"หลังจากที่ผมเรียนจบผมตั้งใจจะมาช่วยงานที่บริษัท KTK แต่เนื่องจากยังไม่มีประสบการณ์อะไรทั้งนั้นผมเลยไม่อยากเข้ามาเป็นภาระคนอื่นเขาครับ อย่างที่คุณดาวเห็นบริษัทของเรามีโครงการหมู่บ้านอยู่ในหลายๆ จังหวัดแถมยังรับงานออกแบบและหลายๆ อย่างอีกมากมาย ผผมไม่มีประสบการณ์ด้านอสังหาริมทรัพย์มาก่นกลัวว่าถ้ามาทำงานเลยจะทำให้คุณเรวัตท่านเสียหน้าได้ ผมเลยตัดสินใจไปสมัครงานที่บริษัทอื่นดูก่อนกะไว้ว่าจะหาประสบการณ์สัก 2-3 ปีแล้วค่อยกลับมาทำงานที่บริษัทนี้ ผมยื่นใบสมัครไปมากกว่า 10 ที่แต่ก็ไม่มีที่ไหนอยากเอาคนไม่มีประสบการ์อย่างผมไปทำงานด้วยเลย ป้าของผมท่านก็เลยเป็นห่วงครับกลัวผมจะหมดกำลังใจก็เลยไปขอคำปรึกษาจากคุณเรวัต หลังจากที่คุณเรวัตท่านทราบเรื่องว่าผมเป็นคนว่างงานท่านเลยบอกให้ป้าพาผมไปพบท่านผมเพื่อพูดคุยกันและสุดท้ายผมเลยได้มาลงเอยอยู่ที่บริษัทนี้หลังจากจบมาหลายเดือน" คุณชัชพูด ฉันส่งยิ้มให้คุณชัช
"คุณป้าของคุณชัชน่ารักจังเลยนะคะท่านดูรักคุณชัชมากๆ เลย" ฉันพูด "ใช่ครับ แต่ว่าพอผมได้เข้ามาทำงานที่นี่แทนหัวหน้าทีมการตลาดคนเก่าเพราะตอนนั้นเธอลาคลอดพอดีแต่ว่าทุกคนในแผนกไม่พอใจมากเพราะคิดว่าผมใช้เส้นสายเข้ามา พวกเขาหาว่าผมเป็นลูกของภรรยาลับๆ ของคุณเรวัตบ้าง ไม่มีประสบการณ์อะไรสักอย่างบ้าง เอาเปรียบคนอื่นบ้างเพราะในขณะที่คนอื่นเขาต้องยื่นสมัครกันตั้งหลายครั้งก็ยังไม่ผ่านแต่ผมกลับได้รับตำแหน่งนั้นมาง่ายๆ โดยไม่ต้องสัมภาษณ์อะไรเลย ผมได้ยินฟังคนอื่นนินทาผมทุกวัน เวลาคุยงานกันคนในทีมพวกเขาก็ไม่ค่อยสนใจแผนงานของผมเท่าไหร่ บ้างทีผมยังไม่ได้เสนอเลยเขาก็ตัดสินใจโหวตเลือกแผนงานของคนอื่นไปแล้วแม้ผมจะเป็นหัวหน้าพวกเขาแต่ผมก็ทำอะไรไม่ได้เพราะมันคือเรื่องจริง ผมเข้ามาทำงานได้ที่เพราะคุณเรวัตท่านเอ็นดูผมจริงๆ แต่ผมไม่อยากทำให้คุณเรวัตกับป้าต้องมาเดือดร้อนและโดนต่อว่าเหมือนกับผม ผมเลยพยายามทำงานให้หนักขึ้นเรื่อยๆ อยากให้ทุกคนได้เห็นถึงศักยภาพและความสามารถของผมจริงๆ แต่ทุกคนอคติกับผมไปแล้วต่อให้ผมพยายามเท่าไหร่ก็ไม่เป็นผลหรอกครับ ไม่มีใครยอมรับผมในตัวผม ทุกคนคิดว่าที่คุณเรวัตท่านเอ็นดูผมเป็นเพราะป้าของผมเป็นเมียน้อยของคุณเรวัต ผมรู้สึกแย่นะที่ทำให้ป้าต้องถูกคนอื่นดูถูกแบบนั้นแต่ผมมันเป็นคนขี้ขลาดตั้งแต่เด็กๆ เลยไม่ได้ออกมาป้องปกศักดิ์ศรีของป้าหรือแก้ข่าวให้กับป้าเลย ป้าผมเองท่านก็คงรู้ว่าผมเป็นคนไม่สู้คนท่านเลยบอกให้ผมไม่ต้องใส่ใจเพราะมันไม่ใช่เรื่องจริง ถึงแม้จะรู้สึกแย่แต่ก็ให้ทนๆ ไปก่อนเพราะถ้าผมมีปัญหากับคนอื่นคุณเรวัตท่านจะผิดหวังเอาได้ จริงๆผมทำงานที่นี่มาได้ 2 ปีกว่าแล้วครับแต่เมื่อ 2 เดือนก่อน วันนั้นรุ่นพี่ในทีมเอาเอกสารกองโตมาวางลงบนโต๊ะของผมแล้วสั่งให้ผมทำแทนให้เขาหน่อยเพราะเขามีธุระด่วนต้องรีบไปทำแถมยังกำชับผมว่าจะต้องเสร็จภายในวันนี้เท่านั้นเพราะเขาต้องใช้พรีเซนต์ในการประชุมของวันถัดไป แต่ว่าครั้งนั้นผมปฏิเสธไปครับเพราะว่าผมมีงานที่ต้องเร่งส่งให้ทันภายในวันพรุ่งนี้เหมือนกันเขาเลยพูดว่าผมต่างๆ นาๆ **โธ่ อะไรว่ะแค่นี้ก็ช่วยไม่ได้อย่าลืมสิว่าพวกเราเป็นรุ่นพี่นายนะแค่ขอร้องให้ช่วยรับช่วงต่อแค่นี้ก็ทำให้ไม่ได้คนอย่างนายนี่มันพึ่งพาไม่ได้จริงๆ อย่าคิดนะว่าเป็นเด็กของท่านประธานแล้วพวกเราจะทำอะไรไม่ได้ แกมันก็แค่เด็กต่างจังหวัดที่ท่านประธานเมตตาให้ข้าวให้น้ำส่งเรียนจนจบแค่นั้นแหละโว้ย! โธ่เอ้ย...ขี้ค่ายังไงมันก็ยังเป็นขี้ค่าเหมือนกันแหละ...แต่เดี๋ยวนะ...โอ้ะ!...จะพูดว่าเมตตาก็คงไม่ได้เพราะทั้งข้าวทั้งน้ำที่พวกแกใช้กันอยู่ก็เป็นป้าแกนั่นแหละที่ใช้ตัวแลกมาด้วย ฮ่า ฮ่า ฮ่า...แบบนี้ท่านประธานจะเอ็นดูแกก็ไม่แปลกหรอกจริงไหม ฮ่า ฮ่า ฮ่า** ผมจำได้ดีว่าตอนนั้นผมโกรธมากจนลุกขึ้นยืนแล้วกะว่าวันนี้จะต้องพูดอะไรสักหน่อยแล้ว แต่อยู่ดีก็ได้ยินเสียงของผู้ชายคนนึงพูดขึ้นมาว่า **นั่นปากหรอที่พูดออกมา** ผมหันกลับไปดูก็เห็นผู้ชายรูปร่างสูงหล่อในชุดสูทสีน้ำเงินดำเดินเข้ามา เขาคือท่านประธานคนใหม่ของพวกเราเองครับ เขาเดินเข้ามาหาผมแล้วแล้วดันผมให้ไปยืนอยู่ด้านหลังเขา **กล้าดียังไงมาพูดถึงพ่อผมแบบนั้น พ่อผมรักและซื่อสัตย์กับแม่ผมดีแค่ไหนพวกคุณคงไม่รู้สินะครับ คุณคิดว่าถ้าผมเอาเรื่องนี้ขึ้นไปรายงานให้พ่อผมทราบ พวกคุณจะยังมีหน้ามาทำงานในบริษัทนี้ได้อีกไหม งานที่พวกคุณได้รับมอบหมายมันเป็นหน้าที่ของพวกคุณเองยังจะเอาไปโยนให้รุ่นน้องทำอีก ทำงานน้อยแต่รับเงินเดือนเต็มไม่อายผีส่างกันบ้างหรือไงและอย่าคิดนะว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพ่อผมท่านไม่รับรู้ถึงสิ่งที่พวกคุณทำกัน หน้าไม่อาย ถ้าไม่ใช่เพราะป้าของชัชเขาขอไว้ว่าไม่ให้พ่อผมจัดการกับพวกคุณพวกคุณคงได้ออกจากที่นี่ไปนานแล้ว ป้าสายใจแกใจดีมากแม้พวกคุณจะดูถูกเขาก็ตามแต่เพราะเขาไม่อยากให้หลานชายต้องเดือดร้อนไปมากกว่านี้แกเลยเลือกที่อดทนอยู่เงียบมาตลอด แกแค่อยากให้หลานชายแกทำงานอยู่ที่นี่ได้อย่างสบายใจแกถึงขั้นไปอ้อนวอนขอร้องพ่อผมให้ปล่อยผ่านเรื่องนี้ไป คนดี แบบนี้น่ะหรอที่พวกคุณเอามาพูดเล่นกันอย่างสนุกปาก ถ้าไม่รู้อะไรก็อยู่เงียบๆ ไปดีกว่า ผมหวังว่าพวกคุณจะกล่าวคำขอโทษต่อชัช ต่อพฤติกรรมอันไร้มารยาทของพวกคุณที่ได้กระทำไปเพราะถ้าเมื่อไหร่ที่ผมรับตำแหน่งต่อจากพ่อผมแล้วผมจะไม่ใจดีกับคนไร้มารยาทแบบนี้แน่** พอเขาพูดจบก็หันมาตบไหล่ผมเบาๆ แแล้วเดินออกไป ถึงแม้ว่าหลังจากนั้นทุกคนยังคงนินทาผมเหมือนเดิมแต่ไม่มีใครกล้าพูดต่อหน้าผมอีก ท่านประธานเห็นว่าผมรู้สึกอึดอัดใจอยู่ไม่น้อยก็เลยย้ายผมให้ขึ้นมาทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยชั่วคราวครับ" คุณชัชเล่าไปยิ้มไปเหมือนเป็นการบอกว่านับถือในตัวคุณทศราชจริงๆ "ดีจังเลยนะคะที่คุณชัชมีผู้บริหารที่เอ็นดูและก็มีป้าที่รักคุณชัชมากขนาดนี้ ฉันละอยากจะเห็นผู้หญิงแกร่งที่ทุ่มเทแรงกายและแรงใจเพื่อเด็กคนนึงทั้งที่ไม่ใช้ลูกของตัวได้มากขนาดนี้จังเลย" ฉันพูด "คุณดาวก็เจอแล้วนิครับ" คุณชัชตอบ ฉันทำหน้างงอีกครั้ง ฉันจะไปเจอคุณป้าของคุณชัชได้ยังไงก็ในเมื่อฉันพึ่งจะรู้จักคุณชัชวันนี้เองนะ "ฮ่า ฮ่า ฮ่าคุณดาวนี่ทำหน้าตลกดีนะครับ ป้าของผมก็...ผู้หญิงที่สวมชุดแม่บ้านทำความสะอาดบริษัทอยู่ที่ชั้น 1 ไงครับ" คุณชัชตอบ "ฮะ!?" ฉันนี่อึ้งไปเลยคนในบริษัทนี่คิดได้ยังไงว่าป้าของคุณชัชเป็นภรรยาเก็บของคุณเรวัตถึงแม้เธอจะดูดีไม่น้อยถ้าเทียบกับคนในวัยนี้แต่คุณเรวัตก็ระดับผู้บริหารเลยนะ ถ้าเขาจะมีเมียน้อยจริๆ งก็คงไม่มีทางให้มาทำงานในตำแหน่งแม่บ้านหรอก ฉันก้มหน้าเล็กน้อยแล้วยิ้มแห้งๆ ส่วนคุณชัชเองก็หัวเราะกับท่าทางของฉัน หน้าห้องประธาน ฉันและคุณชัชกลับมานั่งที่โต๊ะแล้วทำงานกันอย่างตั้งใจ จู่ๆ โทรศัพท์ที่โต๊ะของฉันก็ดังขึ้น ฉันรีบหยิบขึ้นมารับสายทันที "ดวงดาวพูดค่ะ" ฉันพูดกับคนในสาย "คุณกับคุณชัชเข้ามาพบผมหน่อย" พูดจบสายก็ตัดไปเลย ฉันบอกคุณชัชตามคำสั่งที่ได้รับมอบหมายแล้วจากนั้นเขาก็เดินไปที่ประตูเคาะ 3 ครั้งรอจนคนข้างในอนุญาตแล้วจึงเปิดเข้าไป "คุณทศมีอะไรให้พวกเรารับใช้หรอคะ" ฉันถาม "พวกคุณนั่งก่อนสิ" คุณทศพูด ฉันกับคุณชัชนั่งลงที่เก้าอี้ข้างหน้าเขา "ท่านประธานมีอะไรหรือเปล่าครับ" คุณชัชถาม "คุณดาวทำงานวันแรกเป็นยังไงบ้าง" คุณทศถาม "ก็โอเคนะคะ ฉันกำลังเรียนรู้ทุกอย่างจากคุณชัชแล้วแต่ยังคงต้องใช้เวลาปรับตัวอยู่บ้างแต่คุณทศไม่ต้องห่วงเลยนะคะ ฉันจะพยายามทำงานของตัวเองให้ออกมาดีที่สุดค่ะ" ฉันตอบ "ก็ดี งั้นเดี๋ยวคุณช่วยไปเตรียมเอกสารสัญญาธุรกิจไว้ให้ผม 4 ฉบับนะ ของผม 1 ฉบับ ของคุณ 1 ฉบับ ของบริษัท 1 ฉบับและสำหรับคู่ค้าที่เราจะไปเซ็นต์สัญญาด้วยพรุ่งนี้อีก 1 ฉบับ คุณต้องเตรียมตัวเด็ดขาด ส่วนเรื่องสถานที่กับเวลาผมจะส่งไปให้ที่หลัง" คุณทศพูด ฉันตอบรับคำสั่งของคุณทศทันที "ส่วนคุณ...คุณชัชคุณส่งงานที่จำเป็นทุกอย่างให้กับคุณดาวให้เสร็จภายในวันนี้แล้วเก็บของกลับไปที่ฝ่ายการตลาดเหมือนเดิมซะ" คุณทศพูด ฉันตกใจเล็กน้อยที่จู่ๆ คุณทศก็สั่งให้คุณชัชไปทำงานที่แผนกเดิม คุณทศก็รู้ดีหนิว่าคนในแผนกนั้นไม่มีใครชอบคุณชัชเลยแล้วทำไมเขายังทำแบบนี้อีก มันไม่ดีกับคุณชัชเลยนะที่ต้องไปทนอยู่กับคนแบบนั้น "เอ่อ...ทำไมละครับท่านประธาน" คุณชัชถาม "ก็ตอนนั้นผมให้คุณมาช่วยเพราะผมยังไม่มีผู้ช่วยไงแต่ตอนนี้มีแล้วก็ไม่ต้องลำบากคุณมาทำให้อีกแล้วล่ะ" คุณทศตอบ "ไม่ลำบากเลยครับ" คุณชัชพูด "คุณชัช คุณตั้งใจเรียนการตลาดมาเพื่อทำอะไร...คุณตั้งใจเรียนเพราะอยากคิดแผนการตลาดดีๆ และช่วยเหลือบริษัทนี้ให้ได้มากที่สุดไม่ใช่หรอ คุณอยากตอบแทนพ่อผมถึงจะถูกต่อว่านินทาลับหลังกี่ครั้งคุณก็ยังทำงานออกมาได้อย่างดีเยี่ยมทุกครั้งไม่ใช่หรอแล้วคุณจะมาทำงานที่ตัวเองไม่ถนัดไปเพื่ออะไร" คุณทศพูดจนคุณเงียบไปเลย "คุณอยากจัดเอกสาร เสิร์ฟข้าว ชงกาแฟให้ผมจริงๆหรอ ถ้าคุณทำเพราะอยากตอบแทนที่ผมช่วยคุณ คุณไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้คุณเพราะแค่คุณคิดแผนการตลาดดีๆ มาเสนอผมแค่นั้นมันก็พอแล้ว ถ้าคุณมีอะไรต้องการคำปรึกษาหรือว่าจะแค่อยากขึ้นมาหาผมละก็...คุณสามารถมาหาผมได้ตลอดอยู่แล้วเพราะผมอนุญาตให้คุณมาเข้ามาหาผมได้โดยไม่ต้องนัดหรือรายงานคุณดาวก่อนล่วงหน้าเลย" คุณทศพูด "ขอบคุณครับท่านประธานแต่คุณดาวเธอพึ่งมา ผมว่าให้ผมอยู่ช่วยท่านประธานไปอีกสักพักเถอะนะครับ ท่านประธานเองก็พึ่งจะมารับตำแหน่งได้แค่ 2 เดือนคงมีอะไรหลายๆ อย่างที่ผมอาจจะช่วยได้ ท่านประธานให้ผมอยู่ช่วยเถอะนะครับ" คุณชัชตอบด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน สำหรับเขาที่นี่คงมีแค่คุณทศเท่านั้นที่พอจะเป็นความสบายใจของเขาได้ "พึ่งมาก็เรียนรู้ได้ อย่าทำอะไรที่มันเหนื่อยเกินไปเลยนะคุณชัช ผมไม่หวังให้คุณต้องแบกรับทุกอย่างไว้กับตัวเองหรอกนะ คุณรู้สึกผิดได้ คุณรู้สึกท้อได้คำว่าอยากตอบแทนบุญคุณมันไม่จำเป็นต้องลำบากขนาดตัวเองขนาดนั้นหรอก พ่อผมเองเขาก็คงไม่ต้องการให้คุณฝืนตัวเองมากแบบนี้หรอกเชื่อผมสิ ผมว่าคุณตอบแทนผมด้วยการเต็มที่กับงานที่ผมสั่งอย่างเดียวก็พอแล้ว" คำพูดของคุณทศทำให้ฉันมองเขาต่างออกไปอยู่บ้าง จากตอนแรกที่ฉันนึกว่าเขาจะเป็นพวกคนแปลกๆ ที่มีโลกส่วนตัวสูงเข้าถึงได้ยากเย็นชาสุดๆ แต่พอได้มองไปนานๆ ก็รู้สึกว่าจิตใจของเขาหล่อขึ้นมากกว่าเดิมอีกเป็นพันเท่าเลย ฉันเผลอยิ้มและมองคุณทศสักพัก จู่ๆก็นึกขึ้นได้ว่าไม่ใช่เรื่องที่ควรคิดจึงรีบสลัดความคิดบ้าๆ นี้ออกแล้วหันมาโฟกัสที่งานแทน คุณทศบอกให้ฉันออกไปทำงานก่อนและเขาก็นั่งพูดคุยกับคุณชัชอยู่อีกสักพักใหญ่เลย "คุณดาวครับ" ฉันเงยหน้ามองคุณชัช "คะ" ฉันตอบ "งานทั้งหมดผมส่งให้คุณดาวไปตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วส่วนอันนี้เป็นข้อมูลส่วนตัวของท่านประธานที่คุณดาวควรรู้ไว้นะครับ" คุณชัชพูดแล้วส่งสมุดโน๊ตเล่มนึงมาให้ฉัน "ผมทำงานเสร็จหมดแล้วหวังว่าเมื่อไรที่คุณดาวมีปัญหาคุณดาวจะนึกถึงผมเป็นคนแรกนะครับ...ยินดีที่ได้ร่วมงานนะครับ" คุณชัชยื่นมือมาหาฉัน ฉันลุกขึ้นจับมือกับคุณชัช "ดาวก็เหมือนกันค่ะ ดาวขอให้คุณชัชทำงานที่ตัวเองชอบให้เต็มที่แสดงฝีมือของตัวเองออกมาให้ได้มากที่สุด คนเก่งๆ แบบคุณชัชมันต้องมีสักวันที่คนพวกนั้นจะต้องยอมรับและยกย่องคุณชัชอย่างไร้ข้อกังขาได้แน่และก็ถ้าเหงาเมื่อไหร่ก็ขึ้นมาหาดาวได้ตลอดเลยนะ" ฉันตอบ คุณชัชตอบรับแล้วยิ้มให้ฉันก่อนจะเดินออกไป ฉันหวังว่าเขาจะได้ทำงานที่ตัวเองถนัดและเปล่งประกายในเร็ววัน เขาเป็นคนดีมากๆ ในสายตาฉันถึงแม้จะถูกมองว่าใช้เส้นสายเข้ามาแต่ถ้ามีความสามารถยังไงซะสักวันนึงเขาจะต้องเป็นที่ยอมรับของทุกคนแน่ๆ1 สัปดาห์ต่อมาฉัันยังคงมาทำงานตามปกติเหมือนทุกวันแต่ที่ดูจะมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างก็คือการทำงานของฉันดูราบลื่นขึ้นมากและได้รับคำชมจากเพื่อนร่วมงานอยู่บ่อยๆ แถมพนักงานหลายๆ คนก็เริ่มให้ความการเคารพฉันในฐานะเลขาของคุณทศบ้างแล้วจากที่ตอนแรกดูจะตึงๆ และไม่ชอบฉันอย่างเห็นได้ชัด"คุณดาวหลังจากที่ทีมการตลาดได้โฆษณาออกไปผลตอบรับของโครงการหมู่บ้านที่พัทยาเป็นยังบ้าง" คุณทศถาม"ดีมากเลยค่ะคุณทศ ตอนนี้ลูกค้ากำลังให้ความสนใจโครงการของเราเป็นอย่างมากแล้วก็มีสปอนเซอร์รายใหญ่ติดต่อมาหลายบริษัทเลยค่ะ" "งั้นก็ดีแล้ว คุณไปทำงานต่อเถอะ" คุณทศพูดจบฉันก็เดินออกจากห้องทำงานของเขาแล้วมานั่งทำงานของตัวเองต่อเหมือนเดิม พอใกล้ถึงเวลาอาหารกลางวันฉันก็กดสั่งอาหารมาไว้ให้เขาตามปกติก่อนจะลงไปทานมื้อกลางวันของตัวเองที่โรงอาหารโรงอาหารทุกคนนั่งทานอาหารกลางวันและพูดคุยกันถึงปัญหาต่างๆ ในแต่ละวันกันอย่างสนุกสนานมีทั้งเรื่องรถติดบ้าง ทะเลาะกับสามีบ้าง มีปัญหาหากับเพื่อนร่วมงานบ้าง"น้องดาวเย็นนี้ว่างไหมจ๊ะ" พี่เจนถามก็ว่างนะคะพี่เจน พอดีดาวไม่ได้มีงานด่วนอะไรด้วย" ฉันตอบงั้นน้องดาวไปกับพวกเราไหม" พี่เจนถาม"พวกพี
"อะไรนะ!!" เสียงของอนุวัฒน์ดังขึ้นเมื่อลูกน้องคนสนิทมารายงานข่าวเรื่องที่ดิน ที่เขาเคยยื่นขอเสนอไปแต่ก็ถูกตัดหน้าไปก่อนอย่างหน้าเสียดาย"คึ...คือคุณลดาเธอบอกว่าเธอนำที่ดินไปลงทุนกับบริษัท KTK แล้วครับ" ดนัยตอบ (ลูกน้องของอนุวัฒน์)"เป็นแบบนี้ได้ยังไงกัน ก็ในเมื่อเราติดต่อพูดคุยกับคุณลดาไว้ตั้งแต่หลายเดือนแล้วนิว่าเราจะขอซื้อที่ดินตรงนั้นของเธอด้วยเงินสด ทำไมเธอถึงยังปฎิเสธเราได้อีก นี่แกประสานงานยังไงกันแน่ว่ะ" อนุวัฒน์ถามด้วยความโมโห"คือผมทำตามที่คุณอนุวัฒน์สั่งจริงๆ นะครับแต่ผมทราบมาว่าคุณทศราชผู้บริหารคนใหม่ของทางบริษัท KTK ได้ยื่นขอเสนอให้คุณลดาเป็นหุ้นส่วนโครงการใหม่ที่ทางบริษัทนั่นกำลังจะทำขึ้นในอีกไม่ช้าแถมยังให้เปอร์เซ็นที่สูงอีกด้วย เธอก็เลยเกิดลังเลกับข้อเสนอของเราแล้วตกลงเซ็นต์สัญญากับทางนู้นครับ" ดนัยตอบ อนุวัฒน์รู้สึกโกรธยิ่งขึ้นอีกเมื่อรู้ว่าเด็กรุ่นใหม่ที่พึ่งจะก้าวเข้าวงการของธุรกิจอย่างทศราชมาชิงตัดหน้าเขาไป เขาติดต่อกับคุณลดามาเป็นเวลานานมากกว่าคุณลดาจะยอมเปิดใจอ่านสัญญาซื้อขายกับเขา เสียทั้งเงินทั้งเวลทไปก็ไม่ใช้น้อยเพื่อซื้อใจฝั่งนั้นแต่กลับมารู้ทีหลังว่าสิ่งที่เ
ฉันค่อยๆ นั่งลงตามที่คุณทศสั่ง"คุณทศจะไม่กลับบริษัทหรอคะ" ฉันถาม"ผมหิวข้าวน่ะ" คุณทศตอบ ฉันตกใจรีบยกข้อมือขึ้นมาดูนาฬิกาทันทีถึงได้รู้ว่านี่มันเลยเวลาอาหารกลางวันของคุณทศมานานแล้ว"โอ้! จริงด้วย ดาวขอโทษนะคะที่ไม่ได้สั่งอาหารกลางวันมาให้คุณทศ" ฉันพูด"เราอยู่กันที่ร้านอาหารนะไม่ใช่บริษัท ถึงคุณจะสั่งอะไรมาให้ผมผมก็กินไม่ได้อยู่แล้วป่ะ" คุณทศตอบ"ดาวขอโทษค่ะ" ฉันมัวแต่ลนจนทำขายหน้าคุณทศอีกแล้ว"อยู่กับผม คุณไม่จำเป็นต้องขอโทษอะไรที่ไม่ได้ทำผิด เข้าใจไหม! ได้ยินทีไรล่ะรู้สึกหงุดหงิดทุกที" คุณทศพูด"ขอโท- " ฉันกำลังจะเผลอพูดคำนั้นออกมาอีกครั้งแล้วแต่ก็เจอเข้ากับสายตาที่มองมาอย่างดุๆ ก็เลยชะงักไปก่อน"เอ่อ~...รับทราบค่ะ" ฉันตอบ"แล้วนี่คุณไม่หิวหรือไง" คุณทศถาม"ดาวว่าจะกลับไปทานที่บริษัทค่ะ" ฉันตอบ"นี่มันจะบ่ายสองแล้วกว่าจะไปถึงบริษัทก็เกือบเลิกงานพอดี ผมทนไม่ไหวหรอกนะ" คุณทศตอบแล้วยกมือเรียกให้พนักงานมารับออร์เดอร์"คุณอยากกินอะไรก็สั่งเลยนะเดี๋ยวผมเลี้ยงเอง" คุณทศพูดแล้วลงไปดูเมนูอาหาร ฉันรับเมนูจากพนักงานมาเปิดดูก็ถึงกับอึ้งไปเลย ไม่รู้ทำไมอาหารทุกอย่างมันถึงได้แพงขนาดนี้ ราคาอาหาร
ฉันกับคุณทศมาถึงร้านได้ประมาณ 30 นาที แล้ว ฉันนั่งอยู่ข้างๆคุณทศได้แต่เงียบไม่กล้าพูดอะไร คุณทศสั่งน้ำผมไม้มาให้ฉันระหว่างที่นั่งรออยู่ ฉันก็เห็นว่ามีผู้หญิงกับผู้ชายคู่หนึ่งเดินตรงมาที่โต๊ะของพวกเราเมื่อพวกเขาเดินมาถึงคุณทศกับฉันก็รีบยืนขึ้นทันที "สวัสดีค่ะคุณทศราชรอนานไหมคะ" คุณลดาถาม "สวัสดีครับคุณลดา คุณเอกภพ รอไม่นานเลยครับพวกเราเองก็พึ่งมาถึงเหมือนกัน เชิญนั่งก่อนสิครับ" คุณทศพูดด้วยคำสุภาพน้ำเสียงทุ้มน่าฟังสุดๆ แต่เดี๋ยวนะรอไม่นานอะไรละนี่มันตั้งครึ่งชั่วโมงเลยนะ"คุณลดากับคุณเอกภพสั่งอะไรก่อนดีไหมครับ" "ไม่ดีกว่าครับพวกเราทานมาแล้ว" "เอ่อ! นี่คือคุณดวงดาวเลขาของผมครับ" ฉันรีบก้มหัวเพื่อแสดงความเคารพและกล่าวแนะนำตัวอย่างมีมารยาท "งั้นเรามาเข้าเรื่องกันเลยนะครับ" พอคุณทศเริ่มพูดฉันก็หยิบแผนโครงการออกมาส่งให้คุณลดากับคุณเอกภพทันที "โครงการนี้คาดว่าจะเปิดพร้อมเข้าอาศัยประมาณสิ้นปีนี้ครับ จะมีบ้านทั้งโครงการทั้งหมด 25 หลังใหญ่ 10 หลังและบ้านขนาดกลาง 15 หลังครับ ทางเราคาดการงบของโครงการประมาณไว้ไม่เกินหนึ่งพันล้านบาทครับ ตอนนี้จากการคำนวณของทางบริษัทบ้านหลังใหญ่เราจะได้กำไร
ฉันมาถึงบริษัทตั้งแต่เช้าและตอนนี้ก็กำลังนั่งคุณทศอยู่ที่ล็อบบี้ ฉันคิดมาตลอดทางว่าฉันจะทำทุกอย่างที่คุณชัชเคยทำให้ดีที่สุดเพื่อไม่ให้ผิดต่อความตั้งใจของเขา พอรถของคุณทศมาจอดที่ประตูหน้าบริษัทฉันก็รีบเดินไปรอรับเขา ตอนแรกฉันกะว่าจะช่วยเปิดประตูรถให้แต่ก็เข้าไปไม่ทันพี่รปภ.ที่ยืนรออยู่ ฉันเลยได้แต่ยืนมองดูด้วยความเสียดาย ทันทีที่คุณทศลงจากรถฉันก็ยื่นมืือไปขอกระเป๋าและเอกสารในมือเขาทันที คุณทศมองหน้าฉันแปปนึงก่อนที่จะส่งของทั้งหมดมาให้ ฉันรับมันแล้วเดินตามหลังคุณทศไปติดๆ ฉันเห็นคุณทศเหล่มองมาที่ฉันหลายครั้งสงสัยคงยังไม่ชินละมั้ง พอประตูลิฟต์เปิดออกฉันก็รีบเดินตามเข้าไปจนเผลอชนเข้ากับหลังของเขาจังๆ "ขอโทษค่ะ" ฉันพูดแล้วรีบถอยตัวหนีทันที"เอกสารที่ให้เตรียมพร้อมหรือยัง" คุณทศถาม"เรียบร้อยแล้วค่ะ" ฉันตอบ ฉันพูดจบคุณทศเดินออกไปเลย เขาเป็นคนที่เดินเร็วมากไม่รู้ว่าเป็นเพราะขายาวด้วยหรือเปล่าทำเอาฉันที่สับแทบตายก็ยังตามไม่ทันบวกกับมีรองเท้าส้นสูงด้วยแล้วนี่ยิ่งไปกันใหญ่"เดี๋ยวคุณเข้าไปคุยกับผมในห้องด้วยนะ" คุณทศพูดแล้วเปิดประตูเข้าไปห้อง ฉันวางของของคุณทศลงบนโต๊ะทำงานของตัวเองแล้วเดินอ้อมไป
หลังจากเลิกงานฉันก็ออกมานั่งรอแท็กซี่อยู่ที่หน้าบริษัท"ไปไหนครับ" พี่คนขับถาม"ไปตลาดคุ้มฟ้าค่ะ" ฉันตอบ "ได้ครับ" เค้าตอบฉันแล้วกดมิเตอร์ทันที พอมาถึงตลาดฉันก็รีบหยิบเงินส่งให้พี่คนขับแล้วลงจากรถเพื่อไปหาแม่กับป้าน้อยในตลาด ปกติหนึ่งวันของบ้านเราช่วงเช้้าแม่กับป้าน้อยจะทำขนมออกมาขายด้วยกัน พอสายๆ หน่อยคนเริ่มซาแล้วป้าน้อยก็จะเดินไปซื้อพวกของสดในตลาดเพื่อมาเตรียมไว้ทำพวกข้าวแกงมาขายตอนเย็น โชคดีที่ตลาดที่นี่ติดกับโรงงาน โรงเรียน วัดและก็ศาลเจ้าเลยทำให้มีคนเดินพลุกพล่านอยู่ตลอดเวลา ยิ่งถ้าเป็นวันพระพวกเราก็จะทำขนมและกับข้าวถุงมาแต่เช้าเลย ถึงอย่างนั้นก็ยังขายหมดเร็วมาก ส่วนตอนเย็นก็จะเน้นขายไปที่พนักงานโรงงานที่เลิกค่ำๆ หน่อยเพราะตลาดคุ้มฟ้าของเราจะเปิดตั้งแต่ตี 5 ครึ่งถึง 3 ทุ่มเลย ฉันเดินเข้าที่แผงของเราก็เห็นคนกำลังมาต่อคิวซื้อกับข้าวของเราเต็มเลย แม่ฉันจะคอยหยิบกับข้าวใส่ถุง รับเงินทอนเงินส่วนป้าน้อยก็ตักกับข้าวใส่ถุงมัดยางวางใส่ถาดไว้ให้แม่ ตอนนี้ทั้งสองคนดูยุ่งมากเลยฉันก็เลยรีบเข้าไปช่วยทันที"มาเลยจ้าๆ อร่อยทุกอย่างเลยนะคะ" ฉันพูดพร้อมกับเอากระเป๋าไปวางไว้ข้างหลังแผง "อ้าว เล