สายใจตั้งใจฟัง แม้ไม่ได้คำตอบที่เธอถามออกไป... “เลยออกไปอีกนิดมีร้านขายอยู่ เดี๋ยวสายใจพาไปเอง เดี๋ยวพี่ฝรั่งจะหลงทางน่ะจ้ะ” ได้ควงฝรั่งรูปหล่อ มันโก้หยอกที่ไหน สายใจเลยรีบอาสา เพื่อหวังผล หากฝรั่งรูปหล่อนี่สนใจเธอ แหมๆ มันคงเหมือนขึ้นสวรรค์
“แม่...หนูพาพี่ฝรั่งรูปหล่อไปซื้อของนะแม่ เดี๋ยวมา” หล่อนหันไปร้องสั่งผู้หญิงที่อาวุโสกว่า นางขยับปากด่าไม่ต่างอะไรกับบุตรสาว... “ไม่รู้เลือดใคร เห็นผู้ชายหล่อไม่ได้สิ! ระริกระรี้ขึ้นมาเชียว”
ชายหนุ่มเดินตามแรงจูงของสายใจ เขาจดจำภูมิทัศน์ เมื่อแถวนี้ตรอกซอก ซอยแทบจะเหมือนกัน หากเขาหลง คงไม่มีโอกาสได้เจอกับเมวิกาอีก เพราะฉะนั้นแวซ็องต้องระวังตัวดีๆ
“อีสาย!! จะไปไหน” ผู้ชายหน้าเหี้ยม ร้องถามเสียงดังลั่น
สายใจแอบเบ้ปาก...ยังไม่มีคำจำกัดความระหว่างความสัมพันธ์ของตัวเองกับ พี่วินมอเตอร์ไซน์หน้าเข้ม แต่ดูเขาจะออกตัวแรง!! ใบหน้าอวบอูมนั่นแดงก่ำ เธอจึงจำใจถอยห่างฝรั่งรูปหล่อ เสียดายใจแทบขาดแต่เมื่อประเมินผลได้ ผลเสีย เธอต้องเลือกที่มั่นคงมากกว่า
“ไปด้วยไม่ได้แล้วล่ะนะ เดี๋ยวเขาไม่พอใจเอา” หล่อนส่งยิ้มแหยๆ ให้และแวซ็องก็พยักใบหน้ารับรู้
เขาไปคนเดียวก็สบายใจดี เมื่อตัวเองไม่ได้สนใจสายใจ หล่อนตกเกณฑ์ที่เขาต้องการ
ชายหนุ่มเดินโต๋เต๋ไปเรื่อยๆ หลังจากมีสตางค์อุ่นๆ อยู่ในกระเป๋ากางเกงแม้น้อยนิดแค่หยิบมือเท่าที่แวซ็องเคยพกติดก้นกระเป๋า ชายหนุ่มเดินไปเรื่อยเปื่อย พยายามจำตำแหน่งเดิมไว้ในสมอง แวซ็องต้องการที่สุดตอนนี้คือโทรศัพท์เพื่อติดต่อเซดริกน้องชาย เขาอยู่ไม่ได้...ถ้าตัวเองไม่สามารถใช้บัตรเครดิตได้...ก็ต้องมีเงินในกระเป๋า ร้านขายโทรศัพท์อยู่ไม่ไกลนัก ชายหนุ่มเดินเข้าไปในร้านและพยายามรวบรวมคำพูดง่ายๆ เพื่อเจรจาเป็นความโชคดีที่เขาเคยมีเลขานุการเป็นสาวไทย หล่อนสอนให้เจ้านายหนุ่มหัดพูด เพื่อจะได้พูดคุยรู้เรื่องโดยไม่เสียเปรียบ เพราะนักธุรกิจคนไทยส่วนมากเขี้ยวลากดิน มันเลยเป็นความโชคดีที่ดิดิเย่ร์ลงมือในประเทศที่เขาสามารถสื่อสารกับคนอื่นได้โดยไม่ต้องใช้แค่ภาษามือ...
“มีอะไรให้รับใช่ไหมครับ? เอ่อพูดภาษาไทยได้ไหมเอ่ย”
หนุ่มเจ้าของร้านทักเสียงใส เมื่อมีลูกค้าแวะเวียนเข้ามาในร้าน แต่เมื่อเห็นรูปร่างหน้าตาเต็มๆ เขาเริ่มปวดหัวจี๊ดเพราะลูกค้าคนที่เข้ามาตาสีฟ้าแจ่ม ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าไม่ใช่ชายไทย
“ได้นิดหน่อย!”
“แหมรอดตัวไปที...อยากได้อะไรครับ? โทรศัพท์หรือที่ชาร์จแบต” เขาบ่นเบาๆ ค่อยโล่งอก หากสื่อสารกันไม่รู้เรื่องมันจะพาลปวดหัวเปล่าๆ
“โทรศัพท์ฉันต้องการโทรศัพท์”
คนขายมองจากสภาพการแต่งตัวของลูกค้า ต่อให้เป็นฝรั่งมังค่า แต่มาแบบเสื้อยืดรองเท้าแตะหูคีบแบบนี้ คงไม่ค่อยมีเงินเท่าไร?
เขาหยิบโทรศัพท์ราคากลางๆ ขึ้นมาวาง พร้อมทั้งแจ้งราคาซึ่งแวซ็องพยักหน้าเข้าใจ งบในกระเป๋ามีจำกัด แต่เขาต้องรีบหาตัวช่วย
โทรศัพท์เครื่องเล็กราคาไม่แพง แต่ก็เล่นเอาเงินที่เพิ่งได้มาพร่องเกือบหมด มหาเศรษฐีอย่างเขาต้องมาคำนวนรายจ่ายอย่างกระเหม็ดกระแหม่เป็นครั้งแรก แค่คิดก็อยากหัวเราะ...ก็เพราะความสมเพชที่มีต่อดิดิเย่ร์ ยังไงไอ้หมอนั่นก็เป็นน้องชายเขา เรื่องที่เกิดขึ้นเพราะเข้าใจผิดรอให้ดิดิเย่ร์ใจเย็นลง เขาจะเข้าไปปรับความเข้าใจกับมันใหม่ แต่เวลานี้ต้องหาที่ซ่อนตัวหลบเพลิงโทสะของสามีขี้หึงให้พ้นเสียก่อน
แวซ็องเดินออกมาจากร้านขายโทรศัพท์ เขาหามุมสงบเพื่อต่อสายหาน้องชาย
ชายหนุ่มภาวนาในใจ...เขาแทบจะวิงวอนพระเจ้าเลยแหละ ก็ไอ้น้องชายตัวแสบมันรับสายคนแปลกหน้าที่ไหนกัน หากมีเบอร์แปลกๆ ที่ไม่ใช่คนในครอบครัวเซดริกกดทิ้งแบบไม่ใส่ใจ
“รับเถอะๆ ตังกูมีน้อยไอ้เวรเซดริก!”
เขาสบถสลับกับด่า ฟังเสียงสัญญาณที่ดังขึ้น แต่กลับไม่มีการกดรับจากปลายสาย
“โว้ย!! รับสิโว้ยยยย”
เสียงเรียกเข้ายังดังไม่หยุด เซดริกชะโงกหน้ามองหน้าจอที่กะพริบถี่ๆ เขาบ่นพึม “เบอร์ใครวะ?”
งานกองสุ่มหัวจนทำไม่ทันก็พี่ชายสุดหล่อหนีไปพักร้อน...เขาเลยต้องอยู่โยงเฝ้าเป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์คนเดียว จริงสิ!! ตั้งแต่เมื่อวานช่วงหัวค่ำ จนกระทั่งถึงตอนนี้...เขายังไม่สามารถติดต่อแวซ็องได้สักครั้ง ไอ้หมอนั่นคงไม่ได้นอนเพลินจนลืมตื่นและนิสัยแอคทีฟอย่างพี่ชายเขาไม่น่าจะนอนหลับเพลินขนาดนั้น
ชายหนุ่มตงิดๆ เขาตัดสินใจกดรับสายหลังจากปล่อยให้มันดังอยู่นาน
“ไอ้หอกหัก! กว่าจะรับได้ โทร. กลับมาด้วยกูไม่มีตัง”
เสียงแวซ็องโวยดังลั่น!! เซดริกกำลังจะถามอีกฝ่ายก็ชิงวางสายเสียก่อนแล้ว
เสียงสัญญาณดังตูดๆ อาจจะเป็นเพราะเงินในโทรศัพท์อาจจะหมด
เกิดอะไรขึ้นล่ะ?
แม้จะยังงงๆ แต่เซดริกก็รีบกดต่อสาย
พร้อมกับรีบถาม เมื่อเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับแวซ็อง?
“เฮ! พี่ชายนายเปลี่ยนเบอร์ทำไม? ฉันพยายามติดต่อนายแต่ไม่มีคนรับสายเลย”
“เอาเรื่องไหนก่อนดีล่ะ มันเกิดขึ้นเยอะจนฉันเองยังมึน”
แวซ็องทรุดนั่งบนเก้าอี้ข้างทาง จุดจอดรถโดยสารประจำทาง เขากวาดตามองรอบตัว เมื่อไม่คนรู้จักไม่มีใครสนใจเลยเริ่มต้นคุยกับเซดริกได้อย่างสบายใจขึ้น
“เล่ามาเลยพี่...ฉันต้องการรู้ทุกเรื่องเลย”
คนใจร้อนกรอกเสียงตอบและรอฟังอย่างตั้งใจ
“ไอ้ดิดิเย่ร์มันส่งคนมาเก็บฉันนะสิ...ไอ้เวรตะไรนั่นหึงโหดฉิบ!”
“ไอ้ลูกหมา!”
เซดริกสบถลั่น
“ฉันหลบมันได้ แต่มันยึดรถฉันกับโทรศัพท์ไปเสียนี่...ตอนนี้ฉันเลยตกอับไม่มีเงินสักบาท”
แวซ็องพูดเพลียๆ เขาไม่ได้บอกน้องชายเรื่องถูกรูดทรัพย์จากโจรกระจอกเสียอีกอย่าง มันเป็นเรื่องซวยซับซวยซ้อน
“พี่ต้องการอะไรว่ามา...เดี๋ยวฉันจัดให้”
เซดริกเกือบหัวเราะก๊ากๆ ...เขารีบย้อนถาม มโนสภาพของพี่ชายไม่ออกเลยสักนิด ชายหนุ่มมาดเท่หรูตั้งแต่หัวจรดตีน หากไม่มีเงินในกระเป๋าเท่ากับนกไร้ปีก เป็นปลาไร้ครีบหาง มันคงทำให้พี่ชายหงุดหงิดสิ้นดี
“แม่มคราวซวย...มาทีหลายซับหลายซ้อน ฉันหนีไอ้ลูกหมาดิดิเย่ร์ได้ แต่กลับถูกโจรกระจอกรูดทรัพย์ซวยมหาซวยเลยว่ะ"
เสียงบ่นยังดังไม่หยุด…ชายหนุ่มหลุดปากบอกเซดริกจนได้ เขาไม่เคยมีความลับกับน้องชายคนนี้
“เอาน่า...นึกว่าเทพีแอโฟรไดลงโทษพี่ก็แล้วกัน ต่อไปนี้คงไม่มีแล้วล่ะ พี่ก็รีบหาทางเคลียร์กับไอ้ลูกหมานั่นเร็วๆ สิ”
“ปล่อยให้มันบ้าไปก่อน...อีกสักพักมันก็จะรู้เอง”
แวซ็องพยายามเป็นพี่ที่เข้าใจน้อง เมื่อเขาเป็นหัวหอกของออกัสตัส
“เอาเงินสดใช่ไหมพี่ชายจะได้ให้คนหอบเอาไปให้สักล้านสองล้าน”
“อย่าเวอร์ว่ะ...เอาบัตรเครดิตลูกน้องแกมา ของใครก็ได้ วงเงินไม่เกินสองแสนแค่นี้ล่ะที่ฉันต้องการ”
“โว๊ะ!! อย่างพี่นี่นะจะใช้เงินแค่นั้น แล้วพี่จะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร”
“เออสิ!! ฉันจะหลบไอ้ดิดิเย่ร์ก็ต้องเนียนหน่อย”
“ไม่ม้าง!! ... ฉันว่าพี่กำลังคิดอะไรอยู่แน่?”
“ไม่มี๊!”
ตอบเสียงสูงปรี๊ดแสดงถึงพิรุธ...แค่นี้เซดริกก็จับไต๋พี่ชายได้แล้วล่ะ ไอ้ที่บอกว่าจะหลบคงมีบางอย่างเป็นแรงจูงใจและไอ้ที่สามารถรั้งพี่ชายจอมเจ้าชู้ของเขาไว้ได้ ก็น่าจะเป็น... ผู้หญิง...
“ด่วนจี๋...เลยใช่ไหมพี่ชาย บอกพิกัดมาจะส่งคนเอาไปให้”
เซดริกคงต้องส่งคนไปเฝ้าระวังภัยให้แวซ็องอีกทาง แต่คงต้องอยู่ห่างๆ เดี๋ยวไอ้หมาดิดิเย่ร์มันตามดมกลิ่นเจอ
หลังวางสายเซดริก ชายหนุ่มล้วงเงินในกระเป๋าออกมานับหลังจ่ายค่าโทรศัพท์ จ่ายค่าข้าว เขาเหลือเงินอีกพันกว่าบาท
“คงพอซื้อเสื้อยืดกับกางเกงใหม่แล้วซื้อไก่ไปฝากไอ้ดิเย่ร์มันสักตัว”
ชายหนุ่มพูดกับตัวเอง เขาเดินข้ามฝั่งตรงไปจัดการกับสิ่งที่ตัวเองคิดไว้
หอบของที่ได้มาครบกลับบ้านเช่าแสนโทรม รอให้เซดริกเอาสิ่งที่ต้องการมาให้ พ่อจะเปิดห้องสวีทนอนเสียให้ฉ่ำปอด
เงินพันกว่าๆ เขาใช้ไม่หมด เสื้อยืดตัวละ100กว่าบาท กางเกงขาสั้นก็ราคาไม่ต่างกัน กับไก่หนึ่งตัวราคา120 เหลือเงินเกินครึ่ง ชายหนุ่มได้แต่อึ้ง! ที่ผ่านมาเขาไปงมอยู่ที่ไหน ใส่สูทตัวเหยียบหมื่น กางเกงรองเท้าเข็มขัดราคาแพงพอๆ กัน กับเสื้อกางเกงที่นอนอยู่ก้นถุงราคาต่างกันลิบลับ ชนชั้นล่างมีแหล่งซื้อขายที่ถูกเหลือเชื่อ?
“ไปพ่อหนุ่ม ร้านหน้าปากซอยมีทุกอย่าง มีงบเท่าไรล่ะ”“มีไม่เยอะ อยากได้ที่นอนกับของใช้บางอย่าง” ให้นอนบนพื้นแข็งๆ เขาจะไม่ทน ไหนๆ ก็ต้องทนลำบากขอความสบายช่วงนอนหลับหน่อยก็แล้วกัน สาวใหญ่เดินนำ เขามองบั้นท้ายเป็นปั้นๆ ของนางแล้วจึงส่ายศีรษะ...ร้านเครื่องนอนมีให้เลือกมากมาย แต่หากเป็นตัวแวซ็องเลือกเอง เขาไม่มีทางชายตาแลของคุณภาพต่ำเช่นนี้แน่ เมื่อจำเป็นจริงๆ ก็ต้องทน...หากไม่อยากนอนบนพื้นแข็งๆ เย็นๆ“เอาแบบนี้ล่ะ...พร้อมอุปกรณ์ด้วยนะ ผ้าห่ม พัดลม และหมอน...” ใจของชายหนุ่มอยากจะติดแอร์คอนนิชั่น แต่มันจะหรูหราอลังการจนอาจจะทำให้เมวิกายิ่งขยับหนีไปไกลๆ อีก...เอาเท่าที่ได้ก็แล้วกันสภาพห้องพักดูดีขึ้นกว่าเดิม หลังจากร้านเครื่องนอนเอาของมาส่ง...ชายหนุ่มจ่ายค่าแรงให้ผู้หญิงชื่อเขียว หล่อนส่งสายตาฉ่ำหวานให้เขา จนต้องรีบชิ่งหนี แวซ็องกลัวหล่อนกระโจนปล้ำ เมื่อดวงตาของหล่อนฉายแววเช่นนั้นกลิ่นผ้าใหม่ที่ยังไม่ผ่านการทำความสะอาด...เขาต้องทำใจให้ชิน ไม่ได้อยู่ในสภาพเดิมๆ คงต้องทนไปก่อน แต่ไม่นานหรอก...ชายหนุ่มทิ้งตัวนอนบน
“ฝากเธอไว้ได้ไหมล่ะ?” ชายหนุ่มลองหยั่งเชิงหากเมวิกาเป็นคนหิวเงินเธอคงรีบกระโจนใส่“ไม่เอา!!” เธอรีบโบกไม้โบกมือปฏิเสธ “ฉันกลัวหาย...แล้วไม่มีปัญญาหามาใช้คืนด้วย...มันเยอะเกินไป”หญิงสาวปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด เธอส่ายหน้าจนผมกระจาย“คุณรักษามันไว้ดีๆ ล่ะ”หญิงสาวเตรียมหมุนตัวหนี“ถ้าฉันจะอยู่อีกสักพัก...รอจนกว่าญาติจะมารับเธอคิดว่าไง?”ไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับมีแต่น้ำเสียงเฉยชาตอบกลับมา“มันแล้วแต่คุณ! ฉันไม่เกี่ยว”หล่อนรีบเดินกลับเข้าห้องตัวเองไม่สนใจเงินเยอะๆ ที่หล่อนพูดถึงสักนิด นอกจากไม่สนใจเงินแล้วหล่อนไม่สนใจเขาด้วยนี่สิ มันทำให้หนุ่มเสน่ห์แรงเคือง!! หากแวซ็องคิดจะเด็ดปีกความผยองของหล่อนให้สมกับฉายา 'นักล่ามือทอง' เขาไม่ผิดใช่ไหม? ก็เมวิกายั่วยุให้สัญชาตญาณนักล่ามือฉมังของเขาตื่นเพลิดขึ้นมาเอง...มันช่วยไม่ได้ชายหนุ่มเดินอ้อมไปหาป้าเจ้าของบ้าน ตอนนี้เขามีเงินทุนสำหรับการลวงล่อเมวิกา หล่อนไม่สนเงินเขาก็จะใช้อย่างอื่นแทนเริ่มต้นที่ ‘ร่างกา
บทที่4.การใช้ชีวิตร่วมกับคนแปลกหน้าที่หล่อเหลือร้ายเมวิกาขอเวลานอกหัวหน้างาน เพื่อทำธุระส่วนตัว ของที่รับฝากไว้ นอนอุ่นอยู่ก้นกระเป๋ากางเกงของเธอ คงต้องบากหน้าเข้าโรงจำนำครั้งแรกในรอบ24ปี“เห้อ!!”หญิงสาวถอนใจดังๆ เธอเดินหมุนไปหมุนมา จนอาเฮียหลังคอกกั้นขยับแว่นตามอง“อีหนูเข้ามาไม่ต้องอาย...เร็วๆ ขวางทางคนอื่นเขา”ประสบการณ์ยาวนานเท่ากับอายุตัวเอง....ทำให้อาเฮียรู้เองโดยไม่ต้องเดาเมวิกาตัดสินใจเดินเข้าไปด้านใน เธออายสายตาคนมองจนหน้าชา แต่ช่างเถอะ! เธอทำครั้งนี้ครั้งเดียวเพราะอยากช่วยคน“ฉันเอาเจ้านี่มาจำนำ เฮียคิดว่ามันจะได้สักเท่าไรคะ?”หญิงสาวล้วงหยิบนาฬิกาโรแล็กซ์วางตรงช่อง พร้อมกับผ่อนลมหายใจช้าๆ รอฟังคำของอาเฮีย เมื่อเธอรู้ดีว่ามันหยุดเดินเสียงตอบกลับเรียบๆ “จะเอาเท่าไรล่ะ”ของดีราคาแพง หรือของก็อปราคาถูก ผ่านมือเป็นพันๆ ชิ้น อาเฮียรำพึงในใจดูท่าชิ้นนี้จะราคาแพงที่สุด...ตั้งแต่เปิดโรงรับจำนำมา ของแท้กับของปลอ
สายใจตั้งใจฟัง แม้ไม่ได้คำตอบที่เธอถามออกไป... “เลยออกไปอีกนิดมีร้านขายอยู่ เดี๋ยวสายใจพาไปเอง เดี๋ยวพี่ฝรั่งจะหลงทางน่ะจ้ะ” ได้ควงฝรั่งรูปหล่อ มันโก้หยอกที่ไหน สายใจเลยรีบอาสา เพื่อหวังผล หากฝรั่งรูปหล่อนี่สนใจเธอ แหมๆ มันคงเหมือนขึ้นสวรรค์“แม่...หนูพาพี่ฝรั่งรูปหล่อไปซื้อของนะแม่ เดี๋ยวมา” หล่อนหันไปร้องสั่งผู้หญิงที่อาวุโสกว่า นางขยับปากด่าไม่ต่างอะไรกับบุตรสาว... “ไม่รู้เลือดใคร เห็นผู้ชายหล่อไม่ได้สิ! ระริกระรี้ขึ้นมาเชียว”ชายหนุ่มเดินตามแรงจูงของสายใจ เขาจดจำภูมิทัศน์ เมื่อแถวนี้ตรอกซอก ซอยแทบจะเหมือนกัน หากเขาหลง คงไม่มีโอกาสได้เจอกับเมวิกาอีก เพราะฉะนั้นแวซ็องต้องระวังตัวดีๆ“อีสาย!! จะไปไหน” ผู้ชายหน้าเหี้ยม ร้องถามเสียงดังลั่นสายใจแอบเบ้ปาก...ยังไม่มีคำจำกัดความระหว่างความสัมพันธ์ของตัวเองกับ พี่วินมอเตอร์ไซน์หน้าเข้ม แต่ดูเขาจะออกตัวแรง!! ใบหน้าอวบอูมนั่นแดงก่ำ เธอจึงจำใจถอยห่างฝรั่งรูปหล่อ เสียดายใจแทบขาดแต่เมื่อประเมินผลได้ ผลเสีย เธอต้องเลือกที่มั่นคงมากกว่า“ไปด้วยไม่ได้แล้วล่ะนะ เดี๋ยวเขาไม่พอใจเอา” หล่อนส่งยิ้มแหยๆ ให้และแวซ็องก็พยักใบหน้ารับรู้เขาไปคนเดียวก็สบายใ
บทที่3.ผู้ชายที่มาพร้อมกับสายฝนชายหนุ่มปั้นหน้าใสซื่อ เขาส่งยิ้มให้อีกฝ่ายและพยายามทำตัวน่าสงสาร“ฉันไม่แน่ใจนะคะว่ามันจะขายได้...” นาฬิกามันหยุดเดิน แล้วเมวิกาก็ดูไม่เป็นเสียด้วยว่ามันคือของแท้ หรือของปลอม แต่เธอจะพยายามช่วย“ขอบใจนะ” ชายหนุ่มยิ้มแป้น เขารู้ว่ามันขายได้ อาจจะถูกกดราคา แต่รุ่นนี้ใครเห็นก็ต้องรีบตะครุบ เมื่อมันคือรุ่นอันลิมิเต็ด!! ไม่ได้มีเกลื่อนกลาด คนรับซื้อคงตาวาวเพราะฟันกำไรเหนาะๆ“เห้อ! ฉันต้องไปทำงานแล้วนะคุณ...อยู่แถวนี้ไปก่อนล่ะ นี่เอาไว้ซื้อข้าวกิน ฉันช่วยได้เท่านี้ละ อยู่กับไอ้ตูบไปแล้วกันนะ ไม่ใช่ว่าฉันไม่ไว้ใจ แต่ต้องเข้าใจฉันด้วย” หญิงสาวอธิบายยืดยาว ถึงจะมีน้ำใจ แต่ใครล่ะจะให้คนแปลกหน้าเข้าห้อง เมื่อไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้า หากถูกยกเค้าเธอคงไม่มีอะไรเหลือ เพราะฉะนั้นกันไว้ดีกว่าแก้“ไม่เป็นไร”ลมเย็นพัดโชย ไม่มีที่นอนนุ่มๆ มีแค่เพิงสังกะสีเก่าๆ คุ้มหัว...ก็ยังดีกว่าออกไปแล้วถูกตามล่าหญิงสาวหมุนตัวกลับเข้าห้องพัก เธอเดินย้อนกลับมาอีกครั้งกับน้ำขวดหนึ่งในมือแล้วก็หมอนนุ่มๆ ที่หนีบมาในซอกรักแร้ ก่อนจะยื่นให้กับเขา... “เดินออกไปตรงหัวมุม มีร้านตามสั่ง คุณหิว
ปัญหายังไม่หมด...เวลานี้แวซ็องเริ่มหนาว...เสื้อ กางเกงเขาเปียกชุ่ม มันทำให้อุณหภูมิในร่างกายเริ่มลดลง เขากำลังหนาว และอาจจะจับไข้...ชายหนุ่มระบายลมหายใจที่เริ่มมีไอร้อน เขาคงต้องหาตัวช่วยให้ตัวเองก่อน กว่าจะเช้ายังอีกนาน ตอนนี้เวลาเท่าไรแล้วก็ไม่รู้? เมื่อนาฬิกาเรือนโปรดของเขาดันหยุดเดินเสียอย่างนั้น “เชี่ยเอ๋ย! แพงเสียเปล่า” ชายหนุ่มสบถอย่างฉุนเฉียว หน้าสิ่วหน้าขวาน ทุกสิ่งรอบตัวเขาเหมือนจะอยู่ผิดที่ผิดทาง เขาต้องการความช่วยเหลือ แต่ตอนนี้คงต้องช่วยเหลือตัวเองก่อนที่จะหนาวตายและอาจจะมีไข้รุมเสื้อสีขาวตัวใหญ่พาดอยู่บนราวแขวน กางเกงหูรูดที่แวซ็องคะเนด้วยสายตาเขาน่าจะใส่ได้ ชายหนุ่มคว้าทั้งเสื้อและกางเกงลงมาจากราว เขาเหลียวซ้าย แลขวา ก่อนจะรีบปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตถอดออกจากตัวสะบัดขึ้นไปแขวนไว้บนราวแทนเสื้อยืดเก่าๆ กางเกงคือเป้าหมายต่อไป ไม่ถึง5นาทีเขาก็สามารถจัดการกับตัวเองเสร็จจากผู้ชายที่ดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้า...ตอนนี้หากดิดิเย่ร์ หรือเซดริกหาเขาเจอ คงไม่อยากจะเชื่อ ผู้ชายคนหนึ่งใส่เสื้อยืดเก่าๆ คอย้วย กับกางเกงหูรูดราคาถูก สวมรองเท้าแตะแต่กลับเดาะใส่นาฬิกาโรเล็กซ์ที่มันหยุดเดินไปเสียแ