แชร์

บทที่ 115

ผู้เขียน: มู่โร่ว
จ้านเฉิงอิ้นยังคงจัดเตรียมงานหลังสงคราม เถียนฉินก็มาพร้อมกับกระดาษมากมาย

เขารีบพลิกดูกระดาษนั้นอย่างรวดเร็ว กระดาษแต่ละแผ่นล้วนเป็นความกังวลที่เย่มู่มู่มีต่อเขา

นางกังวลมาก...

กลัวว่าด่านเจิ้นจะถูกโจมตี!

กลัวว่าเขาจะตายในสนามรบ!

กลัวว่าเหล่าประชาชนที่นางช่วยเหลือมานานจะต้องตายภายใต้ดาบของศัตรูในที่สุด!

โชคดีที่ด่านเจิ้นกวนชนะ!

จ้านเฉิงอิ้นถอดชุดเกราะที่เปื้อนเลือดออก แล้วมอบให้เถียนฉิน ก่อนจะรีบเดินไปที่ห้องโถงหารือ

มีกระดาษอยู่รอบ ๆ แจกัน

เย่มู่มู่เขียนตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น

เธอกังวลตลอดทั้งวัน!

สิ่งที่เขียนมากที่สุดในกระดาษก็คือเธอจะช่วยเหลือพวกเขาอย่างไร มีสิ่งใดที่เธอจะทำเพื่อเขาได้บ้าง

เธอขอให้พวกเขาอดทนไว้ ไม่ว่ายังไงก็ต้องปกป้องด่านเจิ้นกวนเอาไว้ให้ได้!

เมื่ออาวุธชุดที่สองมาถึง

ไม่ต้องพูดถึงกองทัพทั้งสองแคว้นของแคว้นฉู่และแคว้นฉี รวมถึงเผ่าหมาน ก็มีความมั่นใจว่าจะสามารถเอาชนะได้

โชคดีที่เขาไม่ทำให้เธอผิดหวัง!

จ้านเฉิงอิ้นหยิบพู่กันออกมาเขียนในจดหมาย “ท่านเทพ แคว้นฉู่แคว้นฉีถอยทัพไปแล้ว กองทัพตระกูลจ้านชนะ!”

ขณะที่เย่มู่มู่กำลังกังวลมากที่สุด กระดาษใบหนึ่งก็ตกลง
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 116

    แม้แต่มั่วฝานก็แสดงได้ยอดเยี่ยมมากในวันนี้เขาไม่รู้วิธีใช้ดาบม่อเตา ดังนั้นจึงง้างธนูทดกำลังยืนอยู่บนกำแพงเมือง สังหารคนไปหลายสิบคน“ข้าสังหารคนหลายสิบคน ความรู้สึกที่ฆ่าคน ก็ไม่มีอะไรเกินไปกว่านี้!”“จ้านเฉิงอิ้น เจ้าบอกว่าเจ้าจะให้ข้าวสิบหมี่ต่อการสังหารหนึ่งคน เจ้าต้องให้ข้าวสารข้าสามถุง แป้งสาลีหนึ่งถุง”“ข้าอยากจะเอากลับเมืองหลวงด้วย ให้ไทเฮาได้ดู ข้าสามารถลงสนามรบสังหารศัตรู สร้างความดีความชอบในสนามรบได้!”เฉินขุยตบไหล่เขาแล้วพูดว่า “นี่ วันนี้เจ้าทำได้ดีมาก”“แน่นอน!”“ดื่มกับพี่ชายสักอึก วันนี้พวกเราไม่เมาไม่กลับ!”เพื่อบรรเทาความกดดัน ทหารสิบนายจึงเล่นเกมดื่มเหล้า!จ้านเฉิงอิ้นดื่มเบียร์ลงท้องไปสองสามแก้ว แล้วเดินออกจากห้อง มาที่กำแพงเมืองมีทหารจำนวนมากที่ยังปฏิบัติหน้าที่ พวกเขาไม่สามารถดื่มสุราได้ แต่ยังมีพี่น้องที่ดีนำเนื้อมาให้พวกเขาพวกเขากินเนื้อไปพร้อมกับหัวเราะ“วันนี้ข้าสังหารคนไปกว่ายี่สิบคน ได้ข้าวสารสามถุงร้อยชั่ง แป้งสาลีหนึ่งร้อยชั่ง ไว้รอให้กองทัพศัตรูพ่ายแพ้ถอยทัพไปแล้ว ข้าจะกลับบ้านไปพร้อมกับอาหาร แล้วสู่ขอหญิงสาวที่งดงามที่สุดในหมู่บ้าน!”“แม่ข

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 117

    จ้านเฉิงอิ้นอ่านประโยคที่ว่าแผ่นดินหัวเซี่ยรวมเป็นหนึ่งแผ่นดินหัวเซี่ยถูกแบ่งแยกออกจากกันมานานแล้ว หลายร้อยปีมีการต่อสู้ไม่หยุด ไม่เคยมีใครเอ่ยถึงแนวคิดรวมเป็นหนึ่งนี้ขึ้นมา!แม้แต่ในสมัยยุคชุนชิว ก็ยังถูกแบ่งออกเป็นชนเผ่ามากมาย มีความขัดแย้งกันหากท่านเทพต้องการให้เขารวมหัวเซี่ยเป็นหนึ่งเดียวไม่ว่าเส้นทางนี้จะยากลำบากสักเพียงใด เขาก็จะไปสู้สุดชีวิต พยายามทำให้ความปรารถนาของนางสำเร็จเขากดพู่กันลงบนกระดาษขาวอย่างหนัก “ได้!”เย่มู่มู่เห็นกระดาษที่จ้านเฉิงอิ้นส่งกลับมา มือทั้งสองถือกระดาษเอาไว้ แล้วยิ้มด้วยความพอใจดูสิ จ้านเฉิงอิ้นเห็นด้วยแล้ว!เมื่อมีการสนับสนุนจากแม่ทัพหนุ่ม ความปรารถนาที่อยากจะรวมหัวเซี่ยเป็นหนึ่งของเธอก็ใกล้เข้ามาหนึ่งก้าวแล้วเธอต้องการเก็บกระดาษแผ่นนี้ไว้อย่างดีใช้มันเป็นสิ่งกระตุ้นตัวเองและจ้านเฉิงอิ้นเธอเขียนจดหมายหาจ้านเฉิงอิ้นอีกว่า “พรุ่งนี้จะส่งเสบียงไปอีกชุดหนึ่ง ตอนนี้คาดว่าน่าจะได้ประมาณสามร้อยชั่ง”“มีอาหารม้าแบบหยาบและอาหารม้าแบบข้นสามคันรถ เจ้าเตรียมกระท่อมรองรับไว้ให้พร้อม”“ยังมีชามแสตนเลสอีกสามแสนใบ ติดประกาศแจ้งชาวบ้านให้นำเครื่องล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 118

    “ฉันได้ยินมาว่าเธอหาคนไปทำร้ายญาติพี่น้องเหรอ? ดูความสามารถเธอสิ ถ้าอยู่บ้านใหญ่ของฉันละก็ ฉันจะตีเธอจนลงจากเตียงไม่ได้เลย!”“เด็กผู้หญิงอย่างเธอ มีสิทธิ์อะไรมายึดทรัพย์สินของครอบครัว? อยากให้ย่า ให้ลุงใหญ่ป้าสะใภ้ใหญ่และอาเล็กทั้งครอบครัวถูกไล่ไปอยู่ข้างถนนเหรอ ทำไมเธอถึงได้เลือดเย็นขนาดนี้?”“บ้านเธออยู่ไหน? ฉันจะเอาสีแดงไปสาดบ้านเธอ!”เมื่อเห็นข้อความนี้ เย่มู่มู่ก็ขมวดคิ้วอย่างแน่นเธอโกรธมาก!ตระกูลเย่ทำตัวเป็นปีศาจอีกแล้ว ไม่บรรลุเป้าหมายต่อให้ตายก็จะไม่ยอมเลิกราสินะ!ครั้งนี้พวกเขาคิดจะก่อปัญหาแบบไหนอีก?เลขาธิการฟู่ลี่กรุ๊ปโทรหาเธอ“คุณหนูเย่ ทางบริษัทหวังว่าคุณจะจัดการชีวิตส่วนตัวให้ดี เพราะข้อพิพาทของคุณกับทรัพย์สินของครอบครัว ได้กลายเป็นประเด็นร้อนแล้ว”“ตอนนี้ ความคิดเห็นทั้งหมดในเว็บไซต์ทางการต่างก็เป็นคำด่าทอ ราคาหุ้นของฟู่ลี่กรุ๊ปลดลงสี่เปอร์เซ็นต์”“ถ้าคุณไม่จัดการเรื่องนี้ให้ดี คณะกรรมการจะบังคับให้คุณลงจากที่นั่งผู้ถือหุ้นรายใหญ่”พอพูดจบ อีกฝ่ายก็วางสายโทรศัพท์ไปอย่างไม่เกรงใจเย่มู่มู่โกรธมาก เธอเปิดเฟซบุ๊ก ก็เห็นคำค้นหายอดนิยม#เย่มู่มู่ทำร้ายคน##เย่

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 119

    ทนายสวีรู้กระแสบนอินเทอร์เน็ตแล้วเขาไม่คิดว่าเย่มู่มู่ที่ดูผอมและอ่อนแอจะกล้าหาคนมาทุบตีญาติของตัวเองตำรวจยังติดตามและตรวจสอบทรัพย์สินด้วยแม้ว่านิติบุคคลหมู่บ้านจะไม่ไล่เธอออกไป แต่สถานการณ์ถูกกระตุ้น การวิพากษ์วิจารณ์บนอินเทอร์เน็ตที่มีต่อเธอ ก็ไม่เป็นผลดีต่อบริษัทเขาและเย่มู่มู่พบกันที่หน้าสถานีตำรวจเขาบอกกับเย่มู่มู่ว่า “ทุกอย่างยังมีผม เรื่องที่ไม่มีหลักฐานก็เงียบไปก่อน!”เธอพยักหน้า “ตกลง!”ทั้งสองเข้าไปในสถานีตำรวจด้วยกันญาติหลายคนของตระกูลเย่ต้องการพุ่งเข้าไปตบตีเย่มู่มู่ทันทีที่พวกเขาเห็นเธอแต่ก็ถูกตำรวจขวางเอาไว้ร้องตะโกนเสียงดังจนสุดแรงในสถานีตำรวจ “เธอมันหมาป่าไร้หัวใจ กล้าดียังไงไปจ้างคนมาทุบตีพวกเรา?”“ตอนพ่อเธอยังอยู่ พวกเราอยากได้เงิน เขาก็ไม่กล้าขัดแม้แต่คำเดียว แต่นี่เธอ จะเอาบ้านเอารถกลับคืนไปยังไม่พอ ยังกล้ามาตีพวกเราอีก”“วันนี้ถ้าเธอไม่เอาหุ้นในฟู่ลี่กรุ๊ปที่ถืออยู่ คฤหาสน์ ตึก และรถ...ออกมา เรื่องนี้ไม่จบง่าย ๆ แน่!”ทนายความขวางอยู่ตรงหน้าเธอ แล้วพูดคำที่ชอบธรรม“คุณตำรวจ คนพวกนี้กำลังขู่กรรโชกทรัพย์ ส่วนบ้านรถของพวกเขาที่ยึดคืน ลูกความของผม

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 120

    “ถ้าเรื่องนี้กระแสตีกลับ ราคาหุ้นก็จะสูงขึ้นด้วย หากพวกเขารู้จักการสร้างกระแส ก็จะเก็บปริมาณการเข้าชมได้”“ทางฝั่งตำรวจ ทางที่ดีควรจะออกมาประกาศ อธิบายความจริง!”“ครับ ให้เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของผมเถอะ!”“แต่เรื่องที่คนตระกูลเย่สร้างเรื่องทำลายชื่อเสียงของคุณ รวมถึงราคาหุ้นฟู่ลี่กรุ๊ปที่ตกลงไปมาก”“จะฟ้อง หรือควบคุมตัวไว้!”เธอไม่อยากเจอพวกเขาอีกแล้ว!“ควบคุมตัวไว้เกรงว่าจะยุ่งยากหน่อย เพราะพวกเขาได้รับบาดเจ็บ ปรับ หรือฟ้องพวกเขาก็ได้ แต่เวลาจะนานหน่อย”“ไม่เป็นไร ฉันมีเวลาเหลือเฟือ!”เธอฝากเรื่องหลังจากนี้ไว้กับทนายสวีเมื่อเดินออกจากสถานีตำรวจ นักข่าวและสื่อมวลชนจำนวนนับไม่ถ้วนก็มาล้อมอยู่หน้าประตูหลังจากเห็นเย่มู่มู่ออกมา พวกเขาก็เฮโลกันเข้ามา!ถ่ายรูปเธอซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของฟู่ลี่กรุ๊ปฟู่ลี่กรุ๊ปเป็นหนึ่งในบริษัทจดทะเบียนที่ใหญ่ที่สุดในเซี่ยงไฮ้ และเป็นบริษัทชั้นนำที่มีเกณฑ์มาตรฐานในท้องถิ่นในช่วงปีแรก ๆ พ่อของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเซี่ยงไฮ้อยู่หลายปี แต่ต่อมาก็ถูกเบียดตกลงมา อยู่ในยี่สิบอันดับแรก ตั้งแต่พ่อของเธอจากโลกนี้ไป โลกภายนอกต่างสงสัยเกี่ยวกั

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 121

    นางหย่อนกระดาษแผ่นหนึ่งให้จ้านเฉิงอิ้น บอกให้เขาเตรียมตัวรับเสบียงสี่ล้านชั่งชามแสตนเลสสองชั้นสามแสนชิ้นอาหารม้าข้นและอาหารม้าหยาบสองแสนสี่หมื่นชั่งประจวบเหมาะพอดี หัวหน้าฝ่ายขายโรงงานสิ่งทอส่งผ้าใบกันน้ำ ผ้าใบและผ้าสีล้วนมาให้มีผ้าสี่สิบตัน เธอชำระเงินส่วนที่เหลือหลังจากการซื้อขายชุดนี้สำเร็จ ก็นับว่าเป็นอันเสร็จสิ้นเนื่องจากเย่มู่มู่มีกำลังซื้อมาก โรงงานสิ่งทอที่จวนจะล้มละลาย จนสามารถดำเนินการได้ตามปกติอย่างวันนี้เจ้าของก็ไม่อยากขายโรงงานอีก เพราะการซื้อขายในสองสามครั้งนี้ ทำให้เขาได้เงินมาถึงหลายล้านเงินส่วนแบ่งที่ได้จากการขายของหัวหน้าฝ่ายขาย ก็สามารถซื้อรถดี ๆ ได้แล้วคันหนึ่งเขาไม่เต็มใจที่จะสูญเสียลูกค้าใหญ่อย่างเย่มู่มู่ไป“คุณหนูเย่ คุณยังมีความต้องการอะไร พวกเราสามารถผลิตให้ได้ทุกอย่าง!”เย่มู่มู่มีความต้องการจริงเธอรู้ว่าทหารของด่านเจิ้นกวน ไม่มีค่ายพัก ไม่มีกระโจมพวกเขานอนราบกับพื้น กลางคืนนอนบนทราย เอาของใช้ทำเป็นหมอนด่านเจิ้นกวนเวลากลางวันร้อนมาก กลางคืนหนาว อุณหภูมิกลางวันกับกลางคืนต่างกันสิ้นเชิงพวกเขาไม่มีแม้แต่เตียง ไม่รู้จะผ่านพ้นฤดูหนาวอย่

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 122

    กำจัดศัตรูให้รางวัลเป็นที่นาและบ้านเรือน…ฟ้าประทานภัยแล้ง ที่นาปลูกเสบียงอาหารไม่ได้ บ้านเรือนมีประโยชน์อะไร หนำซ้ำในหมู่บ้านตายหมดไม่เหลือคนแล้วจ้านเฉิงอิ้นให้รางวัลเป็นข้าวสารกับแป้ง สำหรับทหารน้อยนั่นเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ที่สุดตอนนี้มีเสบียงอาหารทุกคน ได้หลับนอนบนเสบียงอาหารทุกวัน และยังต้องคอยป้องกันถูกขโมยถ้าหากมีกระโจม ความเป็นส่วนตัวที่เป็นขั้นพื้นฐานก็จะได้รับการรับประกันเปี้ยนจื่อผิงและหลี่จงหยวนแจ้งนายกองด้วยความดีใจ ว่าให้มารับกระโจมไปทหารส่วนที่เหลือไปรับเหล็กเส้น เพื่อประกอบกระโจม!เมื่อทหารน้อยรู้ว่าจะมีกระโจม ต่างดีใจเป็นอย่างยิ่ง…กระโจมเชียวนะ~มีเพียงระดับนายกองพันขึ้นไป จึงจะมีสิทธิได้พักอาศัยพวกเขาได้ใช้แล้วเช่นกันยามประกอบกระโจมล้วนกระตือรือร้นเป็นอย่างยิ่ง!ผ้าใบกันน้ำและผ้าใบเพิ่งรับออกไป ผ้าสีล้วนก็ร่วงตามมาทันทีมีตั้งหลายร้อยผืน!จ้านเฉิงอิ้นเรียกเฉินขุยลากไปที่จวน จะทำเป็นเสื้อผ้า!ส่วนหญิงปักผ้าชาวฉู่ที่มาขอลี้ภัย มีอาจารย์ปักผ้าคอยสอนพวกนางทำเสื้อโดยเฉพาะหลังจากนั้นไม่กี่นาที อาหารม้าสามคันรถก็ร่วงลงมาม้าสี่พันตัว กินอาหารม้าทั้งห

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 123

    อาหลี่รับเลี้ยงเด็กเพิ่มสามสิบกว่าคนตอนนี้เด็กในจวนแม่ทัพมีห้าสิบคน มีทั้งผู้ชายและผู้หญิงจ้านเฉิงอิ้นทิ้งแท็บเล็ตเครื่องหนึ่ง กับที่ชาร์จพลังงานแสงอาทิตย์ แผงไฟพลังงานแสงอาทิตย์ไว้ที่จวนแม่ทัพเด็ก ๆ จะเข้าเรียนทุกวัน เข้าฟังการบรรยายของอาจารย์ทางออนไลน์เว่ยกวง เสี่ยวลิ่วจื่อและซุนหย่าปามาร่วมเรียนด้วย!พวกเขานั่งบนพื้นภายในลาน จับไม้ท่อนเล็กแล้วเขียนหนังสือตามคำบรรยายของอาจารย์บนพื้นทรายในทุก ๆ วันไปเข้าเรียนตั้งแต่ฟ้าไม่ทันสร่าง เมื่อตะวันลอยขึ้นมาก็ไปช่วยทำโจ๊ก แจกโจ๊กพอตะวันตกดิน ไปเข้าเรียนต่อจวบจนแผงไฟพลังงานแสงอาทิตย์ส่องสว่างด้วยตนเองเด็ก ๆ เชื่อฟังและรู้เดียงสา!ย่างเอ๋อร์กับหว่านเหนียง แม่เฒ่า สาวน้อยสามขวบอยู่ต่อกันหมดทุกคนหว่านเหนียงกับแม่เฒ่าช่วยกันทำโจ๊กย่างเอ๋อร์กับสาวน้อยร่วมทำงาน เข้าเรียนและรู้หนังสือด้วยกันหลายวันผ่านมานี้ จ้านเฉิงอิ้นไม่ได้กลับจวนแม่ทัพ มีอะไรต้องใช้ เป็นเถียนฉินกับสวี่หมิงที่ขี่ม้ามาส่ง!วันนี้ จ้านเฉิงอิ้นกลับมาอย่างไม่ทันตั้งตัวเด็ก ๆ ต่างยืนข้างนอกห้อง รอพบแม่ทัพใหญ่พวกเขาถูกรับเลี้ยงโดยอาหลี่ ยังไม่ได้รับการพยักหน้าเห

บทล่าสุด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 714

    เค้าโครงหน้าคมคาย ยิ่งดูหล่อเหลาโดดเด่นขึ้นแต่สีหน้ากลับเย็นชามาตลอด กลายเป็นหนุ่มหล่อสุดเย็นชาประจำโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไปแล้วแน่นอนว่า เขาเดินทางด้วยจักรยานสาธารณะ หรือไม่ก็นั่งรถประจำทาง ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีของแบรนด์เนมเลยไม่เหมือนกับเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ที่พอเข้าเรียนปุ๊บก็รู้เลยว่า พ่อแม่ทำอาชีพอะไร มาจากตระกูลไหน ตระกูลมีกิจการอะไรบ้างเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ล้วนแต่ร่ำรวยหรือมีฐานะสูงส่งส่วนเขาพื้นเพธรรมดา การแต่งตัวก็สบาย ๆโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไม่มีเครื่องแบบนักเรียน เพื่อนคนอื่น ๆ ใส่แต่แบรนด์หรู หรือไม่ก็ชุดสั่งตัดส่วนเขาใส่เสื้อผ้าแผงลอยข้างทาง!อาศัยหน้าตาแบกล้วน ๆพอดูออกว่าที่บ้านไม่มีเงิน ก็ถูกนักเรียนเกเรหมายหัวเพื่อนร่วมชั้นที่มายั่วโมโห หัวเราะอย่างโอหัง “โธ่เอ๊ย กล้าทำหน้าบึ้งใส่ฉันเหรอ!”“มา ๆ ๆ วันนี้พวกเราสั่งสอนมันหน่อย ลากตัวมันขึ้นรถไปที่นอกเมือง”หลันซีเยว่ตัวสั่นด้วยความกลัวอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังคงขวางอยู่ข้างหน้าเขา“พวกนายกล้าเหรอ ถ้าวันนี้พวกนายกล้าแตะต้องเขาแม้แต่นิดเดียว ฉันจะโทรแจ้งตำรวจ!”ทันใดนั้นนักเรียนหลายคนก็หัวเราะล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 713

    เมื่อรถของเย่มู่มู่และหลูหมิงเคลื่อนตัวออกไป ลู่ฉิงยวนยังคงยืนสง่าอยู่ริมถนน มองส่งจนรถลับสายตาไป ครั้งนี้ก็ใช่ว่าจะไม่ได้อะไรเลย อย่างน้อยเขาก็ได้ช่องทางการติดต่อของเธอมาเย่มู่มู่ตอนห้าขวบไม่ยอมรับเขา~ไม่นึกเลยว่าพออายุยี่สิบปี เย่มู่มู่ก็ยังคงไม่ชอบเขาเหมือนเดิมผู้หญิงเพียงคนเดียว กลับเป็นคนที่ทำให้เขาพ่ายแพ้ถึงสองครั้งในชีวิตนี้หลังจากขึ้นรถแล้ว ลู่ฉิงยวนก็ถามหัวหน้าบอดี้การ์ดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “บอดี้การ์ดที่อยู่กับเย่มู่มู่คนนั้น เป็นคนของสายไหนกันแน่?”หัวหน้าทีมบอดี้การ์ดยังนึกถึงชายคนนั้น ออกหมัดฉับไว รุนแรง นั่นไม่ใช่ฝีมือของคนธรรมดาแน่นอน“เป็นนักสู้มืออาชีพครับ ที่สำคัญคือเป็นประเภทที่ทุกกระบวนท่าล้วนมุ่งเอาชีวิต! นั่นไม่ใช่ฝีมือของพวกเรียนกังฟูหรือซานต้าวิธีที่เขาลงมือ ผมไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลย!”ลู่ฉิงยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย แค่คนเดียวก็สามารถล้มบอดี้การ์ดของเขาทั้งหมดลงไปกองกับพื้นได้เดิมทีเขายังเป็นห่วงเย่มู่มู่ กลัวว่าเด็กกำพร้าตัวคนเดียวอย่างเธอจะถูกรายล้อมไปด้วยฝูงหมาป่าและเสือร้ายแต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าความกังวลของเขาจะไม่จำเป็นเสียแล้วการที่สามารถอัด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 712

    “คุณคู่ควรกับผู้หญิงที่ดีกว่านี้นะคะ ส่วนฉัน... ไม่ได้สนใจเรื่องแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธ์อะไรแบบนั้นเลยค่ะ!”เธอกำลังจะหันหลังเดินจากไป แต่เสียงของลู่ฉิงยวนก็เย็นเยียบลงหลายส่วน เขาถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่าว่า “ทำไม?”เย่มู่มู่หันกลับไปมองเขา“ทำไมถึงปฏิเสธผม คุณรู้ไหมว่าคุณกำลังจะพลาดอะไรไป?”“คุณไม่ชอบผม หรือคิดว่าเราไม่มีความรู้สึกต่อกันงั้นเหรอ!”เย่มู่มู่ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ขอโทษนะคะคุณลู่ มันไม่เกี่ยวกับคุณเลยค่ะ การที่ต้องสร้างครอบครัวกับผู้ชายที่แทบไม่รู้จักกันดี แค่คิด...ฉันก็รับไม่ได้แล้วค่ะ!”“สุดท้ายแล้ว ก็ยังเป็นเพราะคุณไม่ชอบผมใช่ไหม? มู่มู่ อย่าดื้อนักเลย ความรู้สึกน่ะมันสร้างกันได้นะ...”เย่มู่มู่ขมวดคิ้ว มองไปยังลู่ฉิงยวนเขาทั้งหนุ่ม ทั้งรวย อาศัยความสามารถของตัวเองล้วน ๆ สร้างหลิ่วอวิ๋นกรุ๊ปจนยิ่งใหญ่ได้อย่างทุกวันนี้เขายอดเยี่ยมมากบางทีในอนาคตเธออาจจะต้องเสียใจ ที่ตัวเองพลาดมหาเศรษฐีโสดผู้เพียบพร้อมทั้งความสามารถและฐานะระดับเพชรยอดมงกุฎคนนี้ไปแต่ ตอนนี้ในหัวของเธอมีแต่เรื่องหาเงิน และเรื่องการช่วยจ้านเฉิงอิ้นรวบรวมใต้หล้าให้เป็นปึกแผ่นในคติประจำใจ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 711

    “แน่นอนว่าพวกเธอก็จะไม่บังคับลูก ๆ ถ้าไม่ชอบ ก็ปฏิเสธได้!”“ต่อมา คุณแม่เกิดอุบัติเหตุ ผมถูกบ้านตาไปรับเลี้ยง ไอ้สารเลวนั่นเริ่มฟ้องร้องยาวนานกว่าสิบปี เพียงเพื่อล้มล้างพินัยกรรมของแม่!”“ระหว่างนั้น เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองในมือผม ป้าหลินจึงมอบหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ในมือของเธอให้ผมโดยไม่คิดค่าตอบแทน”“ผมเคยถามเธอ ว่าต้องการอะไรเป็นการตอบแทนไหม์”“เธอขอให้ผมดูแลคุณให้ดี หากวันใดวันหนึ่งพวกเขาสามีภรรยาเกิดเรื่องอะไรขึ้น คุณก็จะกลายเป็นเด็กกำพร้า ต้องถูกคนตระกูลเย่รังแกแน่ ๆ เธอหวังว่าผมจะรับปากว่าจะดูแลคุณให้ดีไปชั่วชีวิต!”น้ำตาของเย่มู่มู่ร่วงเผาะ ๆเธอไม่คิดเลยว่า คุณแม่ได้วางแผนเพื่อเธอไว้แต่เนิ่น ๆ แล้วเพื่อเดิมพันกับโอกาสอันน้อยนิดนั้น ใช้หุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ของลู่ซื่อกรุ๊ป แลกกับคำมั่นสัญญาเพื่อเธอพ่อแม่ของเธอรักเธอมาก“ลู่ฉีหยางตามหาคุณ ข่มขู่คุณ! นอกจากจะหมายตาฟู่ลี่กรุ๊ปที่เป็นคู่ค้ารายใหญ่แล้ว ยังมีอีกอย่าง พวกเขารู้ว่าแม่ของคุณมีหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์!”“ผมเปิดเผยรายชื่อผู้ถือหุ้นสิบอันดับแรกของบริษัทต่อสาธารณะ พวกเขาก็ยังคงไม่เชื่อ!”“อยากจะยึดหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์นั้นมาเป็นขอ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 710

    ตอนที่เธออายุประมาณห้าขวบ เคยพบเคยพบลู่ฉิงยวนครั้งหนึ่งตอนนั้นเป็นการประชุมประจำปีขององค์กร ลู่ฉิงยวนถูกลุงพามาจากเมืองหลวงเพื่อเข้าร่วมการประชุมประจำปีของฟู่ลี่กรุ๊ปเวลานั้นแม่ถามเธอว่า “ชอบพี่ชายตัวน้อยคนนั้นไหมจ๊ะ? ให้เขาเป็นแฟนของหนูดีไหม?”ตอนนั้นเธอยังเด็กเกินไป ฟันยังไม่ทันขึ้นครบเธอกำลังกินเค้กก้อนเล็ก ๆ พลางถามมารดาด้วยท่าทางน่ารัก “คุณแม่คะ แฟนคืออะไรเหรอคะ กินได้หรือเปล่า?”ผลลัพธ์ก็คือคำพูดประโยคนี้ทำให้ลุงของลู่ฉิงยวนกับบิดาของเธอรู้สึกขบขัน!แต่ว่าเธอกับลู่ฉิงยวนเคยพบกันแค่เพียงครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น แล้วก็ไม่เคยพบกันอีกเลยตอนนั้นพ่อกับแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลู่ฉิงยวนไม่ได้มาไว้ทุกข์ ทว่าลุงของเขาส่งของมาร่วมพิธี!แต่ว่าคนไม่ได้มา!แน่นอนว่าเย่มู่มู่สามารถเข้าใจได้ พอหมดอำนาจคนก็ลาจาก เด็กกำพร้าเช่นเธอไม่ค่าพอที่จะแสวงหาผลประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอถอนตัวจากการบริหารฟู่ลี่กรุ๊ปทุกคนรู้ดีว่าเอาอกเอาใจเธอไปก็ไม่มีประโยชน์ตอนที่พ่อแม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่ มีคนไปมาหาสู่อยู่บ้างทว่าหลังจากที่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิต ก็ไม่มีใครมาสนใจอีกเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 709

    คิดไม่ถึงเลยว่าคุณผู้หญิงหลิวจะทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตและสู้ยิบตา จนคุณชายลู่รู้สึกเสียใจในภายหลังเขาคุกเข่าลงต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว ตบหน้า และสารภาพด้วยน้ำตานองหน้าบอกว่าไม่ยินยอมหย่าร้าง ขอร้องให้คุณผู้หญิงหลิวให้โอกาสเขาอีกสักครั้งหนึ่งเพื่อแสดงความจริงใจ เขาจึงลบข้อมูลการติดต่อของผู้หญิงทุกคนทิ้งไปจนหมด ต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิวทั้งยังเปิดเผยข่าวอื้อฉาวของนักแสดงที่เคยมาก่อเรื่องต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว และทำลายอาชีพของเธอ!นอกจากนี้ยังทำให้ผู้หญิงอีกคนหนึ่งต้องตกงาน และถูกแบนในธุรกิจนั้นด้วยเขาเอาบ้าน และรถที่จ่ายเงินซื้อให้กับคุณหญิงลู่ กลับคืนมาทั้งหมด!บางทีคณผู้ชายลู่อาจจะแสดงเก่งจนเกินไป บางทีลูกอาจจะเล็กจนเกินไป จึงไม่อยากให้ลูกที่พอเกิดมาก็กลายเป็นครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวคุณผู้หญิงหลิวจึงใจอ่อนเธอยอมรับคุณผู้ชายลู่ และชิงบริษัทที่อยู่ในมือของคุณชายลู่กลับคืนมาญาติพี่น้องและเพื่อนที่คุณชายลู่เอาเข้ามาก่อนหน้านี้ ถูกไล่ออกไปจนหมดเชิญพนักงานเก่ากลับเข้ามาโรงงานภายใต้การบริหารของคุณผู้หญิงลู่ กลับมาฟื้นฟูอีกครั้งและในครั้งนี้ คุณผู้หญิงหลิวได้บีบคุณผู้ชายลู่ให้ล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 708

    หากว่าทางจ้านเฉิงอิ้นสามารถเอาชนะการรบได้ เธอจะต้องเฉลิมฉลองให้สักครั้งอย่างแน่นอนเธอกับหลูหมิงคืนจักรยานไฟฟ้าอย่างมีความสุข และขึ้นรถแท็กซี่เพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูงฮ่าวอี้และเสี่ยวเฉิงที่เฝ้าดูกระบวนการทั้งหมดอยู่ เมื่อเห็นพวกเขาขึ้นรถแท็กซี่ไป ก็ขับรถตามไปอยู่ห่าง ๆจนถึงวันนี้หวังเสี่ยวเฉิงก็ยังไม่อาจเข้าใจได้ เรื่องที่ว่าเจ้านายของตนเองเป็นผู้บำเพ็ญเซียน“พี่ นี่ผมกำลังฝันอยู่ใช่ไหม คุณหนูเย่เป็นนักศึกษาที่อายุยังน้อยแล้วก็สวยขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็นผู้บำเพ็ญเซียน เหลือเชื่อเกินไปแล้ว”“พี่ว่า ผมต้องฝากตัวเป็นศิษย์กับเธอหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นไปขอให้เธอทดสอบหินวิญญาณให้ดีไหม ไม่แน่ผมอาจมีความสามารถในการบำเพ็ญเซียนเหมือนกันก็ได้?”ฮ่าวอี้กำลังมองคนปัญญาอ่อนที่ฝันกลางวันมาตลอดทั้งวัน “หุบปาก เย่มู่มู่เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น!”“ผมรู้อยู่แล้วน่า ว่าเธอเป็นแค่ผู้บำเพ็ญเซียนที่ซ่อนตัวเป็นคนธรรมดาเท่านั้น พี่ว่าตอนนี้เธอบรรลุถึงขั้นไหนแล้ว?”“ฝึกลมปราณ สร้างรากฐาน หรือว่าแก่นปราณทองคำ? สามารถดูดซับสายฟ้า เคลื่อนย้ายพายุฝน ขั้นต่อไปก็พลักภูเขาผลิกทะเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 707

    แคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ หรือแม้กระทั่งแคว้นอวี่ กับแคว้นหย่งต่างก็กำลังจับจ้องกองทัพเผ่าหมาน...ทำไมงั้นหรือ?พวกเขาต่างก็ต้องการเข้ามาแบ่งปันผลประโยชน์ของแคว้นต้าฉี่เพราะความโง่เขลาและเหี้ยมโหดของฮ่องเต้น้อย ไม่แบ่งแยกถูกผิด และพยายามทุกวิถีทางเพื่อสังหารจ้านเฉิงอิ้นพวกเขาจึงต่างคิดว่าแคว้นต้าฉี่อ่อนแอข่มเหงได้ง่าย!หากในหกแคว้น แคว้นใดที่ล้มลงไวที่สุดย่อมต้องเป็นแคว้นฉี่ที่ปราศจากจ้านเฉิงอิ้นอย่างแน่นอนดังนั้น การที่เผ่าหมานแห่งม่อเป่ยบุกโจมตีแคว้นต้าฉี่ ทุกแคว้นของหัวเซี่ยจึงจ้องกันตาเป็นมันหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยทำสำเร็จแคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ก็จะถอนทัพออกจากแคว้นเยี่ยนโดยทันที และยกกำลังทหารทั้งหมดไปที่แคว้นต้าฉี่ล่าสังหารราษฎรของแคว้นต้าฉี่มาเป็นเสบียงอาหารอย่างป่าเถื่อน เพื่อเอาชีวิตรอดจากภัยแล้งสองปีที่อันตรายที่สุดหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยล้มเหลว ก็ไม่เป็นไรทหารเผ่าหมานที่กล้าหาญและสันทัดในการรบสองแสนคน ถึงแม้จะพ่ายแพ้ ก็สามารถลดทอนกำลังของกองทัพตระกูลจ้านลงได้เมื่อพวกเขาบุกเข้าแคว้นต้าฉี่ก็จะสะดวกมากยิ่งขึ้นจุดจบเป็นเช่นไร พวกเขาเพียงแต่ต้องใช้กลยุทธ์ดูไฟจา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 706

    ขอเพียงสามารถยึดครองทัพกระกูลจ้าน พวกเขาก็จะสามารถบุกเข้าเมืองหลวง และแช่งยิงแผ่นดินต้าฉี่มาได้ ผู้ใดจะคาดคิดเล่าว่าจะถูกจ้านเฉิงอิ้นทำให้เสียเรื่องเขามองเข้าไปยังสนามรบ ที่ยังคงโรมรันกับกองทัพตระกูลจ้าน ทหารเผ่าหมานต่อสู้ดิ้นรนอย่างยากลำบาก จะให้พวกเขายอมรับความพ่ายแพ้ ละทิ้งเมืองหลวงแห่งแคว้นต้าฉี่เช่นนี้งั้นหรือ?ไม่มีทาง!เขายกดาบม่อเตาที่อยู่ในมือ จับจ้องไปที่จ้านเฉิงอิ้นด้วยดวงตาที่แหลมคมราวกับเหยี่ยว“ข้า ม่อเป่ยอ๋อง จะไม่มีวันพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!”จ้านเฉิงถือดาบม่อเตาด้วยมือเดียว กระชับบังเหียนม้าและเดินวนอยู่รอบ ๆ ตัวเขา“หลัวซู่ เจ้าหมดหวังแล้ว เจ้าไม่อาจเอาชนะกองทัพตระกูลจ้านได้หรอก!”“ยอมจำนนแต่โดยดีเถิด!”หลัวซู่ปักมีดลงไปในดินโคลน สายตาของเขาเย็นชา “ข้าเป็นบุรุษแห่งทุ่งหญ้า ไม่เกรงกลัวความตาย!”“เพียงแต่ข้าไม่ยินยอมเท่านั้น เหตุใดข้าจึงได้พ่ายแพ้เจ้าอย่างไร้สาระเช่นนี้ พ่ายแพ้เจ้าอย่างรวดเร็วเช่นนี้!”การศึกในครั้งนี้มีความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันมากกองทัพตระกูลจ้านของจ้านเฉิงอิ้น ไม่ว่าจะเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ ขวัญกำลังใจ หรือว่าจำนวนคนที่ติดอาวุธ...ไม่ว่าจะ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status