LOGINบรรยากาศภายในห้องทำงานเงียบสงัดจนแทบได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้น เกวลินก้าวเท้าเข้าไปอย่างช้า ๆ ในมือกำอุปกรณ์พรีเซนต์ไว้แน่นจนเหงื่อซึมออกมามือบางเย็นเฉียบ
ความทรงจำเก่า ๆ ผุดขึ้นมาไม่หยุด ครั้งหนึ่งเขาเคยพูดกับเกวลิน และขอแสดงความรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับเธออย่างจริงใจ ตรงไปตรงมา แต่เกวลินกลับปฏิเสธเขา วันนี้เกวลินจะต้องเป็นฝ่ายเข้าหาเขา…แต่ทว่า...ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงหน้าไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปแล้ว เขาดูสง่างามและสูงส่งอย่างที่สุด
“คุณเตชินทร์ จะฟังดิฉันนำเสนอเลย ใช่มั้ยคะ”
เกวลินกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากที่สุด สถานการณ์ตรงหน้า อึดอัดจนอกของเธอแทบระเบิด เกวลินก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ว่าทำไมเธอถึงรู้สึกตื่นเต้นขนาดนี้ เธอเคยมีความกล้า มีความมั่นใจมาตลอด แต่ทำไมเวลานี้ สิ่งเหล่านั้นกลับหดหายไปไหนหมดนะ...
“...”
สายตาคมเข้มจับจ้องไปยังร่างบางที่ยืนอยู่ตรงหน้า เสื้อนักศึกษาสีขาวกับกระโปรงดำเรียบง่ายยังคงทำให้เธอดูน่ามองเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย ริมฝีปากเขายกยิ้มเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะแปรเปลี่ยนกลับเป็นท่าทีเคร่งขรึมดังเดิม
“เริ่มได้เลย”
เสียงทุ้มต่ำเอ่ยสั้น ๆ ไม่มีความอ่อนโยน ไม่มีแม้กระทั่งร่องรอยความเป็นมิตรเหมือนในอดีตเขายังคงนั่งสงบนิ่งในสูทสีเข้ม ท่วงท่ามั่นคง เคร่งขรึม ดวงตาคมกริบใต้คิ้วเข้มกวาดมองเธอเพียงแวบเดียว
“ดะ-ได้ค่ะ”
เกวลินเดินเข้าไปนั่งเก้าอี้ตรงข้าม เขาและเธอเผชิญหน้ากัน โดยมีโต๊ะทำงานตัวใหญ่คั่นอยู่ มือบางสั่นเล็กน้อย เมื่อหยิบอุปกรณ์นำเสนอขึ้นมา เพื่อเปิดเนื้อหาประกอบการอธิบาย
“...”
เตชินทร์เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ สอดมือเข้ากันอย่างคนเหนือกว่า แววตาที่ทอดมองเธอนั้นเต็มไปด้วยความเย็นชา แต่ในความเย็นชานั้นกลับแฝงร่องรอยของความตั้งใจความตั้งใจที่จะ ‘เอาคืน’ผู้หญิงคนนี้ คนที่เคยปฏิเสธเขา เตชินทร์จะทำให้เธอรู้จัก ตัวตนด้านหนึ่งของเขาให้ได้...
“คือว่า...อันนี้ คือ เครื่องจักรอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ในการผลิตเพื่อประกอบ...”
เกวลินพยายามบังคับน้ำเสียงของเธอให้เป็นปกติให้มากที่สุด แต่ยังไม่ทันที่เธอจะอธิบายต่อ อยู่ดีๆ เขาก็เอ่ยขึ้นมากะทันหัน
“อธิบายแบบนี้ คุณคิดว่าผมจะเข้าใจมั้ย”
“หมายความว่ายังไงเหรอคะ? คือดิฉันยังอธิบายคุณยังไม่จบนะคะคุณเตชินทร์”
“ผมว่า คุณไปนั่งสงบสติอารมณ์ของคุณก่อนมั้ยมันจะทำให้คุณดูมั่นใจกว่านี้ ตอนนี้ทั้งเสียงและมือของคุณมันสั่นมาก”
“ดิฉันตื่นเต้นค่ะ”
เกวลินสารภาพกับเขาตามตรง เกวลินรู้สึกแบบนั้นจริงๆ‘ยัยบ้าเอ้ย...ทำไมแกจะต้องตื่นเต้นขนาดนี้กันนะ เขาคือพี่ชินทร์ พี่รหัสแกไง’
“หรือที่คุณตื่นเต้นสั่นเป็นเจ้าเข้าแบบนี้เป็นเพราะคุณเคยรู้จักผมมาก่อนหรือเปล่า?”
“ห๊ะ!!!”
นี่เขาเป็นบ้าอะไรของเขา มาถามเธอแบบนี้ทำไมกัน
“ได้ยินไม่ผิดหรอก...ข้าวตู”
เตชินทร์จงใจเน้นชื่อของเธอเป็นพิเศษ
“ทำไมไม่เรียกผมแบบเดิม หรือคุณจำผมไม่ได้”
“จำได้ค่ะ คุณคือ พี่รหัสของดิฉันเองค่ะ”
“งั้น ก็เรียกผม อืม...ไม่ใช่สิ เรียกพี่ว่า พี่แบบเดิมก็แล้วกัน มันจะทำให้เธอลดความตื่นเต้นลงบ้าง”
“ตะ-แต่ คุณ...เอ่อ...พี่เป็น...”
“เป็นอะไร?”น้ำเสียงเข้มถามกลับ
“คุณเป็นเจ้านายดิฉันค่ะ เอ่อ ฉันไม่ควรเรียกคุณสนิทสนมแบบนั้นค่ะ”
“อ่อ...คุณคิดแบบนี้สินะ...แล้ว...นิยามความสนิทสนมของคุณมันเป็นแบบไหน‘ถ้าเคยเอากัน หรือว่าเคยมีอะไรกัน แบบนี้เขาเรียกว่าสนิทสนมหรือเปล่า’”
ดวงตาคมเข้มจ้องกลับไปที่ใบหน้าเนียน ความรู้สึกของเตชินทร์แค่อยากจะรู้ ว่าแท้ที่จริงแล้ว ผู้หญิงอย่างเธอเป็นอย่างไรกันแน่...
ครั้งหนึ่ง เตชินทร์เคยเอ่ยปาก ขอรับผิดชอบกับเรื่องความสัมพันธ์ของเขากับเธอและหวังว่าจะได้รับการตอบรับจากเธอแต่ทว่า เธอกลับปฏิเสธด้วยคำพูดเรียบง่าย ไม่สนไม่แคร์กับเรื่องที่เกิดขึ้นเลยด้วยซ้ำ
เตชินทร์รู้สึกเหมือนตัวเองถูกย่ำยีศักดิ์ศรี เสียหน้า และเสียความรู้สึกอย่างแรงและในตอนนี้ เตชินทร์สาบานกับตัวเองว่าจะไม่มีวันปล่อยให้เธอทำร้ายความรู้สึกเขาแบบนั้นได้อีกแล้ว
วันนี้...เธอกลับมาปรากฏตัวในฐานะ ‘ผู้ใต้บังคับบัญชา’ภาพหญิงสาวที่เคยเชิดหน้าปฏิเสธเขา ถูกแทนด้วยหญิงสาวที่นั่งตัวสั่นอยู่ตรงหน้าเขา ความรู้สึกสะใจผสมความเย็นเยียบพาดผ่านในอก ริมฝีปากเขาแทบจะคลี่ยิ้ม แต่มือใหญ่กลับวางนิ่งบนโต๊ะอย่างสุขุม
"คุณเตชินทร์!"
เกวลินรู้สึกเหมือนถูกตบหน้ากลางอากาศ ความโกรธแล่นขึ้นมาจับหัวใจจนหน้าเธอร้อนผ่าว เรื่องที่เธออยากเก็บไว้ให้หายไปกับกาลเวลา กลับถูกเขาลากขึ้นมาพูดต่อหน้าเธออย่างไม่เห็นค่าความรู้สึก เธอทั้งอับอาย ทั้งโกรธเกรี้ยว ราวกับถูกเปิดแผลเก่าที่พยายามปิดซ่อนมานานจนแทบหายสนิท
“ทำไม! ผมจะได้เข้าใจคุณถูกไง หรือคำพูดของผม มันไปแทงใจดำของคุณเข้าล่ะ”
“เปล่าค่ะ ในเมื่อ ดิฉันไม่ได้รู้จักคุณ ถึงขั้นสนิทสนมขนาดนั้น เป็นแค่น้องรหัส จะไปตีเสมอเรียกคุณว่าพี่ได้ยังไงกันคะ”
ดวงตาของเธอสั่นระริกด้วยแรงโทสะ ปลายเสียงสั่นพร่าเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองและเจ็บปวดเพราะไม่ใช่แค่การขุดอดีต แต่เป็นการทำลายศักดิ์ศรีของเธอด้วย น้ำตาร้อนเอ่อคลอเบ้า แต่เธอกัดฟันแน่น ไม่ยอมให้มันไหลออกมาให้เขาเห็น เกวลินอยากตะโกนใส่หน้าเขา อยากให้เขารู้ว่าเธอไม่ใช่คนที่จะยอมให้ใครมาทำร้ายด้วยคำพูดซ้ำๆ ได้อีก
“อืม...ไม่เคยรู้จัก...งั้นเหรอ...โอเค! ไม่รู้จักก็ไม่เป็นไร”
เตชินทร์ชะงักไปเล็กน้อยทันทีที่ได้ยินคำพูดนั้นริมฝีปากเขาเม้มสนิท สิ่งที่เตชินทร์ต้องการไม่ใช่เพียงแค่ชัยชนะ แต่เป็นการเห็นเธอสั่นสะท้าน เห็นเธอหวาดกลัวในสายตาของเขา และค่อย ๆ ตระหนักว่า โลกใบนี้ไม่ได้หมุนไปตามที่เธอเลือกอีกต่อไปแล้ว
“คุณยังต้องการฟังงานที่ดิฉันจะนำเสนอนี้ต่ออีกมั้ยคะ”
ทั้งที่เกวลินนั้นแทบจะมอดไหม้เพราะโทสะของตัวเองแล้ว แต่เกวลินยังยืนยันที่จะทำงานที่เธอได้รับมอบหมายนี้ให้สำเร็จ
“วันนี้ ผมไม่มีอารมณ์จะฟังแล้ว ไว้คุณค่อยมาอธิบายให้ผมใหม่วันหลังล่ะกัน...”
“แต่...ถ้าดิฉันอธิบายตอนนี้ มันก็ใช้เวลาไม่นานนะคะ”
ถ้าเกวลินออกจากห้องนี้ไป พี่ๆ จะต้องรัวคำถามร้อยแปดกับเธอแน่นอน
“ก็ผมไม่สะดวก ไว้คุณไปฝึกซ้อมนำเสนอ ไม่ให้ตัวเองสั่นเป็นเจ้าเข้าเสียก่อน แล้วค่อยนัดผมมาอีกทีก็แล้วกัน เอาตามนี้นะ...เชิญคุณออกไปได้...”
“ไม่นะคะ...คือ ดิฉัน...”
เกวลินกำมือแน่นจนเล็บจิกลงไปในฝ่ามือ ความโกรธผสมกับความรู้สึกกดดันทำให้หัวใจเต้นแรงจนแทบระเบิดออกมา
“คุณไม่เข้าใจอะไรอีก หรือ คุณมีอะไรมาต่อรองกับผมบ้างล่ะ...อ่ะ...ผมให้เวลาคุณสามนาที พูดมา”
แววตาคมกริบของชายหนุ่มเต็มไปด้วยแรงบีบคั้น เขามองเธอที่พยายามแข็งขืนด้วยความดื้อรั้น จนบางครั้งเขาเองก็ไม่แน่ใจว่าความต้องการแท้จริงคืออะไรต้องการเอาชนะเธอ หรือเพียงอยากได้คำยืนยันว่าเรื่องระหว่างเขากับเธอไม่เคยเป็นเพียง ‘ความผิดพลาด’อย่างที่เธอพร่ำปฏิเสธ...
@นนทบุรี...@บ้านหลังใหญ่สไตล์โมเดิร์น “ตกลงว่า เรื่องนี้ ก็เอาตามนี้ก็แล้วกัน ในเมื่อเด็กๆ เขาชอบพอกัน ให้เขาตกลงกันเอง จะหมั้นหรือจะแต่ง ก็แล้วแต่พวกเขาก็แล้วกันนะ” “ครับ ผมต้องขอบคุณแทนลูกชายผมด้วยครับ ที่เมตตาเอ็นดูตาชินทร์ ผมเลี้ยงลูกตามใจมาตลอด ต้องขอโทษด้วยครับ ที่ไปทำเรื่องล่วงเกินลูกสาวของคุณฐานทัพ...อืม...ความจริงเรียกคุณหมอดีกว่านะครับ” “ได้ครับ เอาที่คุณสะดวกครับ ยังไง อีกหน่อยเราสองครอบครัว ก็ต้องเป็นทองแผ่นเดียวกันแล้วครับ” “ดิฉัน ต้องขอบคุณด้วยค่ะ ที่เอ็นดูตาชินทร์ เราสองคนดีใจมากค่ะ ที่ตาชินทร์ชอบพอกับลูกสาวของคุณ เรื่องหมั้นเรื่องแต่ง เดี๋ยวให้เขาสองคนตกลงกันก็ได้ค่ะ ทางเราพร้อมเสมอค่ะ”จันทร์ทิพย์เอ่ยเสริม พร้อมกับปรายตามองว่าที่ลูกสะใภ้ของเธอ ลูกชายของเธอตาถึงไม่เบาเลยนะ เลือกได้ดี สวย น่ารัก บุคลิกทุกอย่างเหมาะสมกับลูกชายเธอมาก เรื่องฐานะทางครอบครัว จันทร์ทิพย์ไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจเลย ขอเพียง ลูกชายสุดที่รักของเธอชอบก็เพียงพอแล้ว “ค่ะ ก็คงจะต้องหมั้นไว้ก่อนค่ะ ยัยข้าวยังเรียนไม่จบเลย ก็น่าจะเกือบสองปีค่ะ แต่งตอนนี้ ค
ในเวลาต่อมา...สายสนทนา... “ว้าว! เริ่ด! พี่ชินทร์สุภาพบุรุษสุดๆเลยอ่ะ” “ฉันเล่าให้เธอฟัง เพื่อจะขอคำปรึกษานะ น้ำตาล ไม่ใช่ไปอยู่ข้างพี่เขา”หลังจากที่พ่อแม่กลับไป เขาก็กลับไปเคลียร์ที่บ้าน ส่วนเกวลินก็อัดอั้นตันใจ จนต้องโทรมาระบายกับเพื่อนสาวของเธอ “เธอจะต้องปรึกษาอะไรกันอีก ในเมื่อเรื่องของเธอกับพี่ชินทร์มันมาไกลขนาดนี้แล้ว เธอต้องปล่อยแล้วมั้ย จะกังวลทำไมอีก ฉันไม่เข้าใจเธอเลย...” “ฉัน...” “เธอกังวลเรื่องพ่อแม่ของพี่ชินทร์ใช่มั้ย หรือเธอกังวลเรื่องการถอนหมั้นของพี่เขา ฉันขอบอกไว้เลยนะ เรื่องพวกนี้ เธอไม่ต้องเอามาคิดหรอก ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพี่ชินทร์ ให้พี่เขาจัดการเอง พรุ่งนี้ เธอก็แค่กลับบ้านไปเตรียมต้อนรับพ่อแม่พี่ชินทร์ก็พอ...อย่าเครียดเลย มันไม่มีอะไร” “ฉันเครียดเรื่องถอนหมั้นของเขานี่แหละ คนอื่นจะคิดว่า ฉันเป็นคนแย่งพี่ชินทร์มาจากคู่หมั้นเขาหรือเปล่า และพ่อแม่ของเขาจะคิดยังไง มันเป็นเรื่องวุ่นวายมากเลยนะ น้ำตาล” “เธอไม่ได้เป็นคนแย่งพี่ชินทร์นะ เข้าใจซะใหม่ ความจริงถ้าเธอตกลงกับพี่เขาตั้งแต่แรก พี่ชินทร์ก็ไ
เช้าวันต่อมา... ติ๊ด! ติ๊ด!เสียงสมาร์ทโฟนดังขึ้นมือเรียวบางเลื่อนออกมาจากผ้าห่ม ควานหาตามเสียงเรียกเข้าที่ดังอยู่ไม่หยุด บนโต๊ะหัวเตียง เสียงสั่นจากโทรศัพท์ยิ่งเร่งให้เธอรีบหาต้นเหตุของเสียงนั้น“ค่ะ...มะ-แม่”เกวลินเหลือบมองคนที่นอนอยู่ข้างกายเธอ“แม่กับพ่อ มาแวะมาหาลูก อีก ห้านาทีลงมาเปิดประตูให้พ่อกับแม่ด้วยนะ”“คะ? อะไรนะคะ!! แม่กับพ่อกำลังจะมาหาข้าวงั้นเหรอคะ ละ-แล้วทำไม ไม่โทรบอกข้าวก่อนล่ะคะ”“ก็บอกก่อนนี่ไง ทำไมเหรอ? หรือลูกไม่อยู่ที่ห้อง อืม ตอนนี้ก็พึ่งจะเก้าโมงเองนะ วันเสาร์ด้วย”“เออ คือว่า ข้าวแค่ตกใจค่ะแม่ ความจริงแม่ต้องบอกข้าวก่อนสิคะ”เกวลินหันไปมองคนตัวใหญ่ ที่ยังคงหลับลึกไม่ยอมตื่น“อ่ะ งั้น อีกห้านาทีแม่จะถึงแล้ว ลงมาเปิดประตูให้แม่ด้วยนะ แค่นี้แหละ”ตึ๊ด! ตึ๊ด!ปลายสายถูกตัดไปเกวลินกำลังอยู่ในอาการตกใจ เธอควรจะทำอะไรก่อนดีนะ เวลาห้านาที มันจะทำอะไรได้ล่ะ บ้าจริง!“พี่ชินทร์!! พี่ตื่นเถอะค่ะ”เกวลินเขย่าคนตัวใหญ่ พ่อกับแม่จะเห็นเธอกับเขาอยู่ในสภาพนี้ไม่ได้เด็ดขาด“อึ้มม์...พี่ขอนอนอีกหน่อยนะ”“ไม่ได้! พี่ต้องตื่นเดี๋ยวนี้นะ!”เกวลินลุกขึ้น พร้อมกับรีบคว้
“เหตุผล...ที่พี่ทำกับข้าวทั้งหมด...ก็เพราะ...พี่รักข้าวนะ”น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างนุ่มนวล หัวใจของเขาเต้นแรงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นกับใครมาก่อน แม้ใบหน้าคมยังคงฉาบด้วยท่าทีมั่นคง แต่ลึกลงไปภายในกลับปั่นป่วนจนแทบควบคุมไม่อยู่ ทุกถ้อยคำที่เขาพูดออกมานั้นล้วนมาจากความจริงในใจเขาทั้งหมด เพราะนี่คือสิ่งที่เตชินทร์ไม่เคยเอ่ยกับใคร“...!!!”ดวงตาของเธอเบิกกว้างในทันทีที่ได้ยินถ้อยคำที่หลุดออกมาจากปากเขา สมองของเกวลินเหมือนหยุดทำงานชั่วขณะ ร่างกายของเธอแข็งทื่อราวกับถูกตรึงให้อยู่กับที่หัวใจเธอเต้นแรงสะท้อนก้องอยู่ในอก ทั้งที่ปากอยากจะโต้กลับ อยากจะบอกว่ามันเป็นเรื่องเหลวไหล แต่กลับไม่มีเสียงใดเปล่งออกมา มีเพียงความเงียบที่ห่อหุ้มเธอเอาไว้ ดวงตาที่เธอไม่กล้าสบตรง ๆ กับเขาเพราะรู้ดีว่าในนั้นมีบางสิ่งร้อนแรงและจริงจังเกินกว่าจะปฏิเสธได้ง่าย ๆ“พี่รักเธอจริงๆ นะ ถึงเธอจะปฏิเสธพี่ แต่พี่ก็ยังรักเธออยู่ดี”เตชินทร์เผยความรู้สึกของตัวเองอย่างตรงไปตรงมา ตอนแรกเขาคิดว่า ‘แค่เสียหน้า เพราะถูกปฏิเสธ’ แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่ เขาชอบเธอต่างหากที่เป็นเรื่องจริง“เอ่อ...แล้วพี่...ทำไมถึงรักข้าวล่ะคะ?”เมื่อตั
@ โมเดิร์นคอนโด... “เฮ้อ...”เสียงถอนหายใจแบบยาวๆ ดังขึ้น หลังจากที่เกวลินวางสายสนทนาจากเพื่อนรักของเธอ เกวลินได้เล่าเรื่องที่เธอประสบพบเจอมาในวันนี้ให้อลินดาฟัง สงสัย เธอคงจะหนีผู้ชายคนนี้ไม่พ้นเสียแล้วจริงๆอลินดาบอกเธอว่า... ‘เธอควรจะทำใจ และยอมรับพี่เขาได้แล้วนะ’ ‘ฉันต้องทำแบบนั้นจริงๆ ใช่มั้ย น้ำตาล’ ‘ใช่! พี่ชินทร์ทำถึงขนาดนี้แล้ว เชื่อฉันสิ พี่ชินทร์ชอบเธอมาก ฉันว่า เป็นเรื่องดีนะ ถ้าตัดความเพลย์บอยออก พี่ชินทร์ก็เป็นผู้ชายที่โอเคคนหนึ่งเลยแหละ’ “...”เกวลินกำลังนึกย้อนถึงคำพูดของเพื่อนเธอ ‘เพลย์บอยนี่แหละ คือเรื่องที่สำคัญสำหรับฉัน’ อุปสรรคระหว่างเกวลินกับเขา มันไม่ใช่แค่เรื่องที่เขามีคู่หมั้นหรอกนะ เรื่องที่เธอต้องกังวลมากที่สุดก็คือ เรื่องครอบครัวของเขา กับครอบครัวของเธอต่างหากคือปัญหาใหญ่ ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน ก็เจอแต่ทางคู่ขนาน ที่ไม่สามารถจะบรรจบกันได้... ติ๊ด! ติ๊ด!เสียงสมาร์ทโฟนดังขึ้น เกวลินกดเลื่อนดูสายเรียกเข้านั้น ‘นี่เขาจะไม่ให้เธอได้พักเรื่องของเขาบ้างเลยหรือไง’นิ้วเรียวยาวกดรับสายสนทนานั้น
“เมียงั้นเหรอ! กรี๊ดดดดดด!!!”เสียงกรีดร้องของเพนนีดังลั่นจนทะลุไปถึงข้างนอก เลขาที่เฝ้าดูสถานการณ์อันน่าหวาดเสียวนี้ ก็รีบวิ่งเข้ามาหน้าตาตื่น “คุณเตชินทร์คะ? มีอะไรหรือเปล่าคะ?” “ไม่มีอะไร...”เตชินทร์ตอบด้วยสีหน้าราบเรียบนิ่งเฉย ราวกับว่าเมื่อครู่ไม่ได้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเลย เกมนี้เขารู้อยู่แล้ว ว่าเรื่องทั้งหมดจะเป็นอย่างไร “ปล่อยนะ...”เกวลินพยายามขืนตัวออกจากการอ้อมกอดของเขา พร้อมกับเหลือบมองไปที่ผู้หญิงอีกคน ที่ยืนตาโตหน้าแดงกำมือแน่นพร้อมเอาเรื่องได้ตลอดเวลา “เพนนีจะไม่ยอมถอนหมั้นให้พี่แน่นอน พี่ชินทร์ทำกับเพนนีแบบนี้ มันหยามเพนนีเกินไป คอยดู! เพนนีจะไปบอกคุณลุงกับคุณป้า ว่าพี่ชินทร์เอาผู้หญิงข้างถนน...อ่อ...ไม่ใช่แค่นั้นสิ...ยังเป็นนักศึกษาอยู่ด้วย เธอคงจะรอเวลานี้มานานแล้วสินะ!” “ดิฉันไม่ได้...”เกวลินกำลังจะโต้กลับ แต่ทว่าก็มีคำพูดหนึ่งแทรกขึ้นมาก่อน ประโยคนั้นทำให้เธอตกใจเพิ่มขึ้นไปอีก “นั่นมันก็แล้วแต่เธอเลย พี่คุยป๊ากับม๊าของพี่เรียบร้อยแล้วว่าพี่จะถอนหมั้นกับเธอ พี่ไม่ได้ชอบเธอ แต่พี่ชอบคนนี้”เตชินทร์กระชับอ้







