"นังสารเลววันนี้ข้าจะฆ่าเจ้า" หยวนเหมยเอ่ยอย่างเหี้ยมโหดมืองามกำเศษกระเบื้องหมายจะกรีดใบหน้าหนิงเยียนให้เสียโฉม
มีหรือคนอย่างหนิงเยียนจะยอม นางชกเข้าไปที่เบ้าตาหยวนเหมย นางเจ็บที่เบ้าตา ทิ้งเศษกระเบื้องกุมเบ้าตาไว้
"ตาของข้า ตาของข้า"
"สมหน้ำหน้า !!!" หนิงเยียนเอ่ยอย่างสาแก่ใจ
"วันนี้ข้าจะไม่มีทางปล่อยเจ้าไป" หยวนเหมยไม่ยอมแพ้ มือหนึ่งคว้าหนิงเยียนผลักหนิงเยียนตกลงไปในสระบัว แต่ทว่าหนิงเยียนรึจะตกสระบัวคนเดียว นางจับมือหยวนเหมยลงไปด้วย
ตูม !!!
"หนิงเยียน !!!" เวยอ๋องที่หลบอยู่พุ่มไม้กับเสิ่นฮั่วรีบออกมาทันที ทุกคำพูดเวยอ๋องได้ยินหมดทุกอย่าง
หยวนเหมยร่วมมือกับอวี้ฮองเฮาทำร้ายหนิงเยียน แต่เคราะห์ดีที่หนิงเยียนซ้อนแผนรอดมาได้
เขารู้สึกผิดหวังในตัวหยวนเหมยนัก มิคาดว่าดอกเหมยน้อยที่ดีงามจะเปลี่ยนไปมากถึงเพียงนี้
เวยอ๋องกระโดดลงไปช่วยหนิงเยียนอย่างไม่คิดชีวิต น้ำเย็นที่หนาวจัดทำให้เขาร่างกายเเทบขาดสะบั้น ในใจเวยอ๋องแทบเเหลกสลายกลัวนางมารร้ายจะเป็นอันใดไป สายตากวาดหาคนงามภายใต้น้ำที่เย็นจัดถึงขั้วหัวใจ
หนิงเยียนค่อย ๆ จมดิ่ง นางรู้สึกอยากกลับโลกของนาง นางคิดถึงเพื่อน ๆ คิดถึงคุณหมอเพื่อนร่วมงานที่น่ารักทุกคน
"หนิงเยียนเจ้าจะตายมิได้ เจ้าจงฟื้นขึ้นมาเพื่อทำความดี ในนามของข้า"
คำพูดของหนิงเยียนคนเดิมเตือนสตินาง ทำให้หนิงเยียนพลันลืมตาขึ้นมา
พบว่ามือหนาใหญ่โอบเอวนางไว้
นางมองเจ้าคนถ่อย นี่เขากระโดดลงมาช่วยนางรึ เวยอ๋องประกบปากเพื่อต่อลมหายใจให้นางมารร้าย จากนั้นพานางขึ้นฝั่ง หนิงเยียนสำลักน้ำ เสิ่นฮัวรีบให้สาวใช้นำผ้ามาคลุมตัวหนิงเยียนทันที
ส่วนชายาหนานอ๋อง ในตอนนั้นเสิ่นฮัวรีบไปตามหนานอ๋องให้มาช่วยชายาของเขา กระนั้นหนานอ๋องจึงโดดลงไปช่วยชายารักของเขา หยวนเหมยจึงยังไม่ชะตาขาด
"เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร" หนานอ๋องอุ้มหยวนเหมยเอ่ยถามหนิงเยียน
"พี่ใหญ่ควรไปถามชายารักของท่านมากกว่าถามชายาข้านะ" หนิงเยียนมองเวยอ๋องที่ตอบคำถามแทนนาง
หนานอ๋องรีบพาหยวนเหมยเดินออกไปทั้งที่โกรธา
เวยอ๋องกับหนิงเยียน
"เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง" เวยอ๋องเพิ่งได้รู้ว่าเขารักนางมาก ในตอนที่นางตกลงไปในน้ำ
"ข้ามิเป็นไร" อย่าคิดนะว่านางจะอภัยให้เขา เรื่องที่เขาข่มเหงน้ำใจนาง
เสิ่นฮัวนำทางทั้งสองคนออกทางประตูหลัง เกรงว่าออกไปด้านหน้าประตูใหญ่จะต้องมีคนสงสัยแน่นอน หนานอ๋องพาหยวนเหมยออกทางประตูหลัง มุ่งหน้ากลับจวนก่อนเเล้ว ตามด้วยเวยอ๋อง หนิงเยียนฝากขออภัยฮูหยินผู้เฒ่าเสิ่นด้วยที่เกิดเรื่องนี้ในงาน
หนิงเยียนนั่งหนาวสั่นในรถม้า เวยอ๋องเกรงว่านางจะโดนไอเย็นแล้วมิสบายแน่นอน กระนั้นเวยอ๋องจึงเปิดใต้เบาะหาผ้าห่มมาให้นาง
หนิงเยียนรับมาห่มด้วยความหนาวสั่น
"ข้ากอดดีรึไม่" นางไม่ปฏิเสธน้ำใจของเขา แสดงว่ายอมให้เขากอด
หนาวจะตายอยู่เเล้ว สักพักนางก็เผลอหลับไป เวยอ๋องกอดนางอย่างแน่น
เมื่อถึงจวนเขาอุ้มนางลงจากรถม้า ด้วยท่าทีที่รักใคร่ เขาสั่งเสี่ยวอ้ายไปเคี่ยวยาต้านไข้มาให้นางดื่ม เขามาถึงเรือนรีบวางคนงามลง กำลังจะเรียกเสี่ยวอ้าย เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าสั่งนางไปเคี่ยวยา
เวยอ๋องลังเลจะรอให้เสี่ยวอ้ายกลับมาเปลี่ยนผ้าให้นาง หรือเขาจะจัดการเอง รอนานมิได้เเล้วนางจะป่วยไข้แน่นอน
กระนั้นเวยอ๋องจัดการสลัดผ้าของนางออกให้หมด เหลือเพียงเรือนกายที่งดงาม เต็มไปด้วยรอยช้ำจาง ๆ เพราะฝีมือของเขา
"หนาว" เพียงแค่หนิงเยียนเอ่ยขึ้นเวยอ๋องรีบห่มผ้าให้นางอย่างหนา
ไม่นานเสี่ยวอ้ายเดินมาพร้อมกับชามยา สั่งให้เสี่ยวอ้ายวางยาไว้โต๊ะเตี้ยแล้วไสหัวออกไป สาวใช้รีบทำตามคำสั่งโดยเร็ว
"หนาว"
"ไม่ต้องกลัว มีข้าอยู่เจ้าจะไม่หนาว"
วิธีที่ทำให้หายหนาวที่ดีที่สุดคือเนื้อแนบเนื้อให้อุ่นกาย เขาถอดอาภรณ์ของตัวเองออกให้หมด
พร้อมทั้งจุดเตาไฟให้ความอุ่นภายในห้อง จุดกำยานหอมเพื่อผ่อนคลาย จากนั้นเดินถือชามยาเปิดม่านมุ้งเข้าไปหานางมารร้ายที่เตียง
"หนาว" กลีบปากงามขยับขึ้นมา
"ข้ากอดเจ้า เจ้าจะได้ไม่หนาว ดื่มยาเสียหน่อยจะได้มิป่วย" ตกน้ำเย็นจัดขนาดนั้น เขายังหนาวสั่นเลย นับประสาอันใดกับสตรีบอบบางเยี่ยงนางเล่า
เขาป้อนยา แต่นางไม่ยอมกิน
ไม่ได้เเล้ว เวยอ๋องตัดสินใจ ป้อนยาผ่านทางปาก ทำเยี่ยงนี้หนิงเยียนจึงยอมกลืนยาลงไป จากนั้นนางจึงเผลอหลับ เขากอดนางเเน่น เนื้อแนบเนื้อมันช่างอุ่นยิ่งนัก
เขาจุมพิตที่หน้าผากงามอย่างแผ่วเบา ไม่ได้เขาจะลักหลับนางไม่ได้ ได้แต่ห้ามใจตัวเองไว้ สายตาเหลือบไปเห็นปิ่นหยกชั้นดี นี่นางยังเก็บของบุรุษอื่นไว้อึกรึ เวยอ๋องดึงปิ่นออกมาจากศีรษะนาง แล้วเดินมาทางหน้าต่าง ชั่วพริบตาเดียวปิ่นหยกแหลกสลายคามือ กลายเป็นผงธุลีดินไปแล้ว ให้นางคิดว่ามันได้จมหายไปกับสระบัวในจวนเสิ่นเสียดีกว่า
มุมปากหนายิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย
ร่างหนาเดินไปที่เตียงเข้าไปในผ้าห่มโอบกอดนางมารร้ายอย่างสบายใจ เวยอ๋องกลัวที่จะรังแกคนป่วยเหลือเกิน ผู้ใดเล่าจะอดใจไหวเมื่อได้อยู่ใกล้คนงาม ขอเพียงเขาได้จุมพิตที่เเสนหวานกับนาง ก็พลันมีความสุขเเล้ว
ปากหนาประโลมเลียกลีบปากชมพูอย่างช้า ๆ จนหนิงเยียนสะดุ้ง นางหลับเพราะฤทธิ์ยา ในฝันนางได้จุมพิตกับหนุ่มรูปงาม จึงตอบสนองเวยอ๋องอย่างไวมาก
เนิ่นนานกว่าเขาจะถอนจูบ อีกทั้งยังมอบรอยแดงให้แก่นางมารร้าย ทรวงอกคู่งาม คู่นั้นผู้ใดเล่าจะอดใจไหว แต่สมองสั่งให้เขาหยุดกระทำเรื่องชั่ว กระนั้นเวยอ๋องจึงกลับมานอนกอดนาง
หนิงเยียนนอนที่เตียงพลันหายเหนื่อย นางคลอดลูกชาย นางดีใจทั้งน้ำตาจ้าวเชียนดีใจไม่ต่างจากนางที่ได้โอรสทั้งสองพระองค์จ้าวเทียน จ้าวตี้ จ้าวเชียนตั้งชื่อโอรสของเขาเรียบร้อยเเล้วโอรสทั้งสองช่างมีใบหน้าคล้ายเขาเจ็ดส่วน ชายหนุ่มดีใจมาก "ให้ข้าดูหน้าเขาหน่อย" หนิงเยียนมองแฝดชายทั้งสอง ช่างคล้ายพระบิดานัก"เจ้าพักผ่อนเถอะ""ข้าคลอดโอรสให้ท่าน ท่านรับปากข้าเเล้วว่าจะไม่รับสนมทั้งสิ้น""แน่นอนเรารับปากเจ้าเเล้ว" จ้าวเชียนจุมพิตที่หน้าผากคนงาม ขุนนางน้อยใหญ่เสนอบุตรีมาเป็นสนม เขาจะพักงานขุนนางในราชสำนักทันทีในใจฮ่องเต้มีเพียงหนิงฮองเฮาคนเดียว ชั่วนิรันดร์กาลเสิ่นฮัวในยามนี้ได้เป็นชายารัชทายาทแคว้นหนานเป็นที่เรียบร้อยเเล้ว ในยามนี้เซียวหยางดีกับนางมาก "พี่หญิงเยียนส่งข่าวมาเเล้ว นางคลอดแฝดชายทั้งสองคนอย่างปลอดภัย ท่านพาข้ากลับไปเยี่ยมนางได้รึไม่"เซียวหยางมองหน้าชายารัก เหตุใดจะมิได้"ได้สิ หากชายารักต้องการ""ท่านลืมนางได้เเล้วใช่รึไม่"เสิ่นฮัวสบตากับรัชทายาทเซียวหยาง ในอดีตเซียวหยางรักหนิงเยียนมาก แม้นางจะเป็นชายาอ๋องก็ตาม"ข้ามีแต่มิตรภาพดี ๆ ให้นาง ยามนี้นางเป็นหนิงฮองเฮาเเล้ว""ข้ารั
เวยอ๋องสั่งคนให้ไปที่คุกหลวงนำตัวไท่ชางหวงออกมา พบว่าไท่ชางหวงโดนทรมานเกือบตาย แต่ก็ยังไม่ตายเวยอ๋องนั่งมองไท่ชางหวง เขาให้หมอหลวงมารักษา สองชั่วยามเเล้วยังไม่ฟื้น ยามนี้เขาสั่งให้คนนำตัวอวี้ฮองเฮาออกไปที่สำนักนางชีชั่วชีวิต อีกทั้งช่วยพระมารดาออกมาจากคุกหลวงด้วยเช่นกัน ชูอ๋องแม้จะไม่มีส่วนก่อกบฏ เวยอ๋องตัดสินให้ชูอ๋อง ออกไปใช้ชีวิตที่นอกเมือง พร้อมทั้งอนุและบุตรชายบุตรสาว นับว่าเวยอ๋องเมตตาเเล้วหนิงเยียนอาเจียนไม่หยุด สองอาทิตย์มานี้ไม่ได้ข่าวของเวยอ๋องบ้างเลย ดูเหมือนนางจะมีข่าวดีเเล้ว หญิงสาวเพิ่งตรวจดูอาการของนางยามเช้า นางตั้งครรภ์แล้ว เสี่ยวอ้ายดูแลนางอย่างดี อีกทั้งเสิ่นฮัวยามนี้ ดูเหมือนว่า เซียวหยางจะตัดสินใจหมั้นหมายกับเสิ่นฮัว รอข่าวจากแคว้นต้าโจว เวยอ๋องชิงเมืองมาได้รึไม่"พระชายา" เสิ่นกวงนั่นเอง หนิงเยียนคิดว่าเวยอ๋องต้องมารับนาง"เขาเล่า""เวยอ๋องสิ้นพระชนม์แล้ว" หนิงเยียนเข่าอ่อนเป็นลมทันที"พระชายา" เสี่ยวอ้ายรีบประคองเจ้านายเข้าไปในตำหนักรับรอง หนิงเยียนลืมตาขึ้นมาอีกที เสิ่นกวงยังพูดความเดิม เวยอ๋องตายเเล้ว ค่ำคืนนั้น นางขออนุญาตเซียวหยางเผากระดาษเงิน กระดาษทอง
ยามนี้ต้าโจวระส่ำระส่ายยิ่งนัก ราษฎรต้องจ่ายส่วยหนักมากขึ้นกว่าเดิมหลังจากที่เซียวจิ้งสิ้นพระชนม์ไป เพราะอวี้ฮองเฮาเป็นคนวางพิษ เซียวจิ้งเองกับมือ ส่วนไท่ชางหวงถูกจองจำในคุกใต้ดิน อย่างไม่มีทางหนีรอด"เสด็จปู่" หนานอ๋องนั่งมองไท่ชางหวงถูกล่ามโซ่ อีกทั้งมีเหล็กร้อน ๆ กำลังจะทาบไปที่หลังมือของไท่ชางหวง"หลานเนรคุณ""ตราพยัคฆ์ทหารอยู่ที่ใด ส่งมันมาให้ข้าบัดเดี๋ยวนี้""คนที่มันสังหารบิดาตัวเอง จะต้องเลวสักเพียงใด ถึงทำเยี่ยงนี้ ต่อให้เราตายไป เราไม่บอกเจ้าหรอก" ไท่ชางหวงไม่คิดว่าเวลาเพียงเดือนกว่า เวยอ๋องไม่อยู่ หนานอ๋องกับอวี้ฮองเฮาจะลุกขึ้นมาก่อกบฏ"ได้ ทรมานเขาจนกว่าเขาจะบอก" หนานอ๋องเดินจากไปพร้อมเสียงหัวเราะ ส่วนไท่ชางหวงเจ็บปวด จนจะตายอยู่เเล้ว เหล็กร้อน ๆ แทงเข้าเนื้อที่มืออย่างเจ็บปวดหนานอ๋องตอนนี้ กำจัดขุนนางไปได้หลายคน อีกทั้งอยู่ในฉลองพระองค์สีเหลืองทอง มองฮองเฮารักอย่างหยวนเหมยที่บีบนวดให้เขา "ฮองเฮาของข้า เจ้าช่างงามนัก""จริงรึเพคะ""จริงสิ เรารักเจ้า ถึงแม้จะร้ายกับเจ้าไปบ้าง วันนี้ เรารู้สึกง่วงเสียจริง""ท่านก็"หยวนเหมยจุมพิตอย่างหวานล้ำ นางนั่งตำแหน่งฮองเ
เซียวหยางส่งคนไปจับเสนาบดีเหรินข้อหาค้าเงินเถื่อนอีกทั้งหลักฐานการโกงเงินภาษีของราชสำนัก เมื่อคืนงานเลี้ยงอำลาหนิงเยียน ขุนนางน้อยใหญ่ทุกคนต้องมาร่วมงานครั้งนี้ เซียวหยางหารือกับพระบิดานี่คือโอกาสดี ให้องครักษ์ลับไปค้นจวนขุนนางทุกคน พบว่ามีขุนนางฝั่งอัครเสนาบดีเหรินจำนวนมาก กระนั้นเขาจึงตัดสินโทษให้ยึดสมบัติจวนเหริน อีกทั้งสตรีเป็นนางคณิกา บุรุษคือผู้ใช้เเรงงานหนิงเยียนเก็บข้าวของเพื่อที่จะกลับแคว้นต้าโจว นางสังเกตเสิ่นฮัว ปกติจะมาพูดคุยกับนาง แต่ทว่าวันนี้เสิ่นฮัวขึ้นรถม้า แล้วนั่งเงียบ หนิงเยียนสงสัย แต่ไม่ได้ถามเสี่ยวฟาง เวยอ๋องกับหนิงเยียนร่ำลาผู้ครองแคว้นหนานแล้ว ทั้งสองกำลังขึ้นรถม้า เห็นเซียวหยางนำทหารม้ามาทางพวกนางเวยอ๋องตกใจ"เจ้าจะทำอันใด" "เจ้าสองคนไปได้ แต่เสิ่นฮัวไปมิได้" หนิงเยียนกับเวยอ๋องต่างสบตากัน เสิ่นฮัวได้ยินกระนั้นลงจากรถม้าด้วยความหวาดกลัว หนิงเยียนสังเกตรอยแดงที่ต้นคอเสิ่นฮัว "ไม่ข้าจะกลับแคว้นข้า" เสิ่นฮัวไม่ยอม นางจะไม่อยู่กับคนที่ไม่รักนางเป็นอันขาดเซียวหยางลงจากหลังมา สาวเท้าเข้ามาอย่างช้า ๆ แล้วอุ้มเสิ่นฮัวพาดบ่า"ปล่อยข้านะ""เซียวหยางเจ้าปล่อยนางเ
หนิงเยียนกับเวยอ๋องนั่งที่ประทับนางกำนัลจัดไว้ให้เรียบร้อย เสียงเพลงพิณบรรเลงขึ้นมาพร้อมกับสาวงามออกมาร่ายรำ เหล่าขุนนางน้อยใหญ่ในแคว้นหนาน ต้องมาร่วมงานเลี้ยงอำลาหมอเทวดาเยียน พอนางจะกลับแคว้นพวกเขาต่างมิอยากให้คนมีฝีมือไปแคว้นต้าโจว แต่นางเป็นชายาเวยอ๋อง ยังไงก็ต้องจากไปอยู่ดี ฮ่องเต้เซียวจิ้งกับเหนียงฮองเฮาพลันเสด็จมาเเล้ว ทุกคนต่างถวายพระพร จากนั้นนั่งแท่นประทับ ทุกคนต่างมองที่เหนียงฮองเฮา ยามนี้นางงดงามนัก หลังจากที่ปกปิดใบหน้ามาตลอดยี่สิบห้าปี คนชั่วได้รับการลงโทษเป็นที่เรียบร้อยเซียวหยางเดินเคียงคู่มาพร้อมกับคู่หมายของเขาคือเหรินเหมี่ยว ขุนนางน้อยใหญ่ ต่างคำนับรัชทายาท เสิ่นฮัวนั่งฝั่งหนึ่งปรายตามองเซียวหยางเเล้วเบ้ปากงานเลี้ยงได้ดำเนินต่อไป สาวงามได้ออกมาร่ายรำ หนิงเยียนนั่งซบอกเวยอ๋องอย่างไม่สนใจสายตาของผู้ใด เวยอ๋องทั้งแกะเมล็ดแตงโมให้นางกิน ช่างเป็นภาพที่ทำให้ใครหลายคนพลันอิจฉานักเหรินเหมี่ยวมองคู่หมั้นของนาง ที่นางเเย่งชิงมาจากพี่สาวสมองสุนัขของนางได้ ในงานเลี้ยงครั้งนั้น นางแอบติดสินบนนางกำนัล จึงให้นางกำนัลใส่ยาพิษลงไปในสุรา พบว่าพี่สาวสมองสุนัขหลงกลเข้า จึงต้องรับโ
ค่ำคืนนั้นหนิงเยียนเหนื่อยมากจากการที่รักษาคนป่วย เวยอ๋องเดินเข้ามาถอดรองเท้าเเล้วห่มผ้าให้นาง ใบหน้าหล่อเหลาพลันปรากฏด้วยรอยยิ้มก่อนจะจุมพิตเเล้วไปนอนที่ตั่งยาว ยามเช้าของวันนั้นอากาศพลันเย็นมาก ผู้ป่วยไข้ทรพิษเริ่มลดลงจำนวนมากหนิงเยียนสั่งให้เสี่ยวอ้าย และเสิ่นฮัวแจกจ่ายยาให้ชาวบ้านไปต้มกิน ชาวบ้านต่างสรรเสริญนางว่านางคือพระโพธิสัตว์กวนอิมมาโปรดพวกเขาให้หายจากโรคร้ายเซียวหยางพลันเข้ามาในคุกมืดสอบความถามท่านเจ้าเมืองเฟิง มีชื่อว่า เฟิงหนานด้วยตัวเองเขานั่งมองเฟิงหนานในชุดนักโทษสีขาวที่สกปรก "เหตุใดในเมืองเฟิงจึงเกิดไข้ทรพิษได้" เซียวหยางมองเจ้าคนปากเเข็ง เขาไม่เชื่อโรคนี้จะเกิดขึ้นจากธรรมชาติ นอกจากจะมีคนปล่อยพิษโรคไข้ระบาดนี้"ข้า..." "เหล็กทาบมือเขา" เหล็กร้อน ๆ สีแดงชาดที่เต็มไปด้วยประกายไฟ กำลังจะทาบลงมาที่มือเจ้าเมือง"ช้าก่อน ช้าก่อน"เซียวหยางส่งสัญญาณให้องครักษ์ทันที"องค์ชายรองสั่งให้ข้านำพิษมาปล่อย รัชทายาทช่วยข้าด้วย"องค์ชายรองอย่างนั้นรึ เซียวเซาโอรสของเนี่ยกุ้ยเฟยสามวันต่อมาคนทั้งเมืองเฟิงได้รับการรักษาจนหายหมดเเล้ว รถม้าทั้งสามคันมุ่งหน้ากลับไปที่เมือ