ฉันมาถึงบริษัทตั้งแต่เช้าและตอนนี้ก็กำลังนั่งคุณทศอยู่ที่ล็อบบี้ ฉันคิดมาตลอดทางว่าฉันจะทำทุกอย่างที่คุณชัชเคยทำให้ดีที่สุดเพื่อไม่ให้ผิดต่อความตั้งใจของเขา พอรถของคุณทศมาจอดที่ประตูหน้าบริษัทฉันก็รีบเดินไปรอรับเขา ตอนแรกฉันกะว่าจะช่วยเปิดประตูรถให้แต่ก็เข้าไปไม่ทันพี่รปภ.ที่ยืนรออยู่ ฉันเลยได้แต่ยืนมองดูด้วยความเสียดาย ทันทีที่คุณทศลงจากรถฉันก็ยื่นมืือไปขอกระเป๋าและเอกสารในมือเขาทันที คุณทศมองหน้าฉันแปปนึงก่อนที่จะส่งของทั้งหมดมาให้ ฉันรับมันแล้วเดินตามหลังคุณทศไปติดๆ ฉันเห็นคุณทศเหล่มองมาที่ฉันหลายครั้งสงสัยคงยังไม่ชินละมั้ง พอประตูลิฟต์เปิดออกฉันก็รีบเดินตามเข้าไปจนเผลอชนเข้ากับหลังของเขาจังๆ
"ขอโทษค่ะ" ฉันพูดแล้วรีบถอยตัวหนีทันที "เอกสารที่ให้เตรียมพร้อมหรือยัง" คุณทศถาม "เรียบร้อยแล้วค่ะ" ฉันตอบ ฉันพูดจบคุณทศเดินออกไปเลย เขาเป็นคนที่เดินเร็วมากไม่รู้ว่าเป็นเพราะขายาวด้วยหรือเปล่าทำเอาฉันที่สับแทบตายก็ยังตามไม่ทันบวกกับมีรองเท้าส้นสูงด้วยแล้วนี่ยิ่งไปกันใหญ่ "เดี๋ยวคุณเข้าไปคุยกับผมในห้องด้วยนะ" คุณทศพูดแล้วเปิดประตูเข้าไปห้อง ฉันวางของของคุณทศลงบนโต๊ะทำงานของตัวเองแล้วเดินอ้อมไปหาสมุดกับปากกาเตรียมเข้าไปด้วยเผื่อว่าคุณทศสั่งงานอะไรเพิ่มจะได้ไม่ลืม ฉันเคาะประตู 3 ครั้งแล้วเปิดเข้าไป "นั่งสิ" คุณทศพูด ฉันเลยเอาของของคุณทศไปวางลงบนโต๊ะทำงานของเขาแล้วนั่ง "คนที่เราจะไปคุยด้วยวันนี้เธอชื่อคุณลดาเป็นเจ้าของที่ดินแถวพัทยาที่ทางบริษัทของเราต้องการมาก ที่ดินแถวนั่นทำเลดีเหมาะสำหรับทำโครงการหมู่บ้านที่สุด สำหรับนักธุรกิจอย่างเราที่ตรงนั้นแม้จะราคาสูงแต่ก็คุ้มที่จะเสี่ยง ทางเราส่งคนไปติดต่อขอซื้อหลายครั้งแต่ก็ไม่เป็นผลจนเมื่อ 1 อาทิตย์ก่อนผมได้รับการติดต่อจากเลขาของคุณลดามาว่าเธอต้องการใช้ที่ดินพื้นนั้นทั้งหมดมาเป็นสินทรัพย์ในการลงทุนทำโครงการหมู่บ้านร่วมกับบริษัทของเรา จุดแข็งของเธอคือเธอเป็นคนฉลาดมากและจะไม่ยอมเสียเปรียบให้ใครเด็ดขาด เธอไม่ชอบลงแรงแต่ต้องการผลประโยชน์มากที่สุดดังนั้นหลายครั้งที่เธอร่วมลงทุนกับบริษัทอื่นๆ เธอจะกดคู่ค้าของเธอจนกว่าเธอจะได้ในสิ่งที่ต้องการซึ่งผมไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้นมากที่สุดเพราะบริษัทของเราเองก็มีจุดยืนของเรา เงินทุนทั้งหมดเราก็เป็นคนลงเพราะงั้นผมหวังว่าคุณจะคำนึงถึงผลประโยชน์ของบริษัทเราด้วย" คุณทศพูด "ค่ะ" ฉันตอบ "ผมต้องการที่ดินตรงนั้นมากๆ และนี้คืองานแรกของคุณที่จะต้องออกไปเจรจากับนักลงทุน คุณต้องคิดว่าวิธีช่วยผมเอาที่ดินตรงนั้นมาให้ได้และอีกเรื่องที่สำคัญเลยคือผมรู้มาว่าคุณลดาเธอไม่ได้ติดต่อกับบริษัทเราบริษัทเดียว เธอยังนัดคุยกับบริษัทอื่นๆ อีกหลายบริษัทก่อนหน้าเราใครที่ให้ผลประโยชน์กับเธอมากที่สุดถึงจะได้ที่ดินตรงนั้นไป ผมคิดไว้แล้วว่าผมคงให้เปอร์เซ็นกับคุณลดามากไปกว่าที่บริษัทอื่นให้ไม่ได้แน่ๆ แต่เราต้องมีวิธีพูดชักจูงเธอดีๆ พยายามหาแรงจูงใจให้เธอยอมรับข้อเสนอของเราให้ได้ ที่ดินตรงนั้นผมชอบมากและมันเหมาะมากสำหรับโครงการใหม่ที่ผมคิดไว้ ดังนั้นไม่ว่ายังไงคุณกับผมต้องช่วยกันเอาที่ดินพื้นนั้นมาให้ได้และถ้าคุณทำได้ผมเองก็มีค่าตอบแทนให้คุณเช่นกัน ไม่ใช่แค่งานนี้แต่ทุกงานที่คุณดีลมาได้คุณก็จะได้รับค่าตอบแทนพิเศษด้วย" คุณทศพูดกับฉันด้วยสีหน้าจริงจังสุดๆ "ดาวจะช่วยให้เต็มที่ค่ะ" ฉันตอบ คุณทศพยักหน้า "เรามีนัดตอนตอนกี่โมง" คุณทศถาม "ตอนบ่ายโมงตรงค่ะ" ฉันตอบ ดี งั้นคุณไปรถผมเตรียมตัวให้พร้อมเราจะออกจากบริษัทตอน 10 โมงตรงเผื่อเวลารถติดด้วย" คุณทศพูด "ค่ะ" ฉันตอบแล้วเดินออกจากห้องของคุณทศไปทำงานรอจนถึงเวลานัดฉันก็รีบเตรียมเอกสารแล้วยืนรอคุณทศออกมาจากห้อง "พร้อมหรือยัง" คุณทศถาม "พร้อมแล้วค่ะ" ฉันตอบ คุณทศเดินนำฉันไปจนเรามาถึงลานจอดรถ ฉันเปิดประตูขึ้นไปนั่งคาดเข็มขัดให้เรียบร้อยแล้วจากนั้นพวกเราก็ออกจากบริษัททันที "คุณเป็นอะไร" คุณทศถาม ฉันงงว่าคุณทศพูดถึงอะไร "คะ" ฉันถาม "ก็ผมเห็นคุณนั่งเงียบมาตั้งแต่ออกจากบริษัทแล้ว" คุณทศพูด ฉันรู้สึกเขินจนทำตัวไม่ถูกฉันไม่เคยต้องอยู่ในที่แคบๆ กับผู้ชายสองต่อสองแบบนี้มาก่อนเลย อีกอย่างคนที่อยู่ด้วยดันเป็นถึงผู้บริหารเลยนะจะไม่เกร็งเลยมันก็บ้าแล้ว ได้นั่งรถหรูแถมประทานบริษัทยังเป็นคนขับให้อีกวาสนาอะไรของฉันกันนะ "อ๋อเปล่าค่ะ ฉันแค่ทำตัวไม่ถูกเฉยๆ น่ะ" ฉันตอบ ฉันเห็นคุณทศแอบยิ้มที่มุมปากคงจะตลกท่าทางของฉันมากสินะ ขายหน้าจัง! ขับไปได้สักพักคุณทศก็เลี้ยวเข้าปั้มมาเติมน้ำมัน "เต็มถังครับ" คุณทศยื่นบัตรมาให้ฉัน พอเด็กปั้มเติมน้ำเสร็จก็เดินมารับบัตรจากฉันไป รอแแปปนึงเด็กบัตรก็วิ่งเอาบัตรมาคืน "นี่ครับ ตอนนี้ที่ปั้มถ้าเติมครบห้าร้อยบาทจะได้รับน้ำเปล่าขวดใหญ่ 1 ขวดแล้วก็สติ๊กเกอร์รูปหัวใจให้ 1 ชุดเพื่อเป็นการขอบคุณที่ลูกค้าเข้ามาใช้บริการเนื่องและต้อนรับเทศกาลวันวาเลนไทน์ด้วยครับ" เด็กปั้มตอบพร้อมกับยื่นขวดน้ำและสติ๊กเกอร์มาให้ฉัน ฉันรับแล้วกล่าวขอบคุณเขา "ขอบคุณที่มาใช้บริการนะครับ วาเลนไทน์ปีนี้ขอให้คุณลูกค้ารักกันนานๆ นะครับ" พูดเด็กปั้มพูดจบแล้วก็เดินออกไปปล่อยให้ฉันนั่งตาโตทำตัวไม่ถูกอยู่แบบนั้น "ขอบคุณครับ" คุณทศตอบแล้วกดปิดกระจกขับรถออกจากปั้มทันที ฉันเขินจนหน้าแดงแต่ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไรเหมือนกัน "เอ่อ...เอ่อ น..นะ..นี่ค่ะ" ฉันพูดตะกุกตะกักแล้วยื่นบัตรกับของแถมที่เด็กปั๊มนำมาให้เมื่อกี้ให้คุณทศ คุณทศหยิบบัตรกับน้ำจากมือฉัน "สติ๊ก~" ฉันกำลังจะพูด "คุณเอาไปเถอะ ผมให้" คุณทศตอบ "เมื่อกี้น้องเขาก็พูดไปแบบนั้นแหละค่ะ คุณทศอย่าถือสาเลยนะคะ" ฉันพูด "ผมยังไม่ได้ว่าอะไรเลย" คุณทศตอบ "ดาวแค่กังวลกลัวคุณทศจะลำบากใจน่ะคะ" ฉันพูด ฉันได้ยินเสียงคุณทศหัวเราะเบาๆ ด้วยไม่รู้ว่าเขาตลกอะไรกันแน่ นี่ฉันกำลังช่วยพูดเพื่อไม่ให้เขารู้สึกแย่อยู่นะที่คนอื่นมองเขากับเลขาธรรมดาเป็นคนรักกัน แต่พอได้ยินเสียงเขาขำฉันเบาๆ ฉันจึงหันหน้าไปมองหน้าเขาซึ่งมันก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่คุณทศเองก็หันมามองฉันด้วยทำให้เราทั้งคสองคนได้มีโอกาสสบตากันเข้าจังๆ พอเห็นแบบนั้นฉันเลยรีบหันหน้ากลับแล้วหันออกไปมองวิวข้างนอกแทน (บ้าจริง! แค่มองตาเขาไม่กี่วิเองทำไมมันเขินอย่างนี้นะ)1 สัปดาห์ต่อมาฉัันยังคงมาทำงานตามปกติเหมือนทุกวันแต่ที่ดูจะมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างก็คือการทำงานของฉันดูราบลื่นขึ้นมากและได้รับคำชมจากเพื่อนร่วมงานอยู่บ่อยๆ แถมพนักงานหลายๆ คนก็เริ่มให้ความการเคารพฉันในฐานะเลขาของคุณทศบ้างแล้วจากที่ตอนแรกดูจะตึงๆ และไม่ชอบฉันอย่างเห็นได้ชัด"คุณดาวหลังจากที่ทีมการตลาดได้โฆษณาออกไปผลตอบรับของโครงการหมู่บ้านที่พัทยาเป็นยังบ้าง" คุณทศถาม"ดีมากเลยค่ะคุณทศ ตอนนี้ลูกค้ากำลังให้ความสนใจโครงการของเราเป็นอย่างมากแล้วก็มีสปอนเซอร์รายใหญ่ติดต่อมาหลายบริษัทเลยค่ะ" "งั้นก็ดีแล้ว คุณไปทำงานต่อเถอะ" คุณทศพูดจบฉันก็เดินออกจากห้องทำงานของเขาแล้วมานั่งทำงานของตัวเองต่อเหมือนเดิม พอใกล้ถึงเวลาอาหารกลางวันฉันก็กดสั่งอาหารมาไว้ให้เขาตามปกติก่อนจะลงไปทานมื้อกลางวันของตัวเองที่โรงอาหารโรงอาหารทุกคนนั่งทานอาหารกลางวันและพูดคุยกันถึงปัญหาต่างๆ ในแต่ละวันกันอย่างสนุกสนานมีทั้งเรื่องรถติดบ้าง ทะเลาะกับสามีบ้าง มีปัญหาหากับเพื่อนร่วมงานบ้าง"น้องดาวเย็นนี้ว่างไหมจ๊ะ" พี่เจนถามก็ว่างนะคะพี่เจน พอดีดาวไม่ได้มีงานด่วนอะไรด้วย" ฉันตอบงั้นน้องดาวไปกับพวกเราไหม" พี่เจนถาม"พวกพี
"อะไรนะ!!" เสียงของอนุวัฒน์ดังขึ้นเมื่อลูกน้องคนสนิทมารายงานข่าวเรื่องที่ดิน ที่เขาเคยยื่นขอเสนอไปแต่ก็ถูกตัดหน้าไปก่อนอย่างหน้าเสียดาย"คึ...คือคุณลดาเธอบอกว่าเธอนำที่ดินไปลงทุนกับบริษัท KTK แล้วครับ" ดนัยตอบ (ลูกน้องของอนุวัฒน์)"เป็นแบบนี้ได้ยังไงกัน ก็ในเมื่อเราติดต่อพูดคุยกับคุณลดาไว้ตั้งแต่หลายเดือนแล้วนิว่าเราจะขอซื้อที่ดินตรงนั้นของเธอด้วยเงินสด ทำไมเธอถึงยังปฎิเสธเราได้อีก นี่แกประสานงานยังไงกันแน่ว่ะ" อนุวัฒน์ถามด้วยความโมโห"คือผมทำตามที่คุณอนุวัฒน์สั่งจริงๆ นะครับแต่ผมทราบมาว่าคุณทศราชผู้บริหารคนใหม่ของทางบริษัท KTK ได้ยื่นขอเสนอให้คุณลดาเป็นหุ้นส่วนโครงการใหม่ที่ทางบริษัทนั่นกำลังจะทำขึ้นในอีกไม่ช้าแถมยังให้เปอร์เซ็นที่สูงอีกด้วย เธอก็เลยเกิดลังเลกับข้อเสนอของเราแล้วตกลงเซ็นต์สัญญากับทางนู้นครับ" ดนัยตอบ อนุวัฒน์รู้สึกโกรธยิ่งขึ้นอีกเมื่อรู้ว่าเด็กรุ่นใหม่ที่พึ่งจะก้าวเข้าวงการของธุรกิจอย่างทศราชมาชิงตัดหน้าเขาไป เขาติดต่อกับคุณลดามาเป็นเวลานานมากกว่าคุณลดาจะยอมเปิดใจอ่านสัญญาซื้อขายกับเขา เสียทั้งเงินทั้งเวลทไปก็ไม่ใช้น้อยเพื่อซื้อใจฝั่งนั้นแต่กลับมารู้ทีหลังว่าสิ่งที่เ
ฉันค่อยๆ นั่งลงตามที่คุณทศสั่ง"คุณทศจะไม่กลับบริษัทหรอคะ" ฉันถาม"ผมหิวข้าวน่ะ" คุณทศตอบ ฉันตกใจรีบยกข้อมือขึ้นมาดูนาฬิกาทันทีถึงได้รู้ว่านี่มันเลยเวลาอาหารกลางวันของคุณทศมานานแล้ว"โอ้! จริงด้วย ดาวขอโทษนะคะที่ไม่ได้สั่งอาหารกลางวันมาให้คุณทศ" ฉันพูด"เราอยู่กันที่ร้านอาหารนะไม่ใช่บริษัท ถึงคุณจะสั่งอะไรมาให้ผมผมก็กินไม่ได้อยู่แล้วป่ะ" คุณทศตอบ"ดาวขอโทษค่ะ" ฉันมัวแต่ลนจนทำขายหน้าคุณทศอีกแล้ว"อยู่กับผม คุณไม่จำเป็นต้องขอโทษอะไรที่ไม่ได้ทำผิด เข้าใจไหม! ได้ยินทีไรล่ะรู้สึกหงุดหงิดทุกที" คุณทศพูด"ขอโท- " ฉันกำลังจะเผลอพูดคำนั้นออกมาอีกครั้งแล้วแต่ก็เจอเข้ากับสายตาที่มองมาอย่างดุๆ ก็เลยชะงักไปก่อน"เอ่อ~...รับทราบค่ะ" ฉันตอบ"แล้วนี่คุณไม่หิวหรือไง" คุณทศถาม"ดาวว่าจะกลับไปทานที่บริษัทค่ะ" ฉันตอบ"นี่มันจะบ่ายสองแล้วกว่าจะไปถึงบริษัทก็เกือบเลิกงานพอดี ผมทนไม่ไหวหรอกนะ" คุณทศตอบแล้วยกมือเรียกให้พนักงานมารับออร์เดอร์"คุณอยากกินอะไรก็สั่งเลยนะเดี๋ยวผมเลี้ยงเอง" คุณทศพูดแล้วลงไปดูเมนูอาหาร ฉันรับเมนูจากพนักงานมาเปิดดูก็ถึงกับอึ้งไปเลย ไม่รู้ทำไมอาหารทุกอย่างมันถึงได้แพงขนาดนี้ ราคาอาหาร
ฉันกับคุณทศมาถึงร้านได้ประมาณ 30 นาที แล้ว ฉันนั่งอยู่ข้างๆคุณทศได้แต่เงียบไม่กล้าพูดอะไร คุณทศสั่งน้ำผมไม้มาให้ฉันระหว่างที่นั่งรออยู่ ฉันก็เห็นว่ามีผู้หญิงกับผู้ชายคู่หนึ่งเดินตรงมาที่โต๊ะของพวกเราเมื่อพวกเขาเดินมาถึงคุณทศกับฉันก็รีบยืนขึ้นทันที "สวัสดีค่ะคุณทศราชรอนานไหมคะ" คุณลดาถาม "สวัสดีครับคุณลดา คุณเอกภพ รอไม่นานเลยครับพวกเราเองก็พึ่งมาถึงเหมือนกัน เชิญนั่งก่อนสิครับ" คุณทศพูดด้วยคำสุภาพน้ำเสียงทุ้มน่าฟังสุดๆ แต่เดี๋ยวนะรอไม่นานอะไรละนี่มันตั้งครึ่งชั่วโมงเลยนะ"คุณลดากับคุณเอกภพสั่งอะไรก่อนดีไหมครับ" "ไม่ดีกว่าครับพวกเราทานมาแล้ว" "เอ่อ! นี่คือคุณดวงดาวเลขาของผมครับ" ฉันรีบก้มหัวเพื่อแสดงความเคารพและกล่าวแนะนำตัวอย่างมีมารยาท "งั้นเรามาเข้าเรื่องกันเลยนะครับ" พอคุณทศเริ่มพูดฉันก็หยิบแผนโครงการออกมาส่งให้คุณลดากับคุณเอกภพทันที "โครงการนี้คาดว่าจะเปิดพร้อมเข้าอาศัยประมาณสิ้นปีนี้ครับ จะมีบ้านทั้งโครงการทั้งหมด 25 หลังใหญ่ 10 หลังและบ้านขนาดกลาง 15 หลังครับ ทางเราคาดการงบของโครงการประมาณไว้ไม่เกินหนึ่งพันล้านบาทครับ ตอนนี้จากการคำนวณของทางบริษัทบ้านหลังใหญ่เราจะได้กำไร
ฉันมาถึงบริษัทตั้งแต่เช้าและตอนนี้ก็กำลังนั่งคุณทศอยู่ที่ล็อบบี้ ฉันคิดมาตลอดทางว่าฉันจะทำทุกอย่างที่คุณชัชเคยทำให้ดีที่สุดเพื่อไม่ให้ผิดต่อความตั้งใจของเขา พอรถของคุณทศมาจอดที่ประตูหน้าบริษัทฉันก็รีบเดินไปรอรับเขา ตอนแรกฉันกะว่าจะช่วยเปิดประตูรถให้แต่ก็เข้าไปไม่ทันพี่รปภ.ที่ยืนรออยู่ ฉันเลยได้แต่ยืนมองดูด้วยความเสียดาย ทันทีที่คุณทศลงจากรถฉันก็ยื่นมืือไปขอกระเป๋าและเอกสารในมือเขาทันที คุณทศมองหน้าฉันแปปนึงก่อนที่จะส่งของทั้งหมดมาให้ ฉันรับมันแล้วเดินตามหลังคุณทศไปติดๆ ฉันเห็นคุณทศเหล่มองมาที่ฉันหลายครั้งสงสัยคงยังไม่ชินละมั้ง พอประตูลิฟต์เปิดออกฉันก็รีบเดินตามเข้าไปจนเผลอชนเข้ากับหลังของเขาจังๆ "ขอโทษค่ะ" ฉันพูดแล้วรีบถอยตัวหนีทันที"เอกสารที่ให้เตรียมพร้อมหรือยัง" คุณทศถาม"เรียบร้อยแล้วค่ะ" ฉันตอบ ฉันพูดจบคุณทศเดินออกไปเลย เขาเป็นคนที่เดินเร็วมากไม่รู้ว่าเป็นเพราะขายาวด้วยหรือเปล่าทำเอาฉันที่สับแทบตายก็ยังตามไม่ทันบวกกับมีรองเท้าส้นสูงด้วยแล้วนี่ยิ่งไปกันใหญ่"เดี๋ยวคุณเข้าไปคุยกับผมในห้องด้วยนะ" คุณทศพูดแล้วเปิดประตูเข้าไปห้อง ฉันวางของของคุณทศลงบนโต๊ะทำงานของตัวเองแล้วเดินอ้อมไป
หลังจากเลิกงานฉันก็ออกมานั่งรอแท็กซี่อยู่ที่หน้าบริษัท"ไปไหนครับ" พี่คนขับถาม"ไปตลาดคุ้มฟ้าค่ะ" ฉันตอบ "ได้ครับ" เค้าตอบฉันแล้วกดมิเตอร์ทันที พอมาถึงตลาดฉันก็รีบหยิบเงินส่งให้พี่คนขับแล้วลงจากรถเพื่อไปหาแม่กับป้าน้อยในตลาด ปกติหนึ่งวันของบ้านเราช่วงเช้้าแม่กับป้าน้อยจะทำขนมออกมาขายด้วยกัน พอสายๆ หน่อยคนเริ่มซาแล้วป้าน้อยก็จะเดินไปซื้อพวกของสดในตลาดเพื่อมาเตรียมไว้ทำพวกข้าวแกงมาขายตอนเย็น โชคดีที่ตลาดที่นี่ติดกับโรงงาน โรงเรียน วัดและก็ศาลเจ้าเลยทำให้มีคนเดินพลุกพล่านอยู่ตลอดเวลา ยิ่งถ้าเป็นวันพระพวกเราก็จะทำขนมและกับข้าวถุงมาแต่เช้าเลย ถึงอย่างนั้นก็ยังขายหมดเร็วมาก ส่วนตอนเย็นก็จะเน้นขายไปที่พนักงานโรงงานที่เลิกค่ำๆ หน่อยเพราะตลาดคุ้มฟ้าของเราจะเปิดตั้งแต่ตี 5 ครึ่งถึง 3 ทุ่มเลย ฉันเดินเข้าที่แผงของเราก็เห็นคนกำลังมาต่อคิวซื้อกับข้าวของเราเต็มเลย แม่ฉันจะคอยหยิบกับข้าวใส่ถุง รับเงินทอนเงินส่วนป้าน้อยก็ตักกับข้าวใส่ถุงมัดยางวางใส่ถาดไว้ให้แม่ ตอนนี้ทั้งสองคนดูยุ่งมากเลยฉันก็เลยรีบเข้าไปช่วยทันที"มาเลยจ้าๆ อร่อยทุกอย่างเลยนะคะ" ฉันพูดพร้อมกับเอากระเป๋าไปวางไว้ข้างหลังแผง "อ้าว เล