ความดิบเถื่อนและความหิวกระหายของมาร์คัสถูกปลดปล่อยออกมาอย่างเต็มที่ เขาไม่ใช่คนอ่อนโยน และไม่ได้ต้องการความอ่อนโยนจากเธอ
"อย่าร้องออกมาให้ฉันได้ยินฉันไม่ชอบ.!" มาร์คัสที่ได้ยินเสียงสะอื้นจากอันนาที่นอนอยู่ใต้ล่างของเขาก็สั่งเสียงแข็งด้วยความอารมณ์เสีย นี่เขาน่ารังเกียจขนาดนั้นเลยหรือไงอันนาถึงได้ร้องไห้เพียงพอได้นอนกับเขามันยิ่งทำให้เขารู้สึกเสียฟอร์มสุด ๆ "ถ้าไม่อยากให้อันนาทำในสิ่งที่คุณไม่ชอบคุณก็ปล่อยอันนาสิคะ.ฮึก..ฮื่อ ปล่อยซิค่ะปล่อย..!" ทั้งเสียงร้องเสียงโวยวายปนสะอึกสะอื้นไม่ได้ทำให้มาคัดสงสารอันนาขึ้นมาเลยสักนิดตอนนี้เขาอยากจะสั่งสอนคนปากดีอย่างอันนาให้รู้ว่าอย่าพยศกับเขา อันนาพยายามจะตีฝีปากทั้งที่ตัวเองไม่มีอะไรสามารถต่อรองได้เลยแม้แต่นิดเดียวแค่มาทัชกระดิกนิ้วเดียวอันนาก็คงกลายเป็นปุ๋ย "ดี.! พยศแบบนี้ฉันชอบ" มีเพียงความต้องการทางกายที่เข้าครอบงำ ราวกับสัตว์ป่าที่กำลังล่าเหยื่อ อันนารับรู้ถึงทุกสัมผัส ทุกการเคลื่อนไหวของเขา ราวกับกำลังตกอยู่ในพายุที่โหมกระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง เธอเป็นเพียงตุ๊กตาที่เขาจะทำอะไรก็ได้ตามใจปรารถนา "กรี๊ด เจ็บ ...! ฮื่อ เอาออกไปไม่เอาแล้วเอาหน้าเจ็บ..เจ็บ..." เมื่อแท่งเป็นขนาดใหญ่ของมาร์คัสทิ่มเข้าไปพรวดเดียวจนมิดด้าม ทำให้อันนาที่อยู่ใต้ล่างร้องกรี๊ดดังลั่นห้องความเจ็บปวดแล่นกลับเข้ามากลางลำกายอันนาน้ำตาไหล มาร์คัสตกใจเล็กน้อยกับสิ่งที่เขากำลังสัมผัสแต่เขาก็ไม่เชื่อว่าบนโลกใบนี้ยังเหลือผู้หญิงที่บริสุทธิ์ผุดผ่องเขาเพียงแค่ทำตามแรงอารมณ์และพายุโหมกระหน่ำ "ฮึ..!เลิกแสดงละครได้แล้วเรามาทำอะไรสนุกๆกันดีกว่า" คำพูดของมาร์คัสมันฝางลึกเข้าไปในจิตใจของอันนา มาร์คัสเริ่มบรรเลงเพลงรักที่เร่าร้อนและรุนแรงกว่าทุกครั้ง กลิ่นกายหอมๆของอันนามันไม่เหมือนกลิ่นน้ำหอมของผู้หญิงคนอื่นมันดูแปลกประหลาดแต่ก็น่าหลงใหล "อ้าส์ ..ซี๊ด ..อันนาเสียว.."อันนาที่ไม่สามารถกักเก็บเสียงที่น่ารังเกียจเอาไว้ได้เธอเปล่งเสียงครวญครางออกมาเหมือนจะขาดใจ "ซี๊ด แม่งทำรีแพร์ที่ไหนมาวะโคตรแน่นเลยอ้าส์.." มาร์คัสที่ยังคิดว่าอันนาคงทำศัลยกรรม รีแพ มาแน่ๆแต่ดูเหมือนจะแน่นกว่าทุกคนที่เขาเคยมีความสัมพันธ์มาด้วย ค่ำคืนนั้นยาวนานราวกับไม่มีที่สิ้นสุดสำหรับอันนา ทุกสัมผัสที่มาร์คัสมอบให้ล้วนเจ็บปวดและทรมาน เธอพยายามหลีกหนีจากความเป็นจริง พยายามหลับตาและจินตนาการว่าตัวเองอยู่ที่ไหนสักแห่งที่ห่างไกลจากตรงนี้ แต่ความเจ็บปวดและความรู้สึกไร้ค่าก็ยังคงตามหลอกหลอนเธอไปทุกที่ เมื่อทุกอย่างสงบลง แสงจันทร์ส่องลอดผ่านผ้าม่านเข้ามาเพียงน้อยนิด อันนานอนหอบหายใจอยู่ข้างกายมาร์คัส ร่างกายบอบช้ำ หัวใจปวดร้าว มองหน้ามาร์คัสพล่ามัวเพราะม่านน้ำตาที่ยังคงไหลไม่หยุด มาร์คัสพลิกตัวกลับ ไม่มีการกอดรัด ไม่มีคำพูดปลอบโยน เขาแค่หลับตาลง ราวกับว่าเมื่อภารกิจเสร็จสิ้น ทุกสิ่งก็จบลง อันนาลุกขึ้นนั่งอย่างช้าๆ ความเจ็บปวดแล่นไปทั่วร่างอันนาพยายามพยุงร่างเล็กของเธอกลับไปที่ห้องแต่ก็มีเสียงดุบนเตียงดังขึ้นมา "เธอจะไปไหนอันนา.!มาร์คัส ที่นอนอยู่บนเตียงถามเสียงรีบนิ่งจ้องมองร่างเปลือยเปล่าของอันนาที่พยายามลงจัดเตียงใหญ่ของเขาโดยไม่ได้รับอนุญาต "อันนาจะกลับห้องค่ะคุณเสร็จภารกิจแล้วใช่หรือเปล่าคะ" อันนารู้สึกรังเกียจตัวเองเหมือนเป็นผู้หญิงทีไร้ค่า "เธอต้องนอนที่นี่ ถ้าไม่มีคำสั่งจากฉัน ห้ามออกจากห้องของฉันเด็ดขาด..!"มาร์คัสสั่งเสียงหนักแน่น "ค่ะงั้นอันนาขอใช้ห้องน้ำได้ไหมคะ?"อันนาเงยหน้าขออนุญาตมาร์คัส มาคัดมองเธอจากบนเตียงกว้างแล้วพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต อันนาหอบหิ้วสภาพร่างที่บอบช้ำจากกิจกรรมที่รุนแรงครั้งแรกที่แสนเจ็บปวดและทรมานมันไม่น่าจำเลยสักนิดอันนานั่งร้องไห้อยู่ใต้สายน้ำฝักบัวเธอใช้มือถูไปที่ตัวของเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนผิวที่ขาวของเธอขึ้นเป็นสีแดงเกือบทั้งตัว มาร์คัสเห็นว่าอันนาหายเข้าไปนานเขาจึงเคาะประตูเรียก "ออกมาได้แล้วอย่าให้ฉันต้องเข้าไปลากเธอ.!" เขาไม่ได้เรียกเธอด้วยความเป็นห่วงแต่ใช้คำพูดที่เป็นคำสั่ง อันนาเมื่อได้ยินเสียงของมาร์คัสเธอก็ร้อนรนรีบลุกขึ้นจากฝักบัวและเก็บความชอกช้ำกลืนลงคอลงไป "ค่ะ อันนาเสร็จแล้วค่ะ" เธอส่งเสียงออกมาจากภายในห้องอาบน้ำ สภาพของอันนาที่เปียกตอนคราบเครื่องสำอางบนใบหน้าถูกลบออกเธอนุ่งกระโจมอกเพียงผ้าขนหนูผืนเดียว รอยแดงตามแขนขาทั้งหน้าและหลังเหมือนถูกนิ้วรอยข่วนขีดเต็มไปหมดมาคัสที่เห็นเกิดความไม่พอใจจึงเดินเข้าไปหาเธอแล้วกระชากเข้าที่แขน "รังเกียจฉันนักหรือไง.!" มาร์คัสรู้ว่าอันนาทำอะไรกับตัวเอง "เปล่านะคะ ฉันก็แค่รู้สึกว่าตัวเองไม่สะอาด" อันนาพูดไปตามความรู้สึกของเธอโดยที่ไม่รู้ว่าคำพูดของเธอกำลังจะเริ่มมีอิทธิพลกับความรู้สึกของคนตรงหน้ามากแค่ไหน ไปนอนได้แล้ว มาร์คัสสั่งเสียงเรียบ แต่ว่าอันนาไม่มีเสื้อผ้าเปลี่ยนมีแค่ชุดกระโจมอกผ้าขนหนูผืนเดียวขออันนากลับไปนอนที่ห้องได้ไหมคะอันนายังคงพยายามตีตัวออกห่างจากคนอันตรายอย่างมาร์คัส ไม่ได้! มาร์คัสไม่อนุญาตให้อันนาออกจากห้องของเขาและหยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวโยนให้อันนา อันนาหันไปมองด้วยท่าทีไม่เข้าใจเธอยืนอยู่ตรงนั้นเหมือนรูปปั้นหินจะหนีก็ไม่ได้ทำอะไรไม่ถูก จะยืนมองอีกนานไหมเอาไปใส่ซะสิฉันง่วงจะนอนมาทัชหันมาบอกกับอันนาด้วยน้ำเสียงตึงๆ อันนาก้าวขาไปหยิบเสื้อของมาร์คัสขึ้นมาด้วยมือที่สั่นเทาเธอแทบจะไม่กล้าหายใจแรงเพราะกลัวจะทำอะไรให้มาร์คัสไม่พอใจและทำรุนแรงกับเธออีก เธอหันไปมองมาร์คัสที่นอนหลับอย่างสงบ ใบหน้าของเขาเมื่อยามหลับดูผ่อนคลาย แต่ในใจของอันนากลับเต็มไปด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ เธอลุกจากเตียงอย่างเงียบเชียบ สวมใส่เสื้อผ้าของเธออย่างทุลักทุเล ก่อนจะเดินออกจากห้องนอนแห่งนั้นไปอย่างเชื่องช้าที่สุด เธอไม่รู้ว่าอนาคตของเธอจะเป็นอย่างไรต่อไป แต่ค่ำคืนนี้คือจุดเริ่มต้นที่แท้จริงของ "การใช้หนี้" ที่มาร์คัสหมายถึง และมันเป็นบทเรียนที่เจ็บปวดที่สุดในชีวิตของเธอ ชีวิตของอันนาในคฤหาสน์ของมาร์คัสจะเป็นอย่างไรต่อไป เธอจะสามารถทนอยู่กับสภาพแบบนี้ได้นานแค่ไหนหัวใจที่บอบช้ำของอันนากำลังทำให้เธอตายด้านนับจากวันนี้เธอกลายเป็นคนของมาร์คัสอย่างเต็มตัวมาร์คัสยังคงไม่หยุด เขาก้มหน้าลงดูดดุนติ่งเสียวของเธออย่างไม่ลดละ ราวกับกำลังลิ้มรสของหวานที่ถูกใจ ร่างกายของอันนาบิดเร่าไปมาด้วยความทรมานปนสุข เธอเกร็งไปทั้งตัว มือทั้งสองข้างจิกผ้าปูที่นอนแน่นในที่สุด เมื่อความเสียวซ่านมาถึงขีดสุด ร่างกายของอันนาก็กระตุกเกร็งเกร็งไปทั้งตัวก่อนจะปลดปล่อยธารน้ำหวานออกมาเลอะหน้าของมาร์คัส ราวกับเป็นการบ่งบอกถึงจุดสูงสุดของความต้องการมาร์คัสเงยหน้าขึ้นจากกลีบกุหลาบที่บอบช้ำ ใบหน้าของเขาเปื้อนไปด้วยธารน้ำหวานนั้น เขายกยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจ ก่อนจะใช้ลิ้นเลียริมฝีปากตัวเองช้าๆ ดวงตาคมกริบจ้องมองอันนาที่นอนหอบหายใจอยู่ใต้ร่างด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยไฟปรารถนาที่ยังไม่มอดดับ"หวาน..." มาร์คัสเอ่ยขึ้นด้วยเสียงทุ้มต่ำ ดวงตาของเขาลุกโชนกว่าที่เคย "เธอทำให้ฉัคลั่ง อันนา"มาร์คัสไม่รอให้อันนาได้พักหายใจ เขาประกบริมฝีปากลงมาอีกครั้ง ดูดกลืนทุกเสียงครวญครางและหอบหายใจของเธอ ความดิบเถื่อนและความเร่าร้อนของเขาไม่มีทีท่าว่าจะลดลงแม้แต่น้อย มือหนาข้างหนึ่งรวบร่างบอบบางของเธอให้แนบชิดกับกายแกร่ง อีกข้างหนึ่งจับเรียวขาของเธอให้ยกพาดบ่าอย่างไม่รีบร้อน"อื้อออ...!" อันนา
ผ้าถูกถอดทิ้งกรองลงบนพื้นเหลือเพียงกางเกงที่สวมใส่หน้าอกอวบอิ่มดูเย้ายวนเหมือนเชื้อเชิญให้มาร์คัสมาสัมผัสและเชยชมแอร์ที่ทำงานเย็นเฉียบกระทบกายของอันนา แต่ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกเย็นตามอุณหภูมิห้องเลยความเร่าร้อนที่ได้รับมาจากผู้ชายตรงหน้าทำให้อันนาล่องลอยเหมือนมีผีเสื้อนับร้อยตัววนอยู่ในท้องมันทั้งสุขและเสียวในเวลาเดียวกันเหมือนมีไฟฟ้าโลดแล่นช็อตแปล๊บ ๆ ภายในร่างกายที่ร้อนระอุ อันนาทั้งกลัวและอยากจะหนีไปแต่แรงอารมณ์ของอันนาที่ถูกถ่ายทอดมานั้นมันทำให้เธอตกเป็นทาสของมาร์คัสในเวลานี้"ฮืม ...เด็กดี ..หวาน" มาร์คัสพูดเสียงเบาๆเอยชมอันนามันทำให้อันนารู้สึกเขินจนหน้าร้อนผ่าว"พอแล้วได้ไหมคะ..อ้าส์" อันนาที่เสียวกระสันจนครางส่งเสียงเย้ายวนออกมา ปากบอกให้พอ แต่พอโดนมาร์คัสหยอกเย้ายอดประทุมเธอก็แอ่นอกให้เขาอย่างเต็มใจร่างกายกับปากของเธอมันช่างตรงข้ามกันทุกระเบียบนิ้ว"หึ!" มาร์คัสเปล่งเสียงเย้ยหยันในลำคอออกมา เขาถูกอกถูกใจที่อันนาผู้หญิงที่เขาเลือกตอบสนองไวต่อความต้องการของเขา"เธอนี่มันร่าน! ฮืม..." สองมือหนาลูบไล้ผิวขาวเนียน จากสันหลังลงมาที่เอวคอดแล้วเลื่อนมาที่สะโพกงอน มาร์คัสบีบเค้นจนขึ้นเ
หลังจากที่ทั้งสองทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยมาคัสก็บอกให้อันนาเดินตามเขาไปที่ห้องทำงานคำพูดที่แสนเย็นชาการกระทำที่หยาบกระด้างเหมือนกับหินทุบลงพื้นมันทำให้อันนารู้สึกเกรงกลัวมาขัดขึ้นทุกวัน"ค่ะคุณมาร์คัส มีอะไรหรือเปล่าคะ" อันนารวบรวมความกล้าหลังจากเดินเข้ามาในห้องแล้วก็ถามมาคัดออกไปตรงๆ"เซ็นซะ เอกสารที่เธอควรต้องเซ็น"มาร์คัสไม่อธิบายอะไรให้กับอันนาฟันแต่บอกให้อันนาเซ็นเอกสารที่อยู่ตรงหน้าของเธออันนาหยิบเอกสารขึ้นมาตั้งใจจะอ่านให้จบแต่มาร์คัสก็พูดแทรกขึ้นมาก่อนว่า "ไม่ต้องอ่านหรอก เอกสารเซ็นหนังสือสมรสของเราสองคน..!" มาร์คัสที่พูดจาเย็นชาไม่ได้สนใจอาการสีหน้าตกใจของอันนาเลย"แต่ว่าอันนายังไม่ได้ตกลงนะคะ" อันนาหันมาพูดกับมาร์คัสเพราะเธอรู้สึกไม่เป็นธรรมเหมือนโดนมัดมือชก"ไม่จำเป็นต้องตกลง เพราะชีวิตของเธอเป็นของฉัน ทุกตารางนิ้วในร่างกายเธอตอนนี้เป็นของฉัน!" อันนาเธอรู้สึกมือเหงื่อออกจนชุ่มทั้งตื่นเต้นทั้งโมโหอยากจะเอามือไปข่วนหน้าคนที่เย็นชายังมาร์คัดให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย"ลงชื่อของเธอลงในหนังสือสัญญาสมรสนี้ให้เรียบร้อยแล้วทุกอย่างจะดีขึ้น"มาร์คัสไม่ได้อธิบายอะไรทั้งสิ้น คำว่าดีขึ้นดี
อันนาที่แบกเรื่องหนักมามากมายหลังจากผ่านงานที่ไปกับมาร์คัส เธอหลับจนไม่ได้สติจวบจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้น ดวงตาที่หนักอึ้งของเธอค่อยๆ ขยับเปลือกตาขึ้นเล็กน้อยเสียงแอร์มอนิเตอร์ที่ทำงานเย็นเฉียบแต่ทำไมร่างกายของเธอกลับรู้สึกอบอุ่นอันนาลืมตาขึ้น พร้อมกับมองเห็นฝ้าเพดานที่ขาวสะอาดตา และมันไม่ใช่ห้องที่เธอเคยอยู่มันคือห้องที่เธอเสียตัวเป็นคืนแรก อันนาตกใจจนเบิกตากว้างพยายามรวบรวมสติแต่เธอกลับรู้สึกหนักอึ้งบริเวณเอวของเธอมีมือหนากอดรัดเอาไว้อันนาพลิกไปมองใบหน้าที่คมเข้มดูดีและหล่อเหลา แม้ในเวลาที่หลับสนิทก็ยังดูหน้าหลงไหล อันนาจ้องหน้าของมาร์คัสเหมือนกับต้องมนต์สะกดอีกครั้งอันนาพยายามจะขยับออกหนีอย่างเงียบๆเพื่อกลับไปที่ห้องของเธอแต่เธอยิ่งขยับมาร์คัสก็จะขยับและกอดเธอแน่นขึ้น และเธอลองขยับอีกครั้ง มาคัสก็ยิ่งกอดเอวของเธอแน่นเข้าไปอีกอันนาจ้องไปที่หน้าของคนที่กำลังนอนหลับสนิทเธอพลันคิดว่ามาคัสหลับจริงๆหรือเปล่าและดวงตาคมกริบของมาร์คัสก็ลืมขึ้นแล้วจ้องไปที่ดวงตาของอันนาเหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุน"ตื่นแล้วหรอ" มาร์คัสถามอันนาด้วยถ้อยคำที่ดูอ่อนโยนขึ้นกว่าสองวันแรก"อันนารู้สึกตกใจที่เห็นมาร์คัส
มาร์คัสยืนนิ่งราวกับรูปปั้น ดวงตาคมกริบดุจพญาอินทรีย์ ที่จ้องมองเดวิดนั้นดำมืดและลึกไร้ก้นบึ้ง ราวกับจะดูดกลืนทุกสิ่งทุกอย่างให้หายไป รอยยิ้มที่เคยปรากฏบนใบหน้าของเขาก่อนหน้านี้เลือนหายไปจนหมดสิ้น เหลือเพียงความว่างเปล่าที่แฝงด้วยอันตรายถึงขีดสุด เขาไม่ได้โกรธเกรี้ยว หรือตวาดก้อง แต่ความเงียบของเขานั้นน่ากลัวยิ่งกว่าเสียงใด ๆเดวิดที่เห็นปฏิกิริยาของมาร์คัสกลับยิ่งได้ใจ เขาคิดว่าตนเองกำลังเป็นฝ่ายได้เปรียบ และต้องการจะตอกย้ำชัยชนะของตนเอง"ทำไมเงียบไปล่ะครับคุณมาร์คัส หรือว่าเรื่องจริงมันน่าอายเกินไปที่จะยอมรับ" เดวิดพูดยิ้มๆ "ผู้หญิงของผมคงไม่มีประวัติฉาวโฉ่แบบนี้หรอกครับ...ผมเลือก.."พลั่ก!ยังไม่ทันที่เดวิดจะพูดจบ ร่างของเขาก็ล้มกระเด็นลงไปกองกับพื้นอย่างแรง เสียงของเนื้อที่ปะทะกับกำปั้นดังสนั่นไปทั่วห้อง มาร์คัสเป็นคนต่อยเขา!จนเลือดกลบปากและฟันหักไปหนึ่งซีกทุกคนในงานถึงกับผวาถอยหลังไปคนละก้าว ไม่มีใครคาดคิดว่ามาร์คัสจะระเบิดอารมณ์ออกมากลางงานเลี้ยงสำคัญแบบนี้ มาร์คัสเดินเข้าไปหาเดวิดที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นอย่างช้าๆ แววตาของเขาลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิงแห่งโทสะที่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมา
คำประกาศของมาร์คัสกลางงานเลี้ยงทำให้บรรยากาศรอบตัวอันนาหนาวเย็นยะเยือก แววตาของคลอเดียแข็งกร้าวขึ้นทันที ความไม่พอใจและริษยาฉายชัดในดวงตาคู่นั้น เธอมองอันนาตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาประเมินค่า ก่อนจะหัวเราะในลำคออย่างเย้ยหยัน"ผู้หญิงคนใหม่เหรอคะมาร์คัส?" คลอเดียพูดด้วยน้ำเสียงยียวน "คลอเดียไม่เห็นจะเคยเจอที่ไหนมาก่อนเลยนี่คะ หรือว่ามาร์คัสแอบเก็บไว้เงียบๆ แล้วเพิ่งจะเอาออกมาโชว์วันนี้เป็นวันแรก?" เธอเน้นคำว่า "เก็บไว้" และ "โชว์" อย่างจงใจ ราวกับจะตอกย้ำสถานะของอันนาว่าเป็นเพียงสิ่งของที่ผู้ชายอยากมาร์คัสเก็บเอาไว้ในตู้โชว์วันนี้ก็แค่งัดขึ้นมาเพื่อปัดฝุ่นมาร์คัสไม่ได้ตอบอะไร เขาแค่จ้องมองคลอเดียด้วยสายตาเย็นชา ทำให้คลอเดียต้องสงบปากสงบคำลงเล็กน้อย เธอกำลังทำผิดกฎของฉันนะคอลเดียมาร์คัสตอบเสียงเรียบนิ่งและยังคงเย็นชากับคลอเดียราวกับว่าไม่เคยรู้จักกันมาก่อน"โถ่มาร์คัสคะ อย่าเย็นชากับคลอเดียนักเลยคลอเดียคิดถึงมาร์คัสนะคะ แล้วนี่เราเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนหรือเปล่านะ" คลอเดียหันหน้าเอียงคอมองไปที่อันนาที่ยืนอยู่ข้างผู้ชายของเธอ คลอเดียไม่ยอมที่จะเสียแหล่งเงินแหล่งทองของเธอ ให้กับผู้หญ