไมค์เสียงดังลั่น"มินนี่ตกลงแล้วครับ"เสียงปรบมือดังลั่นงาน ชานนสวมแหวนเพชรลงบนนิ้วของแฟนสาวแล้วจูบเบาๆอย่างรักใคร่ ผู้เป็นแม่คว้าตัวแฟนลูกชายเข้ามากอด"ดีแล้วจ้ะมินนี่ แต่งกันได้แล้ว"นางบอกออกมาด้วยน้ำตาคลอน้อยๆอย่างตื้นตันใจ แสงแฟลชถ่ายรูปวูบวาบไปทั่วงาน ชานนดึงตัวแหนสาวขึ้นมา แล้วกอดเธอเอาไว้แนบอก"ดีมากเลยมินนี่ วันนี้เป็นวันที่ดีจริงๆ" เค้ากระซิบบอกเธอนักข่าวสังคมขอสัมภาษณ์ดาราสาวเรื่องงานวันนี้ มินนี่ยิ้มอย่างดีใจที่ได้เจอนักข่าวที่คุ้นหน้าคุ้นตากันอีกครั้ง" ขอบคุณพี่ๆทุกคนมากนะคะ ที่มาร่วมงานวันนี้ "ดาราสาวกล่าวขอบคุณสื่อมวลชน
งานเปิดตัวแบรนด์เพชร เเบรนด์ใหม่ภายใต้เครือ ไดมอนด์วิงค์ ของไฮโซหนุ่ม ชานน พิริยะกุล เรียกความสนใจให้กับ ไฮโซหลายรุ่น หลายตระกูล เหล่าเซเลปที่ได้รับเชิญมาร่วมงานกว่าสองร้อยคน ยังไม่รวมดารานางแบบอีกหลายสิบชีวิตที่มาเดินแบบในครั้งนี้ แสงแฟลชวูบวาบขึ้นทันที เมื่อเจ้าของงาน ชานน เดินควงคู่มากับดาราสาว ที่เป็นแฟนสาวของเค้า ออกงานอย่างเป็นทางการครั้งแรก หลังจากเกิดอุบัติเหตุรถชนที่โรงแรมดังเมื่อเกือบสามเดือนก่อนมินนี่มาในชุดเดรสรัดรูปสีดำที่อวดหุ่นอวบอัดขึ้นมากว่าเดิมมาก ใบหน้ามีรอยยิ้มสดใสตลอดเวลา และหยุดถ่ายรูปกับแขกที่มางานเป็นระยะ ห้องเสื้อชื่อดังได้ให้ข่าวว่า แม่คุณชานนเป็นคนเลือกชุดนี้ให้มินนี่เอง ทำให้คนทั้งงานต้องจับตาดูความสัมพันธ์ของหญิงสาวสองวัยโดยทันที นายหญิงแห่งไดมอนด์วิงค์ มักจะเรียกหาสาวน้อยข้างกายลูกชายตัวเองเสมอ แถมยังแนะนำให้เพื่อนฝูงของตัวเองได้รู้จักอีกด้วย ด้วยประโยคเดิมๆว่า"หนูมินนี่ แฟนตานน ว่าที่สะใภ้"แม่ของแฟนออกปากขนาดนี้ ตำแหน่งสะใภ้ของไดมอนด์วิงค์ รออยู่ตรงหน้ามินนี่แล้ว ใครๆหลายคนต่างคิดแบบนั้น ชานนเดินตรงเข้ามาทักทายแขกของเค้าแล้วมองคนตรงหน้าด้วยสายตาแสนรั
ชานนมองร่างเปลือยเปล่าของเธอแล้วกลืนน้ำลายลงคอ หลายวันมานี้เค้าต้องระงับจิตใจของตัวเองอย่างมาก เธอกำลังเจ็บ เธอไม่สบาย เค้าย้ำกับตัวเอง แต่น้องชายเค้าไม่ยอมฟัง มันจะผงกหัวขึ้นมาทุกทีที่เจ้าใก้ลตัวเธอ กลิ่นหอมอ่อนๆของเธอเหมือนยากระตุ้นชั้นดี เสียงที่เธอเรียกเค้า แบบธรรมดาเหมือนทุกครั้ง แต่ทำไมยิ่งฟังยิ่งมีอารมณ์ เธออ่อนบาง เหลือเกิน ปากบางน่าจูบ ผิวหน้าใสเหมือนเด็ก ปราศจากเครื่องสำอางค์ ยิ่งเร้าใจเค้า"ถ้าเจ็บต้องบอกพี่ "เค้าบอกเธออีกครั้งแล้วระมัดระวังตัวเองอย่างยิ่ง แก่นกายพองขยาย ถูไถเบาๆกับกลียดอกไม้ของเธอ มินนี่จับมือเค้าเอาไว้แน่นมือนึงเธอร้องครางออกมาอย่างขัดใจ"พี่นนขา จัดการมินนี่สิคะ"แม่ตัวร้ายร้องขอเค้า ชานนกดแก่นกายลงไปที่กลีบดอกไม้ของเธอ มินนี่รับเค้าเอาไว้ทั้งหมด เธอผลิตน้ำหวานออกมารอเค้าแล้วสะโพกของเค้ากดกระแทกใส่ตัวเธออย่างอ่อนโยน เหมือนจะไม่ถูกใจเธอ มินนี่ร้องขอเค้าอีกทีด้วยน้ำเสียงยั่วยวน"พี่นนขา แรงๆสิคะ มินนี่ต้องการพี่นน"ชานนจูบปากเธออย่างเอาใจ"มินนี่จ๋า อย่าใจร้อน"เค้าปลอบใจเธอ แล้วกดกระแทกเพิ่มน้ำหนักลงไปอย่างรุกเร้า รุนแรง"พี่นนขา ดีจังเลย" แม่ตัวร้าย ชา
ตั้งแต่วันที่รู้สึกตัวขึ้นมา เค้าก็ไม่ยอมให้พยาบาลมาเช็ดตัวเธออีก ชานนเช็ดตัวให้เธอ ล้างหน้าให้ ประโอบประคองแฟนสาวไปเข้าห้องน้ำด้วยตัวเองทุกครั้ง เกือบสิบวันที่มินนี่นอน รพ.ชานนก็นอนที่นั่น กินข้าวพร้อมเธอ หลับพร้อมกับเธอ แต่ตื่นนอนก่อนเธอเพื่อเตรียมน้ำอุ่น เตรียมของใช้ในห้องน้ำเวลาเธอตื่นขึ้นมาจะได้เข้าห้องน้ำได้สะดวก"พี่นนขา ตามพยาบาลให้หน่อยสิคะ"เธอบอกเค้าในตอนบ่ายวันหนึ่งหลังจากเข้าไปในห้องน้ำได้สักพัก ชานนไม่ให้ล็อกประตูจึงโผล่หน้าเข้าไป"เป็นอะไรคะ บอกพี่มา" เค้าถามออกไปด้วยความห่วงใย คนที่นั่งอยู่บนชักโครกหน้าแดงก่ำ"มินนี่เป็นเมนส์ ไปหาผ้าอนามันมาให้หน่อย" เธอบอกเสียงเบาหวิว พร้อมหน้าแดงก่ำไม่ใช่พยาบาลที่นำมาให้แต่เป็นแฟนหนุ่มรูปหล่อที่เดินลงไปซื้อหาด้วยตัวเอง หลังจากเปิดรูปให้คนป่วยดูแล้วถามถึงแบบที่ต้องการ คนเลือกหน้าแดงจนร้อนผ่าวไปหมด เธอเกรงใจเค้ามากเหลือเกิน แต่พี่นนกลับเดินถือถุงเข้ามาพร้อมยิ้มร่าอย่างอารมณ์ดี"น้องแคชเชียร์ อายพี่กันใหญ่เลย" เค้ายังมีหน้ามาเล่าอีก มินนี่อยากจะบ้าชายหนุ่มอ่านวิธีการใช้ แล้วจัดการให้เธออย่างเรียบร้อย เรื่องส่วนตัวแบบนี้มันน่าอายจะตาย
แม่บ้านที่มาส่งอาหาร กลายเป็นคุณแม่เดินเฉิดฉายเข้ามา พร้อมถือถุงขนมยี่ห้อดังเข้ามาด้วยตัวเอง หลังจากวางสายโทรศัพท์ไม่นาน หน้าห้องมีคนของเค้าเฝ้าอยู่คนที่มาถึงห้องได้ ต้องสำคัญมากพอ คุณผู้หญิงมองดูภาพตรงหน้าแล้วยิ้มออกมา ชานนกำลังหวีผมให้คนป่วยอยู่อย่างอ่อนโยน มินนี่พยายามยกมือขึ้นมาไห้วคุณแม่แต่ทำไม่ได้"ไม่ต้องลูก อย่าขยับ "ผู้เป็นแม่บอกน้ำเสียงห่วงใย"แม่มีชีสเค้กมาฝาก เพิ่งจะออกจากเตามาเลย มินนี่ชอบไหมจ้ะ"คนป่วยยิ้มประจบ "ชอบค่ะ ขอบพระคุณ คุณแม่มากนะคะ ที่เมตตามินนี่ ลำบากแย่เลย" เธอบอกอย่างเกรงใจ"ไม่ลำบากเลยลูก เรื่องนิดเดียว มินนี่อยากกินอะไร บอกแม่นะลูก แม่จะให้คนหามาให้"นางบอกออกมาตามตรง ชานนยิ้มอย่างพอใจ แม่เค้ารักแล้วรักเลย ยิ่งอ้อนเก่งแบบนี้ เค้าเห็นแววว่าตัวเองจะตกกระป๋องแน่"มินนี่กินแล้วนอน เดี๋ยวจะอ้วนสิคะ ยังไงต้องพักงานอีกตั้งสองเดือน"เธอบอกออกมา ผู้เป็นแม่ยิ้มหวาน"กินเถอะลูก ไม่อ้วนหรอก เอาให้ขึ้นอีกห้ากิโลก็สวยอยู่แล้ว จริงไหมนน"แม่ถามลูกชาย ชานนพยักหน้า"พี่ให้สิบโลเลย ไม่ว่าสักคำ" มินนี่ยิ้มกว้าง"งั้นมินนี่ทานหมดเลยนะคะ" เธอมองจานขนมตรงหน้าแล้วขอคำอนุญาตชา