แชร์

บทที่ 276

ผู้เขียน: มู่โร่ว
“เพราะพวกเขาโจมตีแคว้นต้าฉี่ ทำให้ความแข็งแกร่งของแว่นแคว้นเสื่อมถอย หลายปีถัดมา ก็ถูกความวุ่นวายภายในเปลี่ยนราชวงศ์”

“แคว้นฉู่ ยังคงชื่อฉู่ เพียงแต่ฮ่องเต้ไม่ใช่ฉู่อ๋องในรัชสมัยก่อนแล้ว”

“ส่วนแคว้นฉีล่มสลาย ถูกแคว้นเยี่ยนและแคว้นอวี่กลืนกิน”

“เผ่าหมาน ยังคงเป็นชนเผ่าเร่ร่อน มีชาวบ้านของแคว้นต้าฉี่จำนวนมากถูกพวกเขากินไป ทำให้รอดจากยุคแห่งทุพภิกขภัยมาได้”

เย่มู่มู่ขมวดคิ้วฟัง

กองทัพธงเหลืองร้ายกาจ ถึงกับทำลายกองทัพแคว้นฉู่ลงได้ลง!

ถ้าอย่างนั้น กองกำลังกบฏนี้ ไม่เท่ากับอยู่รอดถึงตอนสุดท้ายเหรอ

“ในหนังสือประวัติศาสตร์มีเขียนไว้ไหมคะว่า ยุคแห่งทุพภิกขภัยนานแค่ไหน”

“ผมลองนึกดูก่อน ช่วงเวลาแห่งความอดอยากแร้นแค้นที่คนกินคนเป็นอาหาร ก็น่าจะนานประมาณสามปี”

เย่มู่มู่อ้าปากกว้าง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความตกตะลึง

“สามปี? นานขนาดนั้นเลยเหรอคะ?”

ผู้อาวุโสมู่จิบน้ำชาคำหนึ่ง ค่อย ๆ เล่าอย่างละเอียดต่อไปว่า

“นี่ยังไม่จบนะ หลังจากสามปีนั้นก็เป็นภัยหิมะอีก…ทำให้จำนวนประชากรในหัวเซี่ยลดลงอย่างรวดเร็ว เหลือไม่ถึงหนึ่งในสิบเท่านั้น!

“หลายแคว้นล่มสลาย แต่แคว้นอวี่ แคว้นเยี่ยน กับแคว่นฉู่รอดมาได้ ส่ว
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 277

    เย่มู่มู่กล่าวว่า “ได้ค่ะ คุณแนะนำมาได้เลย ฉันจะสัมภาษณ์ดูสักรอบ ถ้าคนไม่เลวก็จะรับตัวไว้ แต่คุณก็รู้ว่า ร้านของฉันเล็ก คงเสนอค่าจ้างสูงเหมือนโรงงานใหญ่ไม่ได้หรอกนะคะ”ผู้อาวุโสจางพูดพร้อมรอยยิ้มว่า “ไม่เป็นไร ไม่หิวตายก็พอแล้ว เรื่องเงินเดือนคุณให้ตามที่เห็นสมควรเถอะ!”“อีกครู่ ผมจะให้เขาส่งเรซูเม่มาให้คุณ พรุ่งนี้คุณสัมภาษณ์ดู ถ้าใช้ได้คุณก็เก็บคนไว้ได้เลย”“ได้ค่ะ คนที่ผู้อาวุโสจางแนะนำมา ฉันวางใจอยู่แล้ว!”เมื่อผู้อาวุโสมู่กลับมาก็พบว่า ไอ้เฒ่าเจ้าเล่ห์เอ้ย ตาเฒ่าที่ไร้ยางอายสองคนนี้ ถึงกับจองตำแหน่งผู้จัดการร้านกับนักบัญชีไปแล้วแม้แต่แม่บ้านทำความสะอาดก็ไม่เว้น จะแนะนำคนมาด้วย!ผู้อาวุโสมู่รีบหยุดพวกเขาไว้ มองสหายเก่าทั้งสองคนด้วยแววตาที่ไม่เกรงใจแม้แต่น้อย“หาแม่บ้านทำความสะอาดมาทำไม นักเรียนสองคนนั้น ให้พวกเขาเช็ดโต๊ะกวาดพื้นไปสิ ร้านวัตถุโบราณไม่ใช่ห้างสักหน่อย ที่จะได้มีคนมาตลอดทั้งวัน ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ”“ต้องให้พวกเขาทำงาน จะได้ไม่อยู่ว่างเกินไป!”ผู้อาวุโสสวี่และผู้อาวุโสจางปิดปากไปแล้วชามใบนี้ สุดท้ายถูกผู้อาวุโสจางซื้อไปในราคาสามร้อยล้านคนทั้งหลายสนทนากับเย่ม

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 278

    เถ้าแก่โรงสีข้าวเป็นชายวัยกลางคนที่พุงค่อนข้างโต เขาสวมนาฬิกาข้อมือโรเล็กซ์ หนีบกระเป๋าเอกสารท่าทางเหมือนพวกข้าราชการที่ออกมาปฏิบัติหน้าที่ในเสี้ยววินาทีที่เถ้าแก่หลินเห็นเย่มู่มู่ แววตาของเขาก็เป็นประกาย แล้วจับมือกับเย่มู่มู่อย่างกระตือรือร้น“คุณหนูเย่ ร้อยคำกล่าวไม่เท่ากับได้เห็นด้วยตนเองจริง ๆ ในที่สุดผมก็ได้เจอตัวจริงแล้ว”“คิดไม่ถึงว่าคุณอายุน้อยขนาดนี้ก็สร้างธุรกิจจนใหญ่โตแบบนี้แล้ว ภูเขาทั้งลูกล้วนเป็นของคุณ”“แถมบ้านพักตากอากาศสำหรับการหยุดพักผ่อนที่โด่งดังในอินเทอร์เน็ตไปทั่วประเทศ ก็กำลังขยายเพิ่มอีกอีก กิจการนี้ของคุณทำจนใหญ่กว่าของผมมากเลยนะครับ!”เย่มู่มู่เผยยิ้มทางธุรกิจออกมาบาง ๆ ว่า “ที่ไหนกันคะ ที่ไหนกัน”คนขับรถบรรทุกหันท้ายรถเข้าไปที่ประตูโกดังเธอดูคนงานเอาของลง เจ้าของร้านขายข้าวให้เธอดูน้ำหนักรวมทั้งหมดของสินค้า เมื่อตรวจสอบแล้วไม่มีข้อผิดพลาดจึงจ่ายเงินงวดสุดท้ายหน้างานเลยพี่เขยของเขาดูกระบวนการตั้งแต่ต้นจนจบ เธอไม่ได้กดราคา หรือผัดผ่อนเวลาการชำระเงินหลังการชำระเงินเสร็จสิ้น เถ้าแก่หลินก็ยิ้มอย่างเบิกบานว่า “คุณหนูเย่เป็นคนที่ทำอะไรรวดเร็ว ตรงไป

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 279

    เหตุผลที่เย่มู่มู่คิดจะเปิดบริษัทเทรดดิ้ง ก็เพื่อเตรียมการสำหรับความแร้นแค้นและภัยหิมะในอีกสองปีให้หลังที่ต้องกักตุนไม่ใช่เพียงข้าวสาร ข้าวสาลี…แต่ยังของชนิดอื่นอีกในปริมาณมากด้วยเธอสามารถหาซื้อเสบียงธัญญาหารจากในประเทศได้ แต่เนื่องจากจำนวนมีมากเกินไป ช้าเร็วจะต้องถูกเบื้องบนจับตามองแน่เพื่อเตรียมการล่วงหน้า เธอต้องจัดตั้งบริษัทเทรดดิ้งขึ้นมา เพื่อจัดซื้อสินค้าจากต่างประเทศคนทั้งสามตกลงร่วมกันว่าอีกสองสามวันจะไปจดทะเบียนบริษัทด้วยกันเนื่องจากทั้งเถ้าแก่ชีและเถ้าแก่หลินต่างก็มีกิจการในชื่อของตัวเอง และเมื่อรวมกันแล้ว พวกเขาถือหุ้นเพียงสามสิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้นส่วนเย่มู่มู่ถือหุ้นเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ดังนั้นจึงจดทะเบียนในนามของเธอส่วนทุนจดทะเบียนของบริษัทกับที่อยู่ที่ใช้ในการจดทะเบียนนั้น ให้เธอเป็นคนตัดสินใจทั้งหมดเย่มู่มู่ได้ครุ่นคิดถึงเรื่องนี้อย่างจริงจังจริง ๆเมื่อกลับมาถึงบ้านพักตากอากาศอีกครั้ง ฟ้าก็มืดแล้วข้างแจกันดอกไม้มีกระดาษสีขาวหลายใบร่วงหล่นอยู่จ้านเฉิงอิ้นรายงานสถานการณ์การรบของด่านเจิ้นกวนในปัจจุบันหนึ่งผ่านการหารือของเหล่าผู้บัญชาการ กำแพงเมืองของด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 280

    “หากท่านเทพต้องการ ในลานบ้านของช่างไม้มีกองอยู่เต็มไปหมดขอรับ”“พรุ่งข้าจะพาคนไปขุดในหุบเขาขอรับ ยังมีอีกเยอะเลย!”จ้านเฉิงอิ้นกล่าวว่า “เจ้าอย่าเพิ่งไปจับสายลับ ส่งไม้ทั้งหมดในลานบ้านของช่างไม้ มาที่จวนแม่ทัพก่อน”“แล้วเริ่มจากพรุ่งนี้ เจ้าพาคนไปขุดไม้ในเขา ท่านเทพบอกว่ามีประโยชน์มาก เช่นนั้นก็มอบให้นางไปทั้งหมดเสียเลย”“อาศัยนางมานาน นี่เป็นเพียงเรื่องเดียวที่พวกเราสามารถทำได้”เฉินขุยประสานคำนับว่า “ขอรับ ข้าน้อยรับคำสั่ง!”ก็แค่ขุดท่อนไม้มิใช่หรือไร?ยังดีกว่าเขาจับไส้ศึก อย่างไร้วี่แววอยู่ตลอดบ่ายมากนักเขาจัดกำลังคน ไปเก็บไม้ที่ลานบ้านของช่างไม้อย่างมีความสุขแล้วหลังจากจ้านเฉิงอิ้นหย่อนกระดาษลงไป เย่มู่มู่ก็มองจดหมายของเขาด้วยอาการปากอ้าตาค้างอะไรนะ?ไม้หนานมู่เนื้อทอง ที่ยุคนี้หนึ่งชั่งแลกเป็นทองได้ถึงสิบเจ็ดจุดเจ็ดกรัม ตอนอยู่ในยุคโบราณถึงกับไร้ค่าขนาดเอามาเผาเป็นฟืนแม้แต่ในการสร้างบ้านก็โยนทิ้ง เพราะรังเกียจว่าแข็งเกินไปช่างเป็นการทำลายข้าวของเหลือเกิน!ถ้าส่งมาในยุคปัจจุบัน สามารถทำเงินได้มหาศาลเลยนะเจ้าพวกผลาญสมบัตินี่!เย่มู่มู่ใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่ง ก็บ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 281

    จ้านเฉิงอิ้นมองกระดาษด้วยดวงตาที่เปียกชุ่ม นิ้วมือกำหนังสือสองเล่มแน่นเพราะออกแรงมากเกินไป เส้นเลือดจึงปูดขึ้นตรงหลังมือเขาทำราวกับสิ่งที่กำอยู่ในมือไม่ใช่หนังสือ แต่เป็นความหวังการมีชีวิตรอดต่อไปของชาวเมืองด่านเจิ้นกวนเวลาครู่หนึ่งผ่านไป ครั้นดวงตาคู่นั้นมองเห็นชัดอีกครั้ง เขาเก็บจดหมายอย่างตั้งใจ พับอย่างเรียบร้อยเก็บลงในกล่องเล็กกล่องนี้ได้บรรจุจดหมายระหว่างเขากับท่านเทพไว้จำนวนมากหนังสือสองเล่มนี้ เขาเปิดมันอย่างทนรอไม่ไหว การกระจายตัวของแหล่งแร่ทางธรณีวิทยาในประเทศจีน หมกหมุ่นอยู่กับเนื้อหาในหนังสือโลกที่ท่านเทพอาศัย ไม่ได้แตกต่างจากหัวเซี่ยมากเท่าไหร่เพียงแค่วิธีการวาดเส้นไม่เหมือนกันในหนังสือประกอบด้วยการกระจายตัวของภูเขาแม่น้ำในแต่ละมณฑล รวมถึงหลายมณฑลที่มีเหมืองถ่านหินมากที่สุดมณฑลซานซี เมืองจิ้นจง…อยู่ในอาณาเขตของแคว้นฉี!เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน เมืองเปาโถว…อยู่ในอาณาเขตของชนเผ่าหมาน!มณฑลส่านซี เมืองอวี๋หลิน…อยู่ในอาณาเขตของแคว้นต้าฉี่!จ้านเฉิงอิ้นพลันเบิกตากว้าง เห็นมณฑลส่านซีตอนเหนือถูกทำเครื่องหมายไว้ตรงพื้นที่เหมืองแร่อวี่เสินและอวี่เหิงมองเส้นท

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 282

    ให้เหอหงดู“เจ้ารู้ดี ถ่านหินเผาไหม้ได้นาน ซ่งตั๋วเผาเหล็กหล่ออาวุธ สิ่งที่เผาไหม้ก็คือถ่านหินที่ท่านเทพส่งให้!”“ถ่านหิน ไม่ได้มีแค่ในโลกของท่านเทพเท่านั้น ในอาณาเขตของแคว้นต้าฉี่ก็มีเช่นกัน!”เหอหงพลันมองมาทางจ้านเฉิงอิ้น ในแววตามีท่าทีไม่เชื่อแฝงอยู่“จริงหรือ?”ถ่านหินที่ท่านเทพส่งให้ ในแคว้นต้าฉี่มีเช่นกัน?เขาพลิกหนังสืออย่างรวดเร็ว จนพบพื้นที่เหมืองแร่อวี่เสินในมณฑลส่านซีทางตอนเหนือ มีเหมืองถ่านหินขนาดใหญ่กระจายอยู่หลายแห่งจ้านเฉิงอิ้นหยิบแผนที่แคว้นต้าฉี่ออกมา ชี้นิ้วไปที่เมืองเสินมู่พร้อมเอ่ยถามเหอหง“เส้นทางภูเขาและแม่น้ำ เหมือนกันหรือไม่?”“ขอรับ แม่ทัพ”“เมื่อครู่นี้ข้านำมาเทียบหนึ่งต่อหนึ่ง มณฑลส่านซี เมืองอวี๋หลินในโลกของท่านเทพ ตั้งอยู่ที่เมืองเสินมู่…”จ้านเฉิงอิ้นนำข้อมูลที่ตนคัดลอกเสร็จหลายฉบับในมือ มอบไว้ในมือเหอหงอย่างเอาจริงเอาจัง“แม้ว่าเจ้าชื่นชอบการลงสนามรบกวาดล้างศัตรู แต่วันนี้กองทัพศัตรูถอยทัพกลับไปแล้ว และด่านเจิ้นกวนก็ร่มเย็นเป็นสุข”“ภายใต้การช่วยเหลือจากท่านเทพ พวกเราสามารถอยู่รอดทุกภิกขภัยสามปีได้อย่างปลอดภัยมั่นคง แต่ภัยหิมะล่ะ?”“เวลานี้

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 283

    เดิมที เย่มู่มู่อยากตระเตรียมเป็นรถบรรทุกรถบรรทุกบรรจุของได้มาก ที่สำคัญยังขับได้ระยะยาวโดยไม่ต้องเติมน้ำมันแต่เธอกังวลสภาพถนนของแคว้นต้าฉี่ยิ่งไปกว่านั้น หากเมืองเสินมู่เป็นเมืองล้าหลังที่ยังไม่ได้บุกเบิก คงไม่มีแม้แต่ถนนรถบรรทุกขนาดใหญ่ไม่สามารถขับเข้าไปด้วยซ้ำแต่รถออฟโรดสามารถขับบนถนนสภาพแย่ได้เย่มู่มู่พิจารณาอยู่นาน จากนั้นเธอเตรียมสั่งซื้อรถออฟโรดปรับแต่ง เกี่ยวรถพ่วงขนาดใหญ่หนึ่งคันไว้ข้างหลัง…รถบรรทุกขนาดใหญ่สามคันทำให้เหล่านายทหารดีใจเป็นล้นพ้นแล้ว!วันนี้จะส่งรถให้อีก เกรงว่าเหล่านายทหารคงดีใจจนแทบบ้าแน่!“ท่านเทพ รถคงมีราคาแพงมาก ทำให้ท่านสูญเสียเงินทอง ข้าจะตอบแทนท่านอย่างไร?”“พวกเจ้าส่งสมบัติและทองคำเงินเครื่องประดับมาให้ข้าตั้งมากมาย ข้าทำเงินได้จำนวนมากแล้ว ส่งรถให้เพียงไม่กี่คัน นับว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย!”“สิ่งของเหล่านี้ล้วนเป็นของที่เหล่านายทหารถวายให้แก่ท่าน ท่านอยากได้สิ่งใด ข้าจะทำให้อย่างสุดความสามารถ!”เมื่อกล่าวเช่นนี้ เย่มู่มู่มีสิ่งที่อยากได้จริง ๆ“ไม้กฤษณากับไม้หนานมู่เนื้อทอง?”“ส่งเฉินขุยไปขุดตามร่องเขาแล้ว เมื่อได้มาแล้วจะส่งให้ท่านทั

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 284

    จากนั้นจึงส่งข้อความให้ผู้จัดการร้านขายรถ ให้เขานำรถยี่สิบคันที่เธอเพิ่งซื้อไป ส่งไปยังร้านแต่งรถเธอทำการชำระค่ามัดจำแต่งรถเมื่อทำทุกอย่างเสร็จสิ้น เธอรู้สึกเหมือนลืมอะไรบางอย่างเธอเปิดช็อปปีบนมือถือ สั่งซื้อตาข่ายกันแดดแบบเจาะรู โครงเหล็กจำนวนมาก…มากพอที่จะให้ความร่มเงากับทุ่งนานับหมื่นหมู่เธอนึกได้อีกว่าเหอหงจะไปหาเหมืองถ่านหิน ต้องจากด่านเจิ้นกวนเป็นเวลานาน เสบียงอาหารที่พกไปด้วยไม่สามารถเก็บไว้ได้นานเธอจึงซื้อเสบียงทหาร ขนมปังแข็ง หมูแฮม เนื้อกระป๋องและผลไม้กระป๋องจำนวนมากจากในเมืองรวมถึงถังน้ำขนาดใหญ่ที่บรรจุแบบปิดผนึกเธอนัดหมายกับร้านค้าเรียบร้อย ให้นำของมาส่งในวันพรุ่งนี้ครั้นทำทุกอย่างเสร็จ เธอจึงชำระล้างตัวแล้วเข้าสู่สภาวะหลับลึกวันถัดมา เธอเพิ่งตื่นนอน ก็ได้ยินเสียงร่วงหล่นดังขึ้นจากลานหลังบ้านส่วนแจกันของเธอ ไม่รู้ว่าไปตั้งอยู่ตำแหน่งใกล้ระเบียงตั้งแต่เมื่อไหร่ผีหลอกแล้ว!แจกันของเธอบรรลุเป็นเซียน จนขยับได้ด้วยตนเอง!เธอลุกจากเตียงทันควัน กอดแจกันไว้แล้วเปิดประบานเลื่อนออกลานหลังบ้าน…สถานที่ที่คุณแม่เคยเอาไว้ปลูกผักเมื่อก่อน รกไปด้วยวัชพืชและมีไ

บทล่าสุด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 714

    เค้าโครงหน้าคมคาย ยิ่งดูหล่อเหลาโดดเด่นขึ้นแต่สีหน้ากลับเย็นชามาตลอด กลายเป็นหนุ่มหล่อสุดเย็นชาประจำโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไปแล้วแน่นอนว่า เขาเดินทางด้วยจักรยานสาธารณะ หรือไม่ก็นั่งรถประจำทาง ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีของแบรนด์เนมเลยไม่เหมือนกับเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ที่พอเข้าเรียนปุ๊บก็รู้เลยว่า พ่อแม่ทำอาชีพอะไร มาจากตระกูลไหน ตระกูลมีกิจการอะไรบ้างเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ล้วนแต่ร่ำรวยหรือมีฐานะสูงส่งส่วนเขาพื้นเพธรรมดา การแต่งตัวก็สบาย ๆโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไม่มีเครื่องแบบนักเรียน เพื่อนคนอื่น ๆ ใส่แต่แบรนด์หรู หรือไม่ก็ชุดสั่งตัดส่วนเขาใส่เสื้อผ้าแผงลอยข้างทาง!อาศัยหน้าตาแบกล้วน ๆพอดูออกว่าที่บ้านไม่มีเงิน ก็ถูกนักเรียนเกเรหมายหัวเพื่อนร่วมชั้นที่มายั่วโมโห หัวเราะอย่างโอหัง “โธ่เอ๊ย กล้าทำหน้าบึ้งใส่ฉันเหรอ!”“มา ๆ ๆ วันนี้พวกเราสั่งสอนมันหน่อย ลากตัวมันขึ้นรถไปที่นอกเมือง”หลันซีเยว่ตัวสั่นด้วยความกลัวอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังคงขวางอยู่ข้างหน้าเขา“พวกนายกล้าเหรอ ถ้าวันนี้พวกนายกล้าแตะต้องเขาแม้แต่นิดเดียว ฉันจะโทรแจ้งตำรวจ!”ทันใดนั้นนักเรียนหลายคนก็หัวเราะล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 713

    เมื่อรถของเย่มู่มู่และหลูหมิงเคลื่อนตัวออกไป ลู่ฉิงยวนยังคงยืนสง่าอยู่ริมถนน มองส่งจนรถลับสายตาไป ครั้งนี้ก็ใช่ว่าจะไม่ได้อะไรเลย อย่างน้อยเขาก็ได้ช่องทางการติดต่อของเธอมาเย่มู่มู่ตอนห้าขวบไม่ยอมรับเขา~ไม่นึกเลยว่าพออายุยี่สิบปี เย่มู่มู่ก็ยังคงไม่ชอบเขาเหมือนเดิมผู้หญิงเพียงคนเดียว กลับเป็นคนที่ทำให้เขาพ่ายแพ้ถึงสองครั้งในชีวิตนี้หลังจากขึ้นรถแล้ว ลู่ฉิงยวนก็ถามหัวหน้าบอดี้การ์ดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “บอดี้การ์ดที่อยู่กับเย่มู่มู่คนนั้น เป็นคนของสายไหนกันแน่?”หัวหน้าทีมบอดี้การ์ดยังนึกถึงชายคนนั้น ออกหมัดฉับไว รุนแรง นั่นไม่ใช่ฝีมือของคนธรรมดาแน่นอน“เป็นนักสู้มืออาชีพครับ ที่สำคัญคือเป็นประเภทที่ทุกกระบวนท่าล้วนมุ่งเอาชีวิต! นั่นไม่ใช่ฝีมือของพวกเรียนกังฟูหรือซานต้าวิธีที่เขาลงมือ ผมไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลย!”ลู่ฉิงยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย แค่คนเดียวก็สามารถล้มบอดี้การ์ดของเขาทั้งหมดลงไปกองกับพื้นได้เดิมทีเขายังเป็นห่วงเย่มู่มู่ กลัวว่าเด็กกำพร้าตัวคนเดียวอย่างเธอจะถูกรายล้อมไปด้วยฝูงหมาป่าและเสือร้ายแต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าความกังวลของเขาจะไม่จำเป็นเสียแล้วการที่สามารถอัด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 712

    “คุณคู่ควรกับผู้หญิงที่ดีกว่านี้นะคะ ส่วนฉัน... ไม่ได้สนใจเรื่องแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธ์อะไรแบบนั้นเลยค่ะ!”เธอกำลังจะหันหลังเดินจากไป แต่เสียงของลู่ฉิงยวนก็เย็นเยียบลงหลายส่วน เขาถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่าว่า “ทำไม?”เย่มู่มู่หันกลับไปมองเขา“ทำไมถึงปฏิเสธผม คุณรู้ไหมว่าคุณกำลังจะพลาดอะไรไป?”“คุณไม่ชอบผม หรือคิดว่าเราไม่มีความรู้สึกต่อกันงั้นเหรอ!”เย่มู่มู่ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ขอโทษนะคะคุณลู่ มันไม่เกี่ยวกับคุณเลยค่ะ การที่ต้องสร้างครอบครัวกับผู้ชายที่แทบไม่รู้จักกันดี แค่คิด...ฉันก็รับไม่ได้แล้วค่ะ!”“สุดท้ายแล้ว ก็ยังเป็นเพราะคุณไม่ชอบผมใช่ไหม? มู่มู่ อย่าดื้อนักเลย ความรู้สึกน่ะมันสร้างกันได้นะ...”เย่มู่มู่ขมวดคิ้ว มองไปยังลู่ฉิงยวนเขาทั้งหนุ่ม ทั้งรวย อาศัยความสามารถของตัวเองล้วน ๆ สร้างหลิ่วอวิ๋นกรุ๊ปจนยิ่งใหญ่ได้อย่างทุกวันนี้เขายอดเยี่ยมมากบางทีในอนาคตเธออาจจะต้องเสียใจ ที่ตัวเองพลาดมหาเศรษฐีโสดผู้เพียบพร้อมทั้งความสามารถและฐานะระดับเพชรยอดมงกุฎคนนี้ไปแต่ ตอนนี้ในหัวของเธอมีแต่เรื่องหาเงิน และเรื่องการช่วยจ้านเฉิงอิ้นรวบรวมใต้หล้าให้เป็นปึกแผ่นในคติประจำใจ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 711

    “แน่นอนว่าพวกเธอก็จะไม่บังคับลูก ๆ ถ้าไม่ชอบ ก็ปฏิเสธได้!”“ต่อมา คุณแม่เกิดอุบัติเหตุ ผมถูกบ้านตาไปรับเลี้ยง ไอ้สารเลวนั่นเริ่มฟ้องร้องยาวนานกว่าสิบปี เพียงเพื่อล้มล้างพินัยกรรมของแม่!”“ระหว่างนั้น เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองในมือผม ป้าหลินจึงมอบหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ในมือของเธอให้ผมโดยไม่คิดค่าตอบแทน”“ผมเคยถามเธอ ว่าต้องการอะไรเป็นการตอบแทนไหม์”“เธอขอให้ผมดูแลคุณให้ดี หากวันใดวันหนึ่งพวกเขาสามีภรรยาเกิดเรื่องอะไรขึ้น คุณก็จะกลายเป็นเด็กกำพร้า ต้องถูกคนตระกูลเย่รังแกแน่ ๆ เธอหวังว่าผมจะรับปากว่าจะดูแลคุณให้ดีไปชั่วชีวิต!”น้ำตาของเย่มู่มู่ร่วงเผาะ ๆเธอไม่คิดเลยว่า คุณแม่ได้วางแผนเพื่อเธอไว้แต่เนิ่น ๆ แล้วเพื่อเดิมพันกับโอกาสอันน้อยนิดนั้น ใช้หุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ของลู่ซื่อกรุ๊ป แลกกับคำมั่นสัญญาเพื่อเธอพ่อแม่ของเธอรักเธอมาก“ลู่ฉีหยางตามหาคุณ ข่มขู่คุณ! นอกจากจะหมายตาฟู่ลี่กรุ๊ปที่เป็นคู่ค้ารายใหญ่แล้ว ยังมีอีกอย่าง พวกเขารู้ว่าแม่ของคุณมีหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์!”“ผมเปิดเผยรายชื่อผู้ถือหุ้นสิบอันดับแรกของบริษัทต่อสาธารณะ พวกเขาก็ยังคงไม่เชื่อ!”“อยากจะยึดหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์นั้นมาเป็นขอ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 710

    ตอนที่เธออายุประมาณห้าขวบ เคยพบเคยพบลู่ฉิงยวนครั้งหนึ่งตอนนั้นเป็นการประชุมประจำปีขององค์กร ลู่ฉิงยวนถูกลุงพามาจากเมืองหลวงเพื่อเข้าร่วมการประชุมประจำปีของฟู่ลี่กรุ๊ปเวลานั้นแม่ถามเธอว่า “ชอบพี่ชายตัวน้อยคนนั้นไหมจ๊ะ? ให้เขาเป็นแฟนของหนูดีไหม?”ตอนนั้นเธอยังเด็กเกินไป ฟันยังไม่ทันขึ้นครบเธอกำลังกินเค้กก้อนเล็ก ๆ พลางถามมารดาด้วยท่าทางน่ารัก “คุณแม่คะ แฟนคืออะไรเหรอคะ กินได้หรือเปล่า?”ผลลัพธ์ก็คือคำพูดประโยคนี้ทำให้ลุงของลู่ฉิงยวนกับบิดาของเธอรู้สึกขบขัน!แต่ว่าเธอกับลู่ฉิงยวนเคยพบกันแค่เพียงครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น แล้วก็ไม่เคยพบกันอีกเลยตอนนั้นพ่อกับแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลู่ฉิงยวนไม่ได้มาไว้ทุกข์ ทว่าลุงของเขาส่งของมาร่วมพิธี!แต่ว่าคนไม่ได้มา!แน่นอนว่าเย่มู่มู่สามารถเข้าใจได้ พอหมดอำนาจคนก็ลาจาก เด็กกำพร้าเช่นเธอไม่ค่าพอที่จะแสวงหาผลประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอถอนตัวจากการบริหารฟู่ลี่กรุ๊ปทุกคนรู้ดีว่าเอาอกเอาใจเธอไปก็ไม่มีประโยชน์ตอนที่พ่อแม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่ มีคนไปมาหาสู่อยู่บ้างทว่าหลังจากที่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิต ก็ไม่มีใครมาสนใจอีกเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 709

    คิดไม่ถึงเลยว่าคุณผู้หญิงหลิวจะทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตและสู้ยิบตา จนคุณชายลู่รู้สึกเสียใจในภายหลังเขาคุกเข่าลงต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว ตบหน้า และสารภาพด้วยน้ำตานองหน้าบอกว่าไม่ยินยอมหย่าร้าง ขอร้องให้คุณผู้หญิงหลิวให้โอกาสเขาอีกสักครั้งหนึ่งเพื่อแสดงความจริงใจ เขาจึงลบข้อมูลการติดต่อของผู้หญิงทุกคนทิ้งไปจนหมด ต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิวทั้งยังเปิดเผยข่าวอื้อฉาวของนักแสดงที่เคยมาก่อเรื่องต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว และทำลายอาชีพของเธอ!นอกจากนี้ยังทำให้ผู้หญิงอีกคนหนึ่งต้องตกงาน และถูกแบนในธุรกิจนั้นด้วยเขาเอาบ้าน และรถที่จ่ายเงินซื้อให้กับคุณหญิงลู่ กลับคืนมาทั้งหมด!บางทีคณผู้ชายลู่อาจจะแสดงเก่งจนเกินไป บางทีลูกอาจจะเล็กจนเกินไป จึงไม่อยากให้ลูกที่พอเกิดมาก็กลายเป็นครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวคุณผู้หญิงหลิวจึงใจอ่อนเธอยอมรับคุณผู้ชายลู่ และชิงบริษัทที่อยู่ในมือของคุณชายลู่กลับคืนมาญาติพี่น้องและเพื่อนที่คุณชายลู่เอาเข้ามาก่อนหน้านี้ ถูกไล่ออกไปจนหมดเชิญพนักงานเก่ากลับเข้ามาโรงงานภายใต้การบริหารของคุณผู้หญิงลู่ กลับมาฟื้นฟูอีกครั้งและในครั้งนี้ คุณผู้หญิงหลิวได้บีบคุณผู้ชายลู่ให้ล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 708

    หากว่าทางจ้านเฉิงอิ้นสามารถเอาชนะการรบได้ เธอจะต้องเฉลิมฉลองให้สักครั้งอย่างแน่นอนเธอกับหลูหมิงคืนจักรยานไฟฟ้าอย่างมีความสุข และขึ้นรถแท็กซี่เพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูงฮ่าวอี้และเสี่ยวเฉิงที่เฝ้าดูกระบวนการทั้งหมดอยู่ เมื่อเห็นพวกเขาขึ้นรถแท็กซี่ไป ก็ขับรถตามไปอยู่ห่าง ๆจนถึงวันนี้หวังเสี่ยวเฉิงก็ยังไม่อาจเข้าใจได้ เรื่องที่ว่าเจ้านายของตนเองเป็นผู้บำเพ็ญเซียน“พี่ นี่ผมกำลังฝันอยู่ใช่ไหม คุณหนูเย่เป็นนักศึกษาที่อายุยังน้อยแล้วก็สวยขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็นผู้บำเพ็ญเซียน เหลือเชื่อเกินไปแล้ว”“พี่ว่า ผมต้องฝากตัวเป็นศิษย์กับเธอหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นไปขอให้เธอทดสอบหินวิญญาณให้ดีไหม ไม่แน่ผมอาจมีความสามารถในการบำเพ็ญเซียนเหมือนกันก็ได้?”ฮ่าวอี้กำลังมองคนปัญญาอ่อนที่ฝันกลางวันมาตลอดทั้งวัน “หุบปาก เย่มู่มู่เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น!”“ผมรู้อยู่แล้วน่า ว่าเธอเป็นแค่ผู้บำเพ็ญเซียนที่ซ่อนตัวเป็นคนธรรมดาเท่านั้น พี่ว่าตอนนี้เธอบรรลุถึงขั้นไหนแล้ว?”“ฝึกลมปราณ สร้างรากฐาน หรือว่าแก่นปราณทองคำ? สามารถดูดซับสายฟ้า เคลื่อนย้ายพายุฝน ขั้นต่อไปก็พลักภูเขาผลิกทะเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 707

    แคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ หรือแม้กระทั่งแคว้นอวี่ กับแคว้นหย่งต่างก็กำลังจับจ้องกองทัพเผ่าหมาน...ทำไมงั้นหรือ?พวกเขาต่างก็ต้องการเข้ามาแบ่งปันผลประโยชน์ของแคว้นต้าฉี่เพราะความโง่เขลาและเหี้ยมโหดของฮ่องเต้น้อย ไม่แบ่งแยกถูกผิด และพยายามทุกวิถีทางเพื่อสังหารจ้านเฉิงอิ้นพวกเขาจึงต่างคิดว่าแคว้นต้าฉี่อ่อนแอข่มเหงได้ง่าย!หากในหกแคว้น แคว้นใดที่ล้มลงไวที่สุดย่อมต้องเป็นแคว้นฉี่ที่ปราศจากจ้านเฉิงอิ้นอย่างแน่นอนดังนั้น การที่เผ่าหมานแห่งม่อเป่ยบุกโจมตีแคว้นต้าฉี่ ทุกแคว้นของหัวเซี่ยจึงจ้องกันตาเป็นมันหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยทำสำเร็จแคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ก็จะถอนทัพออกจากแคว้นเยี่ยนโดยทันที และยกกำลังทหารทั้งหมดไปที่แคว้นต้าฉี่ล่าสังหารราษฎรของแคว้นต้าฉี่มาเป็นเสบียงอาหารอย่างป่าเถื่อน เพื่อเอาชีวิตรอดจากภัยแล้งสองปีที่อันตรายที่สุดหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยล้มเหลว ก็ไม่เป็นไรทหารเผ่าหมานที่กล้าหาญและสันทัดในการรบสองแสนคน ถึงแม้จะพ่ายแพ้ ก็สามารถลดทอนกำลังของกองทัพตระกูลจ้านลงได้เมื่อพวกเขาบุกเข้าแคว้นต้าฉี่ก็จะสะดวกมากยิ่งขึ้นจุดจบเป็นเช่นไร พวกเขาเพียงแต่ต้องใช้กลยุทธ์ดูไฟจา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 706

    ขอเพียงสามารถยึดครองทัพกระกูลจ้าน พวกเขาก็จะสามารถบุกเข้าเมืองหลวง และแช่งยิงแผ่นดินต้าฉี่มาได้ ผู้ใดจะคาดคิดเล่าว่าจะถูกจ้านเฉิงอิ้นทำให้เสียเรื่องเขามองเข้าไปยังสนามรบ ที่ยังคงโรมรันกับกองทัพตระกูลจ้าน ทหารเผ่าหมานต่อสู้ดิ้นรนอย่างยากลำบาก จะให้พวกเขายอมรับความพ่ายแพ้ ละทิ้งเมืองหลวงแห่งแคว้นต้าฉี่เช่นนี้งั้นหรือ?ไม่มีทาง!เขายกดาบม่อเตาที่อยู่ในมือ จับจ้องไปที่จ้านเฉิงอิ้นด้วยดวงตาที่แหลมคมราวกับเหยี่ยว“ข้า ม่อเป่ยอ๋อง จะไม่มีวันพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!”จ้านเฉิงถือดาบม่อเตาด้วยมือเดียว กระชับบังเหียนม้าและเดินวนอยู่รอบ ๆ ตัวเขา“หลัวซู่ เจ้าหมดหวังแล้ว เจ้าไม่อาจเอาชนะกองทัพตระกูลจ้านได้หรอก!”“ยอมจำนนแต่โดยดีเถิด!”หลัวซู่ปักมีดลงไปในดินโคลน สายตาของเขาเย็นชา “ข้าเป็นบุรุษแห่งทุ่งหญ้า ไม่เกรงกลัวความตาย!”“เพียงแต่ข้าไม่ยินยอมเท่านั้น เหตุใดข้าจึงได้พ่ายแพ้เจ้าอย่างไร้สาระเช่นนี้ พ่ายแพ้เจ้าอย่างรวดเร็วเช่นนี้!”การศึกในครั้งนี้มีความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันมากกองทัพตระกูลจ้านของจ้านเฉิงอิ้น ไม่ว่าจะเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ ขวัญกำลังใจ หรือว่าจำนวนคนที่ติดอาวุธ...ไม่ว่าจะ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status