Share

บทที่ 57

Author: ซินต้งหรูสุ่ย
ฉู่จวินสิงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เจ้าลุกขึ้นเถิด บัดนี้ข้าไม่ใช่เยียนอ๋องอีกต่อไปแล้ว”

เซิ่งฟางมองฉู่จวินสิงด้วยความประหลาดใจ

เขาไม่อาจเข้าใจได้ว่าเยียนอ๋องผู้ไร้พ่าย ผู้เกรียงไกรบนสมรภูมิในครานั้น

เหตุใดบัดนี้กลับเต็มไปด้วยบาดแผลและเลือดท่วมกาย อีกทั้งยังต้องถูกหามบนเปลโดยเหล่าเจ้าหน้าที่ทางการ

“เยียนอ๋อง เกิดเหตุใดกับท่าน? เหตุใดท่านจึงมาปรากฏตัวที่นี่ได้?” เซิ่งฟางเอ่ยถามด้วยความฉงน

ฉู่จวินสิงถอนหายใจยาว ก่อนจะตอบว่า “พูดไปแล้วเรื่องยาวนัก เจ้าจงให้พวกเราเข้าไปพักในค่ายก่อนได้หรือไม่”

เมื่อฉู่จวินสิงกล่าวเช่นนั้น เซิ่งฟางจึงได้สติกลับมา

เขารีบหันไปสั่งพวกโจรให้เตรียมสุราอาหารชั้นดี

แม้ในใจพวกโจรจะสงสัย แต่ก็ไม่กล้าละเลย พากันวิ่งไปจัดเตรียมทุกอย่างโดยไม่รอช้า

เซิ่งฟางหันกลับมามองคนอื่นๆ ด้วยความสงสัย แล้วถามขึ้นว่า “คนเหล่านี้เป็นใครหรือ?”

ฉู่จวินสิงตอบแนะนำว่า “คนที่อยู่ตรงกลางนั้นคือครอบครัวและข้ารับใช้ของข้า ส่วนคนอื่นเป็นทหารรักษาพระองค์”

หานซื่อเมื่อเห็นว่าทั้งสองรู้จักกันดี จึงแนะนำตัวว่า “ข้าคือหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ นามว่าหานซื่อ”

เมื่อเซิ่งฟางได้ยินว่าพ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 58

    เจี่ยนอันอันก้าวเข้าไปในห้องอย่างมั่นใจ แล้วเดินตรงไปที่เตียง ก่อนจะจับข้อมือของเหวินอิงขึ้นมาตรวจชีพจรนางหยิบเข็มเงินออกมาจากห้วงมิติของตน เตรียมจะปักเข็มลงไปเมื่อพวกโจรเห็นเช่นนั้น สีหน้าก็พลันเปลี่ยนไปทันทีโจรคนหนึ่งรีบคว้าแขนของเจี่ยนอันอันไว้ด้วยความโกรธ “เจ้าจะทำอะไร คิดจะวางยาพิษรองหัวหน้าของเราอีกหรือ?”เจี่ยนอันอันตวัดสายตามองโจรผู้นั้นด้วยความเย็นชา แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด “หรือเจ้ามีวิธีแก้พิษนี้?”เพียงคำเดียว โจรผู้นั้นก็เงียบกริบไม่สามารถโต้เถียงได้เซิ่งฟางที่ยืนอยู่ข้างๆ โบกมือให้โจรหยุด แล้วส่งสัญญาณว่าอย่าทำอะไรบุ่มบ่ามโจรคนนั้นจึงจำใจปล่อยแขนของเจี่ยนอันอัน และถอยไปยืนเงียบๆเจี่ยนอันอันไม่สนใจโจรสองคนนั้นอีก นางปักเข็มเงินลงบนข้อมือของเหวินอิงอย่างมั่นคงนางฝังเข็มลงไปอย่างเบามือ ไม่นานนักเลือดสีดำก็เริ่มไหลออกจากข้อมือของเหวินอิงเมื่อทำความสะอาดแผลและถอนเข็มออก เจี่ยนอันอันก็หยิบยาถอนพิษออกมาและป้อนเข้าไปในปากของเหวินอิงหลังจากทำทุกอย่างเสร็จ นางหันไปบอกกับโจรทั้งสองว่า “อีกหนึ่งชั่วยาม นางจะฟื้น”พูดจบ นางก็ไม่สนใจพวกโจรอีก และเดินออกไปจากห

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 59

    เมืองอินเป่ยตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ทั้งยังประสบกับภัยแล้งเป็นเวลาหลายปี ทำให้ที่ดินในบริเวณนั้นแทบไม่สามารถปลูกพืชผลการเกษตรใดๆ ได้ชาวบ้านที่นั่นเดิมก็ดำรงชีวิตอย่างยากลำบากมากอยู่แล้วจนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ราชวงศ์สั่งสังหารหมู่ผู้บริสุทธิ์ในเมืองอินเป่ย เมืองทั้งเมืองแทบจะถูกทำลายจนเกือบกลายเป็นซากปรักหักพังโชคดีที่ในสมัยเซิ่งฟางยังเป็นเจ้าเมืองอินเป่ย เขาได้นำชาวบ้านขุดหลุมใต้ดินเพื่อเก็บเสบียงอาหารเมื่อเหตุการณ์สังหารหมู่เกิดขึ้น ชาวบ้านพาครอบครัวของตนเองหลบภัยในหลุมใต้ดิน จึงรอดพ้นจากเคราะห์ร้ายครานั้นมาได้อย่างหวุดหวิดเซิ่งฟางยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ ต่อให้ในตอนนี้เขาจะได้ปลิดชีพฮ่องเต้สุนัขผู้นั้นด้วยการเฉือนเป็นพันชิ้น ก็ไม่อาจดับความแค้นในใจของเขาได้ทุกคนต่างเงียบงันไป เจี่ยนอันอันกลับเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ว่า “ท่านหัวหน้าใหญ่ ในเมื่อท่านเคยเป็นเจ้าเมืองอินเป่ย เหตุใดถึงได้กลายมาเป็นหัวหน้าโจรที่นี่?”เซิ่งฟางเห็นว่าเจี่ยนอันอันเป็นคนเอ่ยถาม เขายังไม่ตอบ แต่หันไปมองฉู่จวินสิงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย“สตรีผู้นี้คือใครหรือ?”ฉู่จวินสิงยังไม่ทันได้เอ่ยตอบ เจี่ยนอัน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 60

    เมื่อฉู่จวินสิงได้ยินเรื่องราวเหล่านี้ คิ้วของเขาก็กระตุกขึ้นอย่างห้ามไม่ได้เหตุการณ์สังหารหมู่ในเมืองนั้นเคยสั่นสะเทือนทั้งแคว้นไท่ยวนชาวบ้านที่ไม่รู้ความจริงต่างพากันเฉลิมฉลองความสำเร็จในครั้งนั้นด้วยความยินดีมีเพียงเหล่าราชวงศ์เท่านั้นที่รู้ว่า การสังหารหมู่ในปีนั้นช่างโหดเหี้ยมและนองเลือดเพียงใดขณะที่ทุกคนตกอยู่ในความเงียบงัน พวกโจรจากห้องครัวก็นำอาหารและสุรามาจัดวางบนโต๊ะยาวเซิ่งฟางเคยชินกับการเรียกรองหัวหน้าเหวินอิงมาร่วมรับประทานอาหาร แต่ครั้นจะเอ่ยปาก ก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่านางยังคงหมดสติอยู่เขาจึงหันมามองเจี่ยนอันอันด้วยท่าทีลำบากใจ “พระชายาเยียนอ๋อง ข้ามีเรื่องหนึ่งอยากขอร้อง หวังว่าท่านจะเมตตาช่วยเหลือ”เจี่ยนอันอันรู้สึกแปลกใจไม่น้อย นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนเรียกนางว่า ‘พระชายาเยียนอ๋อง’ นางรู้สึกไม่ค่อยสบายใจนัก แต่ก็หันไปมองเซิ่งฟางและพูดอย่างสุภาพว่า “ท่านเจ้าเมืองไม่ต้องมากพิธี หากมีเรื่องใดต้องการขอร้อง ท่านบอกข้ามาเถิด”เมื่อได้ยินเจี่ยนอันอันเรียกเขาว่า ‘เจ้าเมือง’ เซิ่งฟางก็อารมณ์ดีขึ้นอย่างมากเขาตบโต๊ะแล้วหัวเราะเสียงดัง “คำว่าเจ้าเมืองนี้ ข้าไม่ได้ยินมา

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 61

    “นังเด็กนี่ ดูเหมือนพอจะยังมีความสามารถอยู่บ้าง ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าจะเล่นกับเจ้าดูสักสองสามรอบ”เหวินอิงพูดออกมา พร้อมดึงมือออกมาอย่างแรงนางกระโดดลงมาจากเตียง เหวี่ยงมือต่อยออกไปยังเจี่ยนอันอันเจี่ยนอันอันถอยหลังไปสองสามก้าว หลบการโจมตีหมัดนี้เมื่อเห็นว่าเจี่ยนอันอันหลบได้ เหวินอิงก็โจมตีมายังเจี่ยนอันอันอีกครั้งในตอนนี้มือของนางไม่มีอาวุธใด ทำได้เพียงแค่ใช้หมัดมือต่อสู้ด้วยเจี่ยนอันอันไม่ได้คิดจะต่อสู้กับเหวินอิงนางกระโดดขึ้นไปบนเตียง มองไปยังเหวินอิงด้วยสายตาดูถูก นางพูดโน้มน้าวออกมาอย่างใจดี“ข้าแนะนำเจ้าว่าทางที่ดีอย่าได้ใช้กำลังกันมั่วซั่ว หญิงสาวอย่างเรา หากว่ามาต่อยตีฆ่ากันคงจะไม่น่ามองนัก”คำพูดของเจี่ยนอันอัน ทำให้เหวินอิงยิ่งกรุ่นโกรธมากยิ่งขึ้น“หยุดพูดจาไร้สาระได้แล้ว เจ้าลองกินหมัดข้าก่อน” เหวินอิงพูดออกมา พร้อมทั้งต่อยหมัดไปที่ขาเจี่ยนอันอันเจี่ยนอันอันถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะยกขาขึ้นเหยียบลงไปบนมือของเหวินอิงเหวินอิงไม่คิดเลยว่า การกระทำของเจี่ยนอันอันดูจะรวดเร็วกว่านางเสียอีกหมัดนี้ของนางไม่เพียงแต่เหวี่ยงไปถึงอีกฝ่ายเท่านั้น แต่กลับถูกอีกฝ่ายเห

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 62

    ในที่สุดเจี่ยนอันอันก็หัวเราะออกมาจนพอใจแล้ว นางหยิบกระจกทองแดงออกมาจากห้วงมิติ ก่อนจะส่งให้กับเหวินอิงในตอนที่เหวินอิงมองไปยังกระจกทองแดงนั้น ดวงตาก็เบิกกว้างขึ้นทันทีกรอบกระจกทองแดงนี้ประดับล้อมรอบไปด้วยไพลิน เพียงแค่มองก็รู้ว่ามูลค่าไม่อาจประเมินได้บนกายสาวน้อยคนนี้ กลับหลบซ่อนสมบัติล้ำค่าเช่นนี้เอาไว้เหวินอิงหยิบกระจกทองแดงไป ก่อนจะชั่งน้ำหนักในมือ ดูเหมือนจะหนักไม่เบาเลยนางหันกายกลับไป พูดออกมาด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ “พวกเจ้าทำอะไรกันแน่? เสื้อผ้าของพวกเจ้าดูมีมูลค่า หรือว่าพวกเจ้าล้วนเป็นพ่อค้ากัน?”เจี่ยนอันอันไม่ได้ตอบคำเหวินอิง แต่พูดเร่งเร้าออกมาต่อ“รีบจัดการทรงผมเข้า ท่านเจ้าเมืองยังรอพวกเรากันอยู่ในห้องโถง”เมื่อได้ยินเจี่ยนอันอันเรียกเจ้าเมืองออกมาทุกคำ เหวินอิงก็ขมวดคิ้วออกมานางรู้ว่าท่านเจ้าเมืองที่เจี่ยนอันอันเรียกนั้นก็คือเซิ่งฟางเพียงแต่เซิ่งฟางบอกความลับนี้กับนางเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นภายในฐานที่มั่นมีสามร้อยกว่าคน นอกจากนางแล้ว ก็ไม่มีผู้ใดรู้ความลับนี้ทว่าสาวน้อยตรงหน้านี้ กลับเรียกเซิ่งฟางว่าเจ้าเมืองทุกคำตอนนี้พวกเขามีความพันธ์ใด

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 63

    ฮูหยินใหญ่ที่นั่งอยู่ข้างกายเจี่ยนอันอัน ก็รีบตบไปยังแผ่นหลังของเจี่ยนอันอัน เพื่อช่วยให้นางหายใจได้สะดวกมากยิ่งขึ้นฉู่จวินสิงกลับขมวดคิ้วออกมา ก่อนจะพูดกับเจี่ยนอันอันเสียงเบา “เหล้านี้แรงมาก อย่าได้ดื่มอีก”เมื่อกระแอมไปชั่วครู่หนึ่ง ในที่สุดเจี่ยนอันอันถึงได้หยุดลงนางเงยหน้าขึ้นไปมองยังเหวินอิง ก็พบว่านางกำลังมองมายังตนเองด้วยรอยยิ้ม“น้องสาวช่างดื่มเหล้าได้เก่งจริงๆ ข้าขอดื่มให้เจ้าอีกชามหนึ่ง!”เหวินอิงพูดออกมา ก่อนจะรินเหล้าให้ตนเองอีกชามหนึ่ง และดื่มลงไปในไม่กี่อึดใจในชามตรงหน้าของเจี่ยนอันอันเองก็ถูกโจรภูเขารินให้จนเต็มชามใหญ่เหวินอิงยิ้มแล้วพูดกับเจี่ยนอันอัน “เจ้าดูข้าดื่มเหล้าไปจนหมดแล้ว น้องสาวเองก็ควรจะดื่มเหล้าในชามนั้นให้หมดเช่นกันไม่ใช่หรือ?”เจี่ยนอันอันในเวลานี้ บนใบหน้าเล็กมีริ้วแดงๆ ออกมาสองกลุ่มใหญ่แล้วนางรู้สึกได้ว่าศีรษะเริ่มวิงเวียน ก่อนจะรีบส่ายหัวอย่างเร็ว เพื่อที่จะให้ตนเองมีสติขึ้นมาบ้างเมื่อเห็นว่าเหวินอิงจับจ้องยังตนเองอยู่ตลอดเวลา หากว่านางไม่ยอมดื่มเหล้าถ้วยนี้ เกรงว่าคงจะทำให้อีกฝ่ายขบขันเอาได้เจี่ยนอันอันหยิบชามเหล้าตรงหน้าขึ้นมา และก

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 64

    เหวินอิงประคองเจี่ยนอันอัน มายังที่ห่างไกลจากค่ายที่นั่นมีเรือนมุงจากตั้งตระหง่านอยู่ ดูเหมือนว่าจะเป็นห้องน้ำเจี่ยนอันอันไม่ได้ให้เหวินอิงตามเข้ามาด้วยนางเดินเข้าไป รีบเปิดยาแก้เมาค้างแล้วดื่มเข้าคำโตหลังจากที่ดื่มยาแก้เมาค้างแล้ว ไม่นานนัก นางก็เหมือนว่าจะสร่างเมาขึ้นมานางออกมาจากในห้องน้ำ ก็พบว่าเหวินอิงยืนอยู่สถานที่ไกลออกจากห้องน้ำไปเจี่ยนอันอันเดินก้าวใหญ่ออกมาเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า เดิมทีเหวินอิงที่ก้มหน้าลง ก็พบเจี่ยนอันอันเดินตรงมาทางนางนางมองเห็นท่าทีของเจี่ยนอันอันที่เดินมา ก็ไม่โซเซเหมือนกับก่อนหน้านั้นมุมปากของเหวินอิงยกโค้งงดงามขึ้น“ดูเหมือนว่าเจ้าตอนนี้คงจะสร่างเมาแล้ว ไป พวกเราสองคนกลับไปดื่มกันต่ออีกสักเล็กน้อยเถอะ”เจี่ยนอันอันเมื่อได้ยินว่ายังจะดื่มอีก นางก็รีบโบกไม้โบกมือพูดออกมา “ไม่ดื่มแล้วๆ เหล้าของพวกเจ้าแรงเกินไป ข้าไม่ไหวจริงๆ”เหวินอิงเมื่อได้ยินคำพูดนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าก็ยิ่งกว้างขึ้นเรื่อยๆเหล้าในค่ายนั้นแรงจริงๆ นั่นไม่ใช่ของที่หญิงสาวทั่วไปจะดื่มได้หากไม่ใช่ว่านางเกิดมาแล้วดื่มเหล้าพันแก้วไม่เมาแล้ว เกรงว่านางก็คงจะทนเหล้ารุนแรงเช

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 65

    เซิ่งฟางเมื่อเห็นว่าเหวินอิงกลับมา เขาก็เอื้อมมือออกไปคว้ามือของเหวินอิงเอาไว้เหวินอิงมองไปยังเซิ่งฟางด้วยความสงสัย นางกำลังจะดึงมือกลับมา กลับถูกอีกฝ่ายกุมเอาไว้แน่นเซิ่งฟางมองไปยังเหวินอิงด้วยสายตาลึกซึ้ง แล้วก็มีท่าทีลังเลที่จะพูดออกมาเหวินอิงเกลียดท่าทีเช่นนี้ของเซิ่งฟางมากที่สุด นางรีบพูดออกมา “รีบพูดมาว่าตกลงแล้วมันเกิดอะไรขึ้น หากว่าไม่พูดออกมา ข้าก็จะไม่อยู่กับท่านแล้ว”เซิ่งฟางเมื่อได้ยินคำนี้แล้ว ก็รีบร้อนพูดออกมา “เหวินอิง หากว่าเจ้าได้ยินคำพูดของข้าหลังจากนี้แล้ว ห้ามโมโหเป็นอันขาดนะ”เมื่อเหวินอิงได้ยินคำนี้เข้า ก็ยิ่งร้อนรนเข้าไปอีกนางดึงมือออกมา แล้วจ้องเขม็งไปยังเซิ่งฟาง“ท่านมีอะไรก็รีบพูดออกมา ข้ารำคาญผู้ชายตัวใหญ่ที่พูดจาอ้ำๆ อึ้งๆ มากที่สุด ช่างน่าหงุดหงิดจริงๆ”เซิ่งฟางมองเห็นว่าในมือของตนเองว่างเปล่า ก็ถอนหายใจออกมาเงียบๆท้ายที่สุดแล้วเขาก็พูดความคิดในใจออกมา“พวกเราสองคนอาจจะต้องแยกจากกันระยะหนึ่ง!”เหวินอิงเมื่อได้ยินคำพูดนี้ ทันใดนั้นก็โกรธขึ้นมานางผุดลุกยืนขึ้นมาทันทีนางคว้าคอของเซิ่งฟางขึ้นมาโดยไม่สนใจคนอื่นๆ ที่อยู่ด้วย“เซิ่งฟาง ท่านพูด

Latest chapter

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 829

    “ข้าเชื่อใจพี่สาวเจ้าเหมือง ท่านบอกว่ามันจะตาย ก็ต้องตายแน่”หลี่หวายชิงกล่าวพลาง ซับน้ำตาที่คลอเบ้าอีกคำรบหนึ่งขณะที่เขายกมือขึ้นนั้น ได้เผยให้เห็นปานเล็กๆ ที่ข้อมือจุดหนึ่งก่อนหน้านี้เพราะมีแขนเสื้อปกปิดไว้ ฉู่จวินสิงจึงไม่ทันสังเกตเห็นปานในจุดนี้เขารีบคว้าข้อมือหลี่หวายชิงเข้าให้ เปิดแขนเสื้อแล้วจ้องมองปานนั้นอย่างเพ่งพินิจ“พี่ชายเจ้าเหมือง ท่านทำอะไรกัน?”หลี่หวายชิงมองหน้าฉู่จวินสิงด้วยความงุนงง ไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายจะพลิกดูข้อมือเขาเพื่อหวังสิ่งใด ฉู่จวินสิงวางมือของหลี่หวายชิงลง พลางถามเสียงเบา “ข้าขอถามเจ้า รอยแดงที่ข้อมือนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?”หลี่หวายชิงมองดูข้อมือของตน “มันเป็นปานมาแต่กำเนิด ข้ากับน้องชายต่างมีทั้งคู่ เพียงแต่ของข้าอยู่ที่ข้อมือซ้าย เขาอยู่ข้อมือขวา”ฉู่จวินสิงได้ยินดังนี้ พลางมองหน้าหลี่หวายชิงด้วยความเคร่งขรึมเจี่ยนอันอันมองหน้าทั้งคู่ด้วยความแปลกใจ ไม่เข้าใจว่าเหตุใดฉู่จวินสิงจึงมีพฤติกรรมเช่นนี้“ทำไมหรือ มีสิ่งใดผิดปกติหรืออย่างไร?” เจี่ยนอันอันถามด้วยความข้องใจฉู่จวินสิงซักถามหลี่หวายชิงต่ออีก “พ่อเจ้าชื่อหลี่จื่อสือ เคยเป็นแม่ทัพชายแด

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 828

    นางพยักหน้า “ข้ามีวิธีถอนพิษแล้วจริงๆ พวกเจ้าพักผ่อนอยู่นี่ก่อน ข้าจะไปปรุงยาถอนพิษให้”เจี่ยนอันอันกล่าวจบ จึงเดินออกจากเพิงคนงานเหล่าคนงานต่างรออยู่ในเพิงอย่างว่านอนสอนง่าย พวกเขายืนที่หน้าประตู มองตามแผ่นหลังเจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิงไปหลี่หวายชิงซาบซึ้งในบุญคุณช่วยชีวิตของเจี่ยนอันอัน จึงกล่าวต่อหลี่หวายหมิง “เจ้ารออยู่นี่ก่อน ข้าจะไปช่วยพวกเขา”“ข้าขอไปด้วย” หลี่หวายหมิงก็อยากไปช่วยเหลือเช่นกัน แต่ถูกหลี่หวายชิงห้ามไว้“ข้าคนเดียวก็เพียงพอแล้ว เจ้ากับพี่ซ่งรออยู่นี่ อย่าได้ไปไหน”หลี่หวายชิงกล่าวจบ จึงเดินออกจากเพิงไปฉู่จวินสิงได้ยินเสียงฝีเท้า หันหลังไปจึงเห็นหลี่หวายชิงเดินตามพวกเขาออกมา“หลี่หวายชิงที่เจ้าได้ช่วยไว้ ตามเรามาด้วย”ฉู่จวินสิงเอ่ยปากเตือน เจี่ยนอันอันหันไปมองแวบหนึ่ง ส่วนมือยังคงสาละวนอยู่กับการทำงานหลี่หวายชิงมาได้จังหวะเหมาะ ในเมื่อเขาไม่ได้สูญเสียความทรงจำเพราะถูกพิษดังเช่นคนงานอื่น เจี่ยนอันอันจึงอยากถามเขาว่า เหตุใดเขากับหลี่หวายหมิงจึงไม่ถูกยาพิษทั้งคู่เจี่ยนอันอันนำหม้อต้มยาและสมุนไพรเพื่อการถอนพิษออกมา พร้อมนำกิ่งไม้ที่เมื่อครู่เก็บมา ก่อเป็น

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 827

    และไม่นานเขาก็รู้สึกถึงความผิดปกติ ร่างกายเริ่มมีอาการสะบัดร้อนสะบัดหนาว กระดูกและข้อต่อค่อยทวีความเจ็บปวดรุนแรงขึ้นเสียงร้องของเขาดังยิ่งกว่าเมื่อครู่หลายเท่าตัว แต่หัวหน้าผู้คุมและลูกน้องต่างไม่เห็นยาพิษที่เจี่ยนอันอันโยนออกไป จึงเห็นการกู่ร้องของเฝิงซานกวงเป็นเพียงการขัดขืนครั้งสุดท้ายเท่านั้นแม้พวกเราจะรู้ดีว่า เฝิงซานกวงเป็นญาติกับเจ้าเมืองตานแต่เมื่อท่านเจ้าเมืองออกคำสั่งมาแล้ว พวกเขาก็ย่อมต้องปฏิบัติตามพวกเขาคุมตัวเฝิงซานกวงไปยังห้องลงทัณฑ์ พร้อมจับมัดไว้กับม้านั่งตัวหนึ่งผู้คุมสองคนยกไม้พลองขึ้น พร้อมฟาดลงที่สะโพกเฝิงซานกวงอย่างแรง“อ๊าก โอ๊ย โอ๊ย!”เดิมทีร่างกายก็เจ็บปวดอยู่แล้ว ยังมาถูกโบยซ้ำอีกเฝิงซานกวงเจ็บเสียจนเสียงร้องโหยหวนราวกับหมูโดนเชือดไม่นานก็โบยครบยี่สิบไม้ พร้อมกับสะโพกเฝินซานกวงซึ่งยับเยินไม่เป็นชิ้นดีเลือดไหลซึมออกมาจนเปื้อนเสื้อผ้าที่ขาดวิ่นเจี่ยนอันอันตามมายังห้องลงทัณฑ์ มองลอดหน้าต่างเห็นทุกอย่างอยู่ในสายตาและบัดนี้เฝิงซานกวงได้หมดสติไปแล้ว เสื้อผ้ายังเปื้อนด้วยเหงื่อเย็นที่โซมกายนางพอใจเป็นอย่างมากที่ผลออกมาเช่นนี้ จึงได้กล่าวต่อเจ้

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 826

    เฝิงซานกวงถลึงตาใส่เจี่ยนอันอัน พลางกล่าวแก้ตัว “ท่านอารอง ข้าไม่เห็นว่าแร่หินจะมีปัญหาอันใด”“หากแร่เหล่านี้มีพิษจริง แล้วข้าจะอยู่รอดปลอดภัยมาได้อย่างไร?”คำกล่าวนี้ย่อมทำให้เจ้าเมืองตานเกิดความกังขาเช่นกัน จึงมองไปยังฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอัน รู้สึกว่าคำพูดของสองคนนี้ ดูจะไม่ชอบมาพากลนักเจี่ยนอันอันยิ้มหยันพลางกล่าว “ท่านย่อมจะปลอดภัยแน่นอน เพราะรู้แต่แรกแล้วว่าแร่หินมีพิษ จึงกินยาป้องกันไว้ก่อนล่วงหน้า”เฝินซานกวงแอบสะดุ้งในใจ แต่ยังไม่คิดยอมรับว่าแร่หินมีพิษจริงจึงได้กล่าวแก้ตัวอีกครั้ง “เจ้าอย่าได้กล่าวเหลวไหล ข้าเคยกินยาถอนพิษเมื่อไหร่กัน”นี่ล้วนเป็นสิ่งที่เจ้าคิดเองเออเองทั้งเพ หวังนำมาซ้ำเติมให้ข้ามีโทษหนักมากขึ้น”เจี่ยนอันอันพอดูออกว่า เจ้าเมืองตานเริ่มคล้อยตามคำพูดเฝิงซานกวงบ้างแล้วนางจึงกล่าวต่อเจ้าเมืองตานว่า “หากท่านเจ้าเมืองไม่เชื่อคำพูดของข้า ก็ให้ส่งคนไปตรวจสอบที่เหมืองแร่ได้ เพื่อดูว่าข้าพูดถูก หรือเฝิงซานกวงพูดถูกกันแน่”เจ้าเมืองตานจึงรีบเรียกทหารในจวนมา พร้อมสั่งให้ไปตรวจสอบที่เหมืองแร่ไม่นานทหารผู้นั้นก็ได้กลับมา พร้อมรายงานว่าคนงานที่อยู่ในเหมือง ล

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 825

    ครั้นเจ้าเมืองตานได้ยินว่าฉู่จวินสิงมา หัวใจก็พลันหนักอึ้งเขาสาวเท้าออกไปจากคุกในทันที “รีบเชิญพวกเขาเข้ามา”องครักษ์ได้ยินเจ้าเมืองตานใช้คำว่าเชิญ ในใจก็คิดว่าฉู่จวินสิงจะต้องเป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่งเป็นแน่เขาไม่กล้าชักช้าจึงย้อนกลับไปโดยพลันเขากล่าวกับฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันอย่างนอบน้อม “ใต้เท้าของข้าเชิญพวกท่านเข้าไปข้างใน”ฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันสาวเท้าเข้าไปในจวน โดยมีองครักษ์นำทางไปยังโถงใหญ่คนทั้งสองมาถึงบริเวณนอกโถงใหญ่ก็เห็นว่าเจ้าเมืองตานรออยู่ข้างในแล้วเจ้าเมืองตานรีบออกมาต้อนรับ เขาประสานมือกล่าว “ทั้งสองท่านมาที่จวนข้าได้อย่างไร เหมืองนั่นเกิดเรื่องอันใดขึ้นอีกอย่างนั้นรึ?”“เจ้าเมืองตานกล่าวไม่ผิด เหมืองนั่นเกิดเรื่องขึ้นแล้วจริงๆ”คำพูดของเจี่ยนอันอันทำให้สองมือของเจ้าเมืองตานกำแน่นเขานึกแล้วเชียวว่าจะต้องเป็นเรื่องดีๆ ที่เฝิงซานกวงทำอีกแล้วเป็นแน่เจี่ยนอันอันบอกเรื่องที่แร่ในเหมืองมีพิษออกมาเจ้าเมืองตานได้ยินแล้วก็ยิ่งโมโหอย่างหนักเขามีหลานแบบนี้ได้อย่างไรกันนะ ถึงกับให้คนเหล่านั้นขุดแร่มีพิษเลยหรือนี่ถ้าไม่ใช่เพราะเฝิงซานกวงเป็นหลานของเขา เขาคงส

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 824

    พวกลูกน้องต่างมองหน้ากัน ความงุนงงฉายเกลื่อนใบหน้าพวกเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเหตุใดตนเองจึงไม่ถูกพิษหากไม่ใช่เพราะเจี่ยนอันอันเพิ่งพูดออกมาว่าแร่ของที่นี่มีพิษ พวกเขาก็คงยังไม่รู้เรื่องนี้ด้วยซ้ำลูกน้องคนหนึ่งในจำนวนนั้นเอ่ยขึ้น “พวกข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ แต่ตอนแรกที่พวกข้ามาที่นี่เคยได้กินน้ำแกงปลาจี้ที่เจ้าเหมืองเฝิงทำ”“หรือจะเป็นเพราะน้ำแกงนั่น พวกข้าถึงได้ไม่ถูกพิษ?”ลูกน้องคนอื่นๆ ก็รีบร้อนพยักหน้าด้วยเช่นกัน“ใช่แล้ว วันแรกที่พวกข้ามาที่นี่ล้วนแต่ได้ดื่มน้ำแกงปลาจี้ไปหนึ่งถ้วย”“ข้าคิดออกแล้วเหมือนกัน ตอนที่ข้าซดน้ำแกงปลาจี้นั่นยังคิดอยู่เลยว่าเจ้าเหมืองเฝิงช่างใจกว้างนัก เพิ่งมาถึงก็ให้พวกข้าดื่มน้ำแกงปลาจี้ที่สดใหม่เช่นนี้ อาศัยน้ำแกงปลาจี้นี้ ข้าก็จะตั้งใจทำงานให้เขา”เจี่ยนอันอันมุ่นคิ้ว เมื่อครู่นางดมดูแล้ว พิษในแร่นั่นไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถถอนพิษได้ด้วยน้ำแกงปลาจี้ถ้วยเดียวเห็นทีเรื่องนี้คงต้องไปถามเฝิงซานกวงถึงจะรู้เรื่องในเมื่อแร่มีพิษ แต่เฝิงซานกวงและพวกลูกน้องล้วนแต่ปลอดภัยไม่ได้รับผลกระทบ แสดงว่าเขาจะต้องมีวิธีแก้พิษอยู่อย่างแน่นอนนา

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 823

    เจี่ยนอันอันขมวดคิ้วมุ่น นางมองไปทางซ่งไหล “ท่านเล่า จำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใคร บ้านอยู่ที่ไหนด้วยเหมือนกันรึ?”ซ่งไหลส่ายหน้าเบาๆ “จำไม่ได้”เจี่ยนอันอันคว้าข้อมือซ่งไหลขึ้นมาจับชีพจรให้เขาในไม่ช้านางก็ได้ข้อสรุปคนเหล่านี้ทุกคนล้วนถูกพิษ ขณะที่พิษประเภทนี้จะทำให้คนที่ถูกพิษสูญเสียความทรงจำไปในชั่วพริบตาหลังจากที่นางปล่อยมือซ่งไหลก็สุ่มหยิบแร่ก้อนหนึ่งบนพื้นขึ้นมานางนำมาจ่อใต้จมูกดมดูก็ได้กลิ่นสกปรกจางๆ ที่แผ่ซ่านออกมาจากก้อนแร่ได้ในทันทีนางกล่าวกับฉู่จวินสิง “ถ้าข้าเดาไม่ผิด แร่ในเหมืองนี้ล้วนแต่มีพิษ”คำพูดของเจี่ยนอันอันทำให้ทุกคนบริเวณนั้นล้วนสัมผัสได้ถึงความหวาดกลัวจากก้นบึ้งหัวใจที่พวกเขาจำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใคร เป็นเพราะต้องพิษจากแร่พวกนี้อย่างนั้นหรือ?“พวกข้าควรทำอย่างไรดี ข้าไม่อยากตาย!”“ข้าก็ไม่อยากตายเหมือนกัน ข้าอยากไปจากที่นี่”“แม่นางได้โปรดปล่อยพวกข้าไปเถอะ ให้พวกข้าไปจากที่นี่เถอะนะ”คนงานเหมืองเหล่านั้นขอร้องเจี่ยนอันอันเสียงระงม หวังว่านางจะสามารถปล่อยพวกเขาไปซ่งไหลก็หวาดกลัวมากเช่นกัน เขาอยากไปจากที่นี่ ไม่อยากตายอยู่ในสถานที่แห่งนี้เจี่ยนอันอัน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 822

    ฉู่จวินสิงและซ่งไหลที่รออยู่ด้านนอกล้วนร้อนใจอย่างยิ่งโชคดีที่เจี่ยนอันอันออกมาอย่างรวดเร็ว ทั้งยังพาเด็กชายหนึ่งคนออกมาด้วยซ่งไหลรีบอุ้มเด็กชายออกมาข้างนอกเขากระซิบเรียกชื่อเด็กชายเบาๆ “หวายหมิง เจ้าฟื้นเร็วเข้า”เจี่ยนอันอันเห็นว่าซ่งไหลมีท่าทางเป็นกังวลอย่างมาก นางจึงบอกเสียงเบาว่า “เขาแค่สลบไปเท่านั้น ไม่ได้เป็นอันใดมาก”หลังจากที่นางพูดจบก็มุดเข้าไปในถ้ำอีกครั้งรอจนถึงตอนที่นางพาเด็กชายคนที่สองออกมาก็ถอดแว่นสายตากลางคืนออกแล้วนางกล่าวกับฉู่จวินสิงว่า “พวกเราออกไปจากที่นี่ก่อนค่อยคุยกัน”ฉู่จวินสิงพยักหน้าน้อยๆ แล้วอุ้มเด็กชายอีกคนขึ้นมาซ่งไหลอุ้มหวายหมิงตามเจี่ยนอันอันออกไปจากในเหมืองด้วยเช่นกันคนที่รออยู่ด้านนอกล้วนแต่ร้อนใจเป็นที่ยิ่งไม่รู้ว่าข้างในเป็นอย่างไรบ้างแล้วเมื่อพวกเขาเห็นพวกเจี่ยนอันอันออกมาก็พากันถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเจี่ยนอันอันให้พวกเขาวางเด็กชายทั้งสองลงบนพื้นที่ว่าง นางหยิบถุงเข็มเงินออกมาจากในมิติแล้วฝังเข็มให้เด็กชายสองคนนั้นผ่านไปไม่นาน ในที่สุดเด็กชายทั้งสองก็ค่อยๆ ฟื้นขึ้นมาซ่งไหลเห็นว่าน้องชายทั้งสองของตนเองฟื้นแล้วก็คุกเข่าล

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 821

    แต่ไม่ว่าเขาออกแรงมากเท่าไรก็ไม่อาจผลักหินยักษ์ออกไปได้ก่อนหน้านี้ที่นี่ก็เคยเกิดการถล่มมาก่อน แต่ไม่ได้หนักหนาเท่าครั้งนี้หากยังไม่ช่วยคนข้างในออกมา เกรงว่าเด็กสองคนนั้นคงต้องจบชีวิตลงที่นี่จริงๆ แล้วเจี่ยนอันอันขมวดคิ้วมุ่น นางพลันก้าวออกมาบริเวณหน้าถ้ำแล้วออกแรงผลักหินยักษ์ก้อนนั้นแต่หินยักษ์หนักเกินไป นางผลักอยู่หลายทีแต่ก็ไม่สามารถทำให้หินยักษ์นั้นขยับเขยื้อนได้เลยฉู่จวินสิงก็รีบเดินเข้ามาหา เขาให้เจี่ยนอันอันถอยออกไปแล้วรวบรวมกำลังภายในฟาดฝ่ามือใส่หินยักษ์ก้อนนั้นอย่างหนักหน่วงครั้นฝ่ามือนั้นฟาดลงไป หินยักษ์ก้อนนั้นเพียงสั่นคลอนไม่กี่ที แต่ก็ไม่ได้ถูกกำลังภายในทะลวงไปได้ขณะที่ทุกคนไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดีนั่นเอง เจี่ยนอันอันพลันกวาดตามองคลังอาวุธในมิติครุ่นคิดว่าสามารถหยิบระเบิดออกมาจากในนั้นสักลูกได้หรือไม่โชคดีที่ตอนที่นางช่วยสองแม่ลูกสกุลเฉียวต่อกรกับเฝิงซานกวงก่อนหน้านี้ คลังอาวุธได้เลื่อนขั้นอย่างเงียบๆคำประกาศปรากฏขึ้นในมิติ : [ระดับคลังอาวุธ 50 สามารถหยิบอาวุธได้สองชนิด]เจี่ยนอันอันนึกยินดี นางรีบบอกให้ทุกคนหลบไปนอกเหมือง แม้แต่ฉู่จวินสิงก็ให้ออกไปจากตร

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status