เช้าวันใหม่ โรเซ่รีบทำงานให้เสร็จอย่างรวดเร็ว เธอแทบจะอดใจรอไม่ไหวที่จะกลับไปยังห้องสมุดแห่งความฝันอีกครั้ง หัวใจของเธอเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น เธอจินตนาการถึงการพบกับซูโฮอีกครั้ง และหวังว่าวันนี้พวกเขาจะได้พูดคุยกันมากขึ้น
เมื่อไปถึงห้องสมุด โรเซ่ก็รีบสอดส่ายสายตาหาซูโฮ แต่คราวนี้เขาไม่ได้นั่งอยู่ที่เดิม โรเซ่รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็พยายามไม่คิดมาก เธอเดินไปยังที่นั่งประจำของเธอและหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน
ลุงวูฮยอนสังเกตเห็นอาการของโรเซ่ เขาหัวเราะเบา ๆ และเดินมาทักทาย
"ดูเหมือนว่าหนูจะมองหาใครบางคนอยู่นะวันนี้ หรืออยากได้หนังสือพิเศษที่หาอ่านยาก" ลุงวูฮยอนแซว
โรเซ่ยิ้มขวยเขิน "เปล่าค่ะลุง! แค่อยากอ่านหนังสือสนุก ๆ ไปนั่งอ่านเหมือนทุกวันเท่านั้นเอง"
ลุงวูฮยอนหัวเราะอย่างเอ็นดู พร้อมกับแนะนำหนังสือเล่มใหม่ให้โรเซ่ โรเซ่รับหนังสือมาและเดินไปยังที่นั่งประจำของเธอ แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังคงรู้สึกเหงาเล็กน้อยที่ไม่ได้เห็นซูโฮอยู่ตรงนั้น
หลังจากอ่านหนังสือไปได้สักพัก โรเซ่ก็รู้สึกถึงเงาของคนเดินเข้ามาใกล้ ๆ เธอเงยหน้าขึ้น และพบว่าซูโฮกำลังยืนอยู่ตรงหน้าเธอด้วยรอยยิ้มที่สดใส
"ขอโทษที่มาช้านะครับ วันนี้มีธุระที่ต้องทำก่อน พอดีว่าผมจำได้ว่าคุณน่าจะมา ก็เลยรีบมาที่นี่ทันทีเลย" ซูโฮกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความห่วงใย
"ไม่เป็นไรเลยค่ะ ฉันแค่คิดว่าอาจจะไม่ได้เจอคุณวันนี้แล้ว" โรเซ่ตอบด้วยรอยยิ้มกว้าง
เมื่อโรเซ่และซูโฮนั่งอยู่ที่มุมห้องสมุด พวกเขาก็หยิบหนังสือเล่มโปรดของตัวเองออกมา และเริ่มพูดคุยกันอย่างออกรส พวกเขาไม่ได้พูดถึงแต่เรื่องหนังสือเท่านั้น แต่เริ่มพูดถึงเรื่องราวในชีวิตจริง ความคิด ความฝัน และความเชื่อที่แต่ละคนมี
"คุณเคยอ่านเรื่อง 'อัศวินแห่งแสง' ไหมครับ? มันเป็นเรื่องที่ทำให้ผมนึกถึงตอนที่ผมยังเป็นเด็ก ผมเคยฝันอยากเป็นอัศวินที่คอยปกป้องคนอื่น" ซูโฮเล่า
"อ่านค่ะ! ฉันก็ชอบเรื่องนั้นมากเหมือนกัน อัศวินที่คอยช่วยเหลือผู้คนด้วยความเสียสละ แต่บางครั้งก็รู้สึกว่าในโลกความจริงมันไม่ได้ง่ายแบบนั้น" โรเซ่ตอบ
"ผมรู้สึกแบบนั้นเหมือนกันครับ การเป็นอัศวินในชีวิตจริงมันอาจจะยากกว่าที่เราคิด แต่ผมคิดว่ามันไม่ได้หมายถึงการช่วยเหลือคนอื่นเสมอไป แต่มันคือการทำให้ตัวเองเป็นคนที่ดีขึ้นในทุกๆ วัน" ซูโฮกล่าว
โรเซ่มองตาซูโฮด้วยความชื่นชม "ใช่ค่ะ ทุกการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ที่เราทำก็เหมือนกับการเดินทางที่ยิ่งใหญ่"
ซูโฮเริ่มรู้สึกถึงความเชื่อมโยงระหว่างเขากับโรเซ่ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น พวกเขาไม่ได้แค่แบ่งปันเรื่องราวในหนังสือ แต่ยังพูดถึงความเชื่อและแนวคิดที่แต่ละคนมี
"คุณคิดยังไงกับการที่เราต้องทำสิ่งที่ไม่อยากทำเพื่อคนอื่นบ้างครับ" ซูโฮถามด้วยความอยากรู้
โรเซ่ถอนหายใจ "มันยากนะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันขัดกับความต้องการของตัวเอง... แต่บางทีการทำเพื่อคนอื่น ก็ทำให้เรารู้สึกเติมเต็มและเติบโตได้มากกว่าที่เราคิด"
"ครับ ผมคิดว่าเราอาจจะไม่ต้องเป็นอัศวินที่ใส่เกราะทองคำก็ได้ แต่การทำสิ่งดี ๆ ให้กับคนรอบข้าง มันก็ทำให้เรารู้สึกมีคุณค่าในชีวิต" ซูโฮกล่าว
โรเซ่เริ่มรู้สึกถึงการเปิดเผยทางอารมณ์ระหว่างพวกเธอ และทั้งคู่ก็เริ่มแลกเปลี่ยนเรื่องราวชีวิตส่วนตัวกันมากขึ้น
"ในชีวิตจริงค่ะ ฉันเคยคิดว่าการมีความฝันอาจจะไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะทุกคนต้องทำตามหน้าที่ที่ได้รับ แต่เมื่อได้มาอ่านหนังสือเหล่านี้... ฉันเริ่มรู้สึกว่าความฝันนั้นสำคัญมาก" โรเซ่สารภาพ
"ผมเข้าใจครับ ความฝันมันไม่ใช่แค่การมีเป้าหมายในชีวิต แต่มันคือสิ่งที่ทำให้เรามีแรงผลักดันในการเดินต่อไป ถ้าเราไม่มีความฝัน เราก็เหมือนเดินทางโดยไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน" ซูโฮตอบ
**มิตรภาพที่เติบโต...สู่ความหมายของชีวิต:**
การสนทนาของพวกเขาก็ดำเนินไปเรื่อย ๆ และทั้งสองก็เริ่มรู้จักกันมากขึ้น เรื่องราวส่วนตัวและความเชื่อของแต่ละคนค่อย ๆ ถูกเปิดเผยออกมา ทั้งในแง่ของประสบการณ์ที่เคยผ่านมาและความคิดที่พวกเขามี
"แล้วคุณล่ะครับ? มีอะไรที่คุณอยากจะทำในอนาคตไหม" ซูโฮถาม
โรเซ่คิดอยู่ครู่หนึ่ง "จริง ๆ แล้ว ฉันอยากทำงานที่ช่วยพัฒนาชุมชน ช่วยคนที่ไม่มีโอกาสเหมือนที่ฉันเคยเป็นมาก่อน ตอนเด็ก ๆ ฉันเคยเห็นผู้หญิงที่ต้องทำงานหนักเพื่อเลี้ยงดูครอบครัว มันทำให้ฉันรู้ว่าไม่ใช่ทุกคนที่มีชีวิตที่ง่ายดาย"
"มันทำให้ผมรู้สึกประทับใจในตัวคุณมากเลยนะครับ การที่คุณมีความตั้งใจที่จะช่วยเหลือผู้อื่นในแบบของตัวเอง" ซูโฮกล่าวด้วยความชื่นชม
"ขอบคุณค่ะ ฉันว่าเราไม่จำเป็นต้องเป็นอัศวินในนิยายหรอกค่ะ แต่ถ้าเราสามารถทำให้โลกนี้ดีขึ้นได้แม้จะเป็นเพียงเล็กน้อย มันก็พอแล้ว" โรเซ่ตอบด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความหวัง
การสนทนาของพวกเขาไม่ได้เป็นเพียงการพูดคุยกันถึงเรื่องหนังสือ แต่เป็นการพูดคุยกันถึงความฝันและความหมายของชีวิต การเปิดเผยความรู้สึกในเชิงลึกทำให้พวกเขาใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น
"พรุ่งนี้คุณว่างไหมครับ เราจะได้มานั่งอ่านหนังสือด้วยกันอีก" ซูโฮถาม
"แน่นอนค่ะ ฉันรอคอยวันพรุ่งนี้อยู่แล้ว" โรเซ่ตอบด้วยความตื่นเต้น
**ความสุข...และครอบครัวที่แสนอบอุ่น:**
เมื่อถึงเวลาที่ห้องสมุดต้องปิด ลุงวูฮยอนก็เดินเข้ามาเตือนโรเซ่ที่กำลังนอนอ่านหนังสืออย่างเพลิดเพลิน
"ถึงเวลาที่ห้องสมุดต้องปิดแล้วจ้ะ โรเซ่ ไว้ค่อยมาใหม่พรุ่งนี้นะ" ลุงวูฮยอนกล่าว
หลังจากที่พวกเขาออกจากห้องสมุด โรเซ่ก็กลับบ้านด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความสุขและความตื่นเต้น เธอรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของเธอกับซูโฮเริ่มเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น และหวังว่าการสนทนาและการแบ่งปันความรู้สึกเหล่านี้จะทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาลึกซึ้งยิ่งขึ้น
โรเซ่กลับมาถึงบ้านในเวลาค่ำ เธอพบว่าทุกคนในครอบครัวกำลังนั่งดูทีวีและพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน เมื่อเห็นเธอเดินเข้ามา ทุกคนก็หันมามองด้วยความสนใจ
"กลับมาแล้วเหรอโรเซ่" แม่ซูฮีถามพร้อมรอยยิ้ม
"ใช่ค่ะ กลับมาแล้วค่ะ" โรเซ่ตอบด้วยรอยยิ้มสดใส เธอวางกระเป๋าลงข้างตัวและนั่งลงข้าง ๆ ซูจิน น้องสาวของเธอ
"พี่ไปห้องสมุดและไปเจอพี่ซูโฮมาอีกแล้วใช่ไหมคะ? เล่าให้หนูฟังหน่อยสิ ว่าเป็นยังไงบ้าง" ซูจินถามด้วยน้ำเสียงซุกซน
โรเซ่หัวเราะเบา ๆ "ใช่จ้ะ พี่ไปห้องสมุดและเจอซูโฮมา พวกเราเลือกหนังสืออ่านและก็คุยกันหลายเรื่องเลย วันนี้เขาแนะนำหนังสือเล่มหนึ่งให้พี่ มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับเด็กหนุ่มที่ข้ามมิติไปในโลกที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตในตำนาน น่าสนใจมากเลยนะ"
"แล้วลูกชอบไหมล่ะ โรเซ่" พ่อมินซูถามด้วยความสนใจ
"ชอบค่ะพ่อ" โรเซ่ตอบอย่างตื่นเต้น "พี่ซูโฮเขาบอกว่าถ้าลูกสนใจเขาจะแนะนำตอนต่อ ๆ ไปให้ด้วย เขาดูรู้เรื่องหนังสือนิยายแนวแฟนตาซีเยอะมากเลย"
"ดีแล้วล่ะลูก ได้เพื่อนที่มีความชอบเหมือนกัน ลูกจะได้มีเรื่องสนุก ๆ ให้พูดคุยกัน" แม่ซูฮีกล่าวด้วยรอยยิ้ม
"แล้วพี่รู้สึกยังไงบ้างคะ เวลาคุยกับซูโฮ" ซูจินถามด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย
โรเซ่หยุดคิดเล็กน้อยก่อนจะตอบ "พี่รู้สึกดีนะ ซูจิน ซูโฮเขาเป็นคนที่คุยสนุก เขาดูมีความรู้และมุมมองที่น่าสนใจมาก พี่รู้สึกว่าเราเข้ากันได้ดี และเวลาคุยกันก็ไม่ต้องรู้สึกเกร็งอะไรเลย"
"แบบนี้นี่เอง" ซูจินยิ้มและแซวเบา ๆ "พี่โรเซ่จะมีคนรู้ใจแล้วหรือเปล่าเนี่ย"
โรเซ่หัวเราะขำ "ยังหรอก ซูจิน เราเป็นแค่เพื่อนกันค่ะ" แต่ในใจเธอก็แอบคิดว่าความรู้สึกที่เริ่มต้นจากมิตรภาพนี้ อาจจะนำพาเธอไปสู่บางสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นได้ในอนาคต
"แม่ก็หวังว่าลูกจะได้เจอคนดี ๆ ที่เข้าใจและพร้อมจะอยู่เคียงข้าง ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือมากกว่านั้นก็ตาม ถ้าเขาเป็นคนที่จริงใจและใส่ใจลูก แม่ก็ยินดี" แม่ซูฮีกล่าวด้วยความอ่อนโยน
"ใช่แล้วล่ะ โรเซ่ สำคัญที่ว่าเขาเป็นคนที่ทำให้ลูกมีความสุข และเป็นคนที่ทำให้ลูกได้เรียนรู้และเติบโตไปด้วยกัน" พ่อมินซูกล่าวเสริม
โรเซ่ยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อได้ยินคำพูดจากพ่อและแม่ "ขอบคุณมากนะคะพ่อกับแม่ พี่จะจำไว้ค่ะ"
หลังจากพูดคุยถึงเรื่องซูโฮไปสักพัก ซูจินก็เปลี่ยนหัวข้อการสนทนา "แล้วพี่โรเซ่ ที่ห้องสมุดมีนิยายเรื่องอื่น ๆ ที่พี่สนใจอีกไหม"
"มีสิจ๊ะ พี่ได้เลือกมาอีกสองสามเล่ม เป็นแนวที่พี่ชอบ ทั้งแฟนตาซีและเรื่องรักสมัยใหม่ พี่ว่าน้องเองก็น่าจะชอบนะ" โรเซ่ตอบ
"ถ้าอย่างนั้นวันหลังพี่ให้ซูจินยืมอ่านได้ไหมคะ" ซูจินถามด้วยความตื่นเต้น
"ได้สิจ๊ะ น้องรัก" โรเซ่ตอบพร้อมลูบหัวน้องสาวเบา ๆ "พี่เชื่อว่าซูจินจะต้องสนุกกับมันแน่ ๆ"
ครอบครัวนั่งคุยกันอย่างอบอุ่นและสนุกสนานในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ ทั้งเรื่องนิยายและเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนั้น ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่โรเซ่รู้สึกว่าไม่ว่าเธอจะได้พบกับเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นหรือได้พบเจอใครก็ตาม ครอบครัวก็จะยังคงเป็นที่ที่เธอสามารถกลับมาได้เสมอ
โรเซ่นั่งอยู่ในห้องทำงานส่วนตัว บนโต๊ะทำงานเต็มไปด้วยหนังสือที่ซูโฮเคยอ่านและเขียนไว้ เธอมักจะเปิดดูมันในบางครั้ง เพื่อค้นหาคำตอบที่เขาเคยทิ้งไว้ในทุกบรรทัด ทุกตัวอักษรที่เขาเขียนดูเหมือนยังคงมีชีวิตและพลังงานบางอย่างหลงเหลืออยู่ แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในโลกนี้แล้ว แต่มันก็เหมือนกับเขายังคอยมอบคำแนะนำให้กับเธออยู่เสมอ"ซูโฮ...ขอบคุณที่ยังคงอยู่ในหัวใจของฉันเสมอ" โรเซ่พูดเบา ๆ กับตัวเอง ขณะที่เธอเปิดอ่านบทหนึ่งจากหนังสือที่เขาชื่นชอบ ซึ่งมันเต็มไปด้วยคำพูดที่เต็มไปด้วยความหวังและความรัก "ความฝันไม่มีวันสิ้นสุด"เมื่อเวลาผ่านไป โรเซ่เริ่มรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในตัวเอง เธอเริ่มเปิดใจให้กับสิ่งใหม่ ๆ หลังจากที่เธอได้พอใจกับการทำงานและการสร้าง Aura Seoul จนกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก แต่บางครั้ง ความเหงาก็ทำให้เธอรู้สึกถึงความว่างเปล่าในใจ เมื่อเธอกลับบ้านในค่ำคืนที่เงียบสงบ เธอไม่อาจหลีกหนีความรู้สึกของการสูญเสียซูโฮ แม้เธอจะพยายามปล่อยให้เขาอยู่ในความทรงจำ แต่ความรู้สึกที่มีต่อเขากลับยังคงแน่นแฟ้น**การพบเจอ...และการเริ่มต้นใหม่:**จนกระทั่งวันหนึ่ง เธอได้พบกับยุคยองเป็นครั้งที่สองในงานเลี้
โรเซ่ยืนอยู่ท่ามกลางแสงไฟสว่างไสวในห้องทำงานของ Aura Seoul รอยยิ้มแห่งความภาคภูมิใจปรากฏบนใบหน้า เธอสัมผัสได้ถึงความสำเร็จที่ผ่านเข้ามาในชีวิต เสียงปรบมือและคำชื่นชมจากงานเปิดตัวคอลเลกชันใหม่ยังคงดังก้องอยู่ในหู"เธอรู้ไหม โรเซ่ ฉันคิดว่าเธอสามารถทำได้ดีมาก" แคลร์ เพื่อนสนิทและผู้ช่วยคนเก่งของเธอ เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความยินดี"จริงเหรอคะ" โรเซ่ยิ้มกว้าง พลางยกมือขึ้นแตะหน้าอกข้างซ้าย "ฉันเองก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมาถึงจุดนี้ได้""ความสามารถและความคิดสร้างสรรค์ของเธอคือสิ่งที่วงการนี้ต้องการ ไม่มีใครเหมือนเธอหรอก" จูฮี เพื่อนอีกคนเสริมด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจโรเซ่หัวเราะเบา ๆ"ขอบคุณนะ แต่ทุกครั้งที่ฉันต้องเผชิญหน้ากับการเปิดตัวใหม่ ๆ มันก็เหมือนกับการโดนตีในท้อง แต่ถ้าฉันไม่ทำแบบนี้ ฉันคงไม่รู้จักตัวเองว่าความสามารถที่แท้จริงของฉันคืออะไร" โรเซ่กล่าวด้วยแววตาที่มุ่งมั่น"ฉันก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกันนะ" จูฮีกล่าว "แต่เราจะอยู่ข้างเธอเสมอ สู้ ๆ นะ โรเซ่"โรเซ่รู้สึกอบอุ่นใจจากคำพูดของเพื่อน ๆ ซึ่งเป็นกำลังใจสำคัญในช่วงเวลาที่สำคัญแบบนี้**ข่าวลือ...และการเผชิญหน้
ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบของห้องสมุดแห่งความฝัน โรเซ่พบว่ามันแตกต่างจากครั้งก่อน ๆ ทุกครั้งที่เธอมาที่นี่ มักจะมีแสงอ่อน ๆ สะท้อนผ่านหน้าต่างบานใหญ่ พร้อมเสียงเพลงเบา ๆ ที่ชวนให้รู้สึกอบอุ่น แต่ครั้งนี้ มันกลับดูหม่นหมองเล็กน้อย คล้ายกับการบอกลาที่กำลังใกล้เข้ามาซูโฮยืนอยู่ตรงมุมหนึ่งของห้อง เขายิ้มให้เธอเหมือนทุกครั้ง แต่โรเซ่รู้สึกได้ถึงความเศร้าที่แฝงอยู่ในดวงตาของเขา เธอเดินเข้าไปใกล้ ก่อนจะหยุดยืนตรงหน้าเขา"ผมดีใจที่คุณมาที่นี่อีกครั้ง" เสียงของซูโฮนุ่มนวลเหมือนเคย"ฉันจะไม่มาได้ยังไงล่ะ" โรเซ่ตอบพร้อมยิ้ม แม้ในใจเธอจะรู้สึกหนักอึ้ง "คุณเป็นคนสำคัญสำหรับฉันนี่นา"ซูโฮยิ้มเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า"คุณเองก็เป็นคนสำคัญสำหรับผม แต่ถึงเวลาแล้วที่คุณต้องเดินไปข้างหน้า ด้วยตัวของคุณเอง" ซูโฮกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความห่วงใยโรเซ่เม้มริมฝีปาก เธอรู้ว่านี่คือบทสนทนาสุดท้ายของพวกเขา แต่เธอกลับไม่อยากยอมรับความจริง"ฉันไม่อยากจากคุณไป..." เธอพูดเสียงเบา น้ำเสียงเต็มไปด้วยความรู้สึกที่อัดแน่นซูโฮก้าวเข้ามาใกล้ จับมือเธอไว้อย่างอ่อนโยน"ผมไม่อยากจากคุณเหมือนกัน แต่คุณมีชีวิตที่ต้องใช้ในโ
หลังจากให้คำสัญญา โรเซ่รู้สึกถึงความหนักอึ้งที่เคยเกาะกุมจิตใจเริ่มเบาบางลง เธอมองซูโฮที่ยังคงยิ้มให้เธอ รอยยิ้มนั้นแม้จะแฝงไปด้วยความเศร้า แต่กลับเต็มไปด้วยความจริงใจ"คุณเคยคิดไหมว่าทำไมฉันถึงได้พบคุณที่นี่" โรเซ่ถามพร้อมกับสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม"ผมคิดว่าเราคงถูกกำหนดให้พบกัน" ซูโฮตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล "บางทีการพบกันของเราอาจเป็นบทเรียนสำหรับทั้งคุณและผม""บทเรียน?" โรเซ่ทวนคำ เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย"ใช่ครับ บทเรียนที่ทำให้คุณเรียนรู้ที่จะรักตัวเอง และทำให้ผมได้เรียนรู้ที่จะปล่อยวาง" ซูโฮอธิบายโรเซ่นิ่งเงียบ ดวงตาของเธอจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของซูโฮ เธอเริ่มเข้าใจความหมายที่เขาพยายามจะบอก"แต่ฉันยังไม่อยากให้คุณไป" เสียงของเธอสั่นเครือเล็กน้อย"โรเซ่" ซูโฮพูดชื่อเธอด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น "ทุกสิ่งในโลกนี้มีเวลาของมัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือความเศร้า สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้จักยอมรับและปล่อยวาง""คุณพูดเหมือนง่าย" เธอพึมพำ"มันไม่ง่ายหรอกครับ" ซูโฮยอมรับ "แต่คุณเป็นคนที่เข้มแข็ง ผมเชื่อว่าคุณทำได้"โรเซ่เม้มริมฝีปากแน่น เธอไม่รู้ว่าจะตอบกลับเขาอย่างไรดี น้ำตาเริ่มไหลลงมาช้า ๆ"ฉันไม่เคยคิดเ
หลังจากให้คำสัญญา โรเซ่รู้สึกถึงความหนักอึ้งที่เคยเกาะกุมจิตใจเริ่มเบาบางลง เธอมองซูโฮที่ยังคงยิ้มให้เธอ รอยยิ้มนั้นแม้จะแฝงไปด้วยความเศร้า แต่กลับเต็มไปด้วยความจริงใจ"คุณเคยคิดไหมว่าทำไมฉันถึงได้พบคุณที่นี่" โรเซ่ถามพร้อมกับสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม"ผมคิดว่าเราคงถูกกำหนดให้พบกัน" ซูโฮตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล "บางทีการพบกันของเราอาจเป็นบทเรียนสำหรับทั้งคุณและผม""บทเรียน?" โรเซ่ทวนคำ เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย"ใช่ครับ บทเรียนที่ทำให้คุณเรียนรู้ที่จะรักตัวเอง และทำให้ผมได้เรียนรู้ที่จะปล่อยวาง" ซูโฮอธิบายโรเซ่นิ่งเงียบ ดวงตาของเธอจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของซูโฮ เธอเริ่มเข้าใจความหมายที่เขาพยายามจะบอก"แต่ฉันยังไม่อยากให้คุณไป" เสียงของเธอสั่นเครือเล็กน้อย"โรเซ่" ซูโฮพูดชื่อเธอด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น "ทุกสิ่งในโลกนี้มีเวลาของมัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือความเศร้า สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้จักยอมรับและปล่อยวาง""คุณพูดเหมือนง่าย" เธอพึมพำ"มันไม่ง่ายหรอกครับ" ซูโฮยอมรับ "แต่คุณเป็นคนที่เข้มแข็ง ผมเชื่อว่าคุณทำได้"โรเซ่เม้มริมฝีปากแน่น เธอไม่รู้ว่าจะตอบกลับเขาอย่างไรดี น้ำตาเริ่มไหลลงมาช้า ๆ"ฉันไม่เคยคิดเ
แสงแดดอ่อน ๆ ยามเช้าของกรุงโซลทอประกายผ่านม่านสีขาว ส่องกระทบใบหน้าของโรเซ่ที่กำลังนอนหลับอยู่บนเตียง เธอค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างช้า ๆ รอยยิ้มบาง ๆ ปรากฏบนริมฝีปาก เมื่อนึกถึงความฝันอันแสนหวานที่เพิ่งผ่านพ้นไป เธอลุกขึ้นจากเตียงและเดินไปเปิดม่านหน้าต่าง กวาดสายตามองทิวทัศน์ของเมืองที่ค่อย ๆ ตื่นขึ้นจากนิทรา"วันนี้ต้องเป็นวันที่ดีแน่นอน" โรเซ่พูดกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่สดใสเมื่ออาบน้ำแต่งตัวเสร็จ โรเซ่ก็เดินลงมายังห้องครัว กลิ่นหอมของอาหารเช้าลอยมาเตะจมูก เธอพบว่าคุณพ่อกำลังตักข้าวใส่ชาม ส่วนคุณแม่กำลังจัดวางเครื่องเคียงต่าง ๆ บนโต๊ะอาหาร มินจี น้องสาวของเธอนั่งรออยู่ด้วยท่าทางสดใส"เช้านี้ดูมีพลังจังเลยนะลูก" คุณแม่ทักทายด้วยรอยยิ้มโรเซ่ยิ้มกว้าง "แน่นอนค่ะ เมื่อคืนได้นอนเต็มอิ่มและมีเรื่องอยากเล่าให้ทุกคนฟังด้วย"มินจีที่กำลังตักกิมจิใส่จาน เงยหน้าขึ้นมาพูดแซว"จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับแฟชั่นโชว์ที่ปารีสอีกหรือเปล่า พี่นี่คงไม่หยุดพูดเรื่องนั้นแน่" มินจีกล่าวด้วยน้ำเสียงขี้เล่นโรเซ่หัวเราะเบา ๆ "แน่นอนสิ! นี่มันเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตฉันเลยนะ มินจี เธอควรภูมิใจกับพี่สาวคนนี้บ้าง"ทุกคนหั