เจี่ยนอันอันเข้าใจแล้ว มิน่าเล่าผู้ว่าการมณฑลจงโจวจึงมีกองทัพนับพันอยู่ในครอบครองที่แท้ในจวนของเขาก็ซุกซ่อนป้ายคำสั่งพยัคฆ์เอาไว้นี่เองเจี่ยนอันอันย่อมไม่ปล่อยให้ป้ายคำสั่งนี้อยู่ที่นี่ต่อไปนางเก็บป้ายคำสั่งนั้นไว้ในมิติแล้วหยิบป้ายคำสั่งขนาดเท่ากันออกมาชิ้นหนึ่งบนป้ายคำสั่งนั้นสลักรูปเฮลโลคิตตี้ที่กอดหมีน้อยเอาไว้ตัวหนึ่งเจี่ยนอันอันวางป้ายคำสั่งนั้นลงในกล่องไม้แล้วกดช่องลับเบาๆ กล่องไม้นั้นก็เด้งกลับเข้าไปเพื่อไม่ให้ผู้ว่าการมณฑลจงโจวสังเกตเห็นว่าตรงนี้มีคนเคยแตะต้องเจี่ยนอันอันซื้อของเลียนแบบภาพพู่กันโบราณจากร้านค้าในมิติออกมาจำนวนหนึ่งยามนี้นางยังไม่อยากให้ผู้ว่าการมณฑลจงโจวตายเร็วขนาดนั้นนางอยากเห็นว่าหลังจากที่ผู้ว่าการมณฑลจงโจวพบว่าป้ายคำสั่งของตนถูกสลับไปแล้วจะมีท่าทางเช่นไรแค่คิดถึงท่าทางน่าสมเพชตอนที่ผู้ว่าการมณฑลจงโจวหยิบป้ายคำสั่งปลอมขึ้นมา นางก็หัวเราะออกมาอย่างอดไม่อยู่เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา หลังทำทุกอย่างเสร็จ เจี่ยนอันอันก็ออกมาจากห้องลับเจี่ยนอันอันกลับมาที่ศาลาอีกครั้งก็เห็นว่านจื้อหมิงผู้ว่าการมณฑลจงโจวกำลังนั่งจิบชาอยู่เขาดูไปแล้วเหมือนอาย
เจี่ยนอันอันใช้เข็มเงินปลดล็อกแม่กุญแจออกก็พบว่าในหีบคือเงินทองของล้ำค่าและผ้าไหมแพรพรรณรอยยิ้มค่อยๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าเจี่ยนอันอันนางย่อมกวาดทรัพย์สมบัติเหล่านี้เข้ามิติโดยไม่เหลือไว้แม้แต่ชิ้นเดียวอยู่แล้วหลังจากขนสมบัติจากทุกหีบจนเกลี้ยง เจี่ยนอันอันก็ออกมาจากคลังสมบัติอย่างมีความสุขนางไม่ได้รีบร้อนไปจากจวนผู้ว่าการมณฑลจงโจว แต่เดินเตร่อยู่ข้างในรอบหนึ่งเหมือนกับที่นางคิดไว้ตอนแรก ที่นี่วางกำลังทหารไว้จำนวนมากแม้แต่บนหลังคาก็วางมือธนูไว้จำนวนมากถ้าพวกเขาบุกเข้ามาอย่างซึ่งหน้าแต่แรกก็คงถูกธนูยิงทะลุร่างจนกลายเป็นเม่นอย่างรวดเร็วเจี่ยนอันอันสำรวจสภาพภูมิประเทศและกำลังทหารในนั้นเสร็จก็จะจากไปในเวลานั้นเอง น้ำเสียงเย็นชาเสียงหนึ่งก็พลันดังขึ้นจากข้างหลัง“เจ้าจะจากไปเร็วขนาดนี้เลยหรือ ไม่เดินสำรวจจวนผู้ว่าการมณฑลจงโจวต่ออีกสักหน่อยเล่า?”เจี่ยนอันอันหันกลับไปก็เห็นบุรุษสวมหน้ากากเงินผู้หนึ่งยืนอยู่บริเวณไม่ไกลจากนางมุมปากของเขามีรอยยิ้มประดับอยู่ สายตาจับจ้องมาทางนางเจี่ยนอันอันใจหายวูบ นางคิดไม่ถึงว่าวิชาล่องหนของตนเองจะถูกคนผู้นี้มองเห็นได้เจี่ยนอันอันขมวดคิ้ว
“แม่นางน้อย เอะอะก็ฆ่าแกงกันแบบนี้ไม่สมกับเป็นผู้หญิงเลยนะ”ขณะที่กู้มั่วหลีพูด คนก็ก้าวมาข้างหน้าหลายก้าวเจี่ยนอันอันเห็นอย่างนั้นก็รีบถอยหลัง ดึงระยะห่างออกจากกู้มั่วหลีกู้มั่วหลียิ่งรู้สึกว่าสตรีตรงหน้าน่าสนใจมากเขาไม่ชอบสตรีที่เป็นฝ่ายเสนอตัวเข้าหาก่อนมาแต่ไหนแต่ไรสตรีแบบเจี่ยนอันอันที่เปิดฉากต่อสู้โดยไม่พูดพร่ำทำเพลงกลับตรงจริตเขามากทีเดียว“แม่นางน้อย เจ้ามีนามว่าอะไรหรือ?”“เจ้าติดตามเยียนอ๋องผู้นั้นไปตกระกำลำบาก ต้องใช้ชีวิตอย่างอกสั่นขวัญแขวนทั้งวันแบบนั้น น่าเศร้าจะตาย”“ข้าว่า มิสู้เจ้ามาติดตามข้า รับรองว่าเจ้าจะมีกินมีใช้ไม่ขาดมือ”กู้มั่วหลีหยุดฝีเท้า มองเจี่ยนอันอันด้วยแววตาหยอกเย้าเจี่ยนอันอันถ่มน้ำลายลงข้างๆ ตวาดกลับกู้มั่วหลีว่า “หยุดพูดไร้สาระ ส่งยาถอนพิษมาเดี๋ยวนี้”“ไม่อย่างนั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ”เจี่ยนอันอันพูดอยู่ คนก็พุ่งเข้าไปหากู้มั่วหลีอย่างรวดเร็วนางเคลื่อนไหวเร็วมาก เพียงพริบตาเดียวก็มาถึงเบื้องหน้ากู้มั่วหลีปืนสั้นเก็บเสียงกระบอกหนึ่งปรากฏขึ้นในมือนาง ปลายกระบอกปืนสีดำสนิทจ่ออยู่บนหน้าผากกู้มั่วหลีแค่เพียงนางลั่นไก บุรุษตรงหน้าก
เจี่ยนอันอันเสมือนอ่านใจกู้มั่วหลีได้ นางเอ่ยเสียงเย็นว่า “ในเหตุการณ์สังหารหมู่เมื่อตอนนั้น เจ้าวางยาใส่เวินอี๋”“หากยังไม่มอบยาถอนพิษให้อีก ข้าจะทำให้เจ้าหายไปจากโลกนี้!”เจี่ยนอันอันว่าแล้วก็สวมถุงมือแบบพิเศษนางนำผงสลายศพกำหนึ่งออกมาจากห้วงมิติและทำทีจะสาดใส่กู้มั่วหลี กู้มั่วหลีมองผงสลายศพปราดหนึ่งก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นนึกไม่ถึงว่าหญิงนางนี้จะชอบเล่นกับยาพิษเฉกเช่นเดียวกันกับเขาส่วนเรื่องเวินอี๋อะไรนั่น กู้มั่วหลีไม่ได้สนใจเขาเกิดความสนใจในตัวเจี่ยนอันอันเป็นอย่างมากในตอนที่เจี่ยนอันอันกำลังจะสาดผงสลายศพนี้เอง กู้มั่วหลีก็รีบร้องว่า“ข้าไม่มียาถอนพิษ แต่ข้าสามารถบอกวิธีถอนพิษให้กับเจ้าได้”รอยยิ้มเกียจคร้านปรากฏขึ้นที่มุมปากกู้มั่วหลีอีกครั้งเขากดจุดฝังเข็มสองจุดบนร่างตัวเองเพื่อหยุดยั้งการกระจายของพิษเจี่ยนอันอันหยุดการกระทำของตัวเอง นางถลึงตามองกู้มั่วหลี รอให้เขาบอกวิธีถอนพิษกู้มั่วหลีเอนตัวพิงกำแพงอย่างเกียจคร้านและพูดด้วยสุ้มเสียงเหลาะแหละ “ข้าผู้นี้เคยวางยาคนมาไม่รู้ตั้งเท่าไร”“เจ้าคนแซ่เวินที่เจ้าพูดถึงมีอาการอย่างไรหลังจากถูกวางยา?”“หากเจ้าไม่อธิบายให้
เจี่ยนอันอันไม่ได้ไล่ตามไป นางท่องชื่อสมุนไพรพวกนี้ในใจแล้วต้องตกใจสมุนไพรพวกนี้ล้วนแต่มีพิษร้ายแรงแต่ไม่นาน นางก็เข้าใจได้ว่าพิษร้ายในตัวเวินอี๋ต้องถอนด้วยการใช้พิษต้านพิษและสมุนไพรเหล่านี้ก็มีสรรพคุณในการช่วยถอนพิษเช่นกันเจี่ยนอันอันจำชื่อของสมุนไพรเหล่านี้ นางนึกขึ้นได้ว่านอกกำแพงมีปืนพกกระบอกนั้นหากถูกผู้อื่นหยิบไป ไม่แน่ว่าจะเกิดเรื่องใหญ่เมื่อคิดถึงตรงนี้ เจี่ยนอันอันก็รีบกระโดดขึ้นกำแพงลานบ้านนางยืนอยู่บนกำแพง เห็นว่ากู้มั่วหลีกำลังมองมาทางนางจากบนหลังคาที่อยู่ไกลออกไปมิหนำซ้ำเขายังทำท่าส่งจูบให้นางเจี่ยนอันอันรู้สึกเหมือนกินแมลงวัน สะอิดสะเอียนจนอยากอาเจียนนางถลึงตาใส่กู้มั่วหลีแล้วกระโดดลงจากกำแพงไปเก็บปืนพกเข้าสู่ห้วงมิติบัดนี้นางเข้าใจทุกอย่างในที่ว่าการมณฑลจงโจวอย่างแจ่มแจ้งฉู่จวินสิงกำลังรอนางอยู่ นางจะมัวชักช้าไม่ได้ รีบท่องตำแหน่งของฉู่จวินสิงในใจไม่นาน นางก็มาปรากฏตัวเบื้องหน้าฉู่จวินสิงฉู่จวินสิงเห็นว่าเจี่ยนอันอันกลับมาแล้วก็โล่งใจเหมือนได้ยกภูเขาออกจากอกเซิ่งฟางกับเหยียนเซ่าไม่ได้สังเกตเห็นว่าเจี่ยนอันอันกลับมาแล้วพวกเขายังคงมองไปทางที
ตอนนี้พวกเขาทั้งหิวทั้งง่วง นอกจากนี้ยังวิงเวียนศีรษะเพราะตากแดดมาทั้งวันพวกทหารเอาแต่พร่ำบ่น ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นว่ามีคนมายืนอยู่ด้านหลังพวกตัวเองเมื่อครู่นี้ พวกฉู่จวินสิงทั้งสี่คนได้เปลี่ยนมาสวมชุดท่องราตรีที่เจี่ยนอันอันนำออกมาฉู่จวินสิงอุ้มเจี่ยนอันอันและใช้วิชาตัวเบากระโดดขึ้นไปบนหลังคาส่วนเซิ่งฟางกับเหยียนเซ่าแยกกันไปที่หลังคาอีกสองแห่งเนื่องจากท้องฟ้ามืดมาก อีกทั้งเซิ่งฟางกับเหยียนเซ่าต่างก็เก็บซ่อนกลิ่นอายของตัวเองทหารเหล่านี้จึงมองไม่เห็นทั้งสองคนเจี่ยนอันอันยังคงอยู่ในสภาวะล่องหน นางยืนอยู่ด้านหลังทหารเหล่านี้ ฟังพวกเขาบ่นถึงผู้ว่ามณฑลจงโจวมุมปากของนางยกโค้งเป็นรอยยิ้มเหี้ยมโหดหลังจากที่ฉู่จวินสิงส่งสัญญาณมือให้เซิ่งฟางกับเหยียนเซ่า ทั้งสามคนก็ชักกระบี่แทงใส่เหล่าทหารเบื้องหน้าทหารพวกนั้นได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวและรู้สึกถึงความผิดปกติในที่สุดพวกเขารีบหันตัวกลับไปก็พบว่าด้านหลังมีคนในชุดสีดำและสวมผ้าคลุมหน้าสีดำยืนอยู่เซิ่งฟางกับเหยียนเซ่าลอบสังหารทหารไปหลายนายเช่นกัน ทันใดนั้นเอง เกิดความวุ่นวายขึ้นบนหลังคา “มีนักฆ่า!”ไม่รู้ว่าผู้ใดที่ตะโกนเสีย
ว่านจื้อหมิงตกใจมากเมื่อเห็นเจี่ยนอันอันปรากฏตัวอย่างฉับพลันนางเข้ามาอยู่ในที่ว่าการมณฑลจงโจวตั้งแต่เมื่อไร เหตุใดจึงไม่เห็นนางอยู่ในการตะลุมบอนเมื่อครู่?เจี่ยนอันอันเห็นว่านจื้อหมิงไม่ตอบก็กดมีดลึกกว่าเดิมคมจากมีดสั้นจมลึกเข้าไปในผิวของว่านจื้อหมิงและกรีดคอเขาความเจ็บปวดรวดร้าวปกคลุมเข้ามา ว่านจื้อหมิงไม่กล้าชักช้า เขารีบเอ่ยตอบ “ข้าไม่เข้าใจที่เจ้าพูด สาส์นลับอะไร?”ว่านจื้อหมิงรู้ตั้งแต่ตอนที่เจี่ยนอันอันพูดคำว่าสาส์นลับแล้วว่าในหมู่คนที่เขาส่งไปมีคนทรยศอยู่เจี่ยนอันอันเห็นว่านจื้อหมิงแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องก็ยิ้มเยาะและออกแรงที่มือหนักกว่าเดิมว่านจื้อหมิงรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ลำคออีกครั้ง เขากลัวว่าจะถูกเชือดคอในคราเดียว กลัวจนมีเหงื่อตกบริเวณหน้าผากเจี่ยนอันอันชำเลืองมองพวกฉู่จวินสิงทั้งสามคนที่กำลังต่อสู้ปราดหนึ่ง พบว่าพวกเขาสังหารทหารไปแล้วเกินครึ่งนางยิ้มเยาะว่า “เจ้าคงยังไม่เข้าใจสถานการณ์ตอนนี้สินะ”“ถ้าเช่นนั้นข้าจะช่วยบอกให้ พวกคนที่เจ้าส่งไปเมื่อคืนถูกฆ่าตายหมดแล้ว”“และข้าก็คือเจี่ยนอันอันที่สาส์นลับสั่งให้เอาชีวิต”ว่านจื้อหมิงได้ยินว่าหญิงสาวนางนี้ค
เจี่ยนอันอันขมวดคิ้วแน่น นางมองไปยังทิศทางที่ลูกธนูยิงมามองเห็นเพียงว่ามีเงาดำร่างหนึ่งกะพริบผ่านไป จากนั้นหายเข้าไปในความมืดอย่างรวดเร็ว“บ้าเอ๊ย!” เจี่ยนอันอันสบถด้วยความโมโหนางหันไปถีบว่านจื้อหมิงที่สิ้นใจไปแล้วอย่างแรงคนผู้นั้นราวกับต้องการเพียงปลิดชีพว่านจื้อหมิง ไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้ครั้งนี้แต่อย่างใดเจี่ยนอันอันอยากไล่ตามไป แต่นางไม่รู้ว่าคนผู้นั้นหายไปที่ใดแล้วไม่นาน พวกฉู่จวินสิงทั้งสามคนก็จัดการทหารที่เหลือจนหมดเมื่อพวกเขามาถึงตัวเจี่ยนอันอันก็พบกับว่านจื้อหมิงที่ตายไปแล้วนอกจากนี้บริเวณอกยังมีลูกธนูดอกหนึ่งปักอยู่“เกิดอะไรขึ้น? ข้ายังไม่ทันได้ชำระแค้นที่เขาใส่ร้ายข้ามาตลอดหลายปีเลย เหตุใดจึงตายเสียแล้ว?”เซิ่งฟางถือกระบี่เปื้อนโลหิตไว้ในมือพร้อมกับถลึงตามองว่านจื้อหมิงที่อยู่บนพื้นด้วยสีหน้าเกรี้ยวกราดเจี่ยนอันอันโมโหเดือดดาลมากเช่นกัน อีกแค่ก้าวเดียวแท้ๆ นางก็จะได้รู้อยู่แล้วว่าผู้ใดส่งสาส์นลับให้ว่านจื้อหมิงทว่าตอนนี้ เบาะแสกลับขาดหายไปหมดแล้วเจี่ยนอันอันมองไปยังทิศที่คนผู้นั้นหายไปด้วยสายตาเย็นชาเงาร่างร่างนั้นทำให้เจี่ยนอันอันรู้สึกคุ้นอยู่ในท
และไม่นานเขาก็รู้สึกถึงความผิดปกติ ร่างกายเริ่มมีอาการสะบัดร้อนสะบัดหนาว กระดูกและข้อต่อค่อยทวีความเจ็บปวดรุนแรงขึ้นเสียงร้องของเขาดังยิ่งกว่าเมื่อครู่หลายเท่าตัว แต่หัวหน้าผู้คุมและลูกน้องต่างไม่เห็นยาพิษที่เจี่ยนอันอันโยนออกไป จึงเห็นการกู่ร้องของเฝิงซานกวงเป็นเพียงการขัดขืนครั้งสุดท้ายเท่านั้นแม้พวกเราจะรู้ดีว่า เฝิงซานกวงเป็นญาติกับเจ้าเมืองตานแต่เมื่อท่านเจ้าเมืองออกคำสั่งมาแล้ว พวกเขาก็ย่อมต้องปฏิบัติตามพวกเขาคุมตัวเฝิงซานกวงไปยังห้องลงทัณฑ์ พร้อมจับมัดไว้กับม้านั่งตัวหนึ่งผู้คุมสองคนยกไม้พลองขึ้น พร้อมฟาดลงที่สะโพกเฝิงซานกวงอย่างแรง“อ๊าก โอ๊ย โอ๊ย!”เดิมทีร่างกายก็เจ็บปวดอยู่แล้ว ยังมาถูกโบยซ้ำอีกเฝิงซานกวงเจ็บเสียจนเสียงร้องโหยหวนราวกับหมูโดนเชือดไม่นานก็โบยครบยี่สิบไม้ พร้อมกับสะโพกเฝินซานกวงซึ่งยับเยินไม่เป็นชิ้นดีเลือดไหลซึมออกมาจนเปื้อนเสื้อผ้าที่ขาดวิ่นเจี่ยนอันอันตามมายังห้องลงทัณฑ์ มองลอดหน้าต่างเห็นทุกอย่างอยู่ในสายตาและบัดนี้เฝิงซานกวงได้หมดสติไปแล้ว เสื้อผ้ายังเปื้อนด้วยเหงื่อเย็นที่โซมกายนางพอใจเป็นอย่างมากที่ผลออกมาเช่นนี้ จึงได้กล่าวต่อเจ้
เฝิงซานกวงถลึงตาใส่เจี่ยนอันอัน พลางกล่าวแก้ตัว “ท่านอารอง ข้าไม่เห็นว่าแร่หินจะมีปัญหาอันใด”“หากแร่เหล่านี้มีพิษจริง แล้วข้าจะอยู่รอดปลอดภัยมาได้อย่างไร?”คำกล่าวนี้ย่อมทำให้เจ้าเมืองตานเกิดความกังขาเช่นกัน จึงมองไปยังฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอัน รู้สึกว่าคำพูดของสองคนนี้ ดูจะไม่ชอบมาพากลนักเจี่ยนอันอันยิ้มหยันพลางกล่าว “ท่านย่อมจะปลอดภัยแน่นอน เพราะรู้แต่แรกแล้วว่าแร่หินมีพิษ จึงกินยาป้องกันไว้ก่อนล่วงหน้า”เฝินซานกวงแอบสะดุ้งในใจ แต่ยังไม่คิดยอมรับว่าแร่หินมีพิษจริงจึงได้กล่าวแก้ตัวอีกครั้ง “เจ้าอย่าได้กล่าวเหลวไหล ข้าเคยกินยาถอนพิษเมื่อไหร่กัน”นี่ล้วนเป็นสิ่งที่เจ้าคิดเองเออเองทั้งเพ หวังนำมาซ้ำเติมให้ข้ามีโทษหนักมากขึ้น”เจี่ยนอันอันพอดูออกว่า เจ้าเมืองตานเริ่มคล้อยตามคำพูดเฝิงซานกวงบ้างแล้วนางจึงกล่าวต่อเจ้าเมืองตานว่า “หากท่านเจ้าเมืองไม่เชื่อคำพูดของข้า ก็ให้ส่งคนไปตรวจสอบที่เหมืองแร่ได้ เพื่อดูว่าข้าพูดถูก หรือเฝิงซานกวงพูดถูกกันแน่”เจ้าเมืองตานจึงรีบเรียกทหารในจวนมา พร้อมสั่งให้ไปตรวจสอบที่เหมืองแร่ไม่นานทหารผู้นั้นก็ได้กลับมา พร้อมรายงานว่าคนงานที่อยู่ในเหมือง ล
ครั้นเจ้าเมืองตานได้ยินว่าฉู่จวินสิงมา หัวใจก็พลันหนักอึ้งเขาสาวเท้าออกไปจากคุกในทันที “รีบเชิญพวกเขาเข้ามา”องครักษ์ได้ยินเจ้าเมืองตานใช้คำว่าเชิญ ในใจก็คิดว่าฉู่จวินสิงจะต้องเป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่งเป็นแน่เขาไม่กล้าชักช้าจึงย้อนกลับไปโดยพลันเขากล่าวกับฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันอย่างนอบน้อม “ใต้เท้าของข้าเชิญพวกท่านเข้าไปข้างใน”ฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันสาวเท้าเข้าไปในจวน โดยมีองครักษ์นำทางไปยังโถงใหญ่คนทั้งสองมาถึงบริเวณนอกโถงใหญ่ก็เห็นว่าเจ้าเมืองตานรออยู่ข้างในแล้วเจ้าเมืองตานรีบออกมาต้อนรับ เขาประสานมือกล่าว “ทั้งสองท่านมาที่จวนข้าได้อย่างไร เหมืองนั่นเกิดเรื่องอันใดขึ้นอีกอย่างนั้นรึ?”“เจ้าเมืองตานกล่าวไม่ผิด เหมืองนั่นเกิดเรื่องขึ้นแล้วจริงๆ”คำพูดของเจี่ยนอันอันทำให้สองมือของเจ้าเมืองตานกำแน่นเขานึกแล้วเชียวว่าจะต้องเป็นเรื่องดีๆ ที่เฝิงซานกวงทำอีกแล้วเป็นแน่เจี่ยนอันอันบอกเรื่องที่แร่ในเหมืองมีพิษออกมาเจ้าเมืองตานได้ยินแล้วก็ยิ่งโมโหอย่างหนักเขามีหลานแบบนี้ได้อย่างไรกันนะ ถึงกับให้คนเหล่านั้นขุดแร่มีพิษเลยหรือนี่ถ้าไม่ใช่เพราะเฝิงซานกวงเป็นหลานของเขา เขาคงส
พวกลูกน้องต่างมองหน้ากัน ความงุนงงฉายเกลื่อนใบหน้าพวกเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเหตุใดตนเองจึงไม่ถูกพิษหากไม่ใช่เพราะเจี่ยนอันอันเพิ่งพูดออกมาว่าแร่ของที่นี่มีพิษ พวกเขาก็คงยังไม่รู้เรื่องนี้ด้วยซ้ำลูกน้องคนหนึ่งในจำนวนนั้นเอ่ยขึ้น “พวกข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ แต่ตอนแรกที่พวกข้ามาที่นี่เคยได้กินน้ำแกงปลาจี้ที่เจ้าเหมืองเฝิงทำ”“หรือจะเป็นเพราะน้ำแกงนั่น พวกข้าถึงได้ไม่ถูกพิษ?”ลูกน้องคนอื่นๆ ก็รีบร้อนพยักหน้าด้วยเช่นกัน“ใช่แล้ว วันแรกที่พวกข้ามาที่นี่ล้วนแต่ได้ดื่มน้ำแกงปลาจี้ไปหนึ่งถ้วย”“ข้าคิดออกแล้วเหมือนกัน ตอนที่ข้าซดน้ำแกงปลาจี้นั่นยังคิดอยู่เลยว่าเจ้าเหมืองเฝิงช่างใจกว้างนัก เพิ่งมาถึงก็ให้พวกข้าดื่มน้ำแกงปลาจี้ที่สดใหม่เช่นนี้ อาศัยน้ำแกงปลาจี้นี้ ข้าก็จะตั้งใจทำงานให้เขา”เจี่ยนอันอันมุ่นคิ้ว เมื่อครู่นางดมดูแล้ว พิษในแร่นั่นไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถถอนพิษได้ด้วยน้ำแกงปลาจี้ถ้วยเดียวเห็นทีเรื่องนี้คงต้องไปถามเฝิงซานกวงถึงจะรู้เรื่องในเมื่อแร่มีพิษ แต่เฝิงซานกวงและพวกลูกน้องล้วนแต่ปลอดภัยไม่ได้รับผลกระทบ แสดงว่าเขาจะต้องมีวิธีแก้พิษอยู่อย่างแน่นอนนา
เจี่ยนอันอันขมวดคิ้วมุ่น นางมองไปทางซ่งไหล “ท่านเล่า จำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใคร บ้านอยู่ที่ไหนด้วยเหมือนกันรึ?”ซ่งไหลส่ายหน้าเบาๆ “จำไม่ได้”เจี่ยนอันอันคว้าข้อมือซ่งไหลขึ้นมาจับชีพจรให้เขาในไม่ช้านางก็ได้ข้อสรุปคนเหล่านี้ทุกคนล้วนถูกพิษ ขณะที่พิษประเภทนี้จะทำให้คนที่ถูกพิษสูญเสียความทรงจำไปในชั่วพริบตาหลังจากที่นางปล่อยมือซ่งไหลก็สุ่มหยิบแร่ก้อนหนึ่งบนพื้นขึ้นมานางนำมาจ่อใต้จมูกดมดูก็ได้กลิ่นสกปรกจางๆ ที่แผ่ซ่านออกมาจากก้อนแร่ได้ในทันทีนางกล่าวกับฉู่จวินสิง “ถ้าข้าเดาไม่ผิด แร่ในเหมืองนี้ล้วนแต่มีพิษ”คำพูดของเจี่ยนอันอันทำให้ทุกคนบริเวณนั้นล้วนสัมผัสได้ถึงความหวาดกลัวจากก้นบึ้งหัวใจที่พวกเขาจำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใคร เป็นเพราะต้องพิษจากแร่พวกนี้อย่างนั้นหรือ?“พวกข้าควรทำอย่างไรดี ข้าไม่อยากตาย!”“ข้าก็ไม่อยากตายเหมือนกัน ข้าอยากไปจากที่นี่”“แม่นางได้โปรดปล่อยพวกข้าไปเถอะ ให้พวกข้าไปจากที่นี่เถอะนะ”คนงานเหมืองเหล่านั้นขอร้องเจี่ยนอันอันเสียงระงม หวังว่านางจะสามารถปล่อยพวกเขาไปซ่งไหลก็หวาดกลัวมากเช่นกัน เขาอยากไปจากที่นี่ ไม่อยากตายอยู่ในสถานที่แห่งนี้เจี่ยนอันอัน
ฉู่จวินสิงและซ่งไหลที่รออยู่ด้านนอกล้วนร้อนใจอย่างยิ่งโชคดีที่เจี่ยนอันอันออกมาอย่างรวดเร็ว ทั้งยังพาเด็กชายหนึ่งคนออกมาด้วยซ่งไหลรีบอุ้มเด็กชายออกมาข้างนอกเขากระซิบเรียกชื่อเด็กชายเบาๆ “หวายหมิง เจ้าฟื้นเร็วเข้า”เจี่ยนอันอันเห็นว่าซ่งไหลมีท่าทางเป็นกังวลอย่างมาก นางจึงบอกเสียงเบาว่า “เขาแค่สลบไปเท่านั้น ไม่ได้เป็นอันใดมาก”หลังจากที่นางพูดจบก็มุดเข้าไปในถ้ำอีกครั้งรอจนถึงตอนที่นางพาเด็กชายคนที่สองออกมาก็ถอดแว่นสายตากลางคืนออกแล้วนางกล่าวกับฉู่จวินสิงว่า “พวกเราออกไปจากที่นี่ก่อนค่อยคุยกัน”ฉู่จวินสิงพยักหน้าน้อยๆ แล้วอุ้มเด็กชายอีกคนขึ้นมาซ่งไหลอุ้มหวายหมิงตามเจี่ยนอันอันออกไปจากในเหมืองด้วยเช่นกันคนที่รออยู่ด้านนอกล้วนแต่ร้อนใจเป็นที่ยิ่งไม่รู้ว่าข้างในเป็นอย่างไรบ้างแล้วเมื่อพวกเขาเห็นพวกเจี่ยนอันอันออกมาก็พากันถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเจี่ยนอันอันให้พวกเขาวางเด็กชายทั้งสองลงบนพื้นที่ว่าง นางหยิบถุงเข็มเงินออกมาจากในมิติแล้วฝังเข็มให้เด็กชายสองคนนั้นผ่านไปไม่นาน ในที่สุดเด็กชายทั้งสองก็ค่อยๆ ฟื้นขึ้นมาซ่งไหลเห็นว่าน้องชายทั้งสองของตนเองฟื้นแล้วก็คุกเข่าล
แต่ไม่ว่าเขาออกแรงมากเท่าไรก็ไม่อาจผลักหินยักษ์ออกไปได้ก่อนหน้านี้ที่นี่ก็เคยเกิดการถล่มมาก่อน แต่ไม่ได้หนักหนาเท่าครั้งนี้หากยังไม่ช่วยคนข้างในออกมา เกรงว่าเด็กสองคนนั้นคงต้องจบชีวิตลงที่นี่จริงๆ แล้วเจี่ยนอันอันขมวดคิ้วมุ่น นางพลันก้าวออกมาบริเวณหน้าถ้ำแล้วออกแรงผลักหินยักษ์ก้อนนั้นแต่หินยักษ์หนักเกินไป นางผลักอยู่หลายทีแต่ก็ไม่สามารถทำให้หินยักษ์นั้นขยับเขยื้อนได้เลยฉู่จวินสิงก็รีบเดินเข้ามาหา เขาให้เจี่ยนอันอันถอยออกไปแล้วรวบรวมกำลังภายในฟาดฝ่ามือใส่หินยักษ์ก้อนนั้นอย่างหนักหน่วงครั้นฝ่ามือนั้นฟาดลงไป หินยักษ์ก้อนนั้นเพียงสั่นคลอนไม่กี่ที แต่ก็ไม่ได้ถูกกำลังภายในทะลวงไปได้ขณะที่ทุกคนไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดีนั่นเอง เจี่ยนอันอันพลันกวาดตามองคลังอาวุธในมิติครุ่นคิดว่าสามารถหยิบระเบิดออกมาจากในนั้นสักลูกได้หรือไม่โชคดีที่ตอนที่นางช่วยสองแม่ลูกสกุลเฉียวต่อกรกับเฝิงซานกวงก่อนหน้านี้ คลังอาวุธได้เลื่อนขั้นอย่างเงียบๆคำประกาศปรากฏขึ้นในมิติ : [ระดับคลังอาวุธ 50 สามารถหยิบอาวุธได้สองชนิด]เจี่ยนอันอันนึกยินดี นางรีบบอกให้ทุกคนหลบไปนอกเหมือง แม้แต่ฉู่จวินสิงก็ให้ออกไปจากตร
เจ้าเมืองตานประสานมือต่อเจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิง “เรื่องราวได้จบลงแล้ว ข้าน้อยคงต้องขอกลับจวนไปไต่สวนเรื่องนี้ต่อ ขอลาแต่เพียงเท่านี้”เจี่ยนอันอันประสานมือตอบเช่นกัน “ท่านค่อยๆ เดิน ไม่ส่งแล้ว อย่างไรคงต้องรบกวนท่านให้ความเป็นธรรมแก่เรื่องนี้”“ข้าน้อยทราบดี” เจ้าเมืองตานกล่าวพลางขึ้นรถม้าไปพร้อมกับถอนหายใจหนักหน่วงอีกครั้งเหตุใดเขาจึงมีหลานชายที่ชอบก่อเรื่องนี้เช่นนี้หนอ? ช่างไม่ยอมปล่อยให้เขาได้อยู่สบายบ้างเลยรอจนเจ้าเมืองตานจากไปแล้ว เจี่ยนอันอันจึงหันมามองเหล่าบริวารของเฝิงซานกวงอีกครั้งซึ่งทุกคนต่างก็รู้ว่า ยามนี้ในเหมืองได้เปลี่ยนเจ้าของใหม่แล้วพวกเขาจึงไม่กล้าทำส่งเดชอีก ได้แต่ก้มหน้าก้มตายืนนิ่งอยู่เจี่ยนอันอันกล่าวเสียงเย็นชา “พวกเจ้ามัวยืนเซ่อหาอันใดอีก ที่นี่ไม่ใช่ถิ่นของเฝิงซานกวงอีกแล้ว แต่ละคนจงรีบไสหัวไปให้พ้น”“หากวันหน้าข้าได้รู้ว่า พวกเจ้ากลับมาก่อเรื่องที่นี่อีก ข้าจะให้มีจุดจบเช่นเดียวกับเฝิงซานกวง”บรรดาลูกน้องเฝิงซานกวงเห็นว่าบัดนี้คงได้ตกงานเป็นแน่แท้ต่อไปจะรับเงินใต้โต๊ะคงไม่มี ยิ่งอย่าหมายว่าคิดลักขโมยแร่หินในเหมืองออกไปขายบ้างจึงต่างพากัน
แต่เรื่องนี้หากจะว่าไป ก็ล้วนเป็นความผิดของเฝิงซานกวงหากเขามิได้แอบใช้แรงงานเด็ก เจี่ยนอันอันก็ไม่อาจใช้เพียงหนึ่งร้อยตำลึง มาซื้อเหมืองแร่แห่งนี้ได้ไม่ทันรอให้เจ้าเมืองตานได้กล่าวตอบ เฝิงซานกวงกลับโมโหขึ้นก่อน “นังตัวดี อย่าถือว่าเคยเป็นอดีตชายาเยียนอ๋องมาก่อน ก็จะใช้เงินเพียงหนึ่งร้อยตำลึงมาซื้อเหมืองของข้าได้”“ขอบอกให้รู้ เหมืองแห่งนี้ข้าเป็นคนขุดขึ้นเอง จะไม่มีวันยอมขายให้เจ้าเด็ดขาด”เจี่ยนอันอันมองหน้าเฝิงซานกวงด้วยแววตาดูหมิ่น สีหน้าเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน“ฟังนะเฝิงซานกวง บัดนี้เจ้ากลายเป็นนักโทษแล้ว มีสิทธิ์อันใดมาเพ้อเจ้อไร้สาระกับข้าอีก”เฝิงซานกวงโกรธจนสุดจะทนไหว พลันกระอักโลหิตออกจากปากทันทีพร้อมพาเอาฟันหน้าสองซี่ที่ถูกต่อยร่วงเมื่อครู่นี้ออกมาด้วยเจ้าเมืองตานรู้ดีว่าไม่อาจสู้เจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงได้ อีกทั้งเรื่องนี้ก็เป็นความผิดของเฝิงซานกวงจริงว่าตามกฎหมายแล้ว เมื่อเฝิงซานกวงทำผิดเช่นนี้ เหมืองของเขาก็ควรจะถูกทางการยึดคืนดังนั้นเจี่ยนอันอันจึงได้มาพูดกับเขา ว่าจะขอซื้อเหมืองแห่งนี้ไว้เองอีกทั้งเฝิงซานกวงก็ไม่มีสิทธิ์ชอบธรรม ที่จะยับยั้งการซื้อขายของ