ผ่านไปครู่ใหญ่ ซ่างชิวถึงเดินออกมาจากในห้องชาวบ้านบริเวณนั้นล้วนถามเขาด้วยความวิตกกังวลว่าตงเยว่เป็นอย่างไรบ้าง?“ตงเยว่หลับไปแล้ว นางไม่เป็นไรแล้ว”ขณะที่ซ่างชิวกล่าววาจานั้น ใบหน้าก็เผยรอยยิ้มผ่อนคลายออกมาชาวบ้านที่อยู่ตรงนั้นเห็นอย่างนั้นก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกทุกคนเห็นว่าที่นี่ไม่มีเรื่องอะไรแล้วก็แยกย้ายจากไปเจี่ยนอันอันพาซ่างชิวและชาวบ้านที่มาทำงานคนนั้นกลับมาที่บ้านเวลานั้น ฉู่จวินสิงนั่งอยู่ในลานเรือนมาตลอด ไม่ได้กลับห้องไปพักผ่อนเห็นเจี่ยนอันอันกลับมา จิตใจที่เขม็งเกลียวของเขาค่อยผ่อนคลายลงทีละน้อยเจี่ยนอันอันคิดไม่ถึงว่าฉู่จวินสิงจะยังคงนั่งอยู่ในลานบ้านอากาศร้านขนาดนี้ เขาไม่รู้สึกว่าแดดเผาบ้างเลยหรือ?เขาอย่าบอกนางเชียวนะว่าเขานั่งตากแดดแบบนี้เพื่อรับแคลเซียมน่ะ“ไยท่านไม่กลับไปพักผ่อนในห้อง มานั่งตรงนี้ทำไม?”เจี่ยนอันอันกล่าวพลางเดินมาถึงตรงหน้าฉู่จวินสิงฉู่จวินสิงชี้ไปที่ห้องครัว “ข้าให้สาวใช้เก็บอาหารไว้ให้ เจ้าให้บ่าวรับใช้ยกออกมากินเถอะ”ฉู่จวินสิงพูดแล้วก็ค้ำโต๊ะลุกขึ้นยืน เดินกลับเข้าห้องไปทีละก้าวเจี่ยนอันอันเห็นว่าฉู่จวินสิงสามารถเด
อวี๋ว่านบอกความคิดในใจออกมาเจี่ยนอันอันฟังแล้วก็โบกมือเบาๆ “ไม่ต้องไปตัดต้นไม้ให้ยุ่งยากหรอก ข้ามีวัสดุไม้อยู่แล้ว”อวี๋ว่านได้ยินว่าเจี่ยนอันอันมีวัสดุไม้ก็ตอบตกลงทันที “เช่นนั้นก็ไม่มีปัญหา”“ท่านบอกข้ามาว่าอยากได้เก้าอี้รถเข็นแบบไหน ข้าจะทำเก้าอี้รถเข็นให้ท่านคืนนี้เลย”เจี่ยนอันอันกล่าว “ไว้ข้าวาดแบบให้ท่านก่อน ถึงตอนนั้นท่านแค่ทำออกมาตามแบบก็ใช้ได้แล้ว”“แล้วก็ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนทำภายในคืนนี้หรอก ตอนกลางคืนมันมืด ทำตอนกลางวันดีกว่า”อวี๋ว่านรับคำอย่างซื่อๆ แล้วเริ่มกินข้าวเจี่ยนอันอันหันกลับไปทางซ่างชิวอีกครั้ง เอ่ยกับเขาว่า “ท่านเองก็ไม่จำเป็นต้องสงสัยในความสามารถของข้า ข้าบอกว่าสามารถรักษาให้หายดีภายในหนึ่งอาทิตย์ได้ก็ย่อมสามารถทำเช่นนั้น”ซ่างชิวตระหนักว่าคำถามเมื่อครู่ของตนเองไม่ค่อยเหมาะสมนักเขารีบเอ่ยว่า “เมื่อครู่ข้าพูดมากเกินไปแล้ว แม่นางโปรดอย่าเก็บไปใส่ใจ”หลังคนทั้งสามกินข้าวเสร็จแล้ว ซ่างชิวกับอวี๋ว่านก็ไปทำงานต่อที่ท้ายเรือนเจี่ยนอันอันกำลังจะเก็บถ้วยชามบนโต๊ะก็เห็นเหล่าสาวใช้เดินออกมาพวกนางรีบแย่งถ้วยชามในมือเจี่ยนอันอันแล้วนำไปล้างในครัวสี่เอ๋อร์
“เจ้าหมายความว่าขาพี่ใหญ่สามารถรักษาให้หายดีได้?”เจี่ยนอันอันบอกเล่าคำพูดที่ฟางอิ๋งเคยพูดไว้ให้ฉู่จวินสิงฟังหลังฉู่จวินสิงได้ฟังแล้ว ความรู้สึกก็เปลี่ยนเป็นซับซ้อนขึ้นมาปีนั้นตอนอยู่ในสนามรบ พี่ใหญ่ถูกธนูยิงก็เพราะปกป้องเขาตอนนั้นเขาก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกันกว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาก็เป็นห้าวันหลังจากนั้นเขารู้จากผู้ใต้บังคับบัญชาว่าอาการบาดเจ็บของฉู่จวินหลุนไม่สามารถรักษาได้สุดท้ายก็ต้องพิการไปชั่วชีวิตเขารู้สึกละอายใจมาโดยตลอด คิดว่าตัวเองทำผิดต่อพี่ใหญ่แต่คิดไม่ถึงว่าที่สองขาของพี่ใหญ่ไม่สามารถยืนขึ้นได้เป็นเพราะถูกฉู่ชางเหยียนทำร้ายตอนนี้เขาเองก็ถูกฉู่ชางเหยียนลดขั้นเป็นสามัญชน คนทั้งครอบครัวถูกเนรเทศมาที่นี่ฉู่จวินสิงยิ่งคิดก็ยิ่งมีโทสะ มือทั้งสองกำเป็นหมัด อยากกลับเมืองจิงโจวไปคิดบัญชีกับฉู่ชางเหยียนเสียเดี๋ยวนี้ใจจะขาดเจี่ยนอันอันนำสมุดกลับมาก้มหน้าวาดรูปต่อไปนางเอ่ยโดยไม่เงยหน้า “วิญญูชนแก้แค้น สิบปีก็ยังไม่สาย ตอนนี้ท่านไม่ต้องคิดอะไรมาก ความแค้นนี้จะต้องได้ชำระไม่ช้าก็เร็ว”ฉู่จวินสิงคิดไม่ถึงว่าเจี่ยนอันอันจะรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่เขาจ้องมองเจี่ยนอันอัน
หัวใจของเจี่ยนอันอันเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อต้องมาถูกบุรุษหน้าตาดีมองแบบนี้นางรีบก้มหน้าลงในทันใด ไม่กล้ามองฉู่จวินสิงอีก“เมื่อครู่ข้ามือหนักไปหน่อย ขออภัย”เจี่ยนอันอันพูดโดยไม่หยุดมือขณะที่นางกำลังทายารักษาให้ฉู่จวินสิง มือของนางก็ถูกมือหนาข้างหนึ่งกุมเอาไว้เจี่ยนอันอันอยากชักมือกลับแต่ต้องพบว่าอีกฝ่ายกุมแน่นกว่าเดิม“นี่ ท่านคิดจะทำอะไรอีก เมื่อครู่ข้าก็ขอโทษไปแล้ว อย่าให้มันมากเกินไปนัก!”เจี่ยนอันอันพูดแล้วเงยหน้าขึ้นทันควันที่นางไม่รู้ก็คือ ใบหน้าของฉู่จวินสิงขยับเข้ามาใกล้มากครั้นนางเงยหน้าขึ้น ริมฝีปากของทั้งสองจึงประกบเข้าด้วยกันพอดีเจี่ยนอันอันรีบถอยหลังกรูดประหนึ่งโดนไฟดูดแต่นางบังเอิญนั่งอยู่ที่ขอบเตียงพอดี เมื่อถอยหลังเช่นนี้จึงเกือบร่วงตกพื้นฉู่จวินสิงตาไวมือไว เขาโอบเอวของเจี่ยนอันอันเอาไว้“ระวังหน่อย” ฉู่จวินสิงพูดแล้วโอบเจี่ยนอันอันที่ตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเข้ามาไว้ในอ้อมอกตัวเองครั้นเจี่ยนอันอันคืนสติ นางก็รีบผลักฉู่จวินสิงอย่างแรง“ฉู่จวินสิง คนเลว ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้!”หน้าอกของฉู่จวินสิงเจ็บจากการถูกผลัก แต่เขาไม่อยากปล่อยเจี่ยนอันอันทั้งอย่างนี้
เจี่ยนอันอันเห็นฉู่จวินสิงปล่อยมือออกก็แทงเข็มเงินในมือเข้าที่ซี่โครงของเขาอย่างแรงฉู่จวินสิงรู้สึกเจ็บแปลบ เขาไม่ร้องแม้แต่คำเดียว เพียงหลับตารอให้เจี่ยนอันอันใจเย็นลงจังหวะที่เจี่ยนอันอันดึงเข็มออก มีโลหิตสีดำไหลออกมาโลหิตสีดำคั่งค้างอยู่ที่นี่มาโดยตลอด เป็นสาเหตุที่ทำให้ซี่โครงของฉู่จวินสิงไม่หายดีสักทีจริงอยู่ว่าเมื่อครู่นี้นางโกรธเคืองมาก แต่นางไม่ได้อยากทำร้ายฉู่จวินสิงเป็นครั้งที่สองเจี่ยนอันอันพูดเมื่อเห็นโลหิตสีดำไหลออกมา “หากมีครั้งหน้า ข้าจะทำให้ท่านนอนติดเตียงไปตลอดชีวิต ไม่มีวันได้ลุกขึ้น”ฉู่จวินสิงลืมตาขึ้นก็พบว่าเจี่ยนอันอันดูจะใจเย็นลงแล้วเขาขานตอบว่า “อืม” แล้วไม่ได้พูดอะไรอีกเจี่ยนอันอันพบว่ายาในขวดยาหมดลงแล้วนางดึงเข็มออกมาแล้วทิ้งขวดยาไว้ในห้วงมิติฉู่จวินสิงรู้สึกว่าหลังจากที่ซี่โครงถูกเข็มแทงเมื่อครู่ ความรู้สึกเจ็บก็มลายหายไปไม่เพียงเท่านั้น เขารู้สึกหายใจโล่งขึ้นด้วยแม้จะเป็นยามที่โมโหสุดขีด แต่เจี่ยนอันอันก็ไม่ได้ฆ่าเขาการค้นพบนี้ทำให้ภายในใจฉู่จวินสิงรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาในทันใด ความรู้สึกประหลาดที่มีต่อเจี่ยนอันอันยิ่งลึกซึ้งมากขึ้นไปอ
เวลาล่วงเลยไปถึงช่วงค่ำอย่างรวดเร็วพวกซ่างชิวทำงานกันใกล้เสร็จแล้ว ต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับบ้านไปกินข้าวและพักผ่อนหลังจากที่ครอบครัวของฉู่จวินสิงกินมื้อเย็นกันเสร็จก็ออกมานั่งรับลมเย็นๆ ที่ลานบ้านฮูหยินใหญ่เห็นเจี่ยนอันอันเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวันก็พูดด้วยความสงสาร “อันอัน พรุ่งนี้อย่าทำงานหนักขนาดนี้อีกเลย”“ครอบครัวเรามีบ่าวรับใช้ เรื่องบางเรื่องมอบให้พวกเขาจัดการก็พอ”ฮูหยินรองที่เงียบมาโดยตลอดเอ่ยปากพูดเช่นกัน “พี่หญิงพูดถูก อันอัน พรุ่งนี้อย่าทำแบบนี้อีก”“เจ้ายังไม่ตบแต่งกับจวินสิงแต่กลับทำงานหนักขนาดนี้ มันทำให้พวกข้าเกรงใจ”เจี่ยนอันอันส่งยิ้มให้ทั้งสองคน “รอให้สร้างโรงเก็บของเสร็จแล้วข้าค่อยพักเจ้าค่ะ”ฮูหยินใหญ่และฮูหยินรองต่างก็มองเจี่ยนอันอันด้วยสีหน้าปลื้มใจพวกนางรู้สึกว่าเจี่ยนอันอันไม่มีความบอบบางไม่สู้งานของคุณหนูใหญ่แม้แต่น้อยไม่เพียงเท่านั้น เจี่ยนอันอันยังคอยดูแลทุกอย่างมาตลอดหลายวันหากให้นางเป็นผู้ดูแลครอบครัว เช่นนั้นต้องดูแลบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อยได้แน่นอน ทั้งสองคนต่างก็หวังว่าฉู่จวินสิงจะได้แต่งเจี่ยนอันอันเข้าเรือนในเร็ววันหลังจากที่เจี่ยนอ
ฉู่จวินหลุนฟังที่เซิ่งฟางพูดแล้วกัดฟันพูดว่า “ทั้งหมดเป็นแผนการฉู่ชางเหยียน”“เขาวางแผนเช่นนี้เพื่อหมายจะชิงบัลลังก์”“เกรงว่าคลังสมบัติที่เมืองอินเป่ยอะไรนั่นจะเรื่องที่เขาจินตนาการขึ้นมาเองมากกว่า”“ในฐานะที่พวกข้าเป็นองค์ชายของแคว้นไท่ยวน พวกข้าไม่เห็นเคยได้ยินมาก่อนว่าเมืองอินเป่ยมีคลังสมบัติ”“แม้แต่ขุนนางคนสำคัญในราชสำนักก็ยังไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้”ฉู่จวินสิงขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโกรธแค้นเช่นกัน เขามองขาที่พิการของพี่ใหญ่จากนั้นนึกถึงถ้อยคำที่เจี่ยนอันอันเคยพูดด้วย ยิ่งโกรธแค้นหนักกว่าเดิมเวลานี้เขานึกย้อนเสียใจจริงๆ ที่ไม่เห็นธาตุแท้ของฉู่ชางเหยียนให้เร็วกว่านี้เขาไม่ได้กวาดล้างกองกำลังของฉู่ชางเหยียนให้ราบพนาสูญ เพราะเห็นแก่ที่เป็นองค์ชายเหมือนกันส่งผลให้เกิดเหตุการณ์หลายอย่างในเวลาต่อมาฉู่อันเจ๋ออดด่าไม่ได้เช่นกัน “เจ้าคนสารเลวฉู่ชางเหยียน เขาทำให้พวกเราถูกเนรเทศมาอยู่ที่นี่!”“หากวันใดได้กลับไปที่เมืองจิงโจว ข้าจะเป็นคนแรกที่สังหารเขา!”ฮูหยินรองได้ยินฉู่อันเจ๋อก่นด่าเสียงดังขนาดนี้ก็รีบร้องปราม “เจ๋อเอ๋อร์ เจ้าอย่าพูดเหลวไหล”“ท่านแม่ ข้าไม่ได้พูดเหลวไหล
ฉู่จวินสิงเห็นเจี่ยนอันอันยอมคุยกับตัวเองในที่สุด หัวใจที่ว่างเปล่าของเขาก็เปลี่ยนจากมืดมนมาเป็นสดใสในทันใดเขานั่งลงข้างเตียงอุ่น กอดผ้าห่มไม่ยอมคืนให้เจี่ยนอันอันเจี่ยนอันอันแค่นเสียงฮึดฮัดแล้วหันหน้าหนี ไม่อยากมองเขา ฉู่จวินสิงพูดอีกครั้ง “เจ้าหายโกรธได้หรือไม่? จะทุบตีข้าก็ได้ ข้าทนไหว”ที่ผ่านมาเขาเอาใจผู้ใดไม่เป็น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการพูดเอาใจหญิงสาวอย่างนอบน้อมเช่นนี้จู่ๆ ภายในห้องก็ตกอยู่ในความเงียบงันผ่านไปครู่หนึ่ง เจี่ยนอันอันถึงค่อยพูดว่า “ท่านมานี่หน่อย”ฉู่จวินสิงไม่รู้ว่าเจี่ยนอันอันจะทำอะไร ได้แต่ทำตามที่นางบอกเขาโน้มตัวเข้าไปใกล้เจี่ยนอัน จากนั้นพบว่านางหันมาจูบริมฝีปากเขาอย่างแรงหลังจากที่จูบฉู่จวินสิง ใบหน้าของเจี่ยนอันอันก็แดงก่ำ“ครานี้พวกเราเสมอกันแล้ว ท่านกลับไปที่เตียงฝั่งของท่านได้แล้วล่ะ”ฉู่จวินสิงยกมือแตะริมฝีปากตัวเองเขาคิดไม่ถึงว่าเจี่ยนอันอันจะทำแบบนี้ครั้นเห็นฉู่จวินสิงแน่นิ่งไม่ขยับ ดวงตาเมล็ดซิ่งของเจี่ยนอันอันก็เบิกโพลงขึ้น“เหตุใดยังไม่กลับไปอีก หรือว่าต้องให้ข้าแทงท่านอีกเข็ม?”ฉู่จวินสิงได้สติ มุมปากยกโค้งเป็นรอยยิ้มหล่อเหลา
และไม่นานเขาก็รู้สึกถึงความผิดปกติ ร่างกายเริ่มมีอาการสะบัดร้อนสะบัดหนาว กระดูกและข้อต่อค่อยทวีความเจ็บปวดรุนแรงขึ้นเสียงร้องของเขาดังยิ่งกว่าเมื่อครู่หลายเท่าตัว แต่หัวหน้าผู้คุมและลูกน้องต่างไม่เห็นยาพิษที่เจี่ยนอันอันโยนออกไป จึงเห็นการกู่ร้องของเฝิงซานกวงเป็นเพียงการขัดขืนครั้งสุดท้ายเท่านั้นแม้พวกเราจะรู้ดีว่า เฝิงซานกวงเป็นญาติกับเจ้าเมืองตานแต่เมื่อท่านเจ้าเมืองออกคำสั่งมาแล้ว พวกเขาก็ย่อมต้องปฏิบัติตามพวกเขาคุมตัวเฝิงซานกวงไปยังห้องลงทัณฑ์ พร้อมจับมัดไว้กับม้านั่งตัวหนึ่งผู้คุมสองคนยกไม้พลองขึ้น พร้อมฟาดลงที่สะโพกเฝิงซานกวงอย่างแรง“อ๊าก โอ๊ย โอ๊ย!”เดิมทีร่างกายก็เจ็บปวดอยู่แล้ว ยังมาถูกโบยซ้ำอีกเฝิงซานกวงเจ็บเสียจนเสียงร้องโหยหวนราวกับหมูโดนเชือดไม่นานก็โบยครบยี่สิบไม้ พร้อมกับสะโพกเฝินซานกวงซึ่งยับเยินไม่เป็นชิ้นดีเลือดไหลซึมออกมาจนเปื้อนเสื้อผ้าที่ขาดวิ่นเจี่ยนอันอันตามมายังห้องลงทัณฑ์ มองลอดหน้าต่างเห็นทุกอย่างอยู่ในสายตาและบัดนี้เฝิงซานกวงได้หมดสติไปแล้ว เสื้อผ้ายังเปื้อนด้วยเหงื่อเย็นที่โซมกายนางพอใจเป็นอย่างมากที่ผลออกมาเช่นนี้ จึงได้กล่าวต่อเจ้
เฝิงซานกวงถลึงตาใส่เจี่ยนอันอัน พลางกล่าวแก้ตัว “ท่านอารอง ข้าไม่เห็นว่าแร่หินจะมีปัญหาอันใด”“หากแร่เหล่านี้มีพิษจริง แล้วข้าจะอยู่รอดปลอดภัยมาได้อย่างไร?”คำกล่าวนี้ย่อมทำให้เจ้าเมืองตานเกิดความกังขาเช่นกัน จึงมองไปยังฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอัน รู้สึกว่าคำพูดของสองคนนี้ ดูจะไม่ชอบมาพากลนักเจี่ยนอันอันยิ้มหยันพลางกล่าว “ท่านย่อมจะปลอดภัยแน่นอน เพราะรู้แต่แรกแล้วว่าแร่หินมีพิษ จึงกินยาป้องกันไว้ก่อนล่วงหน้า”เฝินซานกวงแอบสะดุ้งในใจ แต่ยังไม่คิดยอมรับว่าแร่หินมีพิษจริงจึงได้กล่าวแก้ตัวอีกครั้ง “เจ้าอย่าได้กล่าวเหลวไหล ข้าเคยกินยาถอนพิษเมื่อไหร่กัน”นี่ล้วนเป็นสิ่งที่เจ้าคิดเองเออเองทั้งเพ หวังนำมาซ้ำเติมให้ข้ามีโทษหนักมากขึ้น”เจี่ยนอันอันพอดูออกว่า เจ้าเมืองตานเริ่มคล้อยตามคำพูดเฝิงซานกวงบ้างแล้วนางจึงกล่าวต่อเจ้าเมืองตานว่า “หากท่านเจ้าเมืองไม่เชื่อคำพูดของข้า ก็ให้ส่งคนไปตรวจสอบที่เหมืองแร่ได้ เพื่อดูว่าข้าพูดถูก หรือเฝิงซานกวงพูดถูกกันแน่”เจ้าเมืองตานจึงรีบเรียกทหารในจวนมา พร้อมสั่งให้ไปตรวจสอบที่เหมืองแร่ไม่นานทหารผู้นั้นก็ได้กลับมา พร้อมรายงานว่าคนงานที่อยู่ในเหมือง ล
ครั้นเจ้าเมืองตานได้ยินว่าฉู่จวินสิงมา หัวใจก็พลันหนักอึ้งเขาสาวเท้าออกไปจากคุกในทันที “รีบเชิญพวกเขาเข้ามา”องครักษ์ได้ยินเจ้าเมืองตานใช้คำว่าเชิญ ในใจก็คิดว่าฉู่จวินสิงจะต้องเป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่งเป็นแน่เขาไม่กล้าชักช้าจึงย้อนกลับไปโดยพลันเขากล่าวกับฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันอย่างนอบน้อม “ใต้เท้าของข้าเชิญพวกท่านเข้าไปข้างใน”ฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันสาวเท้าเข้าไปในจวน โดยมีองครักษ์นำทางไปยังโถงใหญ่คนทั้งสองมาถึงบริเวณนอกโถงใหญ่ก็เห็นว่าเจ้าเมืองตานรออยู่ข้างในแล้วเจ้าเมืองตานรีบออกมาต้อนรับ เขาประสานมือกล่าว “ทั้งสองท่านมาที่จวนข้าได้อย่างไร เหมืองนั่นเกิดเรื่องอันใดขึ้นอีกอย่างนั้นรึ?”“เจ้าเมืองตานกล่าวไม่ผิด เหมืองนั่นเกิดเรื่องขึ้นแล้วจริงๆ”คำพูดของเจี่ยนอันอันทำให้สองมือของเจ้าเมืองตานกำแน่นเขานึกแล้วเชียวว่าจะต้องเป็นเรื่องดีๆ ที่เฝิงซานกวงทำอีกแล้วเป็นแน่เจี่ยนอันอันบอกเรื่องที่แร่ในเหมืองมีพิษออกมาเจ้าเมืองตานได้ยินแล้วก็ยิ่งโมโหอย่างหนักเขามีหลานแบบนี้ได้อย่างไรกันนะ ถึงกับให้คนเหล่านั้นขุดแร่มีพิษเลยหรือนี่ถ้าไม่ใช่เพราะเฝิงซานกวงเป็นหลานของเขา เขาคงส
พวกลูกน้องต่างมองหน้ากัน ความงุนงงฉายเกลื่อนใบหน้าพวกเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเหตุใดตนเองจึงไม่ถูกพิษหากไม่ใช่เพราะเจี่ยนอันอันเพิ่งพูดออกมาว่าแร่ของที่นี่มีพิษ พวกเขาก็คงยังไม่รู้เรื่องนี้ด้วยซ้ำลูกน้องคนหนึ่งในจำนวนนั้นเอ่ยขึ้น “พวกข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ แต่ตอนแรกที่พวกข้ามาที่นี่เคยได้กินน้ำแกงปลาจี้ที่เจ้าเหมืองเฝิงทำ”“หรือจะเป็นเพราะน้ำแกงนั่น พวกข้าถึงได้ไม่ถูกพิษ?”ลูกน้องคนอื่นๆ ก็รีบร้อนพยักหน้าด้วยเช่นกัน“ใช่แล้ว วันแรกที่พวกข้ามาที่นี่ล้วนแต่ได้ดื่มน้ำแกงปลาจี้ไปหนึ่งถ้วย”“ข้าคิดออกแล้วเหมือนกัน ตอนที่ข้าซดน้ำแกงปลาจี้นั่นยังคิดอยู่เลยว่าเจ้าเหมืองเฝิงช่างใจกว้างนัก เพิ่งมาถึงก็ให้พวกข้าดื่มน้ำแกงปลาจี้ที่สดใหม่เช่นนี้ อาศัยน้ำแกงปลาจี้นี้ ข้าก็จะตั้งใจทำงานให้เขา”เจี่ยนอันอันมุ่นคิ้ว เมื่อครู่นางดมดูแล้ว พิษในแร่นั่นไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถถอนพิษได้ด้วยน้ำแกงปลาจี้ถ้วยเดียวเห็นทีเรื่องนี้คงต้องไปถามเฝิงซานกวงถึงจะรู้เรื่องในเมื่อแร่มีพิษ แต่เฝิงซานกวงและพวกลูกน้องล้วนแต่ปลอดภัยไม่ได้รับผลกระทบ แสดงว่าเขาจะต้องมีวิธีแก้พิษอยู่อย่างแน่นอนนา
เจี่ยนอันอันขมวดคิ้วมุ่น นางมองไปทางซ่งไหล “ท่านเล่า จำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใคร บ้านอยู่ที่ไหนด้วยเหมือนกันรึ?”ซ่งไหลส่ายหน้าเบาๆ “จำไม่ได้”เจี่ยนอันอันคว้าข้อมือซ่งไหลขึ้นมาจับชีพจรให้เขาในไม่ช้านางก็ได้ข้อสรุปคนเหล่านี้ทุกคนล้วนถูกพิษ ขณะที่พิษประเภทนี้จะทำให้คนที่ถูกพิษสูญเสียความทรงจำไปในชั่วพริบตาหลังจากที่นางปล่อยมือซ่งไหลก็สุ่มหยิบแร่ก้อนหนึ่งบนพื้นขึ้นมานางนำมาจ่อใต้จมูกดมดูก็ได้กลิ่นสกปรกจางๆ ที่แผ่ซ่านออกมาจากก้อนแร่ได้ในทันทีนางกล่าวกับฉู่จวินสิง “ถ้าข้าเดาไม่ผิด แร่ในเหมืองนี้ล้วนแต่มีพิษ”คำพูดของเจี่ยนอันอันทำให้ทุกคนบริเวณนั้นล้วนสัมผัสได้ถึงความหวาดกลัวจากก้นบึ้งหัวใจที่พวกเขาจำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใคร เป็นเพราะต้องพิษจากแร่พวกนี้อย่างนั้นหรือ?“พวกข้าควรทำอย่างไรดี ข้าไม่อยากตาย!”“ข้าก็ไม่อยากตายเหมือนกัน ข้าอยากไปจากที่นี่”“แม่นางได้โปรดปล่อยพวกข้าไปเถอะ ให้พวกข้าไปจากที่นี่เถอะนะ”คนงานเหมืองเหล่านั้นขอร้องเจี่ยนอันอันเสียงระงม หวังว่านางจะสามารถปล่อยพวกเขาไปซ่งไหลก็หวาดกลัวมากเช่นกัน เขาอยากไปจากที่นี่ ไม่อยากตายอยู่ในสถานที่แห่งนี้เจี่ยนอันอัน
ฉู่จวินสิงและซ่งไหลที่รออยู่ด้านนอกล้วนร้อนใจอย่างยิ่งโชคดีที่เจี่ยนอันอันออกมาอย่างรวดเร็ว ทั้งยังพาเด็กชายหนึ่งคนออกมาด้วยซ่งไหลรีบอุ้มเด็กชายออกมาข้างนอกเขากระซิบเรียกชื่อเด็กชายเบาๆ “หวายหมิง เจ้าฟื้นเร็วเข้า”เจี่ยนอันอันเห็นว่าซ่งไหลมีท่าทางเป็นกังวลอย่างมาก นางจึงบอกเสียงเบาว่า “เขาแค่สลบไปเท่านั้น ไม่ได้เป็นอันใดมาก”หลังจากที่นางพูดจบก็มุดเข้าไปในถ้ำอีกครั้งรอจนถึงตอนที่นางพาเด็กชายคนที่สองออกมาก็ถอดแว่นสายตากลางคืนออกแล้วนางกล่าวกับฉู่จวินสิงว่า “พวกเราออกไปจากที่นี่ก่อนค่อยคุยกัน”ฉู่จวินสิงพยักหน้าน้อยๆ แล้วอุ้มเด็กชายอีกคนขึ้นมาซ่งไหลอุ้มหวายหมิงตามเจี่ยนอันอันออกไปจากในเหมืองด้วยเช่นกันคนที่รออยู่ด้านนอกล้วนแต่ร้อนใจเป็นที่ยิ่งไม่รู้ว่าข้างในเป็นอย่างไรบ้างแล้วเมื่อพวกเขาเห็นพวกเจี่ยนอันอันออกมาก็พากันถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเจี่ยนอันอันให้พวกเขาวางเด็กชายทั้งสองลงบนพื้นที่ว่าง นางหยิบถุงเข็มเงินออกมาจากในมิติแล้วฝังเข็มให้เด็กชายสองคนนั้นผ่านไปไม่นาน ในที่สุดเด็กชายทั้งสองก็ค่อยๆ ฟื้นขึ้นมาซ่งไหลเห็นว่าน้องชายทั้งสองของตนเองฟื้นแล้วก็คุกเข่าล
แต่ไม่ว่าเขาออกแรงมากเท่าไรก็ไม่อาจผลักหินยักษ์ออกไปได้ก่อนหน้านี้ที่นี่ก็เคยเกิดการถล่มมาก่อน แต่ไม่ได้หนักหนาเท่าครั้งนี้หากยังไม่ช่วยคนข้างในออกมา เกรงว่าเด็กสองคนนั้นคงต้องจบชีวิตลงที่นี่จริงๆ แล้วเจี่ยนอันอันขมวดคิ้วมุ่น นางพลันก้าวออกมาบริเวณหน้าถ้ำแล้วออกแรงผลักหินยักษ์ก้อนนั้นแต่หินยักษ์หนักเกินไป นางผลักอยู่หลายทีแต่ก็ไม่สามารถทำให้หินยักษ์นั้นขยับเขยื้อนได้เลยฉู่จวินสิงก็รีบเดินเข้ามาหา เขาให้เจี่ยนอันอันถอยออกไปแล้วรวบรวมกำลังภายในฟาดฝ่ามือใส่หินยักษ์ก้อนนั้นอย่างหนักหน่วงครั้นฝ่ามือนั้นฟาดลงไป หินยักษ์ก้อนนั้นเพียงสั่นคลอนไม่กี่ที แต่ก็ไม่ได้ถูกกำลังภายในทะลวงไปได้ขณะที่ทุกคนไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดีนั่นเอง เจี่ยนอันอันพลันกวาดตามองคลังอาวุธในมิติครุ่นคิดว่าสามารถหยิบระเบิดออกมาจากในนั้นสักลูกได้หรือไม่โชคดีที่ตอนที่นางช่วยสองแม่ลูกสกุลเฉียวต่อกรกับเฝิงซานกวงก่อนหน้านี้ คลังอาวุธได้เลื่อนขั้นอย่างเงียบๆคำประกาศปรากฏขึ้นในมิติ : [ระดับคลังอาวุธ 50 สามารถหยิบอาวุธได้สองชนิด]เจี่ยนอันอันนึกยินดี นางรีบบอกให้ทุกคนหลบไปนอกเหมือง แม้แต่ฉู่จวินสิงก็ให้ออกไปจากตร
เจ้าเมืองตานประสานมือต่อเจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิง “เรื่องราวได้จบลงแล้ว ข้าน้อยคงต้องขอกลับจวนไปไต่สวนเรื่องนี้ต่อ ขอลาแต่เพียงเท่านี้”เจี่ยนอันอันประสานมือตอบเช่นกัน “ท่านค่อยๆ เดิน ไม่ส่งแล้ว อย่างไรคงต้องรบกวนท่านให้ความเป็นธรรมแก่เรื่องนี้”“ข้าน้อยทราบดี” เจ้าเมืองตานกล่าวพลางขึ้นรถม้าไปพร้อมกับถอนหายใจหนักหน่วงอีกครั้งเหตุใดเขาจึงมีหลานชายที่ชอบก่อเรื่องนี้เช่นนี้หนอ? ช่างไม่ยอมปล่อยให้เขาได้อยู่สบายบ้างเลยรอจนเจ้าเมืองตานจากไปแล้ว เจี่ยนอันอันจึงหันมามองเหล่าบริวารของเฝิงซานกวงอีกครั้งซึ่งทุกคนต่างก็รู้ว่า ยามนี้ในเหมืองได้เปลี่ยนเจ้าของใหม่แล้วพวกเขาจึงไม่กล้าทำส่งเดชอีก ได้แต่ก้มหน้าก้มตายืนนิ่งอยู่เจี่ยนอันอันกล่าวเสียงเย็นชา “พวกเจ้ามัวยืนเซ่อหาอันใดอีก ที่นี่ไม่ใช่ถิ่นของเฝิงซานกวงอีกแล้ว แต่ละคนจงรีบไสหัวไปให้พ้น”“หากวันหน้าข้าได้รู้ว่า พวกเจ้ากลับมาก่อเรื่องที่นี่อีก ข้าจะให้มีจุดจบเช่นเดียวกับเฝิงซานกวง”บรรดาลูกน้องเฝิงซานกวงเห็นว่าบัดนี้คงได้ตกงานเป็นแน่แท้ต่อไปจะรับเงินใต้โต๊ะคงไม่มี ยิ่งอย่าหมายว่าคิดลักขโมยแร่หินในเหมืองออกไปขายบ้างจึงต่างพากัน
แต่เรื่องนี้หากจะว่าไป ก็ล้วนเป็นความผิดของเฝิงซานกวงหากเขามิได้แอบใช้แรงงานเด็ก เจี่ยนอันอันก็ไม่อาจใช้เพียงหนึ่งร้อยตำลึง มาซื้อเหมืองแร่แห่งนี้ได้ไม่ทันรอให้เจ้าเมืองตานได้กล่าวตอบ เฝิงซานกวงกลับโมโหขึ้นก่อน “นังตัวดี อย่าถือว่าเคยเป็นอดีตชายาเยียนอ๋องมาก่อน ก็จะใช้เงินเพียงหนึ่งร้อยตำลึงมาซื้อเหมืองของข้าได้”“ขอบอกให้รู้ เหมืองแห่งนี้ข้าเป็นคนขุดขึ้นเอง จะไม่มีวันยอมขายให้เจ้าเด็ดขาด”เจี่ยนอันอันมองหน้าเฝิงซานกวงด้วยแววตาดูหมิ่น สีหน้าเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน“ฟังนะเฝิงซานกวง บัดนี้เจ้ากลายเป็นนักโทษแล้ว มีสิทธิ์อันใดมาเพ้อเจ้อไร้สาระกับข้าอีก”เฝิงซานกวงโกรธจนสุดจะทนไหว พลันกระอักโลหิตออกจากปากทันทีพร้อมพาเอาฟันหน้าสองซี่ที่ถูกต่อยร่วงเมื่อครู่นี้ออกมาด้วยเจ้าเมืองตานรู้ดีว่าไม่อาจสู้เจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงได้ อีกทั้งเรื่องนี้ก็เป็นความผิดของเฝิงซานกวงจริงว่าตามกฎหมายแล้ว เมื่อเฝิงซานกวงทำผิดเช่นนี้ เหมืองของเขาก็ควรจะถูกทางการยึดคืนดังนั้นเจี่ยนอันอันจึงได้มาพูดกับเขา ว่าจะขอซื้อเหมืองแห่งนี้ไว้เองอีกทั้งเฝิงซานกวงก็ไม่มีสิทธิ์ชอบธรรม ที่จะยับยั้งการซื้อขายของ