อรุณประภาเลี้ยวรถเข้าเขตบ้านฉัตรอรุณในเวลาประมาณสิบแปดนาฬิกา เธอจอดรถหน้าบ้านพักของเธอและอรุณีมาลา
ในบรรดาพี่น้องฉัตรอรุณทั้งห้าคน คือ อัญญา อิงควัต ไอยวรินทร์ อรุณีมาลาและตัวเธอเอง ทุกคนมีบ้านพักของตนเองที่สร้างแยกเป็นส่วนตัว บนเนื้อที่ในเขตของตระกูลฉัตรอรุณประมาณสามไร่ แต่บ้านของเธอและอรุณีมาลาถูกสร้างเป็นบ้านเดี่ยวสองหลังที่เชื่อมติดกันเพื่อความสะดวกในการไปมาหาสู่
“เฮ้...ถึงแล้ว”
ต้นกล้าร้องอย่างดีใจเมื่ออรุณประภาเปิดประตูรถให้ลง ส่วนต้นข้าวหลับไปแล้วหญิงสาวจึงตั้งท่าจะอุ้มหลานลงจากรถ
“พิณกับเด็กๆ มาถึงกันแล้วเหรอ”
อิงควัตพี่ชายคนรองไปตรวจความเรียบร้อบรอบบ้านๆ เขาวนรถผ่านมาพอดี ชายหนุ่มจึงจอดรถแวะลงมาคุยกับน้องสาวและหลานๆ
“ว่าไงหนุ่มน้อย เมารถไหมวันนี้” ชายหนุ่มทักหลานชายวัยสี่ขวบ
เด็กชายต้นกล้าพนมมือไหว้คุณลุง และตอบฉะฉานว่า
“หวัดดีครับ ต้นกล้าโตแล้วคนโตไม่เมารถหรอกลุงอิง” อรุณประภาหัวเราะเมื่อได้ยินคนที่บอกว่าโตแล้วตอบ
“พิณกับเจ้าสองแสบเพิ่งมาถึงกันเองค่ะพี่อิง แล้วพี่ล่ะมาตั้งแต่ตอนไหน”
“พี่มาสักพักเพิ่งไปตรวจรอบๆ บ้านมา เดี๋ยวว่าจะออกไปทักทายว่าที่พี่เขยกับญาติเขาหน่อย นั่นยายหนูข้าวหลับเหรอมาๆ พี่อุ้มหลานเข้าบ้านให้เองดีกว่า”
ชายหนุ่มอาสาอุ้มหลานสาวให้ เห็นใจที่น้องสาวตัวเล็กในขณะที่คู่แฝดโตเอาๆ
อรุณประภาหลีกทางให้คุณลุงอุ้มหลานได้สะดวก เธอจึงหันไปหยิบของอื่นเตรียมเข้าบ้าน
“แล้วยายออล่ะ” อิงควัตถามถึงแม่ของเด็กๆ
“ออไปตรวจงานที่พัทยาเดี๋ยวตามมาคืนนี้ค่ะ ต้นกล้าเข้าบ้านก่อนครับลูก”
น้องสาวตอบ ท้ายประโยคเธอหันไปเรียกหลานชายที่กำลังมองนั่นมองนี่ให้เข้าบ้าน อิงควัตวางหลานสาวลงบนโซฟาในห้องรับแขกอย่างนุ่มนวลกลัวว่าแกจะตื่น เรียบร้อยดีเขาจึงหันไปมองหาต้นกล้าอีกคน
“ต้นกล้าทำอะไรอยู่ครับ”
“ลุงอิงจะไปไหน ต้นกล้าไปด้วยสิ”
ชายหนุ่มยิ้ม “ลุงอิงจะไปหาแฟนป้าอัญ ไปไหมลูก”
“ไปครับ” ไปไหนก็ได้ทั้งนั้น เด็กชายชอบที่ลุงอิงตามใจ จึงเต็มใจตามไปด้วยทุกที่
“พิณ งั้นพี่พาต้นกล้าไปด้วยนะ อาจจะไปหาอะไรกินทางนั้นเลย เดี๋ยวพามาส่ง” อิงควัตตะโกนบอกน้องสาวที่เข้าไปในครัว
“ค่า..” เธอตอบรับเป็นเชิงรับรู้
อิงควัตพาหลานชายขึ้นรถ เขาขับรถไปทางบ้านพักของเมฆาซึ่งเป็นวิลล่าขนาดใหญ่ ชายหนุ่มจอดรถเห็นอัญญาและแฟนหนุ่มนั่งคุยกันที่เทอเรสหน้าบ้าน
“ป้าอัญ” เด็กชายวิ่งลงจากรถไปหาอัญญา หญิงสาวรับร่างเล็กที่โผเข้าหา กอดรัดฟัดเหวี่ยงสักครู่ก่อนจะถามว่า
“แม่เรามายังพ่อหนุ่ม”
“ยังครับ ต้นกล้ามากับแม่พิณ”
อัญญาพยักหน้ารับรู้ เด็กชายต้นกล้าและเด็กหญิงต้นข้าวเป็นที่รักของทุกคนในบ้าน ในวันที่คู่แฝดทั้งสองหอบหิ้วเด็กๆ กลับเมืองไทย พี่น้องคนอื่นๆ ไม่มีใครถามถึงพ่อเด็กทั้งสองกับอรุณีมาลาให้น้องสาวระคายใจ ถือว่าการเกิดใหม่ ชีวิตใหม่ย่อมเป็นสิ่งดี เป็นของขวัญของครอบครัว
“ว่าไงครับสุดหล่อ วันนี้ไม่ทักลุงเหรอ” เมฆาถามหนุ่มน้อยอย่างคนที่คุ้นเคยกันดี
เด็กน้อยพนมมือไหว้ทุกคนที่ตรงนั้น เมฆาอุ้มต้นกล้าไปหาพี่น้องของเขาเป็นเชิงอวดหลานชายของคนรัก กว่าเขาจะจีบอัญญาได้ก็เสียขนมให้พ่อสื่อตัวเล็กนี่ไปไม่รู้เท่าไหร่
ทุกคนพูดคุยเฮฮา จนกระทั่ง
“อ้าว วัชลงมาแล้วเหรอ นี่มาดูลูกชายฉันน่ารักไหม”
เมฆาเรียกศิวัชที่เพิ่งลงมาจากชั้นบน ชายหนุ่มใจกระตุกไม่มีเหตุผลเมื่อเห็นหน้าของเด็กชายที่เมฆาอุ้มอยู่ได้ชัด มันช่างคลับคล้ายคลับคลา ประพิมประพายเหมือนกับใครสักคนที่เขาเคยรู้จักแต่นึกไม่ออก
ฝ่ายอรุณประภาเมื่อเก็บของเสร็จแล้วหลานสาวก็ตื่นพอดี อัญญาโทรมาชวนว่าให้ไปทานข้าวด้วยกันที่ตึกใหญ่ หญิงสาวจึงรับปากจะตามไป
“มาค่ะน้องต้นข้าว หนูหิวรึยังคะ”
ไอยวรินทร์พี่คนที่สามที่มาถึงตึกใหญ่ก่อนหน้าเธอไม่นานเรียกหลานสาว
อรุณประภาทักทายทุกคนตามที่เมฆาแนะนำ ปกติแล้วหญิงสาวเป็นคนอัธยาศัยดี แต่เมื่อถึงญาติของพี่เขยคนสุดท้ายเธอถึงกับนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ
“น้องพิณครับ นี่นายวัช ดร.ศิวัชเป็นญาติสนิทลูกคุณอาพี่เอง” เมฆาแนะนำ ศิวัชทักทายหญิงสาวตามปกติเพราะเขาจำเธอไม่ได้เนื่องจากสองสาวเป็นแฝดไข่คนละใบ
“สวัสดีครับคุณพิณ” เขางงเมื่อเธอยืนเฉยประมาณครึ่งนาที ก่อนที่เธอจะพูด
“สวัสดีค่ะ ยินดีที่รู้จักนะคะ” เธอรีบอุ้มหลานสาวไปนั่งที่
เมฆามองน้องสาวของคนรักอย่างพิจารณา เขามองเลยไปที่น้องต้นข้าว เขาไม่ค่อยสนิทกับเด็กหญิงนัก เพราะน้องต้นข้าวติดแม่ออ ติดแม่พิณ เขาดูเด็กหญิงอย่างถี่ถ้วนอีกที ต้นกล้าหน้าเหมือนอรุณีมาลาชัดเจน แต่เด็กหญิงต้นข้าวหน้าไม่เหมือนแม่ แต่เธอเหมือน...
เขาหันไปมองศิวัช ก่อนจะส่ายศีรษะเมื่อคิดว่าตนเองอาจจะเหนื่อยเดินทางเลยมองเพี้ยนไปหมด
“มีอะไรเหรอพิณ”
ไอยวรินทร์ถาม เธอเป็นคนช่างสังเกตุแม้จะไม่พูดอะไรมากก็ตาม
อรุณประภาเหลือบมองพี่สาว ก่อนที่เธอจะพูดข้างหู
“ผู้ชายคนนั้น พ่อเจ้าแฝดค่ะ”
ไอยวรินทร์ตาโต เธอมองไปที่ศิวัชก่อนจะมองหน้าต้นข้าว แล้วมองกลับไปที่ชายหนุ่มคนนั้นใหม่
“พี่รินเลิกมองเขาได้แล้ว” อรุณประภากระซิบ ไอยวรินทร์ทำหน้าเหรอหราถอนสายตากลับมาที่อาหารตรงหน้า
“แล้วเขาไม่รู้เหรอว่าเขามีลูก” เธอถามน้องสาว
“ไม่รู้สิพี่ พิณไม่รู้ว่าก่อนเขาเลิกกับออ สองคนนี้คุยกันยังไง”
“แล้วออรู้ไหมว่าจะต้องมาเจอเขาที่นี่” พี่สาวคนที่สามถาม
“ไม่น่าจะรู้ พิณเองยังเพิ่งรู้”
อรุณประภาคิดด้วยความกังวล เธอเดาท่าทีน้องสาวไม่ออกว่าอรุณีมาลาจะทำเช่นไร
“น้องข้าวอยากกินอะไรคะลูก มากับลุงอิงมะ” อิงควัตมาจากไหนไม่รู้ ฉวยตัวหลานสาวขึ้นอุ้มตรงไปที่โต๊ะวางอาหาร
เขาไปยืนฝั่งตรงข้ามกับศิวัช ชี้ชวนให้หลานสาวดูเมนูต่างๆ
“เอานี่ไหมคะ ไส้กรอกไหม” เขาหยิบไส้กรอกทอดลงในจานเล็กที่วางบนโต๊ะ
“เอาไรอีกดี”
เด็กหญิงชี้มือไปที่ปูอบวุ้นเส้น ผู้เป็นลุงตอบว่า
“เอ หนูแพ้กุ้งนี่ลูก แล้วปูจะกินได้หรือเปล่าแม่ออก็ไม่เคยบอก งั้นกลับไปถามแม่พิณนะคะ”
อิงควัตอุ้มหลานกลับไปถามอรุณประภา ในขณะที่ศิวัชตัวชาเมื่อได้ยินคำว่า 'แม่ออ' ออกจากปากของคนเป็นลุง ไหนจะเรื่องแพ้กุ้งอีก ชายหนุ่มเองก็แพ้กุ้ง
เขาตรงไปหาเมฆาดึงญาติออกไปคุยนอกห้องอาหาร
“ใครเป็นแม่ของเด็กคู่แฝดนั่น นายรู้จักไหม”
เมฆางงที่ถูกดึงออกมากะทันหัน “ก็น้องสาวอัญไง น้องเพียงออนายจะถามทำไม”
เมฆามองหน้าญาติ ก่อนจะคิดอะไรได้แล้วจึงถาม “นายไปไข่ทิ้งไว้ที่ไหนรึไง แต่ไม่น่าใช่นะ น้องออเคยบอกว่าแฟนเขาตายไปแล้ว”
ศิวัชว้าวุ่นใจก่อนที่จะสงบลงได้เมื่อคิดว่า ต่อให้เป็นลูกของอรุณีมาลาจริงๆ เธอก็อาจจะมีแฟนใหม่หลังจากที่เลิกคบกับเขาก็ได้ เมื่อคิดได้ดังนั้นด็อกเตอร์หนุ่มจึงหันหลังกลับเข้างานไปเฉยๆ ท่ามกลางความงุนงงของเมฆา
“อะไรของมันวะ สงสัยเรียนหนักจนเพี้ยน”
สิบสองปีต่อมา ณ เกาะพยาม อธิปหรือต้นกล้ายืนมองทะเลไกลออกไปสุดลูกหูลูกตา เขาเพิ่งกลับจากการไปเรียนต่อในระดับปริญญาตรีที่สหรัฐอเมริกา ชายหนุ่มเรียนจบแล้วและตั้งใจจะมาอยู่ที่นี่สักพัก ก่อนที่จะกลับไปเรียนต่อปริญญาโทแต่วันนี้บ้านพักที่เคยสงบกลับเต็มไปด้วยผู้คนเพราะเป็นงานวันเกิดของนายหัวภาคย์ คุณปู่ของเขาเอง อธิปไม่ชอบคนเยอะเขาจึงปลีกตัวออกมาหาความสงบตามลำพัง“ต้นกล้า” เสียงเรียกของผู้หญิงคนที่เขารักที่สุดดังอยู่ด้านหลัง “คุณแม่” เขาหันกลับไปหาอรุณีมาลา แม่ของเขาในวัยสี่สิบสี่ยังสวยพริ้งเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ยังทำให้พ่อเขาหึงได้อยู่เสมอ“แม่เดินหาลูกตั้งนาน มาทำอะไรตรงนี้” เธอถามลูกชายที่โตขึ้นผิดหูผิดตา ก่อนที่เขาจะจากไปเรียนต่อในตอนอายุ 17 ปีต้นกล้ายังเป็นวัยรุ่น แขนขายาวเก้งก้างแต่สี่ปีผ่านไปเขากลายเป็นหนุ่มเต็มตัว ตัวสูงกว่าเธอเสียอีก“ผมไม่ค่อยชอบคนเยอะเลยครับแม่ รำคาญ” คำพูดของลูกชายทำให้เธอหัวเราะ“วันนี้มีแต่พี่ๆ น้องๆ ทั้งนั้นเลยลูก” เธอหมายถึงต้นข้าวและต้นน้ำ และบรรดาหลานๆ เช่น ไอย่าลูกสาวของอัญญาและเมฆา อัครินทร์และมุกจันทร์ ลูกชายลูกสาวของอรุณประภาและคิรินทร์
เวลาผ่านล่วงเลยมาสี่ปี เด็กชายต้นกล้าในวัยเก้าขวบเขาบอกมารดาว่า“คุณแม่ ต้นกล้าอยากย้ายไปอยู่กับคุณปู่คับ”อรุณีมาลาเงยหน้าขึ้นมองลูกชาย“ลูกเพิ่งเรียนเกรด 3 เองนะลูก ที่นั่นไม่มีนานาชาติให้ไปต่อนะ”“เปิดเทอมหน้าต้นกล้าก็เรียนเกรด 4 แล้วคุณแม่ ปู่บอกว่าถ้าอยากไป ก็เรียนโรงเรียนประจำที่ภูเก็ตได้ ปิดเทอมกลับไปอยู่กับคุณปู่” เด็กชายพูด“ต้นกล้าไม่อยากอยู่กับแม่แล้วเหรอ” หญิงสาวเริ่มน้อยใจลูกชายนิดๆ ศิวัชเดินเข้ามาในห้องเขาได้ยินพอดี ชายหนุ่มวางมือบนบ่าของเธอเป็นเชิงให้ใจเย็น“ลูกไม่เคยเรียนโรงเรียนประจำจะอยู่ได้เหรอลูก” เขาถามต้นกล้า“ปู่บอกว่าพ่อก็เคยเรียน พ่ออยู่ได้ต้นกล้าก็ต้องอยู่ได้ครับ” เด็กชายตอบหนักแน่นศิวัชหันไปถามต้นข้าว “ต้นข้าวล่ะลูก หนูอยากไปไหม” เด็กหญิงส่ายหน้า “หนูอยากอยู่กับพ่อแม่ค่ะ” “คืนนี้พ่อจะคุยกับคุณปู่อีกที ปิดเทอมนี้ต้นกล้าไปเยี่ยมคุณปู่ตามปกติก่อนแล้วกันลูก” ศิวัชสรุปคืนนั้นศิวัชคุยกับอรุณีมาลา เขารอจนเธอลมหายใจสงบเป็นปกติจากบทรักหนักหน่วง ชายหนุ่มดึงร่างเธอมากอดลูบแผ่นหลังเรียบเนียน“เรื่องต้นกล้า ออคิดยังไง” “ออเป็นห่วงลูกค่ะ ต้นก
หลังจากที่คู่แต่งงานใหม่ใช้เวลาด้วยกันตามลำพังสามวัน คุณปู่คุณย่าก็พาเด็กๆ ตามมาสมทบที่เกาะพยาม และเพราะว่าอยู่ในช่วงปิดเทอมใหญ่ จึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องโรงเรียนของเด็กๆเช้านี้นายหัวภาคย์มีแผนจะพาเด็กๆ ไปชมปะการังโดยขึ้นเรือท้องกระจกขนาดใหญ่ ศิวัชสวมเสื้อชูชีพให้ต้นกล้าและต้นข้าว เด็กชายถามบิดาว่า“แล้วเราจะลงไปดูในทะเลจริงๆ ได้ไหมคับพ่อ”“ได้ลูก แต่ลูกต้องโตกว่านี้แล้วไปเรียนดำน้ำก่อนครับ” ศิวัชตอบลูกชายที่ตื่นเต้นกับทุกสิ่งทุกอย่างที่บ้านคุณปู่“ต้นข้าวไม่เห็นอยากลงไปเลย แม่บอกว่าเดี๋ยวตัวดำ” เด็กหญิงพูดขึ้นบ้าง“นี่มันเรื่องของลูกผู้ชาย” ต้นกล้าหันไปพูดกับน้อง เขาจำคำพูดของปู่มาใช้“ไปกันลูกเรียบร้อยแล้ว ห้ามดื้อ ห้ามโผล่หน้าออกนอกเรือ เข้าใจไหมครับ” ดร.หนุ่มบอกลูกแฝดต้นข้าวไม่เท่าไร เขากลัวต้นกล้าจะทำอะไรแผลงๆ มากกว่าเริ่มสายทั้งหมดจึงลงเรือกัน เรือที่ใช้วันนี้เป็นเรือขนาดใหญ่ มีที่ให้เดินหรือนั่งนอนได้ตามสบายตรงกลางท้องเรือเป็นแผ่นกระจกหนาเส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ 2.5 เมตร ทว่า..เด็กชายต้นกล้ากลับไปสนใจมองปะการังนอกตัวเรือ เขาชะโงกหน้าออกไปเรื่อยๆ “ต้นกล้า หยุ
งานแต่งงานของศิวัชและอรุณีมาลาถูกกำหนดขึ้นในอีกสองเดือนหลังจากนั้น ยิ่งช่วงใกล้วันงานทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาวก็ยิ่งมีเรื่องวุ่นวาย คุณศิตามาอยู่ยาวที่กรุงเทพฯ เพื่อช่วยเตรียมงานล่วงหน้าถึง 1 เดือนงานนี้มีเพื่อนเจ้าสาวเพียงคนเดียวคืออรุณประภา ซึ่งอรุณีมาลาต้องการให้เป็นแบบนั้น เธอถือว่าพวกเธออยู่ด้วยกันตั้งแต่เกิดดังนั้นในวันสำคัญของชีวิต เธอต้องการให้คู่แฝดรับหน้าที่นี้เพียงคนเดียวส่วนเพื่อนเจ้าบ่าวอรุณีมาลาขอว่าเธอจะเลือกเอง เธอต้องการให้สีหราชซึ่งเคยแนะนำให้เธอกับศิวัชพบกันเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว ซึ่งชายหนุ่มก็ยินดีอย่างยิ่งในวันลองชุดของหนุ่มสาวสี่คน ซึ่งเป็นร้านเดียวกันในระหว่างที่สองสาวฝาแฝดอยู่ด้วยกันในห้องแต่งตัว“ออจะไปฮันนีมูนที่ไหนนะ” พี่สาวถาม“จะไปเกาะพยามน่ะ ไปรอบที่แล้วมัวแต่ทะเลาะกัน ไม่ได้ดูอะไรเลย” อรุณีมาลาพูดปนหัวเราะนิดๆ“พิณดีใจด้วยที่ออมีความสุขสักที” อรุณประภาดีใจกับคู่แฝด เธอไม่เห็นอรุณีมาลาหัวเราะได้จริงๆ มานานแล้ว“จะดีกว่านี้ถ้าเราได้แต่งพร้อมกัน” แฝดน้องพูดด้วยน้ำเสียงสดใสพวกเธอออกมาจากห้องแต่งตัว อรุณีมาลาในชุดไทยจักรพรรดิสีงาช้าง ส่วนอรุณประภาสวมชุดไทย
อรุณีมาลานอนโรงพยาบาลสองวันหมอจึงให้กลับได้ ในเช้าวันที่จะกลับบ้านเธอเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดของตัวเองที่แม่บ้านจัดมาให้ ศิวัชเปิดประตูเข้ามาหลังจากที่เขาไปเคลียร์ค่าใช้จ่ายและรับยามาให้แล้ว“นี่ยานะครับออ” เขาวางถุงยาไว้บนโต๊ะ หญิงสาวเดินมานั่งที่เก้าอี้สำรวจถุงยาว่ามีอะไรบ้าง“ส่วนนี่พี่ซื้อกาแฟมาให้กับขนม” เขาวางกาแฟกับขนมถัดไปจากยา หญิงสาวพึมพำขอบคุณ“ส่วนนี่อีกอย่างครับ แม่พี่ให้มา” เขาวางกล่องกำมะหยี่ลง หญิงสาวมองของแล้วมองหน้าเขาศิวัชนั่งลงกับพื้นตรงหน้าเธอ “วันนี้ออจะได้กลับบ้านที่เป็นบ้านของเรา พี่อยากทำให้ถูกต้อง ไม่อยากให้ใครเอาออไปพูดเสียๆ หายๆ ออแต่งงานกับพี่นะครับ พี่จะได้ดูแลออได้เต็มที่” อรุณีมาลามองหน้าเขา ศิวัชเปิดกล่องแหวนมันเป็นแหวนมรกตน้ำงามล้อมรอบด้วยเพชร“แหวนนี่เป็นแหวนเก่าของท่านตาใช้สวมในท่านยายในวันแต่งงานของท่าน ตกทอดมาถึงคุณแม่ที่เป็นลูกคนเดียวแล้ววันนี้มันจะเป็นของออช่วยรับไว้เก็บไว้ให้ต้นข้าว ในวันแต่งงานของต้นข้าวนะครับ” “แต่งงานเหรอคะ” เธอพึมพำ“ครับ ถ้าออตกลงพ่อกับแม่พี่จะคุยกับคุณอัญ พี่อยากบอกออว่าทั้งหมดที่ผ่านมาพี่รักออ อยากอยู่ใกล้
หญิงสาวตื่นมาอีกทีในตอนเช้าของอีกวัน เวลาเดียวกับที่ศิวัชเปิดประตูห้องน้ำออกมา“พี่ทำออตื่นเหรอเปล่า” เขามองหน้าเธออย่างเป็นห่วง อังมือกับหน้าผากของเธอทำท่าโล่งใจ“ดีนะ ออไม่มีไข้”“กี่โมงแล้วคะ ลูกล่ะ” เธอถาม“ตอนนี้เพิ่งหกโมงเช้าเอง ลูกอยู่กับแม่น่ะออ แม่กับพ่อมาถึงเมื่อคืนตอนเที่ยงคืน ออหลับอยู่พี่เลยไม่ได้ปลุก”“ค่ะ เลยทำคนอื่นลำบากกันไปหมด” “อย่าพูดแบบนั้น ทุกคนที่พูดถึงก็ครอบครัวทั้งนั้น” ศิวัชปลอบ รู้ว่าอรุณีมาลายังกลัวอยู่ “ออย้ายไปอยู่บ้านพี่นะ” ศิวัชบอกเมื่อเห็นเธอพยักหน้าเขาจึงพูดต่อว่า“เดี๋ยวพี่ให้คนไปเก็บของให้ ถ้าออยังกลัวก็ไม่ต้องไปเอง”“อิ๋วด้วยนะคะ ให้มาอยู่ดูแลเด็กๆ ด้วยได้ไหม” อรุณีมาลาห่วงคนของตัวเอง ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างโดนทำร้ายอะไรตรงไหนเธอยังไม่ทันได้ดูเลย“ได้จ้ะ พี่ให้คนของออตรวจร่างกายแล้วเมื่อคืน หมอบอกว่าไม่มีอะไรมาก ฟกช้ำนิดหน่อยตรงข้อมือที่ถูกมัด พี่เลยให้ไปอยู่ที่บ้านตั้งแต่เมื่อคืน จะได้อยู่เป็นเพื่อนต้นกล้าต้นข้าวด้วย” ศิวัชพูดเสียงนุ่ม“ขอบคุณค่ะ” อรุณีมาลาสบายใจขึ้นบ้าง“ออหิวไหม อยากกินอะไรรึเปล่าพี่ลงไปซื้อให้นะ” เธอส่ายหน้า “เจ