LOGIN“ข้าวจะแจ้งความ! พี่ชินทร์ข่มขืนข้าว!”
นิ้วเรียวยาวชี้ตรงไปที่ชายหนุ่มด้วยความโกรธแค้นและเสียใจอย่างที่สุด เขานั่งบนโซฟาในสภาพสวมเสื้อผ้าเรียบร้อย หลังจากที่พายุอารมณ์ของเขาผ่านพ้นไป
“โทรเลย! ตอนนี้เลยก็ได้ พี่จะรอ”
เตชินทร์ตอบกลับหญิงสาวเช่นกัน สายตาคมเข้มจ้องมองร่างบอบบางที่นั่งบนเตียง สภาพของเธอตอนนี้ ไม่ต่างอะไรกับการเผชิญศึกสงครามมา ผมเผ้ายุ่งเหยิง ร่างเปลือยเปล่ากอดผ้าห่มผืนใหญ่เอาไว้แน่น
เพล้ง!!แก้วน้ำลอยกระทบฝาผนังดังสนั่น โดยที่เป้าหมายกลับหลบได้ทัน
“เลวมาก!”
เกวลินโต้กลับทั้งคำพูดและวัตถุ เธอโมโหจนไม่รู้จะระบายความแค้นกับเขายังไงเลย คนหน้าหนาไร้ยางอายอย่างที่สุด
“พี่จะถือว่าเป็นคำชมก็แล้วกัน เป็นยังไง ตอนนี้จะคุยกับพี่ดีๆ ได้หรือยัง”
เตชินทร์ยกเรื่องเดิมขึ้นมาเจรจากับเธออีกครั้ง เขาหวังว่าเธอจะเข้าใจในสิ่งที่เขาต้องการจะตกลงกับเธอมากขึ้น
“ไม่!” เกวลินพยายามมองหาเสื้อผ้าของตัวเอง แต่ทว่า เห็นสภาพเศษชุดที่กระจัดกระจายตามพื้นแล้วทำให้เกวลินโกรธโมโหขึ้นมาอีก เธอหันมาถลึงตาโตใส่เขาอย่างเอาเรื่อง
“พี่สั่งเสื้อผ้าให้เราเรียบร้อย สักครู่ก็คงมาส่งแล้ว ทางที่ดีตอนนี้ เรามาคุยกันก่อนดีกว่า”
สายตาคมจับจ้องไปที่ร่างบางที่นั่งอยู่บนเตียงด้วยท่าทีที่เคร่งขรึมและจริงจัง
“ไม่คุย ข้าวไม่มีอะไรจะคุยกับพี่อีกแล้ว”
“ทั้งที่เธอเป็นแบบนี้ เธอยังจะอวดดีอีกเหรอ”
“ทำไมคะ! พี่อย่าคิดนะ ว่าข้าวจะเสียใจกับสิ่งที่พี่ทำ ข้าวไม่แคร์ค่ะ ถือว่าทำบุญทำทานก็แล้วกัน!”
ใบหน้าสวยเชิดขึ้น เกวลินจะไม่ยอมให้สิ่งที่เขาทำมีผลกับเธอแน่ ไม่ก็คือไม่ สิ่งที่เกวลินเจอ ถือว่าเป็นบทเรียนสำหรับเธอ ต่อไปนี้ เธอจะต้องระวังตัวเองให้มากขึ้น
“แล้วไม่แจ้งตำรวจหรือไง พี่ก็รออยู่นะ แจ้งสิ...”
เตชินทร์ท้าทาย เขาก็อยากจะรู้เหมือนกัน ว่าเธอจะกล้าเอาตัวเองไปบอกให้สังคมรับรู้หรือเปล่า
“ทำบุญทำทานไปแล้ว จะแจ้งทำไมคะ”
ขืนเธอแจ้งความ ทุกอย่างของเกวลินก็จะสูญสิ้นแน่นอน เกวลินจะต้องอับอาย พ่อแม่ของเธอล่ะ ท่านทั้งสองทำงาน มีหน้ามีตาทางสังคมมาก
“อ่อ...เรานี่นักบุญสุดๆ เลยนะ เสียตัว ยังคิดว่าทำบุญทำทานอีก คงจะทำบ่อยล่ะสิ!”
สันกรามขบกันแน่น เมื่อความรู้สึกบางอย่างเริ่มแทรกซึมเข้ามา ‘มีแต่ผู้หญิงบ้าเท่านั้น ที่คิดแบบนี้’
“ใช่ค่ะทำบ่อย แล้วไงคะ พี่อย่าคิดว่าผู้หญิงทุกคน เขาจะแคร์พี่หมดนะคะ อย่าหลงตัวเองสิคะ พี่ไม่ได้มีผลอะไรกับข้าวเลย”
เกวลินจะให้เขารู้ไม่ได้ ท่าทีที่กล้าหาญ แต่ภายในใจกลับร้าวรานที่สุด เธอช่างโชคร้ายเหลือเกิน โดนกระทำซ้ำสอง แถมคนที่ทำยังเป็นคนเดิม เขาต้องการอะไรจากเธอกันแน่
“พี่มีข้อเสนอให้เรา...”
ยังไม่ทันที่เตชินทร์จะพูดจบประโยค
“ไม่! ข้าวไม่ต้องการข้อเสนออะไรจากพี่ทั้งนั้น ข้าวไม่สน!”
“ให้ตายสิ! เธอนี่ดื้อจริงๆ เลยนะ”
อารมณ์ของเตชินทร์เริ่มปะทุขึ้นมาอีกครั้ง
“พี่ก็หน้าหนาเหมือนกัน ปล่อยข้าวไป ข้าวไม่ได้ชอบพี่ ถึงแม้ว่าพี่จะคิดว่าข้าวกับพี่มีอะไรกันแล้วก็ตาม แต่อย่าหวังว่าข้าวจะแคร์เรื่องพวกนี้นะคะ”
“โอเค! งั้น สรุปเธอไม่แจ้งความ ไม่สน ไม่แคร์ที่จะให้พี่รับผิดชอบเธอใช่มั้ย! ที่เราเอากันไปเมื่อกี้ ก็ถือว่าเธอทำทานให้พี่ใช่หรือเปล่า!”
“แน่นอน! ต่อไปนี้พี่ก็อย่ามายุ่งกับข้าวอีก อย่ามาเจอ อย่ามาให้เห็นหน้ากันอีก เข้าใจมั้ยคะ!”
“ได้!!”
**************
เช้าวันต่อมา...
สายสนทนา...
“สรุปข้าวจะกลับมาตอนไหนลูก พ่อเค้าก็ถามแม่เป็นสิบรอบแล้ว...เป็นอะไรหรือเปล่า หรือไม่สบาย ดูเสียงของข้าวเปลี่ยนไปนะ”
“อ่อ...คือข้าวนอนเพลินไปหน่อยค่ะแม่ ตอนนี้พึ่งจะเก้าโมงเองนะคะ เดี๋ยวข้าวจะรีบอาบน้ำแต่งตัวค่ะ”
เกวลินรู้ว่าเรื่องที่เธอพูดกับผู้เป็นแม่นั้น เป็นเรื่องที่เธอแต่งขึ้นเองทั้งหมด จริงๆ แล้วเกวลินไม่ได้เป็นอย่างที่พูดเลยสักนิด
เมื่อวาน หลังจากที่เธอกลับถึงคอนโดที่พักของเธอ เกวลินก็หลับไปด้วยความเหนื่อยล้า เธอเจอเหตุการณ์ที่เลวร้าย จากผู้ชายที่เธอเคยรู้จัก และเคยผ่านเรื่องเลวร้ายมาด้วยกัน เขาเหมือนคนดี แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย
“งั้น เดี๋ยวแม่บอกกับพ่อ ว่าลูกกำลังจะกลับนะ”
“ได้ค่ะแม่ ประมาณสามชั่วโมงค่ะ ข้าวถึงบ้านแน่นอนค่ะ”
ตอนนี้สมองของเกวลินมันสับสนไปหมดแล้ว เธอคิดอะไรไม่ออกเลย เรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับเธอ มันไม่ควรจะเกิดขึ้นเลยด้วยซ้ำ เกวลินไว้ใจเขามากเกินไป ‘ผู้ชายอย่างพี่ชินทร์ เธอควรอยู่ให้ห่างจากเขามากที่สุด และต่อจากนี้ เธอกับเขาคงไม่มีวันที่จะเจอกันอีกแล้ว’
ติ๊ด! ติ๊ด!เสียงสมาร์ทโฟนดังขึ้น ทำให้ร่างบางตกใจ
‘น้ำตาล’เกวลินมองสายเรียกเข้าอย่างชั่งใจ เธอควรจะบอกเรื่องนี้กับอลินดาดีมั้ย หรือไม่ควรที่จะบอก เพื่อนของเธอจะต้องมาเครียดเรื่องของเธออีกมั้ย...
“ฮัลโหล...”
“ข้าว...เธออยู่ที่บ้านแล้วใช่มั้ย พอดีงานที่อาจารย์เมธีสั่งมาอ่ะ ฉันไม่เข้าใจโจทย์ เธอทำหรือยัง...”
“ฉันยังไม่ได้ทำเลย อีกอย่าง ฉันกำลังจะกลับบ้านน่ะ”
เกวลินพยายามบังคับน้ำเสียงของตัวเองให้เป็นปกติ เพื่อไม่ให้เพื่อนผิดสังเกตได้ เธอไม่ควรเอาเรื่องวุ่นวายของตัวเองไปบอกอลินดา เพื่อนของเธอก็มีเรื่องหนักใจ มากพออยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ เกวลินคิดไว้ว่า จะเก็บไว้เป็นความลับของเธอตลอดไป
“อ่าว...ฉันก็คิดว่าเธอกลับบ้านไปตั้งแต่เมื่อวานเย็นแล้ว ทำไม มีอะไรหรือเปล่า เธอบอกฉันว่าซื้อของเสร็จ แล้วจะกลับบ้านเลยนี่ แล้วทำไมอยู่ดีๆ ถึงเปลี่ยนใจซะล่ะ”
“เปล่า...ฉันไม่ได้เป็นอะไร คือ เมื่อวานฉันกลับจากซื้อของมาเย็น ก็เลยขี้เกียจกลับ เลยว่าจะกลับตอนเช้าดีกว่า”
“เหรอ...แต่ฉันรู้สึกเหมือนเธอแปลกๆ นะ ไม่สบายหรือเปล่า มีเรื่องอะไรบอกฉันได้นะข้าว ฉันเป็นเพื่อนเธอมาเกือบทั้งชีวิต เธอไม่ต้องเกรงใจฉันหรอก บอกฉันได้”
อลินดากับเกวลิน คือเพื่อนที่สนิทกันมาก ความสนิทสนมทำให้ ความรู้สึกบางอย่างที่เพื่อนแสดงออกมานั้น อลินดามักจะรู้ได้ทันทีว่าเพื่อนเกิดอะไรขึ้น
“เปล่า...ฉันไม่ได้มีอะไร เธอไม่ต้องเป็นห่วงนะ งั้น เดี๋ยวฉันจะรีบอาบน้ำ และกลับบ้าน พอถึงบ้านแล้ว ฉันจะดูงานที่อาจารย์สั่งให้นะ น้ำตาล”
เรื่องของเกวลิน เธอก็ควรจะจัดการเอง เรื่องที่เกิดขึ้น นอกจากจะเป็นบทเรียนราคาแพงสำหรับเกวลินแล้ว ยังเป็นเครื่องเตือนสติให้เธอ ได้ระลึกเสมอว่า เธอไม่ควรไว้ใจใครง่ายๆ โดยเฉพาะผู้ชาย ถึงแม้รู้จัก แต่ไม่อาจรู้นิสัยใจคอได้
สิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับเธอนั้น เกวลินจะโทษใครไม่ได้เลย นอกจากตัวเธอเองเท่านั้น บทเรียนนี้เกวลินจะจดจำไปจนวันตาย เธอจะไม่มีวันลืมเลย ว่าครั้งหนึ่งนั้น เธอเคยผ่านความชอกช้ำมามากขนาดไหน!
**************
@นนทบุรี...@บ้านหลังใหญ่สไตล์โมเดิร์น “ตกลงว่า เรื่องนี้ ก็เอาตามนี้ก็แล้วกัน ในเมื่อเด็กๆ เขาชอบพอกัน ให้เขาตกลงกันเอง จะหมั้นหรือจะแต่ง ก็แล้วแต่พวกเขาก็แล้วกันนะ” “ครับ ผมต้องขอบคุณแทนลูกชายผมด้วยครับ ที่เมตตาเอ็นดูตาชินทร์ ผมเลี้ยงลูกตามใจมาตลอด ต้องขอโทษด้วยครับ ที่ไปทำเรื่องล่วงเกินลูกสาวของคุณฐานทัพ...อืม...ความจริงเรียกคุณหมอดีกว่านะครับ” “ได้ครับ เอาที่คุณสะดวกครับ ยังไง อีกหน่อยเราสองครอบครัว ก็ต้องเป็นทองแผ่นเดียวกันแล้วครับ” “ดิฉัน ต้องขอบคุณด้วยค่ะ ที่เอ็นดูตาชินทร์ เราสองคนดีใจมากค่ะ ที่ตาชินทร์ชอบพอกับลูกสาวของคุณ เรื่องหมั้นเรื่องแต่ง เดี๋ยวให้เขาสองคนตกลงกันก็ได้ค่ะ ทางเราพร้อมเสมอค่ะ”จันทร์ทิพย์เอ่ยเสริม พร้อมกับปรายตามองว่าที่ลูกสะใภ้ของเธอ ลูกชายของเธอตาถึงไม่เบาเลยนะ เลือกได้ดี สวย น่ารัก บุคลิกทุกอย่างเหมาะสมกับลูกชายเธอมาก เรื่องฐานะทางครอบครัว จันทร์ทิพย์ไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจเลย ขอเพียง ลูกชายสุดที่รักของเธอชอบก็เพียงพอแล้ว “ค่ะ ก็คงจะต้องหมั้นไว้ก่อนค่ะ ยัยข้าวยังเรียนไม่จบเลย ก็น่าจะเกือบสองปีค่ะ แต่งตอนนี้ ค
ในเวลาต่อมา...สายสนทนา... “ว้าว! เริ่ด! พี่ชินทร์สุภาพบุรุษสุดๆเลยอ่ะ” “ฉันเล่าให้เธอฟัง เพื่อจะขอคำปรึกษานะ น้ำตาล ไม่ใช่ไปอยู่ข้างพี่เขา”หลังจากที่พ่อแม่กลับไป เขาก็กลับไปเคลียร์ที่บ้าน ส่วนเกวลินก็อัดอั้นตันใจ จนต้องโทรมาระบายกับเพื่อนสาวของเธอ “เธอจะต้องปรึกษาอะไรกันอีก ในเมื่อเรื่องของเธอกับพี่ชินทร์มันมาไกลขนาดนี้แล้ว เธอต้องปล่อยแล้วมั้ย จะกังวลทำไมอีก ฉันไม่เข้าใจเธอเลย...” “ฉัน...” “เธอกังวลเรื่องพ่อแม่ของพี่ชินทร์ใช่มั้ย หรือเธอกังวลเรื่องการถอนหมั้นของพี่เขา ฉันขอบอกไว้เลยนะ เรื่องพวกนี้ เธอไม่ต้องเอามาคิดหรอก ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพี่ชินทร์ ให้พี่เขาจัดการเอง พรุ่งนี้ เธอก็แค่กลับบ้านไปเตรียมต้อนรับพ่อแม่พี่ชินทร์ก็พอ...อย่าเครียดเลย มันไม่มีอะไร” “ฉันเครียดเรื่องถอนหมั้นของเขานี่แหละ คนอื่นจะคิดว่า ฉันเป็นคนแย่งพี่ชินทร์มาจากคู่หมั้นเขาหรือเปล่า และพ่อแม่ของเขาจะคิดยังไง มันเป็นเรื่องวุ่นวายมากเลยนะ น้ำตาล” “เธอไม่ได้เป็นคนแย่งพี่ชินทร์นะ เข้าใจซะใหม่ ความจริงถ้าเธอตกลงกับพี่เขาตั้งแต่แรก พี่ชินทร์ก็ไ
เช้าวันต่อมา... ติ๊ด! ติ๊ด!เสียงสมาร์ทโฟนดังขึ้นมือเรียวบางเลื่อนออกมาจากผ้าห่ม ควานหาตามเสียงเรียกเข้าที่ดังอยู่ไม่หยุด บนโต๊ะหัวเตียง เสียงสั่นจากโทรศัพท์ยิ่งเร่งให้เธอรีบหาต้นเหตุของเสียงนั้น“ค่ะ...มะ-แม่”เกวลินเหลือบมองคนที่นอนอยู่ข้างกายเธอ“แม่กับพ่อ มาแวะมาหาลูก อีก ห้านาทีลงมาเปิดประตูให้พ่อกับแม่ด้วยนะ”“คะ? อะไรนะคะ!! แม่กับพ่อกำลังจะมาหาข้าวงั้นเหรอคะ ละ-แล้วทำไม ไม่โทรบอกข้าวก่อนล่ะคะ”“ก็บอกก่อนนี่ไง ทำไมเหรอ? หรือลูกไม่อยู่ที่ห้อง อืม ตอนนี้ก็พึ่งจะเก้าโมงเองนะ วันเสาร์ด้วย”“เออ คือว่า ข้าวแค่ตกใจค่ะแม่ ความจริงแม่ต้องบอกข้าวก่อนสิคะ”เกวลินหันไปมองคนตัวใหญ่ ที่ยังคงหลับลึกไม่ยอมตื่น“อ่ะ งั้น อีกห้านาทีแม่จะถึงแล้ว ลงมาเปิดประตูให้แม่ด้วยนะ แค่นี้แหละ”ตึ๊ด! ตึ๊ด!ปลายสายถูกตัดไปเกวลินกำลังอยู่ในอาการตกใจ เธอควรจะทำอะไรก่อนดีนะ เวลาห้านาที มันจะทำอะไรได้ล่ะ บ้าจริง!“พี่ชินทร์!! พี่ตื่นเถอะค่ะ”เกวลินเขย่าคนตัวใหญ่ พ่อกับแม่จะเห็นเธอกับเขาอยู่ในสภาพนี้ไม่ได้เด็ดขาด“อึ้มม์...พี่ขอนอนอีกหน่อยนะ”“ไม่ได้! พี่ต้องตื่นเดี๋ยวนี้นะ!”เกวลินลุกขึ้น พร้อมกับรีบคว้
“เหตุผล...ที่พี่ทำกับข้าวทั้งหมด...ก็เพราะ...พี่รักข้าวนะ”น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างนุ่มนวล หัวใจของเขาเต้นแรงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นกับใครมาก่อน แม้ใบหน้าคมยังคงฉาบด้วยท่าทีมั่นคง แต่ลึกลงไปภายในกลับปั่นป่วนจนแทบควบคุมไม่อยู่ ทุกถ้อยคำที่เขาพูดออกมานั้นล้วนมาจากความจริงในใจเขาทั้งหมด เพราะนี่คือสิ่งที่เตชินทร์ไม่เคยเอ่ยกับใคร“...!!!”ดวงตาของเธอเบิกกว้างในทันทีที่ได้ยินถ้อยคำที่หลุดออกมาจากปากเขา สมองของเกวลินเหมือนหยุดทำงานชั่วขณะ ร่างกายของเธอแข็งทื่อราวกับถูกตรึงให้อยู่กับที่หัวใจเธอเต้นแรงสะท้อนก้องอยู่ในอก ทั้งที่ปากอยากจะโต้กลับ อยากจะบอกว่ามันเป็นเรื่องเหลวไหล แต่กลับไม่มีเสียงใดเปล่งออกมา มีเพียงความเงียบที่ห่อหุ้มเธอเอาไว้ ดวงตาที่เธอไม่กล้าสบตรง ๆ กับเขาเพราะรู้ดีว่าในนั้นมีบางสิ่งร้อนแรงและจริงจังเกินกว่าจะปฏิเสธได้ง่าย ๆ“พี่รักเธอจริงๆ นะ ถึงเธอจะปฏิเสธพี่ แต่พี่ก็ยังรักเธออยู่ดี”เตชินทร์เผยความรู้สึกของตัวเองอย่างตรงไปตรงมา ตอนแรกเขาคิดว่า ‘แค่เสียหน้า เพราะถูกปฏิเสธ’ แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่ เขาชอบเธอต่างหากที่เป็นเรื่องจริง“เอ่อ...แล้วพี่...ทำไมถึงรักข้าวล่ะคะ?”เมื่อตั
@ โมเดิร์นคอนโด... “เฮ้อ...”เสียงถอนหายใจแบบยาวๆ ดังขึ้น หลังจากที่เกวลินวางสายสนทนาจากเพื่อนรักของเธอ เกวลินได้เล่าเรื่องที่เธอประสบพบเจอมาในวันนี้ให้อลินดาฟัง สงสัย เธอคงจะหนีผู้ชายคนนี้ไม่พ้นเสียแล้วจริงๆอลินดาบอกเธอว่า... ‘เธอควรจะทำใจ และยอมรับพี่เขาได้แล้วนะ’ ‘ฉันต้องทำแบบนั้นจริงๆ ใช่มั้ย น้ำตาล’ ‘ใช่! พี่ชินทร์ทำถึงขนาดนี้แล้ว เชื่อฉันสิ พี่ชินทร์ชอบเธอมาก ฉันว่า เป็นเรื่องดีนะ ถ้าตัดความเพลย์บอยออก พี่ชินทร์ก็เป็นผู้ชายที่โอเคคนหนึ่งเลยแหละ’ “...”เกวลินกำลังนึกย้อนถึงคำพูดของเพื่อนเธอ ‘เพลย์บอยนี่แหละ คือเรื่องที่สำคัญสำหรับฉัน’ อุปสรรคระหว่างเกวลินกับเขา มันไม่ใช่แค่เรื่องที่เขามีคู่หมั้นหรอกนะ เรื่องที่เธอต้องกังวลมากที่สุดก็คือ เรื่องครอบครัวของเขา กับครอบครัวของเธอต่างหากคือปัญหาใหญ่ ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน ก็เจอแต่ทางคู่ขนาน ที่ไม่สามารถจะบรรจบกันได้... ติ๊ด! ติ๊ด!เสียงสมาร์ทโฟนดังขึ้น เกวลินกดเลื่อนดูสายเรียกเข้านั้น ‘นี่เขาจะไม่ให้เธอได้พักเรื่องของเขาบ้างเลยหรือไง’นิ้วเรียวยาวกดรับสายสนทนานั้น
“เมียงั้นเหรอ! กรี๊ดดดดดด!!!”เสียงกรีดร้องของเพนนีดังลั่นจนทะลุไปถึงข้างนอก เลขาที่เฝ้าดูสถานการณ์อันน่าหวาดเสียวนี้ ก็รีบวิ่งเข้ามาหน้าตาตื่น “คุณเตชินทร์คะ? มีอะไรหรือเปล่าคะ?” “ไม่มีอะไร...”เตชินทร์ตอบด้วยสีหน้าราบเรียบนิ่งเฉย ราวกับว่าเมื่อครู่ไม่ได้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเลย เกมนี้เขารู้อยู่แล้ว ว่าเรื่องทั้งหมดจะเป็นอย่างไร “ปล่อยนะ...”เกวลินพยายามขืนตัวออกจากการอ้อมกอดของเขา พร้อมกับเหลือบมองไปที่ผู้หญิงอีกคน ที่ยืนตาโตหน้าแดงกำมือแน่นพร้อมเอาเรื่องได้ตลอดเวลา “เพนนีจะไม่ยอมถอนหมั้นให้พี่แน่นอน พี่ชินทร์ทำกับเพนนีแบบนี้ มันหยามเพนนีเกินไป คอยดู! เพนนีจะไปบอกคุณลุงกับคุณป้า ว่าพี่ชินทร์เอาผู้หญิงข้างถนน...อ่อ...ไม่ใช่แค่นั้นสิ...ยังเป็นนักศึกษาอยู่ด้วย เธอคงจะรอเวลานี้มานานแล้วสินะ!” “ดิฉันไม่ได้...”เกวลินกำลังจะโต้กลับ แต่ทว่าก็มีคำพูดหนึ่งแทรกขึ้นมาก่อน ประโยคนั้นทำให้เธอตกใจเพิ่มขึ้นไปอีก “นั่นมันก็แล้วแต่เธอเลย พี่คุยป๊ากับม๊าของพี่เรียบร้อยแล้วว่าพี่จะถอนหมั้นกับเธอ พี่ไม่ได้ชอบเธอ แต่พี่ชอบคนนี้”เตชินทร์กระชับอ้







