Share

2.ความรู้สึกที่เกินเลย

last update Terakhir Diperbarui: 2024-12-16 12:04:42

อาเหยาวางถ้วยน้ำชาเอาไปเบื้องหน้าของหญิงวัยกลางคน แม่สื่อผู้นี้มาที่โรงเตี๊ยมหลายรอบมากทีเดียว เรื่องนั้นเขาพอที่จะทำความเข้าใจได้ เพราะเถ้าแก่เนี้ยนั้น..งดงามมากจริงๆ

คราแรกที่พบกัน กว่าเขาจะควานหาสติของตัวเองพบเจอก็ปาเข้าไปพักใหญ่ ความงดงามที่มิได้มีอยู่บนใบหน้าของมนุษย์..

ความงดงามของเทพจิ้งจอก

"คราวนี้เป็นคุณชายตระกูลหยวนเจ้าค่ะ เป็นบัณฑิตที่พึ่งจบการศึกษามาอนาคตดีเพราะกำลังจะเข้าสอบเป็นขุนนางในราชสำนัก ใบหน้านั้นดูหล่อเหลาเข้าที แถมบิดามารดายังไม่มีกฎระเบียบมากมาย ทั้งสองท่านยินดีรับเถ้าแก่เนี้ยไปเป็นลูกสะใภ้เจ้าค่ะ"

ผมยาวสลวยราวกับเส้นไหมนั่นสลายลงมาพร้อมกับใบหน้างดงามที่กำลังเปิดกระดาษวาดภาพบุรุษพวกนั้นดู 

เรื่องครอบครัวหรือว่าเรื่องการเงินเรื่องนั้นเธอมิได้สนใจทั้งสิ้น แค่ดูว่าบุรุษผู้นั้นงดงามหรือว่า..หล่อเหลารึเปล่าก็เท่านั้น

คนที่จะนอนด้วย...ก็ต้องเลือกมากเสียหน่อย

"ตัวข้านั้นเป็นเพียงหญิงหม้าย น่าละอายเกินกว่าจะแต่งงานเข้าจวนของผู้ใด เรื่องนี้ข้าเคยบอกกล่าวกับแม่สื่อไปแล้ว ว่าข้ามิแต่งงานเข้าจวนชายใด แต่เหล่าบุรุษพวกนั้นจะต้องแต่งงานแล้วมาอยู่ที่นี่แทน"

ในครั้งแรกที่เย่วเล่อมาอยู่ที่เมืองมนุษย์ เรื่องภายในบ้านมันน่าปวดหัวมากทีเดียว ไหนจะเรื่องแม่ผัวลูกสะใภ้หรือว่าเรื่องเกี่ยวกับบรรดาอนุต่างๆของสามี

กว่าจะทำความเข้าใจได้ นั่นทำให้เย่วเล่อมิคิดที่จะแต่งงานเข้าจวนของผู้ใดอีก เธอจึงประกาศออกไปว่าตัวเองนั้นเป็นหญิงหม้ายที่ถูกสามีทิ้ง ด้วยเหตุผลเพราะไม่อาจมีคุณธรรม และกฎของภรรยาทั้งแปดประการได้

แต่ก็ยังไม่วายมีบุรุษที่มาขอให้เย่วเล่อแต่งเข้าจวนอีก...

"อ่า..เถ้าแก่เนี้ย คุณชายหยวนนั้นปักใจต่อท่าน จนกินไม่ได้นอนไม่หลับความรักที่ลึกซึ้งเช่นนั้นจะสามารถหาได้จากที่ไหนอีกเจ้าคะ เชื่อข้าน้อยเถิดว่าคุณชายผู้นี้เหมาะสมกับท่านมากจริงๆ..."

เหมาะสมหรือว่าเขามีเงินมากพอที่จะจ่ายให้แม่สื่อในจำนวนมากกันแน่ 

"วันนี้ข้าปวดหัว เรื่องเช่นนี้อาจจะต้องใช้เวลาคิดให้มากเสียหน่อย อาเหยา...ส่งแขก"

นี่คือภาพที่ไม่อาจทำใจให้ชินตาได้ ยามที่เย่วเล่อเยื้องย่างมันราวกับว่านางกำลังล่องลอยขึ้นยังไงอย่างนั้น ห้องพักที่โรงเตี๊ยมเต็มแทบทุกวันเพราะผู้คนต่างมาพักเพราะต้องการพบเจอเถ้แก่เนี้ยที่งดงามราวกับภาพวาด...

"อ้ายฉิง วันนี้เจ้าก็ปฏิเสธแม่สื่ออีกแล้วอย่างนั้นหรือ?"

ดวงตาที่งดงามปรายตามองชูชาง ก่อนที่จะนั่งลงเพื่อร่ำสุรากับเขา ชายผู้นี้เป็นคนดี เย่วเล่อมองเห็นความดีได้จากจิตใจของเขาอย่างชัดเจน ความสัมพันธ์ของเรานั้นมิได้พัฒนาไปมากกว่าความเป็นสหาย ทั้งที่ใบหน้าและนิสัยของเขามันเป็นแบบที่เธอชอบ

แต่เพราะความเป็นคนดีของเขา เธอจึงไม่อยากจะทำให้เขาเสียใจไปกับเธอ มิตรภาพนั้นยาวนานมากกว่าความรักที่ฉาบฉวยพวกนั้น

"น่าแปลกที่เห็นเจ้าที่นี่ ค่ายทหารจะทำเยี่ยงไร ในเมื่อแม่ทัพมาร่ำสุราที่โรงเตี๊ยมของข้าตั้งแต่หัววัน กล้าหนีงานอย่างนั้นหรือชูชาง.."

เขาหัวเราะเบาๆพร้อมกับรินสุราใส่ถ้วนให้อ้ายฉิง

"มีแม่ทัพคนใหม่เดินทางมาแล้ว แน่นอนว่าหลังจากนี้งานของข้าก็จะน้อยลง และสามารถมาที่นี่ได้ มาร่วมร่ำสุรากับเจ้าในทุกค่ำคืน"

เย่วเล่อรู้สึกยินดีมากทีเดียวที่ชื่ออ้ายฉิงถูกเรียกออกมาจากริมฝีปากของเขา 

อ้ายฉิงนั้นแปลว่าความรัก ในเมื่อเย่วเล่อมิเคยได้รับความรัก เธอก็คิดว่าตัวเองในชื่อใหม่จะได้รับความรักจากใครสักคน...

ความรักที่สามารถสัมผัสและมองเห็นได้ด้วยสายตา

"เช่นนั้นก็นับว่าดียิ่งนัก.."

เธอยกมือขึ้นมาเท้าคางเพื่อมองไปด้านล่าง นางรำกำลังเดินขึ้นมาเพื่อทำการแสดง...เสียงพิณแว่วหวานดังกังวานขึ้นมาตามสายลม เสียงพูดคุยมากมายดังขึ้นมาเพื่อกล่าวชื่นชมนางรำและสตรีผู้งดงามที่กำลังบรรเลงเพลงพิณ

เนิ่นนานที่เธอหนีออกมาจากหุบเขาแห่งเซียน นานจนจำมิได้แล้วว่ามันผ่านไปกี่ร้อยปี ในทุกวันที่ฝนตกลงมา เย่วเล่อจะต้องเดินไปที่เขตป่าริมชายแดน

ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองไปที่นั่นทำไม เพราะไม่ว่าจะไปในยามไหน เธอก็ไม่อาจทำใจเดินข้ามไปที่หุบเขาแห่งเซียนสักที

ความหวาดกลัวในใจมันทำให้ขาทั้งสองข้างเกิดความขี้ขลาดขึ้นมา ในเวลาเดียวกันเธออยากจะไปขอโทษลี่ถิง แต่ทว่าก็ยังมีความหวาดกลัวตั้งคำถามขึ้นมามากมายในใจ

หากพบเจออาจารย์จะทำหน้าเช่นไร หรือหากพบว่าท่านอาจารย์และเทพีจันทราครองรักกันพร้อมพยานรักตัวน้อยๆเธอจะสามารถกล่าวคำยินดีออกไปได้หรือไม่?

เย่วเล่อแค่นหัวเราะให้กับตัวเอง พอหันไปมองชูชางก็พบว่าสายตาของเขากำลังจับจ้องมาที่ใบหน้าของเธอ

"...ข้ามีเรื่องราวมากมายที่อยากจะเล่าให้เจ้าฟัง"

"ว่ามาสิ ชาง...ข้ากำลังตั้งใจฟังอยู่"

"ไม่ใช่ที่นี่.."

เดาได้ไม่ยากเท่าไหร่ว่าเรื่องราวมากมายที่ชูชางจะเล่าให้ฟังมันคือเรื่องอะไร แต่ทว่าเธอไม่อยากจะให้เขาล้ำเส้น เพราะเย่วเล่อคิดว่าตัวเธอนั้นมีสหายน้อยมากถ้าเทียบกับอายุขัยที่ยืนยาวเช่นนี้

"ชาง เจ้าคือสหายที่ดีที่สุดของข้า แน่นอนว่ามันจะเป็น...เช่นนั้นตลอดไป"

เป็นเช่นนี้เสมอ เรื่องที่อ้ายฉิงขีดเส้นที่หนาทึบเอาไว้กับความสัมพันธ์ของเขาและเธอ เรื่องที่ไม่อาจทำความเข้าใจนั่นคือทำไมต้องเป็นเขาที่ได้ยืนอยู่เพียงแค่ความสัมพันธ์ที่เรียกว่าสหาย

เขามิได้เป็นคนรักทั้งที่ชายอื่นสามารถรักเธอได้

แต่เขาไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะกล่าวออกไปด้วยซ้ำ ไม่มีสิทธิ์คาดหวัง ไม่มีสิทธิ์รักนาง...

"ทั้งที่เจ้ารู้ แต่ก็ยังทำเป็นไม่รู้เรื่องอย่างนั้นหรือ ความรู้สึกของข้า...เจ้าก็รู้ใช่ไหมอ้ายฉิง...?"

"ข้าคิดว่าวันนี้ข้าเริ่ม...เมาแล้วละสิ สงสัยว่าจะต้องขอลาไปนอนก่อน"

เขาจับข้อมือของเธอเอาไว้แน่น

"ไม่เอาอีกแล้วอ้ายฉิง ข้าน่ะถ้าวันนี้ไม่ได้บอกกล่าวความรู้สึกที่มีในใจนี้ออกไป ข้าก็จะไม่ขอมาที่นี่อีก ข้าไม่อยากเป็นสหายกับเจ้าแล้วอ้ายฉิง"

เธอปรายตามองใบหน้าที่เห่อร้อนของเขาด้วยดวงตาที่ว่างเปล่า แต่ทว่าในใจกลับรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมา เมื่อย้อนคิดถึงครั้งอดีต

ท่านอาจารย์เองก็คิดเช่นนี้ใช่หรือไม่ เหตุการณ์ละม้ายคล้ายกันอย่างไม่น่าเชื่อ แตกต่างกันแค่เพียงในครั้งนั้น เธอมิได้เอ่ยเรื่องราวความรักที่อยู่ในใจดวงนี้ออกไปเท่านั้นเอง

"ชาง...ข้ามิได้คิดกับเจ้าแบบนั้น ข้าให้เจ้าได้แค่เพียงฐานะของสหาย ไม่อาจ..เกินเลยกว่านั้นได้ไม่ว่าด้วยเหตุผลอันใดก็ตาม..."

ทั้งที่พอจะเดาคำตอบได้ แต่ทว่าเขาก็ยังกล่าวมันออกไป 

"ข้าจะไปจากที่นี่ สิ่งที่บอกกล่าวไม่หมดนั่นคือข้าต้องย้ายไปประจำที่ชายแดนเมืองฟู่หนาน จะเป็นหรือตายไม่อาจคาดคิด ถึงแม้ว่าวันนี้จะไม่สมหวัง แต่ทว่าในใจกลับรู้สึกดีมากทีเดียว เพราะว่าข้านั้นได้กล่าวเรื่องราวที่เก็บงำมาตลอดกับเจ้า..."

มือของเย่วเล่อกำแน่น

"หวังว่าเราจะได้พบกันอีกครั้งนะ ชาง..."

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • พรสามประการของเทพจิ้งจอก   ตอนพิเศษ เรียบง่าย

    นี่คืองานแต่งที่ทวยเทพทั้งสี่ทะเลแปดดินแดนมาร่วมยินดี งานแต่งของมหาเทพบรรพกาล กับเทพจิ้งจอกผู้งดงามราวกับภาพวาดแน่นอนว่ามู่หยางจัดงานอย่างยิ่งใหญ่โดยครั้งนี้เขามิได้คำนึงถึงฤกษ์มงคลใดๆ เขาจัดงานในทันทีที่อาการของเยว่เล่อดีขึ้น ยามนี้นางคือภรรยาของเขาอย่างแท้จริงและพวกเรากำลังอยู่ที่หุบเขาแห่งเซียน เขารู้ดีว่าภรรยาชื่นชอบที่นี่ จึงมิคิดพานางไปอยู่ที่สวรรค์ชั้นฟ้า "ภรรยาเจ้าติดค้างคืนเข้าหออยู่นะ..."เยว่เล่อหัวเราะเบาๆท่านเทพบรรพกาลผู้นี้จับเธอกินจนแทบมิเหลือเรี่ยวแรงในทุกค่ำคืน ยามนี้เธอเหนื่อยล้ากับการต้อนรับเทพที่มาร่วมยินดีเขาจะมิวายจะรังแกเธออีกอย่างนั้นหรือ"ท่านพี่ควรจะให้ข้าได้พักบ้าง"มู่หยางหัวเราะเบาๆ เขาอุ้มเยว่เล่อขึ้นมาวางเอาไว้บนเตียง"วันพรุ่งนี้ข้าจะพาเจ้าไปเยี่ยมอาเหยา ที่โรงเตี๊ยมนั่นของทุกอย่างที่เจ้าเคยใช้ อาเหยายังคงเก็บเอาไว้ให้เป็นอย่างดี..."เยว่เล่อส่งยิ้มจางๆให้สามี อาจจะเพราะเรานั้นอยู่ที่โลกมนุษย์มานาน คำเรียกขานเช่นนี้จึงสบายใจยิ่งกว่าการเรียกขานที่ห่างเหินอย่างที่พวกเซียนชอบกล่าวเธอคือภรรยาและเขาคือสามี เพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว มิต้องการสิ่งใดที่ยุ่งย

  • พรสามประการของเทพจิ้งจอก   25.ไม่แยกจาก

    หิมะโปรยปรายลงมาพร้อมกับเยว่เล่อที่นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ เธอยกมือขึ้นมาเพื่อรอรับหิมะที่ตกลงมาครั้งแล้วครั้งเล่าร่างกายของหนิงหลงนั้นสลายหายไปในอากาศเมื่อหนึ่งร้อยปีก่อน อาจจะเป็นเพราะว่าพลังเซียนของเธอนั้นอ่อนแอลงจนไม่สามารถคงสภาพของเขาเอาไว้ได้ เธอยังคงโอบกอดร่างที่ไร้วิญญาณของเขาทุกคืนก่อนนอน ถึงแม้ผิวกายของเขาจะเย็นเฉียบก็ไม่เป็นไร เธอยังคงพูดคุยกับเขาราวกับว่าเขายังอยู่ถึงแม้ว่าร่างกายของเขาจะสูญสลายไปแล้ว...การมีชีวิตอยู่โดยไร้ท่านมันทรมานเหลือเกินหนิงหลง ข้าร่ำร้องขอความตายจากสวรรค์ในทุกค่ำคืนเผื่ออย่างน้อยที่ปลายทางมันจะมีท่านยืนรออยู่และแล้ววันที่เธอรอคอยก็เดินทางมาถึงในวันที่พลังเซียนของเธอกำลังจะหมดลง อายุขัยที่ยาวนานกำลังจะสิ้นสุด เยว่เล่อสวมชุดสีแดงนั่งอยู่ท่ามกลางหิมะที่ตกลงมา เธอแต่งหน้าและแต่งตัวให้งดงามกว่าทุกวันเพื่อในยามที่ได้พบเจอหนิงหลง เธอจะได้งดงามที่สุดในสายตาของเขาเธอกำลังนั่งรอความตายที่คืบคลานเข้ามาอย่างช้าๆให้หิมะพวกนี้ฝังกลบร่างของเธอเอาไว้ ร่างของสาวงามพลันหายไปเหลือเพียงแต่ร่างจิ้งจอกที่มีขนสีขาวกลมกลืนไปกับหิมะที่นอนหายใจรวยรินอยู่มารับข้าไปได้แล้ว.

  • พรสามประการของเทพจิ้งจอก   24.รอคอย

    ไร้สิ้นลมหายใจ หัวใจที่เคยเต้นแรงในยามที่โอบกอดเธอเอาไว้ ยามนี้มันไม่เต้นอีกแล้วปราณเซียนของเธอที่แบ่งให้เขาเอาไว้ถึงครึ่งบัดนั้นมันแตกสลายไปหมดแล้ว เธอมาช้าเกินไป เพราะมัวแต่ร้องไห้เสียใจอยู่ตรงนั้นจึงไม่ได้มาทันล่ำลากับเขาเป็นครั้งสุดท้าย ใบหน้างามอาบไปด้วยน้ำตาเพราะกับร่างกายที่สั่นเทา เยว่เล่อยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาก่อนที่นางจะลุกขึ้น "ใคร...ใครเป็นคนฆ่าเขา?" เสียงหัวเราะดังขึ้นมาเมื่อถามถึงว่าใครกันที่สามารถล้มแม่ทัพหนิงผู้เกรียงไกรได้ ตามแขนและคอของหนิงหลงมีรอยเชือกแสดงว่าคนพวกนี้คงจะมัดมือมัดแขนของเขาเอาไว้หรืออาจจะมีการใช้ใครสักคนต่อรองเพื่อให้เขาวางอาวุธลง... แล้วยอมจำนน ไม่ว่าใครก็ไม่สำคัญทั้งนั้นเพราะว่าเธอจะฆ่าให้หมด...จะนำเลือดของคนพวกนี้มาล้างเท้าให้หนิงหลงเสียให้หมดทุกคน มีมือมาแตะที่ไหล่ของเยว่เล่อ พอเธอหันกลับไปมองก็พบว่าเป็นอาเหยา "ในใจเกิดความร้อนรุ่มขึ้นมา ข้าคิดเอาไว้แล้วว่าเถ้าแก่เนี้ยจะต้องมีเรื่อง...ถ้าท่านจะจัดการคนพวกนี้ ให้ข้าน้อยเป็นผู้กระทำเถิดนะขอรับ" เพราะเยว่เล่อเป็นเซียน อีกทั้งนางสูญเสียพลังเซียนไปกว่าครึ่ง ทุกๆการใช้พลังของเทพจิ้งจอกอ

  • พรสามประการของเทพจิ้งจอก   23.พ่ายแพ้

    หนิงหลงหรี่ตามองนักดนตรีผู้หนึ่งที่กำลังตีกลองอยู่ เขารู้สึกว่าแววตาที่นางมองมาที่เขานั้นมันแตกต่างจากคนอื่นเพราะนางมองมาที่เขาด้วยแววตาที่เจือปนไปด้วยความโกรธ ส่วนนางรำนางอื่นๆต่างมองมาที่เขาด้วยแววตาที่เย้ายวนอ่า..เขาคิดว่าเขาพบเจอภรรยาตัวเองแล้วล่ะนะ"หลิงหยุนวันนี้ข้าพบเจอสตรีที่ทำให้หัวใจเต้นแรงแล้วล่ะสิ...""...มีสตรีใดที่งดงามมากกว่าภรรยาของเจ้าอีกอย่างนั้นหรือ? บ้าไปแล้วหนิงหลง"หนิงหลงยกมือขึ้นเพื่อให้การแสดงหยุด เขาเดินเข้ามาหานักดนตรีสาวที่กำลังนั่งตีกลองอยู่ พร้อมกับยื่นมือไปหานาง"เจ้าบรรเลงเพลงได้ถูกใจข้ายิ่งนัก แน่นอนว่าข้าอยากจะฟังฝีมือในการบรรเลงเพลงของเจ้าให้ชัดเจนกว่านี้..ลุกขึ้นมาเถิด"เยว่เล่อถึงกับหน้าชา นางมิรู้ว่าสามีล่วงรู้ถึงตัวตนของนางหรือว่าเขาเพียงแค่แสดงท่าทางเจ้าชู้ไปเรื่อยแล้วมันบังเอิญที่เขาเลือกนักดนตรีนางนี้...ที่นางปลอมตัวมาเขาเดินจับจูงมือของนางเพื่อจะพาไปด้านนอกกระโจมจัดเลี้ยงเพราะเวลานี้เป็นเวลาดึกมาแล้ว ใจจริงของหนิงหลง เขานั้นอยากจะหาเหตุผลออกไปจากที่นี่อยู่พอดี"ซุกซนเกินไปแล้วภรรยา เจ้าคิดว่าสามีจะจดจำเจ้ามิได้อย่างนั้นหรือ?"เยว่เล่อเม้มปา

  • พรสามประการของเทพจิ้งจอก   22.แผนการ

    หนิงหลงกระโดดขึ้นม้า เขาแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นฟางเซียนในขบวน เราจะไปตั้งค่ายกันที่ใกล้สนามรบมากกว่านี้อีกหน่อย ไม่ไกลจากที่นี่มากนักแต่ทว่าเขาไม่เห็นความจำเป็นที่นางจะต้องตามไป"คือว่าข้าสามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้ ให้ข้าได้ทำประโยชน์เพื่อทหารกล้าทุกนายที่ช่วยเหลือข้าเถอะนะ"ฟางเซียนรีบกล่าวออกมาพร้อมกับส่งยิ้มให้หนิงหลง เพราะเขามองมาที่นางด้วยแววตาที่ไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่นางรู้ฟางเซียนรู้ดีว่าหนิงหลงนั้นเป็นห่วงนาง เขาไม่อยากให้นางไปที่สนามรบเพราะเขาหวาดกลัวว่านางจะเป็นอันตราย ที่เขามองมานั่นก็เพราะว่าเป็นห่วงนางรับรู้ได้จากแววตาที่โมโหของเขา"อย่าทำพลาดเพราะโอกาสมีเพียงครั้งเดียว จำให้มั่นว่าเจ้าจะต้องทำตามแผนที่วางเอาไว้""รู้แล้วน่า ข้ามิใช่คนโง่ไม่ต้องมาสั่ง!"ฟางเซียนกล่าวกับชูชางเสียงต่ำที่พยายามขยับริมฝีปากให้น้อยที่สุดเพราะนางไม่ต้องการให้ผู้อื่นรับรู้ว่านางและแม่ทัพชูรู้จักหรือว่าสนิทกันทุกคนควรจะรับรู้ว่านางและแม่ทัพหนิงต่างหากที่รู้จักและสนิทสนมกันเป็นอย่างดีฟางเซียนยกยิ้มขึ้นมาพร้อมกับเดินตามขบวนทหาร..."นายหญิงก็เห็นใช่หรือไม่ สตรีผู้นั้นไม่น่าวางใจสักนิด เราควรจะตามไ

  • พรสามประการของเทพจิ้งจอก   21.ตัดไฟแต่ต้นลม

    ฟางเซียนอาบน้ำเปลี่ยนชุดที่เลอะเทอะเป็นชุดที่สะอาดเรียบร้อย นางเดินออกมาด้านนอกเพื่อรอทานอาหารพร้อมกันกับพวกทหารมากมายแน่นอนว่านางได้รับความนิยมมากทีเดียวเพราะมีใบหน้าที่งดงาม แถมหนิงหลงยังประกาศว่านางคือลูกสาวของตระกูลฝูอีกด้วย แน่นอนว่าความนิยมยิ่งเพิ่มขึ้นมาหลายเท่าตัวเพราะท่านพ่อนั้นเป็นถึงเสนาบดี "ข้าคิดว่าเรามีเรื่องที่จะต้องคุยกัน"ชูชางนั่งลงตรงข้ามฟางเซียน พร้อมกับมองหน้าเธอด้วยแววตาที่มิได้สนอกสนใจใบหน้านี้เลย...เช่นนั้นบุรุษผู้นี้สนใจสิ่งใดกันล่ะ ถ้ามิใช่สนใจในตัวนาง ถ้าจำไม่ผิดฟางเซียนคิดว่าเธอเห็นเขาเดินตามสตรีชุดแดงมาเมื่อตอนบ่าย เมื่อปะติดปะต่อเรื่องราวต่างๆเข้าด้วยกัน เธอเริ่มมองเห็นเค้าลางความเป็นไปได้มากขึ้นแล้วชายผู้นี้จะต้องหลงรักว่าที่ภรรยาของหนิงหลงเป็นแน่ฟางเซียนยกยิ้มพร้อมกับเลื่อนจอกสุราไปให้เขา"ความรักนั้นน่าตลก...""สำหรับข้ามันมิได้น่าขำสักนิดเพราะว่าข้านั้นพร้อมจะแลกทุกอย่าง..แน่นอนว่าทุกสิ่งทุกอย่าง"ความงามขนาดนี้ไม่แปลกใจจริงๆที่ชายผู้นั้นจะแสดงออกชัดเจนเช่นนี้ เพียงแต่มันน่าสนใจเพราะว่าเธอเองก็อยากได้หนิงหลง.. เพราะว่าเขาเป็นแม่ทัพ แน่นอนว่าเขาจะ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status