‘มันจะมีสักครั้งไหม ที่นายคิดอยากจะปกป้องฉันเหมือนที่ปกป้องคนอื่น’ ‘คุณคงไม่อยากรู้คำตอบหรอก...’
view moreเชียงราย ประเทศไทย
“น้าตรีขา หิวจังเลยค่ะ มีอะไรทานบ้างคะ” เสียงหวานที่ดังขึ้นบริเวณหน้าบ้านหลังน้อยท้ายฟาร์ม ส่งผลให้สองแม่ลูกซึ่งกำลังช่วยกันตั้งโต๊ะอาหารเย็นต้องพากันรีบออกมาดู ก่อนจะพบเข้ากับภาพคุณหนูของฟาร์มดวงมณี ฟาร์มโคนมขนาดใหญ่ ซึ่งตอนนี้กำลังยืนส่งยิ้มหวาน แข่งกับตะวันที่ค่อยๆ ลาลับขอบฟ้าอยู่ไม่ไกล
“ทำไมไม่กินที่บ้านใหญ่” ก่อนจะกลายเป็นเสียงของคนหวงแม่ ที่เอ่ยขึ้นเบาๆ แต่ถึงกระนั้นก็ยังลอยไปถึงหูของอีกคนเข้าอยู่ดี
อินทุอร หรือที่ใครๆ ต่างรู้จักกันดี ในฐานะลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของคุณแรมเดือนกับคุณภานุวัฒน์ สองสามีภรรยาที่ตอนนี้หย่าร้างกันมานานกว่าสามปีกว่าแล้ว โดยที่อินทุอรนั้นอยู่กับพ่อ ส่วนเอกทัศน์ผู้เป็นพี่ชายนั้นอยู่กับแม่ ตามข้อตกลงที่มีไว้ก่อนหย่า
“ก็ฉันอยากกินที่นี่ ได้ใช่ไหมคะน้าตรีขา” เมื่อเห็นชัดแล้วว่าใครบางคน ที่มักจะชอบทำตัวเป็นปรปักษ์กับเธออยู่บ่อยๆ เริ่มทำตัวมีปัญหา
อินทุอร จึงหันไปเข้าทางผู้ใหญ่ ซึ่งก็คือคุณน้าจิตรี แม่ของเขาแทน ด้วยรู้ดีว่าสุดท้ายแล้วไม่ว่าเธอจะทำตัวแสบสันสักแค่ไหน ท่านก็พร้อมที่จะอ้าแขนปกป้องเธอแทบจะทุกครั้ง ซึ่งก็เป็นแบบนี้เสมอ นับตั้งแต่วันที่พ่อของเธอรับสองแม่ลูกเข้ามาทำงานในฟาร์ม
“เข้ามาก่อนสิคะคุณเรย์ นี่น้ากับตากล้ากำลังจัดโต๊ะเตรียมจะทานข้าวเย็นกันอยู่เลยค่ะ” เด็กสาวยิ้มรับต่อคำตอบ ก่อนเดินตามเจ้าของบ้านเข้าไปด้านในก็ไม่ลืมยักคิ้วให้ ‘คนหวงแม่’ หนึ่งที เป็นการเอาคืนที่เขาพูดไม่เข้าหู
“ตายแล้วคุณเรย์ นี่หน้าไปโดนอะไรมาคะ!” แต่แล้วเมื่อเดินตามคนทั้งสองเข้ามาด้านในบ้าน เสียงร้องตกอกตกใจของนางจิตรีก็ต้องดังขึ้นเข้าอีกหน และไม่เพียงแต่นางเท่านั้นที่สังเกตเห็นรอยแดงบนแก้มของอินทุอร กล้าตะวันเองก็เห็นสังเกตเห็นมันเหมือนกัน
และหากเดาไม่ผิด..นี่มันรอยฝ่ามือชัดๆ ที่รู้ก็เพราะเคยโดนอยู่บ่อยๆ และคนที่ทำก็ไม่ใช่ใครอื่นที่ไหนไกลนอกจากคนที่ได้แต่นิ่งเงียบไม่ยอมเปิดปากตอบคำถามที่แม่ของเขาเพิ่งจะถามออกไป
“เรย์ไม่อยากพูดถึงมันค่ะ” เมื่อคนถูกกระทำว่ามาแบบนั้น นางก็จำต้องเงียบเสียงลง แม้สุดท้ายแล้วจะรู้ดี ถึงต้นสายปลายเหตุของความหมางเมินระหว่างเด็กสาวกับผู้เป็นพ่อ ที่หมู่นี้มักจะเกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ และเหมือนจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แต่ด้วยสถานะที่เป็นเพียงแค่ลูกจ้าง นางจึงไม่กล้าที่จะออกความคิดเห็นอะไรออกไปมากนัก เพราะรู้ดีว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ที่ว่านั้น
เรื่องมันเริ่มต้นที่คุณภานุวัฒน์ ผู้เป็นนายใหญ่ของที่นี่นึกอยากจะมีแม่เลี้ยงให้กับลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน ถึงได้พาวนิดา แม่ม้ายสาวที่มีลูกติดอยู่หนึ่งคน เข้ามาแนะนำให้ทุกคนได้ทำความรู้จัก ในฐานะผู้หญิงที่ท่านกำลังคบหาดูใจกันอยู่
แน่นอนว่าเรื่องในวันนั้นจบลงที่คุณหนูของนางเอาน้ำไล่สาดสองแม่ลูกจนต้องพากันกลับไปแทบไม่ทัน นางยังจำได้ดีถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้น เพราะมันเป็นครั้งแรกที่ผู้เป็นนายลงโทษลูกสาวต่อหน้าคนงานนับร้อยชีวิตด้วยการตี!
หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้นจบลง ก็ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของสองพ่อลูกจะแย่ลงเรื่อยๆ เพราะไม่ว่าใครจะพูดยังไง อินทุอรก็ยังยืนกรานเสียงแข็งเช่นเดิม ว่าเธอไม่ต้องการมีแม่เลี้ยงและผู้หญิงบ้านั่น. ก็ไม่เหมาะสมกับพ่อของเธอแม้แต่นิดเดียว
แต่ไม่ว่าเธอจะแข็งข้อยังไง สุดท้ายผู้เป็นบิดาก็ยังยืนยันคำเดิม ว่าท่านต้องการให้สองแม่ลูกนั่นย้ายเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งที่นี่ เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว เด็กสาวจำต้องยอมรับสภาพอย่างคนไร้ซึ่งทางเลือก และนั่นดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่ผิด เพราะไม่นานหลังจากนั้น ซึ่งก็คือวันนี้ ข่าวร้ายที่เธอไม่นึกอยากให้มันเกิดขึ้น ก็ดันเกิดขึ้นเข้าจนได้..
“น้าวันเขาท้อง เรย์กับแหวนกำลังจะได้เป็นพี่แล้วนะลูก ดีใจไหม” เรื่องสำคัญที่พ่อเอ่ยขึ้น ทำให้เธอไม่อาจทนเฉยได้อีกต่อไป
“มันไม่ใช่น้องของเรย์!” แค่ต้องทนอยู่บ้านเดียวกับปลิงสองแม่ลูกนั่นมันก็มากเกินพอแล้วแต่นี่ยังจะมีมารหัวขนเพิ่มมาอีกหนึ่ง
อย่าได้ฝันเลยว่าเธอจะทน!
อีกอย่างที่ยังนึกสงสัยอยู่ไม่หาย พ่อเธอแก่ขนาดนั้นจะเอาแรงที่ไหนไปทำลูกกัน! ไอ้เด็กที่กำลังจะเกิดมานั่นจะใช่น้องเธอจริงๆ รึเปล่าก็ไม่รู้
“หยุดก้าวร้าวได้แล้วยัยเรย์ แล้วก็รีบขอโทษน้าวันเขาเดี๋ยวนี้!” เพราะนึกอยากจะเอาใจภรรยาใหม่เสียงเข้มถึงได้ตวาดขึ้น ยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่เขาไม่สามารถจัดการขั้นเด็ดขาดได้ เพราะฝั่งหนึ่งก็คือภรรยา ขณะที่อีกฝั่งนั้นคือลูกสาว
“ไม่ค่ะ! เรย์ไม่ขอโทษ เพราะเรย์ไม่ได้ทำอะไรผิด คนพวกนี้ต่างหากที่ผิด ผิดที่หวังจับคนรวยๆ แต่โง่อย่างพ่อทำผัว!” สิ้นคำ ใบหน้าอ่อนหวานก็สะบัดไปตามแรงตบด้วยน้ำมือของผู้เป็นพ่อที่ขาดสติจนยั้งใจไว้ไม่ทันแต่ครั้นจะย้อนกลับไปแก้ไข ก็ไม่อาจทำได้
กี่ครั้งแล้วนะ...
ที่พ่อปกป้องคนพวกนั้นด้วยการทำร้ายเธอ!
กี่ครั้งแล้ว…ที่ท่านทำให้เธอกลายเป็นตัวตลกต่อหน้าคนอื่น!
“ไม่ได้หรอกนะ ฉันไม่มีวันปล่อย ไม่ว่าเธอหรือลูก ไม่มีวัน!” แต่สุดท้ายความหวังที่มีก็ต้องพังลงไม่เป็นท่า เพราะอีกคนไม่ยอมปล่อยกันตามคำขอ ไหนจะสายตาเอาเรื่องที่เขากำลังใช้มองกันอีก “ทำไมคะ!” “เพราะฉันรักเธอ!” สิ้นคำสารภาพรัก บรรยากาศโดยรอบก็พลันเงียบสงัดลงแทบจะทันที “คุณกิต…รู้ตัวไหมคะว่าพูดอะไรออกมา!” เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ และหากเขาไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นก็ไม่ควรที่จะพูดมันออกมา ในส่วนของเธอแค่ตกใจเท่านั้น ไม่เชื่อเลยสักนิดว่าคำรักที่เพิ่งจะได้ยินจากปากเขามันจะเป็นเรื่องจริง เพราะที่ผ่านมาเขาไม่เคยทำให้เธอรู้สึกแบบนั้นเลยสักครั้ง แล้ววันนี้จะอยู่ๆ ก็พูดออกมา เธอไม่เชื่อเด็ดขาด ไม่มีทางที่คนอย่างเขาจะมารักเธอได้! “รู้สิ ฉันรู้ตัวดีทุกอย่าง ฉันรักเธอ” “แต่คู่หมั้นของคุณ…” “เรื่องของฉันกับน้องแหววจบแล้ว จากนี้ไปจะมีแค่เรื่องของเรา ให้โอกาสฉันอีกครั้งนะคะน้า ฉันสัญญาว่าจะรัก และดูแลคะน้ากับลูกให้ดีที่สุด” คนถูกถามชั่งใจอยู่นานเพราะยังคงตั้งตัวไม่ติดกับคำสารภาพรัก ที่ไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลยว่าเขาจะพ
ภาพของคู่หมั้นหนุ่ม ที่กำลังเดินตรงเข้ามาหากันในร้านอาหารนั้นทำให้คนมองเริ่มรู้สึกว่าไม่แน่บางทีนี่อาจเป็นครั้งสุดท้าย ที่เธอจะมีโอกาสได้ใกล้กับเขาแบบนี้ แต่ถึงจะรู้สึกเช่นนั้น เธอก็ยังเลือกที่จะส่งยิ้มอ่อนหวานไปให้เขาอยู่ดี “รอพี่นานไหมครับแหวว” กิตติคุณเอ่ยถามเมื่อเดินมาถึงโต๊ะ สายตาที่มองคนตรงหน้า ยังคงไว้ด้วยความรักและเอ็นดูไม่เปลี่ยน เขารู้จักอีกฝ่ายมานาน ย่อมรู้สึกแย่ที่ต้องมาบอกสิ่งกับเธอ “ไม่นานเท่าที่พี่กิตรอแหววหรอกค่ะ…” หากวันนี้รักที่เขาเคยมีต่อกันจะลดลงเธอก็คงไม่กล้าที่จะกล่าวโทษ เพราะเป็นเธอเองที่ขอเวลาออกไปใช้ชีวิต เปิดช่องว่างให้มีใครอีกคนได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเขา เป็นเธอที่ปล่อยให้บางสิ่งหลุดมือไปอย่างน่าเสียดาย “พี่กิตมีเรื่องอะไรจะบอกแหววเหรอคะ พูดมาได้เลยค่ะ แหววพร้อมแล้ว”คนถูกถามเงียบไปนาน ก่อนจะเอ่ยขึ้นในนาทีถัดมาเมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าเขาควรต้องจบเรื่องวุ่นๆ ลง ไม่ควรยื้อเวลาเพื่อปิดกั้นโอกาสที่จะได้เจอคนดีๆ ของน้อง “พี่ขอโทษครับแหวว คือว่าพี่…” คำพูดมากมายที่เตรียมไว้มีอันต้องขาดหาย เมื่ออยู่ๆ คนตรงหน้า
ตอนจบของชีวิตคู่คนอื่นเป็นไงไม่รู้ แต่สำหรับเธอแล้วมันคือการเริ่มต้นใหม่กับคนเดิม คนเดิมที่เหมือนจะทำตัวน่ารักมากขึ้น นับตั้งแต่คืนนั้นคืนที่เขาตัดสินใจสารภาพความรู้สึกที่มีให้เธอได้รับรู้ ในขณะที่เธอเองก็สารภาพหลายๆ สิ่งที่ได้แต่เก็บงำไว้กับตัวเองกลับไปบ้าง เริ่มจากการสารภาพว่าเธอเองก็รักเขามานานแล้วเหมือนกัน รักตั้งแต่วันแรกที่พบหน้าแต่ก็ต้องเก็บซ่อนความรู้สึกไว้ เพราะเขาดูเหมือนจะไม่ค่อยชอบหน้ากันสักเท่าไหร่ “แม่บอกว่าวันนี้หนูแอบออกไปเที่ยวที่คอกม้าอีกแล้ว เป็นความจริงรึเปล่าครับ” คนมีความผิดติดตัวหรือจะกลัวต่อคำถามที่ถูกส่งตรงมาให้กัน อินทุอรซะอย่าง ก็พยักหน้ายอมรับไปเลยสิคะ “จริงค่ะ” เป็นอีกครั้งแล้วที่ความดื้อของเมียทำให้เขาปวดหัว “หนูชอบถูกพี่ลงโทษเหรอคะ…” จะให้บอกยังไงดี ว่านั่นแหละมันคือสิ่งที่เธอต้องการจากเขาที่สุดสุดท้ายเมื่อไม่กล้าพอที่จะบอกออกไปตรงๆ เพราะกลัวเสียหน้า หญิงสาวถึงได้ขยับตัวเข้าหา พร้อมๆ กับเกี่ยวชุดนอนตัวบางออกไปจากตัวโชว์ซะเลย ให้มันรู้กันไปสิว่าทำถึงขนาดนี้แล้วเขาจะยังเมินเฉยต่อกันได้อีก ถ้าเป็นแบบนั้นร
“หนูรู้ใช่ไหมลูก ว่าแม่รักหนูที่สุด” อินทุอรได้แต่พยักหน้ารับทั้งน้ำตา ชีวิตเธอมีแค่น้าจิตรีก็เพียงพอแล้ว ส่วนคนอื่นๆ เธอจะถือเสียว่ามันเป็นเวรกรรมของเธอ ที่ทำให้เธอต้องไปเจอคนพวกนั้น ในส่วนของแม่แท้ๆ นั้นหลังจากทำใจได้แล้วเธอจะลองตามหาท่านดู เชื่อว่าตัวเองจะกล้าเผชิญหน้ากับความจริง และไม่ว่าผลสุดท้ายแล้วสิ่งนั้นมันจะทำให้เจ็บปวดสักแค่ไหน เธอจะไม่ร้องไห้ ไม่เสียใจ จะคิดเสียว่าอย่างน้อยๆ ท่านก็เป็นแม่ ที่ให้เธอได้เกิดมา “เรย์ก็รักคุณแม่ค่ะ…ขอบคุณนะคะที่รักและดูแลเรย์มาตลอด เรย์รักคุณแม่ที่สุดเลยค่ะ” ภาพของคนสองคนที่นั่งกอดกันกลมอยู่ที่โซฟาในห้องรับแขกนั้น ตกอยู่ในสายตาของกล้าตะวันตลอดเวลา เขาเฝ้ารอจนแน่ใจว่าสภาพจิตใจของภรรยาดีขึ้นมากแล้ว ถึงได้ตัดสินใจบอกบางสิ่งกับเธอ บางสิ่งที่ได้แต่เก็บงำมันเอาไว้กับตัวเองมาโดยตลอด “พี่มีความลับจะบอก อยากฟังไหมครับ” ชายหนุ่มอาศัยช่วงเวลากลางคืนที่ได้อยู่กันตามลำพังเอ่ยถามขึ้น ซึ่งเมื่อถามจบอีกคนก็รีบขยับตัวเข้ามาหากันแทบจะทันที “อยากค่ะ” เป็นกันรู้กันดีว่าความลับของสามีเป็นอะไรที่ยากต่อการคาดเดาค
บ้านที่เคยอยู่ในช่วงวัยเด็ก ทำให้คนที่เพิ่งจะก้าวขาลงจากรถอดที่จะหวนกลับไปคิดถึงคืนวันเก่าๆ ของตัวเองไม่ได้ แม้ช่วงเวลาเหล่านั้น เธอจะไม่ได้รับความรักจากผู้เป็นแม่อย่างที่ควรเป็น แต่ก็ยังมีใครอีกหลายคนที่ให้ความรักและความอบอุ่นจนเธอไม่รู้สึกขาด “โผล่หัวกลับมาบ้านได้สักทีนะนังตัวดี ฉันคิดว่าแกจะลืมทางกลับบ้านแล้ว!” คำถากถางจากผู้เป็นแม่ ทำให้ความสงสัยที่ว่าบางทีท่านอาจไม่ได้ป่วยจริงหมดลง แต่ถึงจะรู้แบบนั้น เธอก็ยังเลือกที่จะเดินตรงเข้าไปทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ ท่านอยู่ดี “แม่สบายดีนะคะ” “หึ เห็นสภาพฉันแบบนี้แล้วยังกล้าที่จะถามอีกรึไง แต่ก็ช่างเถอะ! ไหนๆ แกก็กลับมาแล้ว เย็นนี้เตรียมตัวให้พร้อม ฉันจะให้คนของเสี่ยชาญมารับแกไปอยู่กับท่าน!” เพราะนางมีเวลาไม่มาก ไหนจะเส้นตายที่เจ้าของเงินขีดไว้ให้กันนั่นอีก การพูดตรงๆ ถึงความต้องการของตัวเอง จึงเป็นสิ่งแรกๆ ที่คิดจะทำ และทำอย่างไม่ลังเล ไม่สนด้วยว่าสิ้นคำบอกกล่าวนี้มันจะทำให้อีกคนเจ็บแค่ไหน “เรย์แค่กลับมาเยี่ยมแม่เฉยๆ ค่ะ ไม่ได้กลับมาเพื่อจะไปอยู่กับใครทั้งนั้น เย็นนี้เรย์ก็ต้องกลับแล้ว…” เธอบอกไป
เพราะถูกสั่งให้นั่งๆ นอนๆ อยู่แต่บ้านมาเป็นเวลานานร่วมเดือน จึงไม่แปลกที่อินทุอรจะเบื่อ และทุกครั้งที่รู้สึกเบื่อ คอกม้า เป็นสถานที่เดียวที่เธอมา แต่ทว่าวันนี้นั้นกลับมีบางสิ่งที่แปลกไป “นุชรักคุณกล้าค่ะ รักมาตลอด รักตั้งแต่ครั้งแรกที่พบหน้า!” ใครเลยจะไปคิดว่าจะได้มาเห็นฉากสารภาพซึ่งๆ หน้าแบบนี้ แถมคนที่เพิ่งจะถูกสารภาพรัก ยังเป็นพ่อสามีตัวดีของตัวเองอีกด้วย! “ผมขอโทษจริงๆ ครับคุณนุช…แต่ผมแต่งงานแล้ว” เป็นกล้าตะวันที่ตอบกลับไปโดยไม่ต้องคิดอะไรให้เหนื่อยถึงต่อให้วันนี้เขาจะยังครองตัวเป็นโสดอยู่ เขาก็คงไม่มีทางมองคนตรงหน้าเป็นอย่างอื่นนอกเหนือไปจากเพื่อนที่ดีคนหนึ่งเท่านั้นอยู่ดี ระยะเวลาหลายปีที่ได้รู้จักกันมา หากว่ามันจะก่อเกิดเป็นความรักก็คงเป็นไปนานแล้ว คงไม่รอให้มีอีกคนเข้ามาแทรกอย่างที่คนตรงหน้ากำลังเข้าใจผิด “คุณรักเธอเหรอคะ!” “….” “นุชรู้ว่าคุณไม่ได้รักเธอ ที่ต้องแต่งงานด้วยก็เพราะสถานการณ์บังคับ นุชรับได้นะคะ จะให้นุชอยู่ในสถานะไหนก็ได้ ขอแค่ให้นุชได้อยู่ข้างๆ คุณก็พอ” เธอลงทุนหมดหน้าตักเพื่อพาตัวเองมายืนอยู่ตร
Mga Comments