แชร์

ตอนพิเศษ3

ผู้เขียน: Sitha
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-09-28 01:15:36

 

สิบสองปีต่อมา ณ เกาะพยาม 

อธิปหรือต้นกล้ายืนมองทะเลไกลออกไปสุดลูกหูลูกตา เขาเพิ่งกลับจากการไปเรียนต่อในระดับปริญญาตรีที่สหรัฐอเมริกา  ชายหนุ่มเรียนจบแล้วและตั้งใจจะมาอยู่ที่นี่สักพัก  ก่อนที่จะกลับไปเรียนต่อปริญญาโท

แต่วันนี้บ้านพักที่เคยสงบกลับเต็มไปด้วยผู้คนเพราะเป็นงานวันเกิดของนายหัวภาคย์ คุณปู่ของเขาเอง  อธิปไม่ชอบคนเยอะเขาจึงปลีกตัวออกมาหาความสงบตามลำพัง

“ต้นกล้า” เสียงเรียกของผู้หญิงคนที่เขารักที่สุดดังอยู่ด้านหลัง 

“คุณแม่” เขาหันกลับไปหาอรุณีมาลา  แม่ของเขาในวัยสี่สิบสี่ยังสวยพริ้งเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง  ยังทำให้พ่อเขาหึงได้อยู่เสมอ

“แม่เดินหาลูกตั้งนาน  มาทำอะไรตรงนี้” เธอถามลูกชายที่โตขึ้นผิดหูผิดตา  ก่อนที่เขาจะจากไปเรียนต่อในตอนอายุ 17 ปีต้นกล้ายังเป็นวัยรุ่น แขนขายาวเก้งก้างแต่สี่ปีผ่านไปเขากลายเป็นหนุ่มเต็มตัว ตัวสูงกว่าเธอเสียอีก

“ผมไม่ค่อยชอบคนเยอะเลยครับแม่ รำคาญ” คำพูดของลูกชายทำให้เธอหัวเราะ

“วันนี้มีแต่พี่ๆ น้องๆ ทั้งนั้นเลยลูก”  เธอหมายถึงต้นข้าวและต้นน้ำ  และบรรดาหลานๆ เช่น ไอย่าลูกสาวของอัญญาและเมฆา  อัครินทร์และมุกจันทร์ ลูกชายลูกสาวของอรุณประภาและคิรินทร์  รวมถึงเอแคลลูกสาวของคมกริช  จะว่าไปวันนี้เหมือนวันรวมญาติลูกหลานของนายหัวภาคย์ก็ไม่ผิดนัก

สองแม่ลูกเดินเคียงคู่กันเข้าบ้าน  เมื่อเข้าไปใกล้ๆ จึงได้ยินเสียงเด็กชายวัยสิบสองทะเลาะกัน

อธิปเดินยาวๆ เข้าไปดู เห็นว่าต้นน้ำน้องชายของตนกำลังทะเลาะกับอัครินทร์ลูกชายแม่พิณของเขา  ชายหนุ่มพูดเสียงดัง

“หยุด” เสียงนั้นทำให้เด็กชายสองคนหยุดกึก เขาหันมามองหน้ากันส่งสายตารู้กันว่า  'ซวยแล้ว'

“เป็นลูกผู้ชายจะมาทะเลาะกันทำไม  เขตเอานวมมาสองคู่ทีสิ” ตอนท้ายประโยคต้นกล้าหันไปสั่ง   คงเขตหลานชายคนสนิทของนายหัวภาคย์ที่โตมาพร้อมกับตนเอง

คงเขตหัวเราะเขาส่งนวมให้อธิปในขณะที่เด็กชายสองคนหน้าเสีย  อรุณีมาลาทำท่าจะพูดอะไรแต่ศิวัชทำสัญญาณให้เธอเงียบ

อธิปโยนนวมสองคู่ลงตรงหน้าเด็กชายทั้งสอง

“เอ้า ชกกันเลย จะทะเลาะกันทั้งทีเอาให้สุด” 

“เอ่อ..”  ต้นน้ำถึงกับอึ้งเมื่อเจอมุกนี้ของพี่ชาย

“เราไม่ได้ทะเลาะกันนะพี่ต้นกล้า  แค่คุยกันเสียงดังไปหน่อย”  อัครินทร์แย้ง

“แน่ใจนะว่าไม่ได้ทะเลาะกัน”  พี่ชายย้ำ

“ครับ” เด็กชายสองคนตอบพร้อมเพรียง กอดคอกันโดยอัตโนมัติ

ชายหนุ่มมองไปรอบๆ เขาขมวดคิ้วเมื่อเห็นเด็กสาวที่เขาไม่รู้จัก  นายหัวภาคย์เรียกเขาเข้าไปใกล้

“ต้นกล้า นี่หนูกรรณเป็นลูกสาวของอาเกวลินหลานอีกคนของปู่  ย่าเราเขารับยายกรรณมาดูแลอีกหน่อยถ้าต้นกล้ากลับมาอยู่ที่นี่ก็คงได้เจอกันบ่อย” 

ชายหนุ่มมองเด็กสาววัยสิบห้าปีตรงหน้า เขานึกถึงเกวลินมารดาของเธอ  ลูกสาวยายคุณป้าปากแดงนี่เอง

“แล้วแม่เขาไปไหนเหรอครับ ทำไมบ้านเราต้องถึงรับน้องเขามาดูแล” 

“แม่น้องเขาเสียแล้วน่ะลูก  ยังไงต้นกล้าก็อย่ารังเกียจน้องเลยนะ ถ้าย่าเป็นอะไรไปก่อนที่น้องเขาจะเรียนจบย่าฝากดูแลยายกรรณด้วยนะลูก” 

คำพูดนั้นทำให้ชายหนุ่มตรงเข้าไปกอดคุณศิตา  “คุณย่ายังแข็งแรงต้องอยู่กับผมอีกนาน  อย่าพูดแบบนี้เลยครับ” 

“รับปากย่านะลูก”  ผู้สูงวัยกว่ากำชับ ท่านรู้ว่าอะไรที่หลานชายรับปากแล้วเขาจะไม่ผิดคำพูด

“ครับย่า ผมจะดูแลน้องเขาต่อจากคุณย่าเอง” 

คุณศิตายิ้ม  “กรรณขอบคุณพี่เขาสิลูก” 

กรรณิการ์ยกมือไหว้เขาแววตาของเธอดูเกร็ง คงจะกลัวเขานิดๆ   “ขอบคุณค่ะพี่ต้นกล้า”

“ครับ ตั้งใจเรียนแล้วกัน”  เขาพูดแค่นั้น ก่อนจะเลิกสนใจเธอ

################

สี่ปีต่อจากนั้นอธิปกลับมาที่ระนองเพื่อมาอยู่ที่นี่จริงจัง  ชายหนุ่มวัยเบญจเพศตัดสินใจที่จะอยู่ที่นี่ถาวรเพื่อดูแลกิจการต่อจากนายหัวภาคย์  จากนั้นเพียงสองปีให้หลังนายหัวภาคย์และคุณศิตาเริ่มป่วยด้วยโรคชราและโรคอื่นๆ ท่านทั้งสองจากไปอย่างสงบในเวลาต่อมา  ในวันเปิดพินัยกรรมศิวัชได้ฝากให้เขาดูและจัดการตามที่นายหัวภาคย์เขียนไว้ทุกอย่างได้เลย  เขาจึงจัดการเรื่องทรัพย์สินให้เป็นไปตามพินัยกรรมอย่างเรียบร้อย

โดยที่นายหัวภาคย์ยกที่ดินส่วนใหญ่ให้พวกเขาสามคนพี่น้องแบ่งเป็นสามส่วนเท่าๆ กัน  บ้านในเมืองเป็นของต้นข้าวและเขาคนละหลัง  บ้านที่เกาะเป็นของเขา  ส่วนอาคารพาณิชย์ที่ปล่อยเช่าที่กทม.เป็นของต้นน้ำน้องชายคนเล็ก 

เงินสดและเครื่องเพชรทุกอย่างไม่มีปัญหา  เขาจัดการตามเจตนารมณ์ของท่านที่ต้องการให้แบ่งให้ทุกคนรวมถึงคนงานที่อยู่กันมายาวนานด้วยส่วนหนึ่ง

แต่มีมรดกอีกอย่างที่เขาไม่เข้าใจ 

ข้อสุดท้ายขอให้นายอธิปหรือต้นกล้า หลานชายคนโตเป็นผู้ดูแลนางสาวกรรณิการ์  จนกว่านางสาวกรรณิการ์จะเรียนจบในระดับสูงสุดเท่าที่พอใจหรือแต่งงานมีครอบครัว

อนึ่งที่ดินผืนเล็กขนาดห้าไร่ที่เกาะพยามและที่ดินพร้อมตัวบ้านแปลงเล็กที่อำเภอเมืองระนอง จำนวนพื้นที่สามงานห้าสิบตารางวา พร้อมเงินสดในธนาคารอีกสองล้านบาทขอมอบให้นางสาวกรรณิการ์ โดยให้อยู่ในความดูแลของนายอธิปจนกว่านางสาวกรรณิการ์จะอายุครบยี่สิบสองปีบริบูรณ์

ชายหนุ่มขมวดคิ้วถามคมกริช

“กรรณิการ์ใครเหรอครับอา” 

“อ้าวก็เราเคยรับปากคุณย่าไว้ว่าจะดูแลใครล่ะ  ลืมไปแล้วเหรอ”  คมกริชตอบยิ้มๆ กรรณิการ์อยู่โรงเรียนประจำจนถึงระดับมหาวิทยาลัยที่อังกฤษมาตลอด จึงแทบไม่เคยพบอธิปเลย

“อ้อ”  เขาทบทวนเริ่มจำได้ลางๆ ลูกสาวป้าปากแดงนี่เอง

“แล้วตอนนี้เด็กคนนั้นอยู่ที่ไหนครับ”  ทำไมเขาไม่เห็นเธอในงานศพ  ถ้าคุณปู่คุณย่าเป็นผู้ส่งเสียอุปการะ  งานศพท่านทั้งทีทำไมเธอไม่มา เขาเริ่มไม่ชอบใจ

“ย่าเราส่งหนูกรรณเขาไปเรียนต่อที่อังกฤษน่ะต้นกล้า  น้องกำลังจะสอบเทอมสุดท้ายพวกเราเลยยังไม่บอก อยากให้สอบเสร็จก่อน เดี๋ยวสักอาทิตย์หน้าน้องก็คงกลับมาถึงไทย”  คมกริชเฉลย

จบตอนพิเศษค่ะ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • พรหมซ่อนรัก   ตอนพิเศษ3

    สิบสองปีต่อมา ณ เกาะพยาม อธิปหรือต้นกล้ายืนมองทะเลไกลออกไปสุดลูกหูลูกตา เขาเพิ่งกลับจากการไปเรียนต่อในระดับปริญญาตรีที่สหรัฐอเมริกา ชายหนุ่มเรียนจบแล้วและตั้งใจจะมาอยู่ที่นี่สักพัก ก่อนที่จะกลับไปเรียนต่อปริญญาโทแต่วันนี้บ้านพักที่เคยสงบกลับเต็มไปด้วยผู้คนเพราะเป็นงานวันเกิดของนายหัวภาคย์ คุณปู่ของเขาเอง อธิปไม่ชอบคนเยอะเขาจึงปลีกตัวออกมาหาความสงบตามลำพัง“ต้นกล้า” เสียงเรียกของผู้หญิงคนที่เขารักที่สุดดังอยู่ด้านหลัง “คุณแม่” เขาหันกลับไปหาอรุณีมาลา แม่ของเขาในวัยสี่สิบสี่ยังสวยพริ้งเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ยังทำให้พ่อเขาหึงได้อยู่เสมอ“แม่เดินหาลูกตั้งนาน มาทำอะไรตรงนี้” เธอถามลูกชายที่โตขึ้นผิดหูผิดตา ก่อนที่เขาจะจากไปเรียนต่อในตอนอายุ 17 ปีต้นกล้ายังเป็นวัยรุ่น แขนขายาวเก้งก้างแต่สี่ปีผ่านไปเขากลายเป็นหนุ่มเต็มตัว ตัวสูงกว่าเธอเสียอีก“ผมไม่ค่อยชอบคนเยอะเลยครับแม่ รำคาญ” คำพูดของลูกชายทำให้เธอหัวเราะ“วันนี้มีแต่พี่ๆ น้องๆ ทั้งนั้นเลยลูก” เธอหมายถึงต้นข้าวและต้นน้ำ และบรรดาหลานๆ เช่น ไอย่าลูกสาวของอัญญาและเมฆา อัครินทร์และมุกจันทร์ ลูกชายลูกสาวของอรุณประภาและคิรินทร์

  • พรหมซ่อนรัก   ตอนพิเศษ2

    เวลาผ่านล่วงเลยมาสี่ปี เด็กชายต้นกล้าในวัยเก้าขวบเขาบอกมารดาว่า“คุณแม่ ต้นกล้าอยากย้ายไปอยู่กับคุณปู่คับ”อรุณีมาลาเงยหน้าขึ้นมองลูกชาย“ลูกเพิ่งเรียนเกรด 3 เองนะลูก ที่นั่นไม่มีนานาชาติให้ไปต่อนะ”“เปิดเทอมหน้าต้นกล้าก็เรียนเกรด 4 แล้วคุณแม่ ปู่บอกว่าถ้าอยากไป ก็เรียนโรงเรียนประจำที่ภูเก็ตได้ ปิดเทอมกลับไปอยู่กับคุณปู่” เด็กชายพูด“ต้นกล้าไม่อยากอยู่กับแม่แล้วเหรอ” หญิงสาวเริ่มน้อยใจลูกชายนิดๆ ศิวัชเดินเข้ามาในห้องเขาได้ยินพอดี ชายหนุ่มวางมือบนบ่าของเธอเป็นเชิงให้ใจเย็น“ลูกไม่เคยเรียนโรงเรียนประจำจะอยู่ได้เหรอลูก” เขาถามต้นกล้า“ปู่บอกว่าพ่อก็เคยเรียน พ่ออยู่ได้ต้นกล้าก็ต้องอยู่ได้ครับ” เด็กชายตอบหนักแน่นศิวัชหันไปถามต้นข้าว “ต้นข้าวล่ะลูก หนูอยากไปไหม” เด็กหญิงส่ายหน้า “หนูอยากอยู่กับพ่อแม่ค่ะ” “คืนนี้พ่อจะคุยกับคุณปู่อีกที ปิดเทอมนี้ต้นกล้าไปเยี่ยมคุณปู่ตามปกติก่อนแล้วกันลูก” ศิวัชสรุปคืนนั้นศิวัชคุยกับอรุณีมาลา เขารอจนเธอลมหายใจสงบเป็นปกติจากบทรักหนักหน่วง ชายหนุ่มดึงร่างเธอมากอดลูบแผ่นหลังเรียบเนียน“เรื่องต้นกล้า ออคิดยังไง” “ออเป็นห่วงลูกค่ะ ต้นก

  • พรหมซ่อนรัก   ตอนพิเศษ1

    หลังจากที่คู่แต่งงานใหม่ใช้เวลาด้วยกันตามลำพังสามวัน คุณปู่คุณย่าก็พาเด็กๆ ตามมาสมทบที่เกาะพยาม และเพราะว่าอยู่ในช่วงปิดเทอมใหญ่ จึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องโรงเรียนของเด็กๆเช้านี้นายหัวภาคย์มีแผนจะพาเด็กๆ ไปชมปะการังโดยขึ้นเรือท้องกระจกขนาดใหญ่ ศิวัชสวมเสื้อชูชีพให้ต้นกล้าและต้นข้าว เด็กชายถามบิดาว่า“แล้วเราจะลงไปดูในทะเลจริงๆ ได้ไหมคับพ่อ”“ได้ลูก แต่ลูกต้องโตกว่านี้แล้วไปเรียนดำน้ำก่อนครับ” ศิวัชตอบลูกชายที่ตื่นเต้นกับทุกสิ่งทุกอย่างที่บ้านคุณปู่“ต้นข้าวไม่เห็นอยากลงไปเลย แม่บอกว่าเดี๋ยวตัวดำ” เด็กหญิงพูดขึ้นบ้าง“นี่มันเรื่องของลูกผู้ชาย” ต้นกล้าหันไปพูดกับน้อง เขาจำคำพูดของปู่มาใช้“ไปกันลูกเรียบร้อยแล้ว ห้ามดื้อ ห้ามโผล่หน้าออกนอกเรือ เข้าใจไหมครับ” ดร.หนุ่มบอกลูกแฝดต้นข้าวไม่เท่าไร เขากลัวต้นกล้าจะทำอะไรแผลงๆ มากกว่าเริ่มสายทั้งหมดจึงลงเรือกัน เรือที่ใช้วันนี้เป็นเรือขนาดใหญ่ มีที่ให้เดินหรือนั่งนอนได้ตามสบายตรงกลางท้องเรือเป็นแผ่นกระจกหนาเส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ 2.5 เมตร ทว่า..เด็กชายต้นกล้ากลับไปสนใจมองปะการังนอกตัวเรือ เขาชะโงกหน้าออกไปเรื่อยๆ “ต้นกล้า หยุ

  • พรหมซ่อนรัก   บทที่ 37  จบ

    งานแต่งงานของศิวัชและอรุณีมาลาถูกกำหนดขึ้นในอีกสองเดือนหลังจากนั้น ยิ่งช่วงใกล้วันงานทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาวก็ยิ่งมีเรื่องวุ่นวาย คุณศิตามาอยู่ยาวที่กรุงเทพฯ เพื่อช่วยเตรียมงานล่วงหน้าถึง 1 เดือนงานนี้มีเพื่อนเจ้าสาวเพียงคนเดียวคืออรุณประภา ซึ่งอรุณีมาลาต้องการให้เป็นแบบนั้น เธอถือว่าพวกเธออยู่ด้วยกันตั้งแต่เกิดดังนั้นในวันสำคัญของชีวิต เธอต้องการให้คู่แฝดรับหน้าที่นี้เพียงคนเดียวส่วนเพื่อนเจ้าบ่าวอรุณีมาลาขอว่าเธอจะเลือกเอง เธอต้องการให้สีหราชซึ่งเคยแนะนำให้เธอกับศิวัชพบกันเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว ซึ่งชายหนุ่มก็ยินดีอย่างยิ่งในวันลองชุดของหนุ่มสาวสี่คน ซึ่งเป็นร้านเดียวกันในระหว่างที่สองสาวฝาแฝดอยู่ด้วยกันในห้องแต่งตัว“ออจะไปฮันนีมูนที่ไหนนะ” พี่สาวถาม“จะไปเกาะพยามน่ะ ไปรอบที่แล้วมัวแต่ทะเลาะกัน ไม่ได้ดูอะไรเลย” อรุณีมาลาพูดปนหัวเราะนิดๆ“พิณดีใจด้วยที่ออมีความสุขสักที” อรุณประภาดีใจกับคู่แฝด เธอไม่เห็นอรุณีมาลาหัวเราะได้จริงๆ มานานแล้ว“จะดีกว่านี้ถ้าเราได้แต่งพร้อมกัน” แฝดน้องพูดด้วยน้ำเสียงสดใสพวกเธอออกมาจากห้องแต่งตัว อรุณีมาลาในชุดไทยจักรพรรดิสีงาช้าง ส่วนอรุณประภาสวมชุดไทย

  • พรหมซ่อนรัก   บทที่ 36  ขอแต่งงานอีกครั้ง

    อรุณีมาลานอนโรงพยาบาลสองวันหมอจึงให้กลับได้ ในเช้าวันที่จะกลับบ้านเธอเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดของตัวเองที่แม่บ้านจัดมาให้ ศิวัชเปิดประตูเข้ามาหลังจากที่เขาไปเคลียร์ค่าใช้จ่ายและรับยามาให้แล้ว“นี่ยานะครับออ” เขาวางถุงยาไว้บนโต๊ะ หญิงสาวเดินมานั่งที่เก้าอี้สำรวจถุงยาว่ามีอะไรบ้าง“ส่วนนี่พี่ซื้อกาแฟมาให้กับขนม” เขาวางกาแฟกับขนมถัดไปจากยา หญิงสาวพึมพำขอบคุณ“ส่วนนี่อีกอย่างครับ แม่พี่ให้มา” เขาวางกล่องกำมะหยี่ลง หญิงสาวมองของแล้วมองหน้าเขาศิวัชนั่งลงกับพื้นตรงหน้าเธอ “วันนี้ออจะได้กลับบ้านที่เป็นบ้านของเรา พี่อยากทำให้ถูกต้อง ไม่อยากให้ใครเอาออไปพูดเสียๆ หายๆ ออแต่งงานกับพี่นะครับ พี่จะได้ดูแลออได้เต็มที่” อรุณีมาลามองหน้าเขา ศิวัชเปิดกล่องแหวนมันเป็นแหวนมรกตน้ำงามล้อมรอบด้วยเพชร“แหวนนี่เป็นแหวนเก่าของท่านตาใช้สวมในท่านยายในวันแต่งงานของท่าน ตกทอดมาถึงคุณแม่ที่เป็นลูกคนเดียวแล้ววันนี้มันจะเป็นของออช่วยรับไว้เก็บไว้ให้ต้นข้าว ในวันแต่งงานของต้นข้าวนะครับ” “แต่งงานเหรอคะ” เธอพึมพำ“ครับ ถ้าออตกลงพ่อกับแม่พี่จะคุยกับคุณอัญ พี่อยากบอกออว่าทั้งหมดที่ผ่านมาพี่รักออ อยากอยู่ใกล้

  • พรหมซ่อนรัก   บทที่ 35  Ship หาย ที่ไม่ได้แปลว่าเรือหาย

    หญิงสาวตื่นมาอีกทีในตอนเช้าของอีกวัน เวลาเดียวกับที่ศิวัชเปิดประตูห้องน้ำออกมา“พี่ทำออตื่นเหรอเปล่า” เขามองหน้าเธออย่างเป็นห่วง อังมือกับหน้าผากของเธอทำท่าโล่งใจ“ดีนะ ออไม่มีไข้”“กี่โมงแล้วคะ ลูกล่ะ” เธอถาม“ตอนนี้เพิ่งหกโมงเช้าเอง ลูกอยู่กับแม่น่ะออ แม่กับพ่อมาถึงเมื่อคืนตอนเที่ยงคืน ออหลับอยู่พี่เลยไม่ได้ปลุก”“ค่ะ เลยทำคนอื่นลำบากกันไปหมด” “อย่าพูดแบบนั้น ทุกคนที่พูดถึงก็ครอบครัวทั้งนั้น” ศิวัชปลอบ รู้ว่าอรุณีมาลายังกลัวอยู่ “ออย้ายไปอยู่บ้านพี่นะ” ศิวัชบอกเมื่อเห็นเธอพยักหน้าเขาจึงพูดต่อว่า“เดี๋ยวพี่ให้คนไปเก็บของให้ ถ้าออยังกลัวก็ไม่ต้องไปเอง”“อิ๋วด้วยนะคะ ให้มาอยู่ดูแลเด็กๆ ด้วยได้ไหม” อรุณีมาลาห่วงคนของตัวเอง ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างโดนทำร้ายอะไรตรงไหนเธอยังไม่ทันได้ดูเลย“ได้จ้ะ พี่ให้คนของออตรวจร่างกายแล้วเมื่อคืน หมอบอกว่าไม่มีอะไรมาก ฟกช้ำนิดหน่อยตรงข้อมือที่ถูกมัด พี่เลยให้ไปอยู่ที่บ้านตั้งแต่เมื่อคืน จะได้อยู่เป็นเพื่อนต้นกล้าต้นข้าวด้วย” ศิวัชพูดเสียงนุ่ม“ขอบคุณค่ะ” อรุณีมาลาสบายใจขึ้นบ้าง“ออหิวไหม อยากกินอะไรรึเปล่าพี่ลงไปซื้อให้นะ” เธอส่ายหน้า “เจ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status