LOGINซึ่งคำพูดของลูกค้าสาวทั้งสองคน ชายหนุ่มทั้งสามได้ยินและรับรู้ทุกอย่าง แต่พวกเขาไม่คิดจะสนใจอะไรเสมือนกับว่าไม่ได้ยินที่พวกเธอสองคนพูด มันก็แค่ผู้หญิงที่แซวผู้ชายทั่วไปก็แค่นั้น ผิดกับเด็กสาวที่ยืนอยู่ท่ามกลางหนุ่มหล่อทั้งสามคน ตอนนี้ใบหน้าของเธอบูดบึ้งบอกบุญไม่รับเลย เธอไม่พอใจนึกโมโหลูกค้าสาวสองคนนั้นเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าเธอพยายามที่จะตัดใจจากอีกคนแต่เจอแบบนี้มันก็อดหึงหวงไม่ได้จริงๆ
และด้วยความโมโหหึง เด็กสาวจึงทำแดกดันด้วยการหยิบหนังสือนิยายที่อยู่ใกล้มือกอบโกยมาทีสามสี่เล่มแล้วยัดใส่ลงในตร้ากร้าที่มาตินถืออยู่ ทำเอาชายหนุ่มทั้งสามคนมองเด็กสาวเป็นตาเดียวกันกับการกระทำของเธอ
"เอาหมดนี่เลยค่ะ" เมื่อยัดหนังสือนิยายจนเต็มตระกร้าขนาดย่อม มิราจึงเอ่ยบอกกับคนที่ถือตระกร้าไปทันทีด้วยน้ำเสียงห้วนๆ แล้วยกแขนเรียวเล็กขึ้นมากอดอกโดยหันมองไปอีกทาง ไม่มองหน้าใครทั้งนั้น ท่าทางกระฟัดกระเฟียดละคนเอาแต่ใจ
"ดะ ได้ครับ งั้นพี่เอาไปจ่ายตังค์ให้เลยนะครับ" มาตินงุนงงกับการกระทำและท่าทางของคนตัวเล็กไม่น้อย แต่กระนั้นก็ต้องทำหน้าที่ของสุภาพบุรุษ เขาจึงเดินไปยังเคาน์เตอร์คิดเงินของร้านทั้งที่ยังนึกงงกับอาการของคนตัวเล็กไม่หาย
ร่างสูงเจ้าของสายตาคมกริบอมยิ้มบางๆออกมาทันทีเมื่อเห็นท่าทางของเด็กสาวเขาก็พอจะรู้แล้วว่าเธอเป็นอะไร ใจแกร่งรู้สึกอุ่นวาบพองโตขึ้นมาทันทีที่รู้ว่าเด็กสาวยังมีใจหึงหวงเขาอยู่ ตาคู่คมมองเธอที่ยืนหันหลังให้เขาด้วยความรู้สึกคิดถึง ทั้งที่เธออยู่ใก้ลแค่เอื้อม ทั้งที่เห็นเธออยู่ทุกวัน แต่เขากลับรู้สึกโหยหาและคิดถึงเธอเหลือเกินเหมือนกับว่าเธออยู่ไกลแสนไกล
และด้วยความคิดถึงจับใจ วายุไม่มัวรอช้าโน้มใบหน้าหล่อเหลาลงไปหอมแก้มนุ่มของเด็กสาวจากด้านหลังของเธอทันที
ฟอด~
เขาหอมแก้มนุ่มแช่ไว้อยู่อย่างนั้นโดยไม่คิดจะผละออก
ด้านมิราดวงตาเบิกโพลงด้วยความตกใจ เธอนิ่งอึ้งสตั้นไปเลย จากที่มีอารมณ์โมโหหึงกลับแปลเปลี่ยนเป็นความรู้สึกสับสนเข้ามาแทน ใจดวงน้อยเต้นรุนแรงไปหมด เธอไม่เข้าใจว่าอีกคนทำแบบนี้กับเธอทำไม
ฝั่งภีมก็ตกใจอึ้งไปเช่นเดียวกันกับการกระทำของรุ่นพี่ แต่กระนั้นเขาก็ดึงสติกลับมาได้เร็ว และแทนที่จะเอ่ยห้ามปรามรุ่นพี่ของตัวเองเขากลับไม่ทำ แต่เลือกที่จะเดินไปดูยังเคาน์เตอร์เพื่อดูต้นทางเป็นหูเป็นตาให้รุ่นพี่แทน ยังดีที่ล๊อคหนังสือที่พวกเขายืนอยู่ไม่มีลูกค้าคนอื่นอยู่ด้วย
ด้านวายุค่อยๆผละใบหน้าออกจากแก้มนุ่มของเด็กสาวอย่างอ้อยอิ่ง ก่อนจะเอ่ยกระซิบข้างใบหูเล็กเบาๆ
"คิดถึงจัง"
สิ้นเสียงทุ้ม ความรู้สึกอ่อนไหวก็เกิดขึ้นกับเด็กสาว ขณะที่ใจดวงน้อยเต้นแรงไม่หยุด ก่อนที่เธอจะหมุนตัวหันกลับไปเผชิญหน้ากับเขา แล้วถอยห่างออกจากเขาเล็กน้อย
และด้วยความสับสนและไม่เข้าใจ เธอจึงถามออกไปด้วยน้ำเสียงเบาปนสั่นเครือเล็กน้อย
"คิดถึงเหรอ คิดถึงทำไม"
วายุเลือกที่จะไม่ตอบ แต่กลับยื่นมือหนาข้างหนึ่งไปกุมแก้มนุ่มเอาไว้ ขณะที่แขนแกร่งอีกข้างคว้าเอวบางเข้าหาตัวโดยที่เด็กสาวก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร เธอเอาแต่มองหน้าเขาด้วยความไม่เข้าใจ ก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลาจะค่อยๆโน้มลงมาใกล้แล้วจูบซับหน้าผากมนของเธออย่างอ่อนโยน จากนั้นก็ลากกึ่งปากกึ่งจมูกลงมาหอมซับแก้มนุ่มข้างขวาและแก้มนุ่มข้างซ้ายอย่างนุ่มนวลและอ่อนโยน เขาทำอย่างละเมียดละมัยอย่างใจเย็น โดยที่เด็กสาวก็ได้แต่ยืนนิ่งๆให้เขาสัมผัสเธอได้ตามใจ ถึงจะตกใจอยู่มากกับการกระทำของเขาก็ตาม
"คิดถึงมากเลยรู้ไหมครับ" เสียงทุ้มพูดออกมาอย่างอ่อนโยน ขณะมือหนาก็ลูบแก้มนุ่มไปด้วยอย่างทะนุถนอม ตาคู่คมมองสำรวจดวงหน้าเล็กไปทั่วก่อนจะหยุดสายตาไว้ที่ปากน้อยๆแลดูอวบอิ่มของเด็กสาว เขามองอย่างหลงใหลและโหยหา ก่อนจะไม่รอช้าปากหนากดจูบปากบางทันทีอย่างนุ่มนวล
"อื้อ!" มิราดวงตาปรือโตขึ้นทันที ยิ่งตกใจหนักกว่าเดิม แต่ทว่าก็ไม่ได้ผลักไสเขาแต่อย่างใด ก่อนที่เธอจะค่อยๆหลับตาพริ้มยอมให้เขาจูบอย่างเต็มใจละคนเคลิบเคลิ้มกับจูบแรกของตัวเองที่อีกคนเป็นคนมอบให้
"อืม~" วายุครางออกมาด้วยความพึงพอใจที่เด็กสาวไม่ได้ขัดขืน เขาจึงสอดแทรกลิ้นเข้าไปในโพลงปากบางตวัดดูดดันลิ้นเล็กอย่างหยอกเย้า ฉกชิมความหวานของปากน้อยๆอย่างย่ามใจ จากนั้นก็ค่อยๆบดจูบขบเม้มปากบางอย่างเร่าร้อนขึ้นละคนตะกละตะกลาม กระหายในรสชาติของปากน้อยๆนี้ แต่กระนั้นเขาก็ทำทุกอย่างด้วยความอ่อนโยน
แต่แล้วจู่ๆมิราก็ดึงสติกลับมาได้และลืมตาขึ้นมามองคนตัวโตที่กำลังจูบเธออยู่ ก่อนจะผลักเขาออกอย่างแรง
ปึก!
ทำเอาร่างสูงที่กำลังมัวเมาและเคลิบเคลิ้มอยู่กับบทจูบ เซไปด้านหลังเกือบจะเสียหลักเพราะไม่ทันตั้งตัว แต่แค่เซเล็กน้อยเท่านั้นเพราะแรงเท่ามดของเธอไม่สามารถทำอะไรเขาได้
"คุณทำแบบนี้ทำไม ทำแบบนี้ทำไมคะ" มิราถามออกไปด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ดวงตากลมโตสั่นระริกมองคนตัวโตตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ นึกโกรธตัวเองที่เผลอไผลไปกับบทจูบของเขาเมื่อครู่
"ผมระ..."
"พี่วายุ คุณมาตินมาแล้ว"
ไม่ทันที่วายุจะได้บอกความในใจกับเด็กสาว เสียงของรุ่นน้องก็ดันเอ่ยแทรกขึ้นมาเสียก่อน
"แม่ง!" เขาหันไปสบถคำหยาบใส่หน้ารุ่นน้องทันทีอย่างหัวเสีย เขาเข้าใจว่ารุ่นน้องของเขาหวังดี แต่ก็ดันหวังดีผิดเวลา
"เอ่อ" ภีมเกาหัวงึกๆด้วยความงุนงง พลางคิดว่าตัวเองทำอะไรผิดรุ่นพี่ถึงได้ดูไม่พอใจเขาขนาดนี้ ก่อนที่เสียงของมาตินที่เดินเข้ามาจะดังแทรกสถานการณ์
"ขอโทษนะตัวเล็กที่ให้รอนาน พอดีเครื่องรูดบัตรของทางร้านมีปัญหานิดหน่อยน่ะครับ"
จากนั้นมาตินก็ยื่นถุงใบใหญ่ที่ข้างในถุงมีหนังสือนิยายมากกว่าสิบเล่มถูกห่ออย่างดียื่นให้บอดี้การ์ดส่วนตัวของคนตัวเล็กหรือยื่นให้ภีม
ฝั่งภีมจึงรับมาตามปกติเพราะเป็นหน้าที่ของเขาอยู่แล้ว ถึงชายหนุ่มหน้าตี๋ที่เขารู้จักดีจะไม่ใช้เจ้านายของเขาแต่เพราะเขาให้เกียรติเจ้านายอย่างเด็กสาว เขาจึงปฏิบัติต่อมาตินเสมือนเจ้านายอีกคน
"ไม่เป็นไรค่ะ จ่ายเงินเสร็จแล้วก็กลับกันเถอะ" พูดจบมิราก็เดินจ้ำอ้าวผ่านชายหนุ่มทั้งสามออกไปจากร้านโดยไม่รอใครเลย ชายหนุ่มทั้งสามคนเห็นแบบนั้นจึงรีบเดินตามหลังเด็กสาวไปติดๆ
ด้านมาตินที่วางแพลนเอาไว้ว่าจะพาคนตัวเล็กไปดูหนังต่อก็ต้องล้มเลิกความคิดทันทีอย่างแสนเสียดาย โดยไม่เข้าใจถึงพฤติกรรมและอารมณ์ที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาของคนตัวเล็กเลย แต่กระนั้นเขาก็ไม่ได้โกรธอะไรเธอ แค่นึกเสียดายที่ไม่ได้ใช้เวลากับเธอให้มากกว่านี้
(ป่วนหัวใจนายบอดี้การ์ดหน้านิ่ง)ภายในห้องนอนของวายุหลังจากที่พูดคุยกับลุงและป้าสะใภ้เสร็จ วายุก็พาเด็กสาวขึ้นมาพักผ่อนบนห้องนอนของเขา"นั่งรถมาเหนื่อยๆ อากาศก็ร้อน พี่ว่าหนูไปอาบน้ำก่อนดีกว่านะครับจะได้สดชื่น" วายุเอ่ยบอกพลางเดินไปหยิบผ้าขนหนูที่พับเก็บไว้ในตูเสื้อผ้าของตัวเองออกมา ก่อนจะเดินกลับมาหาเด็กสาวที่กำลังกวาดสายตามองไปรอบๆห้องของเขา"พี่วายุชอบสีเทากับสีดำเหรอคะ ห้องของพี่ถึงได้คลุมโทนสีเทาดำหมดเลย" มิราไม่ได้สนใจคำพูดของคนตัวโตเลย ปากถามแต่สายตากวาดมองไปรอบๆห้องของเขาอย่างซุกซน พลางยื่นมือไปรับผ้าขนหนูที่เขายื่นให้ ซึ่งแม้กระทั่งผ้าขนหนูที่เขาให้มาก็ยังเป็นสีเทา"ใช่ครับ" เขาตอบก่อนจะปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีดำที่สวมใส่อยู่ แล้วถอดออกโยนทิ้งลงตระกร้าที่วางอยู่ข้างตู้เสื้อผ้า ตามด้วยถอดเข็มขัดราคาแพง แต่ทว่าขณะที่เขากำลังจะปลดกระดุมกางเกง เด็กสาวก็ดันเอ่ยขัดขึ้นมา"พะ พี่วายุถอดเสื้อผ้าทำไมคะ" รู้สึกร้อนๆหนาวๆขึ้นมาเสียดื้อๆเมื่อเห็นอีกคนยืนถอดเสื้อผ้าต่อหน้าต่อตา"อาบน้ำก็ต้องถอดเสื้อผ้าสิครับ จะอาบทั้งเสื้อผ้าได้ยังไงกัน" "อ๋อ พี่วายุจะอาบน้ำก่อนใช่ไหมคะ งั้นเดี๋ยวน้องไปรอข
(ป่วนหัวใจนายบอดี้การ์ดหน้านิ่ง)ภายในห้องนอนของวายุหลังจากที่พูดคุยกับลุงและป้าสะใภ้เสร็จ วายุก็พาเด็กสาวขึ้นมาพักผ่อนบนห้องนอนของเขา"นั่งรถมาเหนื่อยๆ อากาศก็ร้อน พี่ว่าหนูไปอาบน้ำก่อนดีกว่านะครับจะได้สดชื่น" วายุเอ่ยบอกพลางเดินไปหยิบผ้าขนหนูที่พับเก็บไว้ในตูเสื้อผ้าของตัวเองออกมา ก่อนจะเดินกลับมาหาเด็กสาวที่กำลังกวาดสายตามองไปรอบๆห้องของเขา"พี่วายุชอบสีเทากับสีดำเหรอคะ ห้องของพี่ถึงได้คลุมโทนสีเทาดำหมดเลย" มิราไม่ได้สนใจคำพูดของคนตัวโตเลย ปากถามแต่สายตากวาดมองไปรอบๆห้องของเขาอย่างซุกซน พลางยื่นมือไปรับผ้าขนหนูที่เขายื่นให้ ซึ่งแม้กระทั่งผ้าขนหนูที่เขาให้มาก็ยังเป็นสีเทา"ใช่ครับ" เขาตอบก่อนจะปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีดำที่สวมใส่อยู่ แล้วถอดออกโยนทิ้งลงตระกร้าที่วางอยู่ข้างตู้เสื้อผ้า ตามด้วยถอดเข็มขัดราคาแพง แต่ทว่าขณะที่เขากำลังจะปลดกระดุมกางเกง เด็กสาวก็ดันเอ่ยขัดขึ้นมา"พะ พี่วายุถอดเสื้อผ้าทำไมคะ" รู้สึกร้อนๆหนาวๆขึ้นมาเสียดื้อๆเมื่อเห็นอีกคนยืนถอดเสื้อผ้าต่อหน้าต่อตา"อาบน้ำก็ต้องถอดเสื้อผ้าสิครับ จะอาบทั้งเสื้อผ้าได้ยังไงกัน" "อ๋อ พี่วายุจะอาบน้ำก่อนใช่ไหมคะ งั้นเดี๋ยวน้องไปรอข
บ้านของวายุ (ต่างจังหวัด)13:25 น."ลุงวินป้าจ๋าพี่วายุมาแล้วค่ะ!" เป็นเสียงเด็กสาววัยสิบแปดปีที่มีหน้าตาสะสวยและหุ่นดี ไม่ใช่สวยธรรมดา แต่เรียกได้ว่าสวยมากเลยทีเดียว เธอตะโกนบอกผู้เป็นลุงแท้ๆกับป้าสะใภ้ที่อยู่หลังบ้านเมื่อเห็นรถคันหรูสีดำคุ้นตาของคนเป็นพี่ชายหรือลูกพี่ลูกน้องของเธอขับเข้ามาจอดอยู่หน้าบ้าน...ซึ่งเด็กสาวคนดังกล่าวเธอมีนามว่า พระพาย เธอเองไม่ต่างจากวายุที่คนเป็นลุงแท้ๆกับป้าสะใภ้ได้รับมาเลี้ยงดูเช่นกัน เนื่องจากพ่อของเธอได้เสียไปเมื่อสามปีก่อนด้วยโรคร้าย ส่วนแม่ของเธอได้เสียไปตั้งแต่เธออายุได้สองขวบด้วยโรคประจำตัว เธอจึงไม่เหลือใครนอกจากพี่ชายของพ่อหรือลุงแท้ๆกับป้าสะใภ้ที่ยังไม่มีลูก พวกเขาทั้งสองคนจึงรับเธอมาเลี้ยงดูและรักเธอกับวายุเสมือนลูกของพวกเขาจริงๆ...และไม่รอช้าพระพายรีบวิ่งไปหาคนเป็นพี่ชายกับว่าที่พี่สะใภ้ที่กำลังลงจากรถ"สวัสดีค่ะพี่วายุ" เมื่อวิ่งมาถึง พระพายจึงเอ่ยสวัสดีพร้อมกับพนมมือน้อยๆไหว้พี่ชาย ก่อนจะหันไปทักทายว่าที่พี่สะใภ้ที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันด้วยใบหน้ายิ้มๆ"หวัดดี เราชื่อพระพายนะ เป็นน้องพี่วายุ""หวัดดีจ้ะ เราชื่อมิรา เป็นแฟนพี่วายุ" มิราเ
(ป่วนหัวใจนายบอดี้การ์ดหน้านิ่ง)"พี่วายุเป็นไงบ้างพี่" เมื่อคนเป็นนายและพี่ชายออกไปจากห้องนี้แล้ว ภีมก็รีบพุ่งตัวเข้าไปหารุ่นพี่อย่างไว แล้วช่วยประคองกายแกร่งของรุ่นพี่ให้ลุกขึ้นนั่ง "กู โอเค" วายุตอบรุ่นน้องด้วยน้ำเสียงเบาหวิว แทบจะไม่มีแรงพูด ร่างกายไร้เรี่ยวแรง สมองยังปวดหนึบด้วยฤทธิ์ยา "อดทนอีกนิดนะพี่ เดี๋ยวยาก็หมดฤทธิ์แล้ว" ภีมไม่สามารถช่วยอะไรรุ่นพี่ได้เลย เขาทำได้แค่บอกให้รุ่นพี่อดทน เพราะยาชนิดนี้ไม่มียาแก้หรือยาต้านใดๆ สุดแล้วแต่ร่างกายและความอดทนของคนที่ได้รับยานี้เข้าไปว่าจะอดทนต่อฤทธิ์ของมันได้หรือไม่"มึงอย่าปากสว่างไปบอกหนูมิล่ะ กูไม่อยากให้เมียกูต้องเป็นห่วง" วายุไม่ได้สนใจคำพูดของรุ่นน้องแต่อย่างใด เขาเลือกที่จะเอ่ยประหนึ่งเป็นคำสั่งกับรุ่นน้องแทนขณะที่ใบหน้ายังคงเหยเกด้วยความเจ็บปวด มือหนาข้างหนึ่งกุมขมับเอาไว้ มือหนาอีกข้างวางค้ำยันลงบนพื้นเพื่อเป็นหลักให้ตัวเอง"โธ่พี่ ผมไม่บอกคุณหนูหรอกหน่า อีกอย่างพี่ห่วงตัวเองก่อนเถอะ สภาพพี่ตอนนี้ดูไม่ได้เลย" ภีมรู้ดีว่าเรื่องไหนควรพูดไม่ควรพูด แต่รุ่นพี่ของเขานี่สิ ห่วงแต่คุณหนูตัวน้อยทั้งที่สภาพตัวเองตอนนี้แย่มากแทบดูไม่ได
(ป่วนหัวใจนายบอดี้การ์ดหน้านิ่ง)ภายในห้องใต้ดินหรือห้องเชือดผัวะ!ทันทีที่วายุโผล่หน้าเข้ามาในห้องเชือด เดชาก็ปล่อยหมัดหนักๆใส่ใบหน้าข้างขวาของวายุเต็มแรง จนใบหน้าหันไปตามแรงหมัดพร้อมกับเซไปด้านหลังจนเกือบเสียหลักล้มลงไป แต่ไม่ทันที่จะได้ตั้งหลักดี หมัดที่สองก็ตามมาใส่ใบหน้าอีกข้างเต็มแรงผัวะ!ใบหน้าของวายุหันไปตามแรงหมัดเกือบจะเสียหลักล้มลงไปอีกครั้งแต่ก็ทรงตัวเอาไว้ได้ ก่อนจะใช้หลังมือปาดน้ำคาวสีแดงที่ซึมออกมาตรงมุมปากทั้งสองข้างออกลวงๆ แล้วมองไปยังผู้เป็นนายนิ่งๆ โดยไม่พูดหรือไม่คิดจะตอบโต้กลับไป เขายอมให้ผู้เป็นนายกระทำแต่โดยดี"สองหมัดนี้แค่น้ำจิ้ม หลังจากนี้มึงเตรียมตัวรับบททดสอบของกูให้ได้ก็แล้วกันไอ้วายุ หึ" เดชาพูดด้วยน้ำเสียงกดต่ำ พูดจบก็กระตุกยิ้มร้ายเย้ยหยันคนเป็นลูกน้องที่เลี้ยงไม่เชื่อง"ผมพร้อมครับ" วายุพูดสวนไปทันทีด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งไม่ต่างจากใบหน้า เขายังคงใจเย็น ไม่ได้มีความเกรงกลัวผู้เป็นเจ้านายและสิ่งที่ตัวเองกำลังจะเผชิญเลยแม้แต่น้อย"อวดเก่ง! ถ้ามึงพร้อมมากขนาดนี้กูก็พร้อมจัดให้มึงแบบชุดใหญ่ จัดให้แบบสมเกียรติคนเก่งอยากมึง" เดชาไม่เคยเจอใครที่กล้าหือกับเขาแ
ก๊อกๆๆๆๆ!!!!แต่แล้วเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้นด้วยฝีมือของคนนอกห้องที่กระหน่ำเคาะไม่หยุด ทำให้เด็กสาวเจ้าของห้องสะดุ้งผวาโผเข้ากอดคนตัวโตเอาไว้แน่นด้วยความตกใจ และนึกหวั่นกลัวขึ้นมา เพราะตอนนี้เธอไม่ได้อยู่ในห้องแค่คนเดียว หากใครมาเห็นเข้าคงแย่ก๊อกๆๆๆๆๆ!!!!"ยัยหนูเปิดประตูให้พ่อเดี๋ยวนี้!"เสียงเคาะประตูรัวๆดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเสียงทุ้มดังกังวานของผู้เป็นพ่อ ทำให้เธอยิ่งตกใจและหวั่นกลัวหนักกว่าเดิม"พี่วายุคุณพ่อกลับมาแล้วทำยังไงดีคะ ถ้าคุณพ่อเห็นพี่วายุอยู่กับน้องแบบนี้คุณพ่อต้องไม่ปล่อยพี่วายุไปแน่ น้องกลัวค่ะ" มิราพูดด้วยความร้อนรน น้ำเสียงสั่นไปหมด ไม่คิดว่าคนเป็นพ่อจะกลับมาไวขนาดนี้ทั้งที่บอกเธอว่าจะกลับพรุ่งนี้ด้วยซ้ำ ตอนนี้เธออยู่ไม่สุขนั่งไม่ติดเลยทีเดียวเพราะกลัวว่าผู้เป็นพ่อจะทำอะไรคนรักของเธอ พลางหันไปมองทางประตูที่ตอนนี้ผู้เป็นพ่อกำลังกระหน่ำเคาะเรียกเธอไม่หยุด เธอแทบจะร้องไห้ออกมาอยู่แล้วเพราะไม่รู้จะทำยังไงกับสถานการณ์ในตอนนี้"หนูใจเย็นๆนะครับ มีพี่อยู่ตรงนี้หนูไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น มันถึงเวลาแล้วที่นายจะต้องรู้เรื่องของเราสักที" บอกกับเด็กสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน