[5]
กีฬาในร่ม
-----------
ศศินกลับมาถึงคฤหาสน์ศิวเศขรหลังเวนิสาราวชั่วโมงเศษ เขาไม่ได้อยู่บนห้องอย่างที่ควรจะเป็น เวนิสาเที่ยวตามหา และพบว่ากิจกรรมที่เขาโปรดปรานอีกอย่างคือการออกกำลังกาย เขามีโรงยิมส่วนตัวอยู่ด้านข้างของคฤหาสน์ เธอเพิ่งรู้ว่ามันคือโรงยิม นึกว่าโกดังเก็บของเพราะเห็นประตูปิดมิดชิด สาวใช้บอกว่านั่นคือสถานที่ส่วนตัวของเขา ห้ามใครไปรบกวนหากเขาเข้าไปในนั้น แต่ใครที่ว่านั่นไม่มีทางใช่เวนิสา หญิงสาวรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดเสื้อกล้ามกับกางเกงขาสั้นแบบนักกีฬา เผยต้นขาขาวให้พอเซ็กซี่ ผมยาวสลวยถูกมัดไว้ดิบดี ดูแคล่วคล่องพร้อมลงสนามกีฬา
หญิงสาวรีบลงมาที่ยิม เปิดประตูเหล็กเข้าไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ การสร้างความสนิทสนมเพื่อกระชับความสัมพันธ์นั้น เธอต้องทำทุกวิถีทาง ในเมื่อเขาชอบออกกำลังกาย เธอก็จะชอบด้วย เฮ้อ...แค่คิดก็เหนื่อย
ตุบตับๆ ตุบตับๆ
เสียงหมัดหนักๆ กระทบกระสอบทรายที่แขวนอยู่ เวนิสามองร่างสูงของชายในดวงใจ เขาอยู่ในชุดกางเกงขาสั้น เสื้อกล้ามรัดติ้วมีหยาดเหงื่อชโลมกายมันวาว รอบกาย
แล้วพอศศินแวบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องแต่งตัว เวนิสาก็รีบวิ่งขึ้นบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้า มีชุดว่ายน้ำติดมาด้วยแม้ว่าไม่เคยใส่ก็ตาม มันเป็นชุดแบบทูพีชสีแดงที่รวีกานต์ซื้อให้ตอนวันเกิดปีที่แล้ว มันสวยเซ็กซี่แต่มีหน้าที่แค่ใส่แล้วเดินเล่นชายหาด เธอจัดการสวมมันบนร่าง ลำบากนิดหน่อยเพราะตอนนี้เนื้อตัวเต็มไปด้วยเหงื่อ พอสวมเสร็จก็รีบคว้าเอาเสื้อคลุมแล้วกลับลงมาที่ยิม เสียงแหวกสายธารของศศินดังมาให้ได้ยิน สองแขนเขาจ้วงน้ำ จ้วงเอาๆ อยู่ที่ปลายสุดของสระ ส่งสายน้ำแตกกระเซ็นราวกับฉลามหนุ่มผู้ปราดเปรียว ช่างน่ามองเสียนี่กระไร“อา...สวรรค์ของชะนีไร้คู่ แขนขาวยาวน่าฟัด กล้ามท้องเป็นลอน ช่วงขาสุดเซ็กซี่ โอ๊ย...เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม...” เวนิสาเคลิ้มฝัน เดินไปตามแนวยาวของขอบสระพร้อมกับฉลามหนุ่มที่กำลังจ้วงน้ำในท่าผีเสื้อ เธอจัดการถอดเสื้อคลุมทิ้ง แล้วก็ได้ผล ศศินถึงกับหยุดการจ้วงแขน แล้วโผล่หน้าขึ้นมามองเธอ“นี่! อย่าบอกนะว่าใส่ชุดนั้นมาจากบ้านน่ะ”หญิงสาวกลอกตาเบาๆ หมายความว่าอย่างไร นี่หวงหรอ กลัวว่าคนอื่นจะเห็นเธอในชุดสุดเซ็กซี่ละสิ“ใช่ค่ะ เปลี่
[5]กีฬาในร่ม-----------ศศินกลับมาถึงคฤหาสน์ศิวเศขรหลังเวนิสาราวชั่วโมงเศษ เขาไม่ได้อยู่บนห้องอย่างที่ควรจะเป็น เวนิสาเที่ยวตามหา และพบว่ากิจกรรมที่เขาโปรดปรานอีกอย่างคือการออกกำลังกาย เขามีโรงยิมส่วนตัวอยู่ด้านข้างของคฤหาสน์ เธอเพิ่งรู้ว่ามันคือโรงยิม นึกว่าโกดังเก็บของเพราะเห็นประตูปิดมิดชิด สาวใช้บอกว่านั่นคือสถานที่ส่วนตัวของเขา ห้ามใครไปรบกวนหากเขาเข้าไปในนั้น แต่ใครที่ว่านั่นไม่มีทางใช่เวนิสา หญิงสาวรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดเสื้อกล้ามกับกางเกงขาสั้นแบบนักกีฬา เผยต้นขาขาวให้พอเซ็กซี่ ผมยาวสลวยถูกมัดไว้ดิบดี ดูแคล่วคล่องพร้อมลงสนามกีฬาหญิงสาวรีบลงมาที่ยิม เปิดประตูเหล็กเข้าไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ การสร้างความสนิทสนมเพื่อกระชับความสัมพันธ์นั้น เธอต้องทำทุกวิถีทาง ในเมื่อเขาชอบออกกำลังกาย เธอก็จะชอบด้วย เฮ้อ...แค่คิดก็เหนื่อยตุบตับๆ ตุบตับๆเสียงหมัดหนักๆ กระทบกระสอบทรายที่แขวนอยู่ เวนิสามองร่างสูงของชายในดวงใจ เขาอยู่ในชุดกางเกงขาสั้น เสื้อกล้ามรัดติ้วมีหยาดเหงื่อชโลมกายมันวาว รอบกาย
ห่างออกไปไม่เท่าไร ดวงตาคมกล้าของบุรุษผู้หนึ่งจ้องมองสตรีที่คุ้นตา ทั้งขุ่นเคืองไม่น้อยเมื่อมั่นใจว่าหล่อนคือใคร มีคนมาส่งแถมขับรถเสียหรู คงเป็นคู่เดตของหล่อนสินะ แล้วนั่น...ยังจะพารอยยิ้มหวานมาถากถางหัวใจเขาอีกรวีกานต์เดินมาที่ร้านกาแฟเจ้าประจำ เธอยกมือเคาะผนังกระจกเพื่อเรียกคนข้างในกึกๆๆเสียงเคาะกระจกดังขึ้นที่ด้านนอก ปลายภูละมือจากแก้วกาแฟที่เพิ่งเสิร์ฟให้ลูกค้า มาจ้องคนที่ยืนยิ้มแป้นรออยู่ ใบหน้างามช่างแต่งแต้มด้วยความสุขจนน่าหมั่นไส้ หล่อนโบกมือให้ แต่เขาไม่เล่นด้วย ทำเมินแล้วเดินหนีไปยังโต๊ะประจำของหล่อน รวีกานต์เดินเข้าประตูร้านมา“นี่...เป็นอะไร ฉันยิ้มให้ทำไมทำหน้าบึ้งล่ะ”“ไม่ได้เป็นอะไรครับ แค่หมั่นไส้น่ะ”“หมั่นไส้? ใคร...ฉันเหรอ” ถามเขาอย่างงงๆ“ใช่มั้ง” บุรุษร่างสูงตอบแบบพาลนิดๆ ผ้ากันเปื้อนถูกถอดทิ้งทันทีที่รวีกานต์นั่งลงตรงข้าม“ฉันยังไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย”“งั้นเหรอ ไปเดตมาละสิ”คนสวยยิ้มหวาน “รู้ได้ไง”&l
“เฮ้อ...เหงื่อออกขนาดนี้ยังจะดื้ออีก”“อย่าทำเสียงแบบนั้นสิคะ อย่ามอง...อย่าทำตัวแบบนี้ด้วย ฉันไม่ชินเลย เดี๋ยวก็หลงรักซะหรอก”ศศินดึงมือคืนมาอย่างไว เสยผมแรงๆ เพราะไม่รู้จะเอามือไปวางไว้ตรงไหน คำพูดตรงๆ ของเวนิสากำลังทำให้เขาประหม่าเขิน“พูดอะไรบ้าๆ ไปๆ ลุกเถอะ มานั่งอะไรตรงนี้ ไม่อายเหรอ”คนสวยส่ายหน้าดิก ดึงหมวกจากมือเขามาสวม รวมถึงแว่นตากับหน้ากากอนามัย“อายอะไรเล่า ฉันจะตายไม่เหลือความอายอะไรหรอก พี่น่ะ กลับไปหาตะวันดีกว่า เดี๋ยวจะสงสัยเอาว่าพี่หายไปไหนตั้งนานสองนาน”นิ้วชี้ของศศินชี้มาที่ร่างของเวนิสา“อะไรคะ”“ตามฉันมาห่างๆ ถ้าฉันมองไปข้างหลัง ต้องเห็นเธอ”“ทำไมเป็นงั้นล่ะ”“จะได้มั่นใจว่าเธอยังหายใจไง ถ้าไปเดินคนเดียวเป็นลมเป็นแล้งขึ้นมาใครจะดูฮะ”“ชู่ว์...เบาๆ สิคะคุณพี่ พูดเบาๆ น้องก็ได้ยิน แค่บอกสั้นๆ ว่าห่วงใยน้องก็เข้าใจแล้วค่ะ ทำเป็นอ้อมค้อม ไปสิคะ ไปๆ รับรองว่าจะตามไปให้อยู่ในระยะสายตาคุณพี่เ
หอศิลป์กรุงเทพฯ ตั้งอยู่แถวแยกปทุมวัน มีทั้งหมดสิบชั้นนับจากชั้นใต้ดิน ศศินปล่อยมือสาวเจ้าเมื่อเข้ามาในตัวอาคาร ที่นี่มีงานศิลป์รอให้เขาเสพมากมายหลายสิ่ง“ตอนเรียนฉันเคยมาบ่อยๆ เพื่อนชอบน่ะ” รวีกานต์บอก พาศศินเดินไปขึ้นบันไดเลื่อนเพราะด้านล่างนี้ไม่ค่อยมีงานศิลป์ให้เสพ ไฮไลท์จะอยู่ที่ชั้นเจ็ดถึงเก้า ที่นั่นมีนิทรรศการงานศิลป์แวะเวียนมาจัดแสดงไม่ว่างเว้น“เราไม่เดินข้างล่างก่อนหรือครับ”“เดี๋ยวค่อยลงมาค่ะ ไปชั้นเจ็ดก่อน ชั้นนี้ถึงชั้นสี่ส่วนมากเป็นร้านค้า ชั้นห้ามีห้องประชุม ส่วนชั้นหกเป็นที่ตั้งสำนักงานค่ะ” อธิบายแล้วมองวงหน้าหล่อเหลาขณะที่สืบเท้าเข้าไปหาบันไดเลื่อนศศินรู้ตัวว่าถูกมองอย่างชื่นชม รู้สึกเขินต่อดวงตากลมโตคู่นั้น แต่ไม่อาจร้องขอให้หล่อนเลิกมอง เขาเลยเสสายตาไปทางอื่นเสีย และเมื่อเดินมาถึงบันไดเลื่อน สตรีร่างบางในชุดสีชมพูยาวกรอมเท้าก็ทำให้เขาประหลาดใจ หล่อนเห็นเขาเช่นกัน หมวกไหมพรมใบเล็กบางจึงถูกดึงปิดหน้าอีกนิด แว่นกันแดดสีชาเข้มกับหน้ากากอนามัยก็เช่นกัน ดูเผินๆ คงไม่มีใครจำเวนิสาได้เขาขึ้นบันไดเลื
ศศินดึงเสื้อมาสวมอย่างไม่เต็มใจนัก เขาสวมกางเกงกับเสื้อกล้ามแล้ว แค่สวมเชิ้ตกับสูทเท่ๆ เข้าไปก็เป็นอันเรียบร้อย ทว่าพอมองดูแม่สาวขายาวที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ต้องแปลกใจ หล่อนไม่ได้แต่งชุดสวยเพื่ออยู่บ้านใช่ไหม ชุดกระโปรงสีชมพูยาวกรอมเท้า แขนเสื้อยาวถึงศอก ติดลูกไม้ที่รอบคอและที่ปลายสุดของแขนเสื้อ ดูน่ารักน่ามอง หล่อนแต่งหน้าอ่อนๆ ผมที่ยาวสลวยถูกถักเปียหลวมๆ เปิดวงหน้างามให้โดดเด่นสะดุดตา“เธอจะไปไหน”“ฉลองค่ะ”“เรื่อง?”“เรื่องที่รอบเดือนฉันหายสนิทแล้ว” ว่าแล้วยิ้มทะเล้นศศินส่ายหน้า “หาเรื่องเที่ยวละสิ”“แน่นอนค่ะ ก็นี่มันวันหยุดนี่คะ พี่ยังหนีเที่ยวเลย”“ฉันไปตามหน้าที่หรอกน่า”“แหม...ไปตามหน้าที่ต้องลังเลในการเลือกชุดขนาดนี้เลยเหรอ ไม่เชื่อหรอก”“นี่...จะมาจับผิดฉันทำไมเนี่ย หลีกเลย จะออก”เวนิสาเบี่ยงกายหลบคนขี้โมโห เธอยิ้มไล่หลังเขา ก่อนจะหยิบเอาโทรศัพท์มือถือมาต่อสายหาเพื่อนรัก รอสายอยู่กว่าสามนาที เจ้าตัวถึ