공유

บทที่ 453

작가: มู่โร่ว
หลังจากเจรจากันอยู่สองสามรอบ ราคาของโรงงานจากหนึ่งร้อยล้าน ก็เจรจาจนเหลือหกสิบห้าล้าน

ทว่าก่อนส่งมอบ เทศบาลตำบลต้องซ่อมเครื่องจักรให้เรียบร้อยก่อน อย่างน้อยที่สุดก็อยู่ในขั้นดำเนินการได้

เทศบาลตำบลต้องซื้ออะไหล่และอุปกรณ์เสริม พร้อมกับหาช่างซ่อมมา

แบบนี้เมื่อคำนวณดูแล้ว พวกเขาทำเงินได้จากโรงงานไม่กี่ล้านเท่านั้น

ทว่า เย่มู่มู่เซ็นข้อตกลงกับพวกเขาเรื่องไก่และเป็ดที่เพาะเลี้ยงในตำบล และยังมีข้อตกลงความร่วมมือผลิตผลพลอยได้ทางการเกษตรอื่น ๆ อีกด้วย

หากไม่มีปัญหาเรื่องคุณภาพ ก็จัดส่งของให้แพลตฟอร์มไลฟ์สดช่วยเหลือเกษตรกร

ไม่เก็บค่าจ้างไลฟ์สด กำไรที่ได้รับก็จะน้อยกว่าร้านอื่นครึ่งหนึ่ง

เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงในตำบลสามารถทำเงินได้มากขึ้น

มองจากมุมมองระยะยาว เซ็นสัญญาฉบับนี้เท่ากับคุ้มค่า

ดีกว่าตั้งราคาโรงงานร้างสูง ๆ

หลังพวกเย่มู่มู่เซ็นข้อตกลงเสร็จ เธอปฏิเสธข้าวเที่ยงของผู้นำ และรีบกลับมาโดยด่วนทันควัน

คนโบราณทั้งสองยังตื่นเต้นกับการนั่งเครื่องบินเช่นเดิม

ตั้งแต่เข้าไปถ่ายรูปในสนามบิน หลังขึ้นไปนั่งบนเครื่องบิน ก็บันทึกวิดีโอตลอดทั้งกระบวนการ

เครื่องบินบินขึ้น พวกเขามองสนามบินอย่างต
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터

관련 챕터

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 454

    ซู่โจวคือพื้นที่ที่มีหินแร่เหล็กเป็นหนึ่งในห้าหัวเมืองที่สำคัญที่สุดของมู่ฉีซิว และเป็นหัวเมืองที่อยู่ใกล้พวกเขาที่สุดซ่งตั๋วตอบกลับ “ถึงซู่โจว ด้วยความเร็วที่ใช้ในการเดินทางของเรา ต้องใช้เวลาอีกหนึ่งเดือน”“กระชับเวลานอนให้สั้นลง ในแต่ละวันนอนเพียงสี่ชั่วยาม แล้วใช้เวลาที่เหลือมารีบเดินทาง จะถึงในสิบแปดวัน”จ้านเฉิงอิ้นครุ่นคิดก่อนจะเอ่ยว่า “หัวเมืองที่ใกล้ซู่โจวที่สุด ถูกกองทัพธงเหลืองเข้ายึดไปหรือยัง?”“มีขอรับ หัวเมืองที่ชื่อว่าหมิงโจว หัวเมืองนั้นทรุดโทรมเกินไป คนก็น้อย กองทัพธงเหลืองยังไม่เห็นค่า ฉะนั้นจึงไม่ได้เข้ายึด”“แต่หมิงโจวอยู่ห่างจากซู่โจวไม่เกินสามสิบลี้!”“เราไปพักค้างแรมที่หมิงโจวก่อน”“ขอรับ!”พวกเขาก็ยังผ่านเมืองเจียเมืองเจียสภาพผุ ๆ พัง ๆ คนสองหมื่นคนตายไปครึ่ง เหลือเพียงสามพันคนที่ดิ้นรนทุรนทุรายคงเป็นเพราะหัวเมืองนี้เล็กเกินไป ผุพังเกินไปกระทั่งเสนาบดีซู มู่ฉีซิวยังไม่เห็นค่า และไม่ได้ฝังวัตถุระเบิดพื้นผิวกำแพงเมืองหลุดลอก พื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมีไม่น้อยทีเดียวประตูใหญ่ของกำแพงเมืองไม่เห็นร่องรอยใด จากด้านนอกไปจนถึงในเมืองตลอดทั้งทาง สอง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 455

    เฉินขุย เฉินอู่ ซ่งตั๋ว...เห็นว่าใต้กำแพงเมือง ตรงประตูเมือง ยังมีเถ้ากระดูกกองหนึ่งอยู่บนพื้น...กระทั่งมารดาเพิ่งจะตายไป ก็มีคนคิดจะกินลูกชายแล้วภาพนี้เสียดแทงพวกเขาอย่างลึกซึ้งพวกเขาออกเดินทางจากด่านเจิ้นกวน ตลอดทางที่มานี้ เห็นชาวบ้านน้อยมากหัวเมืองแรกที่ทำให้พวกเขาสะเทือนขวัญ คือการผ่านหมู่บ้านไร้คน ทั้งตำบลตายกันหมดหัวเมืองที่สองคือเมืองต้ายงที่เคยรุ่งโรจน์ในอดีตเมืองใหญ่ที่มีคนสี่แสนคน ถูกวัตถุระเบิดเผาไหม้วายวอดตอนนี้กลายเป็นซากปรักหักพัง คนสี่แสนตายสิ้นส่วนหัวเมืองที่สาม ก็คือเมืองเจียยังมีคนที่มีชีวิตอยู่ ทว่าคนเหล่านี้กลับตายเสียดีกว่าอยู่เพียงแต่กำลังรอความตายอย่างช้า ๆในพวกเขามีทั้งคนดี และมีทั้งคนไม่ดีมีชีวิตได้จนถึงตอนนี้ ผู้นำทุกคนก็คาดเดาได้แล้วว่า พวกเขามีชีวิตอยู่มาได้อย่างไรทว่ากลุ่มคนเช่นนี้ ครั้นเห็นกองทัพตระกูลจ้านก็ยังคุกเข่าโขกศีรษะให้ดังเดิมในใจของพวกเฉินขุย เฉินขู่ สับสนยิ่งนักจ้านเฉิงอิ้นถามซ่งตั๋วขึ้นว่า “เตรียมโจ๊กเอาไว้เท่าใด?”“สามสิบถังขอรับ ทั้งหมดปรุงสุกหมดแล้ว เดี๋ยวจะใช้รถบรรทุกออกมา”“เพียงแต่ท่านแม่ทัพ พวกเขาหิวกระ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 456

    หากคนไม่มีแล้ว เสบียงอาหารที่พยายามแย่งมาสุดชีวิต ควรให้ผู้ใดกัน?ครั้นตั้งโรงทานโจ๊กขึ้นมาแล้ว ซ่งอวิ๋นฮุยก็ให้พวกซุนเฮ่อที่ตักโจ๊กสวมหน้ากากอนามัยและถุงมือทั้งหมดเดิมทีให้พวกเขาสวมชุดป้องกัน แต่พวกเขารู้สึกอึดอัดเกินไป ต่างไม่ยินดีใส่สามพันกว่าคน ตักกันอยู่ทั้งบ่าย ทุกคนล้วนได้กินโจ๊กอ่อนคนละหนึ่งถ้วยบางคนหนึ่งถ้วยไม่พอ ยังอยากกินอีก ก็จะเติมให้พวกเขาผู้ที่กินดินขาว ซ่งอวิ๋นฮุยจะรักษา และแยกตัวออกมานายทหารทุกนายต่างคิดว่า เมืองเจียเป็นเพียงเมืองเล็ก ๆ เมืองหนึ่ง แต่ไม่คิดว่าจะขนอะไรออกมาจากในเมืองได้ทองหลายคันรถ เครื่องลายคราม ภาพวาดพู่กัน และยังมีงานฝีมือแสนประณีตต่าง ๆ นานาครอบครัวพ่อค้ารายใหญ่ในเมืองเป็นคนบริจาคออกมาครอบครัวเขาสองร้อยคน ตายสิ้นเหลือเพียงสองคนเขากับหลานชายอายุห้าขวบเขากำลังอุ้มเด็กอยู่ หวังว่าจ้านเฉิงอิ้นจะแบ่งอาหารให้แก่บรรดาคนบ้านเดียวกันที่บ้านนอกการกระทำนี้ สะเทือนไปถึงครอบครัวพ่อค้าคนอื่น ๆแม้เมืองจะเล็กมีเพียงสองหมื่นคน ทว่ามั่งคั่งไม่น้อยมีพ่อค้าบริจาคทรัพย์สินออกมาอย่างต่อเนื่องได้มาทั้งหมดสิบสามคันรถ ห้าสิบกว่าหีบจ้านเฉิงอิ้น

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 457

    วันนี้ทุกคนต่างง่วนอยู่กับการทำอาหารเหล่าสตรีช่วยกันทำอาหารประเภทบะหมี่ นวดแป้ง สับเครื่องเคียง ไส้...เหล่าบุรุษช่วยกันล้างเนื้อวัว ขาหมู หั่นผัก ล้างผัก...นายทหารที่เหลือทั้งหมดไปตั้งกระโจมส่วนพวกเซี่ยเวยและจ้าวเฉียน มองแฮมขาหมูชิ้นมหึมา แล้วหันมาเปรียบเทียบกับขาเล็กลีบของตัวอีกครั้งพวกเขาไม่เคยเห็นขาหมูอ้วน ๆ เช่นนี้มาก่อนก่อนหน้าจะเกิดทุพภิกขภัย ที่ทุกครัวเรือนเลี้ยงล้วนเป็นหมูป่าสีดำชิ้นหมูบางเป็นอย่างมาก ทั้งตัวมีขนสีดำเต็มไปหมดที่อวบอ้วนเลี้ยงไปถึงแปดสิบชั่ง ที่ซูบผอมห้าสิบชั่งก็เชือดแล้วส่วนขาหมูชิ้นนี้ มีหลายสิบชั่งอย่างแน่นอน“หมูนี่อวบอ้วนยิ่งนัก!”“หมูตัวนี้กลับสีขาว ที่บ้านเดิมเราล้วนเป็นสีดำ!”“นี่มันเนื้ออะไรกัน? เดี๋ยวก่อน...เป็นเนื้อกระต่าย เนื้อแพะ!”ครั้นสิ้นเสียงจ้าวเฉียน นายทหารมากมายไม่ได้เข้ามาทุกคนเห็นสิ่งของหลากหลาย ก็พลันเข้าใจในทันทีอ่าง...อ่างขุมทรัพย์!อ่างขุมทรัพย์ของท่านแม่ทัพแสดงอิทธิฤทธิ์อีกแล้ว!สามารถคายสิ่งของออกมาอย่างต่อเนื่องตามที่ท่านแม่ทัพต้องการชาวบ้านทั่วทั้งเมืองต่างมารวมตัวกันที่หน้าประตู เห็นกองทัพตระกูลจ้านมีสิ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 458

    ไม่ว่าจะให้ตั้งกระโจม แบกสัมภาระทหาร แบกอาวุธ...พวกเขาก็ยินดีทำขอเพียงท่านแม่ทัพใหญ่ยอมรับพวกเขาเอาไว้พวกเฉินขุยเฉินอู่ระงับรอยยิ้มเอาไว้ได้ยินเพียงจ้านเฉิงอิ้นกล่าวอย่างช้า ๆ ว่า “ติดตามกองทัพ อาจทำสงครามได้ทุกเมื่อ จะต้องมีคนตาย”“ไม่กลัว เดิมทีพวกเราก็จะตายกันอยู่แล้ว เป็นแม่ทัพที่ให้ของกินแก่พวกเรา ทำให้พวกเรามีชีวิตรอด”“บัดนี้ พวกเรามีชีวิตรอดได้หนึ่งวันก็นับเป็นกำไรแล้ว”“สามพันสามร้อยคนทั้งเมือง ขอให้ท่านแม่ทัพโปรดรับไว้ด้วย!”จวงเหลียงยังคิดว่าต้องใช้เวลาสามวันถึงจะทำให้คนเหล่านี้เป็นฝ่ายบากหน้ามาขออาศัยก่อนคิดไม่ถึงเลยว่า ยังไม่ทันกินข้าวเสร็จหนึ่งมื้อเลยด้วยซ้ำพวกเขาก็เป็นฝ่ายเข้าร่วมกองทัพตระกูลจ้านก่อนแล้วยอดเยี่ยมเช่นนี้เชียวหากไปถึงหัวเมืองไหนชาวบ้านต่างก็เข้าร่วมกองทัพตระกูลจ้านกันหมดกว่าจะถึงหยงโจว ไม่ต้องพูดเลยว่าผู้คนที่ดึงเข้าร่วมทัพได้จะยิ่งใหญ่เช่นกองทัพธงเหลืองอย่างน้อยต้องมีสามแสนคนเป็นแน่หากกองทัพตระกูลจ้านคิดจะยกทัพไปปราบใต้หล้า พวกเขาต้องการกำลังทหารเป็นจำนวนมากคนของด่านเจิ้นกวนแตะต้องไม่ได้ ทำได้เพียงรับทหารภายในดินแดนต้าฉี่เท่านั

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 459

    เรื่องที่เกิดขึ้นในราชสำนัก เป็นขุนนางชั้นผู้น้อยที่ไม่ค่อยมีความโดดเด่นมากนัก หลังจากได้รับการติดต่อจากกองทัพตระกูลจ้าน ก็ลอบส่งข่าวออกมา!พวกเขาถูกเสนาบดีซูกดหัวมานาน เข้ามาในราชสำนักหลายปีแล้วก็เลื่อนขั้นไม่ได้มิหนำซ้ำเสนาบดีซูยังมาเก็บเงินกับพวกเขาทุกปีอีกต่างหาก ไม่ง่ายเลยกว่าพวกเขาจะหาเงินมาได้ ทว่าดันถูกเขาเก็บไปอย่างไม่สนวิธีการพวกเขาตำแหน่งต่ำต้อย คำพูดไม่มีน้ำหนัก ทว่าในใจเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด!รู้ว่าจ้านเฉิงอิ้นไม่ถูกกับเสนาบดีซูตอนนี้ เขาจะยกทัพกลับมายังราชสำนัก เหล่าขุนนางชั้นผู้น้อยที่ไม่เป็นที่ชื่นชอบ ต่างพากันคิดหาวิธีส่งข่าวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในราชสำนักช่วงนี้ไปให้จ้านเฉิงอิ้นโดยไม่ต้องซื้อตัวพวกเขายังเผยข่าวสำคัญมากอีกข่าวหนึ่งแคว้นฉู่ ฉี หมาน เยี่ยนสี่แค้น บรรลุข้อตกลงกับฮ่องเต้น้อยเรียบร้อยแล้วมีข่าวที่เหล่าขุนนางส่งมาให้ ยืนยันว่าฮ่องเต้น้อยลงนามในข้อตกลงยุติสงครามห้าปีผ่านการต่อรองราคาแคว้นฉู่ ฉี เยี่ยน ในฐานะแคว้นมั่งคั่ง แต่ละแคว้นจะยกห้าหัวเมืองชายแดนให้แก่แคว้นต้าฉี่ชดเชยด้วยเงิน อัญมณีและหญิงงามนับไม่ถ้วนแก่ต้าฉี่เผ่าหมานส่งม้ามามากกว

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 460

    เขาไม่คิดเลยว่ายังจะมีกะจิตกะใจมาสร้างเรือนไจซิงที่ไร้ประโยชน์อีกเพียงเพื่อจะมอบเป็นของขวัญแก่สนมที่รักเท่านั้นเพื่อกดหัวท่านแม่ทัพใหญ่ กลับตอบรับข้อตกลงไร้สาระนี่ของสี่แคว้นเขาเองก็ไม่คิดบ้างเลย หากจ้านเฉิงอิ้นตายทั้งต้าฉี่ก็จะไม่มีผู้ใดพอที่จะต้านทานการบุกรุกของสี่แคว้นได้อีกต้าฉี่ต้องล่มสลายเป็นแน่ฮ่องเต้น้อยผู้นี้อยากจะฆ่าจ้านเฉิงอิ้นจนขึ้นสมองเกินไปจริง ๆความคิดบ้าดีเดือดจนกลายเป็นมารไปแล้วถึงขั้นที่ว่าการตัดสินตามปกติเขาก็ไม่มีก่อนหน้านี้หลายคนยังครุ่นคิด กระซิบกระซาบกันว่าท่านแม่ทัพใหญ่จะก่อกบฏหรือไม่ตอนนี้พวกเขามั่นใจแล้วว่าจ้านเฉิงอิ้นจะต้องก่อกบฏและยังต้องจัดการสี่แคว้นนั่น ให้กลายเป็นอาณาเขตของเขาด้วยติดตามท่านแม่ทัพใหญ่ที่มีความสามารถและชำนาญกลยุทธ์เช่นนี้ ในใจของพวกเขาก็เกิดความทะเยอทะยานขึ้นความกล้าก็มีมากขึ้นตามเช่นกันถ้าหาก เรื่องนี้กลายเป็นจริงได้!ถ้าหากรวมหัวเซี่ยเป็นหนึ่งได้จริง ๆ พวกเขาก็จะเป็นวีรบุรุษแห่งประวัติศาสตร์ครั้นคิดมาถึงตรงนี้ ภายในใจของเหล่าผู้นำก็เกิดความภาคภูมิใจขึ้นมาตอนนี้พวกเขาเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้นเป็นการเริ่มต้

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 461

    คนเหล่านี้ไม่มีแม้แต่เสื้อผ้า ผู้ชายท่อนบนเปลือยเปล่าเสื้อผ้าของผู้หญิงเต็มไปด้วยรอยเย็บเด็ก ๆ ทุกคนเปลือยกายผอมซูบเห็นโครงกระดูกเย่มู่มู่เห็นกำแพงเมืองที่ผุพังทลาย ผนังกำแพงหลุดลอกเผยให้เห็นผนังดินข้างในในภาพเคลื่อนไหวด้านใต้ผนังกำแพงมีเถ้ากระดูกวางเป็นกองนับไม่ถ้วนกระดูกเหล่านี้ล้วนเป็นของผู้ประสบภัยที่ตายแล้วไม่มีใครช่วยเก็บศพพวกเขาจึงได้แต่ทิ้งไว้ตากแดดอย่างนั้นน่าสลดใจเหลือเกิน!เย่มู่มู่สัมผัสถึงความโหดร้ายของความอดอยากครั้งใหญ่ในรอบสองพันปีตามสัญชาตญาณเป็นครั้งแรกหัวเมืองแห่งนี้ยังมีคนรอดชีวิต แต่หัวเมืองอื่น ๆ คนที่มีชีวิตรอดก็คงมีไม่กี่คนทั้งหมดนี้ มองแล้วคล้ายเมือง แต่ในสายตาของเย่มู่มู่ กำแพงเมืองที่ต่ำเตี้ยเช่นนั้นยังสู้ผนังกำแพงของชาวบ้านในชนบทไม่ได้ด้วยซ้ำประตูทางผ่านของรถอันคับแคบ รถออฟโรดคันหนึ่งก็ยังขับเข้าไปไม่ได้จะติดตรงประตูตอนท้ายของภาพเคลื่อนไหว จ้านเฉิงอิ้นกล่าว “ท่านเทพ เมืองเจียสามพันกว่าคน ชายหนุ่มที่แข็งแกร่งสองพันกว่าคน ผู้หญิง เด็กและคนสูงอายุหลายร้อยคน ข้ารับเข้ามาอยู่ในกองทัพตระกูลจ้านทั้งหมด”เย่มู่มู่ทิ้งข้อความไว้บนกระดานข้อคว

최신 챕터

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บบที่ 716

    ทำได้เพียงนำเข้าจากประเทศรอบ ๆ ไม่กี่แห่งเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ สิ่งของที่ปล้นชิงมาได้จึงมีความหลากหลายปะปนกันไป แต่กลับเป็นของที่ใช้งานได้จริง ทว่าสิ่งของเหล่านี้กลับกลายเป็นโบราณวัตถุของเย่มู่มู่ไปเสียทั้งหมดโดยไม่มีข้อยกเว้น!เสบียงที่ได้มาครั้งนี้ไม่เพียงแต่มีทองคำ เงิน และของมีค่ามากมายเท่านั้น แต่ยังมีของประดับตกแต่งสวยงามต่าง ๆ เครื่องสัมฤทธิ์ และของประดับที่ทำจากไม้ มีครบครันทุกอย่าง!เมื่อเห็นโบราณวัตถุจำนวนมหาศาลเช่นนี้ เธอก็อดประหลาดใจไม่ได้!มีจำนวนราว ๆ ห้าร้อยหีบเห็นจะได้มากเกินไปแล้ว ไม่นึกเลยว่าพวกคนเถื่อนจะปล้นชิงของในแคว้นต้าฉี่ไปได้มากมายถึงเพียงนี้จากนั้น เย่มู่มู่ก็ได้ยินเสียงจากฝั่งของจ้านเฉิงอิ้นเป็นเสียงแหลมเล็กคล้ายขันที “ขอแสดงความยินดีกับท่านแม่ทัพใหญ่ บัดนี้เผ่าหมานถูกปราบจนราบคาบแล้ว ไม่มีผู้ใดสามารถคุกคามดินแดนต้าฉี่ของเราได้อีกต่อไป นี่นับเป็นข่าวดีอย่างยิ่ง บ่าวจะรีบนำความกลับไปทูลรายงานฝ่าบาท พระองค์จะต้องทรงพระเกษมสำราญเป็นแน่!”“ท่านแม่ทัพใหญ่รอฟังข่าวดีเรื่องการเลื่อนยศศักดิ์ได้เลยขอรับ!”ผู้บัญชาการลั่วเองก็ดีใจจนออกนอกหน้า นี่เป็นครั้งแร

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 715

    พวกเขาทั้งหมดกลับมาถึงคฤหาสน์ในเวลาอาหารค่ำพอดีเย่มู่มู่บอกให้หลูซีกับหลูหมิงทานอาหารเย็นให้เสร็จก่อน ถึงจะยอมให้พวกเขาดูข้อความในกระดาษที่อยู่ในแจกันทั้งสองจึงรีบจัดการอาหารบนโต๊ะอย่างรวดเร็วที่สุดแล้วเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อให้เย่มู่มู่ขึ้นไปชั้นบนทั้งสามคนนั่งลงในห้องนั่งเล่นภายในห้องของเย่มู่มู่ เธอหยิบเอากระดาษโน้ตจำนวนมากออกมาจากแจกันแล้วทั้งสามก็เริ่มอ่านข้อความเหล่านั้นด้วยกันเป็นบันทึกที่จ้านเฉิงอิ้นเขียนเล่าถึงความเป็นไปของสงครามกับเผ่าหมานอันที่จริง ชัยชนะในศึกครั้งนี้แทบจะไม่มีอะไรพลิกผันทุกคนต่างรู้ดีว่ากองทัพตระกูลจ้านจะต้องเป็นฝ่ายชนะทว่ากำลังพลของฝ่ายตรงข้ามก็มีไม่น้อย ทั้งยังมีอาวุธร้ายแรงอยู่ในมือ ทำให้พวกเขายังพอมีโอกาสอยู่บ้างแต่ใครเลยจะคาดคิดว่า พายุฝนห่าใหญ่เพียงครั้งเดียวจะเปลี่ยนสถานการณ์รบไปโดยสิ้นเชิง!จ้านเฉิงอิ้นขอบคุณเย่มู่มู่ที่ส่งพายุฝนมาให้ในจังหวะสำคัญที่สุดเพราะฝนที่โหมกระหน่ำครั้งนี้นี่เอง ที่ทำให้ดินระเบิดที่พวกเผ่าหมานฝังไว้ใต้ดินเปียกโชกไปทั้งหมดพวกเผ่าหมานรู้วิธีใช้ดินระเบิด แต่ไม่เข้าใจเรื่องวัตถุดิบและการบำรุงรักษาในยามปกติ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 714

    เค้าโครงหน้าคมคาย ยิ่งดูหล่อเหลาโดดเด่นขึ้นแต่สีหน้ากลับเย็นชามาตลอด กลายเป็นหนุ่มหล่อสุดเย็นชาประจำโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไปแล้วแน่นอนว่า เขาเดินทางด้วยจักรยานสาธารณะ หรือไม่ก็นั่งรถประจำทาง ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีของแบรนด์เนมเลยไม่เหมือนกับเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ที่พอเข้าเรียนปุ๊บก็รู้เลยว่า พ่อแม่ทำอาชีพอะไร มาจากตระกูลไหน ตระกูลมีกิจการอะไรบ้างเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ล้วนแต่ร่ำรวยหรือมีฐานะสูงส่งส่วนเขาพื้นเพธรรมดา การแต่งตัวก็สบาย ๆโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไม่มีเครื่องแบบนักเรียน เพื่อนคนอื่น ๆ ใส่แต่แบรนด์หรู หรือไม่ก็ชุดสั่งตัดส่วนเขาใส่เสื้อผ้าแผงลอยข้างทาง!อาศัยหน้าตาแบกล้วน ๆพอดูออกว่าที่บ้านไม่มีเงิน ก็ถูกนักเรียนเกเรหมายหัวเพื่อนร่วมชั้นที่มายั่วโมโห หัวเราะอย่างโอหัง “โธ่เอ๊ย กล้าทำหน้าบึ้งใส่ฉันเหรอ!”“มา ๆ ๆ วันนี้พวกเราสั่งสอนมันหน่อย ลากตัวมันขึ้นรถไปที่นอกเมือง”หลันซีเยว่ตัวสั่นด้วยความกลัวอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังคงขวางอยู่ข้างหน้าเขา“พวกนายกล้าเหรอ ถ้าวันนี้พวกนายกล้าแตะต้องเขาแม้แต่นิดเดียว ฉันจะโทรแจ้งตำรวจ!”ทันใดนั้นนักเรียนหลายคนก็หัวเราะล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 713

    เมื่อรถของเย่มู่มู่และหลูหมิงเคลื่อนตัวออกไป ลู่ฉิงยวนยังคงยืนสง่าอยู่ริมถนน มองส่งจนรถลับสายตาไป ครั้งนี้ก็ใช่ว่าจะไม่ได้อะไรเลย อย่างน้อยเขาก็ได้ช่องทางการติดต่อของเธอมาเย่มู่มู่ตอนห้าขวบไม่ยอมรับเขา~ไม่นึกเลยว่าพออายุยี่สิบปี เย่มู่มู่ก็ยังคงไม่ชอบเขาเหมือนเดิมผู้หญิงเพียงคนเดียว กลับเป็นคนที่ทำให้เขาพ่ายแพ้ถึงสองครั้งในชีวิตนี้หลังจากขึ้นรถแล้ว ลู่ฉิงยวนก็ถามหัวหน้าบอดี้การ์ดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “บอดี้การ์ดที่อยู่กับเย่มู่มู่คนนั้น เป็นคนของสายไหนกันแน่?”หัวหน้าทีมบอดี้การ์ดยังนึกถึงชายคนนั้น ออกหมัดฉับไว รุนแรง นั่นไม่ใช่ฝีมือของคนธรรมดาแน่นอน“เป็นนักสู้มืออาชีพครับ ที่สำคัญคือเป็นประเภทที่ทุกกระบวนท่าล้วนมุ่งเอาชีวิต! นั่นไม่ใช่ฝีมือของพวกเรียนกังฟูหรือซานต้าวิธีที่เขาลงมือ ผมไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลย!”ลู่ฉิงยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย แค่คนเดียวก็สามารถล้มบอดี้การ์ดของเขาทั้งหมดลงไปกองกับพื้นได้เดิมทีเขายังเป็นห่วงเย่มู่มู่ กลัวว่าเด็กกำพร้าตัวคนเดียวอย่างเธอจะถูกรายล้อมไปด้วยฝูงหมาป่าและเสือร้ายแต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าความกังวลของเขาจะไม่จำเป็นเสียแล้วการที่สามารถอัด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 712

    “คุณคู่ควรกับผู้หญิงที่ดีกว่านี้นะคะ ส่วนฉัน... ไม่ได้สนใจเรื่องแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธ์อะไรแบบนั้นเลยค่ะ!”เธอกำลังจะหันหลังเดินจากไป แต่เสียงของลู่ฉิงยวนก็เย็นเยียบลงหลายส่วน เขาถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่าว่า “ทำไม?”เย่มู่มู่หันกลับไปมองเขา“ทำไมถึงปฏิเสธผม คุณรู้ไหมว่าคุณกำลังจะพลาดอะไรไป?”“คุณไม่ชอบผม หรือคิดว่าเราไม่มีความรู้สึกต่อกันงั้นเหรอ!”เย่มู่มู่ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ขอโทษนะคะคุณลู่ มันไม่เกี่ยวกับคุณเลยค่ะ การที่ต้องสร้างครอบครัวกับผู้ชายที่แทบไม่รู้จักกันดี แค่คิด...ฉันก็รับไม่ได้แล้วค่ะ!”“สุดท้ายแล้ว ก็ยังเป็นเพราะคุณไม่ชอบผมใช่ไหม? มู่มู่ อย่าดื้อนักเลย ความรู้สึกน่ะมันสร้างกันได้นะ...”เย่มู่มู่ขมวดคิ้ว มองไปยังลู่ฉิงยวนเขาทั้งหนุ่ม ทั้งรวย อาศัยความสามารถของตัวเองล้วน ๆ สร้างหลิ่วอวิ๋นกรุ๊ปจนยิ่งใหญ่ได้อย่างทุกวันนี้เขายอดเยี่ยมมากบางทีในอนาคตเธออาจจะต้องเสียใจ ที่ตัวเองพลาดมหาเศรษฐีโสดผู้เพียบพร้อมทั้งความสามารถและฐานะระดับเพชรยอดมงกุฎคนนี้ไปแต่ ตอนนี้ในหัวของเธอมีแต่เรื่องหาเงิน และเรื่องการช่วยจ้านเฉิงอิ้นรวบรวมใต้หล้าให้เป็นปึกแผ่นในคติประจำใจ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 711

    “แน่นอนว่าพวกเธอก็จะไม่บังคับลูก ๆ ถ้าไม่ชอบ ก็ปฏิเสธได้!”“ต่อมา คุณแม่เกิดอุบัติเหตุ ผมถูกบ้านตาไปรับเลี้ยง ไอ้สารเลวนั่นเริ่มฟ้องร้องยาวนานกว่าสิบปี เพียงเพื่อล้มล้างพินัยกรรมของแม่!”“ระหว่างนั้น เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองในมือผม ป้าหลินจึงมอบหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ในมือของเธอให้ผมโดยไม่คิดค่าตอบแทน”“ผมเคยถามเธอ ว่าต้องการอะไรเป็นการตอบแทนไหม์”“เธอขอให้ผมดูแลคุณให้ดี หากวันใดวันหนึ่งพวกเขาสามีภรรยาเกิดเรื่องอะไรขึ้น คุณก็จะกลายเป็นเด็กกำพร้า ต้องถูกคนตระกูลเย่รังแกแน่ ๆ เธอหวังว่าผมจะรับปากว่าจะดูแลคุณให้ดีไปชั่วชีวิต!”น้ำตาของเย่มู่มู่ร่วงเผาะ ๆเธอไม่คิดเลยว่า คุณแม่ได้วางแผนเพื่อเธอไว้แต่เนิ่น ๆ แล้วเพื่อเดิมพันกับโอกาสอันน้อยนิดนั้น ใช้หุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ของลู่ซื่อกรุ๊ป แลกกับคำมั่นสัญญาเพื่อเธอพ่อแม่ของเธอรักเธอมาก“ลู่ฉีหยางตามหาคุณ ข่มขู่คุณ! นอกจากจะหมายตาฟู่ลี่กรุ๊ปที่เป็นคู่ค้ารายใหญ่แล้ว ยังมีอีกอย่าง พวกเขารู้ว่าแม่ของคุณมีหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์!”“ผมเปิดเผยรายชื่อผู้ถือหุ้นสิบอันดับแรกของบริษัทต่อสาธารณะ พวกเขาก็ยังคงไม่เชื่อ!”“อยากจะยึดหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์นั้นมาเป็นขอ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 710

    ตอนที่เธออายุประมาณห้าขวบ เคยพบเคยพบลู่ฉิงยวนครั้งหนึ่งตอนนั้นเป็นการประชุมประจำปีขององค์กร ลู่ฉิงยวนถูกลุงพามาจากเมืองหลวงเพื่อเข้าร่วมการประชุมประจำปีของฟู่ลี่กรุ๊ปเวลานั้นแม่ถามเธอว่า “ชอบพี่ชายตัวน้อยคนนั้นไหมจ๊ะ? ให้เขาเป็นแฟนของหนูดีไหม?”ตอนนั้นเธอยังเด็กเกินไป ฟันยังไม่ทันขึ้นครบเธอกำลังกินเค้กก้อนเล็ก ๆ พลางถามมารดาด้วยท่าทางน่ารัก “คุณแม่คะ แฟนคืออะไรเหรอคะ กินได้หรือเปล่า?”ผลลัพธ์ก็คือคำพูดประโยคนี้ทำให้ลุงของลู่ฉิงยวนกับบิดาของเธอรู้สึกขบขัน!แต่ว่าเธอกับลู่ฉิงยวนเคยพบกันแค่เพียงครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น แล้วก็ไม่เคยพบกันอีกเลยตอนนั้นพ่อกับแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลู่ฉิงยวนไม่ได้มาไว้ทุกข์ ทว่าลุงของเขาส่งของมาร่วมพิธี!แต่ว่าคนไม่ได้มา!แน่นอนว่าเย่มู่มู่สามารถเข้าใจได้ พอหมดอำนาจคนก็ลาจาก เด็กกำพร้าเช่นเธอไม่ค่าพอที่จะแสวงหาผลประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอถอนตัวจากการบริหารฟู่ลี่กรุ๊ปทุกคนรู้ดีว่าเอาอกเอาใจเธอไปก็ไม่มีประโยชน์ตอนที่พ่อแม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่ มีคนไปมาหาสู่อยู่บ้างทว่าหลังจากที่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิต ก็ไม่มีใครมาสนใจอีกเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 709

    คิดไม่ถึงเลยว่าคุณผู้หญิงหลิวจะทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตและสู้ยิบตา จนคุณชายลู่รู้สึกเสียใจในภายหลังเขาคุกเข่าลงต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว ตบหน้า และสารภาพด้วยน้ำตานองหน้าบอกว่าไม่ยินยอมหย่าร้าง ขอร้องให้คุณผู้หญิงหลิวให้โอกาสเขาอีกสักครั้งหนึ่งเพื่อแสดงความจริงใจ เขาจึงลบข้อมูลการติดต่อของผู้หญิงทุกคนทิ้งไปจนหมด ต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิวทั้งยังเปิดเผยข่าวอื้อฉาวของนักแสดงที่เคยมาก่อเรื่องต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว และทำลายอาชีพของเธอ!นอกจากนี้ยังทำให้ผู้หญิงอีกคนหนึ่งต้องตกงาน และถูกแบนในธุรกิจนั้นด้วยเขาเอาบ้าน และรถที่จ่ายเงินซื้อให้กับคุณหญิงลู่ กลับคืนมาทั้งหมด!บางทีคณผู้ชายลู่อาจจะแสดงเก่งจนเกินไป บางทีลูกอาจจะเล็กจนเกินไป จึงไม่อยากให้ลูกที่พอเกิดมาก็กลายเป็นครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวคุณผู้หญิงหลิวจึงใจอ่อนเธอยอมรับคุณผู้ชายลู่ และชิงบริษัทที่อยู่ในมือของคุณชายลู่กลับคืนมาญาติพี่น้องและเพื่อนที่คุณชายลู่เอาเข้ามาก่อนหน้านี้ ถูกไล่ออกไปจนหมดเชิญพนักงานเก่ากลับเข้ามาโรงงานภายใต้การบริหารของคุณผู้หญิงลู่ กลับมาฟื้นฟูอีกครั้งและในครั้งนี้ คุณผู้หญิงหลิวได้บีบคุณผู้ชายลู่ให้ล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 708

    หากว่าทางจ้านเฉิงอิ้นสามารถเอาชนะการรบได้ เธอจะต้องเฉลิมฉลองให้สักครั้งอย่างแน่นอนเธอกับหลูหมิงคืนจักรยานไฟฟ้าอย่างมีความสุข และขึ้นรถแท็กซี่เพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูงฮ่าวอี้และเสี่ยวเฉิงที่เฝ้าดูกระบวนการทั้งหมดอยู่ เมื่อเห็นพวกเขาขึ้นรถแท็กซี่ไป ก็ขับรถตามไปอยู่ห่าง ๆจนถึงวันนี้หวังเสี่ยวเฉิงก็ยังไม่อาจเข้าใจได้ เรื่องที่ว่าเจ้านายของตนเองเป็นผู้บำเพ็ญเซียน“พี่ นี่ผมกำลังฝันอยู่ใช่ไหม คุณหนูเย่เป็นนักศึกษาที่อายุยังน้อยแล้วก็สวยขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็นผู้บำเพ็ญเซียน เหลือเชื่อเกินไปแล้ว”“พี่ว่า ผมต้องฝากตัวเป็นศิษย์กับเธอหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นไปขอให้เธอทดสอบหินวิญญาณให้ดีไหม ไม่แน่ผมอาจมีความสามารถในการบำเพ็ญเซียนเหมือนกันก็ได้?”ฮ่าวอี้กำลังมองคนปัญญาอ่อนที่ฝันกลางวันมาตลอดทั้งวัน “หุบปาก เย่มู่มู่เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น!”“ผมรู้อยู่แล้วน่า ว่าเธอเป็นแค่ผู้บำเพ็ญเซียนที่ซ่อนตัวเป็นคนธรรมดาเท่านั้น พี่ว่าตอนนี้เธอบรรลุถึงขั้นไหนแล้ว?”“ฝึกลมปราณ สร้างรากฐาน หรือว่าแก่นปราณทองคำ? สามารถดูดซับสายฟ้า เคลื่อนย้ายพายุฝน ขั้นต่อไปก็พลักภูเขาผลิกทะเล

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status