Beranda / รักโบราณ / บุปผาสีชาด / ตอนที่9เริ่มเดินหมาก

Share

ตอนที่9เริ่มเดินหมาก

last update Terakhir Diperbarui: 2025-07-14 21:58:35

แสงแดดอ่อนยามเช้าสาดลอดเข้ามาทางหน้าต่างห้องนอนใหญ่ในเรือนฮวาหงอันเงียบสงบ ปรากฏเงาร่างเพรียวระหงของหญิงสาวผู้หนึ่งยืนตั้งมั่นอยู่กลางห้อง ฝ่าเท้าแนบแน่นกับพื้น หายใจเข้าออกอย่างเป็นจังหวะ

ไม้พลองในมือของนางตวัดวูบไปในอากาศ เสียงลมเสียดอื้ออึงตามแรงเหวี่ยง ทุกท่วงท่าคมกริบราวกับกำลังฟันดาบ ไม่ใช่เพียงแค่การออกกำลัง หากแต่เป็นการฝึกฝน ในชีวิตก่อนนางฝึกฝนการต่อสู้ทุกอย่าง แต่สิ่งที่ได้ใช้มากที่สุดคือการใช้ปืน ตอนนี้จึงต้องเคาะสนิมกันเสียหน่อย

อวี้หลันเคลื่อนไหวอย่างมั่นคง แขนขาแข็งแรงและว่องไว ราวกับร่างกายนี้ไม่เคยอ่อนแอเลยแม้แต่น้อย ดวงตาของนางแน่วแน่ เยือกเย็น และเต็มไปด้วยสมาธิ ทุกจังหวะที่ก้าว ทุกท่าที่ฟาดฟัน ล้วนแฝงด้วยสัญชาตญาณของคนที่เคยอยู่กับความเป็นความตายมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน

ไม้พลองฟาดลงกลางอากาศอย่างแรง ส่งเสียง "ฟึ่บ" ราวกับมันคือคมดาบที่กำลังฆ่าฟันศัตรูจริงๆ

หยาดเหงื่อไหลซึมจากไรผมลงมาตามข้างแก้ม อวี้หลันหยุดการเคลื่อนไหว ลมหายใจยังคงสม่ำเสมอและไม่หอบเหนื่อยเลยแม้แต่น้อย นางวางไม้พลองในมือลง พลางหยิบผ้าขึ้นมาซับเหงื่อ ตอนนี้ร่างกายของนางนับว่าหายดีแล้ว นางใช้เวลาพักผ่อนรักษาตัวอยู่เพียงสามวันร่างกายก็ฟื้นตัวหายเป็นปกติ และแข็งแรงขึ้นกว่าเดิมมาก 

ความจริงนางอยากจะแสร้งป่วยต่ออีกสักครึ่งเดือน แต่จนใจที่วันพรุ่งนี้ภายในจวนจะมีงานเลี้ยงเนื่องในโอกาสการแต่งตั้งฮูหยินเอกของบิดา นางในฐานะลูกเลี้ยงจึงจำต้องก้าวเท้าออกจากเรือนฮวาหง เพื่อไปแสดงความยินดีกับฮูหยินเอกคนใหม่ของจวน งานนี้จะขาดลูกเลี้ยงสุดที่รักอย่างนางไปได้อย่างไร อย่างน้อยก็ควรมอบของขวัญที่ระลึกให้แม่เลี้ยงสักชิ้นหนึ่ง ให้นางประทับใจจนลืมไม่ลง

โดยพิธีการของวันพรุ่งนี้จะแบ่งเป็นสองช่วง ช่วงเช้าสมาชิกในครอบครัวจะรับประทานอาหารพร้อมหน้ากันที่เรือนใหญ่ จากนั้นในช่วงบ่ายจะมีงานเลี้ยงอย่างเป็นทางการ เชิญแขกจากตระกูลขุนนางมาร่วมแสดงความยินดี

"คุณหนู บ่าวเตรียมน้ำอุ่นเอาไว้แล้ว คุณหนูจะอาบน้ำตอนนี้เลยหรือไม่เจ้าคะ"

ฉิงหว่านเดินเข้ามารินน้ำชาส่งให้ผู้เป็นนาย ก่อนจะเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม

"อืม"

อี้หลันจิบชาแล้วพยักหน้ารับ ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปยังห้องอาบน้ำ โดยมีฉิงหว่านคอยปรนนิบัติไม่ห่าง เตรียมทุกอย่างให้เรียบร้อยอย่างรู้ใจไปหมด 

ตลอดหลายวันที่ผ่านมา อวี้หลันเฝ้าสังเกตพฤติกรรมของบ่าวในเรือนฮวาหงอย่างเงียบๆ และพบว่าทุกเรื่องภายในเรือน ไม่ว่าจะเป็นการจัดเตรียมของใช้ จัดอาหาร ทำความสะอาด หรือดูแลเรื่องส่วนตัวของนาง ล้วนเป็นฉิงหว่านที่ลงมือทำทั้งหมด ทั้งที่ในเรือนฮวาหงมีบ่าวมากถึงแปดคน แต่กลับไม่มีใครขยันขันแข็งหรือดูใส่ใจงานแม้แต่น้อย บางคนทำท่าเหนื่อยหน่าย บางคนก็ทำงานแบบขอไปที พอให้พ้นๆ ไปวันๆ

แต่นางเข้าใจว่าเหตุใดบ่าวพวกนั้นจึงเฉื่อยชาเช่นนี้ เพราะพวกนางล้วนเป็นคนของเซิ่งซื่อทั้งสิ้น จึงได้ไม่ยอมรับว่านางคือเจ้านายตัวจริงของเรือนนี้

แววตาของอวี้หลันเย็นเฉียบลง เห็นทีคงถึงเวลาที่พวกหนูสกปรกพวกนี้จะต้องถูกกวาดล้างเสียที

 

หญิงสาวเอนตัวลงในถังไม้อาบน้ำ กลิ่นน้ำมันหอมจางๆ กับกลิ่นของกลีบดอกไม้ที่ลอยอยู่เหนือผิวน้ำหอมอบอวล ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายจากความเมื่อยล้า นางหลับตาพริ้ม ปล่อยใจให้ผ่อนคลายในความเงียบสงบ ขณะที่ฉิงหว่านค่อยๆ สระผมให้อย่างนุ่มนวล 

จากนั้นน้ำเสียงเรียบรื่นก็เอ่ยขึ้น ราวกับกำลังบอกเล่าถึงเรื่องทั่วไป

"หวานหว่านคนดี ข้าจำได้ว่าปิ่นปักผมที่ข้าชื่นชอบมากอันหนึ่ง หายไป"

มือของฉิงหว่านชะงักเล็กน้อย ก่อนจะสระผมต่อ แววตานั้นเต็มไปด้วยความคับข้องใจ และดูเหมือนน้ำหนักมือจะเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย แต่เจ้าตัวก็ยังไม่ยอมพูดสิ่งใดออกมา ราวกับกำลังแง่งอน

อยู่ๆ ของจะหายไปได้อย่างไร คงจะเป็นคนพวกนั้นที่หยิบฉวยไปอีกตามเคย

อวี้หลันสัมผัสได้ถึงท่าทางปั้นปึ่งของอีกฝ่ายก็อดที่จะยิ้มออกมาอย่างเอ็นดูไม่ได้ จากความทรงจำของเจ้าของร่าง พวกสาวใช้เหล่านั้นมักจะหยิบฉวยของของนางไปบ่อยครั้ง แม้ฉิงหว่านจะบอกกับนางหลายครั้ง แต่ผู้เป็นนายกลับปล่อยผ่าน ไม่เคยเอ่ยปากหรือจัดการอะไรเลย ปล่อยให้คนพวกนั้นเอาเปรียบ สร้างความคับแค้นใจให้กับฉิงหว่านเป็นอย่างมากที่คนพวกนั้นเอาเปรียบคุณหนูของตน

อวี้หลันลืมตาขึ้นช้าๆ แววตานิ่งเย็นปรากฏอยู่ภายใต้ม่านไอน้ำที่ลอยเหนือผิวน้ำอุ่น

"หวานหว่านโกรธข้าแล้วหรือ เช่นนั้นข้าจะทวงของทั้งหมดคืน ดีหรือไม่"

ริมฝีปากแดงฉ่ำน้ำคลี่ยิ้มจางๆ ราวกับดอกไม้แรกแย้มในฤดูเหมันต์ สวย แต่น่าหวาดหวั่นอย่างประหลาด

ฉิงหว่านได้ยินเช่นนั้นดวงตาก็เป็นประกาย ฉีกยิ้มกว้างเอ่ยถามผู้เป็นนายอย่างไม่แน่ใจ

"คุณหนูพูดจริงหรือเจ้าคะ"

แน่นอนว่าอวี้หลันพูดจริง แต่ไม่ใช่แค่ของที่บ่าวรับใช้พวกนั้นขโมยไป แต่หมายรวมถึงสินเดิมของมารดาผู้ล่วงลับด้วย

เซิ่งซื่อเป็นฮูหยินเอกแล้วอย่างไร ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีสิทธิ์แตะต้องทรัพย์สมบัติของมารดานาง

ยามค่ำคืนมาเยือน เรือนฮวาหงเงียบงัน มีเพียงเสียงลมหวิวที่ลอดผ่านช่องหน้าต่าง ผู้คนภายในเรือนต่างก็พากันดับไฟและเข้านอนกันหมดแล้ว แต่กลับมีเงาร่างหนึ่งในชุดสีดำสนิทกระโจนออกมาจากหน้าต่างเรือนใหญ่ อันเป็นที่พำนักของเจ้าของเรือน ลัดเลาะไปตามเรือนนอนของบรรดาบ่าวไพร่

ร่างนั้นเคลื่อนไหวเงียบงันทุกย่างก้าว ทั้งรวดเร็วและระมัดระวัง พฤติกรรมและชั้นเชิงการลอบเร้นเหล่านั้นล้วนเหนือสามัญ เมื่อภารกิจสิ้นสุด ร่างในชุดดำก็หายลับไปกับเงามืดดั่งไม่เคยปรากฏมาก่อน ปล่อยให้เรือนฮวาหงกลับสู่ความเงียบสงบอีกครั้ง

ทว่าความเงียบนี้ จะคงอยู่ได้ไม่นาน

รุ่งเช้าในเรือนฮวาหง แสงแดดอุ่นละมุนลอดผ่านผ้าม่านบางเบา บรรยากาศอบอวลด้วยความสงบ กลิ่นชาดอกเหมยหอมกรุ่นคลุ้งไปทั่วเรือน ราวกับกำลังต้อนรับเช้าวันสำคัญอย่างอ่อนโยน อวี้หลันนั่งอยู่หน้าโต๊ะไม้หอมด้วยท่าทีสงบ ริมฝีปากมีรอยยิ้มบางแต่งแต้ม

วันนี้นางสวมอาภรณ์เรียบง่าย สีขาวอ่อนนุ่ม ต่างจากเมื่อหลายวันก่อนที่มักจะสวมชุดสีสันสดใส งดงามสะดุดตา แม้จะอยู่แค่ภายในเรือนนอนก็ตาม ผมยาวถูกถักเป็นเปียสองข้างอย่างเรียบง่ายโดยฝีมือของฉิงหว่าน ไม่สวมเครื่องประดับแม้แต่ชิ้นเดียว ไร้ซึ่งความโดดเด่น ส่วนใบหน้านั้น อวี้หลันเลือกที่จะแต่งแต้มให้ขาวซีดราวกับคนป่วย

ด้านฉิงหว่านมองเครื่องประดับในกล่องที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่ชิ้นอย่างปวดใจและคับแค้นใจเหลือแสน เมื่อวานนี้เครื่องประดับของคุณหนูยังเหลืออยู่มากมายไม่ใช่หรอกหรือ คงเป็นคนพวกนั้นที่ต้องการกลั่นแกล้งคุณหนูของนางให้อับอายขายหน้าเป็นแน่

"คนพวกนั้นชั่งใจกล้านัก แอบขโมยของของคุณหนูไปมากมายถึงเพียงนี้ คงหวังให้ท่านขายหน้าต่อหน้าผู้คนเป็นแน่เจ้าค่ะ"

ความจริงแล้วบ่าวพวกนั้นก็ใช่ว่าจะโง่เสียทีเดียว ของที่พวกนางขโมยไปล้วนแล้วแต่เป็นของไม่สะดุดตาหรือโดดเด่นล้ำค่าจนเกินไปนัก แต่ฉิงหว่านไหนเลยจะรู้ว่าที่จริงแล้วเครื่องประดับเหล่านั้นหาได้ถูกลักไป แต่เป็นนายของตนที่นำมันไปให้ผู้อื่นด้วยมือของตนเอง

ในเมื่อคนพวกนั้นชมชอบการลักขโมยของ เช่นนั้นนางก็เพียงแต่ "ช่วย" ส่งเสริมก็เท่านั้น 

เมื่อคืนนี้นางจึงนำเครื่องประดับของนางไปแอบซุกซ่อนไว้ในเรือนของบ่าวเหล่านั้น

อวี้หลันยกถ้วยชาขึ้นจิบเบาๆ พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

"หวานหว่านวางใจ วันนี้ข้าจะทวงคืนทุกอย่างกลับมาแน่"

"คุณหนูต้องเรียนนายท่านให้ได้นะเจ้าคะ บ่าวพวกนั้นเหิมเกริมเกินไปแล้ว" 

ฉิงหว่านพูดอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน พลางสำรวจเสื้อผ้าหน้าผมให้ผู้เป็นนายอีกรอบ เมื่อเห็นว่านายของตนคล้ายดังคนป่วยอย่างที่ต้องการก็ยกยิ้มขึ้นด้วยความพึงพอใจ ในความคิดของฉิงหว่าน เมื่อนายท่านเห็นคุณหนูดูอ่อนแอบอบบางเช่นนี้จะได้ยิ่งรู้สึกสงสารเห็นใจยิ่งขึ้น

อวี้หลันหัวเราะเบาๆ ดวงตาเปล่งแสงบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในความสงบ

"ได้ๆ ข้าจะฟ้องให้หมด แล้วจะทวงของกลับคืนมาทุกชิ้นดีหรือไม่"

นางกล่าวเสียงอ่อนโยน คำพูดนั้นฟังดูราบเรียบ หากแต่แท้จริงเต็มไปด้วยการวางหมากอย่างสุขุม

"ดีที่สุดเจ้าค่ะ คุณหนู"

ฉิงหว่านตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

"เช่นนั้นเราก็ไปกันเถอะ ประเดี๋ยวท่านพ่อจะคอยนาน"

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่43ผู้มาเยือน

    "หลันเอ๋อร์ ขอเวลาข้าสักครู่ได้หรือไม่"เสียงทุ้มต่ำขององค์ชายห้าหลี่จื้อหยวนเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนโยน ทว่าแฝงแววเว้าวอนลึกซึ้ง เขาก้าวขวางเบื้องหน้าในจังหวะที่อวี้หลันหมุนกายจะจากไป หยุดยั้งฝีเท้าเรียวอย่างไม่เปิดโอกาสให้นางหลบเลี่ยงสายตาคมกริบทอดมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างไม่อาจละไปได้ ความคาดหวัง ความลังเล และความเจ็บปวดสลักทับซ้อนในแววตาคู่นั้นราวกับเพียงคำตอบหนึ่งคำจากนาง จะสามารถปลดปล่อยหรือขังเขาไว้ตลอดกาลอวี้หลัน..หญิงสาวที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นคู่หมั้นในวัยเยาว์ของเขา หญิงสาวที่เขาเคยคิดว่าจะได้ครอบครองและปกป้องแต่ตอนนี้นางกลับไกลจากเขาออกไปทุกทีข่าวลือที่โด่งดังไปทั่วเมืองหลวงอยู่ในตอนนี้ ทำให้เขาไม่อาจทนนิ่งเฉย จนต้องมาปรากฏตัวที่นี่ ยิ่งเมื่อได้เห็น ปิ่นปักผม ที่ปรากฏอยู่บนมวยผมของนาง ดวงตาของเขายิ่งแข็งกร้าวปิ่นนั่นหลี่เหวินหลงผู้เป็นพี่ชายหวงแหนยิ่งกว่าสิ่งใด เป็นสิ่งที่ไม่ควรมอบให้ใครง่ายๆ นอกจากผู้ที่เขา "หมายปอง" อย่างแท้จริงหลี่จื้อหยวนกำมือแน่น ความรู้สึกในใจร้อนรนแทบระเบิดออกมา แต่กลับไม่เอ่ยอันใด นอกจากสูดลมหายใจเข้าลึก แล้วเปิดกล่องเครื่องประดับในมือออก ยื่นไปตรงหน้าอีก

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่42คนว่างงาน

    มาอีกแล้ว คนผู้นี้ว่างงานนักหรืออย่างไรอวี้จิ้งทอดถอนใจยาวตั้งแต่ยังไม่ทันได้จิบชาเช้า ใบหน้านิ่งขรึมเต็มไปด้วยริ้วรอยของความอดกลั้น และกลิ่นอายของความหงุดหงิดปนเวทนาในชะตากรรมของตนรุ่งเช้า ฟ้ายังไม่ทันสว่างดีนัก คนก็มาเยือนถึงหน้าจวนเสียแล้ว"หากไม่มีงานการทำ เหตุใดถึงไม่กลับแดนเหนือไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด"อวี้จิ้งได้เพียงบ่นอยู่ในใจ ฟันกรามกัดแน่นจนขมับเต้นตุบๆ ขณะลุกจากที่นั่ง เดินออกไปต้อนรับแขกผู้สูงศักดิ์ แขกที่เหมือนจะกลายเป็นสมาชิกประจำบ้านเข้าไปทุกทีองค์ชายใหญ่หลี่เหวินหลง ยืนตระหง่านราวขุนเขาเช่นเคย ท่าทีสงบนิ่ง เยือกเย็นประหนึ่งนักปราชญ์ผู้สูงส่ง ทั้งที่ความจริงแล้วก็แค่คนไร้ยางอาย หน้าด้านหน้าทนผู้หนึ่ง ที่ทำเอาเจ้าบ้านอย่างเขาแทบกระอักเลือดตาย เมื่อวานกว่าจะต้อนคนส่งกลับได้ก็เล่นเอาเขาแทบจะหัวหลุดจากบ่าอยู่หลายครั้ง"องค์ชายใหญ่มาตั้งแต่เช้าเลยนะพ่ะย่ะค่ะ"อวี้จิ้งเอ่ย พลางฉีกยิ้มบางๆ ที่คล้ายรอยยิ้มของเสือเฒ่ากำลังข่มอารมณ์ แฝงไว้ด้วยคำว่า ‘เจ้าว่างนักหรือ’ ขณะทำความเคารพอีกฝ่ายอย่างมีมารยาท"ใต้เท้าอวี้ พบหน้าข้าแล้วยินดีถึงเพียงนี้เชียว"หลี่เหวินหลงยิ้มรับสีหน้าระร

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่41สนทนาพาที

    เซิ่งซื่อใช่ว่าจะไม่รู้สึกถึงบรรยากาศอึดอัดกดดันที่แผ่คลุมอยู่ภายในห้อง หากแต่นางยังฝืนรักษารอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้าเอาไว้ ไม่ว่าสายตาใครจะจับจ้องมายังนางอย่างไร นางก็ยังสงบนิ่งไม่แสดงพิรุธหลายวันมานี้ นางสัมผัสได้ถึงบรรยากาศภายในจวนที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน นางรับรู้ได้ว่าสามีเริ่มมีท่าทีที่ผิดแผกไป ไม่เหมือนเดิมอย่างที่เคย นับตั้งแต่เกิดเรื่องกับอวี้หลัน ทว่าเขากลับยังคงนิ่งเฉยไม่เอ่ยสิ่งใด นั่นยิ่งทำให้นางทั้งหวาดระแวงและไม่อาจวางใจได้ ความเงียบของเขากลับทำให้นางรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่งนางรู้ดีว่าคนอย่างอวี้จิ้งไม่ใช่ผู้ที่จะปล่อยผ่านเรื่องใดไปโดยไม่คิดสืบหาความจริง ไม่ใช่คนที่จะถูกหลอกล่อได้ง่ายนัก และยิ่งเงียบก็ยิ่งน่าหวาดกลัวแต่ถึงอย่างนั้น นางก็ยังพอจะเบาใจอยู่บ้าง อย่างน้อยที่สุดหลานชายของนางก็กลับมาอย่างปลอดภัย และที่สำคัญ เขาไม่ได้ทิ้งร่องรอยใดไว้ให้ถูกสาวมาถึงตัวทุกอย่างยังอยู่ในการควบคุม นางเพียงต้องระวังตัวให้มากพอ และฉลาดพอที่จะไม่ถามถึงรายละเอียดให้มากความ สิ่งที่ไม่รู้ ก็ไม่จำเป็นต้องรู้ สิ่งที่รู้ นางก็เลือกจะซ่อนไว้ลึกสุดใจ ไม่ให้แม้แต่น้ำเสียงหรือแววตาเผลอเผยพิรุธออ

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่40ศึกชิงนาง

    หลังจากพิธีปักปิ่นอย่างเป็นทางการในช่วงเช้าผ่านพ้นไป ตกเย็นก็ควรจะเป็นเวลาของคนในครอบครัว แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่เป็นเช่นนั้นเสียแล้วอวี้จิ้งเพิ่งเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงคำกล่าวที่ว่าเชิญเทพมาง่าย แต่ส่งกลับไปแสนยาก ก็ในวันนี้เองรองเสนาบดีผู้มากบารมี ปลายสายตาเหลือบมองบุรุษหนุ่มผู้สูงศักดิ์ที่นั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะด้วยสีหน้าอึมครึม เขาไม่จำเป็นต้องเอ่ยคำใดออกมา เพราะแม้จะเงียบ แต่หนวดที่กระตุกอยู่ครั้งแล้วครั้งเล่า ดวงตาวาววับที่ราวกับจะพ่นลูกไฟออกมาได้ทุกเมื่อ ก็ฟ้องหมดทุกอย่างและถึงจะเป็นเช่นนั้นอีกฝ่ายกลับยังนั่งจิบชาอย่างสบายอารมณ์ หาได้รู้ถึงความผิดของตัวเอง ประหนึ่งว่าเขาคือเจ้าของเรือน มิหนำซ้ำยังทำตัวกลมกลืนอย่างยิ่งราวกับคนในครอบครัวไม่ขัดเขิน ไม่เกรงใจ ไม่ถ่อมตนกระทำตัวเหมือนเขยของบ้านข้าเข้าไปทุกทีหึ…กล้าดียังไงแน่นอนว่าอวี้จิ้งได้แต่คิดในใจเท่านั้น ไม่มีวันกล้าเอ่ยออกมาเพราะบุรุษตรงหน้านั้น หาใช่ใครอื่นไกล แต่คือ องค์ชายใหญ่หลี่เหวินหลงการกระทำของอีกฝ่ายในวันนี้สร้างความขุ่นเคืองใจให้เขาอย่างยิ่ง แต่แม้จะรู้สึกไม่พอใจเพียงใด ทว่าเมื่อต้องเผชิญหน้ากับหยางฮูหยินผู้เฒ่า ซึ

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่39วันปักปิ่น

    แสงอรุณอ่อนในฤดูใบไม้ผลิส่องพาดแนวหลังคาเรือน บรรยากาศทั่วทั้งจวนรองเสนาบดีเต็มไปด้วยความคึกคัก ภายในเรือนใหญ่ของตระกูลอวี้อบอวลด้วยกลิ่นหอมของไม้จันทน์บ่าวไพร่ในจวนสีหน้าสดชื่นแจ่มใส ขะมักเขม้นจัดเตรียมพิธีมงคล ข้าวของเครื่องใช้ล้วนถูกจัดเรียงตามตำราโบราณเรือนหลักของจวนอวี้ในวันนี้ถูกประดับประดาด้วยผ้าแพรไหมสีมงคล ลวดลายดอกเหมยปักดิ้นทองสะท้อนแสงแดดระยิบระยับ กลิ่นหอมของชาดอกไม้ที่ลอยอบอวลในอากาศ สร้างบรรยากาศละมุนละไมวันนี้คือวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของคุณหนูรองอวี้ในที่สุดวันปักปิ่นของอวี้หลันก็มาถึง พิธีในวันนี้ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่สมเกียรติบุตรีขุนนางฝ่ายพิธีการ เรียกได้ว่าเป็นงานเลี้ยงที่หรูหราและงดงามที่สุดในรอบหลายปีของเมืองหลวง อวี้หลันในชุดผ้าไหมเนื้อละเอียดสีชมพูอมทองปักลวดลายดอกโบตั๋นอย่างประณีต เนื้อผ้าไหมพลิ้วไหวรับแสงแดดอ่อนยามเช้า ปลายแขนเสื้อขลิบดิ้นทอง ชุดตัวยาวรัดช่วงเอวด้วยสายผ้าแพรสีแดงสด ด้านข้างห้อยพู่หยกล้ำค่า เงาผ้าพลิ้วไหวราวกลีบดอกไม้ต้องลมตามจังหวะก้าวเดิน ทุกสายตาต่างจับจ้องไปยังสตรีน้อยผู้เป็นบุตรีของรองเสนาบดีหญิงสาวย่างก้าวด้วยท่วงท่าที่เปี่ยมไ

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่38ความจริงเริ่มกระจ่าง

    เซิ่งซื่อนั่งนิ่งอยู่ในเรือนใหญ่ของตนเอง บรรยากาศภายในเรือนที่เคยสงบร่มรื่น บัดนี้กลับอึดอัดและหนักแน่นประหนึ่งมีเงาทึบปกคลุม มือที่ถือพัดเริ่มกำแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว แววตาเคร่งเครียดขณะฟังรายงานจากบ่าวคนสนิท เสียงนั้นเบาราวกระซิบ แต่ทุกคำกลับฟังชัดเจนยิ่งในหูของนาง"คุณหนูรองกลับมาถึงจวนเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ มิได้รับบาดเจ็บใดๆ ทั้งสิ้น"คำบอกเล่านั้น ดังก้องในใจจนมือที่กำพัดเริ่มสั่นอวี้หลันกลับมาแล้ว อีกทั้งยังไม่เป็นอะไรเลย"ข่าวว่า...องค์ชายใหญ่เป็นผู้ช่วยชีวิตคุณหนูรองเอาไว้ด้วยพระองค์เองเจ้าค่ะ"เสียงในห้องเงียบงันชั่วอึดใจ"องค์ชายใหญ่"เซิ่งซื่อทวนคำเบาๆ อย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง ความหวาดหวั่นคละคลุ้งในอกองค์ชายใหญ่หลี่เหวินหลง คนผู้นี้อีกแล้วหรือพัดในมือของนางถูกบีบจนแทบจะแหลกคามือ แววตาที่เคยสั่นไหวเปลี่ยนเป็นขุ่นมัวในฉับพลัน ริมฝีปากที่เคลือบชาดเอาไว้บางๆ เม้มแน่นจนแทบเป็นเส้นตรงทั้งที่แผนการถูกวางไว้อย่างดี หลานชายที่เก่งกาจของนางไม่เคยที่จะทำงานผิดพลาด ทุกอย่างที่ควรจะจบลงอย่างเงียบงัน กลับพังครืนเพราะการปรากฏตัวของบุรุษเพียงผู้เดียวและยิ่งแย่กว่านั้น…ข่าวนี้กำลังจะถูก

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status