สามวันผ่านไปงานเทศกาลล่าสัตว์ของแคว้นต้าโจวก็พลันมาถึง เทศกาลล่าสัตว์ถูกจัดขึ้นนอกเมืองหลวง หนิงเยียนไม่ชอบเอาเสียเลย แต่นางก็ต้องมา วันนี้มีงานรอบกองไฟ คือการร่ายรำของสาวงาม วันพรุ่งถึงจะมีการเเข่งขันการล่าสัตว์
หนิงเยียนในชุดสีน้ำเงินนั่งมองการเเสดงอย่างเบื่อหน่าย ส่วนเวยอ๋องมองชายามารร้าย สามวันมานี้นางพบหน้าเขาแล้วบอกว่า เขากลิ่นตัวเหม็นมาก ทำให้เวยอ๋องต้องหาถุงหอมมาพกติดตัว
"เจ้าค่อยยังชั่วรึ"
"ข้ามิเป็นไร" นางเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งหยิบหยางเถาเข้าปาก (มะเฟือง) เวยอ๋องคิดในใจหยางเถาเปรี้ยวจะตาย นางกล้ากินเข้าไปได้อย่างไร
หนิงเยียนเบื่อการดูระบำสาวงาม หมายจะกลับเข้าไปในกระโจม แต่ทว่าเสิ่นฮัวเดินมาพอดี
"พระชายา"
"เสิ่นฮัว"
"ท่านกำลังจะกลับกระโจมรึเจ้าคะ" เสิ่นฮัวกำลังจะกลับกระโจมเช่นกัน
"อือ"
"กลับกระโจม พวกเราก็ยังต้องนั่งเหงา ข้าว่าพวกเราออกไปเดินเล่นชมจันทร์ดีรึไม่เจ้าคะ" เป็นความคิดที่ดีเหมือนกัน สองสตรีออกไปเดินเล่นชมจันทร์ ไม่ห่างจากที่จัดงานมาก ข้ารับใช้ของทั้งสองคนเดินตามหลังเจ้านายอย่างเนิบช้า
"พระชายาขอบคุณท่านมากที่สอนวิชาแพทย์ให้ข้า" เสิ่นฮัวเอ่ยขึ้น นางดีใจที่พระชายาเมตตานาง
"ไม่เป็นไรหรอก เจ้าอยากทำความดีช่วยเหลือคน เหตุใดข้าจะมิถ่ายทอดวิชาให้เจ้าเล่า" หนิงเยียนพูดไปยิ้มไป
"ข้าอยากมีพี่สาวอย่างพระชายามากเจ้าค่ะ" ในตระกูลเสิ่น เสิ่นฮัวเป็นคุณหนูใหญ่ ไม่มีพี่สาวที่ไหน มีเพียงน้องชายสองคน
"ได้สิ เจ้าเป็นน้องสาวข้าดีรึไม่"
"ข้าเรียกท่านว่า พี่หญิงเยียนได้รึไม่เจ้าคะ"
"ได้สิน้องเสิ่นฮัว" ทั้งสองเดินมาไกลพอสมควร จึงได้ย้อนกลับทางเดิม แต่ทว่าสุนัขจิ้งจอกนับห้าตัวโผล่มาจากไหนก็ไม่รู้
"พี่หญิงเยียน ข้ากลัว" เสิ่นฮัวรีบหลบหลังหนิงเยียนทันที ตอนนี้นางนึกถึงเข็มฉีดยาขนาดใหญ่ นางจะทำให้พวกมันสลบเอง
"พวกเจ้าทั้งสามรีบหนีไป ข้าจะล่อพวกมันไปอีกทาง" หนิงเยียนวิ่งล่อสนุขจิ้งจอกไปอีกทาง ส่วนสตรีทั้งสามนางวิ่งไปตามที่หนิงเยียนสั่ง
เข็มฉีดยาพร้อมยาสลบอัดมาเต็มที่ หนิงเยียนแม้นางจะเรียนหมอมา แต่ทว่าเมื่อยามว่างนางมักเรียนเทควันโด กระนั้นหญิงสาวจึงวิ่งขึ้นบนต้นไม้สูงแล้วม้วนตัวกลับมาตลบหลังเจ้าสุนัขจิ้งจอก ตัวที่มันตามนางมา เข็มฉีดยาถูกปักเข้าไปในร่างของมันจนมันนอนแน่นิ่ง
หนิงเยียนหายใจอย่างเหนื่อยหอบ เหลือพวกมันอีกสี่ตัว
"น้องสะใภ้เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง" ชูอ๋องนั่นเองที่วิ่งมา ในตอนนั้น เขาออกมาเดินเล่นเห็นเสิ่นฮัววิ่งหน้าตั้งมาขอความช่วยเหลือว่า พระชายาเวยอ๋องตกอยู่ในอันตราย ชูอ๋องมีน้ำใจจึงมาช่วยนาง
"ข้าจะล่อมันไปอีกทาง" ชูอ๋องไม่ฟังที่นางพูด เขาวิ่งไปอีกทาง พร้อมสุนัขจิ้งจอกสองตัววิ่งไล่ก้นเขา
หนิงเยียนมองสุนัขจิ้งจอกอีกสองตัวกำลังกระโจนมาหานาง...
ด้านเวยอ๋องเดินเข้ามาในกระโจม ไม่พบหนิงเยียนเลยแม้แต่น้อย เขากำลังจะออกตามหานาง แต่ทว่าชายาหนานอ๋องเข้ามาขวางเขาไว้
"ชายาหนานอ๋อง เข้าผิดกระโจมแล้วกระมัง"
หยวนเหมยอุตส่าห์หลบหนีหนานอ๋อง เพื่อมาหาเวยอ๋อง เหตุใดเขาต้องใจร้ายกับนางด้วยเล่า
"พี่เชียน ท่านอย่าไล่ข้าเลย" หยวนเหมยโอบกอดเวยอ๋อง
"ออกไป" เขาผลักนางออกอย่างน่ารังเกียจ นึกถึงเหตุการณ์ทุกอย่างที่นางร่วมมือกับอวี้ฮองเฮา
"พี่เชียน !!!"
"แย่เเล้วเจ้าค่ะ" เสิ่นฮัววิ่งทะเล่อทะล่าเข้ามาในกระโจม พบหยวนเหมยกองกับพื้น นางไม่มีเวลาคิดอันใด นอกจากช่วยพระชายา
"เกิดอะไรขึ้น"
"พระชายาถูกสุนัขจิ้งจอกทำร้ายอยู่ป่าด้านนั้นเจ้าค่ะ" เสิ่นฮัวมองดูเวยอ๋องรีบวิ่งไปทางที่นางบอก
หยวนเหมยเเค่นยิ้ม
หนิงเยียนมองสุนัขจิ้งจอกตัวสุดท้าย ที่มันกำลังจะเข้ามาหานาง ดวงตามันวูบไหวเล็กน้อย มันโกรธที่ฉีดยาสลบให้สุนัขอีกตัวจนล้มลงไป
มาเลยตอนนี้เข็มฉีดยาสลบในมือของนางมาเเล้ว ในระหว่างที่มันจะกระโจนเข้ามา ลูกธนูปักกลางหลังของมัน ทำให้มันล้มลงกับพื้น
นางมองคนที่ยิงธนู เวยอ๋องนั่นเอง เขาทิ้งคันธนูแล้ววิ่งมาหานาง ไป๋หรูและไป๋หลานมาพร้อมกัน พร้อมกับเหล่าทหาร
มองเวยอ๋องกอดหนิงเยียนประดุจไข่มุกในฝ่ามือที่หวงแหนยิ่งนัก
"เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง"
"ข้ามิเป็นไร" ชั่วพริบตาเดียวเข็มฉีดยาได้หายไปแล้ว
"บ่าวขออภัยที่ไม่ดูแลพระชายาให้ดี" ไป๋หรูรู้สึกผิด ในตอนนั้นไท่ชางหวงเรียกไป๋หรูเข้าเฝ้าพอดี ผู้ใดจะคิดว่าจะเกิดเรื่องร้ายกับพระชายา
"ข้าปลอดภัยดีเเล้ว พวกเรากลับกระโจมกันเถอะ"
ในระหว่างนั้นทหารได้นำตัวชูอ๋องที่ได้รับบาดเจ็บ โดนกัดที่ขาด้านซ้าย
เหล่าทหารงงหนักมาก พระชายาเวยอ๋องต่อสู้กับสุนักจิ้งจอกไร้รอยขีดข่วน แต่ทว่าชูอ๋องเป็นบุรุษแท้ ๆ ดันต่อสู้กับสุนัขมิได้
เวยอ๋องมองนางมารร้าย นางต่อสู้กับสุนัขมือเปล่ารึ
"เจ้าต่อสู้กับสุนัขมือเปล่ารึ"
"ข้าใช้เข็มทิ่มมัน"
หญิงสาวเดินนำหน้าเขาไป นางเป็นห่วงชูอ๋องท่าไม่รีบรับการรักษา อาจจะเป็นโรคพิษสุนัขบ้าได้ถึงแม้จะสนุขจิ้งจอกก็ตาม
หนิงเยียนอาสาทำแผลให้ชูอ๋องเพราะเขาเป็นคนช่วยนางล่อสุนัขไปอีกทาง
"ขอบคุณน้องสะใภ้มาก" ชูอ๋องเอ่ยด้วยท่าทีที่เป็นมิตร
"มิเป็นไรเจ้าค่ะ"
"หนิงเยียนกลับไปพักผ่อนเถอะ" เวยอ๋องเป็นห่วงนางมาก เขาจะต้องหาต้นตอของเรื่องให้ได้ว่าสุนัขจิ้งจอกมาจากไหน เพราะก่อนที่จะตั้งกระโจม ทหารทั้งหมดได้สำรวจเเล้วว่ามิมีสัตว์ดุร้ายย่างกรายเข้ามา นอกเสียจากว่าจะมีคนนำมันมาปล่อย
หนิงเยียนนอนที่เตียงพลันหายเหนื่อย นางคลอดลูกชาย นางดีใจทั้งน้ำตาจ้าวเชียนดีใจไม่ต่างจากนางที่ได้โอรสทั้งสองพระองค์จ้าวเทียน จ้าวตี้ จ้าวเชียนตั้งชื่อโอรสของเขาเรียบร้อยเเล้วโอรสทั้งสองช่างมีใบหน้าคล้ายเขาเจ็ดส่วน ชายหนุ่มดีใจมาก "ให้ข้าดูหน้าเขาหน่อย" หนิงเยียนมองแฝดชายทั้งสอง ช่างคล้ายพระบิดานัก"เจ้าพักผ่อนเถอะ""ข้าคลอดโอรสให้ท่าน ท่านรับปากข้าเเล้วว่าจะไม่รับสนมทั้งสิ้น""แน่นอนเรารับปากเจ้าเเล้ว" จ้าวเชียนจุมพิตที่หน้าผากคนงาม ขุนนางน้อยใหญ่เสนอบุตรีมาเป็นสนม เขาจะพักงานขุนนางในราชสำนักทันทีในใจฮ่องเต้มีเพียงหนิงฮองเฮาคนเดียว ชั่วนิรันดร์กาลเสิ่นฮัวในยามนี้ได้เป็นชายารัชทายาทแคว้นหนานเป็นที่เรียบร้อยเเล้ว ในยามนี้เซียวหยางดีกับนางมาก "พี่หญิงเยียนส่งข่าวมาเเล้ว นางคลอดแฝดชายทั้งสองคนอย่างปลอดภัย ท่านพาข้ากลับไปเยี่ยมนางได้รึไม่"เซียวหยางมองหน้าชายารัก เหตุใดจะมิได้"ได้สิ หากชายารักต้องการ""ท่านลืมนางได้เเล้วใช่รึไม่"เสิ่นฮัวสบตากับรัชทายาทเซียวหยาง ในอดีตเซียวหยางรักหนิงเยียนมาก แม้นางจะเป็นชายาอ๋องก็ตาม"ข้ามีแต่มิตรภาพดี ๆ ให้นาง ยามนี้นางเป็นหนิงฮองเฮาเเล้ว""ข้ารั
เวยอ๋องสั่งคนให้ไปที่คุกหลวงนำตัวไท่ชางหวงออกมา พบว่าไท่ชางหวงโดนทรมานเกือบตาย แต่ก็ยังไม่ตายเวยอ๋องนั่งมองไท่ชางหวง เขาให้หมอหลวงมารักษา สองชั่วยามเเล้วยังไม่ฟื้น ยามนี้เขาสั่งให้คนนำตัวอวี้ฮองเฮาออกไปที่สำนักนางชีชั่วชีวิต อีกทั้งช่วยพระมารดาออกมาจากคุกหลวงด้วยเช่นกัน ชูอ๋องแม้จะไม่มีส่วนก่อกบฏ เวยอ๋องตัดสินให้ชูอ๋อง ออกไปใช้ชีวิตที่นอกเมือง พร้อมทั้งอนุและบุตรชายบุตรสาว นับว่าเวยอ๋องเมตตาเเล้วหนิงเยียนอาเจียนไม่หยุด สองอาทิตย์มานี้ไม่ได้ข่าวของเวยอ๋องบ้างเลย ดูเหมือนนางจะมีข่าวดีเเล้ว หญิงสาวเพิ่งตรวจดูอาการของนางยามเช้า นางตั้งครรภ์แล้ว เสี่ยวอ้ายดูแลนางอย่างดี อีกทั้งเสิ่นฮัวยามนี้ ดูเหมือนว่า เซียวหยางจะตัดสินใจหมั้นหมายกับเสิ่นฮัว รอข่าวจากแคว้นต้าโจว เวยอ๋องชิงเมืองมาได้รึไม่"พระชายา" เสิ่นกวงนั่นเอง หนิงเยียนคิดว่าเวยอ๋องต้องมารับนาง"เขาเล่า""เวยอ๋องสิ้นพระชนม์แล้ว" หนิงเยียนเข่าอ่อนเป็นลมทันที"พระชายา" เสี่ยวอ้ายรีบประคองเจ้านายเข้าไปในตำหนักรับรอง หนิงเยียนลืมตาขึ้นมาอีกที เสิ่นกวงยังพูดความเดิม เวยอ๋องตายเเล้ว ค่ำคืนนั้น นางขออนุญาตเซียวหยางเผากระดาษเงิน กระดาษทอง
ยามนี้ต้าโจวระส่ำระส่ายยิ่งนัก ราษฎรต้องจ่ายส่วยหนักมากขึ้นกว่าเดิมหลังจากที่เซียวจิ้งสิ้นพระชนม์ไป เพราะอวี้ฮองเฮาเป็นคนวางพิษ เซียวจิ้งเองกับมือ ส่วนไท่ชางหวงถูกจองจำในคุกใต้ดิน อย่างไม่มีทางหนีรอด"เสด็จปู่" หนานอ๋องนั่งมองไท่ชางหวงถูกล่ามโซ่ อีกทั้งมีเหล็กร้อน ๆ กำลังจะทาบไปที่หลังมือของไท่ชางหวง"หลานเนรคุณ""ตราพยัคฆ์ทหารอยู่ที่ใด ส่งมันมาให้ข้าบัดเดี๋ยวนี้""คนที่มันสังหารบิดาตัวเอง จะต้องเลวสักเพียงใด ถึงทำเยี่ยงนี้ ต่อให้เราตายไป เราไม่บอกเจ้าหรอก" ไท่ชางหวงไม่คิดว่าเวลาเพียงเดือนกว่า เวยอ๋องไม่อยู่ หนานอ๋องกับอวี้ฮองเฮาจะลุกขึ้นมาก่อกบฏ"ได้ ทรมานเขาจนกว่าเขาจะบอก" หนานอ๋องเดินจากไปพร้อมเสียงหัวเราะ ส่วนไท่ชางหวงเจ็บปวด จนจะตายอยู่เเล้ว เหล็กร้อน ๆ แทงเข้าเนื้อที่มืออย่างเจ็บปวดหนานอ๋องตอนนี้ กำจัดขุนนางไปได้หลายคน อีกทั้งอยู่ในฉลองพระองค์สีเหลืองทอง มองฮองเฮารักอย่างหยวนเหมยที่บีบนวดให้เขา "ฮองเฮาของข้า เจ้าช่างงามนัก""จริงรึเพคะ""จริงสิ เรารักเจ้า ถึงแม้จะร้ายกับเจ้าไปบ้าง วันนี้ เรารู้สึกง่วงเสียจริง""ท่านก็"หยวนเหมยจุมพิตอย่างหวานล้ำ นางนั่งตำแหน่งฮองเ
เซียวหยางส่งคนไปจับเสนาบดีเหรินข้อหาค้าเงินเถื่อนอีกทั้งหลักฐานการโกงเงินภาษีของราชสำนัก เมื่อคืนงานเลี้ยงอำลาหนิงเยียน ขุนนางน้อยใหญ่ทุกคนต้องมาร่วมงานครั้งนี้ เซียวหยางหารือกับพระบิดานี่คือโอกาสดี ให้องครักษ์ลับไปค้นจวนขุนนางทุกคน พบว่ามีขุนนางฝั่งอัครเสนาบดีเหรินจำนวนมาก กระนั้นเขาจึงตัดสินโทษให้ยึดสมบัติจวนเหริน อีกทั้งสตรีเป็นนางคณิกา บุรุษคือผู้ใช้เเรงงานหนิงเยียนเก็บข้าวของเพื่อที่จะกลับแคว้นต้าโจว นางสังเกตเสิ่นฮัว ปกติจะมาพูดคุยกับนาง แต่ทว่าวันนี้เสิ่นฮัวขึ้นรถม้า แล้วนั่งเงียบ หนิงเยียนสงสัย แต่ไม่ได้ถามเสี่ยวฟาง เวยอ๋องกับหนิงเยียนร่ำลาผู้ครองแคว้นหนานแล้ว ทั้งสองกำลังขึ้นรถม้า เห็นเซียวหยางนำทหารม้ามาทางพวกนางเวยอ๋องตกใจ"เจ้าจะทำอันใด" "เจ้าสองคนไปได้ แต่เสิ่นฮัวไปมิได้" หนิงเยียนกับเวยอ๋องต่างสบตากัน เสิ่นฮัวได้ยินกระนั้นลงจากรถม้าด้วยความหวาดกลัว หนิงเยียนสังเกตรอยแดงที่ต้นคอเสิ่นฮัว "ไม่ข้าจะกลับแคว้นข้า" เสิ่นฮัวไม่ยอม นางจะไม่อยู่กับคนที่ไม่รักนางเป็นอันขาดเซียวหยางลงจากหลังมา สาวเท้าเข้ามาอย่างช้า ๆ แล้วอุ้มเสิ่นฮัวพาดบ่า"ปล่อยข้านะ""เซียวหยางเจ้าปล่อยนางเ
หนิงเยียนกับเวยอ๋องนั่งที่ประทับนางกำนัลจัดไว้ให้เรียบร้อย เสียงเพลงพิณบรรเลงขึ้นมาพร้อมกับสาวงามออกมาร่ายรำ เหล่าขุนนางน้อยใหญ่ในแคว้นหนาน ต้องมาร่วมงานเลี้ยงอำลาหมอเทวดาเยียน พอนางจะกลับแคว้นพวกเขาต่างมิอยากให้คนมีฝีมือไปแคว้นต้าโจว แต่นางเป็นชายาเวยอ๋อง ยังไงก็ต้องจากไปอยู่ดี ฮ่องเต้เซียวจิ้งกับเหนียงฮองเฮาพลันเสด็จมาเเล้ว ทุกคนต่างถวายพระพร จากนั้นนั่งแท่นประทับ ทุกคนต่างมองที่เหนียงฮองเฮา ยามนี้นางงดงามนัก หลังจากที่ปกปิดใบหน้ามาตลอดยี่สิบห้าปี คนชั่วได้รับการลงโทษเป็นที่เรียบร้อยเซียวหยางเดินเคียงคู่มาพร้อมกับคู่หมายของเขาคือเหรินเหมี่ยว ขุนนางน้อยใหญ่ ต่างคำนับรัชทายาท เสิ่นฮัวนั่งฝั่งหนึ่งปรายตามองเซียวหยางเเล้วเบ้ปากงานเลี้ยงได้ดำเนินต่อไป สาวงามได้ออกมาร่ายรำ หนิงเยียนนั่งซบอกเวยอ๋องอย่างไม่สนใจสายตาของผู้ใด เวยอ๋องทั้งแกะเมล็ดแตงโมให้นางกิน ช่างเป็นภาพที่ทำให้ใครหลายคนพลันอิจฉานักเหรินเหมี่ยวมองคู่หมั้นของนาง ที่นางเเย่งชิงมาจากพี่สาวสมองสุนัขของนางได้ ในงานเลี้ยงครั้งนั้น นางแอบติดสินบนนางกำนัล จึงให้นางกำนัลใส่ยาพิษลงไปในสุรา พบว่าพี่สาวสมองสุนัขหลงกลเข้า จึงต้องรับโ
ค่ำคืนนั้นหนิงเยียนเหนื่อยมากจากการที่รักษาคนป่วย เวยอ๋องเดินเข้ามาถอดรองเท้าเเล้วห่มผ้าให้นาง ใบหน้าหล่อเหลาพลันปรากฏด้วยรอยยิ้มก่อนจะจุมพิตเเล้วไปนอนที่ตั่งยาว ยามเช้าของวันนั้นอากาศพลันเย็นมาก ผู้ป่วยไข้ทรพิษเริ่มลดลงจำนวนมากหนิงเยียนสั่งให้เสี่ยวอ้าย และเสิ่นฮัวแจกจ่ายยาให้ชาวบ้านไปต้มกิน ชาวบ้านต่างสรรเสริญนางว่านางคือพระโพธิสัตว์กวนอิมมาโปรดพวกเขาให้หายจากโรคร้ายเซียวหยางพลันเข้ามาในคุกมืดสอบความถามท่านเจ้าเมืองเฟิง มีชื่อว่า เฟิงหนานด้วยตัวเองเขานั่งมองเฟิงหนานในชุดนักโทษสีขาวที่สกปรก "เหตุใดในเมืองเฟิงจึงเกิดไข้ทรพิษได้" เซียวหยางมองเจ้าคนปากเเข็ง เขาไม่เชื่อโรคนี้จะเกิดขึ้นจากธรรมชาติ นอกจากจะมีคนปล่อยพิษโรคไข้ระบาดนี้"ข้า..." "เหล็กทาบมือเขา" เหล็กร้อน ๆ สีแดงชาดที่เต็มไปด้วยประกายไฟ กำลังจะทาบลงมาที่มือเจ้าเมือง"ช้าก่อน ช้าก่อน"เซียวหยางส่งสัญญาณให้องครักษ์ทันที"องค์ชายรองสั่งให้ข้านำพิษมาปล่อย รัชทายาทช่วยข้าด้วย"องค์ชายรองอย่างนั้นรึ เซียวเซาโอรสของเนี่ยกุ้ยเฟยสามวันต่อมาคนทั้งเมืองเฟิงได้รับการรักษาจนหายหมดเเล้ว รถม้าทั้งสามคันมุ่งหน้ากลับไปที่เมือ